ความทุกข์ของแม่ม่าย

ในห้อง 'ทุกข์และปัญหาชีวิต' ตั้งกระทู้โดย เมทินี, 2 พฤษภาคม 2011.

  1. เมทินี

    เมทินี สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    14
    ค่าพลัง:
    +4
    ดิฉันอายุ 26 ค่ะ เคยเข้ามาอ่านเรื่องราวมากมายในเวฟนี้ เคยอ่านความทุกข์ของคนอื่นมากมาย ไม่คิดว่าความทุกข์จากความรักจะเกิดขึ้นกับดิฉัน
    สำหรับคนที่เคยผ่านการแต่งงานมาแล้ว 1 ครั้ง
    ดิฉันเคยแต่งงานมาหนึ่งครั้ง เพราะสามีไม่รับผิดชอบครอบครัว และติดสุรา จึงต้องทำให้หย่าร้างกันมา ได้ 2 ปี คิดว่าคงเข็ดกับความรักไปอีกนาน ก้มหน้าเลี้ยงลูกมาตลอด 2 ปี แล้วอยู่มาวันหนึ่งก็มีผู้ชายคนหนึ่งเข้ามาในชีวิตดิฉัน ฉุดฉันขึ้นมาจากความเศร้า เขาบอกว่ารับฉันได้ทุกอย่าง ความรักเราสานต่อกันมาไม่นาน ก็ตกลงที่จะคบกัน เขาแสนดีกับดิฉันมาตลอด เกือบจะ 2 ปีแล้วค่ะ ที่คบกัน มีทะเลาะกันบ้าง แต่ไม่นานก็ดีกัน หัวเราะและร้องไห้มาด้วยกัน แต่อยู่มาเมื่อประมาณ 2 อาทิตย์ เขาเปลี่ยนไปเป็นคนละคน เขาระเบิดอารมณ์ออกมาว่าเขาทนไม่ไหวแล้ว เขาเต็มกลืนกับดิฉันมานาน ด้วยเหตุผลว่า "เราเข้ากันไม่ได้" ฉันอึ้งไปชั่วขณะ ว่าฉันทำอะไรผิด ถ้าหากทำผิด ยกโทษให้ได้บ้างหรือป่าว ดิฉันจะยอมทำทุกอย่าง เค้าปฏิเสธอย่างเดียว ไม่ให้ดิฉันถูกตัว คืนนั้นฉันอ้อนวอนเขาทั้งคืน เขาปฏิเสธอย่างเดียว คืนนั้นดิฉันนอนกอดเขาทั้งน้ำตา เหมือนนอนกอดท่อนไม้ เขาไม่เคยแยแสดิฉันสักนิด จากนั้นตอนเช้าก็ไล่ดิฉันกลับบ้าน ดิฉันก็กลับค่ะ ดิฉันบอกว่าขอมาดูแลทำความสะอาด ดูแลเสื้อผ้าให้คุณก็ได้ถ้ายังไม่ให้อภัยดิฉัน ดิฉันจะพิสูจน์ให้เขาเห็นว่าฉันรักเขามาแค่ไหน เขาปฏิเสธค่ะ ว่าถ้าดิฉันไปบ้านเขาอีก เขาจะหนีไปนอนที่อื่น ฉันแทบล้มทั้งยืนกับสิ่งที่เขาทำ กลับมาบ้านเหมือนคนตายทั้งเป็น ทุกข์ทรมานอย่างบอกไม่ถูก 2 อาทิตย์แล้ว ที่เขาไม่ติดต่อกลับมา ฉันแทบจะบ้าตาย มีหลายคนบอกฉัน ว่าเขาคงจะเจอคนอื่นที่ดีกว่าดิฉัน ฉันไม่ทราบจริง ๆว่าจะทำอะไรต่อไป มันมืดมิดไปหมด ภาพเดิม ๆ ยังตามหลอกหลอนเสมอค่ะ ณ. ตอนนี้ก็ยังเจ็บปวดอยู่ตลอดเวลา พยายามคิดถึงพ่อแม่ และลูก สวดมนต์ นั่งสมาธิ ก็ยังไม่ดีขึ้นมาสักเท่าไรเลย หรือเขาอาจจะมีเหตุผล ว่าฉันเป็นแค่แม่หม้าย ไม่มีค่าอะไร ลูกติดอีกต่างหาก แต่ดิฉันไม่เคยไปเบียดเบียนอะไรเขาเลยนะค่ะ มีแต่ให้เขาทุกอย่าง ขอความคิดเห็นจากทุกท่านนะค่ะ ดิฉันอยากจะพ้นทุกข์เหล่านี่เสียที ขอขอบคุณค่ะ ต้องขอโทษด้วยนะค่ะ พิมพ์คำว่า แม่หม้าย บนหัวกระทู้ผิด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 พฤษภาคม 2011
  2. Red-X

    Red-X เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    370
    ค่าพลัง:
    +1,217
    คงเป็นกรรมที่พี่เคยสร้างไว้ค่ะ ต่อไปนี้ก็ไม่ต้องไปยุ่งกับเขาแล้วค่ะ หมั่นสวดมนต์ภาวนา แผ่เมตตาให้เขา เพราะเมตตาชนะทุกอย่างค่ะ อย่าคิดว่าทำไมมันยังไม่เห็นผล บุญใดที่ได้กระทำจะต้องส่งผลแน่นอนค่ะ เหมือนเราปลูกต้นไม้ ถ้าปลูกถูกวิธีและดูแลมันอย่างสม่ำเสมอมันก็จะงอกให้ร่มเงาและให้ผลเรากิน ดูแลตัวเองและลูกให้มาก ๆ เพราะเรานี่แหละที่จะอยู่กับเรา ตายไปผู้ชายคนนั้นก็ไม่ได้ไปกับเราด้วย เข้มแข็งไว้ค่ะ

    Every cloud has a silver lining.(deejai)(deejai)(deejai)
     
  3. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,941
    เห็นใจมากครับ ...

