ความเชื่อเรื่องการเกิดใหม่ของคนทั่วโลก

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย TKKH, 8 มิถุนายน 2011.

  1. TKKH

    TKKH เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    146
    ค่าพลัง:
    +554
    ความเชื่อเรื่องการเกิดใหม่ของคนทั่วโลก


    เหตุการณ์เชิงประจักษ์เกี่ยวกับ จิต วิญญาณ ชีวิตหลังความตายและการเกิดใหม่นั้น มีปรากฏให้ได้พบเห็นและได้สัมผัสรับรู้กันอยู่ทั่วโลกมาตั้งแต่ครั้งโบราณกาลแล้ว โดยไม่จำกัดเชื้อชาติและศาสนา เพียงแต่เมื่อได้พบได้เห็นได้สัมผัสหรือได้รับรู้แล้ว แต่ละบุคคล ซึ่งมีความรู้มีความคิดและมีความเชื่อที่แตกต่างกัน จะตีความหมาย จะเข้าใจ จะอธิบาย หรือจะปฏิบัติต่อสิ่งที่ได้ประจักษ์ด้วยตัวเองนั้นอย่างไร ?
    ซึ่งการตีความหมาย ความเข้าใจ การอธิบาย หรือการปฏิบัติต่อสิ่งที่ได้ประจักษ์เกี่ยวกับ จิต วิญญาณ ชีวิตหลังความตาย และการเกิดใหม่ที่แตกต่างกันนี้เอง ทำให้เกิดประเพณีทางความเชื่อต่างๆขึ้นมากมาย ของคนทั่วโลก เช่น
    มีผู้สงสัยว่าทำไม มนุษย์ปักกิ่ง (Peking Man) ที่เคยมีชีวิตอยู่ในราว 750,000-200,000 ปี ก่อนหน้านี้ จึงต้องทำลายหัวกะโหลกของคนตาย บ้างก็สันนิษฐานว่า อาจทำลายเพื่อกินสมองของคนตาย หรือเพื่อให้วิญญาณออกจากร่าง ยังเป็นเรื่องที่ยังหาข้อสรุปกันไม่ได้


    [​IMG]

    [​IMG]
    ภาพหัวกะโหลกของมนุษย์ปักกิ่ง

    มีหลักฐานที่นักโบราณคดีขุดค้นพบเมื่อหลายพันปีที่แล้ว ว่ามี มนุษย์บางพวก มีการฝังศพในลักษณะคุดคู้ คล้ายกับเด็กทารกในครรภ์มารดา และวางตามแนวดวงอาทิตย์ขึ้นและตก คล้ายกับการเตรียมพร้อมที่จะเกิดใหม่ได้อีก


    [​IMG]
    การฝังศพของมนุษย์โบราณบางพวก

    ความเชื่อของพวก อินเดียนแดงโบราณ (Red Indian) ในยุคระหว่าง 15,000 ถึง 25,000 ปีที่ผ่านมา เชื่อว่าพลังแห่งชีวิตที่ทำให้มนุษย์และสัตว์มีชีวิตอยู่ได้ จะแฝงอยู่ในโครงกระดูก และโครงกระดูกนี้เอง จะทำให้มนุษย์หรือสัตว์เกิดใหม่ได้อีก

    [​IMG]
    [FONT=verdana,sans-serif]ชนเผ่าอินเดียนแดงโบราณ[/FONT]​


    ชนเผ่าแอสแต็กโบราณ (Aztecs) ทางแม็กซิโกตอนกลาง เล่าสืบทอดต่อๆกันมาว่า กองกระดูกคนตายที่ชโลมด้วยเลือดจากอวัยวะเพศของ เทพเควทซัลโคตส์(Quetzalcoatl) จะทำให้เกิดมนุษย์เผ่าพันธุ์ใหม่ขึ้นมา


    [​IMG]

    พิธีกรรมของชนเผ่าแอสแต็กโบราณ

    [​IMG]

    ภาพปฏิทินของชาวแอสแต็กโบราณ

    ชนเผ่ามายาโบราณ (Maya) ในกัวเตมาลา เชื่อว่า กระดูกของมนุษย์บรรจุสิ่งที่มีความสำคัญเกี่ยวกับการเกิดใหม่ของชีวิตมนุษย์ไว้ ส่วนเนื้อหนังของมนุษย์ ถือว่ามีลักษณะคล้ายกับเนื้อของผลไม้ ซึ่งในที่สุดก็จะเน่าเปื่อยเหลือแต่เมล็ด กระดูกของคนเราก็เช่นเดียวกันกับเมล็ดพันธุ์พืช ที่สามารถนำไปปลูกในแหล่งที่อุดมสมบูรณ์แห่งใหม่ได้



    [​IMG]


    [FONT=verdana,sans-serif]ภาพตัวเลขของชาวมายา


    [/FONT]
     
