เตือนภัยพิบัติ 2011-2012 (FW mail)

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย nuchnart, 27 เมษายน 2011.

  1. nuchnart

    nuchnart Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    58
    ค่าพลัง:
    +32
    Subject: FW: ภายใน 3-6 เดือนข้างหน้านี้ ไทยจะพบภัยพิบัติธรรมชาติรุนแรง กรุงเทพฯ น้ำจะท่วม....!!


    'นอสตราดามุสหญิง' เมืองไทย กับ 'คำทำนายระทึกขวัญ !! “ภัยพิบัติใหญ่”

    'ดร.กัญจีรา กาญจนเกตุ' กับ 'คำทำนายระทึกขวัญ !!'

    ชื่อของ “ดร.กัญจีรา กาญจนเกตุ” เคยถูกกล่าวขวัญถึงอย่างมากหลังจากทำนายเกี่ยวกับ “ภัยพิบัติใหญ่” แล้วมีคนนำออกมาเผยแพร่ ซึ่งภายหลังบุคคลผู้นี้ก็ออกมายืนยันว่าเป็นคำทำนายของตนเองจริง แต่ข้อมูลที่เผยแพร่มีความผิดเพี้ยนไป อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์หลายครั้งก็ทำให้มีหลายคนติดตามดูผลคำทำนายว่า...แม่น-ไม่แม่น ?? เธอผู้นี้เป็นใคร-อย่างไร ?? วันนี้ทีม “วิถีชีวิต” จะพาไปทำความรู้จัก.....

    @@@@@
    ดร.กัญจีรา กาญจนเกตุ เล่าว่า ในอดีตเป็นกลุ่มที่อยู่ในเหตุการณ์ 14 ตุลาฯ ณ วันนี้มีอาชีพเป็น “นักวิทยาศาสตร์การแพทย์” เรียน จบจากต่างประเทศ จบปริญญาโทด้านชีวเคมีและพันธุกรรมจากออสเตร เลียและนิวซีแลนด์ ซึ่งปัจจุบันให้ความสนใจการนั่งสมาธิและการ “ค้นคว้าทางจิต” โดยเป็นประธานชมรมวิถีธรรม-วิถีไท ทั้งนี้ กับ “สัมผัสพิเศษ” หรือ “ซิกซ์เซนส์” ดร.กัญจีราบอกว่าเกิดกับตัวตั้งแต่เด็ก

    ครั้งหนึ่งได้บอกคนรู้จักว่าอีกไม่กี่วันจะมีอุบัติเหตุมีฝรั่งตายหลายคน แล้วก็มีรถทหารจัสแม็กซ์คว่ำตายจริง ๆ และเมื่อตอนลงไปทำงานในพื้นที่ภาคใต้ก็เห็นภาพโจรก่อการร้ายจะซุ่มโจมตีก่อนล่วงหน้า
    จึงเล่าให้หัวหน้าฟัง ซึ่งก็เกิดขึ้นจริง หรือการปฏิวัติยุค รสช. ก็บอกผู้ใหญ่ไปไม่ถึง 1 สัปดาห์ก็เกิดขึ้น ทั้งยังเคยทำนายว่าคนไทยจะมีนายกรัฐมนตรีที่มีชื่อทิศใต้ซึ่งขณะนั้นไม่มีใครคาดคิด แต่ผลก็ออกมาตามนั้น และยังมีอีกหลายคำทำนายที่ตอนแรกฟังแล้วอาจจะดูไม่น่าเชื่อ แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็พิสูจน์แล้วว่าเป็นจริง อาทิ สงครามอิรัก วิกฤติค่าเงินบาท เหตุการณ์ถล่มตึกเวิลด์เทรด จนทำให้เจ้าตัวถูกเรียกว่าเป็น “นอสตราดามุสหญิง...เมืองไทย”

