ปิดรับบริจาค เรียนเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพถวายมณีนาคา ณ สำนักสงฆ์ภูสูง จังหวัดยโสธร

ทำธุระเสร็จแล้ว พักหายเหนื่อยแล้ว...มาเล่าต่อนะคะ .....

 

-vg]jkขอเล่าประวัติความเป้นมานิดหน่อยเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้อันน้อยนิดไม่ละเอียดละออเท่าที่ควรถือว่าเอาไว้ศึกษาหรือแลกเปลี่ยนกันก็แล้วกัน เผื่อจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อย ขึ้นชื่อว่าชาวเมืองลับแลก็มีหลายระดับ ภูมิเทวดาที่อยู่ใกล้มนุษย์ มีวิมานสถิตย์อยู่กลางอากาศ วิมานแตะบนต้นไม้ มีแก่น ๑ คืบขึ้นไป ฉนั้นชาวลับแล กับบังบด กับเทวดา ขั้นต่ำ จึงอยู่คนละแบบ มีสภาวเป็นทิพย์ต่างกัน อย่างชาว บังบด และลับแลนี้ เพราะรู้ยังไม่ละเอียด ท่านพวกนี้สมัยเป็นมนุษย์ รักษาศิล ๕ และกรรมบถ ๑๐ พกพล่องบ้างเป็นบางครั้ง เอาคล่าวๆนะผิดพลาดก็ขออภัยด้วย จึงทำให้ไปเกิดเป็นพวกบังบด หรือชาวลับแล กรึ่งคนกรึ่งเทวดา คนก็ไม่ใช่ เทวดาก็ไม่เชิง มีการทำมาหากินคล้ายมนุษย์ เมื่อหมดบุญก็ต้องไปตามกำลังบุญวาสนาบารมีของตัวไม่รู้อายุที่แน่นอน ไม่เหมือนเทวดา ๆ ขั้นต่ำ พระภูมิเจ้าที่ จัดอยู่ใน ชั้นจตุมหาราชิกา มีท้าวมหาราชทั้งสี่เป็นหัวหน้าอยู่ตามทิศนั้นๆ มีอายุสูงสุด ๕๐๐ ร้อยปีทิพย์ ขอย้อนกลับมาที่ชาวลับแล มีอยู่ทั่วไป ตามสถานที่สำคัญ หรือต้นไม้ใหญ่ๆ ป่าดงดิบ หรือภูเขา อยู่ใกล้กับคน แต่เป็นอีกมิติหนึ่ง มากหรือน้อยแล้วแต่กรณี อธิบายเป็นวันก็ไม่จบ ประสพการณ์อันน้อยนิด ที่ผมเคยอยู่ในหมู่บ้านตะเพินคี่ เป็นหมู่บ้านชาวไทยกะเหรี่ยง อยู่ อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี เรื่องมีอยู่ว่า ในคืนวันหนึ่ง ประมาณ สัก ๒ ทุ่มกว่าๆเห็นจะได้ ผมเห็นแสงไฟ สว่างจ้า บนกลางเขาเทวดา ถึงยอดเขา เหมือนกับเขาฉายหนัง เห็นอยู่ไม่ถึง ๒ นาที เห็นอยู่ถึง ๒ วาระ ติดต่อกัน ต่อจากนั้น วันที่ สอง

 

<TABLE id=pid1556 cellSpacing=0 summary=pid1556 cellPadding=0><TBODY><TR><TD class=plc><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD id=postmessage_1556 class=t_f>มาว่ากันต่อ เรื่องยังไม่จบครับ ต่อจากคราวที่แล้ว ต่อจากนั้น วันที่ ๒ ท่านที่ปกครองอยู่นะที่แห่งนั้น ได้พาแม่ชี ที่เคยตายแล้วฟื้น ตายไป ๘ ชั่วโมง ไปยังเมืองของท่าน ที่อยู่ในเมืองภูเขาลูกนั้น ท่านบอกแม่ชีว่า ท่านมีหน้าที่รักษาดินแดนแห่งนี้ อยู่จนสิ้นพระศาสนา ๕,๐๐๐ ปี ท่านยังชวนแม่ชี ให้ไปนิพพานพร้อมท่านเลย แต่แม่ชีไม่รับปาก ท่านบอกว่า ท่านเคยเป็นสามี แม่ชีมาก่อนในอดีดชาติ ประตูเมืองเขาอยู่ทางน้ำตก ต่อมามีพระวัดท่าซุง ในสมัยนั้นเดินทางมาเพื่อจะเยี่ยมผม มาถึงกลางคืน ประมาณ ๓ ทุ่มกว่า ถึงหมู่บ้าน กลับไม่ถามชาวบ้าน ไปนอนใน ลำห้วย ที่ทางน้ำตก ตอนเช้าเดินทางกลับ โดยมาไม่ถึง ผม จริงๆมาถึงแล้ว แต่ไม่ถามชาวบ้าน เดินมาไม่ถึง ๓๐๐ เมตรจากหมู่บ้านมาที่ถ้ำ อีก หนึ่งครั้ง พระวัดท่าซุงเหมือนกันมาหาผม แต่ผมไม่อยู่ ตอนนี้สึกไปแล้ว มาถึง ค้างอยู่ไม่กี่วัน ขากลับไปทางน้ำตก ทางประตูเมืองเขา อยู่ๆมีทางเล็กๆ มีป่าหญ้าคาเดินไปเรื่อยๆ กับมีต้นไม้ใหญ่ๆ สองข้างทาง มีหมู่บ้าน ปลูกคล้ายหญ้าแขวก มีเด็ก ผู้ใหญ่ แต่งตัวคล้ายชาวบ้าน แต่ใจแกบอกว่านี่ไม่ใช่มนุษย์ เป็นเมืองลับแล แกเลยจับมีดหมอแล้วภาวนาเดินถอยหลังออกมา แกกับไปถึงหมู่บ้านข้างล่างชื่อหมู่บ้ากล้วย ถึงเย็น ปรกติ ถ้าเดิน ครึ่งวันก็ถึง นี่เล่นเอาเย็น ทางน้ำตกก็คือประตูเมืองเขา เมื่อก่อน ชาวไทยกะเหรี่ยง หมู่บ้านตะเพินคี่เล่าว่าเมื่อก่อน สมัยก่อนคนยังมีคุณธรรม เขาออกมาช่วยชาวบ้านทำงาน และชาวบ้านไปลามปรามเขา เมื่อเวลาผ่านไป คนไร้ศิลธรรม เขาไม่ออกมาให้เห็นอีกเลย จนกระทั่ง ผมมาอยู่ ที่ถ้ำ ชาวบ้าน บอกไม่กล้ามา เพราะผีดูตั้งแต่มีพระเณร เถรชีไปอยู่เขาเหล่านั้นจึงกล้ามาหาไม่กลัวอีกต่อไปครับ คราวหน้าจะมาเล่าต่อนะครับ ตอนนี้ขอตัวไปทำธุระก่อนนะสวัสดี</TD></TR></TBODY></TABLE>