  2. TKKH

    TKKH เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    146
    ค่าพลัง:
    +554
    ชาวอียิปต์โบราณ (Ancient Egypt) เชื่อว่า กษัตริย์ฟาโรห์ คือ เทพโอซิริส (Osiris) กลับชาติมาเกิดใหม่ สืบทอดกันมาหลายยุคหลายสมัย
    ชาวกรีกโบราณ (Ancient Greece) เชื่อว่า เทพซีอุสกลับชาติมาเกิดใหม่ เป็นทั้งนักรบและวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่สืบต่อกันมาหลายยุคหลายสมัย
    ความเชื่อโบราณของชนเผ่าต่างๆหลายชนเผ่า ในอิยิปต์ บริเตน อินเดีย กรีก และ ละตินอเมริกา เชื่อว่า กษัตริย์ วีรบุรุษ หรือวีรสตรีผู้ยิ่งใหญ่ของพวกเขา คือเทพเจ้าหรือเทพีกลับชาติมาเกิด
    ชนพื้นเมืองเผ่าโยรูบา (Yoruba) ทางแอฟริกาตะวันตก เชื่อว่า เด็กทารกที่เกิดหลังจาก ปู่ ย่า ตา ยาย คนใดคนหนึ่งเสียชีวิตไม่นานนัก เขามักจะเรียกว่า “บาบาตุนเด” หมายความว่า บิดากลับชาติมาเกิดใหม่ หรือ “เยตุนเด” มารดากลับชาติมาเกิดใหม่
    ชนเผ่าลีโอ ทางแอฟริกาใต้ มีจุดมุ่งหมายในการค้นหาบุคคลที่กลับชาติมาเกิดใหม่ โดยมีพิธีกรรมประหลาด คือ หากพบเด็กที่เกิดใหม่มีลักษณะตรงกับบุคคลที่เสียชีวิตไปแล้ว เขาก็จะตั้งชื่อให้ตามชื่อของบุคคลที่ตายไปแล้ว
    ชนเผ่ายูคากีร์ (Yukaghir) ในไซบีเรียตะวันออก มีพิธีกรรมในการค้นหาบุคคลที่กลับชาติมาเกิดใหม่ โดยมีหมอผีถือกระดูกคนที่ตายแล้วไปหาเด็กทารกที่เกิดใหม่ พร้อมทั้งเรียกชื่อคนที่ตายแล้วไปด้วย หากพบว่าเด็กทารกคนใดยิ้มเป็นคนแรก ก็ถือว่าเด็กคนนั้นคือคนที่ตายไปแล้วกลับชาติมาเกิด
    ชนพื้นเมืองหลายเผ่าในแถบอเมริกาเหนือ (North American) มีประเพณีการมอบเครื่องรางที่ทำด้วยเส้นผมของญาติคนตายให้กับหญิงมีครรภ์ โดยหวังว่าจะให้คนตายกลับมาเกิดกับหญิงคนนั้น
    ชนพื้นเมืองบนเกาะมาร์เคซัส (Marquesas Islands) ซึ่งเป็นหมู่เกาะทางตอนใต้ของมหาสมุทรแปซิฟิก เชื่อว่า วิญญาณของ ปู่ ย่า ตา ยาย จะถ่ายทอดไปยังร่างของหลานที่จะเกิดใหม่ โดยนำหญิงที่เป็นญาติซึ่งกำลังตั้งครรภ์ ไปนอนใต้โลงศพของ ปู่ ย่า ตา ยาย ที่เสียชีวิต
    ชนพื้นเมืองอินเดียนแดงเผ่าทลินกิตบางกลุ่ม (Tlingit) ในรัฐอลาสก้า ประเทศอเมริกา มีพิธีกรรมประหลาด คือเวลาฝังคนตาย จะให้ญาติผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ เข้าไปนั่งใกล้หลุมศพแล้วจับมือคนตายข้างใดข้างหนึ่งไปแตะที่หน้าอกของเธอ พร้อมทั้งอธิษฐานขอร้องให้วิญญาณคนตาย กลับชาติมาเกิดใหม่ในครรภ์ของเธอ ทำอย่างนี้ซ้ำๆกันจนครบ 8 ครั้ง แล้วใช้มือขีดเส้นบนพื้นดินนับจากปากหลุมฝังศพออกไปประมาณเจ็ดฟุต แล้วให้เธอนั่งปัสสาวะตรงจุดสิ้นสุดเส้นที่ขีดนั้น จากนั้นก็ส่งเสียงร้องอ้อนวอนให้วิญญาณคนตายมาเกิดใหม่ในครรภ์ของเธอ