    “คนมักถามว่ารู้ได้อย่างไร เราก็บอกว่าคำตอบมีอยู่แล้ว เพียงแต่จะเจอคำตอบเมื่อไหร่ เหมือนนักวิจัยเก็บข้อมูลไปเรื่อย ๆ แล้ววันหนึ่งก็มีคำตอบให้ บางคนมองว่างมงาย แต่เราคิดว่าเรื่องจิตสามารถอธิบายให้เป็นรูปธรรมในเชิงวิทยาศาสตร์ได้ จึงตั้งใจค้นคว้าเพื่อหาคำตอบ”

    ในช่วงเริ่มต้นค้นคว้านั้น ดร.กัญจีรา บอกว่า เกิดเหตุประหลาดหลายครั้ง เช่นมีโอกาสเจอ “อ.ภาวาด บุนนาค” ซึ่งไม่เคยเจอตัวจริงกันเลย แต่พบกันในนิมิต 5 ครั้ง ได้กล่าวอะไรหลายอย่าง ทำให้เกิดความต้องการรู้ อยากศึกษาค้นคว้าพิสูจน์ แต่กว่าจะตามหาเจอท่านก็ถึงแก่กรรมไปแล้ว ก็ได้คุยกับคนสนิทของท่านว่าสิ่งที่ท่านบอกนั้นจริงหรือไม่ ปรากฏว่าจริง เรื่องการเปลี่ยนแปลงของบ้านเมือง ตรงนี้ยิ่งเป็นแรงบันดาลใจ

    ช่วงปี 2531-2532 เริ่มจริงจัง ทุ่มเท นั่งสมาธิ สวดมนต์ จากนั้นก็ฝึกสมาธิบำบัดซึ่งเป็นศาสตร์หนึ่งที่เอาสมาธิมาผนวกกับการเคลื่อนไหวที่ได้
    ประโยชน์กับร่างกาย แล้วให้จิตเฝ้าระวังดูการเคลื่อนไหวของเรา

    “ส่วนการทำนาย ทุกครั้งก็ไม่ได้พูดส่งเดช แต่มีหลักความเป็นไปได้ ส่วนใหญ่จะมองจะวิเคราะห์เป็นรายปี ถามว่าเคยพลาดไหม ตรงนี้แหละที่แปลก อย่างเหตุการณ์พายุนาร์กีสที่พม่า แผ่นดินไหวที่จีน ก็เคยเตือนไว้ตอนปี 2548-2549 ว่ามันจะเกิด มันก็เกิดขึ้นในปี 2551 จริง ๆ”

    ปลายปี 2550 เตือนย้ำเรื่องพม่า จีน และต่อที่อินโดนีเซีย เกิดแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด และกระทบถึง ศรีลังกากับอินเดีย ต่อเนื่องมาที่ลาว ซึ่งถ้าลาวแผ่นดินไหวไทยก็ต้องเจอ แต่ไม่รู้ว่าวงจรนี้จะเกิดเมื่อใด ?

    สำหรับคำทำนายที่เกี่ยวกับไทย ดร.กัญจีรา บอกว่า “สัญญาณอันตรายจะเกิดขึ้นด้วยคลื่นความถี่ ภาพภัยพิบัติล่าสุดที่เห็นคือ ภูเขาไฟในอินโดนีเซียปะทุและระเบิด เกิดคลื่นยักษ์ในอ่าวไทย ไม่ใช่สึนามิ แต่จะเป็นคลื่นที่ระลอกแล้วระลอกเล่าถาโถมเข้ามาพร้อม กับพายุที่มีความรุนแรงกว่าปกติ คนที่อยู่แถวริมทะเลจะได้รับผลกระทบ อาทิ เพชรบุรี สมุทร ปราการ”

    ดร.กัญจีรา อธิบายด้วยเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ว่า จากภาพที่เห็นตั้งสมมุติฐานว่าบริเวณอ่าวไทย เลียบชายฝั่งเป็นดินใหม่ที่มีโคลน เมื่อมีการขยับตัวของแผ่นดินเกาะสุมาตราก็จะมี ลักษณะเหมือนโดมิโน เมื่อตรงนี้ขยับตรงโน้นก็ขยับต่อทีละนิดไปเรื่อย ๆ ในอ่าวไทยมีหลุมใหญ่จากการขุดเจาะก๊าซธรรมชาติ สูบน้ำมันมานาน 20-30 ปี ของเหลวถูกสูบขึ้นมา ความสมดุลของโลกก็สูญเสียไป ฉะนั้นแผ่นดินต้องเลื่อนลงไปทดแทน พื้นทรายทรุดตัวลงช้า ๆ สิ่งที่เข้าไปแทนที่คือ ทราย ฟองอากาศ พื้นดินจะขยับไปเรื่อย ๆ ซึ่งต้องมีผลกระทบ