    ที่สุดของการพบคือการพลัดพราก ไม่จากเป็นก็จากตาย..มีอะไรบ้างที่อยู่กับเราตลอดกาลมานับแต่เกิด เมื่อแรกอยู่ในท้องแม่ ต่อมาก็ต้องจากท้องแม่ .จากของเล่นตอนเป็นเด็กเพราะโตขึ้น..จากบ้านเพื่อไปเรียนหนังสือ...จากเพื่อนเก่าเพื่อพบเพื่อนใหม่ จากพ่อแม่ไปทำงาน จากบ้านไปแต่งงาน จากลูก จากสามีที่เลิกรากันไป.พบคนรักใหม่ก็ต้องจากอีก..จากถิ่นที่อยู่เก่าเพื่อไปที่ใหม่ จากกระทั่งที่ทำงานกับที่พักในแต่ละวัน ไม่รู้ว่าวันใดจะจากโลกนี้ไปเท่านั้น..นี่เป็นเรื่องปกติที่มีในโลก ไม่มีใครเลยที่สามารถอยู่หรือมีอะไรๆได้โดยไม่จากอะไรสักอย่างเลย กระทั่งจากเงินในกระเป๋าก็เรียกว่าจากเช่นกัน ..

    เหตุใดหนอที่น้องหญิงต้องพบเหตุการณ์น่าสะเทือนใจนี้ ..ขอให้น้องหญิงทราบว่า นี่ไม่ได้เกิดเพราะบังเอิญ อันไม่มีจริงในโลก ด้วยพระมหากรุณาแก่เหล่าสรรพสัตว์ผู้ถูกทุกข์ครอบงำแล้ว พระพุทธองค์จึงทรงตรัสสอนสิ่งประเทืองปัญญาว่า...

    สิ่งทั้งปวงย่อมใหลมาแต่เหตุ
    ..

    ดังนั้นเรื่องอันน่ารันทดที่เกิดแก่น้องหญิงนี้ จึงมีมาด้วยบาปเก่า คือการล่วงศีลข้อกาเมฯมาแล้ว ไม่อาจผิดฝาผิดตัวไปเป็นอย่างอื่นทำนองว่าเคยไปฟาดศรีษะชาวจีนหรือกล่าวผรุสวาจาด่าว่ามารดาใครๆไม่..เพราะกรรมย่อมไม่ส่งผลผิดแปลกแหวกแนวไปจากเจตนาของตนๆ..คือในสมัยใดสมัยหนึ่ง ตนเคยเกิดเป็นคนมีคุณสมบัติชนิดรูปหล่อพ่อรวยหรือสวยรวยราวนางสาวปารีส ฮิลตัน..ครานั้นก็ให้คึกคะนอง ระรานเจ้าชู้ไปไม่เลือกลูกเขาภรรยาใคร..ทำครอบครัวคนรักเขาแตกแยกเป็นหลายเสี่ยง ไม่รู้จักศีลธรรมอะไรสักอย่าง ด้วยเข้าใจว่าตนคงอยู่ค้ำฟ้า ตอนทำก็สนุกสุดเหวี่ยง คนที่เกี่ยวข้องทุกข์ขนาดน้ำตาร่วงแทบท่วมโลก กราบกรานขอร้องก็ไม่ฟัง จนคราหนึ่งมฤตยูก็ทำหน้าที่ฉุด ลากเขาไปจากโลกนั้น ส่งไปรับรางวัลที่นรกก่อน เมื่อใช้กรรมครบในแดนนั้นแล้ว ยังมีเศษกรรมเหลือ สะสมในบัญชี พอบุญนำเกิดเป็นมนุษย์ เศษกรรมนั้นพอได้ปัจจัยที่สมควร ก็ส่งผลให้ได้เสวย มีการที่ต้องเสียคนรัก คนรักนอกใจ ตกแยกเลิกร้างไป เป็นโรคทางเพศ เกิดเป็นตุ๊ดแต๋วหรือพวกผิดปกติทางเพศต่างๆ..

    ดังบรรยายมานี้ น้องหญิงคงพประมาณการได้ว่าตนเองเคยทำอะไรมาจึงได้ผลเห็นปานนี้นะครับ

    ประโยชน์อันใดที่คิดถึงเรื่องกรรมเก่า?

    บางคนว่า สิ่งที่ผ่านไปแล้วไม่ควรคิดถึง --ข้อนี้จะถูกก็ต่อเมื่อคิดแล้วตนสลดหดหู่ หงอยซึมเป็นไปกับโทสะ เสมอ หาความแช่มชื่นใจไม่มี ..แ ต่การคิดถึงเรื่องกรรมนั้นแม้พระพุทธองค์ยังทรงสอนให้คิดเสมอๆบ่อยๆว่า"เรามีกรรมเป็นของๆตน"..เพราะคิดแล้ว ย่อมสำนึกได้ เกิดหิริโอตตัปปะ คิดแก้ไข นี้เรียกว่าจิตเป็นบุญ ชั้นสูงขึ้นมาทีเดียว มีผลมหาศาลยิ่งกว่าไปนั่งเข้าพิธีแก้กรรมที่ใหนๆทั้งนั้น เพราะเป็นบุญที่ประกอบด้วย"ปัญญา".