    [​IMG]
    [FONT=verdana,sans-serif]ชนพื้นเมืองอินเดียนแดงเผ่าทลินกิต[/FONT]​

    บาทหลวง ไอ.อี.พี. เวเนียมีนอฟ (I.E.P Veniaminov) ชาวรัสเซียที่อาศัยอยู่ในอลาสก้า ได้บันทึกไว้ว่า ชาวอินเดียนแดงเผ่าทลินกิตหลายกลุ่ม มักจะสังเกตเครื่องหมายที่เป็นรอยตำหนิบนผิวหนังของเด็กทารกที่เกิดใหม่ หากมีร่องรอยคล้ายกับบุคคลใดที่เสียชีวิตไปแล้ว ก็เชื่อกันว่าบุคคลนั้นกลับชาติมาเกิด และจะตั้งชื่อเด็กที่เกิดใหม่นั้น ตามชื่อของบุคคลที่ที่เสียชีวิตไปแล้วคนนั้น
    ชนเผ่าเอสกิโมบางกลุ่ม (Eskimo) มีวิธีการขอเกิดใหม่ที่แปลกประหลาด คือคนที่รู้ตัวว่ากำลังจะเสียชีวิตในไม่ช้า จะไปหาเพื่อนบ้านหรือญาติสนิท ที่อยู่เป็นครอบครัวสามีภรรยา แล้วกล่าวฝากฝังตัวเอง โดยขออนุญาตมาเกิดด้วย สามีภรรยาก็จะรอความเห็นของผู้หลักผู้ใหญ่ในครอบครัว ว่าเห็นด้วยหรือไม่ หากมีความเห็นชอบ สามีภรรยาคู่นั้นก็จะกล่าวตอบว่า มีความยินดีที่จะให้มาเกิดเป็นลูกคนแรกนับจากนี้ด้วยได้ จากนั้นคนที่ขอก็จะรอคอยวาระสิ้นใจของตนด้วยความอดทนและมีสติ
    ชนพื้นเมืองทางภาคเหนือและภาคกลางของออสเตรเลีย (Australia) เชื่อว่า วิญญาณคนตายจะรอคอยวาระที่จะกลับมาเกิดใหม่เสมอ เช่น ชนเผ่าอะบอริจิ้น (Aborigines) เชื่อว่า คนเราทุกคนจะกลับชาติมาเกิดใหม่เมื่อตายแล้ว วิญญาณของคนตายจะรอคอยผู้หญิงคนใดคนหนึ่งเดินผ่านมาใกล้ๆ แล้วจะเคลื่อนเข้าไปในครรภ์ของเธอทันที ส่วนหญิงคนใดที่เดินผ่านมา แล้วเห็นวิญญาณคนตาย แต่เธอไม่ต้องการที่จะตั้งครรภ์มีบุตรอีก เธอก็จะทำทีเป็นคนชรา เดินกระย่องกระแย่ง และกล่าวว่า “อย่ามาหาฉันเลย ฉันเป็นหญิงแก่ที่สังขารไม่ไหวแล้ว” ชนพื้นเมืองเผ่าอะบอริจิ้น มีสัญลักษณ์การเกิดใหม่เป็นรูปงูยักษ์ขดไปมา โดยถือว่าเป็นการเชื่อมกันระหว่างฟ้ากับโลก เส้นทางที่คดไปคดมา เป็นทางผ่านที่วิญญาณจะเข้าไปสู่ครรภ์ของผู้หญิง ซึ่งจะนำมาเกิดใหม่ในโลก

    [​IMG]

    ภาพงูสายรุ้งของชนเผ่า อะบอริจิ้น


    [​IMG]

    ชนพื้นเมืองเผ่าอะบอริจิ้นบางกลุ่มในออสเตรเลียเชื่อว่า
    วิญญาณของคนเราจะมุ่งไปสู่แดนมรณะ
    หลังจากต้องเผชิญกับอุปสรรคต่างๆที่คอยขัดขวาง ดังที่ปรากฏอยู่ในภาพนี้
     
  3. TKKH

    TKKH เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    146
    ค่าพลัง:
    +554
    ชาวพื้นเมืองทางธิเบตตอนเหนือ (Tibet) เชื่อว่า เทพีกรีนดอลกลับชาติมาเกิดเป็นมเหสีของกษัตริย์พระองค์แรกของธิเบต เพื่อกลับมาโปรดมนุษย์
    ชนพื้นเมืองชาวอินเดียตอนเหนือ (North India) จะทำพิธีฝังศพเด็กที่ตายไว้ใต้ธรณีประตูหรือทางเข้าบ้านตัวเอง เพื่อหวังว่าวิญญาณของเด็กจะกลับมาเกิดใหม่กับตนอีกครั้ง
    ชาวอินเดียนแดงเผ่าโฮบิโนอริโซนา มีพิธีประหลาด โดยทำทางเดินเล็กๆ จากหลุมศพของเด็กที่เสียชีวิตตรงไปยังบ้าน ในทำนองเดียวกัน อินเดียนแดงเผ่าฮูรอน จะฝังเด็กไว้ข้างทางที่ตัดตรงไปยังบ้าน เพื่อหวังว่าเมื่อมีผู้หญิงกำลังตั้งครรภ์คนใดเดินผ่านมา วิญญาณของเด็กจะได้ไปเข้าท้องของหญิงคนนั้น เพื่อกลับชาติมาเกิดใหม่
    ชนพื้นเมืองบางเผ่าในแถบป่าลึกในแอฟริกา อเมริกา และในอินเดีย มีพิธีจัดการกับงานศพเด็กที่น่าสพรึงกลัวมาก โดยจะทำลายนิ้วเท้า นิ้วมือ ขา ใบหน้า หรือตัดเอาจมูกและใบหูออก บางครั้งผู้เป็นแม่จะกลืนเอาชิ้นส่วนใบหูของคนตายที่สับละเอียดเข้าไป เพื่อจะให้วิญญาณของเด็กมาเกิดกับตนอีก
    คนป่าพื้นเมืองในเอสโทเนียและไนจีเรีย มักจะฝังเด็กหน้าตาชั่วร้าย โดยคว่ำหน้าศพลงกับพื้นหลุมศพ เพื่อไม่ให้วิญญาณของเด็กมองเห็นทางที่จะกลับมาเกิดใหม่ได้อีก
    ชาวอินเดียนแดงเผ่าเบลลาคูลา (Bella Kula Indians) ในแถบบริติชโคลัมเบีย เชื่อว่า ถ้าเด็กทารกที่เกิดมามีฟันขึ้นตั้งแต่แรกเกิด แสดงว่าเป็นบรรพบุรุษกลับชาติมาเกิด
    ชาวอินคา (Inca) ในเปรู เชื่อว่า ทุกคนที่เกิดขึ้นมาบนโลก เมื่อตายไปแล้วก็จะสามารถกลับชาติมาเกิดใหม่ได้อีก

