WarRoom - อาสาสมัครเตรียมการเฝ้าระวังประสานงานเตรียมพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ปี 2013

หนังเรื่อง เดอะเดย์อาฟเตอร์ทูมอร์โร่ ตอนนต้นเรื่อง เกิดพายุงวงช้าง ขนาดเล็ก ๆ แล้วก็มารวมตัวกัน จนกลายเป็นไซโคลนขนาดใหญ่ สงสัยเมืองไทยใกล้ถึงเวลาแระ เมื่อ 29 เพิ่งเกิดที่สงขลา วันนี้สุราษ ฯ เหอะ ๆๆ


ผมอาจจะไม่ได้โพสข้อมูลอะไรมากนัก แต่ยังคอยเฝ้าดูความเคลื่อนไหวตลอดเวลา ทั้งในเวปและนอกเวป มีอะไรด่วน ๆ ยังไงก็จะรีบแจ้งครับผม

 

คณะแพทย์เตรียมถวายผ่าตัด "ในหลวง" ใส่สายระบายน้ำไขสันหลัง คืนนี้

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 2 พฤษภาคม 2554 20:44 น.


ประกาศแถลงการณ์สำนักพระราชวัง เตรียมถวายการผ่าตัดใส่สายระบายน้ำไขสันหลัง "ในหลวง" คืนนี้ หลังยังทรงพระดำเนินไม่มั่นคง เพราะมีภาวะน้ำไขสันหลังในโพรงพระสมองมากกว่าปรกติ ขณะที่พระอาการทั่วไปดี เสวยพระกระยาหารเป็นปกติ


วันนี้(2 เม.ย.) สำนักพระราชวังออกแถลงการณ์ เรื่อง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ มาประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช (ฉบับที่ 36) โดยคณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ห<WBR>ัว ได้รายงานว่าตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระ<WBR>ประชวร มีพระปรอท (เป็นไข้) และต่อมามีพระปัปผาสะ (ปอด) อักเสบ และพระอาการอ่อนเพลีย คณะแพทย์ฯ ได้ถวายการรักษาจนหายจากพระอาการประชวรแล้ว แต่ยังประทับอยู่ ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช เพื่อให้คณะแพทย์ฯ ทำกายภาพบำบัดถวายเพื่อฟื้นฟูพระวรกาย และเพิ่มกำลังพระกล้ามเนื้อ ตลอดจนถวายพระกระยาหารบำรุงตามหลักโภชนาการนั้น

ทั้งนี้ คณะแพทย์ฯ ได้ถวายการรักษาด้วยวิธีการดังกล่าวมาเป็นลำดับ แต่ยังทรงพระดำเนินไม่มั่นคง จึงได้ถวายการตรวจพิเศษต่างๆ เป็นระยะๆ ติดต่อกัน ผลปรากฏว่า ทรงมีภาวะน้ำไขสันหลังในโพรงพระสมองมากกว่าปรกติ ซึ่งอาจเป็นเหตุให้ทรงพระดำเนินไม่มั่นคง อาการเช่นนี้มักเกิดขึ้นกับผู้สูงอายุ คณะแพทย์ฯ ได้ปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางทั้งในประเทศและต่า<WBR>งประเทศ ต่างมีความเห็นตรงกันว่าควรถวายการรักษาด้วยวิธีใส่ส<WBR>ายระบายน้ำไขสันหลัง จากช่องพระสันหลังบริเวณบั้นพระองค์ (บั้นเอว) เข้าสู่ช่องพระนาภี (ช่องท้อง) ซึ่งเป็นการรักษาแบบมาตรฐานทั่วไป ทั้งนี้ได้กำหนดการถวายการรักษาในคืนวันจันทร์ที่ 2 พฤษภาคม 2554 ส่วนผลการตรวจต่างๆ ในระบบอื่นอยู่ในเกณฑ์ปรกติและพระอาการทั่วไปดี เสวยพระกระยาหารได้เป็นปรกติ คณะแพทย์ฯ จะรายงานผลการถวายการรักษาในโอกาสต่อไป

จึงประกาศมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน
สำนักพระราชวัง
2 พฤษภาคม 2554