    ก็เมื่อน้องหญิงทราบที่มาของเรื่องที่เกิดขึ้น ก็ย่อมเกิดปัญญาขึ้นระดับหนึ่ง ทีุ่อุดหนุนให้ปรารภการ"ยอมรับ"สิ่งที่กำลังเป็นไป และเมื่อยอมรับแล้ว ความเคร่งเครียดย่อมลดน้อยถอยลงบ้าง ไม่พุ่งจี๊ดแบบไร้ขอบเขตอย่างแต่ก่อน..ว่า เอ้อ นี่เราทำไม่ดีเองแล้วจะโทษใครที่ใหนเล่า?..ครานั้น โทสะที่เคยพลุ่งก็กลับลดดีกรีลง ที่คิดอาฆาตแค้นเขาก็ถดถอยจนแทบปลาสนาการหายไป ..อาจแม้กลับกลายเป็นความสงสารในคนที่เกี่ยวข้อง หากปัญญามีกำลังมากพอ..


    อ่านตรงนี้หลายๆครั้งนะครับ แล้วเลิกร้องไห้ เสียที หากนี่เป็นความจริง..น้องหญิงพึงภาคภูมิใจในคุณค่าของตน ว่าที่แท้ เราต่างหากที่เกื้อกูลเขาอยู่ เขามาพึ่งพิงเราเท่านั้น เมื่อเขาได้ที่"พิง"ใหม่ได้ก็ย่อมไม่ไยดีที่"พิง"เก่า อะไรๆที่ใหม่กว่าย่อมน่าสนใจ แต่ไม่นาน ที่สุดของความใหม่ก็คือความเก่าคร่ำคร่า ทั้งผู้หาและถูกตีค่าว่าใหม่ ทั้งหมดล้วนแปรเปลี่ยนไปเพื่อเก่าทั้งนั้น ไม่เห็นมีสิ่งใดใหม่ตลอดกาลเลยครับ...

    ส่วนเราเราทำกุศลมีการ"ให้"แก่เขา บุญนั้นย่อมสร้างผลขึ้นฉับพลันแล้ว ผลนั้นย่อมไม่จางหายไป ไม่เหมือนคำพูดของปุถุชน ที่พูดแล้วก็จางหายไปจากประสาทหูในทันทีที่พูดจบ จึงไม่พึงถือเอาสาระแห่งคำพูดใดๆของอสัตตบุรุษเลย เพราะมีแต่ความไม่แน่นอนครับ..การคิดถึงทานที่ตน"ให้"แล้วด้วยดี มีความปลาบปลื้มเสมอ ย่อมมีอานิสงค์ไพบูลย์ยิ่ง เพราะเท่ากับการรักษา สามาถรักษาเจตนาของตนได้ในกาลทั้ง๓มีก่อนทำ ขณะทำและภายหลังจากที่ทำแล้ว..



    น้องหญิงพึงทราบว่า ที่พึ่งที่พึงแสวงหาเมื่อได้เกิดมาเป็นมนุษย์คือ พระรัตนตรัย..สิ่งอื่นนอกนี้ไม่ใช่ที่พึ่งที่แท้จริงเลย..โดยเฉพาะปุถุชนผู้ที่ไม่มีศีล ..พึงเข้าใจว่า เพราะเป็นผู้ที่ขาดที่พึ่งอันสมควร คนส่วนมากจึงแสวงหาที่พึ่ง จากสิ่งหรือคนอื่น..ก็คนและสิ่งอื่น ย่อมเเปรผันไปตามอำนาจแห่งเหตุปัจจัยตลอดเวลา ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาอะไรของใคร...หากเราต้องการยึดถือเอาว่า คนนี้ต้องเป็นเช่นนี้ตลอดไป ก็ย่อมเป็นความต้องการที่ขัดกับหลักความจริง..จึงต้องทุกข์โทมนัสร่ำไปเมื่อเขาเปลี่ยนไป..

    เราไม่มีอำนาจจะบังคับบัญชาใจใครๆให้รักเราตลอดไปได้ อย่าว่าแต่ใจคนอื่นเลย แม้ใจตนก็เถิดลองบังคับมิให้เสียใจดูสิว่าทำได้ใหม?..

    อันเยื่อใยแห่งตัณหาที่เราสร้างขึ้นเพื่อผูกรัดตนให้ติดอยู่กับทุกข์นี้ ย่อมเหนียวแน่นยิ่งกว่าใยใดๆในโลก..สิ่งที่จะตัดมันได้ ไม่ใช่มีดขวานหรือแม้แต่ระเบิดปรมาณู มีแต่"ปัญญา"เท่านั้นที่จะตัดมันได้ อย่างแท้จริง..

    คนเขลาย่อมอยู่เป็นทุกข์เพราะไม่มีปัญญาคุ้มครองตน พระธรรมของพระพุทธเจ้าเท่านั้น เกื้อหนุนแก่ปัญญา บัดนี้เป็นกาละอันสมควรแล้วที่จะรักตน ขวนขวายหาปัญญาอันเป็นอาวุธเพื่อกำจัดความทุกข์ได้อย่างแท้จริง..

    ไม่พร่ำรำพันโศกถึงใครที่ไม่รักเรา หากเราไม่รักตนแล้ว ใครที่ใหนจะรักเรา? รักคนที่ควรค่าแก่การรัก มีพ่อแม่และลูกเป็นต้น ทำหน้าที่อันควรของตน ย่อมไม่เสียทีที่ได้เกิดมาเป็นคน ..

