Law of Attraction การควบคุมกฏแห่งแรงดึงดูดให้ทำงานให้เราอย่างมีประสิทธิภาพ

A Secret Scrolls message from Rhonda Byrne
Creator of The Secret and The Power

From The Secret Daily Teachings

Here are four fundamental things to do to manifest money using the law of attraction.
ต่อไปนี้ เป็นหลักพื้นฐานสี่ข้อ ที่จะสร้างความร่ำรวยให้เกิดขึ้นจริงได้ ภายใต้กฏแห่งแรงดึงดูด



1. Think more thoughts in a day of abundance than of lack of money.
ในแต่ละวัน ให้คิดคำนึงถึงความมั่งมีอุดม ให้มากกว่า ความรู้สึกขาดแคลน


2. Be happy now, without the money.
มีความสุข ณ บัดนี้ไปเลย โดยมิต้องรอให้มีเงินก่อน



3. Be truly grateful for everything you have now.
รู้สึกขอบคุณอย่างจริงใจ ในทุกสิ่งที่คุณมีอยู่แล้วในตอนนี้



4. Give the best of yourself to others.
ให้สิ่งที่ดีที่สุดของคุณกับผู้อื่น


Four easy steps. You can do them if you want it enough.
สี่ขั้นตอนง่ายๆ ที่คุณสามารถทำได้ หากเพียงคุณต้องการที่จะทำให้บังเกิดขึ้น จริงๆ



May the joy be with you,

Rhonda Byrne
The Secret... bringing joy to billions

 

วืเศษมาก ขอบคุณค่ะ คุณ threeam

 

จัดไปโดยเฉพาะให้กับคนชอบดื่มกาแฟจ้า (ดนตรีเพราะมากมาย เปิดลำโพงดังๆหน่อยนะจ๊ะ)
Life Is Like A Cup of Coffee



[ame="http://www.youtube.com/watch?v=U3NgzQ9Pcsg&feature=fvwrel"]YouTube - Life Is Like A Cup of Coffee - Inspirational Video Movie[/ame]

 

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=LQ5s9DE6rAg"]The 90/10 Principle (Thai Narration - บรรยายไทย)[/ame]
ดีมากๆเลยค่ะ อดไม่ได้ ต้องเอามาฝาก เชิญชมค่ะ
เรื่องนี้เกี่ยวกับ กาแฟ (อีกที) เอาใจคอกาแฟอย่างเดียวเลยวันนี้
ขอขอบคุณผู้จัดทำวิดีโอนี้ http://a-academy.net


YouTube - ช่องของ aacademy01

 

ขอบคุณมากๆ เลยครับ

ขอเล่าให้ฟังว่าก่อนมาอ่านเจอกระทู้นี้ชีวิตมีปัญหา และมีเรื่องต่างๆ มากมาย

แต่พอได้อ่านแล้วรู้สึกมีพลัง มีกำลังใจขึ้นมาก

ก่อนหน้านี้ก็มีคนใกล้ๆ ตัวพูดถึงเรื่องนี้ แต่ผม ก็ยังไม่ได้สนใจนัก จนวันนี้ เวลานี้ เชื่อว่าทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเกิดจาก ความรู้สึก ของเราเอง เราเป็นเจ้าของความรู้สึกนี้ หากกำหนดให้รู้สึกบวก ชีวิตก็จะดำเนินไปในทางบวก แต่เราอาจมีปัจจัยเหนี่ยวนำ ให้นำพาเจ้ากรรม ซึ่งก็คือจิตของเราเองนี้แหละมาลงโทษเรา

ขอขอบคุณทุกความเห็น ทุกความคิดที่ถ่ายทอดมาให้ได้อ่าน

ขอบคุณครับ

 

ยินดีอย่างยิ่งค่ะ ถ้าข้อความที่ดิฉันและเพื่อนได้แบ่งปัน
จะมีประโยชน์ในการนำพาความสุขให้กับผู้อ่านที่รัก

ความสุขเริ่มที่ใจและความคิดเราเองจริงๆค่ะ

อย่างเช่นสองสามวันนี้ ดิฉันได้พบเจอเรื่องราวเกี่ยวกับความรักมากมาย
โดยเฉพาะความรักของเพื่อนรักคนหนึ่งที่จู่ๆ สามีก็เปลี่ยนแปลงไป
ความสุขอันท่วมท้นที่เมื่อวานนี้เธอยังมีอยู่ กลับหายไปทันทีที่พบว่าสามีปันใจ

เธอถามดิฉันว่า ทำอย่างไรจึงจะดึงดูดความรักคืนมา
ดิฉันได้ตอบเธอในแง่มุมของความรัก คลื่นความสั่นสะเทือนของความรัก
ไว้ดิฉันมีโอกาสจะนำมาเล่าให้ฟังค่ะ

ขอบคุณคุณ threeam คุณเซล มากค่ะ โดยเฉพาะเพลงสำหรับคอกาแฟ
กำลังต้องการกาแฟอย่างแรง

แล้วพบกันใหม่ค่ะ

 

ขอบคุณนะคะ สำหรับเรื่องราวที่นำมาแบ่งปัน
คงเป็นกฎแแห่งการดึงดูดเช่นกันทำให้มาพบสิ่งเหล่านี้
คุณริสาเก่งจังเลย ขอบคุณจริงๆแล้วจะแวะมาอ่านบ่อยๆนะคะ

 

บางครั้งเราก็หลงลืมไปว่า "เราคือใคร"

มีคนคนหนึ่งตั้งคำถามกับดิฉันว่า "คุณคือใคร"
คำถามนี้ทำให้ดิฉันครุ่นคิดหลายวันว่า จริงๆแล้ว เราคือใคร
อาการหลงลืมชั่วขณะเป็นอาการที่นิยามทางการแพทย์ว่า
เป็นการสูญเสียความทรงจำบางส่วนหรือทั้งหมด

