ชะตา....ฟ้าลิขิต...วัดท่าซุง

ถ้าอ่านเนื้อหาของพี่ sujjaporn ละเอียดๆหน่อย ก็คงพอเดากันได้แล้ว

ปล. ถ้าผมไม่เข้าใจผิดไปเองนะ โมทนาด้วยครับ

 

ขอบพระคุณพี่ sujjaporn สำหรับเรื่องดีๆของหลวงพ่อครับ ติดตามอ่านอยู่นะครับ

ปล. ขอเขียนนิดนึงครับ เข้าใจเอาเองว่าคงมีเพื่อนๆในเว็บที่อยากถามพี่เรื่องเหรียญสี่เหลี่ยมสมเด็จองค์ปฐมอยู่เหมือนกันแต่คงเกรงว่าจะไม่เหมาะไม่ควร ผมเลยขออนุญาติเป็นคนถามพี่เรื่องพระเองเพื่อแก้อาการคันครับ (รู้มากจะยากนาน แต่รู้น้อยก็จะพลอยรำคาญ ) แต่จะไม่ถามเรื่องคนนะครับ (อัตตนา โจทยัทตานัง)

ตามความเข้าใจของผมเอง ผมเข้าใจว่าเหรียญ (สี่เหลี่ยม) สมเด็จองค์ปฐมเนื้อโลหะ มีอยู่ทั้งหมด ๔ รุ่น คือรุ่น ๑ และรุ่นที่ ๒ มีข้อถกเถียงกันบ้างเรื่องที่หลวงพ่อท่านได้ทำพิธีพุทธาภิเศกพร้อมกันหรือไม่ ตอนนี้ก็เลยขออนุญาติแยกกันเป็นคนละรุ่นก่อนครับ (ความรู้เรื่องพระเครื่องของหลวงพ่อนี่ผมอ่อนด้อยที่สุดในเว็บแล้วครับ หากผิดถูกอย่างไรขอท่านผู้รู้ได้โปรดตักเตือนและแก้ไขให้ด้วยครับ ขอน้อมรับทุกความเห็นและขอขอบพระคุณล่วงหน้านะครับ )

๑. เป็นชุดเนื้อทองคำ เนื้อเงิน และเนื้อนวโลหะ ที่คุณ....สร้างถวาย ตามที่หนังสือสมบัติพ่อให้ได้พิมพ์ไว้ สร้างประมาณ 150 ชุด ทำบุญบูชาออกจากวัดสมัยหลวงพ่อชุดละ 10,000 บาท, หลังจากหลวงพ่อมรณภาพ 160,000 บาท และมีเนื้อเงินแยกต่างหากอีกประมาณ 200 องค์ เป็นรุ่นที่เข้าใจกันและเรียกกันว่าเป็นรุ่นยันกลับรุ่น ๑ ในปัจจุบัน
๒. เป็นเนื้อโลหะชุบทอง ผ้ากำมะหยี่ในกล่องพระจะเป็นสีน้ำเงิน ตอนออกจากวัด บูชา 400 บาท เป็นรุ่นที่เข้าใจกันและเรียกกันว่าเป็นรุ่นยันกลับรุ่น ๑ ในปัจจุบันเช่นเดียวกันกับชุดเนื้อทองคำ เนื้อเงิน และเนื้อนวโลหะ
๓. เป็นเนื้อโลหะชุบทอง ค่อนข้างคล้ายกับรุ่นที่ ๒ แต่องค์พระจะมีขนาดเล็กกว่าทั้ง ๒ รุ่นข้างต้น ผ้ากำมะหยี่ในกล่องพระจะเป็นสีแดง ตอนออกจากวัด ทำบุญเหรียญละ 200 บาท เป็นรุ่นที่เข้าใจกันว่าไม่ทันหลวงพ่อท่าน และอาจเรียกว่าได้ว่าเป็นรุ่น ๒ หรือรุ่นหลวงพ่ออนันต์
๔. เป็นรุ่นครบรอบ ๑ ปีมรณะภาพหลวงพ่อ แต่องค์พระด้านหน้าจะไม่มีเส้นขีดๆตามแนวนอน ทำบุญเหรียญละ 200 บาท เป็นรุ่นที่แน่นอนว่าไม่ทันหลวงพ่อท่านแน่ๆ