    ส่วนนายแมวที่ทิ้งไปหาที่พิงใหม่ ก็ควรดีใจที่เขาไปดีมีสุข .. ถ้าทำได้ พึงพาพ่อแม่และลูกไปเลี้ยงฉลองใหญ่ แสดงความดีใจแก่ตนที่"ภาระ"ก้อนใหญ่นี้หลุดออกไปโดยไม่ต้องออกแรงไล่..เหมือนว่าแบกครกขึ้นเขามานาน มาบัดนี้ เบาสบาย ใครจะน่าอิจฉาเท่าเราเป็นไม่มีแล้วนะครับ..

    น่าแปลกจริงที่คนชอบแบกภาระ..ปลดออกบ้างน่ะดีแล้ว บางรายอยากปลดแทบตาย ก็ปลดไม่ได้เพราะ"ภาระ"ไม่ยอม ต้องถึงกับขึ้นโรงขึ้นศาล ..น้องหญิงมีบุญมากที่ไม่ต้องเข้าถึงความลำบาก เช่นนั้น พึงทราบไว้นะครับ..

    ต่อไปนี้ก็เริ่มต้นเดินหน้าหาธรรมเพื่อเป็นสรณะ ประพฤติศีลให้มั่นคง ไม่งมงายด้วยการไปเข้าพิธีแก้กรรม เชื่อว่ากรรมมีผล แน่วแน่ในการทำกุศลกรรม ผลนั้นย่อมจัดแจงสิ่งดีให้แม้มิต้องอ้อนวอนร้องขอเลย..

    ขอให้มีความสุข พ้นทุกข์โดยเร็วพลันครับ
     
  4. meephoo

    meephoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,240
    ค่าพลัง:
    +2,133
    ผมมีเพื่อนอยู่สามคน
    คนที่หนึ่งเป็นเพื่อนที่ผมรักมาก ไปไหนผมก็เอาไปด้วยไม่อยู่ผมก็ไปหา ติดต่ออยู่ตลอดเวลา นึกถึงตลอดเวลา แต่เมื่อผมตายไป เพื่อนคนนี้ก็ไม่ยอมไปกับผมแถมทิ้งผมไปอีกต่างหาก เพื่อนคนนี้คือ 1
    เพื่อนคนที่สอง เป็นเพื่อนที่ผมรักลองลงมาจากเพื่อนคนแรก เขาจะอยู่กับผมตลอดเวลา กินนอนด้วยกัน แต่เมื่อผมตายไป เขาก็ทำให้ผมสารพัด แต่ก็ไม่ยอมไปอยู่กับผม เพื่อนคนนี้คือ 2
    เพื่อนคนที่สามเป็นเพื่อนที่ผมไม่ค่อยสนใจใยดีเท่าไรและรักน้อยที่สุดอยากไปหาก็ไป ไม่อยากก็ไม่ไปแต่เขาชอบติดตามผมตลอดเวลา จะไปไหนก็ติดตามตลอด แม้ยามผมตายไปเขาก็ไม่ยอมทิ้งผม เขาก็อุตส่าไปอยู่กับผมด้วย เพื่อนคนนี้คือ 3
    1 หมายถึง ทรัพย์สินเงินทอง
    2 หมายถึง ลูกเมียญาติพี่น้อง
    3 หมายถึง บาป - บุญ
    อย่ายึดติดอะไรเลย ตั้งต้น ดูแลตนเองและลูกให้เจริญในธรรม แล้วคุณจะพบแต่ความสุขความเจริญอย่างยั้งยืน สาธุ สาธุ สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 พฤษภาคม 2011
  5. แจ๊กซ์69

    แจ๊กซ์69 ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    3,142
    ค่าพลัง:
    +1,960
    เค้าคงมีอะไรบางอย่างที่ไม่ชอบมาพากลแน่นอน
    โดนของป่าวหรืออาจมีคนใหม่แล้วหาเรื่องเลิกก็ได้
     
  6. washiravit

    washiravit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    284
    ค่าพลัง:
    +290
  7. เมทินี

    เมทินี สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    14
    ค่าพลัง:
    +4
    ขอขอบคุณทุกท่านค่ะ

    ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาแนะนำคนโง่เขลาอย่างดิฉันให้ตาสว่าง นี้คงเป็นผลกรรมที่ดิฉันควรจะต้องชดใช้หรือไม่ค่ะ เคยแท้งลูกโดยมิได้ตั้งใจ แล้วควรจะไปแก้กรรมที่แท้งลูกไปหรือไม่ค่ะ ขอคำแนะนำให้คนเขลาด้วยนะค่ะ ขอบพระคุณค่ะ
     
  8. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,941
    ขอให้ทำความเข้าใจเรื่องการใช้กรรมก่อนว่าที่จริงคืออย่างไร เพราะชอบอ้างกันมากว่า"นี่เป็นกรรมที่ต้องชดใช้"..

    ในสิ่งที่เกิดแก่เราแล้วเราหลีกเลี่ยงไม่ได้ นั่นคือ"ผลกรรม"ที่ปรากฏครับ แต่หากเลี่ยงได้ หรือสามารถพาตนพ้นจากเรื่องนั้นๆได้ "แต่ไม่ทำ"กลับยอมจำนน จมทุกข์ตรงนี้ไม่เรียกว่า"ใช้กรรม"อะไรๆ ดังที่เข้าใจผิดๆกันมากมายแล้ว เพราะนี่คือการ"ยอมถูกตัณหาราคะใช้"เท่านั้น.