คนจำนวนมากรวมทั้งดิฉันเองก็เคยตกอยู่ในช่วงขณะการสูญเสียความทรงจำ หลงลืม
เราลืมไปแล้วว่า จริงๆ "เราคือใคร"
เราเชื่อในสภาพแวดล้อมรอบตัวที่กำลังบอกเราว่าเราเป็นใคร


ที่ดิฉันหยิบยกเรื่องนี้มาเล่าสู่กันฟังก็เนื่องมาจากว่า
วันหนึ่งขณะที่ดิฉันนั่งดูทีวีร่วมกับคนอื่น
ซึ่งปกติดิฉันมักไม่ค่อยได้ดูรายการทีวีช่วงกลางวันมากนัก
พิธีกรในรายการทีวีพูดอะไรบางอย่างที่ดิฉันฟังผ่านๆ
แล้วดิฉันตลึงแทบตกเก้าอี้เมื่อจู่ๆพิธีกรหญิงคนนั้นกล่าวสรุปท้ายว่า
"ไม่ได้มายกหางตนเอง"
ดิฉันเหลือบมองคนข้างๆ ที่ไม่มีปฏิกิริยาใดๆกับคำพูดนั้น
ราวกับว่า นี่เป็นสิ่งปกติธรรมดาที่สุด หรือถ้าจะมีสิ่งไม่ปกติก็คือตัวดิฉันเอง

เรื่องนี้ทำให้ดิฉันได้มีโอกาสพิจารณารอบๆตัวเอง
เรามักถูกสอนไม่ให้ชื่นชมตัวเองโดยเฉพาะในสังคมไทย
เราถูกสอนว่า มันเป็นเรื่องไม่ถูกต้องหากเราจะป่าวประกาศความสำเร็จของเราให้คนอื่นฟัง
หรือหากเราจะภูมิใจในตนเองบ้างก็จะกลายเป็นคนบ้าอัตตาไปหรือยกหางตัวเองไปเช่นพิธีกรคนนั้นกล่าวออกมา
บางทีนี่อาจเป็นคำสอนที่ผิดก็ได้

คำสอนคำกล่าวเหล่านี้เป็นการปลูกฟัง "ความไร้คุณค่า" ลงในตัวเราทีละน้อยๆ

เรามักมองหาแต่คำว่า....ไม่พอ
เราเก่งไม่พอ เราพิเศษไม่พอ เราสวยไม่พอ เราฉลาดไม่พอ
เราจัดการไม่ดีพอ เราผอมไม่พอ เรามุ่งมั่นไม่พอ
และอีกหลายๆ...ไม่พอ เท่าที่เราจะหาให้ตัวเองได้

จากนั้นเราจะเกิดความคิดที่เชื่อว่า เรา...ไม่พอที่จะสมควรได้รับอะไรก็ตามที่เราปรารถนา
แล้วเราจะเริ่มเกิดความกลัว กลัวจะสูญเสียสิ่งที่เรามีอยู่ จากความ...ไม่พอของเรา
ถ้าคุณกำลังอยู่ในสถานการณ์ที่กำลังเกิดความกลัวไม่ว่าจะเป็นระดับใด
กลัวความสัมพันธ์ที่มีอยู่ กลัวความไม่มั่นคงในชีวิต กลัวหนทางข้างหน้า
นั่นหมายถึงว่า จิตวิญญาณคุณเริ่มไม่เป็นหนึ่งเดียว

ทุกครั้งที่คุณรู้สึกเครียดหรือรับฟังถ้อยคำที่ส่งผ่านมาบอกคุณว่า
คุณไม่สามารถทำสิ่งใดๆได้อย่างถูกต้องเพราะคุณ...ไมพอ
คุณจะเริ่มปลูกฝังทัศนคติ "ความไร้ค่า" ลงในตัวคุณมากขึ้นเรื่อยๆ

จิตใจของคุณก็จะยิ่งรวบรวมขัอมูลด้านลบต่างๆของตนเองออกมาอย่างเพียบพร้อม
แล้วก็จะเริ่มนำมาวิจารณ์ตนเองดังขึ้นๆ จนกระทั่งทำให้คนอืนอยากจะหลบหนีจากคุณไป
ลองคิดดูซิว่าถ้าทุกๆวันคุณคอยบอกคนรักของคุณว่า คุณดีไม่พอสำหรับเขาหรือเธอ คุณเก่งไม่พอ
คุณว่าจะเกิดอะไรขึ้น

การมีทัศนคติไร้คุณค่าในตัวเองเป็นพลังงานระดับต่ำสุดพอๆกับการเกลียดชังตนเอง
มันไม่น่าดึงดูดเอาเสียเลยและทำให้สิ่งต่างๆรอบตัวคุณเต็มไปด้วยพลังงานต่ำระดับเดียวกันด้วย


ไม่มีสิ่งใดจริงยิ่งกว่าสัจธรรม...
คุณ ญาติพี่น้อง คนรัก ลูกๆ เพื่อนบ้าน มนุษย์ทุกคน เราทุกคน
มีทุกสิ่งเพียงพอที่จะนำเราไปสู่สิ่งที่เราทุกคนปรารถนาได้
คำถามก็คือ "คุณปรารถนาอะไร"

เราไม่สามารถเปลี่ยนความเชื่อและการกระทำของคนอื่นๆได้
หากแต่เราเปลี่ยนความเชื่อและการกระทำของเราได้อย่างแน่นอน
จงเลือก "ความมีคุณค่า"ในตัวคุณเหนือกว่า "ความ...ไม่พอ" ในตัวคุณ
แล้ววางตัวคุณเองบนเส้นทางที่ปรารถนา ทุกอย่างจะเป็นจริง