    [​IMG]

    [FONT=verdana,sans-serif]สัญลักษณ์เกี่ยวกับการเกิดใหม่ของญี่ปุ่น ซึ่งอ่านว่า "รินเน" [/FONT]
    [FONT=verdana,sans-serif]คำว่า "ริน" (คำบน) หมายถึง วัฏจักรแห่งการเกิดใหม่ ส่วนคำว่า "เน" (คำล่าง) หมายถึง การหมุนเวียนกลับไปกลับมา[/FONT]


    มาร์เซล โวเกล (Marcel Vogel) นักวิทยาสาสตร์ไอบีเอ็ม ได้ถ่ายภาพแร่ธาตุต่างๆด้วยแสงอินฟราเรด เขาได้พบว่า แร่ธาตุต่างๆจะมีพลังแฝงอยู่ และสามารถปลดปล่อยพลังงานออกมาเสมอ นอกจากนั้นเขาได้ยืนยันว่า พืชมีชีวิต มีการหายใจ และสามารถติดต่อกับวิญญาณของสัตว์และมนุษย์ได้
    โดโรซี แม็กคลีน (Dorothy Maclean) สามารถใช้พลังจิตเป็นสื่อสัมพันธ์กับพืช เช่น ดอกไม้ ผัก และหญ้าชนิดต่างๆได้อย่างประหลาด
    ดร.มอร์ริส เนเธอร์ตัน (Morris netherton) ได้สรุปผลจากการสะกดจิตคนไข้หลายร้อยรายว่า ผู้ถูกสะกดจิตสามารถระลึกชาติในอดีตได้ว่า เคยเกิดเป็นสัตว์มาก่อน เช่น เคยเป็น หนู มด ปลวก แมลง รวมทั้งสัตว์ในยุคก่อนประวัติศาสตร์ด้วย
    ชาวฮินดูโบราณ (Hinduism) เชื่อว่า บุคคลที่ขาดความดีหรือขาดคุณธรรม จะกลับชาติมาเกิดเป็นสัตว์ป่าการเกิดใหม่ตามกฎของพระมนู(ผู้ปกครองชมพูทวีปคนแรก ตามตำนานธรรมของชาวฮินดู) พระมนูเป็นทั้งนักปกครองและนักบุญ ในสมัยเมื่อสองพันกว่าปีผ่านมาแล้วตามกฎของพระมนูกล่าวว่า ชีวิตมนุษย์แต่ละคน จะตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของสิ่งสำคัญอย่างใดอย่างหนึ่งในสามประการ คือ ความดี การกระทำ และความชั่วร้ายโดยเฉพาะความชั่วร้ายนั้น ทำให้บุคคลได้รับชะตากรรมต่อมาในชาติที่เกิดใหม่ โดยได้เกิดเป็นสัตว์อย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งอาจเป็นสัตว์ใหญ่ สัตว์เล็กจำพวกแมลงหรือพืช บุคคลที่ทำความชั่วเช่น ขโมยเมล็ดพันธุ์พืช จะเกิดเป็นกระต่าย ขโมยน้ำผึ่ง จะเกิดเป็นแมลงที่มีเหล็กใน เช่น ผึ้ง แมงป่อง ต่อ แตน
    ผู้ที่ชอบขโมยนม ชาติใหม่จะเกิดเป็นอีกา
    ผู้ที่ชอบขโมยเนื้อสัตว์ เกิดชาติใหม่จะเป็นอีแร้ง
    ผู้ที่ทำลายอาสนะหรือที่นอนของนักบวชหรือบุคคลชั้นสูงจะมีชีวิตเวียนว่ายตายเกิดเป็นหญ้า พุ่มหญ้า พันธุ์ไม้เลื้อยนับร้อยชาติ
    สตรีไม่ซื่อสัตย์ต่อสามี จะเกิดในครรภ์ของสุนัขป่า
    นอกจากนั้น ชาวฮินดูโบราณยังเชื่อว่า มนุษย์เราเกิดมาในลักษณะรูปแบบต่างๆ ทั้งพืช สัตว์ มนุษย์ และแร่ธาตุต่างๆกว่า 8,400,000 ชนิด ผลแห่งกรรมที่ต่อเนื่องกันมาจากอดีต จะมีผลต่อการเกิดใหม่ของแต่ละบุคคลเป็นอย่างยิ่ง
    ในสมัย อียิปต์โบราณ (Ancient Egypt) เวลาฝังคนตายเขามักจะจารึกอักขระที่ถือว่าเป็นคาถาศักดิ์สิทธิ์ จากคัมภีร์มรณะลงบนผ้า ภาชนะ หรือโลงศพ ฝังพร้อมกับคนตายด้วย ซึ่งเชื่อว่ามีอำนาจเปลี่ยนแปลงไปเกิดในชาติใหม่ที่ดีกว่า ชาวอียิปต์บางกลุ่มยังเชื่อว่า ชีวิตมนุษย์จะเกิดใหม่จากสัตว์ชนิดหนึ่งตลอดชั่วระยะเวลาสามพันปี จนกระทั่งกลับมาเกิดใหม่เป็นมนุษย์อีกครั้งหนึ่ง
    ดร.ฮาร์ทลีย์ บี. อเล็กซานเดอร์ (Dr.Hartley B. Alexander) ได้เขียนไว้ในหนังสือชื่อ “นอร์ธ อเมริกัน มีทโธโลยี ออฟ อาร์กติก” โดยได้เล่าถึงวิธีที่วิญญาณต่างๆกลับมาเกิดใหม่เป็นทั้งมนุษย์และสัตว์
    ประเพณีประหลาดของ คนป่าในแซมเบซี ที่สำคัญอย่างหนึ่งก็คือ คนที่ตายแล้วจะไปเกิดเป็นสัตว์ ดังนั้นแต่ละคนจะต้องเลือกที่จะไปเกิดเป็นสัตว์ที่ตนต้องการได้ โดยต้องทำพิธีกลืนเนื้อสัตว์ที่เน่าเปื่อยจากสัตว์ที่เลือกไว้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มิถุนายน 2011
  4. TKKH