    พระพุทธเจ้าไม่เคยตรัสสอนเลยว่า "ท่านทั้งหลาย บัดนี้กรรมตามมาทันแล้ว ดีแล้ว เธอจงใช้กรรมให้หมดเสีย อย่าได้ขวนขวายเพื่อหลบหลีกเลย ดีจริงสมน้ำหน้าแล้วกับกรรมชั่วที่ทำมา..!!??" ไม่มีครับ... ทรงมีแต่ตรัสสอนเป็นอันมากว่า"บุรุษจะพ้นทุกข์ได้ด้วยความเพียร" ศาสนาพุทธจึงไม่ใช่ศาสนาแห่งการรอคอยด้วยความหวัง หรือร้องขออ้อนวอนใครให้มาบันดาลอะไรให้..เพราะไม่มีจริงและเป็นไปไม่ได้ ..เป็นศาสนาแห่งการกระทำ โดยเฉพาะ คือการทำงานด้านจิตใจ ไม่ใช่ใช้แรงงานอย่างกรรมกรครับ...

    ทีนี้จะสามารถทำงานที่ถูกควรด้านจิตใจเพื่อให้พ้นทุกข์อันรุมเร้าอยู่ ก็ต้องได้ฟังคำตรัสสอนของพระพุทธเจ้าก่อน ที่จะคิดค้นขึ้นมาเองได้นั้น"ไม่ใช่ฐานะที่จะเป็นได้" เพราะเรื่องนี้เป็นวิสัยแห่งพระสัพพัญญุตตญานเท่านั้น..

    เมื่อได้ฟังคำสอน(ที่ถูกแท้ไม่ใช่คำสอนบิดเบือนประเภทนิพพานเป็นแดนแห่งสุขอะไรๆที่แพร่หลายในปัจจุบัน) จึงจะเดินได้ถูกทาง และทำสิ่งที่ถูกและควรได้..

    ในยุคปัจจุบันมีสื่อเพื่อเรียนพระธรรมที่สะดวก แต่ก็เสี่ยงที่จะตกไปสู่ลัทธิแปลกๆที่อ้างว่าเป็นพระธรร ม ดังนั้น ผู้มี"บุญเก่า"สั่งสมมาดีแล้วเท่านั้น จึงจะพบคำสอนที่ถูกต้อง นอกนั้นก็ตกอยู่ในข่ายที่ตนเคยเสพคุ้นมาแล้วๆเล่า จึงไม่อาจหลุดจากข่ายนั้นไปได้ หรือได้ก็ยากเต็มที..

    แต่อย่าได้กังวลว่าตนไม่รู้ว่ามีบุญเก่าอยู่รึเปล่า ืเร่งทำบุญใหม่เสีย เพื่อสะสมไว้เป็นบุญเก่าในภพต่อๆไป ดีกว่าเสียเวลากังวลนะครับ..

    อานิสงค์อันยิ่งใหญ่แห่งการศึกษาพระธรรมคือ"ได้ปัจจัยแก่การมีปัญญา" มีความเห็นถูก(สัมมาทิฏฐิ) มีความองอาจกล้าหาญในกิจทั้งปวง สามารถแก้ไขทุกข์ของตนเองได้จริงแื้ท้ ถูกตรง เลิกงมงายเชื่อในเรื่องที่ไม่มีเหตุผล ไม่ถูกใครๆโดยเฉพาะกิเลสตนหอกเอาได้ในทุกกรณี มีอุปการะยิ่งกว่าคุณแห่งมารดาบิดาที่อุปการะบุตร เสียอีก เพราะใครๆไม่อาจช่วยใครอื่นให้พ้นทุกข์ได้เลย หากเว้นเสียซึ่งความมีปัญญา..

    ก็ในเมื่อไม่"ตั้งใจ"แล้วก็ไม่เป็นบาปนะครับ ที่จะเป็นบาปหรือบุญได้ "ขึ้นกับความตั้งใจ"เป็นหลักนะครับ

    แต่หากว่าเคยพาตนไปทำแท้ง อย่างนี้เรียกว่า"ตั้งใจ" แล้วเป็นบาปล่วงศีลข้อ๑ ปาณาติบาตแล้ว..เมื่อทำแล้วก็แล้วไป ไม่ต้องนำมาคิดเสียใจเศร้าใจหรือรู้สึกผิดซ้ำซาก เพราะ

    1. ไม่มีประโยชน์ แก้ไขไม่ได้แล้ว เพราะเป็นอดีตแล้ว..แล้วก็แล้วกันไปครับ

    2. การรู้สึกผิดเศร้าสลดหดหู่ตลอดมา เท่ากับปล่อยใจให้เป็นไปกับบาปใหม่คือความฟุ้งซ่าน (กุกุจจะ)มีโทสะเป็นรากฐาน เมื่อจิตเป็นไปกับบาปเช่นนี้เนืองๆ ย่อมเป็นช่องทางเป็นปัจจัยให้บาปอื่นๆไหลบ่ามาท่วมทับซ้อนอีก จึงพึงยุติความรู้สึกนี้เสียโดยทันที ให้ปวารณาว่าจะไม่ทำเช่นนี้อีกเด็ดขาด ปรารภว่าจะประพฤติศีลให้มั่นคงไม่ฆ่าสิ่งมีชีวิตแม้เล็กน้อย ความตั้งใจนี้เป็นเจตนาศีลมีอานุภาพคุ้มครองตนกว่าวัตถุมงคลทุกชนิดในโลก..ยังมีอานุภาพต่อเนื่องคุ้มตนไปในภพหน้าอันยาวไกล เพราะตนสั่งสมสันดานเพื่องดเว้นทุจริตไว้ เมื่อเกิดใหม่ย่อมเข้าถึงการอยู่ร่วมกับบรรดาผู้มีศีลมีแต่ความสงบปลอดภัยไม่เบียดเบียนกัน ..