 

เพื่อนที่แสนดี

ได้ยินคำนี้แล้วคงทำให้เพื่อนๆได้อุ่นใจขึ้นมากเลยครับ

 

ขอบคุณมากค่ะ รวมรวมอ่านง่ายดีค่ะ

 

ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 14 คน ( เป็นสมาชิก 8 คน และ บุคคลทั่วไป 6 คน ) [ แนะนำเรื่องเด่น ]
ขุนพิฆาต, zz, ketchan, Pew Pew, DukeSonic, izeberry, pattamon39, nutmof

บ้านฉางอากาศปลอดโปร่ง-ร้อนอบอ้าว ช่วงกลางวัน ช่วงกลางคืนนี้ค่อยยังชั่วหน่อย
แต่ค่อยไม่มีลมพัด อยู่บนคอนโดชั้น 7 ยังไม่รู้สึกว่ามีลมพัดเลย เห็นมีเมฆนิดหน่อย
(แต่ถ้าวันไหนมีฝนตก-ฟ้าคะนอง ลมจะแรงมาก พัดเสียงดังอู้เลยครับ) ถ้าดูตามพยากรณ์อากาศน่าจะมีฝนตกในช่วงหนึ่ง-สองวันนี้

 

ลงเรือลำเดียวกันแล้วครับ ต้องลุยแล้ว;ปรบมือ

 

พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า

ระหว่างวันที่ 2 พฤษภาคม 2554 - 8 พฤษภาคม 2554
การคาดหมาย ในช่วงวันที่ 2-5 พ.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามันตอนบน และประเทศไทย ทำให้ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองกระจาย กับมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือ และด้านตะวันตกของประเทศไทย
ส่วนในช่วงวันที่ 6-8 พ.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมบริเวณทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้ฝั่งตะวันตก และด้านตะวันตกของประเทศมีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้นในระยะนี้

ข้อควรระวัง ในวันที่ 2-4 พ.ค. ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือให้ระมัดระวังอันตรายจากสภาวะฝนที่ตกหนัก อาจทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากขึ้นได้ในระยะนี้ ส่วนในช่วงวันที่ 6-8 พ.ค. ภาคใต้ฝั่งตะวันตกจะมีมีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายจากสภาวะฝนตกหนัก และชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือในระยะนี้ไว้ด้วย

ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่
โดยมีฝนตกหนักบางแห่งทางด้านตอนบนและตะวันตกของภาค เกือบตลอดช่วง

อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศา

ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 2-5 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-60 ของพื้นที่
ส่วนมากทางตอนบนและตะวันออกของภาค

ส่วนในวันที่ 6-8 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่

อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศา ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 2-5 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่
ส่วนในวันที่ 6-8 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-60 ของพื้นที่

กับมีฝนตกหนักบางแห่งทางด้านตะวันตกของภาค

อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศา

ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-60 ของพื้นที่ ตลอดช่วง
และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 2-3 พ.ค. และ 6-8 พ.ค.

อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศา

ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นประมาณ 1 เมตร

ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) ในช่วงวันที่ 2-5 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศา

ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ส่วนในวันที่ 6-8 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่

ลมตะวันตก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) ในช่วงวันที่ 2-5 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศา

ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ส่วนในวันที่ 6-8 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง

ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 2-5 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศา

ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม

ส่วนในวันที่ 6-8 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง

ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม

ออกประกาศ 2 พฤษภาคม 2554 จากกรมอุตุนิยมวิทยา

 

หากลองนึกภาพเหตุการณ์ภัยธรรมชาติครั้งร้ายแรงที่เคยเกิดขึ้นกับประเทศไทยในอดีต แน่นอนว่า ภาพของเหตุการณ์ไล่ตั้งแต่พายุแฮเรียต ในปีพ.ศ.2505 ที่ซัดแหลมตะลุมพุก จ.นครศรีธรรมราช จนราบเป็นหน้ากลอง ถัดมาในปี พ.ศ.2532 มหาวิบัติพายุเกย์ ก็สร้างความเจ็บช้ำให้แก่ชาวบ้านหลายพื้นที่ใน จ.ชุมพร จนมาถึงช่วงปี พ.ศ.2540 พายุลินดา ก็ซัดซ้ำรอยเดิมใน จ.ชุมพร จ.ประจวบคีรีขันธ์ และ จ.เพชรบุรี...

