มารู้จักเชื้ออีโคไล ที่กำลังระบาดกันเถอะ

<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o>

อีโคไล เชื้อแบคทีเรียมรณะ คร่าชีวิตมนุษย์<o></o>​

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

หลังจากที่มีข่าวครึกโครมเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของเชื้อแบคทีเรียอีโคไลในทวีปยุโรป ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 20 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 3 มิถุนายน) อีกทั้งยังมีพบผู้ติดเชื้ออีโคไล กว่า 2,000 ราย ภายใน 1 เดือนก็ทำให้เกิดความหวั่นวิตกไปทั่ววงการแพทย์ เนื่องจากทางการแพทย์เองก็ยังไม่หาสามารถหาข้อสรุปได้ว่า ต้นตอของเชื้อดังกล่าว มันมาจากที่ไหน..แต่ที่แน่ ๆ มันร้ายแรง ก้าวร้าวและดื้อยาปฏิชีวนะเป็นที่สุด !!! ...แถมยังได้ข่าวมาว่า ยังไม่มีวิธีรักษาให้หายขาดอีกด้วย

วันนี้กระปุกดอทคอมขอพาคุณ ๆ ไปทำความรู้จักกับเจ้าเชื้อแบคทีเรียอีโคไลกันค่ะ ว่าแต่ว่ามันจะร้ายแรงแค่ไหน แล้วมีวิธีป้องกันการติดเชื้ออย่างไร ไปติดตามกันเลยค่ะ

<?xml:namespace prefix = v ns = "urn:schemas-microsoft-com:vml" /><v:shape id=Picture_x0020_2 style="WIDTH: 37.5pt; HEIGHT: 37.5pt" alt="http://img.kapook.com/image/icon/093546855.gif" type="#_x0000_t75" o:spid="_x0000_i1026"><v:imagedata o:href="cid:image002.gif@01CC2771.C52955F0" src="file:///C:\DOCUME~1\jiradech\LOCALS~1\Temp\msohtmlclip1\01\clip_image002.gif"></v:imagedata></v:shape>แบคทีเรีย อีโคไล คืออะไร?

แบคทีเรียชนิดนี้ มีชื่อเต็ม ๆ ว่า Escherichia coli (เอสเชอริเชีย โคไล) หรือที่เราเรียกกันสั้น ๆ ว่า E. coli(อี.โคไล) เป็นแบคทีเรียที่มีอยู่แล้วในร่างกายมนุษย์และสัตว์ จะพบได้ในลำไส้ใหญ่ แบคทีเรียชนิดนี้จะทำให้เกิดอาการท้องเสียบ่อย ๆ อุจจาระเหลวหรือเป็นน้ำ แต่จะมีอาการไม่รุนแรง เพราะคนเรามีภูมิต้านทานโรคอยู่บ้าง และปกติเราสามารถพบเชื้อดังกล่าวได้ในอุจจาระอยู่แล้ว ถึงแม้จะไม่มีอาการอะไร

ทั้งนี้ แบคทีเรียอีโคไลนั้นมีอยู่หลายชนิด แต่เชื้อแบคทีเรียอีโคไลที่ระบาดอยู่ในทวีปยุโรปนั้น เป็นเชื้อแบคทีเรียอีโคไล ชนิด โอ104 ผลิตสารพิษชิก้า (STEC) ซึ่งเป็นเชื้อชนิดที่มีความรุนแรงมาก และเจริญเติบโตได้ดีในอุณหภูมิ 35-37 องศาเซลเซียส

<v:shape id=Picture_x0020_3 style="WIDTH: 37.5pt; HEIGHT: 37.5pt" alt="http://img.kapook.com/image/icon/093546855.gif" type="#_x0000_t75" o:spid="_x0000_i1027"><v:imagedata o:href="cid:image002.gif@01CC2771.C52955F0" src="file:///C:\DOCUME~1\jiradech\LOCALS~1\Temp\msohtmlclip1\01\clip_image002.gif"></v:imagedata></v:shape>แบคทีเรียอีโคไล แพร่เข้าสู่ร่างกายคนได้อย่างไร?

