ทั่วโลกอาจถูกควบคุมจิตใจด้วยเครื่อง-คลื่นเปลี่ยนความคิดมนุษย์

ไปเจอเวปที่เขาสงสัยพร้อมกับมีผู้ออกมาแฉข้อมูลลับบางอย่าง ที่เกี่ยวกับเครื่องควบคุมจิตใจ เครื่องครอบงำ หรือเปลี่ยนความคิด ด้วยคลื่นรับส่งสัณญาณที่ทำงานร่วมกันกับ ฮาร์พ


ผมพยายามหาข้อมูลเรื่องนี้ที่เป็นภาคภาษาไทย..แต่ไม่เจอ เลยใช้กูเกิ้ลแปลให้ และได้ข้อมูลมาพอกระท่อนกระแท่นมาชวนคุย เผื่อท่านๆที่รู้เรื่องเกี่ยวกับเครื่องคุมจิตใจในที่นี้จะสละเวลามาไห้ความกระจ่างบ้าง

นี่เป็นลิ้งค์ที่เขาพยายามนำเสนอข้อมูลที่ค่อนข้างลึก แฉหมดเปลือกที่เขารู้เกี่ยวกับการควบคุมจิตใจและเกี่ยวกับ HAARP (ลิ้งค์แรกนี่สำคัญ) Educate-Yourself: Don Croft และ HAARP - New World Order Mind Control and Weather Warfare Weapon อีก Earth Change News on Earth Changes TV on the Web อีก Chemtrails environmental modification chemtrail spraying earthquake weapon electromagnetic warfare aerosol fibers and morgellons


<o

เท่าที่รวมความเอาเอง ประมาณว่าเขาใช้โปรแกรมนี้ตัวนี้ทำงานเชื่อมโยงกับเครื่องควบคุมสภาพดินฟ้าอากาศหรือเครื่องสร้างแผ่นดินไหว HAARP ด้วยการส่งคลื่นสันญาณ ELF เข้าสู่สมองมนุษย์ เพื่อทำปฏิกิริยากับสมอง หลังจากนั้นผู้ที่ตกเป็นเหยื่อก็จะสูญเสียความเป็นตัวตนเองไป อาจมีสติเลอะเลือน จำอะไรไม่ได้ อาจมีความรู้สึกไปเป็นอีกแบบ และจะเป็นตามแต่พวกเขาจะบังคับให้เป็นไป โดยความถี่ที่ส่งมาจะมีความถี่หลายระดับ หากต่ำๆ อาจหมายถึงอารมณ์โศกเศร้า ความถี่กลางๆเป็นอารมณ์ความสุข หากสูงๆอาจทำไห้เราเป็นบ้าไปเลยประมาณนั้น.



ทฤษฏีควบคุมความคิดมนุษย์นี้ ครั้งแรกเดิมทีเขาใช้ในช่วงสงครามระหว่างประเทศ ซึ่งเขามีอีกหนึ่งโครงการที่ใช้กับทหาร,ควบคุมนักโทษ และได้ต่อยอดเป็นการควบคุมจิตใจให้คนคล้อยตามในเรื่องเผยแพร่ศาสนา หรือองค์กรลัทธิระดับชาติ
ต่อเมื่อมีเทคโนโลยีใหม่เข้ามา พวกเขาจึงเริ่มผสมผสานโปรแกรมเข้าด้วยกันกับ HAARP โดยเหตุผลอาจอ้างว่ามีไว้เพื่อใช้ควบคุมความคิดคนที่ก่อจราจลหรือใช้ในวงการทหาร เรือนจำ โรงเรียน หรืออื่นๆ

..ได้มีบางท่านแสดงความคิดว่า ที่สงครามอิรักใช้ได้ผลมาแล้ว หรือเวลานี้พวกเขาอาจใช้ในสงครามที่ลิเบียด้วยก็เป็นได้ได้

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=-6zKtIsHcsA&feature=player_detailpage"]MIND CONTROL HAARP ILLUMINATI WEAPON OF MASS DECEPTION - YouTube[/ame]