มันเป็นเรื่องง่าย เพียงแค่มองดูตัวคุณเองแล้วก็ชื่นชมเท่านั้นเอง
จงสัมผัสตนเองด้วยความชื่นชม เชื่อมต่อทุกสิ่งที่สมบูรณ์แบบในตัวคุณ
คุณไม่จำเป็นต้องแสวงหาความน่าสนใจ ทักษะใดๆ ความงามใดๆเพิ่มขึ้น
คุณไม่จำเป็นต้องมีความสามารถพิเศษอื่นใดเพิ่มขึ้น
คุณมีทุกอย่างอยู่แล้วภายในตัวคุณ
เมื่อคุณเข้าถึงมัน มันจะอยู่ที่นั่น
ยิ่งคุณสัมผัสมัน มันจะยิ่งช่วยขยายปริมาณเพิ่มมากขึ้นๆ
ยิ่งคุณเข้าถึงมันมากเท่าใด มันจะยิ่งแผ่ขยายออกไปสู่โลกรอบๆตัวคุณราวแม่เหล็กที่แผ่รังสี
มันจะดึงดูดทุกอย่างที่คุณปรารถนาผ่านจิตใจคุณเอง

ความสมบูรณ์แบบในตัวคุณไม่เกี่ยวข้องกับการหลีกเลี่ยงความผิดพลาด
ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการต้องทำสิ่งต่างๆให้สมบูรณ์
หากแต่ว่า...
เป็นการยอมรับความสมบูรณ์แบบของสิ่งที่เป็นต่างหาก

จงยอมรับความสมบูรณ์แบบของสิ่งที่คุณเป็น
ยอมรับช่วงเวลาของชีวิตที่มีทั้งเบิกบานและประสบการณ์ในทางตรงกันข้าม
คุณจะพบว่าคุณต่อต้านชีวิตน้อยลง สร้างพื่นที่แห่งความเบิกบานเพิ่มมากขึ้นๆ
จนไม่เหลือพื้นที่แห่งความท้อแท้สิ้นหวังในชีวิตคุณ

คุณเท่านั้นที่เป็นผู้เลือกว่าคุณจะสร้างสรรค์ความสมบูรณ์แบบใดในชีวิตคุณ
อย่าปล่อยให้สถาการณ์รอบๆตัวกำหนดชีวิตคุณ อย่าหลงลืมตัวคุณไปในที่สุด


เกมบทที่ 10

คุณคือใคร
ลองใช้เวลาคิดสักครู่ แล้วเขียนลงสมุดเล่มสวยของคุณ
นิยามลักษณะที่บ่งบอกว่าเป็นตัวคุณ เขียนลงไปว่าคุณเป็นใคร อย่างไร
อย่าวิพากษ์วิจารณ์ แค่เขียนตรงๆก็พอ
หรือคุณอาจจะให้คนที่คุณรุ้จักคุณสักสองสามคน เขียนบรรยายเกี่ยวกับตัวคุณสั้นๆ
เป็นคำสั้นๆ 5-6 คำ เพื่อให้คุณได้ภาพที่ชัดเจนเกี่ยวกับตัวคุณ

ถ้าสิ่งที่เขาเขียน แล้วคุณยากจะยอมรับได้
ถามตนเองว่า สิ่งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเส้นทางที่คุณปรารถนาหรือไม่
แล้วจะเป็นอย่างไร ถ้าคุณจะเปลี่ยนสิ่งเหล่านี้ให้เป็นสิ่งที่ทุกคนเห็นว่าน่ารักที่สุดในตัวคุณ

ขอให้คุณผู้อ่านที่รักมีความสุขและค้นพบคุณค่าในตัวเองในวันวิสาขบูชานี้ค่ะ

 

A Secret Scrolls message from Rhonda Byrne
Creator of The Secret and The Power

From The Secret Daily Teachings

Whatever you want to bring into your life, you must GIVE it. Do you want love? Then give it. Do you want appreciation? Then give it. Do you want understanding? Then give it. Do you want joy and happiness? Then give it to others.
You have the ability to give so much love, appreciation, understanding, and happiness to so many people every single day!

สิ่งใดที่คุณปรารถนานำมาสู่ชีวิตคุณ คุณจะต้อง ให้ สิ่งนั้นแด่คนอื่น

หากคุณอยากได้ความรัก จงมอบความรัก
หากคุณอยากให้คนอื่นปลื้มขอบคุณคุณ ก็จงปลื้มและขอบคุณทุกคน
อยากได้ความเข้าอกเข้าใจ ก็ต้องหันไปเข้าใจคนรอบข้าง
อยากมีความสุขสนุกสนาน งั้นก็มอบความสุขสนุกให้คนอื่นด้วย

คุณมีศักยภาพที่จะ มอบให้ ความรัก ความขอบคุณ ความเข้าใจ และความสุข ก้อนมหึมามหาศาล แด่ผู้คนมากมาย ในทุกๆแต่ละวัน


May the joy be with you,

Rhonda Byrne
The Secret... bringing joy to billions

 

ขอถามครับ
กฎแห่งแรงดึงดูด

ถ้าเราใช้มันมากเกินไป มันจะเป็น ดามสองคมหรือไม่ครับ

เพราะตัวผมเองยอมรับเลยว่าใช้กฎนี้ แทบจะทั้งวัน ตั้งแต่ตื่นนอนยันก่อนเข้านอน
หลายครั้งมากเลย ที่คิดแล้วเป็นจริง

ทีนี่เลยเกิดอาการหวาดกลัวตัวเองขึ้นมา

เลยอยากรู้ว่า ถ้าเราใช้กฎแห่งแรงดึงดูดมากเกินไป มันจะมีผลเสียอะไรกับตัวเราบ้างมั้ยครับ

ขอบคุณครับ

 

