พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 19 คน ( เป็นสมาชิก 4 คน และ บุคคลทั่วไป 15 คน ) </TD><TD class=thead width="14%">

    </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>sithiphong, :::เพชร:::, biz, ครึ่งชีวิต </TD></TR></TBODY></TABLE>

    สมาชิกหนาแน่นครับ

    ท่านใดที่ไม่ได้เป็นสมาชิกเว็บพลังจิต สามารถพูดคุยสอบถามผมได้นะครับ ในเว็บอกาลิโก ตามลิงค์นี้หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ซึ่งอยู่ในลายเซ็นผมครับ

    ในลายเซ็นผม จะเป็นลิงค์ทั้งหมดนะครับ ยกเว้นแต่หมายเลขบัญชี ลองนำเม้าส์ไปคลิกดูนะครับ

    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มกราคม 2007
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948

    พระชุดนี้ ผมลงในกระทู้ที่จะตั้งขึ้นใหม่นั้น ผมจะเรียกพระชุดที่องค์พระพุทธเจ้ากุกุธสันโธ ท่านเมตตาเสกให้นั้นว่า เป็นพระชุดพิเศษครับ ผมจะไม่ลงว่าเป็นพระพุทธเจ้ากุกุธสันโธเสก ครับ
    .
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เงินทอง : สำรวจเงินได้ทั้งปี จ่ายภาษีแพงไปหรือเปล่า?<O:p</O:p

    <O:p</O:p
    ทำงานมาเพลินๆ มานึกอีกที นี่ก็เข้าเดือนที่ 12 แล้ว และอีกไม่กี่วันก็จะถึงสิ้นปี และนี่ก็เริ่มที่จะมีเสียงบ่นมาจากบรรดาเพื่อนฝูงทั้งหลายว่า จะทำอะไรได้บ้าง ที่จะมีเงินออมงอกเงยเพิ่มขึ้นมาเป็นกอบเป็นกำกับเขาบ้าง <O:p</O:p
    แหม! ก็ใกล้จะสิ้นปีทั้งที จะไม่กล่าวย้ำเตือนถึงเรื่องเงินภาษี ก็คงจะกระไรอยู่
    <O:p</O:p
    ภาษีที่ว่านั้นเกี่ยวข้องกับชาวบ้านผู้มีรายได้เช่นเรานี่ล่ะ ผู้มีหน้าที่จะต้องเสียภาษีให้กับรัฐ แต่รัฐท่านก็เปิดโอกาสที่จะคืนเงินส่วนนั้นกลับคืนมาให้ โดยมีเงื่อนไขที่จะต้องออมระยะยาว <O:p</O:p
    ฟังๆ ดูแล้วเหมือนกับการบังคับอย่างไรก็ไม่รู้ แต่ก็ขอเอ่ยถึงคำกล่าวของอาจารย์ท่านหนึ่งด้วยที่ว่า การออมเงินนั้นเป็นสิ่งที่เจ็บปวด คือเราจะต้องเสียสละ อดออมในวันนี้ เพื่อความสบายในวันข้างหน้า แต่การที่เราตั้งใจจะออมโดยการนำรายได้มาลบกับรายจ่าย โดยเงินเหลือเก็บเท่าไรแล้วค่อยออมนั้น จะไม่มีวันประสบความสำเร็จขึ้นมาได้ หรือหลายคนที่บอกว่าจะออม ก็มีแต่คำว่า จะจะ กว่าจะรู้ตัวอีกที อายุปาเข้าไป 50 ปีแล้ว ก็ยังไม่มีเงินออมที่จะไปลงทุนทำอย่างอื่น และไม่มีบ้านเป็นของตัวเองเสียที <O:p</O:p
    ดังนั้น นักเศรษฐศาสตร์สมัยใหม่ เขาจึงบอกว่า การที่คนเราจะออมได้จะต้องมีการบังคับขึ้นมา ด้วยการตั้งกฎเกณฑ์ ไม่ว่าจะเป็น สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ สมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) หรือแม้แต่กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (สำหรับภาคเอกชน) และกองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ หรือ อาร์เอ็มเอฟ (ที่เหมาะสำหรับผู้มีเงินได้จากการมีอาชีพอิสระ หรือกลุ่มที่ต้องการออมเงินเพิ่มเติม) <O:p</O:p
    อย่างที่เกริ่นไว้แต่ต้นแล้วว่า รัฐได้สนับสนุนให้มีการออมเงินระยะยาว ซึ่งก็โดยให้ผู้ลงทุนในกองทุนกบข. กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และกองทุนอาร์เอ็มเอฟ สามารถนำเงินลงทุนไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในปีการลงทุนนั้นด้วย <O:p</O:p
    นอกจากนี้ ยังมีกองทุนอีกประเภทหนึ่งที่ออกมาเฉพาะกิจ และได้นำเสนอกันไปบ่อยๆ แล้วนั้นก็คือ กองทุนรวมหุ้นระยะยาว หรือ แอลทีเอฟ <O:p</O:p

