ดูดวงด้วยพลังจิตหรือคนมีฌานแล้วเค้าเห็นดวงเราไกลแค่ไหน

แอบสงสัยเล็กๆค่ะ คือถ้าสมมุติว่าเราไปดูดวงกับคนที่มีพลังจิตหรือมีฌาน แล้วเค้าทำนายหรือมองเห็นดวงเราได้ไกลแค่ไหน ล่วงรู้อนาคตได้กี่ปี กี่เดือน กี่วัน หรือมีความแม่นยำเท่าไหร่

ถ้าเค้าทักเรื่องที่ยังไม่เกิด เช่น ณ ตอนนี้เรายังโสด ยังไม่มีแฟน แต่คำแรกที่ทักคือเรื่องคู่ ให้ระวังคู่นอกใจ หรือมีมือที่สาม หรือเราจะไปเป็นน้อย เป็นต้น

อยากจะรู้ว่า อนาคตจะเปลี่ยนได้หรือไม่ ถ้าโดนทักแบบนี้มา เราต้องทำอย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดแบบนี้ (ไม่อยากเป็นน้อย ไม่อยากให้เกิดรักสามเส้า)

บางทีแอบคิดว่า ชาติที่แล้วเราไปทำกรรมกับใครไว้หรือเปล่า ชาตินี้ถึงต้องชดใช้ แล้วก็งงอีกว่า อ้าว! ก็เราไม่อยากเป็นแบบนั้นนี่ เราจะหาทางแก้ไข หรือบรรเทา หรืออื่นๆ ได้อย่างไร เช่นต้องสวดมนต์บทไหน ภาวนา หรือถือศีล หรือต้องทำอย่างไร แล้วอนาคตเราจะเปลี่ยนไม่เป็นไปตามดวงที่เค้าเห็นหรือปล่าว
แอบยาวนิดนึงค่ะ ขอทุกท่านช่วยชี้แนะด้วยค่ะ

 

คนที่มีการฝึกจิตดีๆนะครับแม้อยู่กันคนละมุมโลกยังสามารถรักษาโรคให้คนอีกมุมโลกนึงได้นะครับ ที่เขาเรียกว่าพลังจักรวาล
คุณอย่าไปทุกข์เลยนะครับ ขอให้คุณลองเปลี่ยนตัวเอง จากที่เคยแข็งๆ ก็อ่อนหวานกับแฟน ทำดีๆให้เขารู้สึกอบอุ่น ทำให้เขาซึ้งในความรักความปรารถนาดีของเราดีกว่าไหม
หากสิ่งใดเกิดแต่กรรมแล้วละก็ไม่อะไรแก้ได้ มีแต่กุศลกรรมที่จะมีหรือเปล่าเท่านั้นที่เป็นต้นทุนของชีวิตเรา (แอบเอาของเขามาพูด ไปอ่านของเขาเกือบทุกวัน อิๆๆ ) นี่แหละโทษของการดูหมอ หมอพูดมาไม่ดี จิตตกไปอยู่ก้นเหวเลย ดีแล้วที่หมอพูดตรงๆ
เราจะได้ใช้เสน่ห์ของเราทำให้ผัวรักผัวหลงก็คราวนี้ (อุ๊ย สามี ขอโทษครับ)ถ้าหมอไม่พูดก็เลยไม่มีโอกาสให้ใช้จริตจะกร้านอะซิ

เขียนให้หัวเราะบ้างนะครับ อย่าโกรธเรานะตัวเอง

 

[FONT=&quot]"กรรมจากอดีตชาติเป็นเรื่องใหญ<wbr>่เรื่องโต มันวางแผนชีวิตพวกเราตั้งแต่เกิ<wbr>ดจนตาย ถ้าไม่มีกรรมใหม่ในปัจจุบันชาติ<wbr>มางัดข้อเอาชนะได้สำเร็จ คุณก็จะรู้สึกเหมือนฟ้าและดวงดา<wbr>วขีดชะตาไว้ตายตัวแล้ว"
ขอบคุณที่มา [/FONT][FONT=&quot]พี่ดังตฤณ[/FONT][FONT=&quot]
[/FONT][FONT=&quot]dungtrin.com - ดังตฤณ
^ เว็บไซต์พี่ดังตฤณ มีหนังสือธรรมะดีๆ ผลงานเขียนของพี่เค้าให้อ่านฟรี (เกือบ) ทุกเล่ม
แต่ทุกหน้าค่ะ
ดังตฤณ DUNGTRIN | Facebook
^ FB แฟนเพจพี่ดังตฤณ (แฟนคลับทำให้)
http://www.facebook.com/DUNGTRIN#!/AskDungtrin
^ FB ของพี่ดังตฤณเลย มีคำถามไปโพสถามพี่เค้าได้ค่า พี่เค้ายินดีตอบค่า


เราอ่านแล้วก็เห็นใจคุณ [/FONT]blue pooh[FONT=&quot] มากๆเลยค่ะ อยากช่วยๆ[/FONT]
[FONT=&quot]ขอตอบเรื่องที่ตอบได้ละกันนะค๊า[/FONT]