</TD></TR><TR><TD class="plc plm"></TD></TR><TR><TD class=pls></TD><TD class=plc>

</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ที่ ๒๐ /๗ /๕๔ บุคคล ที่จะเห็น พวกเหล่านี้ได้ ต้องเป็นบุคคลที่เกียวเนื่องกัน แต่ส่วนใหญ่ หรือหลักใหญ่ ก็ต้อง ทำจิต ให้สะอาด มีจิตสภาวะเป็นทิพย์ชั่วขณะหนึ่ง จึงจะเห็นได้ เป็นบางโอกาศ หรือ ปฏิบัติ รักษาศิลเป็นบางโอกาศ แล้วค่อยๆทำ ให้มันสอาดบ่อยๆแล้วขอพรพวกนั้นๆ แสดงตัวให้ปรากฏ ตามความเป็นจริง แล้วแต่วิธีการ ของใครๆ ถ้าเป็นพวกที่ท่านได้ วิชชา สามท่านพวกนี้ติดต่อได้อยู่ แล้ว ตามแต่กำลังของการ ทรง ถ้าท่านที่ทำจนคล่อง จะได้ตลอดเวลา ท่านที่ได้ อภิญญา ๕ โลกีย์ อภิญญา ๖ และ ท่านที่เป็นพระอริยเจ้า ตั้งแต่ พระอนาคามี จนถึงพระอรหัต ขั้นของ ปฏิสัมภิทาญาณ นี่ขั้นที่ ๔ นะ ถ้าปฏิบัติธรรม เดินสาย สุขวิปัสโก พวกนี้ไม่รู้วาระจิต ไม่เห็นผีเทวดาถ้าเทวดาให้เห็นจึงเห็นผีให้เห็นจึเห็น อธิฐานขอจนตายก็ไม่รู้ ท่านที่ปฏิบัติ สายสุกขวิปัจสโก ถ้ายังไม่เป็นพระอริยเจ้า จะค้านคำสอนของพระพุทธเจ้า ถ้าเรียนมากว้างไม่ค้าน หรือเข้าถึงธรรม เพราะท่านเป็นผู้ใหญ่ แล้ว ขอท่านนะ ท่านไม่รู้ แต่มีญาณหยั่งรู้ ในด้านตัดกิเลส แต่พวก ไสยเวท คุณไสย มนต์ ดำ พวกเดรัชฉานวิชา พวกนี้เขาก็เก่งนะ ถ้าเขาเหล่านั้น ไม่ได้ถึง ฌาณ ๓-๔ แต่ถ้าเขาเอามาความรู้นั้นมาช่วยคนและสัตวืมันก็จะเกิดประโยชน์ ถ้าไปใช้ในทางที่ผิด จะเกิดโทษมหัต ทุกอย่างมีคุณก็มีโทษ พ่อผม เอาคนบ้าวิชามารักษา เมื่อสมัยผมยังเป็นเด็กจำได้ว่า คนบ้าวิชา เพี้ยนไป พ่อผมเอามาล่ามโซ่ กับเสาร์ บ้าน เขายัง สเดาะกุญแจหลุดๆ ฮาฮ่าฮ้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆนี่อะไรเล่ามานี่ เฮ้อๆๆๆๆๆๆๆๆๆฮ่าๆๆๆ จบก่อนหิวข้าวแล้วตั้งแต่ ตี ๕ ขอจบแค่นี้ก่อนสวัสดี

 

ที่ ๒๐ / ๗ /๕๔ เมื่อสมัย ปี พ.ศ.๑๕ ไม่น่าเกิน พ.ศ ๑๘ ผมไปเลี้ยงหมู บ้าน อาสำรวย ม.บ้านสวน ใหม่ ต.ดอนรวก อ. ดอนตูม จ.นครปฐม กลางคืนก่อนที่ผมจะนอน ผมจะสวดมนต์ไหว้พระ เมื่อตั้งนะโม ยังไม่ทันถึง ๓ จบ บรื๊อๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อือๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อะไรกัน มีผู้หญิงสาวนางหนึ่ง ปรากฎกายขึ้น นะที่ชายคานุ่งผ้าถุง ใส่เสื้อทรงกระบอก ห่มไสบเฉียง ตัวของข้าพเจ้าในขณะนั้น ขนลุกชันหัว ซู่ๆๆซ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อยู่ตลอด เวลา แต่ก็ไม่ชงัก สวดมนต์ จนจบ อิติปิโส พาหุง มหาการิโก แล้วอุทิศส่วนกุศลให้ นี่เห็นด้วยตาเนื้อ รุ่งเช้าเล่าให้เจ้าของบ้านฟัง เขาบอกไปดูหมอดูมาบอกเขามาสถิตย์อยู่ที่โรงสีข้าว พูดตรงกับที่เราเห็น แค่นี้ก่อน หิวข้าวแต่ไม่ไปกินนึกขึ้นมาได้เลยล่าให้ฟังก่อน จะไปเจี๊ยปึ่งสวัสดี