"ฮาร์พ" ไม่เพียงแต่สามารถนำภัยพิบัติทางธรรมชาติไปยังพื้นที่เป้าหมายใดๆได้โดยเฉพาะที่ตามแต่พวกเขาปรารถนาให้เป็นไปเท่านั้น แต่ยังสมารถปรับแต่งโปรแกรมควบคุมจิตใจของประชากรโลกทั้งหมดด้วยคลื่นสั่งสมองไปพร้อมๆกัน ทั้งหมดที่พวกเขาทำ อาจเพื่อเป้าหมายการครองโลกแต่เพียงผู้เดียว..ของกลุ่มผู้มีอำนาจมืด.



** เพิ่มเติม....


เสาส่งสัญญาณปริศนา ทำตบตาหลอกให้ดูเหมือนต้นไม้ ชาวบ้านสงสัยว่าเป็นตัวรับ-ส่งสัณญาณคลื่นบังคับสมอง อาจทำงานเชื่อมโยงกับ HAARP (ดูรายละเอียดตามลิ้งค์) Disguised Cell Towers - A Waymarking.com Category

..บางทีฝูงนกและปลานับล้านที่ตายหมู่ อาจมาจากข้อผิดพลาดจากการทดลองเครื่องพวกนี้ก็เป็นได้

สุดท้ายเรื่องนี้คงเกี่ยวกับเราทุกคน จึงขอยกให้ท่านอื่นที่มีความรู้มาช่วยกันแฉข้อมูลต่างๆทางวิชาการที่สำคัญ และเป็นประโยชน์ ก่อนที่เราจะตกเป็นเหยื่อโดยไม่รู้ตัว ผมขอแสดงความคิดเท่านี้ครับ นี่ก็โ..แล้วยังอวดฉลาดมากเกินพอแล้ว เหอๆ

----------------------------------------------------------------------

เวทมนต์สะกดจิต..

การสะกดจิตในแบบไทยๆดั้งเดิม ที่ได้ฟังได้ยินมา คือการทำให้ลุ่มหลง ทำตามคำสั่ง เรียกว่าวิชามนต์ดำ,ไสยศาสตร์,เวทย์มนต์,ทางสายดำ เป็นวิชาที่ว่าด้วยการสะกดจิต การข่มขืนจิตใจคน บังคับจิตใจคนให้ทำตามคำสั่งผู้ใช้มนต์ดำ

มีเรื่องเล่าว่าหากผู้หญิงต้องการให้ผู้ชายลุ่มหลง ผู้หญิงคนนั้นจะใช้วิชามนต์ดำนี้ โดยการใช้เลือดประจำเดือนของตนเองเป็นส่วนผสม พร้อมกับท่องเวทมนต์คาถาผสมอาหารคาวหวานให้ผู้ชายกิน พอฝ่ายชายกินจะเกิดความลุ่มหลงหญิงผู้ทำมนต์ดำเลือดประจำเดือนนั้นโดยไม่รู้ตัว แบบโงหัวไม่ขึ้น สั่งอะไรก็ทำตาม

แต่กับบางคน "มนต์สะกดจิตไม่ต้อง " อยากได้อะไร ป๋าจัดให้ ..ว่างั้น.?? <o<o
</o</o</o

 

รอฟังความคิดเห็นท่านอื่น


ป.ล. ไป นอนรอล่ะ เริ่มง่วง

 

เหอๆ แล้วเจอกันเที่ยงๆนะท่านนะ

 

อ๊าก คงเจอผมเย็นๆ โน้นละท่าน หุหุ น็อคแน่ๆ สภาพนี้

ยังไง ก็ฝันดีละกันครับ

 

วัตถุหนอ วัตถุ ธาตุ 4 ขันธ์ 5 นี่มันไม่เที่ยง

มันประกอบขึ้นจากดิน น้ำ ลม ไฟ

ทุกคนสร้างสมมติ ขึ้นมา เพื่อ เอาชนะ สมมติ

ไม่มีวันจบวันสิ้น เรื่อง วัตถุทางโลก...