[FONT=&quot]ถาม: อนาคตจะเปลี่ยนได้หรือไม่ ถ้าโดนทักแบบนี้มา เราต้องทำอย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดแบบนี้ [/FONT](ไม่อยากเป็นน้อย ไม่อยากให้เกิดรักสามเส้า)
[FONT=&quot] ตอบ: อนาคตมีโอกาสเปลี่ยนได้ค่ะ อย่าเพิ่งหมดหวังค่า

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
อย่าลืมว่ากรรมในอดีตชาติที่ทำไปมีผลก็จริง
แต่กรรมในปัจจุบันชาติที่ทำไปก็มีผลด้วยเหมือนกัน
(ให้มองทั้งกรรมในอดีตชาติและปัจจุบันชาติ อย่ามองแต่อดีตชาติอย่างเดียว)
[/FONT][FONT=&quot]
[/FONT]

[FONT=&quot]เราเกิดมาเป็นมนุษย์นั้นถือว่าดีมากเลยนะค๊า มนุษย์นั้นมีสติปัญญา สามารถคิดวิเคราะห์อะไรได้ เรียนรู้ได้ว่าสิ่งใดผิด สิ่งใดถูก สิ่งใดเป็นบุญ สิ่งใดเป็นบาปได้ และสามารถพัฒนาปัญญาหรือเจริญปัญญาขึ้นได้ ถ้าเทียบกับสัตว์เดรัจฉานอย่างเช่น แมวแล้ว แมวเกิดจากกรรมเก่าบันดาลร่างกายให้เป็นแมว และมันก็มีหน้าที่เคลื่อนจากจุดหนึ่งไปสู่อีกจุดนึง แยกแยะไม่ได้ว่าสิ่งใดเป็นบุญ หรือบาป เหมือนอย่างมนุษย์ ก็อาจพูดได้ว่า แมวถูกกำหนดให้ตั้งแต่เกิดมา เดินตามชะตากรรมลิขิตหรือตามยถากรรมไปเรื่อยๆอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
[/FONT]


ดังนั้นเกิดมาเป็นมนุษย์แล้วเราจึงต้องใช้จุดนี้ให้เป็นประโยชน์อย่างเต็มที่ค่า (ถ้าสิ่งใดไม่ดี ก็อย่าปล่อยให้ไปตามยถากรรม เราแก้ได้ๆ)


[FONT=&quot] จากนี้ไปจะพูดถึงกรณีของคุณน๊า ขออนุญาตยกตัวอย่างเพื่อให้เห็นภาพนะค๊า
สมมติว่าในอนาคตมีเหตุการณ์มาบีบคั้นให้คุณผิดศีล (เป็นน้อย)
(และสมมติว่าเหตุการณ์นั้นมันเป็นวิบากกรรมที่ต้องได้รับเนื่องมาจากกรรมในอดีตชาตินะค๊า)

อยู่ที่ว่าคุณจะ…
1. ปล่อยไปตามยถากรรม (ยอมรับวิบากกรรมแต่โดยดีโดยไม่ออกแรงต้าน)
2. ออกแรงต้นทาน เช่น เมื่อมีกิเลสมายั่วยุคุณ คุณอาจจะมีเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ที่ทำให้ความคิดความรู้สึกคุณคล้อยไปตามที่กิเลสยั่วยุนั้น แต่คุณไม่ทำตามความคิดความรู้สึกนั้น

ส่วนใหญ่ถ้าเป็นวิบากกรรมจากอดีตชาติจริงๆเนี่ย มันจะน่ากลัวมากตรงที่เค้าจะสร้างสถานการณ์หรือกับดักให้คุณติดหนึบแน่นเลย ดิ้นแทบไม่ได้ วิบากกรรมฉลาดในการเล่นงานมากๆ (ถ้าไม่ฉลาด คนคงหนีวิบากกรรมได้หมดแล้ว แต่นี่ส่วนใหญ่เห็นหนีกันไม่ค่อยจะพ้นทั้งนั้นค่า) วิบากกรรมมักเล่นงานจุดอ่อนของเรา ทำให้เราแพ้ราบเลย นี่แหละหนึ่งในความฉลาดของเค้า

คุณลองเปลี่ยนความรู้สึกไม่ค่อยสบายใจนี้ให้เป็นโอกาสดูน๊าค๊า ให้คุณมองว่าคุณโชคดีที่ได้ฟังหมอดูเค้าเตือนไว้ก่อน จะได้มีแรงใจในการต่อสู้กับกิเลสได้ดีขึ้น ถ้าคุณต้องการจะเลี่ยงสถานการณ์นั้นๆจริงๆ คุณมีโอกาสทำได้อยู่ค่า