    “ภายใน 3-6 เดือนข้างหน้านี้ ไทยจะพบภัยพิบัติธรรมชาติรุนแรง จะเกิดน้ำท่วม น้ำป่าไหลหลาก แผ่นดินทรุด กรุงเทพฯ น้ำจะท่วมแผ่นดินไหวมีตึกสูงถล่ม ภาคใต้จะเกิดคลื่นพายุหนัก โดยภัยธรรม ชาติจะเกิดขึ้น 3 ช่วงคือ 1.วันที่ 26-27 ก.ค., 2.วันที่ 17-18 ส.ค., 3.ช่วงรอยต่อของวันที่ 23 ต.ค.-7 พ.ย. ซึ่งจะเหมือนเหตุการณ์ที่เคยเกิดที่กระทูน อ.พิปูน จ.นครศรีธรรม ราช แต่ครั้งนี้เกิดขึ้นที่ภาคเหนือ จะมีน้ำป่าไหลหลากรุนแรง ภูเขาเกิดแตก โดยเฉพาะที่ น่าน แพร่ และที่ อ.เถิน จ.ลำปาง เพราะมีการขุดเจาะภูเขาทำเหมืองกันมาก”

    นักวิทยาศาสตร์ผู้สนใจค้นคว้าทางจิตบอกต่อไปว่า... ถนนบ้านเราสร้างตามใจนักการเมือง ไม่ใช่ผังเมือง ทำให้ถนนหลายสายเหมือนกับเขื่อนกั้นน้ำจากภาคเหนือสู่ภาคใต้ ทำให้มีน้ำท่วมขังหลายพื้นที่ และเคยดูไว้เมื่อปี 2549 ว่าปี 2551 นี้น้ำฝนจะมากกว่าปกติ เพราะร่องความกดอากาศเคลื่อนที่สู่ภาคเหนือ แล้วนำลมมรสุมมาตก ทำให้ปริมาณน้ำในภาคเหนือเกิดการสะสม พอมากเข้าก็ไหลลงใต้ มีน้ำทะเลหนุน ทำให้ภาคกลางที่เป็นพื้นที่ลุ่มหรือทำให้กรุงเทพฯ ต้องเจอน้ำท่วมใหญ่แน่นอน “ไม่ถึงขนาดกับมิดหัว ประมาณเอวถึงอก” แม้จะมีการสร้างเขื่อนเพื่อแก้ไข แต่ก็คงแก้ไม่ได้ เพราะไม่ทันแล้วกับวิกฤติต่าง ๆ ที่รุนแรงที่จะเกิดขึ้น
    @@@@@
    ดร.กัญจีรายังบอกด้วยว่า สิ่งที่เห็นไม่ใช่ญาณ ไม่ใช่นิมิต แต่เป็นคลื่นที่มีการเก็บข้อมูลไว้แล้วส่งเข้ามา โดยที่สามารถรับคลื่นตรงนั้นได้ ซึ่งตามหลักวิทยาศาสตร์ทุกคนมีพลังงาน “คลื่นแม่เหล็ก” ที่ออกมารอบตัว แต่ตนเองมีคลื่นละเอียดกว่าจึงสัมผัสเข้าถึงได้ดีกว่า และแปรผลออกมาเป็นภาพ และเมื่อคลื่นจิตในสมองสงบก็สามารถ จูนคลื่นในอากาศได้ ทำให้รับรู้หรือเห็นเหตุการณ์ต่าง ๆ ได้ ทั้งที่เคยเกิดและยังไม่เกิดขึ้น

    “วิกฤติต่าง ๆ ที่รุนแรงจะเกิดขึ้นใน 2 ปีนี้” เป็นอีกคำทำนายระทึกขวัญที่ “ดร.กัญจีรา กาญจนเกตุ” ระบุ และกำลังรอการพิสูจน์ความแม่น ของ “นอสตราดามุสหญิง...เมืองไทย” คนนี้ !!.
    'ความจริง...ที่รอการพิสูจน์ ?'