 

ในฐานะที่จบ ด้านการสื่อสาร-โทรคมนาคมมา คิดว่าเครื่อง HAAP อาจมีอำนาจ ทำให้เกิดภัยพิบัติได้จริง แต่ไม่มากนััก และยังไม่สามารถยับยั้งภัยพิบัติจาก ธรรมชาติได้ เพราะด้วย พลังงานจากเครื่องนี้ มีน้อยเกินไป และการจะเอามาสะกดจิตคน ก็น่าสนใจ แต่คิดว่ายังทำไม่ได้

 

มันอาจะแฝงตัวอยู่ใน i-phone หรือ พวก แทปเลต ที่เราใช้กันอยู่ทุกวันก็ได้

 

ในฐานะที่เป็นขาประจำกระทู้คุณเป็ดนะ

ขอสำรวจข้อมูลไว้ก่อน นึกอะไรได้จะมาเล่าสู่กันฟังเน้อ

โง่บ้าง โก๊ะบ้างก็อย่าถือสานะ

 

ไม่ใช่ฮ้งไม่ใช้ฮ้าปที่ไหนหรอก...มะ..มันคือทีวีนั่นเอง!!!...ไปล่ะ ขอไปดูทีวีก่อน...

 

เอิ๊ก ๆ ... ตกเป็นเครื่องมือซะแระ ..

 

ถ้าเช่นนั้นปรากฏการณ์เหลืองแดงก็ต้องเป็นการทดลองของฮาร์พแน่ๆเลย...ว่าแล้วมันแปลกๆอยู่...

 

ผมว่าแฝงตัวในชิพมือถือแน่ เหมือนมีบาร์โคดแฝงกาย

 

ฮูเตือนมือถือเสี่ยงโรคมะเร็งสมอง

โดย mootie | วันที่ 2 มิถุนายน 2554

​

คณะผู้เชี่ยวชาญด้าน มะเร็งขององค์ การอนามัยโลก (ฮู) เผย บรรดาผู้ใช้โทรศัพท์มือถือ อาจมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นที่จะเป็นโรคมะเร็งสมอง พร้อมกับแนะนำให้ใช้การส่งข้อความหรืออุปกรณ์แฮนด์ฟรี เพื่อลดการสัมผัสกับคลื่นเสียง

สำนักงานวิจัยโรคมะเร็งระหว่างประเทศ (ไอเออาร์ซี) ประกาศในช่วงสิ้นสุดการประชุม 8 วันที่เมืองลียงของฝรั่งเศสเมื่อวันอังคารว่าอุปกรณ์ต่างๆ ที่เป็นตัวกำเนิดคลื่นสนามแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีความถี่วิทยุ อาจเป็นไปได้ที่จะทำให้คนเราป่วยเป็นมะเร็ง อย่างไรก็ตาม สถาบันไอเออาร์ซี กล่าวอย่างระมัดระวังว่า หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ในปัจจุบัน ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้อย่างชัดเจนว่า โทรศัพท์มือถือกับโรคมะเร็งมีความเกี่ยวพันกัน

แต่ถึงกระนั้น สำนักงานวิจัยโรคมะเร็งระหว่างประเทศ กล่าวเตือนว่า หากผู้ใช้โทรศัพท์ ใช้การส่งข้อความหรืออุปกรณ์แฮนด์ฟรี อาจจะช่วยลดโอกาสการเกิดอันตรายต่อสุขภาพ ทั้งนี้เมื่อหนึ่งปีก่อน ไอเออาร์ซีเคยสรุปว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวพันกันระหว่างมือถือกับมะเร็ง แต่จากการวิเคราะห์ใหม่ โดยนักวิทยาศาสตร์ 31 คน จาก 14 ประเทศของไอเออาร์ซี ทำให้มีการประเมินถึงความเสี่ยงเพิ่มขึ้นของการเกิดมะเร็งสมองบางชนิด