    เริ่มต้นด้วยการสำรวจเงินได้ <O:p</O:p
    แล้วช่วงปลายปีนี้จะทำอย่างไรได้บ้าง ก่อนอื่นคงจะต้องมาสำรวจเงินได้ของตัวท่านเองก่อนว่า สรุปรวมทั้งปีแล้วมีรายได้เท่าไร แบบง่ายๆ เลยก็หยิบสลิปเงินเดือนขึ้นมาดู เพราะจะมีรายละเอียดให้เราทราบเลยว่า รายได้มีเท่าไร และถูกหักภาษีแต่ละเดือนไปเท่าไรแล้ว (สลิปเงินเดือนล่าสุดคงจะเป็นเดือนพฤศจิกายน ก็ลองคาดเดาดูว่าในเดือนธันวาคมนี้จะได้เท่าไรด้วย) <O:p</O:p
    จากนั้นมาลองคำนวณดูก่อน ตามรายการลดหย่อนภาษี เช่น หักค่าใช้จ่ายส่วนตัว ถ้ามีลูกและภรรยา ก็หักลดหย่อนได้อีก มีบ้านก็นำดอกเบี้ยบ้านมาลดหย่อนภาษี <O:p</O:p
    เมื่อรวมแล้วรายได้สุทธิที่ออกมาไม่เกิน 100,000 บาท จะเป็นผู้ไม่ต้องเสียภาษี ส่วนเงินที่ถูกหักภาษีไป ก็ทำเรื่องขอคืนได้ แต่หากเกินกว่านั้น ก็จะต้องเสียภาษีเพิ่มตามขั้นบันไดที่กำหนด ตั้งแต่ระดับ 5-37% <O:p</O:p
    ทั้งนี้ การเป็นผู้มีรายได้มากก็เสียภาษีมาก หลายคนอาจมองเป็นเรื่องปกติ แต่ก็อีกหลายๆ คนที่ยังเป็นโสด ไม่มีหักค่าลดหย่อนเพิ่มเติมสำหรับลูกและภรรยา หรือยังไม่มีบ้านเป็นของตัวเองที่จะนำไปผ่อนชำระค่าบ้าน ก็อาจจะมองว่าเสียประโยชน์ไปบ้าง <O:p</O:p
    จนเกิดคำถามขึ้นมากับตัวเองด้วยว่า เสียภาษีแพงกว่าชาวบ้านเขาหรือเปล่าหนอ? ซึ่งถ้าไม่อยากจะเสียแพงเกินไป รัฐเขาก็มีทางเลือกให้ และอย่างที่บอกก็คือการออมเงินระยะยาวนั่นเอง <O:p</O:p
    สิทธิในการหักลดหย่อนภาษี <O:p</O:p
    ทีนี้มาดูว่า รัฐเขาให้สิทธิประโยชน์อย่างไร ในเรื่องของการออม การลงทุน <O:p></O:p>
    เริ่มที่การซื้อ ประกันชีวิต ต้องเน้นว่าเป็นประเภทสะสมทรัพย์ สามารถลดหย่อนภาษีได้ตามเงินที่จ่ายจริงไม่เกิน 5 หมื่นบาทต่อปี (ขณะนี้รัฐกำลังพิจารณาที่จะเพิ่มค่าลดหย่อนภาษีได้เป็น 1.5-2 แสนบาทต่อปี เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายสนับสนุนภาคการออมของประชาชน) อย่างไรก็ตาม ต้องเน้นว่า การซื้อประกันชีวิตนั้น เงินที่ซื้อจะแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกคือเงินออม และส่วนที่สองคือเงินประกัน <O:p</O:p
    กองทุนบำเหน็จบำนาญ (กบข.) เป็นส่วนเงินสะสมของข้าราชการ รัฐอนุญาตให้สามารถนำไปหักลดหย่อนได้ตามเงินลงทุนจริง แต่ไม่เกิน 15% ของเงินได้ทั้งปี หรือไม่เกิน 3 แสนบาท ขณะที่พนักงานบริษัทเอกชน ซึ่งต่อไปนี้ ภาครัฐได้ออกเป็นเกณฑ์ภาคบังคับแล้ว ที่จะต้องมีการจัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ซึ่งสามารถนำเงินลงทุนไปหักลดหย่อนได้ ในอัตราดอกเบี้ยเดียวกันกับกองทุนกบข.ด้วย <O:p</O:p
    นอกจากนี้ ยังมี กองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (อาร์เอ็มเอฟ) ซึ่งเป็นกองทุนที่เน้นการออมระยะยาว เพื่อรองรับวัยเกษียณอายุในอนาคต การนำไปหักลดหย่อนภาษีในส่วนนี้จะต้องรวมกับกองทุน กบข. และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ คือรวมกันแล้วต้องไม่เกิน 15% ของเงินได้ทั้งปี หรือไม่เกิน 3 แสนบาท หรือหากเป็นผู้มีอาชีพอิสระ ก็สามารถใช้ประโยชน์จากอาร์เอ็มเอฟนี้ได้เต็มที่ <O:p</O:p
    โดยอาร์เอ็มเอฟนั้น มีเงื่อนไขที่จะต้องลงทุนต่อเนื่องจนครบอายุ 55 ปี หรือจะต้องลงทุนต่อเนื่องกันเป็นเวลา 5 ปี หรือหากต้องการเว้นว่าง กรณีฉุกเฉินไม่มีรายได้ สามารถเว้นได้ปีต่อปีเท่านั้น และหากมีการผิดเงื่อนไขก็จะต้องคืนเงินลดหย่อนภาษีย้อนหลังไป 5 ปี ให้กับรัฐด้วย <O:p</O:p
    มีคำเตือนจากผู้บริหารกองทุนด้วยว่า การลงทุนในอาร์เอ็มเอฟนั้น จะให้ได้ประโยชน์จริงๆ ควรลงทุนในสัดส่วนตามที่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี คือไม่เกิน 3 แสนบาทเท่านั้น ซึ่งหากผู้ลงทุนยังต้องการลงทุนอื่นๆ ก็สามารถนำเงินไปลงทุนโดยกระจายการลงทุนประเภทอื่นตามสัดส่วนที่เหมาะสม <O:p</O:p
    นอกจากนี้ ยังมีกองทุนพิเศษอีกประเภท ที่ออกมาเฉพาะกิจ นั่นก็คือ กองทุนรวมหุ้นระยะยาว หรือ แอลทีเอฟ กองทุนนี้ไม่มีเงื่อนไขที่จะต้องลงทุนต่อเนื่องทุกปี แต่เมื่อลงทุนไปแล้วจะต้องถือระยะยาวอย่างน้อยเป็นเวลา 5 ปี เพื่อจะได้รับสิทธิประโยชน์จากการลงทุน เช่น ซื้อปีนี้ก็สามารถนำไปหักลดหย่อนภาษี สำหรับเงินได้ภายในปีนี้เท่านั้น และต้องถือยาวไป 5 ปี หากผิดเงื่อนไขก็จะต้องคืนเงินที่หักลดหย่อนไปให้กับรัฐเช่นกัน พร้อมดอกเบี้ย 1.5% ต่อปี <O:p</O:p
    ส่วนสิทธิประโยชน์ทางภาษีนั้นก็คือ หักลดหย่อนได้ตามเงินลงทุนจริง และไม่เกิน 15% ของเงินได้ต่อปี หรือไม่เกิน 3 แสนบาท <O:p</O:p
    อย่างไรก็ตาม กองทุนประเภทต่างๆ ที่ได้นำเสนอนั้น ส่วนหนึ่งถือว่าเป็นการลงทุน ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องมีความเสี่ยง ที่ผู้ลงทุนอาจจะขาดทุนได้อย่างแน่นอน ส่วนที่ใครสนใจก็ติดต่อสอบถามจากผู้บริหารกองทุนต่างๆ ในรายละเอียดและพิจารณาก่อนการลงทุน <O:p</O:p
    และทิ้งท้ายด้วยคำเตือนจากอาจารย์ท่านผู้รู้อีกค่ะว่า การจะเลือกลงทุนกับกองทุนใดนั้น ขอเน้นที่จะต้องมีธรรมาภิบาลที่ดีด้วย<O:p</O:p
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    [​IMG] ดินสอกับยางลบ [​IMG]


    ที่มา FWD MAIL ครับ


    มีดินสอที่เขียนอย่างไรก็ไม่มีวันหมดอยู่แท่งหนึ่ง
    และมียางลบที่ลบอย่างไรก็ไม่มีวันหมดอยู่ก้อนหนึ่ง
    ฟังดูอาจตลกทุกคนอาจคิดว่าดินสอกับยางลบเป็นของคู่กันแต่ลองอ่านดูก่อนนะ
    ดินสอแท่งนั้นเป็นเพื่อนกับยางลบแท่งนั้น หน้าที่ของดินสอก็คือเขียน
    มันจึงเขียนทุกที่ทุกอย่างเสมอตลอดเวลาที่อยู่กับยางลบ
    หน้าที่ของยางลบก็คือลบ มันจึงลบทุกอย่างที่ดินสอเขียนทุกที่ทุกเวลา
    เวลาผ่านไปนานหลายสิบปี ทุกอย่างก็ยังดำเนินเหมือนเดิมเรื่อยมา
    จนกระทั่งดินสอเอ่ยกับยางลบว่า เรากับนายคงอยู่ด้วยกันไม่ได้แล้ว
    ยางลบจึงถามว่า ทำไมล่ะ
    ดินสอจึงตอบกลับไปว่า ก็เราเขียนนายลบแล้วมันก็ไม่เหลืออะไรเลย
    ยางลบจึงเถียงว่า เราทำตามหน้าที่ของเราเราไม่ผิด
    ทั้งคู่จึงแยกทางกัน
    ดินสอพอแยกทางกับยางลบมันก็ดีใจที่สามารถเขียนอะไรได้ตามใจมัน
    แต่พอเวลาผ่านไปมันเริ่มเขียนผิดข้อความที่สวยๆที่มันเคยเขียนได้ก็สกปรก
    มีแต่รอยขีดทิ้งเต็มไปหมด มันจึงคิดถึงยางลบจับใจ
    ฝ่ายยางลบพอแยกทางกับดินสอมันก็ดีใจที่ตัวมันไม่ต้องเปื้อนอีกต่อไป
    พอเวลาผ่านไป มันกลับใช้ชีวิตอย่างไร้ค่าเพราะไม่มีอะไรให้ลบ
    มันจึงคิดถึงดินสอจับใจ
    ทั้งคู่จึงกลับมาอยู่ด้วยกันใหม่
    คราวนี้ดินสอเขียนน้อยลงแต่เขียนสิ่งที่ดี
    ส่วนยางลบก็ลบเฉพาะที่ดินสอเขียนผิดเท่านั้น
    ถ้าเปรียบการเขียนเป็นการจำ ดินสอในตอนแรกก็จำทุกเรื่อง ทั้งดีและไม่ดี
    แต่ทุกครั้งที่ลืมเรื่องไม่ดีตัวมันก็จะสกปรก แต่ตอนหลังมันเลือกลืมแต่เรื่องไม่ดี
    หรือคือการให้อภัยนั่นเอง
    ฉะนั้น การเปรียบการเดินทางของทั้งคู่ดุจมิตรภาพ
    คือการจำแต่สิ่งดีๆและลืมในสิ่งที่อาจผิดพลาดบ้าง
    ขอให้ทุกคนเป็นอย่างดินสอกับยางลบตอนหลังนะ
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    วิธีบูชาพระบรมครูพระเทพโลกอุดร<O:p</O:p

    จะเป็นภาพถ่ายหรือรูปหล่อของหลวงปู่ท่าน หรือพระพิมพ์ที่หลวงปู่ท่านได้อธิษฐานจิตไว้ย่อมใช้ได้ทั้งสิ้น หลวงปู่ท่านโปรดผู้ประพฤติอยู่ในศีลธรรม ชอบอาหารมังสะวิรัติ ชอบฟังคำสวดยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก ชอบบูชาด้วยดอกมะลิสด น้ำฝน 1 แก้ว เทียนหนักหนึ่งบาท 1 คู่ ธูปหอม 5 ดอก (คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้าหรือหลวงพ่อกบ วัดเขาสาริกา) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปานหรือหลวงพ่อโอภาสี วัดโอภาสี บางมด) ) การปฏิบัติธรรมสังวรณ์ในกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ประกอบด้วยศีล 5 เป็นอย่างน้อย ย่อมเป็นสิ่งพึงพอใจของหลวงปู่และทั้งยังให้ความสุชความเจริญทั้งคดีโลกและคดีธรรมแก่ผู้ปฏิบัติ

    สำหรับพิมพ์อรหันต์ พิมพ์ปิดตา และพิมพ์มหากัจจายนะซึ่งเป็นองค์เดียวกันแต่ปางต่างกันหากจะอาราธนาอย่างพิศดารก็ย่อมกระทำได้ กล่าวคือพิมพ์อรหันต์ใหญ่ พิมพ์อรหันต์กลางและพิมพ์อรหันต์น้อย อยู่ในหมวดพระมหากัจจายนะรูปงามซึ่งเป็นรูปเดิมก่อนการอธิษฐานวรกายให้ต่อท้ายด้วยคาถาดังนี้