ตามที่พี่ sujjaporn แจ้งไว้ว่าเป็นรุ่นที่บูชามา 200 บาท ผมคิดว่าน่าจะเป็นรุ่นที่ ๓ ที่องค์พระจะมีขนาดที่เล็กกว่าทั้ง ๒ รุ่นข้างต้น มีกล่องผ้ากำมะหยี่สีแดง และเป็นรุ่นที่เข้าใจกันว่าไม่ทันหลวงพ่อท่าน

แต่อ่านจากที่เพื่อนของพี่แจ้งไว้ว่า "รุ่นนี้เป็นรุ่นที่หลวงพ่อท่านสั่งให้ทำพร้อมกับรูปหล่อองค์ลอยสมเด็จองค์ปฐม" ผมเข้าใจว่าเพื่อนของพี่น่าจะหมายถึงรุ่นที่ ๒ ที่เป็นเนื้อโลหะชุบทอง องค์พระมีขนาดที่ใหญ่กว่ารุ่นที่ ๓ และที่กล่องพระจะเป็นผ้ากำมะหยี่เป็นสีน้ำเงิน ตอนออกจากวัดบูชา 400 บาท หรือเปล่าครับ

ที่พิมพ์มาค่อนข้างยาว ไม่ใช่จะเปิดประเด็นว่ารุ่นไหนทันไม่ทันหรือใช่หรือไม่ใช่อะไรหรอกครับ แต่ถ้าเพื่อนของพี่ sujjaporn ถามพี่ว่าพี่มีรุ่นนี้แล้วหรือยัง ถ้ายังไม่มีก็จะให้ ผมว่าพี่น่าจะไปรับองค์พระมาก่อนดีกว่าครับ จะใช่ที่มีแล้วหรือไม่ใช่ก็ค่อยว่ากันทีหลัง ถ้าเปรียบเทียบตามรูปด้านล่างแล้วองค์พระมีขนาดเท่าๆกันกับที่มีอยู่แล้วก็แสดงว่าเป็นรุ่นเดียวกัน แต่ถ้าเปรียบเทียบแล้วองค์พระมีขนาดใหญ่กว่าองค์ที่พี่มีอยู่แล้วก็แสดงว่าเป็นคนละรุ่นกันครับ

จุดประสงค์ไม่ได้ยุให้พี่โลภอยากได้ของคนอื่นนะครับ แต่เกรงว่าพี่กับเพื่อนของพี่จะคุยกันแล้วเข้าใจกันผิดว่ารุ่นที่พี่มีกับรุ่นที่เพื่อนของพี่มีอยู่เป็นรุ่นเดียวกัน ถ้าหากพี่ได้รับองค์พระมาแล้วลองเปรียบเทียบกันแล้วได้ความว่าอย่างไร รุ่นไหนทันรุ่นไหนไม่ทันยังไงไม่ต้องบอกในนี้ก็ได้ครับ ปล่อยให้คนอ่านมึนๆงงๆกันเล่นบ้างก็สนุกดีครับ เอิ๊กๆๆ...

ภาพเปรียบเทียบด้านล่างมาจากกระทู้ของคุณน๊อต ณ แปดริ้วครับ ขออนุญาติใช้ประกอบด้วยนะครับ (จากกระทู้: http://palungjit.org/threads/***ลูกศิษย์หลวงพ่อพระราชพรหมยาน-หลวงพ่อฤาษีลิงดำ-บูชาพระอะไรติดตัวกันบ้างครับ-***.236398/page-228) **หมายเหตุ จากกระทู้ของคุณน๊อตที่เขียนที่กล่องพระว่ารุ่น ๑ ขอให้เข้าใจว่าเป็นรุ่น ๒ ตามความหมายในกระทู้นี้นะครับ ส่วนองค์ทางขวามือจะเป็นรุ่น ๓ ตามความหมายในกระทู้นี้ครับ (ในกระทู้นี้ผมแยกพระชุดเนื้อทองคำ+เนื้อเงิน+เนื้อนวโลหะกับรุ่นเนื้อโลหะชุบทองออกจากกันเนื่องจากยังมีประเดนถกเถียงกันอยู่นะครับ)






ส่วนภาพองค์นี้ผมเพิ่งเช่ามาครับ เป็นรุ่นครบรอบ ๑ ปีมรณะภาพของหลวงพ่อ แล้วก็เพิ่งถ่ายรูปมาได้จังหวะพอดีเลยครับ

 

............................