    ดร.กัญจีราบอกว่า ตามวงจรโลกทุก 500 ปีโลกจะสวิงกลับ เช่นเมื่อ 1,000 ปีที่แล้วจีนเจริญรุ่งเรืองมาก แล้วถดถอย ตะวันตกเจริญพัฒนาขึ้น และช่วงนี้ตะวันตกถดถอยลง ตะวันออกก็จะกลับมาเฟื่องฟูอีก จะสวิงไปมาแบบนี้ ซึ่งคิดตามหลักวิทยาศาสตร์อาจเป็นผลจากพลังงานแม่เหล็กโลกที่เคลื่อนที่ตลอดเวลา ที่สำคัญทุก 3,000 ปีโลกจะเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศวิทยาทุกครั้ง จะเกิดขึ้นเพราะวงจรของโลก จากคลื่นพลังงานที่หมุนรอบโลก หรือแม้แต่สสารที่อยู่ในโลกก็มีการเคลื่อนย้ายหมุนเวียน ซึ่งวงจรพลังงานที่เคลื่อนที่มีผลต่อสสาร เมื่อสสารข้างในเคลื่อนที่ มันก็มีผลต่อเปลือกโลก ผลกระทบก็จะเกิดกับมนุษย์และธรรมชาติที่อยู่บนพื้นพิภพ

    ก่อนหน้านี้ ดร.กัญจีราจะเก็บตัว เพิ่งจะยอมเปิดให้สัมภาษณ์กับทีมวิถีชีวิต ซึ่ง ดร.กัญจีราบอกว่า ที่ให้สัมภาษณ์เพราะอยากเตือนสติคน อยากให้คนไทยตระหนักรู้ โดยช่วงนี้เป็นช่วงรอยต่อการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของโลก ซึ่งได้เคยทำนายเตือนมาตั้งแต่ปี 2545 ว่าในช่วงปี 2551-2552 จะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

    “ภัยที่เกิดขึ้นนอกจากรับรู้ด้วยโสตประสาทและตาที่สามแล้ว ยังได้ศึกษาข้อมูลวิทยาศาสตร์ แผนที่โลก ภูมิศาสตร์ ธรณีวิทยา เพราะสิ่งที่พูดต้องชัดเจนและตรวจสอบได้ ที่ออกมาพูดวันนี้เพื่อให้เกิดสติ ตระหนักรู้ ไม่ประมาทกับชีวิต พร้อมทั้งเตือนหน่วยงานที่รับผิดชอบให้เตรียมรับมือปัญหา เพื่อจะได้แก้ไขทัน คนเราวันหนึ่งต้องตาย เมื่อมีชีวิตอยู่อย่าหายใจทิ้งไปวัน ๆ เร่งสร้างกุศลบารมี และความดี สิ่งนี้เท่านั้นที่จะติดตัวเราไปได้ ไม่ได้ต้องการอวดอ้างตัวหรืออยากดัง ไม่ใช่หมอดู ไม่ใช่นักโหราศาสตร์ นักพยากรณ์ ทุกสิ่งทุกอย่างที่พูดคือความจริง ที่รอการพิสูจน์” ดร.กัญจีรากล่าว.