ขอบคุณครับ คุณริสา คุณ treeam

อ่านแล้วรู้สึกปลาบปลื้มอย่างบอกไม่ถูก

กระทู้ของคุณริสา ได้สร้างแรงบันดาลใจให้ใครต่อหลายคน รวมทั้งผมด้วย
ที่จะค้นให้พบศักยภาพภายในของเราเอง


เดี๋ยวรอคุณริสา มาตอบคุณไข่กุ้งอีกทีครับ

 

ได้ข่าวว่าคุณริสา แปลบทภาพยนตร์ได้เยี่ยมยอดมาก
ขอฝากไว้พิจารณาอีกสักเรื่องนะคะ

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=Cbk980jV7Ao&feature=related]YouTube - Validation[/ame]

 

อืม เรื่องแปลบทภาพยนตร์คงต้องขอรบกวนคุณ Threeam นะคะ เพราะไม่ถนัดเลย
ที่แปลไว้เรื่องหนึ่งก็ข้ามปีจนละอายใจแล้วละค่ะ

แต่ลองเปิดดูแล้ว น่าสนใจมากเลย คุณ Threeam ได้โปรดแปลให้พวกเราได้ไหมคะ
ขอบคุณแทนทุกคนด้วยค่ะ

สำหรับคำถามคุณไข่กุ้ง จริงๆคุณเซลน่าจะตอบได้ดีที่สุด

แต่ถ้าจะให้ริสาตอบ ขอตอบยาวๆพรุ่งนี้นะคะ งานยังไม่เสร็จเลยค่ะ คาดว่าจะไม่ได้นอนแน่

 

รอฟังเรื่องกฎแห่งความดึงดูดความรักอยู่นะคะ

อยากให้พ่อรักและมีเมตตากับเราบ้างคะ ที่สำคัญอยากเจอกันบ้างค่ะ

 

คุณไข่กุ้งคะ

ดิฉันขอขอบคุณแทนพวกเราในทีมทุกคนที่คุณไข่กุ้งได้เข้ามาร่วมอ่าน แบ่งปันประสบการณ์
คำถามของคุณไข่กุ้งนั้น ดิฉันต้องขอออกตัวก่อนว่าที่ดิฉันหาญกล้ามาเขียนบทความให้กับคุณผู้อ่านที่รักทั้งหลายอ่านนั้น

ก็เนื่องมาจากประเด็นที่หนึ่ง ดิฉันได้พบว่า
ประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมาของตนเองเกี่ยวข้องกับกฏแห่งแรงดึงดูดตลอดมา
ไม่ว่าจะเป็นพลังงานระดับต่ำหรือระดับสูง
ดิฉันได้ใช้ชีวิตแบบไร้ทิศทางมาตลอดถ้าท่านได้อ่านเจอ

จนเมื่อวันหนึ่งที่ดิฉันได้ตื่นขึ้นจากการหลับตาใช้ชีวิตแบบ "หลับหูหลับตา"
ได้ค้นพบ "พลังอันศักดิ์สิทธิ์" ที่เปลี่ยนแปลงตนเองอย่างมาก
ดิฉันได้รู้ถึงความหมายของชีวิต
พบว่า ความสุข ความปรารถนาของชีวิตนั้นช่างง่ายดายเหลือเกินจนไม่อยากจะเชื่อ
จึงอยากนำมาเล่าให้ผู้อื่นฟัง

ถ้าคุณกำลังนึกถึงพลังพิเศษอะไรละก็ ไม่ใช่หรอกค่ะ
ดิฉันไม่ได้มีพลังพิเศษอันใดซ่อนเร้นหรือมีเหนือใคร
หากแต่ว่าพวกเราทุกคนมีมัน เรามีความสามารถในการปลุกพลังอันศักดิ์สิทธิ์ในตัวเราทุกคน
ไม่ใช่ด้วยการแสวงหาจากภายนอกอันผิวเผิน หากแต่เป็นการแสวงหาภายในใจเรา
การรู้จักให้เกียรติกับชีวิตเรา เอาใจใส่กับสิ่งที่เราเลือกทำ เลือกคิด เลือกเป็น


ประเด็นที่สอง ดิฉันจะไม่สามารถสร้างความงดงามแห่งบทความเหล่านี้ได้
หากปราศจากกำลังใจจากเพื่อนในทีม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
คุณ Threeam ที่ช่วยกระตุ้น ช่วยเขียน ช่วยผลักดัน
คุณเซลที่ช่วยส่งเสริม สนับสนุนให้กำลังใจ
คุณชยุต คุณ Kindred ที่คอยให้กำลังใจและความร่วมมือมาด้วยดีเสมอ
ทำให้ดิฉันหาญกล้าที่จะเขียนบางสิ่งเล็กๆ
ด้วยความหวังว่า
หากแม้นถ้อยคำใดๆก็ตามของพวกเราได้ช่วยให้คุณผู้อ่านสักคนแม้เพียงคนเดียว
ที่กำลังเผชิญกับประสบการณ์ชีวิตที่ห่างไกลจากจุดที่ปรารถนา
ผู้ซึ่งกำลังเผชิญกับความท้อแท้ได้มีความหวัง
มีหนทางในการรับมือกับชีวิตในหนทางที่ต่างออกไปที่คุ้มค่ากับความหมายของชีวิต
ดิฉันก็ถือว่าตนเองประสบความสำเร็จแล้ว

นี่คือเหตุผลว่าทำไมดิฉันถึงแบ่งปันเรื่องราวในชีวิตตนเองให้คุณฟัง

ดิฉันไม่ได้เป็นผู้รู้ ไม่มีความรู้มากมายที่จะมีคำตอบที่ถูกต้องให้กับทุกคำถาม
บางครั้งดิฉันก็ไม่มั่นใจในคำตอบของตนเองเสียด้วยซ้ำ
และหวังว่าคุณผู้อ่านก็เช่นเดียวกัน
ดิฉันเองก็ได้แต่หวังว่าจะมีคำตอบที่ถูกต้องให้กับคุณผู้อ่านจากผู้รู้ท่านอื่นๆช่วยตอบคำถามให้