[/FONT]
[FONT=&quot]สมมติว่า ในอนาคต สถานการณ์ (ที่หมอดูเคยทัก) [/FONT][FONT=&quot]มาถึงแล้ว [/FONT][FONT=&quot]เพียงแค่คุณตั้งใจว่าจะรักษาศีลอย่างแน่วแน่ แล้วรักษาให้ได้จริงๆ ไม่ว่าความคิดและความรู้สึกของคุณจะคล้อยตามกิเลสมากไปแค่ไหนก็ตาม อาจจะมีเหตุผลมากมายที่ทำให้คุณคล้อยตามกิเลสไป ขอให้คุณขันติไว้ อย่ายอมแพ้มันเด็ดขาด ให้การกระทำตั้งมั่นอยู่ในศีล ทราบมั๊ยคะ ว่าความคิดเรานั้น ที่เราคิดว่าเป็นของเรา จริงๆแล้วความคิดไม่ใช่ของเรานะคะ หารู้ไม่ว่าจริงๆแล้วมีสิ่งเร้นลับคอยกำกับทางอ้อมอยู่ กล่าวคือ ในกรณีชดใช้วิบากกรรมนี้ อาจจะเพราะเค้าต้องการให้เราได้ใช้วิบากกรรมไง เลยสร้างสถานการณ์ให้เราต้องคิดไปในแนวนั้นๆ หรืออำนาจเร้นลับนั้นก็มาดลใจเราให้คิดไปในแนวนั้นได้

ลองคิดดูง่ายๆว่าบางครั้งเราไม่ได้อยากคิดเรื่องนั้นๆเลย แต่อยู่ดีๆมันก็ลอยเข้าหัวมา หรือ คุณเห็นคนๆนึงไม่ได้หล่อมากมายอะไร แต่ไปปิ๊งเค้าตั้งแต่แรกพบ พอถามตัวเองว่ารักเค้าเพราะอะไร ก็ไม่มีเหตุผล รู้แต่ว่ารัก เป็นต้น ดังนั้นความคิดความรู้สึกของเรานั้นไว้ใจไม่ได้ค่ะ เพราะไม่ใช่ของเรานั่นเอง (ไม่มีน่ายึดมั่นถือมั่นเลย) ดังนั้นควรมีสติ รู้ว่าผิดศีลไม่ทำดีกว่า คุณก็รอดจากสถานการณนั้นๆได้[/FONT]


[FONT=&quot]แต่ๆ ให้ทราบไว้ว่า คุณยังไม่ปลอดภัยนะคะ
(คือ ยังหนีไม่รอดจริงๆ)
ตราบใดที่คุณยังเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏสงสารนี้

ถ้าสถานการณ์นั้นๆคุณรอดมาแล้ว ก็ยังไม่ปลอดภัยค่ะ วิบากกรรมจ้องจะเล่นงานคุณอยู่ มันจะหาโอกาสที่เหมาะสมอีก เมื่อได้ทีที่วิบากกรรมเผล็ดผล มันอาจจะสร้างสถานการณ์ให้คุณติดหนึบอีก (แต่บททดสอบนี้อาจจะแรงกว่าเดิมก็ได้ คือถ้าจะฝืนต้องออกแรงขันติมากกว่าเดิม ให้คุณยอมแพ้มันให้ได้) แล้วถ้าคุณอ่อนแอใจไม่แข็งพอที่จะสู้ขึ้นมา ไม่ตั้งมั่นอยู่ในศีล เมื่อนั้นแหละ วิบากกรรมจะได้เผล็ดผลได้ค่า [/FONT]

[FONT=&quot]ถ้าคุณคิดว่าชาตินี้คุณใจแข็งสู้กับมันได้ทุกรอบ แต่ใครจะไปรู้ว่าชาติต่อๆไปเกิดมาจะใจแข็งได้แบบนี้หรือเปล่า (ก็เลยยังน่ากลัวอยู่) นี่คือภัยหนึ่งของวัฏฏสงสาร เพราะธรรมชาติของมนุษย์ ส่วนใหญ่เกิดขึ้นมาจากความไม่รู้ด้วยกันทั้งนั้น มนุษย์มีสัณชาตญาณเอาเข้าตัวด้วยกันทั้งนั้น ตอนที่มนุษย์เกิดมา ก็ร้องอุแว้ๆ ขอข้าว ขอนม พอไม่ได้กินก็ร้องไห้งอแง้ จะเอาๆ (เอาเข้าตัว) ไม่รู้อะไรดีชั่วเลย อยู่ที่ว่าเมื่อเกิดมาแล้วจะได้รับการอบรมและปฏิบัติตามได้เท่าใด จึงจะพัฒนาขึ้น ดังนั้นชาติหน้าจึงไว้ใจไม่ได้ว่าจะใจแข็งได้แบบเดิมค่ะ[/FONT]


[FONT=&quot]ดี ไม่ดีชาติหน้าเค้าอาจจะทำให้คุณหลงติดอยู่ความโมหะ (ความหลง ไม่รู้จริง) มากับคุณตั้งแต่เกิดจนถึงทีที่วิบากกรรมมาเผล็ดผลเลยก็ได้ (อาจจะไม่ให้คุณรู้ก่อนแบบคราวนี้ เพื่อจะได้หนีไม่พ้นไง) นี่เป็นแค่กรณีนึงที่อาจจะเป็นไปได้นะคะ
[/FONT]
[FONT=&quot]
[/FONT]
[FONT=&quot]วิบากกรรมฉลาดวางแผนและสร้างสถานการณ์มากๆค่ะ[/FONT]