เหตุการณ์ทั้งหมดคงอยู่ในความทรงจำของคนไทยหลายคน กระทั่งล่าสุดในช่วงต้นปีที่ผ่านก็เกิดเหตุพิบัติภัยจากพายุนาร์กีสที่ถล่มประเทศเพื่อนบ้านอย่างพม่า จนสร้างความเสียหายเกินคณานับ ซึ่งภาพเหตุการณ์ที่ไล่เรียงมานี้ หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าล้วนแล้วเกิดขึ้นจากความรุนแรงของพายุที่พัดเข้าหาชายฝั่งในลักษณะที่เรียกว่า ‘Storm surge’

** Storm surge มหัตภัยร้ายเกินมองข้าม
นาวาเอก กตัญญู ศรีตังนันท์ ผู้บังคับหมวดเรืออุทกศาสตร์ กองทัพเรือ ให้คำอธิบายว่า Storm surge คือ ปรากฏการณ์คลื่นที่เกิดขึ้นพร้อมกับพายุหมุนโซนร้อนที่ยกระดับน้ำทะเลให้สูงขึ้นกว่าปกติ อันเนื่องมาจากความกดอากาศต่ำที่ปกคลุม ณ บริเวณนั้น ซึ่งเวลาที่หย่อมความกดอากาศต่ำเคลื่อนตัวผ่านไปพร้อมกับศูนย์กลางของพายุ ทำให้แรงกดนั้นยกระดับน้ำจนกลายเป็นโดมน้ำขึ้นมา โดยเคลื่อนตัวจากทะเลซัดเข้าหาชายฝั่ง

คำถามก็คือ Storm surge มีความเหมือนหรือแตกต่างจาการการเกิดสึนามิ หรือไม่?
นาวาเอก กตัญญู ชี้แจงว่า สิ่งที่คล้ายกัน คือ รูปแบบการเคลื่อนตัวที่เป็นเหมือนคลื่นขนาดใหญ่แล้วพัดเข้าชายฝั่ง แต่ที่แตกต่างกัน คือ ลักษณะของการเกิด คือ สึนามิ เกิดขึ้นจากปรากฏการณ์ของแผ่นดินไหวใต้ทะเล ทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนส่งผลให้เกิดคลื่นขนาดยักษ์ซัดเข้าชายฝั่ง แต่กับ Storm surge จะเกิดขึ้นโดยมีตัวแปรจากพายุ

ส่วนความเสียหายนั้น คิดว่า Storm surge จะเลวร้ายมากกว่า กล่าวคือ การเกิดสึนามิจะเกิดขึ้นวันไหนก็ได้ โดยท้องฟ้าอาจจะแจ่มใส อากาศเป็นปกติ เหมือนอย่างที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วทางฝั่งอันดามันของไทย แต่หากเป็น Storm surge จะเกิดขึ้นพร้อมกับพายุซึ่งแน่นอนว่าต้องเป็นวันที่ท้องฟ้าปั่นป่วนไม่แจ่มใส สภาพอากาศเลวร้าย มีการก่อตัวของเมฆฝน ฝนตกอย่างหนัก ลมพัดแรง บริเวณชายฝั่งเกิดคลื่นโถมกระแทกอย่างหนัก คลื่นในทะเลสูง แต่เมื่อศูนย์กลางของพายุเคลื่อนเข้ามาก็จะหอบเอาโดมน้ำขนาดใหญ่ซัดเข้ามาอีกครั้ง ดังนั้น ความเสียหายจึงเพิ่มเป็นทวีคูณ
“เมื่อ Storm surge เกิดมาพร้อมกับพายุโซนร้อน เพราะฉะนั้นเมื่อพายุเข้ามาเราก็จะเห็นสัญญาณเตือนหลายอย่าง เช่น การเตือนจากกรมอุตุนิยมวิทยา และจากการสังเกตลักษณะอากาศที่จะค่อยๆ เลวร้ายลง ทำให้เรารู้ตัวล่วงหน้าหลายวันและสามารถหาทางอพยพได้ทัน แต่กับสึนามิอาจจะไม่รู้ได้เลย เพราะบางครั้งก็เกิดขึ้นในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใสไม่มีสัญญาณบอกเหตุร้ายแต่อย่างใด แต่ปรากฏการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นนั้นในช่วงหลายปีมานี้ก็เป็นอะไรที่คาดเดา พยากรณ์ได้ยากเช่นกัน ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการเกิดภาวะโลกร้อนที่ทำให้สภาพอากาศในทุกมุมโลกเกิดความแปรปรวน และยิ่งทวีความรุนแรงของเหตุการณ์ขึ้น สิ่งนี้จึงเรื่องที่ต้องได้รับการติดตามอย่างใกล้ชิด” นาวาเอก กตัญญู ให้ภาพ