เชื้ออีโคไลจะเข้าสู่ร่างกายคนได้จากการรับประทานอาหาร หรือเครื่องดื่มที่มีเชื้อแบคทีเรียชนิดนี้อยู่ ซึ่งส่วนมากจะพบในอาหารที่ปรุงไม่ถูกสุขลักษณะ

<v:shape id=Picture_x0020_4 style="WIDTH: 37.5pt; HEIGHT: 37.5pt" alt="http://img.kapook.com/image/icon/093546855.gif" type="#_x0000_t75" o:spid="_x0000_i1028"><v:imagedata o:href="cid:image002.gif@01CC2771.C52955F0" src="file:///C:\DOCUME~1\jiradech\LOCALS~1\Temp\msohtmlclip1\01\clip_image002.gif"></v:imagedata></v:shape>เมื่อติดเชื้อ แบคทีเรียอีโคไล แล้ว จะมีอาการอย่างไร?

เริ่มแรกผู้ป่วยจะมีอาการท้องร่วงเล็กน้อย จนกระทั่งรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และมีอาการปวดท้อง ถ่ายเหลว อาจจมีเลือดปน มีไข้ อาเจียน ถ้าหากไม่หายภายใน 10 วัน ควรไปพบแพทย์เป็นการด่วน ไม่เช่นนั้นผู้ป่วยจะเกิดภาวะเม็ดเลือดแดงแตก และไตวาย อาจจะทำให้เสียชีวิตในที่สุด นอกจากนี้ผู้ป่วยไม่ควรรับประทานยาระงับการถ่ายอุจจาระ เพราะยาประเภทนี้จะทำให้อาการป่วยรุนแรงขึ้นกว่าเดิม<o></o>

<o></o>​

<v:shape id=Picture_x0020_6 style="WIDTH: 37.5pt; HEIGHT: 37.5pt" alt="http://img.kapook.com/image/icon/093546855.gif" type="#_x0000_t75" o:spid="_x0000_i1030"><v:imagedata o:href="cid:image002.gif@01CC2771.C52955F0" src="file:///C:\DOCUME~1\jiradech\LOCALS~1\Temp\msohtmlclip1\01\clip_image002.gif"></v:imagedata></v:shape>การป้องกันและรักษา

ในปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาผู้ป่วยที่ได้รับเชื้อแบคทีเรีย อีโคไล แต่ผู้ป่วยสามารถรับประทานยาแก้ปวดท้องได้ในเบื้องต้น และควรหลีกเลี่ยงยาแก้ปวดในกลุ่มสเตอรอยด์ เช่น ยาแอสไพริน เพราะจะยาตัวนี้จะไปทำลายไตของผู้ป่วย

<v:shape id=Picture_x0020_7 style="WIDTH: 37.5pt; HEIGHT: 37.5pt" alt="http://img.kapook.com/image/icon/093546855.gif" type="#_x0000_t75" o:spid="_x0000_i1031"><v:imagedata o:href="cid:image002.gif@01CC2771.C52955F0" src="file:///C:\DOCUME~1\jiradech\LOCALS~1\Temp\msohtmlclip1\01\clip_image002.gif"></v:imagedata></v:shape>สำหรับวิธีป้องกันเชื้อ แบคทีเรียอีโคไล ในเบื้องต้น คือ