    บทความจาก หนังสือพิมพ์ Daily News Online
    http://www.lampang.com/main/index.php?op...59:article
     
  2. nuchnart

    nuchnart Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    58
    ค่าพลัง:
    +32
    เหตุการณ์ในไทย

    สถานที่แห่งแรกในประเทศไทย ที่จะได้เผชิญกับลาวาร้อนจากไฟใต้โลก จะเกิดขึ้นจากทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของจังหวัดแรกในภาคอีสาน ตามรอยต่อของจังหวัดที่ติดกันเป็นแนวยาว เริ่มแรกจะมีลักษณะเป็นแนวแยกของแผ่นดินคดเคี้ยว ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ธารโลหะร้อนจะไหลลามแผ่ออกไปเป็นบริเวณกว้าง ข้ามวันข้ามคืนติดต่อกัน จากนั้นพายุที่รุนแรงจะนำน้ำมาดับไฟ ก่อให้เกิดนำท่วมและโรคร้ายที่จะระบาดอย่างรุนแรง จนสุดที่จะเยียวยาได้ โดยเฉพาะอหิวาตกโรคสายพันธุ์ใหม่ ที่มนุษย์เชื่อว่าได้กำจัดมันจนหมดไปจากโลกนี้แล้ว แต่หารู้ไม่ว่ามันกำลังฟักตัว และจะมีฤทธิ์ร้ายแรงกว่าตอนที่ถูกมนุษย์ปราบมันไปตอนนั้นเสียอีก ซึ่งมันสามารถคร่าชีวิตผู้รับเชื้อได้ในระยะเวลาเพียงวันเดียวเท่านั้น

    ท้องฟ้ามืดมิด ฝนจะเริ่มตกหนักทั่วโลกอย่างไม่หยุดยั้ง น้ำจะเอ่อขึ้นเรื่อยๆ จนเข้าท่วมแผ่นดินในหลายๆ พื้นที่ พายุไซโคลนจะพัดกระหน่ำ ซึ่งจะเคลื่อนที่ด้วยความเร็วประมาณ 160 กม./ชม. พัดผ่านกรุงเทพ ผ่านช่องแม่น้ำเจ้าพระยา ตึกแห่งหนึ่งริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่อยู่ใกล้กับสะพานกลางเก่ากลางใหม่ ในย่านฝั่งธนบุรีจะพังทลายลงมา จากการโหมกระหน่ำและความบ้าคลั่งของลมพายุ มีผู้เสียชีวิตในครั้งนี้มีไม่ต่ำกว่า 600 คน
    ใน เวลาหลังจากนั้นไม่นานนัก ตึกสีขาวที่อยู่ริมแม่น้ำฝั่งตรงข้ามจะพังทลายตามลงมา ยอดตึกที่พังทลายจะแลเห็นโผล่เหนือน้ำ ให้เห็นเป็นอนุสรณ์ของคราบน้ำตา หลังคาบ้านเรือนในบริเวณใกล้เคียงจะปลิวว่อน เสาไฟฟ้าจะล้มระเนระนาด ด้วยความรุนแรงของลมพายุ ตึกสูงย่านประตูน้ำ ในกรุงเทพมหานคร ผนังตึกส่วนหนึ่งจะรูดลงมากองกับพื้น ด้วยความรุนแรงของลมพายุที่โหมกระหน่ำอย่างรุนแรง จะสร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนในบริเวณใกล้เคียง อย่างเหลือที่จะคณานับ
    เทือกเขาตะนาวศรีในเขตจังหวัดราชบุรี จะพังทลายลงมา เนื่องจากแผ่นดินไหวที่รุนแรง ซึ่งจะเปิดเผยให้เห็นถึงภูเขาไฟที่ซุกซ่อนอยู่ หลังจากนั้นไม่นานภูเขาไฟลูกแรกในประเทศไทย จะระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง เสียงดังกึกก้องกัมปนาทดังมาถึงกรุงเทพ ธารลาวาจะไหลลงไปยังฝั่งพม่า ไม่นานนักระเบิดลูกที่สอง และลูกที่สามก็ตามมา ลูกที่สี่ จะรุนแรงอย่างถึงที่สุด ซึ่งจะสร้างความอำมหิตให้กับภาคเหนือและภาคอีสานต่อไป
    ณ บ้านกุดฉิม อำเภอหนองเรือ จังหวัดขอนแก่น จะเกิดภูเขาไฟแห่งที่สองระเบิดขึ้น มีผู้เสียชีวิตประมาณ 500 คน
    เกิดแผ่นดินไหว และมีลาวาร้อนจากภูเขาไฟ ไหลเคลื่อนตัวทำลายทุกสิ่งที่ขวางหน้า
    เกิดขึ้นที่บ้านโพธิ์ อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย มีผู้เสียชีวิตร่วมพันคน