มาช้าดีกว่าไม่มา มาติดตามเช่นเคยแต่ติดภาระกิจนิดหน่อย
เลยไม่ได้เข้ามาบ่อย พี่เจ้าของกระทู้มาแต่ละครั้ง ภาพ อเวต้า เปลี่ยนตลอดเลยนะครับ แต่องค์นี้โดนใจ มากๆๆ ใช่พระธาตุหรือเปล่าครับ จุดขาวๆๆบนองค์พระนะครับ

 

มาเฝ้ารอติดตามเรื่องราวดีดี ด้วยอีกคนนะคะ

 

หลวงพ่อ : นี่ญาติโยมทั้งหลายรู้มั้ยว่าเด็กนักเรียนของฉันก็เก่งนะพูดแล้วจะหาว่าฉันคุย(หลวงพ่อท่านพูดด้วยเสียงหัวเราะ) เจ้านี่เป็นเด็กเลี้ยงสุนัขของฉันต้องตื่นนอนตีประมาณตี3 มาช่วยงานครัวและรับผิดชอบเลี้ยงสุนัขกว่าจะได้กินข้าวไปโรงเรียนก็ร่วม2โมงเช้ากลับมาก็ต้องให้อาหารสุนัขและทำงานอย่างอื่นด้วยแต่ด้วยความตั้งใจเรียนหนังสือมีความเพียร และอดทน เมื่อเรียนจบก็สามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ ฉันรู้สึกดีใจและภาคภูมิต่อเด็กนักเรียนของฉันถ้าทุกคนตั้งใจเหมือนเจ้านี่ฉันคงมีความสุข เด็กคนนี้เป็นลูกชาวเขาแต่มีความมานะและอดทนฉันหวังว่าลูกของฉันทุกคนของฉันคงเป็นแบบนี้ "เย้าเอ๋ยกราบท่านผู้มีพระคุณทุกท่านสิลูกถ้าไม่มีพวกท่านลูกจะไม่มีโอกาสได้เรียนหนังสือนะลูก"
เด็กน้อย : เด็กน้อยค่อยๆนั่งลงพับเพียบและกราบญาติโยมด้วยความสำนึกในบุญคุณ
หลังจากนั้น หลวงพ่อท่านก็ได้บอกถึงอานิสงฆ์ของการสงเคราะห์เด็ก เสร็จแล้วก็ให้ญาติ-โยมได้ถวายสังฆทาน ซึ่งเด็กน้อยก็ได้ช่วยรับสังฆทานรวมทั้งเจ้าเพื่อนสนิทด้วย...ญาติ-โยมบางท่าน..ถวายหลายครั้งหลายหนจนหลวงพ่อทัก...หลังจากนั้นญาติ-โยม ได้ทยอยกันกลับ เมื่อญาติ-โยมได้กลับกันหมดแล้ว หลวงพ่อได้เข้าไปอยู่ยังห้องพักอีกห้องหนึ่ง เด็กน้อย เพื่อนสนิทและอาจารย์ได้เข้าไปพบท่านโดยเด็กน้อยได้นำน้ำส้มคั้นไปถวายท่านภาพที่เห็น"หลวงพ่อครึ่งนั่งครึ่งนอน ที่แขนของท่านมีสายน้ำเกลือเสียบอยู่ แขนอีกข้างหนึ่งมีเครื่องวัดความดันคอยวัดอยู่ โดยมีหมอและพยาบาลอยู่ข้างๆ" เด็กน้อยค่อย ๆ คลานเข้าไปถวายน้ำส้มคั้นกับท่าน ความรู้สึกได้บอกกับตัวว่าหลวงพ่อท่านอ่อนล้าเหลือเกินแต่แววตาของท่านเป็นประกายคล้ายดวงดาวบนฟ้า
หลวงพ่อ : เย้าเอ๋ยสิ่งที่อาจารย์ท่านให้ทำนะเป็นสิ่งที่ดีและถูกต้องนะลูก อาจารย์ท่านหวังดีต่อลูกอยากให้ลูกตั้งใจเรียน (ท่านหมายถึงการที่ท่านอาจารย์ไม่ให้เข้าร่วมกิจกรรมรับน้อง ซึ่งเด็กน้อยได้สอบถามท่านอาจารย์ว่าได้บอกกับหลวงพ่อให้รับรู้หรือเปล่าซึ่งท่านอาจารย์ได้บอกว่าท่านไม่เคยเรียนบอกกับหลวงพ่อเลย ทุกสิ่งทุกอย่างหลวงพ่อท่านทราบหมดถ้าสิ่งไหนท่านต้องทราบ) ท่านพูดพร้อมกับเอื้อมมือที่ยังวัดความดันอยู่หยิบย่ามพร้อมทั้งหยิบซองที่อยู่ในย่ามออกมา "นี่เป็นเงินค่าใช้จ่ายสำหรับซื้อของจำเป็นส่วนตัวนะลูกส่วนเงินที่ต้องใช้ไปเรียนหลวงพ่อได้โอนเข้าบัญชีให้แล้วนะลูก" ตั้งใจเรียนหนังสือและเป็นคนดี เวลาของพ่อเหลือน้อยลงทุกที่แล้วลูก เดือนนี้ยังไม่ต้องกลับวัดหรอกค่อยกลับเดือนหน้าก็แล้วกันจะได้ไปช่วยที่วัดเพราะจะมีพิธีเป่ายันต์เกราะเพชร พรุ่งนี้พ่อต้องไปบ้าน พลโท......ลูกไม่ต้องไปหรอก อาจารย์ด้วยนะ เสียงหลวงพ่อท่านกล่าวด้วยความเมตตาปราณี แต่เสียงของท่านอ่อนล้าเหลือเกิน
ทั้งเด็กน้อย เจ้าเพื่อนสนิท อาจารย์และป้า ต่างก้มลงกราบท่านและลาท่านด้วยจิตใจที่อาลัย...โดยเฉพาะเด็กน้อยตลอดทางที่กลับบ้านอาจารย์น้ำตารินหลั่งไหลโดยไม่รู้สึกตัวเพราะภาพของหลวงพ่อที่พบเห็นนั้นเป็นสิ่งที่เด็กน้อยแทบไม่เคยเห็นมาก่อนเลย.....
"คำว่าไม่ได้ ไม่สามารถ ไม่ปรากฏ" รู้มั้ยฉันต้องใช้เวลานานยาวถึง 20 ปี ฉันถึงเข้าใจความหมายของหลวงพ่อ และฉันก็ได้พิสูจน์คำคำนี้มาแล้ว เพื่อแสดงให้เห็นว่า ฉันก็ลูกหลวงพ่อเหมือนกัน เสียงเจ้าเพื่อนสนิทเอ่ยขึ้นกับเด็กน้อย(5 กรกฏาคม 2554)