 

muj#Q ที่ ๒๐ / ๗ /๕๔ ก็จริงเหมือนกันนะ แต่ก็ยังได้เห็นรูป หงส์กับมังกร แต่ตัวเจ้าของผู้เขียนนี่ซี ไม่ได้เห็นหน้าจะสวย เหมือนกับ ชื่อหรือเปล่าน้อ ทำไมไม่เปิดโฉม มาให้ยลบ้างเลยเล่า จ๊ะน้องหงส์ ฮ่าฮ้าๆๆๆๆๆๆๆๆ มาว่ากันต่อ จ้า เมื่อปี พ.ศ.๓๖ เดือนกุมภาพันธุ์ เห็นจะได้ ตอนนั้นพระ อ.เล็กวัดท่าขนุน จ.กาญจนบุรี ได้มาชวน ข้าพเจ้า กับพระโมเช่ ตอนนั้นท่านยังไม่บวช พระ เป็นฆราวาส แม่ชีท่านบวงสรวง ขุดบ่อหน้าถ้ำ เราทั้งสามเริ่ม ออกเดินทางแต่เช้า ไปทางลำห้าย ตะวันออกเฉียงใต้ ของหมู่บ้านตะเพินคี่ ที่นี่ มีที่น้ำออกหลายจุด เป็นต้นน้ำลำธาร หลายสาย ซึ่งผุดออกมา จากภูเขา เป็นสิ่งที่แปลกมากๆ เนื้อที่ไม่กี่พันไร่ กับเป็นต้นน้ำลำธาร ไหลตั้ง หลายแห่ง น่าอัษจรรย์แท้ๆ แ และมีน้ำตก หลาย แห่ง ไหลผ่านไปเขื่อนเจ้าเณร และไปทางหมู่ บ้านกล้วยที่ข้าพเจ้า อยู่นะปัจจุบัน อ .ด่านช้างถ้าจะพูดจริงๆ ถ้าว่าถึงน้ำฝนตกมา และซึม ไหลไปเป็นน้ำตกไม่น่าจะ จะถึงเดือนก็แห้งขอด ผม คิดเอาว่าในด้านคิดสดี แสดง ว่าความกฎดันใต้พื้นภิภพ มันดันน้ำขึ้นมาสุ่พื้นดิน กลางหมู่บ้านตะเพินคี่หรือหลายๆจุด ตามไหล่เขา ซึ่งน้ำไหลทั้งปี ยังไม่ปรากฏว่าจะหมด นี่เห็นไหมท่าน(ผู้อ่านที่เคารพ )น้ำพุร้อนๆต่างๆมันก็ดันมาจากพื้นดินฮ่าฮ้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ผมไม่ได้เรียน แต่เดาเอาน่ะครับ หรือใช้ทิษดี ที่ครูบาอาจารย์เคยพูดถึงจุดต่างๆของประเทศ ซึ่งมีทรัพย์พยากร ธรรมชาติมากมาย มาว่ากันต่อถึง เดินธุดงค์ต่อดีกว่าเดี๋ยวจะเสียเวลาท่านผู้อ่าน และจะลำคาญ ก่อนจะออกเดินทางฝนได้ตกลงมาพรำๆ และเป็นฝอย เหมือนจะอนุโมทนาในการทำความดีของพวกเรา ไม่อวดตัว หรอกนะ แต่มันเป็นเรื่องจริง เดินลัดเลาะไปเรื่อน แบบใจเย็นไม่รีบร้อนอะไร ข้าพเจ้าเตรียม ตำน้ำพริกไปด้วย ๒ ขวดใหญ่ เผื่อว่าเมื่อไม่เจอบ้านคนนานๆ จะได้เก็บ ผักนาๆชนิดในป่ามากิน ข้าพเจ้าและพระโมเช่ รู้จักหาของป่ากิน ยิ่งพระโมเช่ด้วยแล้วเก่งเรื่องนี้อย่างมากๆแล้วก็มาผ่านหมู่บ้าน น้ำพุ อ.ศรีสวัส เมืองกาญ ฝนตกต้อนรับ หนัก เข้าไปอีก และได้ค้างคืนนะที่นี้ หนึ่งคืน รุ่งเช้าเดินทาง ต่อไป จะไป หมู่บ้านตีนตก ซึ่งหมู่บ้านที่พวกข้าพเจ้าไปนี้ล้วนเป็นหมู่บ้านชาวไทยกระเหรี่ยง ทั้งสิ้นมีคนไทย ปนอยู่น้อยมากครับ เช้าวันนี้ก็เช่นกันฝนได้ตก ปอยๆ ต้อนรับไปเรื่อยๆ หยุดไปสองสามชั่วโมง แล้วตกมาใหม่เป็นอย่างนี้ ทุกวัน เดินลัดเลาะป่ามาครึงวันกว่าๆก็ทะลุ ถึงบ้านตีนตกพอดี ท่านทั้ง หลาย เดินแทบลิ้นห้อย เลย สมชื่อจริงๆๆว่าตีนตก ฮ่าฮ้าๆๆๆๆๆเดินลงเขาเข้าหมู่บ้านไปพัก ปรักกรดป่าใกล้หมู่บ้าน มีเรื่องราวเกิดขึ้นเยอะแต่จำไม่ได้ ครับ หยุดอยู่ที่นี่ หนึ่งคืน รุ่งอรุณอรุโณทัย เมื่อฉันอาหาร เสร็จสัพ ก็ออกเดินทางกันต่อไป พี่น้องที่รักทั้ง หลาย ฝนฟ้ายังตกเหมือนเดิม ทุกประการ ดูเหมือนจะหนัก ขึ้นๆเรื่อยๆ วันนี้เดินบนถนนลูกรังสลับกับป่า มาถึง วัด ถ้ำองจุ แล้วเลยมาที่วัด นาสวนคงค้างที่วัด นาสวนวันนี้ ฝนตกฟ้าร้องคำรามกำปนาท ดังสนั่นหวั่นไหวยิ่งนัก ในระหว่างที่ข้าพเจ้าเดินทางไปนะที่แห่งหนตำบลใดก็จะจดบรรทึกเอาไว้ข้าวๆ เดี๋ยวนี้มันหายไปหมด รุ่งเช้าเมื่อฉันจังหัน เสร็จเราทั้งสาม นั่งเรือ ชาวบ้านให้ไปส่ง ที่หมู่บ้านองหลุ ต้องนั่งลงเรือ ไปในเขื่อนเจ้าเณร หรือเขื่อนศรีนัครินทร์ ใช้เวลานั่งเรือ ตก สี่ ชั่วโมง ก็บรรลุถึงชายเขื่อน ก็ต้องเดินต่อไป ตามทาง สี่ห้า กิโล ถึง หมู่บ้านองหลุ พวกเราคงค้างที่นี่ อีกหนึ่งคืน ฮ่าฮ้าๆๆๆๆๆๆ พี่น้องที่เคารพ ฝนยังตกตามพวกเรา อย่างเคยครับ หนักบ้างเบาบ้าง รุ่งเช้า ฉันเสร็จออกเดินทางต่อครับ ขึ้นเขา ลาดชันไปเรื่อย จนถึงกลางเขา ที่ลาภอากาศเย็น สบาย หยุดที่นี่พักหนึ่ง คืน