เพราะดิฉันไม่เหตุผลหรือตรรกะอันใดเลยในการตอบคำถามคำถามหนึ่ง
นอกเสียจากความเชื่อที่ว่า...
นี่คือวิธีการให้เกียรติจิตวิญญาณ การแบ่งปันร่วมมือหาหนทางหลุดพันจากห่วงแห่งอัตตา
เพื่อเชื่อมต่อกับจิตวิญญาณอันศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ภายในตัวเราทุกคน

คำตอบของดิฉันจึงเป็นเพียงความคิดหนึ่งที่ผู้ตอบเองก็ไม่มั่นใจ
ดิฉันจึงขอให้คุณผู้อ่านตั้งคำถามกับตนเองขณะที่อ่านข้อความของพวกเรา
"สิ่งนี้เป็นหนทางที่คุณแสวงหาอยู่จริงๆใช่หรือไม่"
จงไว้ใจคำแนะนำจากภายในของตนเองค่ะ
มากกว่าคำตอบที่จะหาจากภายนอกค่ะ โดยเฉพาะคำตอบของดิฉัน

คุณไข่กุ้งถามว่า การใช้กฏแห่งแรงดึงดูดมากๆจะเป็นดาบสองคมหรือไม่

หากคุณได้ลองอ่านบทความที่คุณ Threeam เคยลงไว้แต่ดิฉันหาไม่เจอ
love attract more love like attract more like
ประมาณนี้ลองหาดูนะคะ

เราเป็นผู้สร้างชะตาชีวิตเราเอง
เราใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อจะคิดเกี่ยวกับสิ่งที่เราอยากได้ อยากเป็น อยากมี
ตั้งแต่ครั้งเรายังเป็นเด็ก
เราฝันว่าโตขึ้นเราจะเป็นชายหนุ่ม/หญิงสาวแบบใด
เราฝันว่าเราจะทำอาชีพใด
แล้วเมื่อเวลาผ่านไป เราก็แทนที่ความฝันเดิมด้วยความฝันใหม่ๆ
ที่เล็กลงๆเหมือนคนส่วนใหญ่
บางครั้งเราก็ทำความฝันหล่นหายในเส้นทางชีวิตของเรา
บางครั้งเราก็คิดว่ามันสายไปที่จะค้นหาความฝัน
ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น

ทำไมความฝันมากมายของเราจึงไม่บรรลุผล?
เพราะว่าบ่อยครั้งที่ความฝันเหล่านี้ไม่ได้เป็นที่ต้องการอย่างจริงจัง
มันเป็นเพียงความอยากที่มาจากความคิดที่คลุมเครือ

ความฝันในชีวิตเราเหมือนเมล็ดพันธ์
สิ่งที่เราทำกันคือแค่ปลูกมันลงไปแล้วปล่อยให้มันดูแลตัวเอง
แล้วคาดหวังว่ามันจะงอกงามเป็นผลไม้หอมหวานให้เราเก็บกินตลอดชีวิตหรือ
แน่นอนว่า ไม่ใช่
ถ้าคุณไม่ให้น้ำเพื่อความชุ่มชื้น ไม่ให้ปุ๋ยเพื่อการเติบโต
ไม่หมั่นกำจัดวัชพืช
ต้นไม้ของคุณจะแห้งเหี่ยวไปในที่สุด
เช่นเดียวกับความฝันในชีวิตคุณ
มันจะไม่เบ่งบานโดยปราศจากความคิด การใส่ใจอย่างตั้งใจ
ใส่พลังแห่งความรักในสิ่งที่คุณปรารถนา
เพื่อให้ความฝันของคุณเป็นจริง

สิ่งที่คุณไข่กุ้งทำนั้นน่าชื่นชมและน่าที่จะนำมาแบ่งปัน
ที่คุณสามารถปลูกความฝัน สร้างความเป็นจริงในชีวิตด้วยการใส่ใจมันทุกๆขณะ
อย่างที่น้อยคนนักจะทำได้
คุณสามารถทำความเป็นจริงให้ปรากฏในชีวิตได้จนคุณเกิดความกลัว
กลัวว่านี่อาจจะเป็นผลเสียหรือไม่


สำหรับข้อที่ว่า นี่จะเป็นเรื่องดีหรือร้าย จะเป็นดาบสองคมหรือไม่นั้น
การหยั่งรู้ภายในของคุณจะนำทางคุณเองค่ะ
พลังงานระดับเดียวกันย่อมดึงดูดพลังงานระดับเดียวกัน
จำไว้ว่าความรู้สึกเป็นสุข ความรัก ความเบิกบานคือเป้าหมายของชีวิตเรา
มันเป็นเรื่องง่ายมากที่คุณจะตรวจสอบด้วยจิตใจคุณเอง
หากคุณพบว่า จิตใจของคุณมืดมัวไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด
ไม่ว่าจะเป็นความกลัว ความอยากได้ ความคลางแคลงใจในตนเอง
ตลอดจนถึงการให้เหตุผลกับตนเองมากไป
คุณไม่ได้กำลังมีความสุขกับสิ่งที่คุณดึงดูดมา
นั่นหมายถึงว่า คุณกำลังเปิดให้ข้อจำกัดความเชื่อของคุณมีพลังเหนือการหยั่งรู้ภายในคุณ
มีพลังเหนือกว่าเป้าหมายสูงสุดในชีวิตคุณ


เมื่อเสียงจากภายในพูดกับคุณ คุณได้ยินหรือไม่
หากคุณกำลังอยู่บนเส้นทางที่คุณไม่มีความมั่นใจในสิ่งเหล่านั้น
ไม่ได้กำลังมีสุขและส่งแรงสั่นสะเทือนแห่งความสุขออกไป
จงฟังเสียงจากภายในของคุณ