    พิมพ์อรหันต์
    อรหันติกัจจายนะเถโร มหาโภโค มหาลาโภ รูปะวะระเชยยะสิทธิเม
    (เชยยะ อ่านว่า ไชยะ ; รูปะวะระ แปลว่า รูปงาม)
    *** โลกุตตะโร จะ มหาเถโร อะหัง วันทามิตัง สะทา อรหันติกัจจายนะเถโร มหาโภโค มหาลาโภ รูปะวะระเชยยะสิทธิเม ***

    สำหรับสำหรับพิมพ์พระปิดตาซึ่งเป็นปางอธิษฐานวรกายให้สวดพระคาถา โลกุตตะโร จะ มหาเถโร อะหัง วันทามิตัง สะทา แล้วต่อท้ายด้วยพระคาถาต่อไปนี้
    พิมพ์พระภควัมปติ(ปิดตา)
    ควัมปติ จะ มหาเถโร มหาโภโค มหาลาโภ เชยยะสิทธิเม
    *** โลกุตตะโร จะ มหาเถโร อะหัง วันทามิตัง สะทา ควัมปติ จะ มหาเถโร มหาโภโค มหาลาโภ เชยยะสิทธิเม ***

    สำหรับพิมพ์พุงพลุ้ยที่นิยมเรียกกันว่า พระสังกัจจายน์ คำนี้ไม่มีศัพท์นี้ในภาษาบาลี ที่ถูกต้องคือ พระมหากัจจายนะ เถระเจ้าอัน
    เป็นปางหลังจากที่นิมิตวรกายแล้ว ให้สวดพระคาถา โลกุตตะโร จะ มหาเถโร อะหัง วันทามิตัง สะทา แล้วต่อท้ายด้วย พระคาถาต่อไปนี้
    อรหันติกัจจายนะเถโร มหาโภโค มหาลาโภ เชยยะสิทธิเม
    ***โลกุตตะโร จะ มหาเถโร อะหัง วันทามิตัง สะทา อรหันติกัจจายนะเถโร มหาโภโค มหาลาโภ เชยยะสิทธิเม ***
    จะเห็นว่าตัดเอาคำว่า รูปะวะระออกไปเพราะสิ้นความงดงามแล้ว

    พระพิมพ์ของคณะพระเทพโลกอุดรนั้นทุกรูปแบบทุกพิมพ์ทรงมีอานุภาพครอบจักรวาล อาราธนาทำน้ำมนต์ประสิทธิ์ยิ่งนัก โดยให้นำเอาพระแช่ในภาชนะที่บรรจุน้ำเรียบร้อยแล้ว บูชาด้วยดอกไม้ จุดธูปเทียน แล้วอธิษฐานตามความมุ่งหมาย เสร็จแล้วให้รีบนำพระขึ้นเช็ดน้ำด้วยสำลีหรือผ้าสะอาด ผึ่งลมให้แห้งก่อนนำไปบรรจุตลับ องค์พระจะไม่ละลายลบเลือนและไม่ควรแช่ในน้ำนานเกินควร จงทะนุถนอมให้จงดี เพราะหาไม่ได้อีกแล้ว

    สำหรับท่านที่มีพระอันเป็นทิพยสมบัติอันทรงคุณค่า โดยได้รับสืบทอดมาจากบรรพชนหรือได้รับจากทางใดทางหนึ่งก็ตาม เสมือนมีแก้วสารพัดนึกอยู่กับตัว ไม่จำเป็นต้องขวนขวายในอิทธิวัตถุอื่นอีก<O:p</O:p

    วิธีบูชาพระบรมครูพระเทพโลกอุดร

    คำบูชาบรมครูพระโลกอุดร
    นะโมตัสสะภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ ฯลฯ ( 3 จบ )<O:p</O:p
    โย อะริโย มะหาเถโร อะระหัง อะภิญญาธะโร ปฎิสัมภิทัปปัตโต เตวิชโช พุทธะสาวะโก พะหู เมตตาทิวาสะโน มะหาเถรา นุสาสะโก โส โลกุตตะโร นาโม อัมเหหิ อะภิปูชิโต อิฐะ ฐานูปะมาคัมมะ กุสะเล โน นิโยชะเย ปุตตะเมวะ ปิยัง เทสิ มัคคะผะลัง วะ เทสสะติ ปะระมะสาริกะธาตุ วะชิรัญจา ปิวานิตัง โส โลเก จะ อุปปันโน เอเกเนวะ หิตังกะโร อะยัง โน โข ปุญญะลาโภ อัปปะมัตโต ภะเวตัพโพ สาธุกันตัง อะนุกะริสสามะ ยัง เวเรนะ สุภาสิตัง โลกุตตะโร จะ มหาเถโร เทวะตา นะระปูชิโต โลกุตตะระคุณัง เอตัง อะหัง วันทามิ ตัง สะทา มะหาเถรา นุภาเวนะ สุขัง โสตถี ภะวันตุ เม

    บทสวด แบบย่อหรืออาราธนาพระพิมพ์ (ได้ทุกทรงพิมพ์)<O:p</O:p
    โลกุตตะโร จะ มะหาเถโร อะหัง วันทามิ ตัง สะทา
    หรือภาวนา ๓ จบ , ๗ จบ , ๙ จบ (เช้า-เย็น ตื่นนอนและก่อนนอน)<O:p</O:p
    โลกุตตะโร จะ มะหาเถโร อะหัง วันทามิ ตัง สะทา เมตตาลาโภ นะโสมิยะ อะหะพุทโธ

    หมายเหตุ : บทความที่นำมาเสนอนี้ได้รับการอนุญาตในการคัดลอกและเรียบเรียงเพื่อเผยแพรเป็นวิทยาทานจากท่าน อาจารย์ ประถม อาจสาครเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นับเป็นพระคุณและความกรุณาอย่างยิ่ง<O:p</O:p

    ผมขอเสริมนะครับ ท่านสามารถอาราธนาเป็นภาษาไทย ได้นะครับ ถ้ายังจำบทสวดของท่านไม่ได้ครับ
    <!-- / message --><!-- sig -->
    **************************************************

    ไหว้ 5 ครั้ง<O[​IMG]</O[​IMG]


    ของสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ( เจริญ ญาณวรเถระ )<O[​IMG]</O[​IMG]


    วัดเทพศิรินทราวาส<O[​IMG]</O[​IMG]

    [​IMG]

    คัดลอกจาก http://www.konmeungbua.com/saha/Lung...pu_armpan.html<O[​IMG]</O[​IMG]

    ในวันหนึ่งกับคืนหนึ่ง ไม่ว่าเวลาไร ตามแต่เหมาะต้องไหว้ให้ได้ 5 ครั้งเป็นอย่างน้อย ในคราวเดียวนั้น ถ้ามีดอกไม้ธูปเทียนก็บูชา ถ้าไม่มีก็มือ 10 นิ้วและปากกับใจ ควรไหว้จนตลอดชีวิต คือ<O[​IMG]</O[​IMG]
    <O[​IMG]</O[​IMG]

    ครั้งที่ 1 พึงนั่งกระโหย่งเท้าประณมมือว่า<O[​IMG]</O[​IMG]
    นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ฯ 3 หน แล้วว่าพระพุทธคุณ คือ<O[​IMG]</O[​IMG]
    อิติปิโส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควาติ ฯ<O[​IMG]</O[​IMG]
    หยุดระลึกถึงพระปัญญาคุณทรงรู้ดีรู้ชอบสิ้นเชิง พระบริสุทธิคุณทรงละความเศร้าหมองได้หมด พระกรุณาคุณทรงสงสารผู้อื่นและสั่งสอนให้ปฏิบัติตามของพระพุทธเจ้า จนเห็นชัดแล้วกราบลงหน 1 ฯ <O[​IMG]</O[​IMG]
    <O[​IMG]</O[​IMG]

    ครั้งที่ 2 ว่าพระธรรมคุณ คือ<O[​IMG]</O[​IMG]
    สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโน สนฺทิฆฐิโก อกาลิโก เอหิปสฺสิโก โอปนยิโก ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺโพ วิญญูหีติ ฯ<O[​IMG]</O[​IMG]
    หยุดระลึกถึงคุณพระธรรมที่รักษาผู้ปฏิบัติตามไม่ให้ตกไปในที่ชั่ว จนเห็นชัดแล้วกราบลงหน 1 ฯ <O[​IMG]</O[​IMG]
    <O[​IMG]</O[​IMG]