    3. ฝ่ายทารกที่แท้งไปนั้น เพราะอำนาจบาปกรรมที่เคยล่วงศีลปานาฯมา จึงต้องแท้งหรือถูกทำแท้งไปไม่ได้เกิดเพราะบังเอิญครับ ..จึงพึงเจริญอุเบกขาด้วยปัญญาว่า"สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของเฉพาะตนจริงแท้ จึงเกิดเหตุให้เป็นไปเช่นนี้" กรรมของเขาจัดแจงมาให้ ใครเล่าจะห้ามปรามได้ เราเองพึงสังวรณ์ในการทำกรรมทั้งหลาย ละเว้นทุจริตทั้งปวง..นี้ชื่อว่า การเจริญกุศลที่ไม่ต้องเสียเงิน แถมผลมีมากกว่าชนิดเสียเงินอีกเพราะเป็นบุญที่ประกอบด้วยปัญญา..

    ปัญญาจึงเป็นหัวใจหลักในการพ้นทุกข์ได้ ไม่ใช่สมาธิหรือพิธีกรรมทั้งหลายที่ชนส่วนมากนิยมกัน

    ถ้าว่าใครจะแก้กรรมกันได้แล้วไซร้ พระพุทธเจ้าผู้เลิศประเสริฐกว่าสรรพสัตว์คงทรงทำได้แล้ว และคงทรงตรัสสอนไว้สักแห่งหนึ่งว่า"เธอทั้งหลาย พึงพากันประกอบพิธีแก้กรรมเพื่อพ้นทุกข์กันเถิด" แต่หาเท่าไรก็ไม่พบคำสอนนี้ ถ้าเช่นนั้น ที่ทำกันอยู่ก็หาใช่เรื่องของศาสนาพุทธไม่ ..และดูเถิด พระพุทธเจ้าเป็นผู้สามารถทำปาฏิหาริย์และมีฤทธิ์กว่าใครๆ ยังต้องผจญวิบากแห่งบาปเก่าเลย แล้วใครเก่งกว่าพระพุทธเจ้าครับ จึงจะสามารถแก้กรรมได้ ?นี่เป็นเรื่องของคนที่ไม่รู้ ไม่ได้สดับธรรมของสัตตบุรุษกระทำกัน กลายเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพที่หากินบนทุกข์ของคนอื่น ขอให้เข้าใจว่า กรรมอันทำไปแล้ว ไม่อาจแก้ไขใดๆ ได้ เหมือนกินข้าวอิ่มเมื่อวาน บอกว่าจะแก้ไขไม่ให้อิ่ม เพื่อจะกินเพิ่ม อย่างนี้จะเป็นไปได้อย่างไร? ..

    เมื่อจะแก้กรรม ก็แก้กรรมใหม่ คือปวารณาตนในการที่จะเจริญกุศลทั้งปวงให้ถึงพร้อม มีการศึกษาพระธรรม ประพฤติศีล ให้ทานและสวดมนตร์ เจริญวิปัสสนา..เชื่อมั่นในสรณะคือพระรัตนตรัย ไม่บูชาเทพหรือสิ่งอื่นมีจอมปลวก หรือควายสามขา ไม่วิ่งหาเจ้าพ่อเจ้าแม่ ที่ใหนเพื่อแก้ทุกข์ เชื่อมั่นในหลักกรรม ว่ากรรมดี-ชั่วมีผลจริง เมื่อเราทำดีอยู่ผลที่ดีย่อมปรากฏ แม้นไม่ต้อง อ้อนวอนร้องขอเลย ข้อสำคัญ ให้รู้ว่าที่ว่าทำดีน่ะดีจริงหรือเปล่า ประเภทที่คอร์รัปชั่นไปเลี้ยงครอบครัว ตนนึกไปคนเดียวว่านี่เป็นสิ่งดีเพราะไม่เคยคบบัณฑิต ใครจะน่าสงสารเท่าเขาคงไม่มี..

    ขอให้พ้นทุกข์และเจริญในธรรมครับ
     
  9. เมทินี

    เมทินี สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    14
    ค่าพลัง:
    +4
    ขอบคุณ คุณ ddman มากนะค่ะ ที่ช่วยชี้แนะคนโง่เขลาอย่างดิฉัน เพราะฟังคำคนอื่นมามาก บางก็ว่า ทำแท้ง ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม จะทำให้มีทุกข์อย่างหนัก ผิดหวัง ทำอะไรไม่ขึ้น พรัดพรากจากสิ่งที่รัก จะไม่สมหวังในความรักเด็ดขาด ต้องทำการแก้กรรม จึงจะหาย ณ. ตอนนี้ ก็หมั่นทำบุญ สังฆทาน อุทิศส่วนกุศล ขออโหสิกรรม จากลูกมาตลอดค่ะ ไม่ได้หวังให้ลูกหายแค้นเรานะค่ะ แต่หวังให้เขาไปผุดไปเกิดในภูมิภพที่ดี เพราะบอกได้เลยค่ะ ว่าเสียลูกคนนี้ไป มันทำให้ดิฉันเสียใจมาก ไม่เคยรู้สึกผิดอะไรขนาดนี้ เพราะเขาเกิดจากความรักที่ดิฉันมอบให้พ่อของเขา ตอนนี้ย้อนเวลากลับไปเพื่อเก็บเขาไว้ไม่ได้อีกแล้ว ต่อไปจะหมั่นรักษาศีลและเดินตามรอยพระพุทธศาสนาเพื่อเขาค่ะ ขอขอบคุณกัลยานิมิตรทุกคนนะค่ะ
     