    TKKH เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    146
    ค่าพลัง:
    +554
    ภาพสัญลักษณ์ของการเกิดใหม่ตามความเชื่อต่างๆ

    [​IMG]

    [FONT=verdana,sans-serif]ดวงจันทร์ - มีข้างขึ้น ข้างแรม คนบางกลุ่มถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของการเกิดและการตาย [FONT=verdana,sans-serif]พวกที่เชื่อเช่นนี้ได้แก่ [/FONT][/FONT]
    [FONT=verdana,sans-serif]ชนเผ่าอินเดียนแดงในเขตซานจวนคาพิสตราโน่ ในแคริฟอร์เนีย และชาวคองโกในอัฟริกา เป็นต้น [/FONT]​

    [​IMG]



    [FONT=verdana,sans-serif]ดวงอาทิตย์ - เชื่อกันว่าในแต่ละวัน มันจะโพล่ขึ้นมาจากครรภ์ของพระแม่ธรณี และหายลับไป จากนั้นก็โผล่ขึ้นมาใหม่[/FONT]




    [​IMG]


    [FONT=verdana,sans-serif]ดอกบัวขาว - ตามความเชื่อของชาวตะวันออก ถือว่าเป็นสัญลักษณ์การเกิดใหม่ของวิญญาณ[/FONT]

    [​IMG]



    [FONT=verdana,sans-serif]กงล้อ หรือ วงกลม - ตามความเชื่อของศาสนาทางตะวันออก ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของการเวียนว่ายตายเกิด[/FONT]





    [​IMG]


    [FONT=verdana,sans-serif]นกยูง - ตามดินแดนต่างๆในทางตะวันออก ถือว่านกยูงเป็นสัญลักษณ์ของการเกิดใหม่ เช่น บางกลุ่มของ ชาวฮินดู ชาวพุทธ และชาวมุสลิม[/FONT]​



    [​IMG]




    [FONT=verdana,sans-serif]นกฟินิกซ์ - คนโบราณส่วนใหญ่ถือว่า สัญลักษณ์แห่งการเกิดใหม่คือ นกฟินิกซ์ ซึ่งเป็นนกในนวนิยาย [/FONT]




    [FONT=verdana,sans-serif]กล่าวกันว่ามันอาศัยอยู่ในทะเลทราย และมีอายุยืน 500-600 ปี [/FONT][FONT=verdana,sans-serif]เมื่อครบกำหนดอายุ มันก็จะเผาตัวเองจนมอดไหม้กลายเป็นเถ้าถ่าน [/FONT]


    [FONT=verdana,sans-serif]จากนั้นมันก็จะก่อตัวขึ้นมาเป็นนกตัวใหม่ที่มีอายุยืนนาน และเวียนตายเวียนเกิดในลักษณะเช่นนี้ตลอดไป[/FONT]​




    [FONT=verdana,sans-serif]อมตนิยายเกี่ยวกับนกฟินิกซ์ เป็นที่รู้จักกันดีตามดินแดนต่างๆ นับตั้งแต่ อินเดีย ไปจนถึง เปอร์เซีย [/FONT]​


    [FONT=verdana,sans-serif]จากไอร์แลน ถึง อียิปต์ สำหรับญี่ปุ่น เรียกชื่อนกในนวนิยายนี้ว่า "คิริน" ส่วนชาวตุรกี เรียกว่า "เคอร์คีส"[/FONT]​




    [​IMG]



    [FONT=verdana,sans-serif]โพลตินุส กล่าวว่า บรรดาชนชั้นปกครองทรราชทั้งหลาย เมื่อตายไปแล้วจะไปเกิดเป็นนกอินทรีย์[/FONT]​