 

มีทากเยอะเลยขยืยบ ไปอยู่ที่สูงๆหน่อยๆ เมือ่ได้เวลา ก็เดินทางต่อไป ถึงหมู่บ้าน คลิตี้ล่าง ที่นี่เดี๋ยวนี้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวไปแล้ว มีน้ำตก คลิตี้ หลายชั้น สวยงาม มากมายฮ่าฮ้าๆๆๆๆๆๆๆ อากาศดีมากๆในป่า มนช่างสดชื่นยิ่งนัก ท่านผู้อ่านที่เคารพ หลับตานึกภาพตามผมมาว่ามันอลังการ อย่างไรบ้าง สบายเช่นไร ฝนฟ้าก็เป็นใจ คืนนี้ขอหยุดที่นี่สักคืนนะท่านผู้ อ่านพรุ่งนี้ค่อยออกเดินทางไปพร้อมๆกัน สวีสดี

 

เป็นบันทึกที่หาอ่านได้ยากนะคะ .....

 

อ.ติงๆ แกล้งชมหรือชมด้วยความจริงใจครับฮ่าฮ้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

 

ที่ ๒๑ / ๗ /๕๔ วันนี้ตื่นตี ๕ ตอบคำถาม เรื่องวัตถุมงคล ดันกระทู้เลยเข้ามาดู เว็บจักษุญาณ ก็เปิดเข้ามาในหน้ากระทู้ของน้องหงส์โดยบังเอิญ เรื่องจำนี้จำผิดจำถูกอยู่เรื่อย เมื่อพี่อ่านดูแล้ว มันดีเหมือนกัน เน๊าะ น้องหงส์ ในเรื่องประสพการณและความรู้ มีความรู้ ต่างกันบ้าง แต่พอจับใจความได้ว่า ตอนนี้อายุเท่าไหร่แล้ว มีประสพการณ์ อันน่าอ่านพอได้เลยเชียวแหละ ฮ่าฮ้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ มาว่ากันต่อนะน้องหงส์ ประสพการณ์ของพี่ ลองเอาไปพิจรณาดูเผื่อมีประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อย ถ้ามีประโยชน์ ก็นำไปคิดดู ถ้าไม่มีประโยชน์เลยก็ถือเสียว่าเป็นนิทานนะจ๊ะจะได้ไม่เป็นโทษ ทั้งผู้อ่านและผู้เขียน ฮ่าฮ้าๆๆๆๆๆๆๆอันที่จริงได้เกิ่นไว้ในเว็บจักษุญาณบ้างแล้ว อยู่ในกระทู้ไหนจำไม่ได้ ว่าบุคคล ที่เห็นอะไรได้แปลกๆ หรือออกไปไหนมาไหนได้ เพราะอาศัย บุญเก่ากับบุญไหม่ มาประจวบเหมาะ และที่สำคัญ มันต้องได้มาแล้ว นับชาติไม่ถ้วน จึงจะมี แบบที่น้องๆเห็นมาหรือได้มา ไปเล่าให้คนที่ไม่รู้เรื่อง เขาก็หาว่าบ้าเท่านั้นแหละจ้า ฮ่าฮ้าๆๆๆๆๆ คนมีดีแล้ว ยังไม่รู้จักของดี ผมเอง น่ะ ไม่มีโอกาศแบบนี้เลยนะจ๊ะจะบอกให้ เพียงได้ ประสพการณเล็กๆน้อย มาเล่าสู่กันฟังเท่านั้นเอง และเอาไปเป็นแบบแนวทาง เทียบเคียง บ้าง ฮ่าฮ้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ การที่ ได้ทิพยจักขุญาณ หรือมีฤทธิ์ ทางใจ มโนมยิทธิมีที่หลวงพ่อ ฤาษีท่านสอน วิชชาสาม บวกอภิญญา วิชชาสาม อย่างเดียวมันไปไม่ได้ ได้แต่เห็นพูดคุยได้ ที่ไปได้ มันเป็น ทั้งวิชชาสาม บวกอภิญญา สามารถ ถอดกายใน ไปไหนมาไหนได้ ท่องเที่ยว ภพต่างๆได้ ถ้าเราฝึกให้คล่อง จนได้ฌาณ ๔ นึกปุ๊บไปปับ อยากจะไปไหนไปได้ทันที่นี่เขาเรียกว่า คล่อง ถ้านานๆไปได้ครั้งหนึ่ง คือของเก่าเขามี แต่ยังไม่ฝึกให้คล่อง แล้วกลัวดี อีกต่างหาก ผมน่ะอยากได้แต่ไม่ได้ ไม่อยากได้ แต่เสือก ไม่เอากลัว ก็เพราะของเก่าจ้า คุย กัน เป็นวันก็ไม่จบหรอก กล้ายืนยัน หาผู้แนะนำ มีเยอะแยะ ไปในประเทศไทย สามารถติดต่อ ผีเทวดาได้ หรือเห็นอะไรแปลก ๆ ที่มนุษย์เขาไม่เห็น ๑ ในพัน ที่จะได้ คน หนึ่ง ผู้ที่ปฏิบัติธรรมนะ น้องจะบอกให้ มันไม่ใช่ว่าได้กันง่าย คนที่ไม่เคยได้มาก่อนในอดีด เอาชีวิตเข้าแรก ยังไม่ประสพผลสำเร็จเลย หายากมากนะ ฮ่าฮ้าๆๆๆๆๆๆๆๆ คุยพิมได้ไม่นาน เพราะพิมไม่เก่งไม่ได้เรียนมา อาศัยความพยายามเท่านั้นเอง มาว่ากันต่อไป แล้วก็พญาครุฑกับพยานาค ตีกัน ทะเลาะกัน ผมว่า คิดเอานะ ท่านอาจจะประลองกำลังกันเฉยๆ เพื่อให้เรารู้ หรือ จะได้เข้าใจบางเรืองบางอย่างนะ หรือแสดงฤทธิ์ธานุภาพให้ปรากฏ ว่าของทุกอย่างในโลก นี้มีอยู่จริง มันเป็นเรือ่งละเอียดอ่อน มาก ยากที่จะเข้าใจ นอกจากผู้ที่ได้ ฌาณสมาบัติ เก่งๆ แต่ก็ละเอียดลออไปตามขั้นจ้า ยิ่งเป็นพระอริยเจ้าด้วยแล้ว เพราะท่านเป็นผู้ใหญ่ ย่อมรู้อะไรกว้างขวาง ยิ่งหมดกิเลส ความรู้หาประมาณมิได้ ท่านอยากรู้ถึงจะรู้ ถ้าท่านไม่อยากรู้ก็ไม่รู้ จบแค่นี้ก่อนเดี๋ยวไปกัน คัทเศท ๒ สวัสดี