** กทม.ไม่น่าห่วงเท่าชายฝั่งอ่าวไทย
นาวาเอก กตัญญู อธิบายต่อว่า เมื่อเป็นเช่นนี้หลายคนจึงตั้งคำถามว่าพื้นที่ของกรุงเทพฯ เป็นพื้นที่ชายฝั่งแล้วจะได้รับผลกระทบที่เกิดจาก Storm surge หรือไม่นั้น ต้องบอกว่าถึงแม้พื้นที่เสี่ยงการเกิดพายุจะอยู่ในอ่าวไทย แต่บริเวณก้นอ่าว หรือบริเวณปากแม่น้ำเจ้าพระยา กลับไม่เคยพบการเกิดพายุหมุนโซนร้อนมาก่อน ที่พบก็จะมีแต่ปลายๆ ของหางพายุดีเปรสชันซึ่งก็ไม่ได้เกิดความรุนแรง แต่พื้นที่ที่น่าห่วง คือ ตลอดแนวพื้นที่ราบชายฝั่งอ่าวไทยตั้งแต่ จ.ชุมพร ลงไป ซึ่งในอดีตพื้นที่เหล่านี้ก็เคยเกิดพายุไต้ฝุ่นขนาดใหญ่ซัดถล่มมาแล้ว หากมองในพื้นที่บริเวณชายฝั่งของกรุงเทพฯ โอกาสที่จะเกิดน้อย เนื่องจากพื้นที่ของกทม.เป็นพื้นที่ที่อยู่ลึกเข้าไปในแผ่นดิน แต่หากว่าเกิดพายุพัดผ่านเข้ามาบริเวณปากแม่น้ำเจ้าพระยาจริงอิทธิพลจะเข้ามาถึงตัวเมืองแน่นอน โดยเฉพาะร่องแม่น้ำเจ้าพระยา ที่จะมีมวลน้ำทะลักเข้ามาไหลเอ่อท่วมพื้นที่ชั้นในกรุงเทพฯ

นาวาเอก กตัญญู บอกอีกว่า ทางฝั่งของทะเลอันดามันก็ยังพอเบาใจได้เนื่องจากการเกิดของ Storm surge จะเกิดขึ้นได้จากการเคลื่อนตัวของศูนย์กลางพายุเข้าหาชายฝั่ง แต่หากสังเกตเส้นทางการเคลื่อนตัวของพายุที่เกิดขึ้นในไทยนั้นจะเริ่มพัดขึ้นฝั่งอ่าวไทยแล้วพัดออกจากฝั่งทางอันดามันไปพม่า บังคลาเทศ อินเดีย ทำให้ฝั่งอันดามันเป็นการเคลื่อนตัวออกนอกชายฝั่ง ซึ่งจะไม่ได้รับผลกระทบจาก Storm surge เหมือนอ่าวไทย แต่ที่ไม่ควรมองข้ามคือหากพายุหมุนเกิดขึ้นภายในแผ่นดิน และบริเวณแหล่งน้ำภายในเช่น กว๊านพะเยา บึงบอระเพ็ด หากหย่อมความกดอากาศต่ำเคลื่อนผ่านแหล่งน้ำเหล่านั้น น้ำก็จะยกตัวขึ้นมาเหมือนเช่นที่เกิดขึ้นในทะเลและก็อาจทำให้เกิดคลื่นพัดเข้าสู่ฝั่งได้เช่นกัน