    ชาวอินเดียนแดงเผ่าโมเฮฟ (MoHave) เชื่อว่าคนที่ตายไปแล้วจะเกิดใหม่เป็นสัตว์ตระกูลต่างๆหลายชาติ แล้วในที่สุดวิญญาณก็จะหายไปจากโลก
    มีเรื่องเล่าถึงชะตากรรมของ กษัตริย์เนบูเชดเนซซาร์ (Nebuchadnezzar) ของพวกยิวว่า เมื่อกรรมเก่าของพระองค์มาถึงก็มีพฤติกรรมแสดงออกมาเยี่ยงสัตว์ คือ ชอบแทะเล็มหญ้าราวกับเป็นวัว พระวรกายของพระองค์ค่อยๆเปลี่ยนไปจนมีขนแบบขนนกอินทรีเกิดขึ้นเต็มไปหมด
    กล่าวกันว่า พีธาคอรัส (Pythagorus) นักปรัชญาและนักคณิตศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่ชาวกรีก สามารถจำเสียงเพื่อนเก่าในอดีตที่เสียชีวิตไปแล้ว ได้จากเสียงของสุนัขตัวหนึ่งที่กำลังใกล้ตาย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มิถุนายน 2011
  5. Sonaz

    Sonaz เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    761
    ค่าพลัง:
    +348
    เยอะเลย ^^ ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆครับ อาจแล้วคิดตาม น่าสนใจดี
     
  6. TKKH

    TKKH เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    146
    ค่าพลัง:
    +554
    เพลงพื้นเมืองของ ชาวอังกฤษและชาวสก็อต ในสมัยแรกๆ มักจะกล่าวถึงเรื่องราวเกี่ยวกับวิญญาณของผู้หญิงและผู้ชาย ที่กลับชาติไปเกิดเป็นสัตว์และพืชชนิดต่างๆ เช่น นกนางนวล เป็นต้น
    นักค้นคว้าชาวอังกฤษบางกลุ่ม ตั้งข้อสังเกตไว้ว่า ภาพที่เราเห็นชายหรือหญิงเดินจูงสุนัขไปตามถนนนั้น แท้จริงแล้วบางทีสุนัขที่พวกเขาจูงมานั้นอาจเป็นวิญญาณของบิดามารดาหรือญาติมิตรของตนเองสืบชาติมาเกิดใหม่ นอกจากนี้ สตรีที่ขี่ม้าตัวโปรด บางทีม้าตัวโปรดอาจเป็นวิญญาณของบิดามารดาของเธอในอดีตกลับชาติมาเกิด ก็เป็นได้
    เมื่อเดือนมีนาคม ปี 1975 ชาวบ้านแห่งหนึ่งในเขตภาคกลางของ ศรีลังกา ปฏิเสธที่จะไล่แตนที่เกาะอยู่ตามบริเวณรอบๆปราสาทหิน เหตุผลที่พวกเขาอ้างก็คือ เชื่อกันว่าพวกแตนเหล่านี้เป็นสัตว์ที่เกิดจากวิญญาณทหารของกษัตริย์กัสสปะที่ 1 ซึ่งเฝ้ายามอยู่รอบๆปราสาทนี้กลับชาติมาเกิด
    นักบวชลัทธิเชนของอินเดีย ได้สอนว่า คนเราทุกคนผ่านชีวิตในโลกมาแล้วหลายล้านแบบ เช่น เป็นทั้งดิน น้ำ ลม ไฟ พืช แมลง สัตว์เล็ก สัตว์ใหญ่ รวมทั้งเป็นมนุษย์ ทุกสิ่งทุกอย่างจะเกิดใหม่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาตลอดเวลา
    มีเรื่องเล่ากันว่า ชาวป่าในแอฟริกาและอเมริกาใต้ เชื่อว่า ศัตรูของพวกเขาจะกลับชาติมาเกิดเป็นร่างของสัตว์ป่า
    ชาวป่าในแถบละตินอเมริกา กลัวว่าตนจะกลับไปเกิดเป็นเสือลายหรือเสือดาวอีก
    ชาวเอสกิโม(Eskimo) หลายกลุ่มในแถบช่องแคบแบริ่ง เชื่อว่า หลังจากพวกแมวน้ำ ตัววอลรัส และ วาฬ ตายแล้ววิญญาณของพวกมันยังแฝงอยู่ในส่วนที่เป็นกระเพาะของปลา ดังนั้นพวกเขาจึงมีวิธีเร่งให้สัตว์ดังกล่าวไปเกิดใหม่ โดยนายพรานชาวเอสกิโม มักจะเก็บกระเพาะปลาที่ล่ามาได้เอาไว้ หลังจากทำพิธีเต้นรำบูชายัญและทำพิธีเซ่นด้วยอาหารแล้ว ก็จะนำเอากระเพาะปลาที่เก็บไว้ เอาไปไว้นอกบ้านแล้วนำเอาไปปล่อยทิ้งลงน้ำ
    โยคี ศรี สวามี ศิวะนันทะ (Swami Sivananda) แห่งเทือกเขาหิมาลัย(1887-1963) กล่าวว่าประสบการณ์ของวิญญาณในชาติปัจจุบัน จะสะท้อนให้เห็นชีวิตในอดีตชาติของคนและสัตว์คล้ายกัน โดยเฉพาะสัตว์เลี้ยง มักจะกลับชาติจากชีวิตมนุษย์ในชาติก่อน เช่น สุนัข กระต่าย เป็ด ไก่ ลิง ชะนี ซึ่งเข้ากับคนได้ดี สัตว์เลี้ยงบางชนิดสามารถแสดงออกถึงความรัก ความซื่อสัตย์ หรือความจงรักภักดีและมีความฉลาดเด่นชัดทีเดียว เช่น สุนัข เป็นต้น
    ตำนานของพวก ไอริช (Irish) กล่าวไว้ว่า กว่านักรบ ตวน แม็ก ไครลิลล์ จะกลับชาติมาเกิดเป็นมนุษย์อีกครั้ง ต้องใช้กรรม โดยเกิดเป็นสิ่งต่างๆอยู่นาน 320 ปี คือ เกิดเป็นลิง 100 ปี เกิดเป็นกวางนาน 80 ปี เกิดเป็นหมูป่าตัวผู้ 20 ปี เกิดเป็นนกแร้ง 100 ปี และเกิดเป็นปลานานถึง 20 ปี.....มีต่อด้านล่าง...