 

ที่ ๒๑ / ๗ / ๕๔ มาว่ากันต่อจ้า ความเดิมที่แล้วมาจบลงตรง พระผู้หมดกิเลส ก็คือพระอรหัต นั่นเอง เอาสรุบ ว่าใครจะมารู้ยิ่งกว่าพระพุทธเจ้าไม่มีอีกแล้วเน๊าะ ที่คุณกับเพื่อน ออกมีอาการออกไปพร้อมกันนั้น ทุกครั้ง ที่ตรงกันจะด้วยกันหรือไม่ก็ตาม ผมขอเดาเอานะว่าอาจเป็นไปได้ ว่าคุณกับเขา คงมีพันธะสัญญาอะไรกันมาก็ได้ ต่างคนต่างมี ดีและมีทิพย์จักขุญาณและมีฤทธิ์ทางใจ สามารถ ถอดกายในไปในสถานที่ต่างๆได้ เป็นบางครั้ง และมักจะไปพร้อมๆกันด้วย อืมๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆในเมื่อคุณนำมาเล่า เหตุการณ์ในเว็บจักษุญาณ หรือผู้ที่อยู่เบื้องหลังคุณ ต้องการให้คุณน้องหงส์ มาเผยแพร่ เพื่อให้คนอื่นที่ยังไม่รู้ จะได้รู้และเข้าใจ บ้าง ทุกอย่างมันต้องมีประโยชน์อยู่บ้างแล้ว ไม่มากก็น้อย ถือว่าให้ความรู้คนได้คนหนึ่ง และเข้าใจ ในข้อความนั้น ดี กว่าเสียเงิน ร้อยล้านพันล้าน ฮ่าฮ้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ผมไม่มีเงินถึงขนาดนั้นแต่เปรียบเทียบให้ดู (ขอเล่าประวัติ ผมเอามาเป็นอุทาหรณ์) เมื่อประมาณ พ.ศ. ๑๙ ไม่ถึง ๒๐ ตอนนั้นผมบวช เณรอยู่ นะ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขัน ตอนนั้น ได้สร้างสำนักสงฆ์ใหม่ๆ เกิดขึ้น ผู้ถวายที่คือ ลุงพูน และป้าทิม อยู่ เลยตลาดปราณบุรี เข้าไปทางโรงงานน้ำตาล ๑๒- ไร่ พ่อครู ทันแม่ถนอม รุจิเรข ๒ ไร่ มีพระไป อยู่ ๒ องค์ ปรักกรดอยู่ เณร ๑ องค์คือผม ต่อมาสร้างกุฏิ ได้สองสามหลัง ก่อนเข้าพรรษา ได้มีพระมาจำพรรษา ๕ องค์ ฮ่าฮ้าๆๆๆๆสำนักสงฆ์นี้ชื่อ ผู้ สร้างวัดเลย ชื่อ ว่าสำนักสงฆ์ พูนบุญญาวาส ต่อมาไม่กี่ปีเปลี่ยนเป็น สำนักสงฆ์พุทธอรัญญาวาส และเมื่อสิบกว่าปีมานี้เปลี่ยนใหม่ ให้ชื่อว่า วัดวังยาว อยู่ เฉียงกับ เขาหลากฉลาม ค่ายทหาร ธนรัตน ที่ผมอยู่นี่สมัยนั้น ยังมีไก่ป่าอยู่ หนึ่งฝูง สิบกว่าตัว แถวนี้เขาปลูกสัปรด เป็นส่วนใหญ่ และมีไร่อ้อย อยู่ปฏิบัติธรรม มีคืนหนึ่ง กำปฏิบัติอยู่ ก็ปรากฏรูปหลวงปู่สุข มาให้เห็น แค่ ครึ่งองค์ เท่านั้น ในท่านั่ง สวยงามมาก แล้วก็หายไป ไปอยู่กุฏิจากที่ พ่อครูทัน ปลูกให้กับลุง ท่านปลูกให้อยู่ได้ความอนุเคาะ จากท่าน มาปฏิบัติ ตอนเย็น จะมีงู นาๆชนิด หมุนเวียนเปลี่ยนกันมา นอนอยู่อยู่ บนหัวนอน ก็ไล่เขาออกไป และอุทิศส่วนกุศล แผ่เมตตาให้ ดูเขารับรู้ และพอใจมากๆ เป็นอย่างนี้ ทั้งพรรษา แต่ไม่ทุกวัน ฮ่าฮ้าๆๆๆๆๆๆๆๆและนะที่นี้เอง ตอนกลางคืนเมื่อสงัดจากทุกสิ่งทุกอย่าง จะเห็น ฉัพพันรังสีของพระพุทธเจ้า สวยสีสรร ต่างๆกัน พวยพรุ่งออกมาเฉพาะหน้า แต่แรก ก็ไม่รู้หรอกว่าเป็นแสงอะไร มารู้และคิดเอาในภายหลัง เมื่อมีประสพการณ์มากๆ เป็นบ่อย เห็นบ่อยๆ เมื่อเล่าให้ ครูทันฟัง ท่านพูดว่า ที่ตรงนี้ อดีดกาล เป็นวัดเก่า มีสมบัติมากมาย ที่ผมนอนอยู่ตรงนั้น ไปอยู่ตรงอื่นก็ไม่เคยเห็นเช่นกัน ท่าอยู่ตรงนี้ ก็จะได้เห็น ตอนล้มตัวลงนอน ยังไม่หลับนะ ขอจบแค่นี้ก่อนไปทำธุระ แล้วมีเวลาจะเข้ามาเล่าต่อครับ ฮ่าฮ้าๆๆๆๆๆๆๆ วันนี้ทุกท่านนอนค้างด้วยกันที่นี่น้า สวัสดี