“ที่ผ่านมา หลายคนให้ความสนใจในการเฝ้าระวังสึนามิ เพราะยังเป็นของใหม่ในบ้านเรา แต่ความจริงแล้วภัยคุกคามที่แท้จริงคงหนีไม่พ้น Storm surge เพราะโอกาสที่จะเกิดพายุหมุนโซนร้อนที่พัดเข้าอ่าวไทยเกิดได้ถี่กว่า สึนามิหลายเท่า” นาวาเอก กตัญญู แจกแจง

credit: รู้ทัน “Storm surge” มหันตภัยร้ายแห่งท้องทะเล

ดูจากเส้นทางพายุเกย์ที่เข้าชุมพรแล้ว จริงๆโอกาสที่มันจะวกขั้นมาแถวกรุงเทพก็ไม่ได้เป็นไปไม่ได้ แต่อาจจะเกิดยากหน่อย ผมว่าสาเหตุนี้น่าจะทำให้น้ำท่วมกรุงเทพแบบมิดเมืองได้มากที่สุด ควรระวังเป็นอย่างยิ่ง

 

ขออนุญาต....แสดงความเห็น....ต่าง....จาก นาวาเอก กตัญญู....ในบางประเด็น

1. พายุส่วนใหญ่ เมื่อเข้ามาถึงประเทศไทยก็จะอ่อนกำลัง เช่น หากมาจากทะเลจีนใต้ อ่าวตังเกี๋ย เหล่านี้....เมื่อเข้ามาถึงแผ่นดิน ประเทศเวียดนาม เขมร ก็จะอ่อนกำลัง....เพราะไม่มี...ความชื้นไปเป็นพลังงานให้แก่พายุ

แต่หากพายุมีขนาดใหญ่ (มีพลังงานมาก) เมื่อขึ้นฝั่งก็อาจไม่อ่อนกำลังโดยง่าย ก็จะ....ทะลุเข้ามา....ในประเทศไทยได้ (เคยเกิดขึ้นแล้วในภาคอีสาน....หลายครั้ง)

2. ด้านอ่าวไทยนั้น....เห็นด้วย....ว่า...ประวัติพายุเกิดขี้นบริเวณ จ.ชุมพร....เรื่อยไปถึง จ.นครศรีธรรมราช...ตลอดแนว

พายุเกย์ก่อตัว....ในอ่าวไทย....สร้างความงงงวยให้แก่นักพยากรณ์อากาศในขณะนั้น เพราะโดยปกติ....พายุจะต้องสะสมกำลัง...ในมหาสมุทร (ทะเลลึก)....แต่พายุเกย์มีการสะสมกำลังที่เร็วมาก....และเป็นทะเลตื้น (อ่าวไทย)

เพียงแต่....เราโชคดีที่....พายุเกย์....ไม่วิ่งขึ้นทางทิศเหนือเข้ากรุงเทพ !!!









3. ทางด้านฝั่งอันดามันนั้น....พายุนาร์กีสได้แสดงให้เห็นแล้วว่า....สามารถเคลื่อนตัวเข้ามาใน....ผืนดิน....ได้ไกลแค่ไหน (ดูรูปการเคลื่อนตัว)

ไม่ต้องวิเคราะห์เลยว่า....ทะเลอันดามัน (ที่ไม่ใช่มหาสมุทรอินเดีย)....สามารถสร้างพายุ....ได้รุนแรงแค่ไหน








หากพายุนาร์กีส...ไม่เปลี่ยนเส้นทาง....ขึ้นเหนือ....ก็จะทำลายทั้ง...พม่าและไทย

และจะไม่อ่อนกำลังง่ายๆ.....เพราะมันเคลื่อนตัวขนานแนวชายฝั่ง....สามารถดูดพลังงานจาก....ทะเล....แล้วเคลื่อนตัวทำลายไปเรื่อยๆ....จนอ่อนกำลัง

ดังนั้น...เราอาจไม่โชคดี....อย่างนั้นเสมอไป

ทั้งหมดทั้งปวงนี้....จะเห็นว่า....โอกาสที่เราจะโดนพายุขนาดใหญ่เข้า กทม. นั้น....มี

เราอย่าได้ฟัง...คำปลอบปะโลม....แล้วก็บอกตัวเองว่า....เราไม่เคยโดน....ก็จะไม่โดนตลอดไปชั่วกาลนาน

แต่หารู้ไม่ว่า....พายุ....ที่ทำให้คนตายระดับแสนๆคน....เฉียดเราไปนิดเดียว !!!