คุณจะได้ยินต่อเมื่อคุณเงียบและฟังเท่านั้น
จำไว้ว่า การฟังความรุ้สึกและเสียงจากภายในเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะนำคุณไปสู่การดึงดูดเชิงบวก
คุณจะไม่สามารถดึงดูดสิ่งที่คุณต้องการได้หากคุณไม่สามารถควบคุมการสั่นสะเทือนที่ปล่อยออกไปในจักรวาลได้

เราทุกคนมีหน้าที่รับผิดชอบต่อความสุขของตนเอง
จงมีความสุขกับชีวิตที่คุณฝันด้วยการใส่ใจกับแนวทางปฏิบัติ
การปรับตัวให้เข้ากับความคิดและความรู้สึกเพื่อไปสู่เส้นทางที่เบิกบาน
ไม่มีสิ่งใดสายเกินไป เราสามารถเลือกได้ทุกขณะ
เพียงมุ่งมั่นและดึงดูดพลังงานสั่นสะเทือนเดียวกัน
ด้วยความรู้สึกขอบคุณ

ดิฉันหวังว่านี่คงพอจะมีคำตอบให้ได้
ขอบคุณทุกท่านค่ะ

 

พอโพสต์เสร็จก็ค่อยเห็นข้อความคุณ Charmaar
เรื่องการดึงดูดความรัก ถึงกับปาดเหงื่อเลยค่ะ
ตัวเองยังเอาตัวไม่รอดเลย

ขอเวลาสักนิดนะคะ เพราะเรื่องความรักที่เขียนไว้นั้นตั้งใจจะนำมาลงเป็นบทความสุดท้าย
เพื่อมอบแด่เพื่อนและคุณผู้อ่านค่ะ

 

ขอขอบคุณ คุณ sarissa และเพื่อนๆมากค่ะ ที่สละเวลาเขียนข้อความดีๆให้เราได้อ่านกัน ภาษาของคุณสะท้อนคลื่นความถี่ของคุณได้ชัดเจนมาก มันเป็นความถี่ระนาบเดียวกับฌาณ 3 ซึ่งเต็มไปด้วย ปีติ และสุข เห็นได้ชัดว่า ทันทีที่เข้ามาอ่านข้อความที่คุณเขียน ผู้อ่านจะเปลี่ยนระดับความถี่จิตเป็นเนิบช้าละเมียดละไม แบบไม่ต้องหลับตาเข้าฌาณ

หลังจากแอบซุ่มอยู่นาน ก็อยากออกมาปล่อยของบ้าง อิอิ

มีคนสนใจเรื่องความรักกันเยอะมากจริงๆนะคะ อาจจะมากกว่าเรื่องเงินๆทองๆเสียอีก

ในฐานะผู้มีประสบการณ์ตรงด้านนี้ค่อนข้างมากทั้งดีและร้าย อยากให้ความรู้เป็นวิทยาทานเผื่อว่าเพื่อนๆจะได้ประโยชน์ค่ะ

ความจริงข้อหนึ่งที่ดิฉันค้นพบคือ เราจะได้คนรักหรือคู่ครอง ตรงตามคุณสมบัติดีหรือไม่ดีในจิตใจเราเองนั่นแหละ

ดังนั้น ถ้าเรากำลังฝันหวานถึงพระเอกขี่ม้าขาวแสนเท่ ผู้มีความอบอุ่นเป็นที่พึ่ง ให้เกียรติและรักเรามากที่สุด ซื่อสัตย์และแสนดี แต่เราก็ลืมไปว่า คุณสมบัติทั้งหมดที่เราต้องการจากคนๆนั้น แทบจะไม่มีในตัวเราเองเลย อันนี้ฮา

ที่ฮาเพราะ เราอยากได้สิ่งดีงามจากคนอื่นมาฟรีๆ แต่ไม่ได้ให้ออกไปสมควรแก่จะได้รับมา

มีคนถกเถียงว่า หลายคนก็ทำดีสารพัด เอาใจเก่ง ดีกับเขาทุกอย่างแต่แฟนก็ไม่รัก ไม่ให้เกียรติ หลายคนถูกซ้อม ถูกด่าหยาบคายทั้งที่เธอก็พูดจากับเขาดีๆ

ย้อนกลับมาที่กฏแห่งแรงดึงดูด หากเราไม่มีคลื่นความถี่เดียวหรือใกล้เคียงกับคนแบบนั้น เราจะไม่มีวันมาอยู่ในสภาพนี้เด็ดขาด

ความลับถูกเปิดเผยตรงบรรทัดนี้ค่ะ

คุณสมบัติอะไรที่เราต้องการ จากคนที่เรารัก ลองเขียนมันออกมาเป็นข้อๆ

เช่น น่ารัก พูดจาเพราะ จริงใจไม่เสแสร้ง รู้จักให้เกียรติผู้อื่น อ่อนน้อมถ่อมตน สุภาพ ใจดีมีเมตตา สปอร์ต พูดจริงทำจริง กล้าหาญ ชอบช่วยเหลือสังคม เล่นกีฬา รักเด็ก ฉลาด ฯลฯ

เยอะแยะเลยใช่ไหมคะ ดีๆทั้งนั้นที่เราอยากได้

ทีนี้ลองมาสำรวจว่า มีข้อไหนมั้ย ที่ตัวเราเองยังไม่มีหรือบกพร่องอยู่ เพราะอย่าลืมว่า คนที่มีคลื่นความถี่ระดับเดียวกันเท่านั้น ที่จะดึงดูดเข้าหากันได้