<v:shape id=Picture_x0020_8 style="WIDTH: 15pt; HEIGHT: 15pt" alt="http://img.kapook.com/image/icon/ann-12.gif" type="#_x0000_t75" o:spid="_x0000_i1032"><v:imagedata o:href="cid:image004.gif@01CC2771.C52955F0" src="file:///C:\DOCUME~1\jiradech\LOCALS~1\Temp\msohtmlclip1\01\clip_image004.gif"></v:imagedata></v:shape>1. รับประทานอาหารที่ปรุงสุก และถูกสุขลักษณะ
<v:shape id=Picture_x0020_9 style="WIDTH: 15pt; HEIGHT: 15pt" alt="http://img.kapook.com/image/icon/ann-12.gif" type="#_x0000_t75" o:spid="_x0000_i1033"><v:imagedata o:href="cid:image004.gif@01CC2771.C52955F0" src="file:///C:\DOCUME~1\jiradech\LOCALS~1\Temp\msohtmlclip1\01\clip_image004.gif"></v:imagedata></v:shape>2. ควรเก็บอาหารประเภทเนื้อสัตว์ไว้ในอุณหภูมิต่ำ
<v:shape id=Picture_x0020_10 style="WIDTH: 15pt; HEIGHT: 15pt" alt="http://img.kapook.com/image/icon/ann-12.gif" type="#_x0000_t75" o:spid="_x0000_i1034"><v:imagedata o:href="cid:image004.gif@01CC2771.C52955F0" src="file:///C:\DOCUME~1\jiradech\LOCALS~1\Temp\msohtmlclip1\01\clip_image004.gif"></v:imagedata></v:shape>3. สำหรับผักสด ควรล้างน้ำให้สะอาด โดยการปล่อยน้ำไหลผ่านผักประมาณ 2 นาที
<v:shape id=Picture_x0020_11 style="WIDTH: 15pt; HEIGHT: 15pt" alt="http://img.kapook.com/image/icon/ann-12.gif" type="#_x0000_t75" o:spid="_x0000_i1035"><v:imagedata o:href="cid:image004.gif@01CC2771.C52955F0" src="file:///C:\DOCUME~1\jiradech\LOCALS~1\Temp\msohtmlclip1\01\clip_image004.gif"></v:imagedata></v:shape>4. ในการประกอบอาหารควรปรุงให้สุกในระดับอุณหภูมิ 71 องศาเซลเซียสขึ้นไป
<v:shape id=Picture_x0020_12 style="WIDTH: 15pt; HEIGHT: 15pt" alt="http://img.kapook.com/image/icon/ann-12.gif" type="#_x0000_t75" o:spid="_x0000_i1036"><v:imagedata o:href="cid:image004.gif@01CC2771.C52955F0" src="file:///C:\DOCUME~1\jiradech\LOCALS~1\Temp\msohtmlclip1\01\clip_image004.gif"></v:imagedata></v:shape>5. ยึดหลัก กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมืออยู่เสมอ
<v:shape id=Picture_x0020_13 style="WIDTH: 15pt; HEIGHT: 15pt" alt="http://img.kapook.com/image/icon/ann-12.gif" type="#_x0000_t75" o:spid="_x0000_i1037"><v:imagedata o:href="cid:image004.gif@01CC2771.C52955F0" src="file:///C:\DOCUME~1\jiradech\LOCALS~1\Temp\msohtmlclip1\01\clip_image004.gif"></v:imagedata></v:shape>6. เมื่อมีอาการท้องเสียขั้นรุนแรง ควรไปพบแพทย์โดยด่วน และอย่ารับประทานยาระงับถ่ายอุจจาระ<o></o>

<v:shape id=Picture_x0020_14 style="WIDTH: 37.5pt; HEIGHT: 37.5pt" alt="http://img.kapook.com/image/icon/3496-emoticon-2596.gif" type="#_x0000_t75" o:spid="_x0000_i1038"><v:imagedata o:href="cid:image005.gif@01CC2771.C52955F0" src="file:///C:\DOCUME~1\jiradech\LOCALS~1\Temp\msohtmlclip1\01\clip_image005.gif"></v:imagedata></v:shape> เคล็ดลับสุขภาพ สุขภาพใกล้ตัว โรคและการป้องกัน คลิกเลย<o></o>​

<o> </o>​

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
, ศูนย์สารนิเทศทางอาหาร<o></o>
</o>

 

น่ากลัวดีคับเมื่อก่อนทำงานกับเชื้อตัวนี้เลย

 

เมื่อเช้าอ่านข่าวเห็นว่าเชื้อที่กำลังระบาดอยู่นี้มาจากเมล็ดพันธ์ถั่วเขียวครับ
และควรทานอาหารที่ปลุกสุกสำหรับการรับประทานผักให้ปลอดภัยครับ