[FONT=&quot]สรุปได้ว่า ใครทำกรรมแบบใดไว้ ไม่ช้าก็เร็วก็จะต้องได้รับกรรมแบบนั้นค่ะ หนีไม่พ้น[/FONT]


แต่ๆสถานการณ์ที่เจอแต่ละครั้ง
อาจจะไม่เลวร้ายขึ้นแบบนั้นเสมอไปนะคะ
ที่เล่ามาข้างบน แค่บอกกรณีที่อาจจะเป็นไปได้ค่ะ
^
ทุกครั้งที่มีเรื่องยั่วยุมาให้เราผิดศีลข้อ 3 แล้วเราตั้งใจไม่ทำผิดและไม่ทำผิดจริงๆ เราก็จะได้คะแนนบุญเพิ่มด้วยนะคะ (ซึ่งการไม่ทำผิดศีลข้อ 3 ในกรณีมีเรื่องมายั่วนี้ เป็นปฏิปักษ์โดยตรงกับการทำผิดศีลข้อ 3 ค่ะ) ดังนั้น ถ้ามีคะแนนบุญด้านนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ก็อาจจะช่วยผ่อนวิบากกรรมเก่าด้านนี้ลงได้นะคะ แต่จะได้คะแนนบุญมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับการกระทำทางกาย วาจา ใจ และความบริสุทธิ์ของศีลที่รักษาได้ด้วยค่า และอาจจะมีเกณฑ์ตัดสินอื่นๆอีก

--------------------------------------------------------------------------------
คั่นหน่อยค่า
"ไม่ว่าจะก่อบาปมาหนักเพียงใด ขอเพียงมีบุญที่เป็นปฏิปักษ์ และน้ำหนักสมน้ำสมเนื้อกันมาสู้ ผลของบาปที่เกิดขึ้นก็อาจเบาบางลงได้" / พี่ดังตฤณ จากหนังสือ เตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัว เล่ม 9 : ตอนที่ ๑๓
http://www.dungtrin.com/index.php?o...id=75:prepare-merit-for-yourself-9&Itemid=278

--------------------------------------------------------------------------------

สำคัญ ทีนี้ก็ไม่รู้ได้ว่า ถ้าเหตุการณ์นั้นมาจริงๆให้เป็นน้อยเนี่ย เราจะมีทางดิ้นหรือเปล่า มันอาจจะมาในรูปแบบไม่ให้เราดิ้นได้เลยก็ได้ เช่น โดนหลอก (เป็นโดยไม่รู้) โดนมัดมือมัดเท้าปิดตาปิดปากออกแรงสู้ไม่ได้ เป็นต้น (ถ้าแนวดิ้นไม่ได้แบบนี้ แสดงว่าในอดีตอาจจะทำกรรมด้านนี้มาค่อนข้างหนัก หรือกรรมนั้นมีกำลังแรง (เช่น ไปทำโดนผู้มีบุญบารมีมากๆเป็นทุกข์กับกรรมนั้นๆ เป็นต้น) เลยดูเหมือนแทบจะไม่มีโอกาสได้ออกแรงสู้เลย ประมาณว่าต้องเผล็ดผลตอนนั้นเลย ไม่มีโอกาสได้เลื่อนไป)

เอาเป็นว่าเพื่อไม่ให้ประมาท สร้างบุญเพิ่มด้านนั้นๆไว้ก่อนเลยจ้า จะช่วยผ่อนหนักเป็นเบาหรือเบามากได้ (จะได้ช่วยเลี่ยงการเจอสถานการณ์ที่ไม่สามารถออกแรงสู้ได้เลย ได้บ้าง)[FONT=&quot] อดีตเราไปแก้ไขไม่ได้แล้ว ดังนั้น
[/FONT]
[FONT=&quot]ถ้าเรารู้ว่ามีกรรมไม่ดีเกี่ยวกับศีลข้อ [/FONT][FONT=&quot]3 ติดมา แนวทางที่อยากจะแนะนำให้ทำ เพื่อเสริมบุญเพิ่มไว้ล่วงหน้าก่อนจะมีเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น เช่น
- ตั้งใจรักษาพรหมจรรย์ตลอดชีวิตและกระทำให้ได้ (วิธีนี้ดีมากๆ เพื่อเป็นการเพิ่มบุญกุศลในด้านนี้ค่า [/FONT][FONT=&quot]ไม่ต้องถึงกับบวชก็ได้ค่ะ หรือถ้าจะบวชแล้วตั้งเจตนาไว้เลยว่าจะรักษาพรหมจรรย์ตลอดชีวิต เมื่อมีเรื่องยัวยุแต่เรารักษาไว้ได้ตลอดทั้งชาติเลยนะ จะเป็นการสั่งสมบุญด้านนี้เพิ่มค่ะ[/FONT][FONT=&quot] สำหรับคนที่มีกรรมเก่าผิดศีลกาเม การทำแบบนี้จะช่วยลดกรรมให้เบาบางได้[/FONT][FONT=&quot]ค่ะ สั่งสมไปเรื่อยๆ ถ้ากรรมกาเมไม่หนักมากอาจจะช่วยลดให้เบาบาง[/FONT][FONT=&quot]ที่สุดหรือจนเหลือ 0 ได้ค่ะ หรือถ้ามีกรรมกาเมมาหนักมาก แค่ประพฤติพรหมจรรย์ชาตินี้ชาติเดียวอาจจะยังไม่พอ ชาติถัดๆไปต้องทำไปเรื่อยๆจนกว่ากรรมจะหมดเหลือ 0 แต่ถึงแม้จะไม่เหลือ 0 เลย ยังไงอย่างน้อยๆก็ขึ้นชื่อว่าได้สร้างบุญด้านนี้เพิ่มและลดกรรมกาเมเก่าลงได้บ้างไม่มากก็น้อยค่ะ)
- บวชชีพรามหณ์
- รักษาศีล 8
- คิดดีพูดดีทำดีให้มากๆ (ละเว้นการคิดในแง่ลบ พูดในแง่ลบ ทำในแง่ลบ ในทุกๆเรื่องเลย โดยเฉพาะพูดหรือยุยงให้คู่รักอื่นแตกกัน พูดเชียร์หรือสนันสนุนให้คนเค้ารักกันแบบสุ่มสี่สุ่มห้าโดยไม่พิจารณาให้ดีก่อน นินทาผู้อื่น เพ่งโทษผู้อื่น ฯลฯ เพราะ การพูดไม่ดี หรือคิดไม่ดี มีส่วนเร่งกรรมไม่ดีเหมือนกันนะคะ)
- หันมาสำรวจตัวเองแทน