    เกิดภูเขาไฟระเบิดในจังหวัดกาฬสินธุ์ อย่างกะทันหัน จนยากที่ผู้คนในบริเวณนั้นจะตั้งตัวทัน และจะเกิดปรากฎการณ์ที่แปลกประหลาด มีจำนวนเด็กและผู้หญิงเสียชีวิตมากกว่าผู้ชาย
    จังหวัดตรัง เกาะทุกเกาะจะจมหายไป เนื่องจากลมพายุที่รุนแรงและทะเลคลั่ง ที่กลบกลืนหมู่เกาะให้หลับลึกไปอย่างรวดเร็ว
    สมุทรปราการ จะจมหายลงไปในท้องทะเลครึ่งเมืองอย่างถาวร เนื่องมาจากลมพายุที่โหมกระหน่ำ บวกกับน้ำทะเลหนุนสูง น้ำจะท่วมอย่างรวดเร็ว และมีสายน้ำเปลี่ยนทิศไหลผ่าเมืองอย่างน่าหวาดกลัว ผู้ที่รับบาดเจ็บจากหายนะในครั้งนี้ จะถูกนำส่งยังโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ที่อยู่ใกล้กับห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่านสำโรง ซึ่งโรงพยาบาลแห่งนี้จะเป็นประตูต้นทาง ของกระแสน้ำที่ไหลเปลี่ยนทิศ แต่ก็เป็นสถานที่ปลอดภัยที่สุดของเมืองสมุทรปราการ
    เกาะ สมุย จะถูกลบหายไปจากแผนที่โลก เนื่องจากแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง และเกิดพายุรวมทั้งคลื่นยักษ์ซัดกระหน่ำ จนกระทั่งเกาะทั้งเกาะจมหายลงไปในท้องทะเล อย่างไม่มีวันหวนกลับคืน
    เกิดแผ่นดินไหวที่ตัวเมืองบุรีรัมย์ เสียชีวิตทันที ผู้บาดเจ็บที่เหลือจะเสียชีวิตอย่างมากมาย ในระหว่างทางไปโรงพยาบาล
    เกาะปันหยี จังหวัดพังงา เกิดน้ำท่วมสูง และพายุที่รุนแรงโหมกระหน่ำ เกาะหายสาบสูญอย่างถาวร ผู้คนเสียชีวิตทั้งเกาะ
    เขื่อนบางลาง จังหวัดนราธิวาส ถูกคลื่นจากทะเลซัดกระหน่ำ จนกระทั่งเขื่อนแตก น้ำไหลทะลักเข้าท่วมแผ่นดิน รวมทั้งน้ำทะเลที่ถาโถมเข้าใส่แผ่นดินอย่างบ้าคลั่งจนกระทั่งไม่มีนราธิวาสหลงเหลืออยู่ในแผนที่โลก
    บ้านหาดเล็ก จังหวัดตราด ถูกคลื่นยักษ์ไซโคลนกระหน่ำ แผ่นดินหายไม่มีเหลือ
    ยะลา ถูกทะเลคลั่งโหมกระหน่ำ น้ำทะเลสูง แผ่นดินหาย เหลือเพียงเกาะเล็กๆ เท่านั้น ที่จะมีชื่อเรียกใหม่ว่า เกาะยะลา
    จังหวัดสงขลาน้ำท่วมสูง เกาะทุกเกาะจมหาย จะเหลือเพียงหาดใหญ่บางส่วนที่น้ำจะไม่ท่วมถาวร
    ชลบุรี ชายฝั่งทะเลบางแสน ถูกคลื่นยักษ์ 4-5 เมตร ซัดกระหน่ำอย่างรุนแรงจนกระทั่งมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งพังพินาศ แต่น้ำทะเลจะไม่ท่วมถาวร
    ฉะเชิงเทรา น้ำจะท่วมถึงสองฝั่งบางปะกง จนถึงฐานหลวงพ่อโสธร
    กระบี่จะถูกพายุพัดกระหน่ำ ผืนดินทางด้านตะวันออกจะหายไป ชาวประมง ประมาณ 180 คนจะถูกกลืนหายไปในท้องทะเล
    ชุมพร จะเผชิญพายุฝนที่รุนแรง คลื่นจัด น้ำท่วมสูง ศาลกรมหลวงชุมพรจะเหลือไว้เป็นอนุสรณ์ให้เห็นถึงความศักดิ์สิทธิ์
    อุทยานภูริน นางย่อง สิมิลัน จังหวัดพังงา ถูกคลื่นยักษ์ซัดหาย
    ภูเก็ต ถูกพายุถล่มอย่างบ้าคลั่ง จะกระทั่งเกาะทั้งเกาะหายไปจากแผนที่โลก มีผู้เสียชีวิตทันทีประมาณ 40,000 – 60,000 คน
    นครศรีธรรมราชน้ำท่วมใหญ่ มีผู้เสียชีวิตประมาณ 20,000 คน พังงา น้ำท่วม แผ่นดินจะถูกกลืนจมหายลงไปในท้องทะเล
    ปัตตานี ฝนตกหนักจนเกิดน้ำท่วมทั้งจังหวัด แต่ วัดช้างไห้ ของหลวงปู่ทวด จะปลอดภัย
    รูปปั้นหลวงปู่ทวดจะแสดงปาฎิหารย์ ลอยน้ำขวางกระแสน้ำเชี่ยว น้ำจะแห้ง วัดช้างไห้จะกลายเป็นเกาะกลางน้ำ

    เขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์จะพังหลาย กระแสน้ำที่เชี่ยวกราด จะทำลายทุกสิ่งที่ขวางหน้า มีผู้เสียชีวิตทันที่ประมาณ 200 คน

    เกิดภูเขาไฟระเบิดอย่างกึกก้องกัมปนาถที่จังหวัดอุตรดิตถ์ กาญจนบุรี เขื่อนศรีนครินทร์จะมีปัญหา น้ำไหลอ้อมเขื่อนท่วมด้านล่างเสียหายบางส่วน รวมทั้งน้ำท่วมสูงแผ่นดินหายถาวรครึ่งจังหวัด
    นครราชสีมา เกิดน้ำท่วมใหญ่เป็นประวัติการณ์ กระแสน้ำจะท่วมสูงจนถึงฐานของอนุสาวรีย์ ย่าโม
    ทุกจังหวัดในประเทศไทยต่างก็ได้รับความบอบช้ำด้วยกันทั้งสิ้น จะมากน้อยต่างกันไป บริเวณใดที่มีผู้คนมีศีลธรรมอาศัยอยู่ อาจได้รับการปกป้อง บรรเทาภัยพิบัติให้เ=


    --สิ่งที่แนบมาที่เป็นข้อความส่งต่อ--
     
  3. aeker

    aeker สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    78
    ค่าพลัง:
    +5
    ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ
     
  4. aeker

    aeker สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    78
    ค่าพลัง:
    +5
    ผมไปสืบค้นมาแล้ว ได้ข่าวว่าดร.กัญจีรา กาญจนเกตุ เป็นชาวยะลา มีตัวตนจริงๆครับ
     
  5. ปธ6

    ปธ6 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    349
    ค่าพลัง:
    +292
    นี่คือคำเตือนที่มีประโยชน์...อ่านแล้วเจริญมรณานุสติ

    นี่คือคำเตือนที่มีประโยชน์...อ่านแล้วเจริญมรณานุสติ
     
  6. เทพเมรัย

    เทพเมรัย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    262
    ค่าพลัง:
    +80
    เขารู้จำนวนคนเสียชีวิตได้อย่างไรกันน่ะ

    ช่วยนำคำทำนายเก่าๆที่ว่าทายถูกนั้น มาเผยแพร่จะได้ไหมครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...