ด้าน สมาคมไวร์เลสหรือโทรศัพท์ไร้สาย ออกมากล่าวตอบโต้รายงานทางวิทยาศาสตร์ขององค์การอนามัยโลกที่ระบุว่า มีความเป็นไปได้ว่า โรคมะเร็งเกี่ยวพันกับการใช้โทรศัพท์มือถือ โดยสมาคมดังกล่าวแจ้งว่า รายงานของฮู ไม่มีหลักฐานชัดเจนจากการศึกษาทางสถิติ อีกทั้งนักวิทยาศาสตร์ของไอเออาร์ซี ก็ยังไม่ได้ดำเนินงานวิจัยใหม่ ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้

ส่วนสมาพันธ์เทเลคอมของฝรั่งเศส กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขเคยออกมาเตือนล่วงหน้าเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว แต่ก็ยังไม่สามารถหาข้อสรุปเกี่ยวกับอันตรายจากการใช้โทรศัพท์มือถือ และจำเป็นต้องดำเนินการวิจัยเพิ่มอีกอย่างไรก็ตาม จานีน เลอ คัลเวซ หัวหน้ากลุ่มที่ปรึกษาคุ้มครองผู้บริโภคที่เกี่ยวกับความปลอดภัยของโทรศัพท์ มือถือบอกว่า รายงานชิ้นนี้ออกมาช้าเกินไป และทุกวันนี้ ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่า ไม่มีความเสี่ยงอีกต่อไปแล้ว.


อ๊ะ อ๊ะ อย่าเพิ่งดุกันนะ ว่าไอ้ที่เอามาแปะเนี่ยมันเกี่ยวอะไรกันกับ HAARP


แต่มันมีปมหนึ่งที่น่าสนใจ เรื่องคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ามีผลต่อสมองอย่างไร นั่นล่ะประเด็นชวนคิดต่อ..


ช่วยปุจฉา-วิสัชชนา กันหน่อยค่ะ

เล่นคนเดียว ไม่หนุกน่ะ

 

คิดคล้ายกันนะ เรื่องที่ HAARP อาจมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศน่ะค่ะ แต่จะเป็นการทดลองที่ส่งผล หรือความตั้งใจ ไม่แน่ใจ

ส่วนเรื่องที่มีผลต่อการควบคุมจิตใจคนเนี่ย ความน่าจะเป็นอยู่ท้ายๆ เลย
แต่สนใจเรื่องที่ว่า คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ามีผลต่อสมองมนุษย์อย่างไร? เพราะโยงไปเรื่อง HAARP ได้

เรื่องมือถือเนี่ย เห็นวิจัยและถกเถียงกันมาหลายปีแล้ว
เดี๋ยวมีผล เดี๋ยวไม่มีผล คนทั่วไปสับสน ไม่รู้จะเอายังไงแน่
จนข้อมูลล่าสุดออกมาจากองค์การอนามัยโลกตามที่เอามาแปะไว้ด้านบน

 

ทำไม่ได้หรอกจ้ะ เพราะมนุษย์เกิดมาเพื่อพิสูจน์ตัวเองในการทำดีทำชั่ว จึงสามารถที่จะเลือกในสิ่งที่ดีหรือชั่วได้ตลอดเวลา ไม่มีใครสามารถควบคุมได้ แต่ใครทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว

 

ในทางดี (เจตนาดี) ดิฉันมองว่า การทดลองที่เกี่ยวกับ HAARP อาจเป็นการทดลองที่ใช้เพื่อการรับมือกับความเปลี่ยนแปลงจากสภาพภูมิอากาศโลก หรือที่เขาเรียกกันว่า วิศวกรรมโลก Geoengineering ก็ได้

ทำไมจึงคิดเช่นนั้น ..
มีบทความที่เกี่ยวข้องแต่ต้องขอเวลาไปพิมพ์ แล้วจะเอามาแปะให้อ่านกันนะคะ

ส่วนในทางลบ มี 2 แง่มุม
- ผลจากการวิศวกรรมโลก (เล่นแร่แปรธาตุ) ส่งผลกระทบบางประการ หรือ
- เป็นการทดลองทางวิทยาศาสตร์เพื่อจุดประสงค์ทางการทหาร หรือที่เราเรียกันว่า สงครามสภาพอากาศ (Weather Warfare)

 