    ครั้งที่ 3 ว่าพระสังฆคุณ คือ<O[​IMG]</O[​IMG]
    สุปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ อุชุปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ ญายปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ สามีจิปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ ยทิทํ จตฺตาริ ปุริสยุคานิ อฏฐปุริสปุคฺคลา เอส ภควโต สาวกสงฺโฆ อาหุเนยฺโย ปาหุเนยฺโยทกฺขิเนยฺโย อญฺชลิกรณีโย อนุตฺตรํ ปุญฺญกฺเขตฺตํ โลกสฺสาติฯ<O[​IMG]</O[​IMG]
    หยุดระลึกถึงคุณ คือ ความปฏิบัติดี ปฏิบัติตรง ปฏิบัติถูก ปฏิบัติชอบ ของพระอริยสงฆ์ จนเห็นชัดแล้วกราบลงหน 1 ฯ<O[​IMG]</O[​IMG]
    นั่งพับเพียบประณมมือตั้งใจถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะไม่ถือสิ่งอื่นยิ่งกว่าจนตลอดชีวิต ว่าสรณคมน์ คือ<O[​IMG]</O[​IMG]
    พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามิ<O[​IMG]</O[​IMG]
    ธมฺมํ สรณํ คจฺฉามิ<O[​IMG]</O[​IMG]
    สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ<O[​IMG]</O[​IMG]
    ทุติยมฺปิ พุทธํ สรณํ คจฺฉามิ <O[​IMG]</O[​IMG]
    ทุติยมฺปิ ธมฺมํ สรณํ คจฺฉามิ<O[​IMG]</O[​IMG]
    ทุติยมฺปิ สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ <O[​IMG]</O[​IMG]
    ตติยมฺปิ พุทธํ สรณํ คจฺฉามิ <O[​IMG]</O[​IMG]
    ตติยมฺปิ ธมฺมํ สรณํ คจฺฉามิ<O[​IMG]</O[​IMG]
    ตติยมฺปิ สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ <O[​IMG]</O[​IMG]
    <O[​IMG]</O[​IMG]

    ครั้งที่ 4 ระลึกถึงคุณมารดาบิดาของตน จนเห็นชัดแล้ว กราบลงหน 1 ฯ<O[​IMG]</O[​IMG]
    ข้า ฯ ขอ กราบไหว้คุณท่านบิดาและมารดา<O[​IMG]</O[​IMG]
    เลี้ยงลูกเฝ้ารักษา แต่คลอดมาจึงเป็นคน<O[​IMG]</O[​IMG]
    แสนยากลำบากกายไป่คิดยากลำบากตน<O[​IMG]</O[​IMG]
    ในใจให้กังวลอยู่ด้วยลูกทุกเวลา<O[​IMG]</O[​IMG]
    ยามกินพอลูกร้องก็ต้องวางวิ่งมาหา<O[​IMG]</O[​IMG]
    ยามนอนห่อนเต็มตาพอลูกร้องก็ต้องดู<O[​IMG]</O[​IMG]
    กลัวเรือดยุงไรมดจะกวนกัดรีบอุ้มชู<O[​IMG]</O[​IMG]
    อดกินอดนอนสู้ ทนลำบากหนักไม่เบา<O[​IMG]</O[​IMG]
    คุณพ่อแม่มากนักเปรียบน้ำหนักยิ่งภูเขา<O[​IMG]</O[​IMG]
    แผ่นดินทั้งหมดเอามาเปรียบคุณไม่เท่าทัน<O[​IMG]</O[​IMG]
    เหลือที่ จะแทนคุณ ของท่านนั้น ใหญ่อนันต์<O[​IMG]</O[​IMG]
    เว้นไว้ แต่เรียนธรรม์ เอามาสอนพอผ่อนคุณ<O[​IMG]</O[​IMG]
    สอนธรรมที่จริงให้ รู้ไม่เที่ยงไว้เป็นทุน<O[​IMG]</O[​IMG]
    แล้วจึงแสดงคุณ ให้เห็นจริงตามธรรมดา<O[​IMG]</O[​IMG]
    นั่นแหละจึงนับได้ ว่าสนองซึ่งคุณา<O[​IMG]</O[​IMG]
    ใช้ค่าข้าวป้อนมาและน้ำนมที่กลืนกิน ฯ<O[​IMG]</O[​IMG]
    <O[​IMG]</O[​IMG]

    ครั้งที่ 5 ระลึกถึงคุณของบรรดาท่านผุ้มีอุปการคุณแก่ตน เช่น พระมหากษัตริย์และครูบาอาจารย์ เป็นต้นไป จนเห็นชัดแล้วกราบลงหน 1 ฯ<O[​IMG]</O[​IMG]
    ข้า ฯ ขอนอบน้อมคุณแด่ท่านครู ผู้อารี<O[​IMG]</O[​IMG]
    กรุณาและปรานีอุตส่าห์สอนทุก ๆ วัน<O[​IMG]</O[​IMG]
    ยังไม่รู้ ก็ได้รู้ ส่วนของครูสอนทั้งนั้น<O[​IMG]</O[​IMG]
    เนื้อความทุกสิ่งสรรพ์ดีชั่วชี้ ให้ชัดเจน<O[​IMG]</O[​IMG]
    จิตมากด้วยเอ็นดูอยากให้รู้เหมือนแกล้งเกณฑ์<O[​IMG]</O[​IMG]
    รักไม่ลำเอียงเอนหวังให้แหลมฉลาดคม<O[​IMG]</O[​IMG]
    เดิมมืดไม่รู้แน่เหมือนเข้าถ้ำเที่ยวคลำงม<O[​IMG]</O[​IMG]
    สงสัยและเซอะซมกลับสว่างแลเห็นจริง<O[​IMG]</O[​IMG]
    คุณส่วนนี้ควรไหว้ ยกขึ้นไว้ ในที่ยิ่ง<O[​IMG]</O[​IMG]
    เพราะเราพึ่งท่านจริงจึงได้รู้ วิชาชาญ ฯ<O[​IMG]</O[​IMG]

    (บทประพันธ์สรรเสริญคุณมารดาบิดา และ ครูบาอาจารย์ของ ท่านอาจารย์ จางวางอยู่ เหล่าวัตร วัดเทพศิรินทราวาส<O[​IMG]</O[​IMG]

    ลิขสิทธิ์เป็นของ ท่านเจ้าคุณพระโศภนศีลคุณ (หลวงปู่หลุย พาหิยาเถร) วัดเทพศิรินทราวาส)
    <O[​IMG]</O[​IMG]
    ต่อไปนี้ไม่ต้องประณมมือ ตั้งใจพิจารณาเรื่อง และร่างกายของตนว่า จะต้องแก่ หนีความแก่ไปไม่พ้น จะต้องเจ็บ หนีความเจ็บไปไม่พ้น จะต้องตาย หนีความตายไปไม่พ้น จะต้องพลัดพรากจากของรักของชอบใจทั้งสิ้น มีกรรมเป็นของตัว คือ ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นอนิจจังไม่เที่ยง ไม่แน่นอน เป็นทุกข์ลำบากเดือดร้อน เป็นอนัตตา ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของตน ฯ ครั้งพิจารณาแล้ว พึงแผ่กุศลทั้งปวงมีการกราบไหว้เป็นต้นนี้ อุทิศให้แก่ท่านผู้มีคุณมีมารดาบิดา เป็นต้น ตลอดจนชั้นสูงสุด คือพระมหากษัตริย์ ทั้งเทพยดามนุษย์และสัตว์ทั้งหลายว่า จงเป็นสุข ๆ อย่ามีเวรมีภัยเบียดเบียนกันและกัน รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเถิด ฯ
    <O[​IMG]</O[​IMG]
    การไหว้ 5 ครั้งนี้ ถ้าวันไหนขาด ให้ไหว้ใช้ 5 ครั้งในวันรุ่งขึ้น ถ้านั่งกระโหย่งเท้าไม่ได้ ก็นั่งพับเพียบ ถ้าไม่ได้ ก็นอนไหว้ เมื่อยกมือไม่ขึ้น ก็ปากกับใจ ถ้าทำได้อย่างนี้เป็นเครื่องพยุงตนให้เป็นคนดี ไม่ให้เป็นคนชั่ว และให้ตั้งอยู่ในที่ดี ไม่ให้ตกไปในที่ชั่ว ถ้าผู้ใดประพฤติได้เสมอตลอดชีวิต ผู้นั้นจะอุ่นใจในตัวของตัวเอง มีความเจริญงอกงามไพบูลย์ยิ่ง ๆ ขึ้นเสมอทุกคืนทุกวัน คุ้มครองป้องกันภยันตรายปราศจากความเสียหายที่ไม่เหลือวิสัย และ ตั้งตัวได้ในทางคดีโลกและทางคดีธรรม เต็มภูมิเต็มขั้นของตน ๆ ทุกประการ จบเท่านี้ ฯ

    สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ( เจริญญาณวรเถระ )

    http://72.14.235.104/search?q=cache:...h&ct=clnk&cd=7

    [​IMG]

    สมเด็จพระพุทธโฆษจารย์ นามเดิม เจริญ สุขบท เกิดในรัชกาลที่ 5 เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ.2415 ที่จังหวัดชลบุรี เป็นบุตรนาย ทองสุก และนางย่าง