    อ่านต่อได้ที่
    www.reincarnation.tk

    เว็บไซต์ที่รวบรวมเรื่องราวของคนจำอดีตชาติได้ และคนระลึกชาติได้ ไว้มากที่สุดในโลก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มิถุนายน 2011
  7. TKKH

    TKKH เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    146
    ค่าพลัง:
    +554
    ชีวิตหลังความตาย และการเกิดใหม่มีจริง..พิสูจน์ได้ !!!


    ที่เว็บไซต์




    เว็บไซต์ที่รวบรวมเรื่องราวของคนจำอดีตชาติได้ไว้มากที่สุดในโลก


    [​IMG]
     
  8. Plagruy

    Plagruy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    196
    ค่าพลัง:
    +130
    ขอบคุณครับ ได้ความรู้
     
  9. Ajintai

    Ajintai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2009
    โพสต์:
    549
    ค่าพลัง:
    +1,638
    ขอบคุณสำหรับสาระความรู้ที่นำมาให้
     
  10. เด็กสร้างบ้าน

    เด็กสร้างบ้าน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,195
    ค่าพลัง:
    +538
    ขอบคุณสำหรับข้อมูล และความรู้ครับผม
     
  11. มังกรหยก

    มังกรหยก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    80
    ค่าพลัง:
    +195
    ;aa34 อ่านเพลินเลย สนุกดี มีสาระจ้า
     
  12. อริยะ ชน

    อริยะ ชน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    891
    ค่าพลัง:
    +1,042
    ความรู้ที่อาศัยความจำ ไม่สามาถพกพาข้ามภพข้ามชาติหรอกครับ แทนที่จะสลดสังเวชในภพชาติ กลับนึกว่าตัวเก่งที่จำสิ่งเหล่านั้น ได้...........มนุษย์
     
  13. ณัฐ ณัฐปพน

    ณัฐ ณัฐปพน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +48
    ขอบคุณสำหรับการแบ่งปัน

    ;k05 แค่ไม่ทุกข์ก็สุขแล้ว
     
  14. TKKH

    TKKH เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    146
    ค่าพลัง:
    +554
    ความคิดเห็นของนักปราชญ์โบราณ

    ในสมัยกรีกโบราณ นักปราชญ์ที่มีชื่อเสียงของโลกชาวกรีก อย่าง ไพทากอรัส หรือพีธาคอรัส(Pythagorus) โซเครติส(Socrates) และ เพลโต (Plato) จัดว่าเป็นบุคคลสำคัญชั้นครูที่นำเรื่องราวความคิดเกี่ยวกับการเกิดใหม่และการระลึกชาติได้ ถ่ายทอดและเผยแพร่ให้กับบรรดาศิษย์และสาวกทั้งหลาย


    [​IMG]

    [FONT=verdana,sans-serif]พีธาคอรัส[/FONT]​

    ไพทากอรัส หรือ พีธาคอรัส (Pythagorus) นักปรัชญาและนักคณิตศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่ชาวกรีก ที่เคยมีชีวิตอยู่ในช่วงประมาณ 582-507 ปีก่อน คริสต์ศักราช ผู้คิดค้นสูตรคูณ หรือตารางปีทาโกเรียน (Pythagorean Table) และทฤษฎีบทในเรขาคณิตที่ว่า “ในรูปสามเหลี่ยมมุมฉากใดๆ กำลังสองของความยาวของด้านตรงข้ามมุมฉาก เท่ากับผลบวกของกำลังสองของความยาวของด้านประกอบมุมฉาก” หรือ a<SUP>2</SUP>+b<SUP>2</SUP> = c<SUP>2</SUP>


    ซึ่งทฤษฎีทั้งสองนี้เป็นที่ยอมรับ และใช้กันมาจนถึงทุกวันนี้ พีธาคอรัส เคยกล่าวกับหลายๆคนว่า เขาสามารถระลึกอดีตชาติได้ มีเรื่องเล่ากันว่า มีอยู่วันวันหนึ่ง พีธาคอรัส ได้ไปพบชายชราคนหนึ่งกำลังตีลูกสุนัขอยู่ ทันทีที่เขาได้ยินเสียงสุนัขร้อง เขาก็ตะโกนลั่นว่า “อย่า อย่าตีมัน มันเป็นวิญญาณของเพื่อนข้ากลับชาติมาเกิด ข้าระลึกถึงเพื่อนข้าได้ชัดเจนทีเดียว” ในช่วงบั้นปลายชีวิต พีธาคอรัส เคยกล่าวไว้ว่า “ข้ามั่นใจเหลือเกินว่า สิ่งทั้งหลายจะกลับมาเกิดใหม่ได้อีกครั้งหนึ่ง โดยเฉพาะสิ่งมีชีวิต ที่เกิดใหม่ได้อีก หลังจากตายไปแล้ว”