ดิฉันก็ว่า มันควบคุมไม่ได้ทั้งหมดหรอกค่ะ แต่ส่งผลกระทบอย่างไรบ้าง นี่แหละน่าสงสัย อาทิเช่น กระตุ้นความก้าวร้าว หรือมีผลต่อสติปัญญา อารมณ์ ของคนเราอย่างไรบ้าง ประมาณนั้นน่ะ

 

<table align="center" bgcolor="#fff7f2" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td><center>สัญญาณอันตราย (จากโทรศัพท์มือถือ)

</center>

</td></tr> <tr><td><table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="80%"> <tbody><tr><td> การใช้โทรศัพท์มือถืออาจทำให้มีอาการปวดหัวได้ เพราะหลักการรับ-ส่งสัญญาณของโทรศัพท์
มือ ถือ คือ การแปลงเสียงพูดให้เป็นกระแสไฟฟ้า ก่อนส่งออกไปในอากาศ โดยอาศัยคลื่นพา เช่น คลื่นไมโครเวฟ แล้วไปตามสถานีเครือข่าย ที่มีทั่วประเทศไทย โดยผ่านทางเสาอากาศ

ปกติเรานำคลื่นไมโครเวฟมาใช้ในการอุ่นอาหาร เนื่องจากคลื่นถูกดูดซึมจากส่วนประกอบที่มีน้ำได้ดี และถ้ามีความเข้มสูงพอจะเกิดเป็นความร้อน ทำให้อาหารนั้นร้อนขึ้นหรือสุกได้ ถึงแม้คลื่นไมโครเวฟ ที่กระจายอยู่ในอากาศยังไม่มีความเข้มถึงขีดอันตรายที่จะเกิดความร้อนได้ แต่เสาอากาศของโทรศัพท์มือถือได้ดึงดูดคลื่นไมโครเวฟเข้าสู่เครื่องโทรศัพท์ ทำให้บริเวณที่อยู่ใกล้เสาอากาศ คือ ศีรษะจะได้รับคลื่นไมโครเวฟในปริมาณมากจนอาจเป็นสาเหตุให้เกิดอาการปวดศีรษะ ได้

ดังนั้นผู้ที่ใช้โทรศัพท์มือถือจำเป็นต้องหยุดใช้เครื่อง ชั่วคราวเมื่อมีอาการปวดศีรษะ และเปลี่ยนมาใช้โทรศัพท์ที่บ้าน หรือที่สำนักงานแทน มิฉะนั้นสมองอาจค่อยๆกระทบกระเทือนจนไม่ปลอดภัย ในรายที่ยังไม่ปวดศีรษะ ควรติดตั้งเสาอากาศโทรศัพท์ให้สูงเลยศีรษะไป อาจช่วยลดอันตรายของคลื่นไมโครเวฟได้บ้าง

ข้อเสียอื่นๆ สำหรับผู้ที่ใช้โทรศัพท์เป็นประจำคือ อาจมีอาการหูตึง เนื่องจากเสียงโทรศัพท์ไม่ชัดเจน มีเสียงรบกวนอยู่ตลอดเวลา ถ้าไม่ได้ใช้โทรศัพท์ในตำแหน่งที่รับส่งคลื่นได้สะดวก บุคลิกภาพของผู้ใช้โทรศัพท์ต้องเสียไป เนื่องจากต้องพะวักพะวงกับการหาตำแหน่งที่รับฟังได้ชัดเจน และยังต้องตะโกนพูดอยู่คนเดียว