    เมื่ออายุ 8 ปี ได้เป็นศิษย์ของท่านเจ้าคุณชลโธปมคุณมุณี (พุฒ ปุณณกเร) ปฐมวัยอาวาสวัดเขาบางทราย

    เมื่ออายุ 12 ปีได้บรรพชาที่วัดเขาบางทราย และเข้าศึกษาพระปริยัติธรรมที่วัดราชบพิธอุปสมบทเมื่อวันศุกร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ.2435 ที่วัดเขาบางทราย จังหวัดชลบุรี พ.ศ.2439 ได้ศึกษาพระวินัยปิฎกในสำนัก สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาวชิรญาณวโรรส ที่วัดเทพศิรินทราวาส

    "ตาบุญ (พระยาธรรมปรีชา) ผู้เป็นอาจารย์สอนบาลีของ
    เจ้าพระคุณสมเด็จฯ มอบช้างเผือกส่งเข้ามาให้ "
    สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยา วชิรญาณวโรรส ออกพระโอษฐ์รับสั่งเมื่อครั้งสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ญาณวรเร) สอบไล่ภาษาบาลี ในมหามงกุฎราชวิทยาลัยได้ที่ 1ทุกชั้นเป็นลำดับมา

    พ.ศ.2441 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เป็นพระราชาคณะที่พระอัมราภิลักขิต เป็นผู้อำนวยการศึกษามณฑลปราจีนบุรี ต่อมาได้ตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาสได้เลื่อนสมณศักดิ์เรื่อยมา

    พ.ศ.2471 โปรดให้สถาปนาขึ้นเป็นสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์

    พ.ศ.2476กรรมการเถรสมาคมมีมติให้ท่าน เป็นประธานกรรมการมหาเถรสมาคมบัญชาการคณะสงฆ์แทนพระสังฆราชเจ้าซึ่งสิ้นพระชนม์ ประมวลเกียรติคุณพิเศษสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ญาณวรเร)เป็นพระเถระบริหารงานพระศาสนาถึง 5 แผ่นดิน คือแต่รัชกาลที่ 5-9 เป็นพระราชาคณะแต่อายุ 28 ปี เป็นสมเด็จพระราชาคณะแต่อายุ 57 ปี นับเป็นพระเถระที่ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์พรรษาน้อยกว่า พระเถระหลายรูปเป็นเจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาส แต่อายุ 28 ปี ถึง 80 ปีรวม 53 ปี นับว่ายาวนานที่สุดไม่มีใครเทียบได้
    เมื่อสอบนักธรรม หรือบาลีจะสอบได้ที่ 1 ทุกชั้นทุกประโยคเป็นรูปเดียวในสังฆมณฑล ดำรงตำแหน่งแม่กองธรรมสนามหลวง แม่กองบาลีสนามหลวง องค์เดียวกัน
    ในวันที่ 8 มิถุนายน พ.ศ.2494เวลา 10.30 น. สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ญาณวรเระ)มรณภาพด้วยโรคเนื้องอกที่ตับรวมอายุได้ 80 ปี พรรษาที่ 59

    ความคิดเห็นส่วนตัวผม
    ท่านสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (เจริญ ญาณวรเถระ) ท่านเป็นพระอุปัชฌาย์ของท่านเจ้าคุณนรรัตนราชมานิต (ตรึก จินตยานนท์) ท่านบอกกับผู้ที่ไปกราบท่านว่า ขอให้ทุกๆวันได้ไหว้ 5 ครั้ง จะได้เป็นศิริมงคลกับตนเอง จะเหมือนกับชื่อของท่าน (เจริญ) ครับ ท่านเจ้าคุณนรเอง ก็มีความเคารพในท่านสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (เจริญ)มาก โดยท่านเจ้าคุณนรเอง เวลาเดินผ่านกุฎิของท่านสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์(เจริญ)ทุกครั้ง ท่านเจ้าคุณนร ก็จะก้มลงกราบที่กุฎิอยู่ทุกครั้งครับ

    .*********************************************.

    คำอธิฐานขอบารมี<O:p</O:p

    ข้าพเจ้าขอเดชะพลานิสงค์<O:p</O:p
    เมื่อจะปลงชีวิตขอให้คิดได้<O:p</O:p
    ขออย่าได้มีมารมาผจญดลใจ เทพไทจงเห็นเป็นพยาน<O:p</O:p
    ขอให้ข้าพเจ้าได้ขจัดตัดกิเลส <O:p</O:p
    ขอข้ามเขตแว่นแคว้นแดนสงสาร<O:p</O:p
    ขอให้ได้สำเร็จประโยชน์โพธิญาณ
    เข้านิพพานพ้นทุกข์สุขสบาย<O:p</O:p
    ขอให้สมมาตรปรารถนาอย่าช้านัก
    การสิ่งใดรักชอบให้สมอารมณ์หมาย<O:p</O:p
    ขอให้พบพระทุกชาติอย่าคลาดคลาย <O:p</O:p
    ขออย่าให้ตายกลางอายุปัจจุบัน<O:p</O:p
    ตั้งแต่ชาตินี้จนชาติหน้า <O:p</O:p
    ขออย่าข้องขัดทรัพย์สินทุกสิ่งสรรพ<O:p</O:p
    การสิ่งใดบาปหยาบช้าทุกสิ่งอัน
    การสิ่งนั้นขออย่าได้พบประสพเลย<O:p</O:p

    นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ<O:p</O:p

    ( อธิฐานทุกครั้ง หลังไหว้พระสวดมนต์แล้ว )




    เมื่อเจ้ามา มีอะไร มาด้วยเจ้า <O:p</O:p
    เจ้าจะเอา แต่สุข สนุกไฉน<O:p</O:p
    เจ้ามามือเปล่า เจ้าจะ เอาอะไร <O:p</O:p
    เจ้าก็ไป มือเปล่า เหมือนเจ้ามา<O:p</O:p
    ยศและลาภ หาบไป ไม่ได้แน่ <O:p</O:p
    มีเพียงแต่ ต้นทุน บุญกุศล<O:p</O:p
    ทรัพย์สมบัติ ทิ้งไว้ ให้ปวงชน <O:p</O:p
    แม้ร่างตน เขาก็เอา ไปเผาไฟ<O:p</O:p
    <!-- / message --><!-- / message --><!-- sig -->​
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]

    (ร่วมทำบุญ"งานบุญคุณแผ่นดิน"และจัดตั้งโรงทานเพื่อทำอาหารเลี้ยงพระสงฆ์จำนวน ๕,๐๐๐ รูป และ ภาพบรรยากาศงาน "บุญคุณแผ่นดิน" 16 ธ.ค. 49 ณ ทุ่งลุมพลี )

    ในงานบุญคุณแผ่นดินที่ผ่านมา ผมเองได้บูชาตะกรุดยันต์พิชัยสงครามมา 1 ดอก ตะกรุดแบบที่ผมบูชามานี้พระอาจารย์นพวรรณท่านสร้างไว้แค่ 50 ดอกเท่านั้น วิธีใช้ให้เขียนชื่อ - นามสกุล และดวงตนเองใส่ในแผ่นทองหรือแผ่นเงิน แล้วสอดไว้ในตะกรุด เพื่อเสริมบารมีของตนเอง ผมมีแค่ 1 ดอกเท่านั้น แต่ผมจะนำมาให้บูชาเพื่อนำเงินไปสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ที่สำนักสงฆ์ศรีชัยผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ ผมให้บูชาดอกละ 15,000.-บาทครับ หากท่านใดสนใจจองไว้ก่อนได้ (ผมบูชามา 1,500 บาท แต่เนื่องจากว่าตะกรุดนี้สร้างโดยพระอาจารย์นพวรรณ มีการจารยันต์พิชัยสงครามทุกอย่าง พระอาจารย์นพวรรณเป็นผู้ที่ศึกษาเรื่องพิชัยสงครามมามาก และตะกรุดนี้ผ่านพิธีพุทธาภิเษางานบุญคุณแผ่นดิน และมีแค่ 50 ดอกเท่านั้น) เท่าที่ผมฟังจากพระอาจารย์นพวรรณ ท่านบอกว่าท่านจะไม่สร้างอีกแล้ว ตะกรุดนี้จึงหาได้ยาก ผู้ที่ครอบครองไว้จึงหวงแหนกันครับ

    ส่วนหมายเลขบัญชีสำหรับการสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ ผมจะนำมาแจ้งให้ทราบอีกครั้งครับ

    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    [​IMG]
    พระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง
    ที่สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ

    [​IMG]

    *************************************************
    *************************************************
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มกราคม 2007
  8. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    [​IMG] มาแอบตามดูงานบุญสร้างเจดีย์ ข รับ
    มีข่าวว่า แจกพระชุดพิเศษ ด้วย
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ท่านใดที่ร่วมบุญบริจาคแล้วมีความประสงค์ที่จะขอรับพระพิมพ์ โปรดแจ้ง ชื่อ - นามสกุล และที่อยู่ ผ่านทางข้อความส่วนตัวมาให้คุณนักเดินทางหรือผม เพื่อจะได้จัดส่งพระพิมพ์ไปให้ครับ