น่ารัก เราน่ารักไหม หน้าตาหรือนิสัยก็ได้ ที่ไม่ใช่การดัดจริต

พูดจาเพราะ เราเองเวลาพูดกับใครฟังระรื่นหูหรือชวนทะเลาะกันแน่ อันนี้ต้องพึ่งเพื่อนๆมาช่วยยืนยันด้วย

จริงใจไม่เสแสร้ง เราชอบคนตรงไปตรงมา แล้วเราล่ะ ตรงไปตรงมารึยัง จริตจะกร้านมารยามากน้อยขนาดไหนเวลาปฏิบัติกับคนอื่น

รู้จักให้เกียรติผู้อื่น เราเองรู้จักข้อนี้ดีแล้วหรือไม่ บางครั้งหยอดเหรียญขึ้นรถไฟฟ้ายังอุตส่าห์พุ่งไปแย่งคนที่เขามาก่อน แบบนี้ยังใช้ไม่ได้ แล้วจะหวังได้คนรักที่ให้เกียรติคนอื่นมาอยู่ข้างตัวได้ยังไง

ฯลฯ และอีกมากมายที่คุณเขียนออกมานั่นแหละค่ะ ลองมาเทียบดูกับตัวเองว่า คุณสมบัติของคนที่เราอยากดึงดูดเข้ามาในชีวิต เทียบกับคุณสมบัติของตัวเองแล้ว ห่างกันมากน้อยขนาดไหน

ถ้าต่างกันฟ้ากับเหว ประเภทสลึงนึงอย่าให้ร่วงจากกระเป๋า แต่อยากได้เสี่ยมือหนักที่ควักให้ที่ละแสน อันนี้ต้องปรับปรุงตัวใหม่อย่างแรงค่ะ

อย่าลืมนะคะ ตัวเองมีคุณสมบัติแบบไหน ก็จะได้คนแบบนั้นแหละเข้ามาในชีวิต

อัพเกรดตัวเองอันดับแรก ก่อนจะสายเกินไป

ที่พระพุทธเจ้าท่านเคยตรัสเรื่องการครองคู่ที่มีความสุขว่า บุคคลมี ศีล ศรัทธา ปัญญา จาคะ เสมอกัน ย่อมได้รักกันทั้งในชาตินี้และชาติหน้า

แล้วคนเขียนข้อความนี้ล่ะ ประสบความสำเร็จแล้วเหรอ หลายคนคงอยากรู้

ก็ต้องบอกว่าใช่ค่ะ ตอนนี้ได้คนที่มีคุณสมบัติน่ารักๆข้างต้นมาไว้ข้างๆแล้ว และชี
วิตก็มีความสุขมากๆเลย

ขอให้พบคนของคุณเร็วๆนะคะ

 

อย่าเพิ่งปาดเหงื่อเลยครับ คุณ sarissa คุณไม่ได้มีพลังวิเศษอะไร แต่คุณหนะ คือ พลังวิเศษ

ที่มานั่งเขียนประสบการณ์ที่ดี ที่ช่วยปลุก ช่วยเขย่า ให้พวกเราได้ปลดปล่อยตะกอนภายในใจเราออกมา จากการได้อ่านสิ่งที่คุณประสบพบเจอจริงๆ

และทุกๆคนในที่นี้ ก็คือ พลังพิเศษ

ทั้งคุณ threeam คุณไข่กุ้ง คุณ nck2046 คุณ charmaar และทุกๆท่าน ที่เข้ามาแชร์ และมาอ่าน ทุกๆคน

ผมไม่ได้มายกยอปอปั้น เพื่อให้ทุกท่าน มีอัตตา ว่าเราเป็นสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่พิเศษมากๆ จนแตะต้องมิได้

แต่คุณสมบัติของเราทั้งหลาย ก็คือ ความรัก พลังแห่งปัจจุบัน ที่ดำรงอยู่ทุกหนทุกแห่ง

ที่จะมี ที่จะเป็น ที่จะเรียนรู้ประสบการณ์ทั้งหลายทั้งมวล จากการดึงดูดของจิตสำนึก

ผมรู้สึกขอบคุณ ทุกประสบการณ์ในชีวิตที่เข้ามา ทั้งดี และไม่ดี
ก็เพื่อการวิวัฒน์ ให้เราหลุดออกจากความเป็นทาส ในโลกมายาใบนี้
และมีชีวิตที่มีความสุข สงบ ทุกขณะในการดำเนินชีวิตบนสวรรค์บนดินใบนี้

ไม่สำคัญว่า ในขณะนี้ คุณจะประสบกับสิ่งใดๆ ทั้งดี และไม่ดี

เพียงคุณเฝ้ามองความคิดของคุณให้เข้าใจ คลื่นความถี่ต่ำๆ ทั้งความกลัว ความโกรธ ความเกลียดชัง ความอิจฉาริษยา ความขุ่นข้องหมองใจทั้งหลาย จะสลายไปเอง จากความเข้าใจด้วยความรักที่มีให้เค้าทั้งหลาย

เพราะหากคุณยิ่งต่อต้าน ก็เป็นการผลักให้ความเป็นขั้วของคุณแข็งแกร่งขึ้น

เราใช้ความกลัว ดึงดูดทุกสิ่งเข้ามาได้ พอๆกับจินตนาการถึงสิ่งที่เราต้องการมีประสบการณ์ในชีวิต

หน้าที่ของเรา คือ ขจัดความกลัวในใจเราออกไป ด้วยความรักความเข้าใจที่มี

เมื่อเหตุเปลี่ยน ผลย่อมเปลี่ยน

ปล่อยให้ตัวตนแท้ๆของคุณ ที่คือ พลังวิเศษ ออกมาโลดแล่นในโลกใบนี้

แล้วคุณจะเปลี่ยนแปลงคนรอบข้างของคุณได้ เพราะการเปลี่ยนแปลงภายในของคุณเอง

เมื่อคุณมีความรัก คุณมีความสุข คุณจะเห็นทุกคน ทุกสิ่งรอบตัว คือ ของขวัญ

คุณเชื่อว่าเค้าเป็นอย่างไร คุณจะได้อย่างนั้น

 