  10. โฮม

    โฮม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    257
    ค่าพลัง:
    +282
    ขอเป็นกำลังใจให้ครับ สู้ต่อไปเพื่อลูกครับ อย่างน้อยก็ยังมีลูกที่รักเราครับ
     
  11. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,288
    เรื่องของกรรมนี่ถ้าไม่ขอให้คนมีญาณช่วยดูให้ก็ลำบากนะครับ อย่างบางทีคู่เวรคู่
    กรรมนี่เจ้ากรรมนายเวรพามาเลย เขาต้องการให้เราเจอกแบบเดียวกับที่เราทำ
    เขาไว้ ต้องการให้เราทุกขืใจเหมือนที่เขาเคยถูกกระทำบางทีอาจจะไม่ใช่ลูกที่
    แท้งไปหรอกครับคนเรามีเจ้ากรรมนายเวรเป็นร้อยๆ เลยครับผมแนะนำให้หา อ.
    บิ๊กอายส์ ห้องดูดวงนะครับแนะนำได้ตรงดี คุยกับอาจารย์ได้ทำบุญไปให้ ตอน
    ก่อนนอนเขามาหาเราเป็นฟูงเลยครับมาอนุโมทนาตอนนี้ก็ ทาน ศีล ภาวนาแก้
    กรรมไปก่อนนะครับ และศึกษาธรรมควบคู่ไปด้วยทำให้ใจเราสงบเร็วจะไปรอแก้
    กรรมอย่างเดียวมันไม่ทันการผมใช้มาสิบกว่าปีเพิ่งมาเริ่มหลุด แต่ถ้าศึกษาธรรม
    ทำกรรมฐานเราจะหายทุกข์ได้ทันทีนะครับ
     
  12. peerakul

    peerakul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    9,427
    ค่าพลัง:
    +33,493
    อ่านเรื่องของคุณแล้ว สงสารลูกของคุณค่ะ จิตใจเค้่าจะเป็นอย่างไร เมื่อมารดาผู้ให้กำเนิด ต้องร้องไห้เสียใจกับผู้ชายคนหนึ่ง ฟูมฟายหาคนอื่น แต่ลูกผู้เป็นเลือดในอก คุณดูแล รักเค้าได้แค่ไหน..........
    อาการเสียใจ เศร้าใจ กระวนกระวายคิดถึง หงุดหงิดบุคคลอื่น ฯลฯ การแสดงอาการอย่างนี้ ทั้งลูกของคุณ พ่อแม่ของคุณ ไม่มีใครสบายใจ
    สำหรับผู้ชายคนนี้ คงเป็นกรรมของคุณ เคยได้ยินคำนี้หรือไม่
    " กรรมใดที่เราไม่เคยทำ กรรมนั้นย่อมไม่ถึงเรา"


    หันไปมองลูกสักนิด...........
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 พฤษภาคม 2011
  13. เมทินี

    เมทินี สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    14
    ค่าพลัง:
    +4
    ขอขอบคุณกัลยาณมิตรทุกท่านค่ะ โดย เฉพาะคุณ Peerakul ที่กรุณาตักเตือนคนโง่เขลาอย่างดิฉัน ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ ทุกวันนี้พยายามนึกถึงพ่อแม่ และลูกชายมากที่สุดค่ะ หมั่นถือศีล ปฏิบัติธรรม ทำบุญตักบาตร และหมั่นทำจิตใจให้เข้มแข็ง หากดิฉันไม่ได้เข้ามาในเวฟพลังจิตนี้ ยังไม่ได้มาพบกัลยาณมิตรที่นี่ ก็ไม่ทราบชีวิตตัวเองเหมือนกันค่ะ ว่าจะกลายเป็นคนโง่เขลาอย่างนี้ไปอีกนานเท่าไร ขอบคุณอีกครั้งค่ะ
     
  14. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,941
    เราเป็น"ผู้เลือก"ที่จะเขลาหรือไม่ ไม่ใช่ผู้ยอมปล่อยตนไปตามความอยากเขลา..ความเขลาจะอยู่กับเรานานหรือไม่ขึ้นอยู่กับตัวเราเองว่าจะปล่อยให้มันลอยนวลเช่นนั้นอีกนานเท่าใด

    แน่นอน ความเศร้าโศกในบัดนี้อาจยังมีอยู่ ไม่อาจคลี่คลายไปได้ในทันที นี้เป็นเรื่องปกติ แต่พิจารณาเหตุที่มาของอาการนี้เถิดว่ามาจากเยื่อใยอันเราผูกมัดใจตนไว้มิใช่หรือ..เมื่อทราบเหตุแล้วจึงพิจารณาต่อไปอีกว่า เมื่อเราเกิดมาก็มาแต่เพียงคนเดียว ไม่ได้จูงใครมาด้วยก็ยังสามารถอยู่ได้เป็นปกติสุขในช่วงหนึ่งของชีวิต และน่าจะยังเป็นปกติสุขดี"หากไม่มีเรื่องรัก"มาเกี่ยวข้อง...จนในกาลหนึ่ง ได้พบบุรุษแปลกหน้า ที่ลงเอยด้วยการที่เรายอมให้เขามาเป็นพ่อของลูก.... แต่ไม่นาน เราได้อัปเปหิเขาไปจากชีวิตเพราะความน่ารังเกียจในพฤติกรรมของเขา..เราก็เคยเลือกที่จะอยู่คนเดียวเพราะเรื่องที่รับไม่ได้ของคนที่เราเคยรักมาแล้วอย่างน้อยก็๑ครั้ง...และเราก็อยู่ได้ดีมีสุข..