    และหากได้รับพระพิมพ์แล้ว ผมขอความกรุณาช่วยแจ้งให้ทราบด้วย จะได้ไม่เป็นห่วงว่าพระพิมพ์ได้ถึงมือผู้รับแล้วหรือไม่ครับ


    [​IMG]
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    จากกระทู้ เชิญร่วมบริจาคค่าขุดบ่อบาดาล สนส บ่อเงินบ่อทอง
    http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=61609
    บัญชีออมทรัพย์ 2030-06304-5 บัญชี รร.พระปริยัติธรรมบ่อเงินบ่อทอง ปริยัติศึกษา บมจ.ธ.กรุงไทย สาขาพนมสารคาม



    <TABLE class=tborder id=post406748 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">06-12-2006, 03:41 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#1 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>นักเดินทาง<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_406748", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: เมื่อวานนี้ 08:57 PM
    วันที่สมัคร: Jul 2005
    อายุ: 38 ปี
    ข้อความ: 879 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 2,748 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 5,069 ครั้ง ใน 793 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 708 [​IMG]
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]




    </TD><TD class=alt1 id=td_post_406748 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- icon and title -->เชิญร่วมบริจาคค่าขุดบ่อบาดาล สนส บ่อเงินบ่อทอง

    <HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->[​IMG]

    [​IMG]


    เนื่องจากสำนักสงฆ์บ่อเงินบ่อทอง ยังขาดแคลนน้ำเพื่ออุปโภคบริโภค ปัจจุบัน ต้องซื้อน้ำจากเอกชนทีละหลายคันรถ ทำให้แต่ละเดือนต้องมีค่าใช้จ่ายมากพอสมควร หลวงพ่อแผนจึงมีดำริที่จะขุดบ่อบาดาลเพื่อนำน้ำจากธรรมชาติมาใช้ แต่ก็ยังขาดแคลนปัจจัยที่จะนำมาเป็นค่าใช้จ่าย ซึ่งต้องใช้งบประมาณทั้งสิ้นประมาณ 45,000 บาท หากท่านใดประสงค์จะช่วยเหลือ ก็สามารถบริจาคโดยการโอนเงินเข้าบัญชีด้านล่างได้เลยครับ

    โรงเรียนปริยัติธรรม สำนักสงฆ์บ่อเงินบ่อทอง เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาได้ก็ด้วยทุกท่านได้เมตตาช่วยเหลือ จนถึงปัจจุบันผ่านมา 1 ปีเต็มแล้ว ผมหวังว่าทุกท่านโปรดเมตตาช่วยเหลืออีกต่อไปคนละเล็กละน้อย อีกไม่นานโรงเรียนแห่งนี้ก็จะเสร็จสมบูรณ์ ถึงตอนนั้นสถานที่แห่งนี้จะกลายเป็นแหล่งการศึกษาเพื่อพระ-เณร และเด็กด้อยโอกาส และผลิตบุคคลากรที่มีคุณภาพออกมาเป็นกำลังสำคัญ ของพระพุทธศาสนาและประเทศชาติ

    คุณ sithiphong ได้มอบพระพิมพ์มามอบให้ผู้ร่วมบริจาคทำบุญ เพื่อเป็นที่ระลึกถึงความเมตตาที่ท่านได้หยิบยื่นให้สำนักสงฆ์บ่อเงินบ่อทอง ดังนี้ครับ

    1. พระพิมพ์สมเด็จวังหน้า เนื้อผงสีขาว ลงรักปัดด้วยผงทอง

    [​IMG]
    ขนาด 2.4 x 3.8 ซม เสกโดยหลวงปู่พระโสณเถรเจ้าและหลวงปู่อิเกสาโร

    มอบให้ผู้ร่วมบริจาค 1,000 บาท

    2. พระพิมพ์ไกเซอร์เล็ก เนื้อขาว

    [​IMG]
    ขนาด 2.2 x 3.2 ซม เสกโดยหลวงปู่อิเกสาโร

    มอบให้ผู้ร่วมบริจาค 500 บาท

    3. พระพิมพ์สมเด็จเจ้าคุณกรมท่าคะแนนร้อย เนื้อขาวลงรักสีน้ำเงิน, แดง และดำ

    [​IMG]
    ขนาด 2.5 x 3.8 ซม เสกโดยสมเด็จโตและหลวงปู่อิเกสาโร
    มี สีน้ำเงิน 8 องค์, สีแดง 2 องค์ และ สีดำ 3 องค์


    4. พระพิมพ์จิตรลดาจิ๋ว เนื้อปัญจสิริ

    [​IMG]
    ขนาด 1.4 x 2 ซม เสกโดยหลวงปู่พระอุตรเถรเจ้า อิทธิคุณแรงมากแต่มีขนาดเล็ก เหมาะสำหรับผู้หญิงและเด็ก
    มอบให้ผู้ร่วมบริจาค 800 บาท

    5. พระพิมพ์สมเด็จผงยาวาสนาคะแนนร้อยแบบธรรมดา

    [​IMG]
    ขนาด 2.5 x 3.8 ซม เสกโดยคณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทั้ง 5 องค์ เท่าที่ทราบนอกจากพระพิมพ์ผงยาจินดามณี(สีเทาดำ)แล้ว พิมพ์นี้เป็นอีกพิมพ์ที่เสกโดยหลวงปู่ทั้ง 5 องค์ จัดว่าเป็นสุดยอดของพระพิมพ์กรุวังหน้า
    มอบให้ผู้ร่วมบริจาค 2,200 บาท



    การบริจาค
    โอนเงินเข้าบัญชีต่อไปนี้
    พระมหาแผน ฐิติธัมโม 01-9408541
    สำนักสงฆ์บ่อเงินบ่อทอง
    ประเภทบัญชี : ออมทรัพย์
    หมายเลขบัญชี : 203-0-06304-5
    ธ.กรุงไทย สาขาพนมสารคาม
    ชื่อบัญชี : ร.ร.ปริยัติธรรมบ่อเงินบ่อทอง

    เมื่อโอนแล้วแจ้งยอดเงินและชื่อที่อยู่เพื่อจัดส่งไว้ในกระทู้ หรือส่งข้อความส่วนตัวมาที่คุณนักเดินทาง แล้วคุณนักเดินทางจะจัดส่งให้ครับ

    ขอขอบพระคุณและโมทนาสาธุกับทุกท่านที่เมตตาครับ

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    จากกระทู้จากกระทู้ เชิญร่วมทำบุญซื้อเครื่องสูบน้ำ ขุดเจาะน้ำ โรงครัว ค่าแรงขุดเจาะ เครื่องสูบน้ำให้วัดป่าทุรกันดาร อุบลราชธานี
    http://larndham.net/index.php?showtopic=23122&st=0

    หรือกระทู้ สโมสรนักบุญภูเหล่าเงินฮาง ร่วมสร้างสรรกับ คณะเบิกบาน บันเทิงบุญ
    http://www.palungjit.org/board/showt...=43806&page=68


    ผมได้ฝากพระพิมพ์สมเด็จเนื้อผงยาจินดามณี(สีดำ) ซึ่งเป็นพิมพ์พระคะแนนร้อยให้กับคุณนักเดินทาง เพื่อมอบให้กับผู้ที่ทำบุญกับวัดภูเหล่าเงินฮาง องค์ละ 2,200 บาท
    ขออนุโมทนาในบุญกุศลด้วยครับ


    <TABLE class=tborder id=post310544 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="FONT-WEIGHT: normal">วันนี้, 05:37 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="FONT-WEIGHT: normal" align=right>#666 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 width=175>นักเดินทาง<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_310544", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 06:38 AM
    วันที่สมัคร: Jul 2005
    อายุ: 38
    ข้อความ: 785 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    Thanks: 2,343
    Thanked 3,612 Times in 633 Posts <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 554[​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]




    </TD><TD class=alt1 id=td_post_310544><!-- message -->พระพิมพ์สมเด็จวังหน้าเนื้อผงยาจินดามณีคะแนนร้อยแบบขอบชิดซุ้ม คำว่าคะแนนร้อยหมายความว่าองค์ที่ 100 คือเมื่อช่างกดพิมพ์ถึงองค์ที่ 100 จะใช้พิมพ์ที่ด้านบนมน เพื่อใช้ในการนับจำนวนพระ นั่นก็คือพระคะแนนจะมีน้อยกว่าแบบธรรมดา 1:99 อย่างอื่นเหมือนพิมพ์ธรรมดาทุกประการ เสกโดยบรมครูพระเทพโลกอุดรทั้ง 5 องค์

    [​IMG]
    องค์ละ 2,200 บาท


    บูชาโดยการบริจาคให้วัดภูเหล่าเงินฮาง
    พระอ่อนสา ฐิติคุโณ
    ธนาคาร กรุงเทพ จำกัด สาขากิโลศูนย์
    เลขบัญชี 340-4-11629-9
    เบอร์โทรพระอาจารย์สา 0895789600