- สวดมนต์ การสวดมนต์เป็นการสร้างสมาธิได้อย่างหนึ่ง [/FONT][FONT=&quot]นอกจากนั้น เช่น การสวดมนต์บทสรรเสริญคุณพระรัตนตรัย โดย[/FONT][FONT=&quot]การเปล่งเสียงสวดและทราบถึงความหมายในบทนั้นๆ เป็นการสร้างกรรมดีทางวาจา (เปล่งเสียง) และกรรมดีทางใจ (ทราบความหมาย) เพิ่มด้วยค่ะ เพราะสิ่งที่พูดนั้นเป็นความจริงนั่นเองค่ะ เลยถือเป็นการสร้างบุญกุศลอย่างหนึ่ง ส่วนการสวดมนต์บทอิติปิโสก็เหมือนกันและบทนี้เป็นพุทธพจน์ของพระพุทธเจ้าด้วย สวดไปดีแน่นอนค่ะ (ข้อนี้เป็นปฏิปักษ์กับ การคิดไม่ดี การพูดไม่ดี การพูดโหกค่ะ) และอีกอย่างนึงเราก็จะได้รับการคุ้มครองจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์และเหล่าเทวดาด้วยค่ะ เคยได้ยินว่าคนที่กำลังสวดมนต์ อาจจะมีเทวดามาฟังด้วยนะคะ และเค้าก็จะชอบเราและรักษาเราค่ะ ถามว่าต้องสวดบทไหน จริงๆก็ไม่มีอะไรตายตัวหรอกค่า ที่อยากแนะนำก็เป็นการสวดมนต์ตามแบบของหลวงพ่อจรัญ เห็นหลายคนนิยมใช้ตามนี้ เราก็ใช้จ้า
http://www.jarun.org/v6/th/dhamma-pray.html
ถ้าจะสวดบทอื่นเพิ่มนอกจากนี้ ก็ได้ตามใจชอบเลยค่า

- ทำสมาธิ เจริญภาวนา ฯลฯ ก็ทราบกันว่าประโยชน์และอานิสงส์นั้นมากมาย ทำให้เกิดปัญญา อีกทั้งยังช่วยในการฝึกขันติบารมีได้ด้วยนะค๊า จะเริ่มจากทำสมาธิวันละ 5 นาทีก่อนก็ได้ค่ะ แล้วค่อยๆเพิ่มวันละ 5 นาทีเป็น 10, 15, 20, 25, 30 ฯลฯ ไปเรื่อย
- อ่านบทความธรรมะ (เพื่อให้ความโมหะลดลง มีปัญญามากขึ้นด้วยค่า เกรงกลัวต่อบาปมากขึ้น ฯลฯ)
- ทำบุญ อโหสิกรรมแก่กันและกัน แผ่เมตตา อุทิศส่วนกุศลบ่อยๆ [/FONT][FONT=&quot] อย่าลืมอุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรของคุณนะคะ มันน่าจะช่วยให้เค้าลดการจองเวรคุณได้น๊า แล้วก็อุทิศให้เทวดาที่รักษาคุณด้วยค่ะ เพื่อเป็นการเพิ่มบุุญให้เทวดามีบุญมีฤทธิ์พอที่จะช่วยคุณได้[/FONT]

