น้าจี้ ศิษย์ธรรมกาย ไปนรก-สวรรค์ได้ สุดยอด

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ธssมกาย, 21 พฤษภาคม 2011.

  1. ธssมกาย

    ธssมกาย สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +2
    ลองกด Refresh หน้าเพจดูนะครับ
     
  2. ธssมกาย

    ธssมกาย สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +2
    ตอน13 น้าจี้เทศนาบนเทวสภาัชั้นดาวดึงส์



    <embed src="http://www.4shared.com/embed/581009069/b96ea5f6" allowfullscreen="true" allowscriptaccess="always" width="420" height="250">
     
  3. rravikran

    rravikran เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2011
    โพสต์:
    297
    ค่าพลัง:
    +151
    เรียน ทุกท่าน

    อย่าเพิ่งเชื่อครับ ส่วนใหญ่คนที่เข้าวัดนี้ มักเข้าด้วยความหลงทั้งนั้น ซึ่งผมก็เคยเป็นมาก่อน แต่ก็หลุดออกมาจากวัดนี้ได้แล้ว นับว่าโชคดีมากๆ

    อยากรู้ว่าน้าจี้ตายแล้วไปไหน ให้เข้าไปอ่านเพิ่มได้ที่บล๊อคนี้ครับ ซึ่งคนที่ตรวจสอบว่าน้าจี้ตายแล้วไปไหน เป็นสายของหลวงพ่อวัดปากน้ำเหมือนกัน แต่ว่าไม่ได้เป็นของสายวัดพระธรรมกาย จะได้รู้หลายๆมุมไม่ฟังความโฆษณาดด้านเดียว

    บุญ..บ้าๆ บอๆ ของสมีไชยบูลย์

    มีรายละเอียดเยอะแยะเลย แล้วท่านจะได้รู้ถึงความจริงไม่หลงไปในวัดนี้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กรกฎาคม 2011
  4. ธssมกาย

    ธssมกาย สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +2
    ตอน 14ถอดธรรมกายไปเที่ยวสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า

    <embed src="http://www.4shared.com/embed/581007455/7c2365f1" allowfullscreen="true" allowscriptaccess="always" width="320" height="200">
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กรกฎาคม 2011
  5. ธssมกาย

    ธssมกาย สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +2
    ธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พิสูจน์ด้วยการลงมือทำ ^_^
     
  6. jeshda

    jeshda Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    31
    ค่าพลัง:
    +53
    อนุโมทนา คุณ rravikran ที่ให้สติคนอ่าน
     
  7. ธssมกาย

    ธssมกาย สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +2
    น้าจี้ ตอน15 อธิษฐานจิตให้เป็น

    <embed src="http://www.4shared.com/embed/581005858/a18128a3" width="420" height="250" allowfullscreen="true" allowscriptaccess="always"></embed>

    วิชชาธรรมกาย คือ วิชชาสูงสุดในพระพุทธศาสนา

    เกิดมา ว่าจะมาหาแก้ว
    พบแล้วไม่กำ จะเกิดมาทำไม
    สิ่งที่อยากเขาก็หลอก
    สิ่งที่หยอกเขาก็ลวง
    ทำให้จิตเป็นห่วงเป็นใย
    เลิกอยาก ลาหยอก
    รีบออกจากกาม
    เดินตามขันธ์สามเรื่อยไป
    เสร็จกิจสิบหก ไม่ตกกันดาร
    เรียกว่านิพพานก็ได้
     
  8. ธssมกาย

    ธssมกาย สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +2
    “กิจสิบหก” ที่หลวงพ่อสดท่านกล่าวว่า…
    “เสร็จกิจสิบหก ไม่ตกกันดาร เรียกว่า นิพพาน ก็ได้”

    นี้ท่านหมายเอา เมื่อพระโยคาวจรปฏิบัติถึง “ธรรมกาย” แล้ว
    เจริญฌานสมาบัติให้ผ่องใสดีแล้ว ก็พิจารณา “อริยสัจ ๔” ของแต่ละกาย ได้แก่

    กายมนุษย์
    กายทิพย์
    กายรูปพรหม
    กายอรูปพรหม


    ให้เห็นตามที่เป็นจริงว่า....
    เป็น “ทุกข์” อย่างไร
    มีเหตุแห่งทุกข์ คือ “สมุทัย” อย่างไร
    แล้วพิจารณาเห็นถึง “นิโรธ” คือ สภาวะที่ทุกข์ดับ เพราะเหตุดับ มีได้เป็นได้อย่างไร
    และ “มรรค” คือ หนทางปฏิบัติเพื่อความพ้นทุกข์อันถาวร เป็นอย่างไร