วันอาทิตย์ที่ผ่านมาคุณฟอล์คแมนและคุณคินเดรทพาไปกราบขอบารมีจากหลวงพ่อสี ตัดโถ และพบพี่นักเขียน ได้รับคำอธิบายเรื่องกฏแห่งแรงดึงดูดและการสร้างจินตนาการภาคปฏิบัติ จากพลังงานบวกของฟอล์คแมน และการสร้างจินตนาการของคุณคินเดรท มีคุณนากามูระร่วมเดินทางไปด้วย ไปสมทบกับคุณมีดและแม่นายมลที่ธรรมสถานของหลวงพ่อที่เพชรบูรณ์ เป็นสองวันที่รื่นรมย์ ท่ามกลางความเป็นจริงที่สามีของผู้เขียนมีอาการเส้นเลือดตีบที่แกนสมองมาได้กว่าเดือนแล้ว แขนขาเป็นอัมพาต หายใจเองไม่ได้ กลืนอาหารไม่ได้ ลำไส้ไม่บีบตัว เหลือแค่กลอกตาขึ้นลงและฟังเสียงได้ ความรู้ตัวทั่วพร้อมอยู่หมดแต่สั่งกายไม่ได้เลย จะดีขึ้นด้วยการเยียวยามากน้อยเพียงไรยังไม่ทราบโชคชะตา

​

ในวันถัดมาอันเป็นวันวิสาขะบูชา ก็เกิดความคิดว่าตัวเองจะปลดพันธนาการจากความคิดลบที่ถูกตั้งโปรแกรมมาตลอดชีวิตอย่างเดิมๆ แม่อยากให้เราดีกว่านี้ แต่เราว่าตัวเองดีพอ เคยคิดว่าเงินทองไม่พอใช้ วันนี้จะขอบคุณพระเจ้าที่มีทุกอย่างที่ต้องการแล้ว เลยจินตนาการว่า จะพาสามีไปฮันนีมูนรอบสองฉลองแต่งงาน ๒๕ ปีที่สก็อตแลนด์ เคยไปมาครั้งหนึ่งเมื่อสิบห้าปีก่อนแต่ความรีบร้อนในการเดินทางทำให้ไม่สามารถเก็บเกี่ยวภูมิทัศน์และความงามได้เท่าใจปรารถนา เดิมลั่นวาจาว่าจะไปฉลองแต่งงาน ๒๕ ปีที่นั่น แต่ชีวิตถูกจับเข้าโปรแกรมแข่งขันหนูถีบจักร หลงในมายาการของโลกสามมิติ คิดถึงแต่ความขาด จนไม่เห็นหนทางจะไปฉลองในสถานที่ดังกล่าวได้ จึงลั่นวาจาว่าสามีต้องลุกมาเดินได้แล้วจะพาไปสก็อตแลนด์ในปี ๕๖ พอลั่นวาจาก็เกิดการสั่นสะเทือนจนร้องไห้ออกมาด้วยปิติ จากนี้จะเริ่มจินตนาการว่าจะสร้างบ้านอย่างที่ตัวเองอยากอยู่ ให้ลูกมีห้องนอนคนละห้อง ...

​

วันนี้อ่านบทความจากต่างประเทศ บอกว่าจากนี้ไปนักรบแสงสว่างไม่ต้องกู้โลกแล้ว ให้รักตัวเอง และแผ่ความรัก สร้างความสั่นสะเทือนดีๆ นีคือหน้าที่ของนักรบรุ่นผู้บุกเบิกในขณะนี้ วันเพ็ญวิสาขะในปีนี้เป็นวันที่ให้ทิ้งอะไรๆ ที่ไม่เวิร์คในชีวิตไปเสีย คนที่ยกระดับจิตแล้วจะมีประตูมิติเปิดให้ยามคับขันไม่ต้องกังวล

จากวันนี้จะไม่ถามแล้วว่าทำไมแม่ไม่กอดเรา แต่เราจะไปกอดแม่เอาดื้อๆ แทน ถามคุณเดรทว่าทำไมเราต้องเริ่มทั้งที่เราขาด คุณเดรทบอกว่าเพราะเราเลือกมาเกิดในท่ามกลางความเปลี่ยนแปลง... ใครไม่เปลี่ยนช่างเขา เราอยากได้ให้เริ่มเอง..

วันนี้ผู้เขียนเลือกที่จะเดินทางตามพันธะแห่งจิต สุขกับทุกวัน สิ่งที่เกิดขึ้นก็เหมือนๆ เดิม แต่เราเปลี่ยนมุมมองสถานการณ์ และรอคอยปาฏิหาริย์ของกฏแรงดึงดูด ขอขอบคุณคุณริสา คุณทรีแอม พี่นักเขียน ฟอล์คแมน คุณคินเดรทและชาวกระทู้ทุกท่าน ได้กำลังใจจากกระทู้มากมาย

รักทุกคนค่ะ

คุณริสา สำนวน..ยอดมาก พลังงานเต็มเปี่ยมทุกโพสต์ค่ะ.. ขอบคุณ ขอบคุณ จากใจ


​

 

ติดตามอ่าน ขอขอบคุณ คุณสริสาอีกครั้ง และขอบคุณ treeam ,khun kindred,khun mead และทุกท่านในกระทู้ค่ะ บทความของคุณคุณค่ามาก เราติดตามงานเขียนของนักรบแสงสว่างเยี่ยงพวกคุณนี้ อ่านแล้วเบิกบานพัฒนาิจิตค่ะ
และขอให้อาจารย์ไก่สมหวังมีความสุข ทุก่ท่านด้วยนะคะ