    ...ต่อมาก็ได้พบชายแปลกหน้าคนใหม่ที่ในที่สุดเรามอบรักให้เขา ทุ่มเทให้เพราะคิดว่าเป็นรักแท้ และในที่สุดเขาก็ทิ้งเราไป จะด้วยเหตุผลกลใดไม่ปรากฏ แต่ที่ปรากฏโดยนัยของการกระทำนั้นย่อมมาจากความที่เขาำไม่มีความสุขเมื่ออยู่กับเรา เมื่อเขาทุกข์ก็ต้องขวนขวายแก้ทุกข์ของเขา ใครๆก็ดิ้นรนเพื่อแก้ทุกข์ของตนไปโดยอาการต่างๆ ทั้งนั้นเพียงแต่อาการนั้นเป็นที่ชอบใจหรือไม่ของผู้เกี่ยวข้องเท่านั้น แล้วใครมีอำนาจห้ามปรามบังคับเขาหรือใครๆ ได้หรือ?..ดังนั้น เราผู้มีความรักเอ็นดูเขานักหนา ควรแต่จะยินดีปรีดาที่เห็นเขาทำตนให้เป็นสุข มิใช่หรือ เรารักใคร..มีพ่อแม่และลูก เรายังอยากให้ท่านและเขามีความสุขเลย แต่เหตุใดเราไม่โอบอ้อมอารีกับคนคนนี้ที่เราว่า"รักนักหนา"..นี่เป็นความรักชนิดใหนกันเล่า ?เราเห็นแก่ตัวที่อยากให้เขาอยู่กับเราเท่านั้นจริงใหม?..

    ถ้าว่า เขามาอยู่ด้วยตัว แต่ไม่มีใจให้เรา จะเอาใหม? หรือมาอยู่ด้วย แต่ก็ไปเจ้าชู้ที่อื่นลับหลัง หรือที่ร้ายกว่านั้นก็ทำต่อหน้าให้เห็น เราจะมีความสุขกว่าการที่ไม่มีเขาในเวลานี้ใหม?

    ลองพิจารณาดูเถิด เขาก็ไปแล้ว มีความสุขแล้ว เราล่ะ เป็นทาสที่ปล่อยไม่ไปหรือไร ยังผูกตนไว้กับความระทมขมขื่น เพื่อใครหรืออะไรหรือ?? การมีความสุขไม่ใช่เพราะต้องมีใครมาอยู่ด้วย ส่วนมากที่ไม่มีสุขก็เพราะมีใครมาอยู่ด้วยนั่นแหละ..คิดดูดีดีเถิดครับย่อมได้ปัญญาฆ่าความเขลา..ไม่แก่ก่อนวัยหรือร่างกายทรุดโืทรมเพราะโทมนัส..
     
  15. รำจวน

    รำจวน สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +0
    ชีวิตเป็นเช่นนี้เอง

    อ่านข้อความของทุกคนแล้วเข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้นนะ ชีวิตก็เป็นเช่นนี้แหละอย่าคิดมากเลยปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามกฏกติกาขอชีวิตเถอะ เอาใจช่วยทุกคนนะครับ แต่อหากใครมีเรื่องที่อยากคุยหรือปรึกษากันได้ทุกเรื่องยินดีนะครับที่ lam_juan@hotmail.com พร้อมจะเป็นเพื่อนกับทุกคนนะครับ
     
  16. Pawanrat-jin

    Pawanrat-jin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2008
    โพสต์:
    1,052
    ค่าพลัง:
    +3,939
    เวลาผ่านมาหลายเดือนแล้ว
    หวังว่าน้องคงเข้มแข็งขึ้นแล้วนะคะ

    เขาไม่รักเราแล้ว ก็ต้องตัดใจ
    มัวไปยื้อยุดเขา ก็ทุกข์ไม่มีสิ้นสุด
    คงทำใจได้แล้วนะจ๊ะ....
     
  17. โอกระบี่

    โอกระบี่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,477
    ค่าพลัง:
    +1,651
    ขอเป็นกำลังใจให้ด้วยอีกคนครับ ขอให้คุณผ่านเหตุการณ์ร้าย ๆ ไปได้ครับจงเข้มแข็งกับช่วงเวลาชีวิตแบบนี้ครับ มีคือไม่มี ไม่มีคือมี อย่าไปยึดติดครับปล่อยวาง.......ทุกอย่างย่อมเป็นไปตามกรรม ชีวิตเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ไม่มีอะไรเที่ยงแท้
     
  18. porntips

    porntips เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    955
    ค่าพลัง:
    +2,410
    เป็นกำลังใจให้ครับ ปล่อยมันไปเถอะไอ้พวกมดปลวกทั้งหลาย เดี๋ยวมันก็ตายไปตามวัฎจักรของมัน เราหันมาทำความสะอาดบ้าน กวาดหยากไหย่ ทิ้งขยะ เช็ดถูเครื่องเรือนเครื่องใช้อันมีแต่ประโยชน์ของเราดีกว่า ถ้ายังมาสร้างความลำคาญอีกก็ไบกอนฉีดให้ตายไปเลยดีกว่า พ่อแม่ลูกเราตัวเราจะได้ไม่ต้องรำคาญกับพวกมดปลวกอีก
     

แชร์หน้านี้

Loading...