 

อ่านแล้วซาบซึ่งต่อหลวงพ่อท่านครับเท่าที่จำได้ไม่เคยได้เห็นตัวจริงๆกันเลย...แต่ได้อ่านบทความนี้แล้วทำให้มีความเคารพรักขึ้นอีก..ท่านช่างมีเมตตาจริงๆครับ...พรหมยาน..เหมากันท่านครับ

 

แววตาแบบนี้ผมได้รับรู้แล้วครับ ถึงแม้ผมจะไม่เคยมีวาสนาได้ไปกราบหลวงพ่อ แต่แววตาและรอยยิ้มนั้นผมได้สัมผัสแล้ว ประจักษ์แล้ว

 

ท่านเมตตาจริง ๆ ไปวัดท่านครั้งแรกไปฝึกมโนมยิทธิ
พอเสร็จแล้วไปที่ศาลาริมน้ำ ไปกราบท่านเพราะหลวงพ่อท่านไปรอรับแขกที่นั่น

ก้าวขาเข้าไปปุ๊ป ยังไม่ทันได้กราบ
ท่านมองหน้าถามทันที "เป็นไงไอ้หนูเอ๊ย ทันเขาหรือเปล่า" แล้วท่านก็หัวเราะ ผมก็ยิ้มเขิน ๆ
เพราะเป็นครั้งแรกที่ไปฝึก ไม่คุ้นเลยไปตามเขาไม่ทัน เก้ ๆ กัง ๆ ขนาดอยู่กันคนละที่ท่านยังรู้เลย
ประทับใจจริง ๆ แต่เสียดายที่เอาดีไม่ได้ จนเดี๋ยวนี้ บัดนี้ก็ยัง เหลวไหลอยู่น่าเวทนาตนเองจริง ๆ

 

ซาบซึ้งในความเมตตาของหลวงพ่อเหลือเกินค่ะ

 

อ่านแต่ละตอนน้ำตาไหลทุกที<!-- google_ad_section_end --> ทำให้คิดถึงหลวงพ่อมากๆ

 

แล้วเด็กน้อย"เย้า"ได้เป็นครูสอนเคมีหรือป่าวและปัจจุบันใช่
รับราชการที่อ่างทองมั๋ยครับ.....