 

กำลังสนุกๆ สงสัยแกล้งหยุด ^^
คุณบุญทรงรีบมาต่อนะคะ ....

 

ขอเชิญอนุโมทนาบุญนะคะ
รายนามผู้ร่วมเป็นเจ้าภาพถวายมณีนาคา ณ พุทธอุทยานภูสูง อำเภอเลิงนกทาจังหวัดยโสธร
๑. วันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๕๔ คุณจักรพงศ์ เผ่าสวัสดิ์ จำนวน ๔๐๐ บาท
๒. วันที่ ๒ พฤษภาคม ๒๕๕๔ คุณ...... จำนวน ๑,๐๐๐ บาท
๓. วันที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๕๔ คุณKao Oat<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4670821", true); </SCRIPT> จำนวน ๓๐๐ บาท
๔. วันที่ ๗ พฤษภาคม ๒๕๕๔ คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Fuangfah<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4677883", true); </SCRIPT> จำนวน ๑๐๐ บาท
๕. วันที่ ๘ พฤษภาคม ๒๕๕๔ คุณปทมา ส่งพระมาร่วมบุญ จำนวน ๕๐ องค์
๖. วันที่ ๘ พฤษภาคม ๒๕๕๔ คุณซึ้งบน<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4682087", true); </SCRIPT> จำนวน ๕๐๐ บาท
๗. วันที่ ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๕๔ คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->suppysuppy<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4692066", true); </SCRIPT> จำนวน ๒๐ บาท
๘. วันที่ ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๕๔ คุณ ซึ้งบน<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4692673", true); </SCRIPT> จำนวน ๕๐๐ บาท
๙. วันที่ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๕๔ คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->บุญทรงพระเครื่อง<!-- google_ad_section_end --> ส่งพระมาร่วมบุญ จำนวน ๗ องค์
๑๐. วันที่ ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๕๔ คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->เฮียปอ ตำมะลัง<!-- google_ad_section_end --> จำนวน ๔๐๐.๓๘ บาท
๑๑. วันที่ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๕๔ คุณเฟื่องฟ้า จำนวน ๑๐๐ บาท
๑๒. วันที่ ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๕๔ คุณขวัญ09 จำนวน ๓๓๓ บาท
๑๓. วันที่ ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๕๔ คุณซึ้งบน จำนวน ๕๐๐ บาท
๑๔. วันที่ ๒๖ พฤษภาคม ๒๕๕๔ คุณราคุเรียวซาย จำนวน ๓๐๐ บาท
๑๕. วันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๔ คุณรจนา พุ่มจันทร์ จำนวน ๑๐,๐๐๐ บาท
๑๖. วันที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๕๔ คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Oupasene<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4744024", true); </SCRIPT> จำนวน ๑๐๐ บาท
๑๗. วันที่ ๗ มิถุนายน ๒๕๕๔ คุณเสรี วงษ์ทองเหลือ และครอบครัว จำนวน ๒๐๐ บาท
๑๘. วันที่ ๘ มิถุนายน ๒๕๕๔ คุณศุภชัย-จิตรา-ด.ช. ฐปนรรฆ์-ด.ช. ธนกร-คุณพ่อวันชัย-คุณแม่สุรางค์ โรจน์ขจรนภาลัย และครอบครัว จำนวน ๒๐๐ บาท
๑๙. วันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๕๔ คุณ Oupasene<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4769099", true); </SCRIPT> จำนวน ๒๐๐ บาท
๒๐. วันที่ ๑๐ มิถุนายน ๒๕๕๔ คุณmarquis31<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4756863", true); </SCRIPT> จำนวน ๑,๐๐๐ บาท
๒๑. วันที่ ๑๓ มิถุนายน ๒๕๕๔ คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Lek2010<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4762698", true); </SCRIPT> จำนวน ๓๐๐ บาท
๒๒. วันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๕๔ คุณ ซึ้งบน<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4692673", true); </SCRIPT> จำนวน ๕๐๐ บาท
๒๓. วันที่ ๒๘ มิถุนายน ๒๕๕๔ คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Miss Brown<!-- google_ad_section_end --> จำนวน ๘๐ บาท
๒๔. วันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๔ คุณซึ้งบน<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4692673", true); </SCRIPT> จำนวน ๕๐๐ บาท
๒๕. วันที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๕๔ คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->บุญทรงพระเครื่อง<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4864226", true); </SCRIPT> ส่งพระมาร่วมบุญ จำนวน ๙ องค์ และร่วมทำบุญเป็นจำนวนเงิน ๒,๐๐๐ บาท
๒๖. วันที่ ๒๑ กรกฎาคม ๒๕๕๔ คุณพีระ จำนวน ๑,๐๐๐ บาท