    บริจาคแล้วแจ้งชื่อ-ที่อยู่มาที่คุณนักเดินทางผ่านทางข้อความส่วนตัว คุณนักเดินทางจะเป็นผู้จัดส่งพระพิมพ์ให้
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    จากกระทู้ เชิญร่วมทำบุญซื้อเครื่องสูบน้ำ ขุดเจาะน้ำ โรงครัว ค่าแรงขุดเจาะ เครื่องสูบน้ำให้วัดป่าทุรกันดาร อุบลราชธานี

    http://larndham.net/index.php?showtopic=23122&st=0


    <TABLE width="100%" bgColor=#e4f3f3 border=0><TBODY><TR><TD>เนื้อความ : (nina)</TD><TD></TD><TR><TD colSpan=2>
    ขอเรียนเชิญเพื่อนสมาชิกชาวลานธรรมและท่านผู้ใจบุญทุกท่านร่วมสมทบทุน
    ซื้อ เครื่องสูบน้ำ ท่อน้ำ ค่าแรงขุดเจาะน้ำบาดาล และ สร้างโรงครัวถวายแด่วัดภูเหล่าเงินฮาง หมู่บ้านศรีสมบูรณ์ ต.หนองทันน้ำ อ.กุดข้าวปุ้น จ.อบลราชธานี

    งบประมาณ 100,000 บาท โดยประมาณโครงการละ 50,000 บาท

    และถ้าเหลือจากนั้นจะใช้สำหรับสร้างแท๊งก์น้ำหรือเครื่องกรองน้ำสำหรับเป็นน้ำดื่ม สำหรับพระภิกษุสงฆ์ และอุบาสกอุบาสิกาต่อไปค่ะ


    ได้สอบถามทางพระอาจารย์สาทำให้ทราบว่าตอนนี้วัดมีอยากจะได้แหล่งน้ำโดยจะขุดเจาะน้ำบาดาล แต่ยังไม่มีปัจจัยเพียงพอในค่าแรง ค่าซื้อเครื่องสูบน้ำ และท่อน้ำ ปัจจุบันน้ำดื่มใช้เป็นน้ำที่เป็นขวดที่ทางวัดต้องซื้อและอีกส่วนได้จากผู้จิตศรัทธาบริจาคให้ค่ะ
    ถ้ามีงบมาขุดเจาะน้ำบาดาลได้ ท่านก็จะนำดินนั้นมาถมสร้างโรงครัว เพราะพื้นวัดเป็นหินส่วนใหญ่ ถ้ามีโรงครัว ชาวบ้านก็สามารถมาหุงข้าวทำกับข้าวให้พระฉันได้ค่ะ

    ท่านที่มีจิตศรัทธาอยากร่วมทำบุญกับวัดป่าพระป่าก็สามารถร่วมทำได้โดยโอนเงินปัจจัยไปที่ท่านเจ้าอาวาสโดยตรงค่ะ นอกจากนี้ ถ้ามีปัจจัยพอจะนำไปสร้างแทงค์น้ำถวาย เพื่อจะได้แก้ปัญหาน้ำดื่มถาวรค่ะ


    ชื่อบัญชี พระอ่อนสา ฐิติคุโณ
    ธนาคาร กรุงเทพฯ จำกัด
    สาขา กิโลศูนย์
    เลขบัญชี 340-4-11629-9
    เบอร์โทรพระอาจารย์สา 089-578-9600
    เบอร์ฆารวาส อนุชา 01-966-5710 ( กรุงเทพ )

    โปรดแจ้งนาม หรือนามแฝงของท่านเพื่อนำรายชื่อกราบถวายพระอาจารย์
    ในกระทู้นี้ หรือแจ้งได้ที่ liusasitorn@yahoo.com

    โครงการนี้จะมีคุณอนุชาเป็นผู้ประสานงานที่กรุงเทพค่ะ

    รูปภาพในเบื้องต้นนี้สามารถเข้าไปชมได้ค่ะที่เว็บล่างนี้ ซึ่งคุณอนุชาจะนำมาโพสอัพเดทให้อีกเป็นระยะค่ะ
    http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=43806 รูปภาพและเรื่องราวได้รับการขออนุญาตจากพระคุณเจ้าและคุณอนุชา ซึ่งเพื่อนเพื่อนสามารถอ่านข้อมูลเริ่มต้นในการร่วมกันสร้างวัดนี้ให้เป็นวัดเพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนาค่ะ


    วัดนี้ยังจัดเป็นวัดที่ทุรกันดารอยู่มาก แม้ว่าจะทำบุญทอดกฐินผ่านไป ปัจจัยที่ได้ได้นำไปใช้ในการสร้างพระองค์ปฐม กุฏิพระ หนังสือธรรมะและติดตั้งไฟให้วัดได้มีไฟใช้ ซึ่งตอนนี้กำลังติดตั้งให้เสร็จสมบูรณ์ ตอนนี้ก็มีเรื่องน้ำและโรงครัวที่รอปัจจัยอยู่ค่ะ ขอเรียนเชิญทุกท่านมาร่วมด้วยช่วยกันให้พระภิกษุสงฆ์ และอุบาสกอุบาสิกาได้มีน้ำดื่ม น้ำใช้ และอาหารได้ฉันทุกมื้อค่ะ


    ขออนุโมทนาทุกท่านค่ะ <!--emo&:09:-->[​IMG]<!--endemo-->
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ทำบุญแล้วอย่าลืมกรวดน้ำกันนะครับ

    ************************************************

    วันนี้ข้าพเจ้าได้........... ขอให้ คุณบิดา มารดา พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ,พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ , คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทั้งหมด ,พระอรหันต์ทุกๆพระองค์,พระมหาโพธิสัตว์และพระโพธิสัตว์ทุกๆพระองค์ และทั้ง ๑๖ ชั้นฟ้า ๑๕ ชั้นดิน ผู้มีพระคุณ ญาติกาครูอุปัชฌาย์อาจารย์ เจ้ากรรมนายเวร ปู่ ย่า ตา ยาย เทวดาประจำตัวข้าพเจ้า ,เทวดาประจำองค์พระพิมพ์ทุกองค์ ,พระมหากษัตริย์ทุกๆพระองค์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช,สมเด็จพระเอกาทศรถ,สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช, พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ,พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้า ,พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท ,พระยาพิชัยดาบหัก ,กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ ,กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ,พระสยามเทวาธิราช ,พระภูมิ-เจ้าที่ที่บ้านข้าพเจ้า ,แม่ย่านางรถของข้าพเจ้า,ผู้ที่เสียสละให้กับแผ่นดินไทยทุกท่าน ,ท่านผู้เสกทุกท่าน ,เจ้าของและผู้สร้างพระพิมพ์หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร-พระพิมพ์สมเด็จเจ้าคุณกรมท่าทุกท่าน-พระพิมพ์ของวังหน้าและพระกรุวัดพระแก้วทุกท่าน,ท่านผู้เสกทุกท่าน ,เจ้าของและผู้สร้างวัตถุมงคลของวังหน้า-กรุวัดพระแก้ว-วัตถุมงคลหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทุกประเภทที่ข้าพเจ้ามีอยู่ , เพื่อนสนิทมิตรสหายทั้งหลาย เพื่อนสาราสัตว์น้อยใหญ่ เจ้ากรุงพาลี แม่พระธรณี แม่พระคงคา พระเพลิง พระพาย แม่พระโพสพ พระภูมิ-เจ้าที่ พระมหาฤาษีและพระฤาษีทุกๆตน พระพิรุณ พยายมราช นายนิริยบาล ทั้งท้าวจตุโลกะบาลทั้งสี่ ศิริพุทธอำมาตย์ ชั้นจาตุมะหาราชิกาเบื้องบนจนถึงที่สุด พรหมาเบื้องต่ำตั้งแต่อเวจีขึ้นมาจนถึงมนุษย์โลก โดยรอบสุดขอบจักรวาลอนันตะจักรวาล คุณพระศรีรัตนตรัยและเทพยดาทั้งหลายตลอดทั้งอินทร์ พรหม ยม ยักษ์ คนธรรพ์ นาคา ขอให้มาอนุโมทนาในบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้ทำในครั้งนี้ด้วยเทอญ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    อิมินาปุญญะกัมเมนะ ด้วยเดชะผลบุญแห่งข้าพเจ้า,ภรรยา และครอบครัว ได้ .............................. ขออุทิศส่วนกุศลให้แก่ คุณบิดา มารดา พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ,พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ,คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทั้งหมด ,พระอรหันต์ทุกๆพระองค์ ,พระมหาโพธิสัตว์และพระโพธิสัตว์ทุกๆพระองค์ ,ตัวข้าพเจ้าและทั้ง ๑๖ ชั้นฟ้า ๑๕ ชั้นดิน ผู้มีพระคุณ ญาติกาครูอุปัชฌาย์อาจารย์ เจ้ากรรมนายเวร ปู่ ย่า ตา ยาย เทวดาประจำตัวข้าพเจ้า ,เทวดาประจำองค์พระพิมพ์ทุกองค์ ,พระมหากษัตริย์ทุกๆพระองค์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช,สมเด็จพระเอกาทศรถ,สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช, พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ,พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้า ,พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท ,พระยาพิชัยดาบหัก ,กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ ,กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ,พระสยามเทวาธิราช ,พระภูมิ-เจ้าที่ที่บ้านข้าพเจ้า ,แม่ย่านางรถของข้าพเจ้า,ผู้ที่เสียสละให้กับแผ่นดินไทยทุกท่าน ,ท่านผู้เสกทุกท่าน ,เจ้าของและผู้สร้างพระพิมพ์หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร-พระพิมพ์สมเด็จเจ้าคุณกรมท่าทุกท่าน-พระพิมพ์ของวังหน้าและพระกรุวัดพระแก้วทุกท่าน, ท่านผู้เสกทุกท่าน เจ้าของและผู้สร้างวัตถุมงคลของวังหน้า-กรุวัดพระแก้ว-วัตถุมงคลหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทุกประเภทที่ข้าพเจ้ามีอยู่ , เพื่อนสนิทมิตรสหายทั้งหลาย เพื่อนสาราสัตว์น้อยใหญ่ เจ้ากรุงพาลี แม่พระธรณี แม่พระคงคา พระเพลิง พระพาย แม่พระโพสพ พระภูมิ-เจ้าที่ พระมหาฤาษีและพระฤาษีทุกๆตน พระพิรุณ พยายมราช นายนิริยบาล ทั้งท้าวจตุโลกะบาลทั้งสี่ ศิริพุทธอำมาตย์ ชั้นจาตุมะหาราชิกาเบื้องบนจนถึงที่สุด พรหมาเบื้องต่ำตั้งแต่อเวจีขึ้นมาจนถึงมนุษย์โลก โดยรอบสุดขอบจักรวาลอนันตะจักรวาล คุณพระศรีรัตนตรัยและเทพยดาทั้งหลายตลอดทั้งอินทร์ พรหม ยม ยักษ์ คนธรรพ์ นาคา ท่านทั้งหลายที่ต้องทุกข์ ขอให้พ้นจากทุกข์ ท่านทั้งหลายที่ท่านได้สุข ขอให้สุขยิ่งๆขึ้นไป ด้วยเดชะผลบุญแห่งข้าพเจ้าอุทิศไปให้นี้ จงเป็นอุปนิสัยปัจจัยให้ถึงพระนิพพานในปัจจุบันและอนาคตเบื้องหน้าโน้นเทอญ ฯ