ฯลฯ


หรือถ้าทำไม่ได้ยังไงน้อยที่สุด ให้รักษาศีล 5 ค่ะ เพราะเป็นพื้นฐานของมนุษย์เลยค่ะ อานิสงส์ที่ทำดีจากด้านนั้นๆ ก็น่าจะช่วยผ่อนกรรมไม่ดีด้านนั้นๆลงได้บ้างไม่มากก็น้อย แล้วก็ คิดแต่สิ่งที่ดีๆ ทำแต่สิ่งที่ดีๆ พูดแต่สิ่งที่ดีๆ ค่ะ



[FONT=&quot] ท้ายที่สุด สุดยอดเลยอยู่ที่ ทำมรรคผลนิพพานให้มีขึ้นค่า หลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏสงสารนี้ นั่นแหละปลอดภัยที่สุดค่า (ตราบใดที่คุณยังเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏสงสารนี้ ถือว่ายังไม่ปลอดภัยค่า)[/FONT]


อีกอย่าง คุณไม่จำเป็นต้องไปหาหมอดูก็ได้ค่า เพราะทุกปัญหาสามารถแก้ได้ด้วยการปฏิบัติธรรมนี่แหละค่า ถ้าคุณทำดีให้ถึงพร้อมในทุกๆด้านแล้วก็ไม่ต้องไปหาหมอดูก็ได้ค่า

[FONT=&quot]-----------------------------------------------------------------------------------------
เพิ่มเติมค่า
[/FONT]รักคนมีเจ้าของอย่ามองหน้า อยากหายบ้าให้จ้องเท้า

ถ้าตัวเลือกของคุณมากนัก การเจอคนมีเจ้าของแล้วนับว่าดีเหมือนกัน คือสบายใจได้เลยว่าไม่มีสิทธิ์แน่ คัดออกไปไม่ต้องเอามาเป็นหนึ่งในตัวเลือกได้เลยแน่ๆ!
อย่าตั้งความหวังรอ อย่าให้ความหวังเขา และอย่าทำตัวเป็นตัวแปร คุณกำลังหาคนที่ใช่ ฉะนั้นอย่าหลงหวังรอแบบผิดๆ ตอกย้ำทำความเข้าใจกับตนเองว่า คนที่ใช่จะมาเจอกันในเวลาที่คุณไม่มีสิทธิ์ได้อย่างไร?
คบไปรังแต่จะมุ่งหน้าสู่ดงงิ้วกันเปล่าๆ!
จริงอยู่ครับ มีอยู่จริงๆ ที่เป็นคู่บุญติดตามกันมาหลายภพหลายชาติ แต่ดันไปเป็นของคนอื่นเสียก่อน แล้วก็ต้องเกิดความทรมานใจกัน แต่ ขอให้จำไว้เถิด ต่อให้ครองคู่กันมาเป็นล้านชาติ ก็หาได้ทำให้ชาตินี้ ‘ใช่’ เหมือนชาติอื่นๆไม่ ในเมื่อพลัดไปมีเจ้าของเสียก่อนแล้ว
ให้เร่งรู้ตัวไว้เสียว่าบาปบางอย่างที่ทำไว้ร่วมกัน สกัดกั้นไว้ไม่ให้ร่วมเรียงเคียงกันอีกในชาตินี้ เพื่อ ล่อลวงให้พวกคุณประพฤติผิดประเวณีกัน หรืออ้อนวอนให้อีกฝ่ายทรยศคู่ครอง ซึ่งเท่ากับเป็นการเพิ่มน้ำหนักบาปให้ความสัมพันธ์ข้ามภพข้ามชาติเข้าไปใหญ่
คนเราเข้าคู่กันก็ด้วยกำลังบุญ แล้วก็แยกคู่กันด้วยกำลังบาป คุณจะครองคู่กันเป็นสุขด้วยหนทางแห่งบาปเวรได้อย่างไร
เว้นแต่พวกเขาจะเลิกกันเอง โดยคุณไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆแม้ส่งสัญญาณยักคิ้วหลิ่วตาใดๆ อันนั้นค่อยเป็นอีกเรื่อง นอกเหนือจากนั้นแล้วนะครับ ใส่เกียร์ถอยลูกเดียว ห้ามล่วงล้ำไปข้างหน้าอีกแม้แต่หนึ่งคืบ!
หากปวดแสบปวดร้อน ทรมานใจเพราะต้องเจอหน้ากัน ก็ให้พิจารณาว่าใบหน้าคนเราเป็นศูนย์กลางความดึงดูด จ้องมองใกล้ๆหรือแอบมองห่างๆรังแต่จะทรมานเปล่า ให้เปลี่ยนเป็นจดจ้องเท้าเขาหรือเธอให้มากๆ ภาพที่กระทบตาจะได้กระแทกใจบ่อยๆว่าคุณกำลังใฝ่ต่ำ หาเรื่องใส่ตัว และอาจโดนอวัยวะเบื้องล่างของใครกระทืบเอา
นานไปพอไม่เห็นหน้า เห็นแต่เท้าอยู่เรื่อย ใจคุณก็เลิกยึดมั่นถือมั่น คลายมนต์สะกดแห่งบาปเวรที่ผูกมัด กลายเป็นอิสระโล่งอกไปได้เองครับ
สรุปคือคนมีเจ้าของไม่ใช่คนที่ใช่แน่ๆ ถ้าคุณฝืนจะยื้อมา ก็เท่ากับเอาคนที่ไม่ใช่มาบดบังคนที่ใช่ ซึ่งอาจกำลังเดินตามหลังมาแค่ไม่กี่ก้าวก็ได้
คู่เทียมเจอเมื่อไหร่ก็ได้ แต่คู่แท้ต้องเจอในจังหวะที่พร้อมจะรักกันจริงเท่านั้น