รวมปัจจัยทั้งสิ้น ๒๐,๕๓๓.๓๘ บาท

ขออาราธนาคุณพระรัตนตรัย คุณหลวงปู่ใหญ่พระมหากัสสปะ คุณหลวงปู่คำคนิง จุลมณี คุณพระอาจารย์บุญชวน ธมฺมโฆสโก ได้โปรดเมตตาธรรมแด่ท่าน และขอกุศลผลบุญนี้ได้เป็นพลวัตปัจจัยให้ท่านและครอบครัวเจริญด้วยจตุรพิธพรชัย เจริญด้วยอายุ วรรณะ สุขะ พละ ธนสารสมบัติ เจริญสูงสุดทั้งทางโลกและทางธรรมด้วยเทอญ


และติงขอมอบวัตถุมงคลเพื่อตอบแทนพระคุณท่านที่ร่วมบุญถวายมณีนาคานะคะ
(ตามรายละเอียดที่เรียนให้ทราบในกระทู้)
หากท่านที่ร่วมบุญท่านใดประสงค์จะรับพระเพื่อไว้สักการะบูชา
กรุณา PM แจ้งที่อยู่ให้ติงทราบด้วยจะเป็นพระคุณยิ่งค่ะ
กราบขอบพระคุณและอนุโมทนาค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ<!-- google_ad_section_end -->

 

ตามมาอ่านต่อจ้า
ไม่ได้มาหลายวัน

 

มารออ่านเหมือนกันค่ะคุณเล็ก^^

 

ร่วมทำบุญด้วย 100 บาทโอนเงินเรียบร้อยแล้วครับ

 

สาธุ สาธุ สาธุ น้อมอนุโมทนาบุญค่ะ

 

ขอเชิญอนุโมทนาบุญนะคะ
รายนามผู้ร่วมเป็นเจ้าภาพถวายมณีนาคา ณ พุทธอุทยานภูสูง อำเภอเลิงนกทาจังหวัดยโสธร
๑. วันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๕๔ คุณจักรพงศ์ เผ่าสวัสดิ์ จำนวน ๔๐๐ บาท
๒. วันที่ ๒ พฤษภาคม ๒๕๕๔ คุณ...... จำนวน ๑,๐๐๐ บาท
๓. วันที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๕๔ คุณKao Oat<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4670821", true); </SCRIPT> จำนวน ๓๐๐ บาท
๔. วันที่ ๗ พฤษภาคม ๒๕๕๔ คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Fuangfah<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4677883", true); </SCRIPT> จำนวน ๑๐๐ บาท
๕. วันที่ ๘ พฤษภาคม ๒๕๕๔ คุณปทมา ส่งพระมาร่วมบุญ จำนวน ๕๐ องค์
๖. วันที่ ๘ พฤษภาคม ๒๕๕๔ คุณซึ้งบน<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4682087", true); </SCRIPT> จำนวน ๕๐๐ บาท
๗. วันที่ ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๕๔ คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->suppysuppy<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4692066", true); </SCRIPT> จำนวน ๒๐ บาท
๘. วันที่ ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๕๔ คุณ ซึ้งบน<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4692673", true); </SCRIPT> จำนวน ๕๐๐ บาท
๙. วันที่ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๕๔ คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->บุญทรงพระเครื่อง<!-- google_ad_section_end --> ส่งพระมาร่วมบุญ จำนวน ๗ องค์
๑๐. วันที่ ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๕๔ คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->เฮียปอ ตำมะลัง<!-- google_ad_section_end --> จำนวน ๔๐๐.๓๘ บาท
๑๑. วันที่ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๕๔ คุณเฟื่องฟ้า จำนวน ๑๐๐ บาท
๑๒. วันที่ ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๕๔ คุณขวัญ09 จำนวน ๓๓๓ บาท
๑๓. วันที่ ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๕๔ คุณซึ้งบน จำนวน ๕๐๐ บาท
๑๔. วันที่ ๒๖ พฤษภาคม ๒๕๕๔ คุณราคุเรียวซาย จำนวน ๓๐๐ บาท
๑๕. วันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๔ คุณรจนา พุ่มจันทร์ จำนวน ๑๐,๐๐๐ บาท
๑๖. วันที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๕๔ คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Oupasene<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4744024", true); </SCRIPT> จำนวน ๑๐๐ บาท
๑๗. วันที่ ๗ มิถุนายน ๒๕๕๔ คุณเสรี วงษ์ทองเหลือ และครอบครัว จำนวน ๒๐๐ บาท
๑๘. วันที่ ๘ มิถุนายน ๒๕๕๔ คุณศุภชัย-จิตรา-ด.ช. ฐปนรรฆ์-ด.ช. ธนกร-คุณพ่อวันชัย-คุณแม่สุรางค์ โรจน์ขจรนภาลัย และครอบครัว จำนวน ๒๐๐ บาท
๑๙. วันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๕๔ คุณ Oupasene<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4769099", true); </SCRIPT> จำนวน ๒๐๐ บาท
๒๐. วันที่ ๑๐ มิถุนายน ๒๕๕๔ คุณmarquis31<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4756863", true); </SCRIPT> จำนวน ๑,๐๐๐ บาท
๒๑. วันที่ ๑๓ มิถุนายน ๒๕๕๔ คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Lek2010<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4762698", true); </SCRIPT> จำนวน ๓๐๐ บาท
๒๒. วันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๕๔ คุณ ซึ้งบน<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4692673", true); </SCRIPT> จำนวน ๕๐๐ บาท
๒๓. วันที่ ๒๘ มิถุนายน ๒๕๕๔ คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Miss Brown<!-- google_ad_section_end --> จำนวน ๘๐ บาท
๒๔. วันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๔ คุณซึ้งบน<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4692673", true); </SCRIPT> จำนวน ๕๐๐ บาท
๒๕. วันที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๕๔ คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->บุญทรงพระเครื่อง<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4864226", true); </SCRIPT> ส่งพระมาร่วมบุญ จำนวน ๙ องค์ และร่วมทำบุญเป็นจำนวนเงิน ๒,๐๐๐ บาท
๒๖. วันที่ ๒๑ กรกฎาคม ๒๕๕๔ คุณพีระ จำนวน ๑,๐๐๐ บาท
๒๗. วันที่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๕๒ คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->bannasanoo<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4914646", true); </SCRIPT> จำนวน ๑๐๐ บาท