    (พิจารณาอริยสัจ ๔ ในกายมนุษย์ ...นี้เป็น กิจ ๔)
    (พิจารณาอริยสัจ ๔ ในกายทิพย์ ...นี้เป็น กิจ ๔)
    (พิจารณาอริยสัจ ๔ ในกายรูปพรหม ...นี้เป็น กิจ ๔)
    (พิจารณาอริยสัจ ๔ ในกายอรูปพรหม ...นี้เป็น กิจ ๔)


    นี่จัดเป็น กิจ ๔ แต่ละ ๔ ก็เป็น “ กิจ ๑๖ ”
    เพื่อให้บรรลุมรรค ผล นิพพาน...ตามระดับภูมิธรรมที่ปฏิบัติได้


    กล่าวถึง “ เสร็จกิจ ” รวบยอดของพระอรหันต์ ก็เป็น “ กิจ ๑๖ ”
    นี่แหละที่หลวงพ่อท่านกล่าวว่า

    “เสร็จกิจสิบหก ไม่ตกกันดาร เรียกว่า นิพพาน ก็ได้”

    นี้เสร็จกิจทางพุทธศาสนาทางพระอรหัตแค่นี้นี้ทางปฏิบัติเทศนาดังนี้เป็นทางปฏิบัติไม่ใช่ทางปริยัติ
     
  9. ธssมกาย

    ธssมกาย สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +2
    16.สุดยอดสุขของชีวิต



    <embed src="http://www.4shared.com/embed/581002195/e1831824" width="420" height="250" allowfullscreen="true" allowscriptaccess="always"></embed>
     
  10. ธssมกาย

    ธssมกาย สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +2
    ปกิณกะความรู้วิชชาธรรมกาย จากหลวงพ่อวัดปากน้ำ

    กายในกายนับตั้งแต่ กายมนุษย์หยาบหรือกายเนื้อ ก็มีกายมนุษย์ละเอียด กายทิพย์หยาบ-กายทิพย์ละเอียด ซึ่งเป็นกายที่ ๔ นับจากกายมนุษย์ ถึงกายนี้แล้วก็จะสามารถทำกัมมัฏฐานได้ ๓๐ ที่ตั้ง ตั้งแต่ กสิณ๑๐ อสุภะ๑๐ และอนุสสติ๑๐ ตาของกายนี้(นับแต่ตาของกายมนุษย์ละเอียดเป็นต้นไป) เป็น ทิพยจักษุ สามารถเห็นสวรรค์ นรก เปรต อสุรกาย แล้วเอากายทิพย์นี้แหละไปนรก สวรรค์ เปรต อสุร-กายได้ทุกแห่ง ไปพูดจาปราศรัยกันกับพวกเหล่านั้นได้ ถามถึงบุรพกรรมทุกข์สุขกันได้ทั้งนั้น แต่ว่ายังไม่เห็นพรหมโลกเพราะละเอียดกว่าสวรรค์มาก