 

เมื่อปี2530ประมาณเดือน ตุลาคม ได้มีโอกาสไปกราบหลวงพ่อฤาษีที่วัดตอนนั้นยังบวชเป็นพระภิกษุอยู่ซึ่งหลวงพ่อยังรับแขกที่ศาลาริมน้ำหลังเก่า ไปถึงประมาณบ่ายโมงกว่าๆเห็นหลวงพ่อมายืนรอรับที่บันไดได้กราบท่านก็ไม่ได้คิดอะไร พึงมาคิดเมื่อตอนดูที่เวปพลังจิต (โง่เสียตั้งนาน) เพราะอะไรหลวงพ่อถึงมายืนรอรับทั้งๆที่เราก็เป็นพระธรรมดา เป็นเพราะท่านทราบทุกอย่างที่ท่านอยากรู้(และท่านก็รู้ด้วยจะมีพระสองรูปและหนึ่งเณรไปพบท่านเพื่อชื่นชมบารมีท่านในวันนั้น)ท่านจึงยืนรอรับอยู่ที่บันไดศาลา ส่วนตัวข้าพเจ้าไม่คอยชอบผู้คนที่มากมายเท่าไหร่เพราะที่วัดท่าซุงของหลวงพ่อผู้คนเยอะมากๆ จนบางครั้งที่จอดรถไม่มี ได้สนธนาธรรมกับหลวงพ่อ ซักชั่วโมงก็กลับ แต่สัมผัสได้ถึงพลังแห่งความเมตตาของหลวงพ่อได้และยึดแนวทางการปฏิบัติธรรมของหลวงพ่อมาตลอด(บางครั้งก็หลงทางโลกเข้ารกเข้าพงบ้างทุกวันนี้ยังงูๆปลาๆอยู่เลย)เหมือนกับคุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->sujjaporn<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4884604", true); </SCRIPT> บอกนั่นแหล่ะหลังจากปี2535ที่หลวงพ่อละสังขารแล้ว เมื่อประมาณเดือนกุมภาพันธุ์ 2554 ได้มีโอกาสไปวัดท่าซุงอีกหลายครั้ง บ้างสิ่งบางอย่างก็เปลียนไปแต่ก็นานาจิตตัง(ขนาดสังขารเรายังเปลียนเลยเนอะ)ขอได้ไปกราบไหว้สรีระสังขารหลวงพ่อก็พอ
ขออนุโมทนาบุญคุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->sujjaporn<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4884604", true); </SCRIPT> ด้วยน่ะที่นำเรื่องราวที่ดีๆของหลวงพ่อพระราชพรหมยานมาให้ได้อ่าน คิดถึงหลวงพ่อ

​

 

รอการกลับมาของพี่ sujjaporn ครับ
อ่านแล้วซาบซึ้งมากครับ

 

"คำว่าไม่ได้ ไม่สามารถ ไม่ปรากฏ" รู้มั้ยฉันต้องใช้เวลานานยาวถึง 20 ปี ฉันถึงเข้าใจความหมายของหลวงพ่อ และฉันก็ได้พิสูจน์คำคำนี้มาแล้ว เพื่อแสดงให้เห็นว่า ฉันก็ลูกหลวงพ่อเหมือนกัน .. สาธุ

ปล.ชื่อลูกชายคุณพี่เพราะมากๆ ครับ ที่ผมตั้งใจจะตั้งให้ลูกก็คล้ายๆ กันครับ (พุทธพร) แต่ยังไม่มีโอกาสได้ใช้ .. ท้องแรก หมอตรวจแล้วพบว่าเป็นท้องลมครับ

ขอโมทนาบุญในการนำเรื่องราวดีๆ มาเผยแผ่ครับ

 

............................


สมเด็จองค์ปฐมวัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่ มีพระบรมธาตุเสด็จด้วย สาธุๆๆ

 

เข้ามารออ่านด้วยคนครับ

 

พึ่งอ่านจบทุกหน้าวันนี้ เรื่องราวที่ดีจนทำให้ผมร้องไห้เลยทีเดียว ขอบคุณพี่ sujjaporn มากมายครับ

 

ตอนนี้ยังอยู่ในช่วงฟื้นฟูให้กับผู้ประสบอุทกภัย จ.อ่างทอง ต้องขออภัยท่านพระยาโควาจรทั้งหลายด้วยเป็นอย่างสูง ถ้ามีเวลาจะเข้ามาเขียนเล่าเรื่องราวของเด็กน้อยต่อไป
ขอบคุณทุกๆท่านด้วย

 

ไชโย จขกท มาแล้ว
รออยู่ครับผม

 

กราบพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ) กราบหนึ่ง กราบสอง กราบสาม[www.marateebook.com]