รวมปัจจัยทั้งสิ้น ๒๐,๖๓๓.๓๘ บาท

ขออาราธนาคุณพระรัตนตรัย คุณหลวงปู่ใหญ่พระมหากัสสปะ คุณหลวงปู่คำคนิง จุลมณี คุณพระอาจารย์บุญชวน ธมฺมโฆสโก ได้โปรดเมตตาธรรมแด่ท่าน และขอกุศลผลบุญนี้ได้เป็นพลวัตปัจจัยให้ท่านและครอบครัวเจริญด้วยจตุรพิธพรชัย เจริญด้วยอายุ วรรณะ สุขะ พละ ธนสารสมบัติ เจริญสูงสุดทั้งทางโลกและทางธรรมด้วยเทอญ


และติงขอมอบวัตถุมงคลเพื่อตอบแทนพระคุณท่านที่ร่วมบุญถวายมณีนาคานะคะ
(ตามรายละเอียดที่เรียนให้ทราบในกระทู้)
หากท่านที่ร่วมบุญท่านใดประสงค์จะรับพระเพื่อไว้สักการะบูชา
กรุณา PM แจ้งที่อยู่ให้ติงทราบด้วยจะเป็นพระคุณยิ่งค่ะ
กราบขอบพระคุณและอนุโมทนาค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ<!-- google_ad_section_end -->
<!-- google_ad_section_end -->

 

-v,kc]dgx]ujpo8;k,i^hc]txilrdik เข้ามาขอเล่าเรื่องประการณ์ เรื่องจริงไม่ได้อิงนิยาย ความมีออยู่ว่าเมื่อ ปรมาณ ปี พ.ศ. ๒๐ กว่า ๆ เห็นจะได้ ข้าพเจ้าเดินทางจาก นครปฐม มุ่งสู่ ประตู ทิศตะวันออก จัง หวัด ระยอง เข้ากรุงเทพ ขึ้นรถหลายต่อมาลงรถที่ ตลาด เขาดิน ไม่รู้ว่าขึ้นกับ อ.อะไรของจ.ระยอง เมื่อมาถึง ท่านเจ้าของบ้าน อยู่ด้วยกัน ๒ คน อายุราวๆ เกืบบ ๕๐ ปี ชื่ออาทัย จำชื่อผัวแกไม่ได้ มันมานมาแล้ว ซึ่งมีพี่น้องอยู่ นครปฐม เมื่อคุยกันรู้เรื่อง ก็พักอยู่ที่ นี่ ไม่รู้กี่วัน จึงจะกลับ ตกตอนกลางคืน ไม่รู้กี่ทุ่ม เมื่อล้มตัวลงนอน เอามือก่ายหน้าผาก พอหลับตาลง เห็นเด็กน้อยคนหนึ่ง นุ่งผ้า สีแดงคล้ายกุมารทอง มากระชากมือ ให้ลง มา ที่ตัว ก็เอะใจ เด็กที่ไหนกว่า มากระตุกแขนเราได้ เลยลุกขึ้นนั่งแล้วนอนใหม่ เอาขาขวา ชันเข่าขึ้นหนึ่งข้าง เท่านั้นแหละ เขาเข้ามากระตุกขาของผม ให้ลงเสมอกัน ก็ถามว่าใครวะ มากระตุกขาทำไม ท่องคาถาไล่ก็ไม่ไป อุทิศบุญให้ก็ไม่ไป เลยลุกขึ้นมาถามท่านเจ้าของบ้าน ว่า เด็กหน้าตาอย่างนี้ เป็นใคร เคย เห็นบ้างไหม มากระตุกขา แขน อยู่ได้ เขาเลยเล่าให้ฟังว่าเป็น ลูกชายเขาเอง มีลูก เจ็ดเดือน ออกมาเป็นลูกกอก ไม่เน่า ก็เลย เอาใส่พานทำหิ้งปะแป้ง ไว้ เขาก็อยู่กันมาหลายปี ช่วยได้ระดับหนึ่ง เฝ้าบ้าน มีเหตุการณ์ วันหนึ่ง ควายเลี้ยงไว้ ไถกบ ล่องมันสัมปะหลาง วันหนึ่งมันตกใจ วิ่งพร้อมไถพาไปไกล ใครก็ช่วยไม่ได้ แกเลยเรียก ลูกชายให้ช่วย ตั้งชื่ออะไรจำไม่ได้ พอเรียกลูกชายให้ช่วยควายหยุด กึก เลย จับอยู่เลย จริงๆ แกเล่าเยอะหลายเรื่องที่ลูกแกช่วยไว้ อาทัยแกบอกว่า ถ้าเล่าให้ฟังก่อนเดี๋ยวจะกลัวเลยไม่บอก ผลที่สุดเมื่อเรื่องเกิดขึ้น แกต้องลุกมาทั้งสองคนผัวเมียมาเล่าเรื่องราวให้ฟังครับ แค่นี้ก่อนนะครับ มีจริงที่เกิดขึ้นกับผมามาหลายสิบเรื่องมีโอกาศจะเข้ามาเล่าให้ฟังครับ สวัสดี

 

วันที่ ๒๒ กรกฎาคม ๕๔ ติงถวายปานะพระ
วันนี้ ติงทำกรวย ธูปแพเทียนแพ ถวายพระอาจารย์ ๑ ชุด
และทำขันหมากเบ็งถวายพระ ๒ ชุด
เชิญอนุโมทนาบุญนะคะ