    [​IMG]
    เพลโต
    เพลโต (Plato) นักปรัชญาชาวกรีกโบราณ ที่มีอิทธิพลอย่างสูงต่อแนวคิดของชาวตะวันตกคนหนึ่ง ซึ่งเคยมีชีวิตอยู่ในช่วง 347 - 427 ปีก่อน คริสต์ศักราช เขาเป็นลูกศิษย์ของ โซเครติส (Socrates) เป็นอาจารย์ของ อริสโตเติล (Aristotle) เป็นนักเขียน และเป็นผู้ก่อตั้ง อาคาเดมี ซึ่งเป็นสำนักวิชาในกรุง เอเธนส์ ผลงานที่สำคัญทางวิทยาศาสตร์ของ เพลโต คือ กฎที่เกี่ยวกับแสงที่ว่าแสงเดินทางเป็นเส้นตรง เมื่อแสงมากระทบวัตถุ มุมแสงตกกระทบจะเท่ากับมุมแสงสะท้อน เป็นกฎที่ถูกต้องและยึดถือกันมาจนถึงปัจจุบัน แนวความคิดและผลงานทางวิทยาศาสตร์ของเขาก็มีอิทธิพลต่อนักปรัชญา และนักวิทยาศาสตร์ใน ปัจจุบัน เพลโต เคยนำเสนอผลงานการค้นคว้าเกี่ยวกับการระลึกชาติอย่างละเอียดไว้ ซึ่งสรุปความได้ว่า วิญญาณบริสุทธิ์ตกมาจากโลกแห่งสัจธรรมอันสูงส่งลงมาเกิดเป็นมนุษย์ในโลกปัจจุบัน และในบรรดามนุษย์ด้วยกัน จะมีกลุ่มบุคคลที่ฉลาด สนใจใฝ่หาธรรมที่สูงกว่า เมื่อศึกษาจนสำเร็จสมบูรณ์แล้ว ก็จะกลับไปสู่โลกอันอมตะ หากวิญญาณของบุคคลใดไม่บริสุทธิ์ มุ่งแต่กิเลสทางรูปธรรม ก็จะลงมาเกิดเป็นสัตว์ เพลโตยังเชื่อว่า บุคคลใดที่หมกมุ่นกับการกินและดื่มอย่างตะกละด้วยความโลภ ในชาติหน้าจะเกิดเป็นลา บุคคลที่ชอบใช้ความรุนแรงจะเกิดเป็นสุนัขป่าหรือเหยี่ยว ผู้ไม่ปฏิบัติตนตามแบบแผนสังคม ราวกับคนตาบอด ชาติหน้าอาจจะเกิดเป็นหมีหรือมด หลังจากนั้น หากหมั่นปฏิบัติกรรมดี บางทีวิญญาณเหล่านี้อาจไปเกิดเป็นมนุษย์อีก และมีโอกาสที่จะปฏิบัติธรรม ใฝ่หาทางหลุดพ้นจากบ่วงกรรมต่อไป

    นอกจากนั้น ศาสตราจารย์ ดูคัสเซ (Curt John Ducasse) กล่าวว่า เพลโตเคยมีแนวคิดเกี่ยวกับการระลึกชาติว่า วิญญาณของบุคคลที่สามารถค้นพบแนวทางปฏิบัติตนจนบรรลุสัจธรรมขั้นสูงสุด อาจกลับชาติมาเกิดเป็นกษัตริย์ นักปราชญ์ จิตรกร นักดนตรี จินตกวี วิญญาณบุคคลที่บรรลุสัจธรรมชั้นที่สอง ก็จะเกิดมาเป็นนักรบหรือขุนนาง วิญญาณของบุคคลที่บรรลุสัจธรรมชั้นที่สาม ก็จะกลับชาติมาเกิดเป็นนักการเมือง นักเศรษฐศาสตร์ พ่อค้าคหบดี วิญญาณของบุคคลที่บรรลุสัจธรรมในชั้นที่สี่ จะกลับชาติมาเกิดเป็นแพทย์ ส่วนวิญญาณของบุคคลที่บรรลุสัจธรรมในขั้นที่เก้าจะกลับชาติมาเกิดเป็นชนชั้นนักปกครอง ฯลฯ
    นักค้นคว้าบางคนกล่าวว่า บางทีเพลโตและนักปราชญ์คนอื่นๆ อาจได้รับความรู้เกี่ยวกับการระลึกชาติจากศาสนาลึกลับ เช่น ศาสนาออร์เฟอุส หรือจากอินเดียก็เป็นได้...อ่านต่อ...
     
  15. ไอ้ลูกหมา

    ไอ้ลูกหมา Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2011
    โพสต์:
    115
    ค่าพลัง:
    +26
    ขอบคุณสำหรับความรู้ใหม่ๆครับ
     
  16. pr!mpr!e

    pr!mpr!e เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2010
    โพสต์:
    371
    ค่าพลัง:
    +145

แชร์หน้านี้

Loading...