    ดวงธรรมในกายทิพย์นี้เรียกว่า ทุติยมรรค พอขยายออกเป็นปฏิภาคใหญ่เท่าดวงจันทร์ดวงอาทิตย์ ก็จะเห็นกายที่๕ ขึ้นอีก ผุดขึ้นที่กลางดวงทุติยมรรค เรียกว่า กายรูปพรหมหยาบ และในกลางกายรูปพรหมหยาบก็มี กายรูปพรหมละเอียด เป็นกายที่๖ กายนี้สวยงามประดับประดาอาภรณ์ยิ่งกว่าเทวดา(กายทิพย์) กายนี้ทำกัมมัฏฐานได้๔ ที่ตั้ง คือ รูปฌาน๔ ดวงตาของกายนี้เป็น ปัญญาจักษุ สามารถเห็นพรหมโลกทั้ง ๑๖ ชั้น แล้วเอากายนี้ไปพรหมโลกทั้ง ๑๖ ชั้นได้ ไปไต่ถามทุกข์สุขกับรูปพรหมทั้ง ๑๖ ชั้นได้ แต่ว่ายังไม่เห็นอรูปพรหม ๔ ชั้น เพราะละเอียดกว่ารูปพรหมมาก
    ต้องเอา เห็น จำ คิด รู้ เข้าไปหยุดนิ่งอยู่เหนือสะดือสองนิ้วมือ ในกลางกายรูปพรหมที่๖ นี้อีก ดวงธรรมในกายนี้เรียกว่า ตติยมรรค พอขยายเป็นปฏิภาคใหญ่ออกไปเท่าดวงจันทร์ดวงอาทิตย์ ก็จะเห็นกายอรูปพรหมหยาบ ในกลางกายอรูปพรหมหยาบก็จะเห็นกายอรูปพรหมละเอียดเป็นกายที่๘ กายอรูปพรหมนี้สวยงามยิ่งขึ้นไปอีก กายนี้ทำกัมมัฏฐานได้ ๖ ที่ตั้ง คือ อรูปฌาน๔ และ อาหาเรปฏิกูล-สัญญา กับจตุธาตุววัตถานะ รวมเป็น ๔๐ กัมมัฏฐานด้วยกัน ดวงตาของกายนี้เป็น สมันตจักษุ สามารถเห็นอรูปพรหม ๔ ชั้น แล้วเอากายนี้ไปอรูปพรหม ๔ ชั้นได้ ไปไต่ถามทุกข์สุขกันได้ แต่ยังไม่เห็นนิพพาน
    ต้องเข้าไปนิ่งอยู่เหนือศูนย์สะดือสองนิ้วมือ ในกลางกายอรูปพรหมละเอียดซึ่งเป็นกายที่๘ นี้อีก ดวงธรรมในกายนี้เรียกว่า จตุตถมรรค พอขยายเป็นปฏิภาคใหญ่เท่าดวงจันทร์ดวงอาทิตย์ ก็จะเห็นกายอีกกายหนึ่งเป็นกายที่๙ กายนี้เรียกว่า ธรรมกาย
    เหมือนพระพุทธรูป เกตุแหลมเหมือนดอกบัวตูม สวยงาม ใสเหมือนแก้ว ดวงตาของกายนี้เรียกว่า พุทธจักษุ เห็นนิพพาน แล้วเอากายนี้แหละไปนิพพานได้ พระพุทธเจ้าอยู่ที่ไหนก็เห็นหมด ทั้งขาว กลาง ดำ ไปพบปะเห็นทั้งนั้น เรื่องห่มผ้าม้วนขวา ม้วนซ้ายจะไปรู้เรื่องได้หมด ถ้าท่านผู้ใดทำได้ถึงพระธรรมกายนี้แล้วจึงค่อยเชื่อ หรือจะไม่เชื่อก็ตามใจท่านเถอะ เพราะคนเรามีอยู่ ๓ พวก ขาวพวกหนึ่ง ดำพวกหนึ่ง กลางพวกหนึ่ง ถ้าพวกขาวก็เชื่อ ถ้าพวกดำก็ไม่เชื่อ ถ้ากลางก็เฉย ๆ ถ้าอยากจะรู้ว่าเป็นพวกขาว กลาง หรือดำ ก็สังเกตดูเอา ถ้าซื่อตรง นักปราชญ์ ฉลาดใจบุญ ก็ให้รู้ว่าเป็นเครื่องหมายของภาคขาว ถ้าคดโกง เก่งกาจ ฉลาดใจพาล ก็ให้รู้ว่าเป็นเครื่องหมายของภาคดำ ถ้าไม่ตรง ไม่โกง นั่นก็เป็นเครื่องหมายของภาคกลาง
    ธรรมกายนี้ก็มีหยาบละเอียดกว่ากันเข้าไปตามลำดับ กายธรรมกายแรกซึ่งเป็นกายที่๙ นั้นเรียกว่า ธรรมกายโคตรภูหยาบ
    ในธรรมกายโคตรภูหยาบก็มีธรรมกายโคตรภูละเอียด
    ในกายโคตรภูละเอียดก็มีกายพระโสดาปัตติมรรค
    ในกายพระโสดาปัตติมรรคก็มีกายพระโสดาปัตติผล
    ในกายพระโสดาปัตติผลก็มีกายพระสกิทาคามิมรรค
    ในกายพระสกิทาคามิมรรคก็มีกายพระสกิทาคามิผล
    ในกายพระสกิทาคามิผลก็มีกายพระอนาคามิมรรค
    ในกายพระอนาคามิมรรคก็มีกายพระอนาคามิผล
    ในกายพระอนาคามิผลก็มีกายพระอรหัตมรรค
    ในกายพระอรหัตมรรคก็มีกายพระอรหัตผลเป็น ๑๘ กายด้วยกัน
    กายตั้งแต่กายมนุษย์ กายทิพย์ กายรูปพรหม กายอรูปพรหมทั้งหยาบทั้งละเอียดหมดทั้ง ๘ กายนับเป็นกายปัญจขันธ์ เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ไม่ใช่ตัวตน บุคคล เราเขา ไม่ใช่ตัวเรา ไม่ใช่ของเรา
    แต่กายทั้ง ๑๐ นับตั้งแต่กายธรรมโคตรภูขึ้นไปจนถึงธรรมกายพระโสดา ธรรมกายพระสกิทาคา ธรรมกายพระอนาคา ธรรมกายพระอรหัต ทั้งหยาบทั้งละเอียด นี้เป็นกายธรรมขันธ์ เป็นนิจจัง เป็นสุขัง เป็นอัตตา นิจจังเป็นของเที่ยง สุขังเป็นสุข อัตตาเป็นตัวของเรา เป็นกายเราแท้ไม่ยักเยื้องแปรผัน
     

แชร์หน้านี้

Loading...