.

 

ราชบุรี โดนพายุพัดบ้านเรือนเสียหายนับร้อยหลังคาเรือน ไม่ไกลจาก กทม.เท่าใด

 

ดีครับ ได้มีโอกาสทำความรู้จักกัน ได้สนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน
สะดวกวันไหนก็นัดกันเลยครับ

 

ขอบคุณนะคะ ทำไปทำมาเริ่มท้อค่ะ ข้อมูลเยอะมาก เกือบถอดใจซะแล้ว แถมไม่สบายจากการไปหล่อพระ และถวายลูกแก้วที่วัดเขาวงซะอีก เลยซึมยาววววเลย

วันนี้กลับมาฮึดลุยต่อแล้วค่ะ ...

 

สวัสดีค่ะ ชาว War room
วันนี้มารายงานตัวและสภาพอากาศ
สถานที่ : บางบ่อ สมุทรปราการ
สภาพอากาศ : ขณะนี้มีกลุ่มเมฆฝนกำลังรวมตัวกัน เมฆค่อนข้างต่ำ แต่ยังมีแสงแดดอยู่ และลมพัดตลอด (แต่ยังไม่แรง)

Report by : C-4

 

แหม ทำไปได้ :boo:

สวัสดีครับ ชาว war room (falkman operation) ทุกท่าน กลับจากอุบลมา กทม แล้ว

เช้านี้ กทม (รัชดา) น่าจะเป็นวันที่ร้อนอีกวัน อากาศโปร่ง ฟ้าใสแจ๋ว มีเมฆ พอประมาณครับ

ใครอยู่ ละแวกเดียวกัน น่าจะติดต่อกันไว้บ้างนะครับ เผื่อ วันอพยพ จะได้ไปด้วยกันเน้อ

 

ภาพลักษณะอากาศวันนี้

แหลงที่มา : ขอขอบคุณภาพจาก Google earth

 

แผ่นดินไหวที่ SOUTHERN SUMATRA, INDONESIA
ขนาด : 4.7 ริกเตอร์
จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว : SOUTHERN SUMATRA, INDONESIA
วันที่ : 03 พฤษภาคม 2554 06:25 น.
ละติจูด : 5° 25' 48'' ใต้
ลองจิจูด : 102° 40' 48'' ตะวันออก
ความลึกจากระดับผิวดิน : 60 กิโลเมตร
เพิ่มเติม :

ขอขอบคุณ : ข้อมูลจากกรมอุตุนิยมวิทยา

 

นครสวรรค์ อากาศร้อน เวลานี้พระอาทิศทรงกลดอยู่สวยงามมาก

 

น้ำท่วม จะมีข่าวจรเข้ หลุดจากสวนสัตว์ หรือที่เลี้ยงกันไว้เอง แต่ฟาร์มที่สมุทรปราการ ไม่รู้ว่ามีจำนวนเท่าไร

 

อยู่แถวอโศกค่ะ ชั้น 26 ถ้ามีอะไรตอนทำงานไม่รู้จะเลือกทางไหนดีเลย
แค่รถใหญ่วิ่งผ่านก็สะเทือนแล้ว
(ช่วงที่แผ่นดินไหวเมื่อประมาณ 2-3 ปีที่แล้ว เราก็รู้สึกมึนๆ นึกว่าไม่สบาย แต่พอหันไปดูม่านเท่านั้นแหละ ถอดรองเท้าลงบันได้หนีไฟเลยค่ะ ส่วนผู้บริหารระดับสูงยังคงลงลิฟท์อยู่ แน่มาก)

 

มาให้กำลังใจค่ะ