การโทรไม่ติด หรือหลุดบ่อยทำให้อารมณ์เสีย หงุดหงิด สุขภาพจิตเสื่อมลง กล้ามเนื้อคอ หัวไหล่มักจะเกร็งเนื่องจากต้องถือโทรศัพท์อยู่ตลอดเวลา และบางครั้งยังต้องพยายามเอียงคอ และใช้มือดันโทรศัพท์ให้แนบติดกับใบหูอยู่ตลอดเวลา การเกร็งตัวของกล้ามเนื้อคอ เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ปวดศีรษะ เพราะเมื่อกล้ามเนื้อหดตัวตลอดเวลา หลอดเลือดจะส่งเลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ การแก้ไขอาจต้องใช้โทรศัพท์ที่มีขนาดเบา อย่าคุยโทรศัพท์นานเกินควร และถ้าอยู่ในรถอาจผ่านขยายเครื่องขยายเสียง และใช้ไมโครโฟนในการสนทนา ซึ่งในกรณีนี้นอกจากจะไม่เป็นผลเสียต่อสุขภาพแล้ว ยังลดอุบัติเหตุบนท้องถนนลงได้ หรือลดคำแช่งด่าจากผู้ที่ขับรถตามมาด้วย เพราะมัวแต่คุยโทรศัพท์จนทำให้รถติดขัด

ข้อเสียของโทรศัพท์มือถืออีกประการหนึ่งที่ทุกคนมักไม่ ได้นึกถึง คือ ถ่านไฟที่ใช้กับโทรศัพท์มือถือประกอบด้วยสารอันตรายหลายชนิด ไส้แบตเตอรี่ในโทรศัพท์มือถือที่ท่านต้องเปลี่ยนตามเวลาทุก 12-18 เดือนนั้น กำลังจะเป็นปัญหาที่น่ากลัวสำหรับตัวท่านเอง ลูกหลานและมนุษยชาติในอนาคต ไส้แบตเตอรี่ที่ใช้ในถ่านโทรศัพท์มือถือมี 2 ชนิด คือ ชนิด NICAD (Nickel Cadmium Cells) และ Hydride (Nickel Metal Hydride Cells) สารประกอบที่ใช้ในถ่านชนิดแรกคือ NICAD จัดเป็นขยะอันตรายที่จะก่อโทษกับสุขภาพของคน และเกิดมลภาวะในสิ่งแวดล้อมได้ เนื่องจากขั้วลบของถ่านชนิดนี้เป็น แคดเมียมไฮดรอกไซด์ เมื่อบรรจุไฟแล้วจะกลายสภาพเป็นแคดเมียม ซึ่งเป็นสารก่อพิษในสิ่งมีชีวิตทุกชนิดในโลก แคดเมียมเป็นโลหะหนัก มีอยู่ในธรรมชาติจำนวนน้อย หากได้รับเข้าไปทีละน้อยจากการหายใจ กินหรือดื่ม ก็จะเกิดพิษเรื้อรังทีละน้อย ด้วยอาการสำคัญคือ ไตอักเสบ ไตวาย ข้อเสื่อม ถุงลมปอดโป่งพอง ระบบหายใจผิดปกติ และทำให้เกิดมะเร็งในอวัยวะหลายชนิด ที่น่ากลัวคือ แคดเมียมที่ถูกทิ้งจากการอุตสาหกรรม หรือแบตเตอรี่จะปนเปื้อนเข้าในดิน น้ำ ซึ่งสัตว์และพืชจะรับเข้าไปในตัว เมื่อคนกินสัตว์หรือพืชเข้าไป ก็จะได้รับแคดเมียมสะสมเข้าไปในปริมาณที่เกิดพิษได้ง่าย ขณะนี้ตัวเลขที่ได้จากการจดทะเบียนมือถือทั่วประเทศมีจำนวนมาก และมีจำนวนไม่น้อยที่ใช้แบตเตอรี่แบบ NICAD ซึ่งแต่ละก้อนจะมีอายุการใช้งานประมาณ 1 ปี ดังนั้นจะมีแบตเตอรี่ NICAD เป็นพิษทิ้งจำนวนหลายล้านก้อนต่อปี ขณะนี้มีประชาชนที่รู้ถึงพิษของขยะอันตราย และพยายามแยกขยะ แต่ก็ไม่สามารถที่จะหาที่ทิ้งที่ถูกต้อง หรือหาหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงได้
</td></tr> <tr><td>




ขอขอบคุณที่มา : http://www.meetingmall.com</td></tr> <tr><td align="left"> ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต</td></tr> </tbody></table></td></tr></tbody></table>
เครดิต : HISO-

 

ผมก็คิดแบบคุณ ............................