ถ้าคุณเคยอ่านหนังสือเล่มเดียวสองรอบแล้ว รู้สึกต่างกัน ราวกับอ่านหนังสือคนละเล่ม รอบแรกรู้สึกว่าไม่เห็นจะเอาไหน แปลกใจทำไมใครต่อใครถึงชอบกัน แต่รอบที่สองกลับรู้สึกมีอารมณ์ร่วม ยิ่งอ่านยิ่งตาสว่าง ประสบการณ์ทำนองนี้แหละที่เป็นตัวอย่างบอกคุณได้ว่า คนเราไม่พร้อมจะรับสิ่งมีค่าเสมอไป
ถ้าเห็นค่าของคนที่มีค่าไม่ได้ คุณก็จะไม่มีวันเจอคนที่ใช่เลย ต่อให้เขาหรือเธอนั่งอยู่ตรงหน้าก็ตาม และนั่นก็ทำให้คนจำนวนมากต้องมานั่งเสียดายอดีต เฝ้าย้ำคิดอยู่เสมอว่าขอเพียงเจอคนบางคนอีกครั้ง จะเทคแคร์เขาหรือเธอสุดชีวิต จะไม่ปล่อยให้หลุดมือไปซ้ำสองอีกอย่างเด็ดขาด
แต่นั่นแหละ เวลาเป็นสิ่งย้อนทวนไม่ได้ เมื่อครั้งนั้นไม่พยายามรักษาเขาหรือเธอไว้ ปล่อยให้หลุดมือไปแล้ว ก็สายไปแล้ว นี่คือข้อคิดควรจำที่จะทำให้คุณปลงตกนะครับ ถึงคนใช่ แต่เวลาไม่ใช่ ก็แปลว่าไม่ใช่!


... (บลาๆๆ)


สรุปนะครับ ถ้าคุณกำลังเป็นลูกแหง่ กำลังเป็นเด็กขี้แย กำลังช่างฝันจะเอาแต่อะไรดีๆ กำลังใจแกว่งง่ายเห็นใครดีกว่าก็ชอบกว่า กำลังเที่ยวแบมือขอตังค์ใครต่อใคร หรือหนักกว่านั้นคือกำลังเป็นบ้า กำลังขี้เมา กำลังอยู่ในบ่อนพนันไม่เห็นตะวันและดาวเดือน อย่างนี้ไม่ใช่จังหวะเหมาะจะเจอคนที่ใช่หรอกครับ คนที่ใช่อาจเป็นแรงบันดาลใจให้คุณเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ แต่เขาจะไม่มาในเวลาที่คุณยังอยากย่ำอยู่กับที่เป็นอันขาด

... (บลาๆๆ)


แล้วที่สำคัญนะครับ อย่าให้เสียงนกเสียงการอบข้างมีอิทธิพลกับการตัดสินใจของคุณ แต่ ขณะเดียวกันก็อย่าละเลยเสียงทักของเพื่อนแท้ ให้รับฟังและเก็บไว้เป็นข้อมูลภายนอก แล้วนำมาเปรียบเทียบกับข้อมูลอันได้จากประสบการณ์ตรง จึงค่อยชั่งใจ กับทั้งตัดสินใจด้วยตนเองว่าคุณจะเอาแน่ไหม
เพราะที่เหลือต่อจากนั้น คุณเองนั่นแหละที่จะต้องรับผิดชอบทั้งหมด!
ที่กำลังจะกล่าวต่อไป น่าจะช่วยให้คุณชั่งใจได้อย่างมีหลักเกณฑ์มากขึ้นครับ


คัดลอกบทความมาบางส่วนของบทที่ ๓ เลือกคนที่ใช่ จากหนังสือรักแท้มีจริง โดยดังตฤณทอ่านฟรีทั้งเล่มได้ที่นี่ค่า: http://dungtrin.com/index.php?<wbr>option=com_content&view=catego<wbr>ry&id=63%3Atrue-love-are-exist<wbr>&Itemid=278
หรือสั่งซื้อออนไลน์ได้ที่นี่ค่<wbr>า: http://www.se-ed.com/eshop/Boo<wbr>k/BookDetail.aspx?TypeMCode=BK<wbr>&No=9789741036714


[FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot]-----------------------------------------------------------------------------------------[/FONT]
[FONT=&quot]ที่เขียนบทความนี้ขึ้นมา เพราะอยากช่วยคุณ [/FONT]blue pooh[FONT=&quot] ด้วยใจจริงนะค๊าด้วยกำลังสมองที่มี (อันน้อยนิด) ที่ เขียนมาก็คิดเองไม่ได้หรอกค่ะ ก็เคยอ่านมาจากหนังสือเหมือนกันแล้วก็นำเกร็ดความรู้แต่ละเรื่องมาขมวดๆแล้ว เล่าให้ฟังอีกทีอ่าค่า มีผสมความคิดตัวเองลงไปด้วย
[/FONT]
[FONT=&quot]ถ้าจะให้ไปหาบทความต้นฉบับมาแป๊ะๆก็คิดว่าคงจะหาไม่เจอแน่ๆ อยู่หน้าไหนหน้า มีหลายเรื่อง หลายเล่มเลย จำไม่ได้อ่าค่า เลยต้องใช้วิธีสรุปจากความคิดเราเองอ่าค่า (อยากเครดิตหนังสือที่อ่านนะคะ แต่เพราะกลัวจะถ่ายทอดมาผิดแล้วจะเสียถึงท่าน) [/FONT][FONT=&quot]
[/FONT]
[FONT=&quot]และตัวเองก็ยังมีปัญญายังน้อยอยู่ ความรู้เรื่องธรรมะยังน้อย โมหะก็ยังเยอะอยู่ และเพิ่งจะเข้ามาศึกษาธรรมะได้ไม่กี่เดือนนี่เองอ่าค่า ญาณทิพย์ก็ไม่มี เลยเกรงว่าที่เขียนไปจะมีสิ่งใดผิดพลาด ถ้ามีข้อผิดพลาดประการใดต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะค๊า รบกวนผู้รู้ช่วยแก้ไขให้ถูกด้วยค่า น้อมรับค่า

ปล. ขอออกตัวไว้ก่อนนะค๊า แนวทางที่เขียนไป เราก็ยังทำไม่ได้นะค๊า พยายามจะทำให้ได้อยู่ค่า เราขอเป็นกำลังใจให้คุณ [/FONT]blue pooh และทุกๆท่านค่า

 

ขอบพระคุณทั้งสองท่านมากค่ะ ด้วยตัวเองตั้งใจว่า หากรู้ว่ามีโอกาศหรือแน้วโน้มต้องเป็นน้อย หรือเป็นแค่กิ๊กหรือทำให้ครอบครัวคนอื่นเดือดร้อยก็ตั้งใจว่า จะไม่ยุ่งเกี่ยว

ทุกวันนี้พยายามถือศีล 5 (แต่ถือได้ไม่ครบค่ะ) มีสติรู้ว่าทำอะไร ให้รู้ว่าอะไรถูกต้อง อะไรไม่ควรทำ ขอบารมีพระองค์ท่านเป็นที่พึ่งให้มีสติในทุกเรื่อง

แต่อย่างที่ท่านแรกทักค่ะ คือว่าเป็นคนแรง และแข็งจริงค่ะ อิอิ ซะมีในอนาคตอาจไปมีน้อยก็เป็นได้ ดังนั้นมันเป็นโอกาศของเราที่จะเอาใจซะมี คริ คริ

ขอบพระคุณอีกครั้งค่ะ อนุโมทนาในความปรารถนาดีของทั้งสองท่านค่ะ

 

มีความตั้งใจดีมากเลยค่า ขอชื่นชมนะค๊า โย่วๆ

 

ลำพังอกุศลวิบากจากอดีตชาติอย่า<wbr>งเดียวนั้น เล่นงานให้คนเราเศร้าหนักได้ก็จ<wbr>ริง แต่ไม่จำเป็นต้องให้มันปล้นเอาว<wbr>ิธีมองโลกในแง่ดีไปจากเราด้วย ตราบใดที่ยังมีความหวังและพยายา<wbr>มมองโลกในแง่ดี ตราบนั้นคนเราจะยังคงเพียรพยายา<wbr>มเอาชนะความมืดด้วยความสว่าง มีมานะที่จะขัดถูสีดำให้เป็นสีข<wbr>าวกันต่อไปครับ

- เตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัว เล่ม4 : พี่ดังตฤณ - อ่านฟรีทั้งเล่มได้ที่นี่จ้า
http://dungtrin.com/prepare/ar<wbr>chieve/prepare053.htm

เห็นบทความนี้ดีมากค่า ส่งมาให้เป็นกำลังใจนะค๊าคุณ blue pooh สู้ๆค่า

 

ขอบพระคุณมากๆๆๆๆๆคร๊าาา ไปแอ็ดคุณดังตฤณทั้งหมดที่ส่งมาให้แล้วค่ะ ตามอ่านแล้วเจออะไรดีๆๆเยอะค่ะ แชร์ให้เพื่อนๆท่านอื่นไว้ด้วยค่ะ

ขอบพระคุณที่สุดใน 3 โลกค่ะ

ปล นับถือคุณดังตฤณมากๆค่ะ ได้อะไรเยอะมากๆค่ะ (ชีวิตต้องสุ้ โย่วๆๆ)

 

ว้าวววว ดีใจมากเลยค่า ที่คุณ blue pooh ชอบนะค๊าาา ^_^ catt13

 

ค่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา

 

ไม เรา ต้องมารับกรรรม

 

เอาน่า สู้ๆด้วยความดีให้ชนะขาดเลยนะปอน