    พุทธังอนันตัง ธัมมังจัรวาลัง สังฆังนิพพานัง ปัจจโยโหนตุ
     
  13. wichitt

    wichitt เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    898
    ค่าพลัง:
    +4,132
    ขอร่วมบุญสร้างเจดีย์

    ขออนุญาติคุณสิทธิพงษ์ ขอร่วมบุญสร้างพระเจดีย์ฯ ด้วยคนครับ จะคอยติดตามงานบุญงานนี้นะครับ
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    จากกระทู้สโมสรนักบุญภูเหล่าเงินฮาง ร่วมสร้างสรรกับ คณะเบิกบาน บันเทิงบุญ

    ผมนำมาเล่าสู่กันฟังนะครับ


    <TABLE class=tborder id=post445638 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">เมื่อวานนี้, 01:11 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #2560 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>พรหมประกาศิต<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_445638", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 05:10 PM
    วันที่สมัคร: Jun 2006
    สถานที่: ย้ายที่อยู่บ่อย แล้วแต่สถานที่ทำงาน
    ข้อความ: 352 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 11,351 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 3,332 ครั้ง ใน 348 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 374 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_445638 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->วันอาทิตย์ ศูนย์เปิดครึ่งวันช่วงบ่ายโมงถึงสี่โมงเย็นครับ แต่ถ้าเป็นวันเสาร์จะเป็นช่วงเช้า แปดโมงเช้าถึงเที่ยงครับ วันอาทิตย์ เจอกันก็ได้ครับพี่เม้า
    ผมว่าจะมอบเทวรูปให้พี่เม้าไปบูชาด้วยอ่ะครับ มีที่ว่างพอตั้งหรือเปล่า องค์ไม่ใหญ่เท่าไหร่ องค์ประมาณหนึ่งคืบทำด้วยทองเหลืองทั้งหมดแต่มีอยู่องค์หนึ่งคล้ายๆสำริด ก็ไม่เก่าเท่าไหร่แล้วก็ไม่ใหม่นัก ผมมีอยู่ทั้งหมด ๓ องค์
    ผมให้พี่เม้าลองทายครับว่ามีอะไรบ้าง ถ้าทายถูกหมดผมยกให้หมดเลย
    ถ้าทายไม่ถูกผมให้องค์เดียว ผมให้สมาชิกท่านอื่นร่วมทายด้วยครับเผื่อว่าจะมีโอกาสได้เอาไปบูชา อยู่กับผมๆก็ตั้งไว้เฉยๆบนหลังตู้เสื้อผ้าอ่ะครับไม่ได้บูชาอะไร เพราะที่ตึกห้องมันเล็กก็เลยไม่มีโต๊ะหมู่บูชา เทวรูปทั้งหมดผมได้มาจากน้องชายที่สุโขทัย นานแล้ว(ประมาณ ๓ ปี) ซึ่งเขาก็เก็บเอาไว้เฉยๆเหมือนกัน ตอนผมไปเอามานั้นฝุ่นจับเขรอะไปหมด ทั้งหมดไม่ทราบที่มาครับว่ามาจากไหน (ตอนไปมานั้นเอาน้องชายไม่อยู่ อยู่แต่น้องสะใภ้เลยไม่มีข้อมูล-น้องสะใภ้เป็นคนยกให้)
    กติกา ให้ทายคนละหนึ่งชื่อเท่านั้น บรรยายลักษณะด้วยในกรณีที่ทายชื่อเหมือนกัน คนที่บรรยายลัษณะถูกต้องกว่าจะได้รับครับ
    ผมให้เวลาในการทายจนถึงวันศุกร์ที่ ๑๒ มกรานี้ เท่านั้นครับ
    ใครทายถูกติดต่อรับกับมือผมได้โดยตรงตรงเลยนะครับ ไม่มีการจัดส่ง แต่ถ้าคุณณรงค์ร่วมทายและถูกผมจะฝากไว้ให้กับพี่เม้าหรือน้องโย
    จะเฉลยว่าใครเป็นผู้โชคดีในวันเสาร์ และไปรับรางวัลกับผมได้ที่สภากาชาติไทยในวันอาทิตย์ช่วงบ่ายตอนผมที่ไปบริจาคโลหิตได้ครับหรือถ้าติดธุระไม่สามารถไปรับได้ก็ค่อยว่ากันอีกทีนึง
    <!-- / message --><!-- sig -->
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ผมเข้าไปตอบครับ

    <TABLE class=tborder id=post446589 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">วันนี้, 08:18 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #2567 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>sithiphong<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_446589", true); </SCRIPT>
    สมาชิก GOLD
    สมาชิกยอดฮิต

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 06:44 PM
    วันที่สมัคร: Dec 2005
    ข้อความ: 8,322 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 6,783 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 34,633 ครั้ง ใน 5,220 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 4319 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_446589 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->เป็นพระสยามเทวาธิราช 1 องค์ ลักษณะรูปยืน มือข้างขวาถือพระขรรค์ มือข้างซ้ายถือจักร หรืออาจไม่ได้ถืออะไรใช่หรือเปล่าครับ

    ****************************
    ส่วนอีกองค์น่าจะเป็นพระอินทร์ทรงช้าง(ช้างอาจจะเป็นเศียรเดียวหรือสามเศียร) ครับน้าแผน

    ****************************
    ขออีกองค์ละกัน พระนารายณ์ทรงโค สี่กรครับ
    <!-- / message --><!-- sig --></TD></TR></TBODY></TABLE>

    คำเฉลยครับ

    <TABLE class=tborder id=post447083 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">วันนี้, 04:37 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #2584 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>พรหมประกาศิต<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_447083", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 05:10 PM
    วันที่สมัคร: Jun 2006
    สถานที่: ย้ายที่อยู่บ่อย แล้วแต่สถานที่ทำงาน
    ข้อความ: 352 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 11,351 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 3,332 ครั้ง ใน 348 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 374 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_447083 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->คุณสิทธิพงศ์ตอบถูกสองข้อเต็มๆ คือพระสยามเทวาธิราชและพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณสามเศียร ส่วนคุณนักเดินทางตอบถูก คือ ท่านท้าวเวสสุวรรณ ส่วนพ่อปู่ฤาษีชีวกโกมารภัทร์ไม่ใช่เทวรูปครับ แต่ก็จะมอบให้เช่นกันครับ....
    <!-- / message --><!-- attachments --></TD></TR></TBODY></TABLE>

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]


    <TABLE class=tborder id=post447110 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">วันนี้, 05:00 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #2585 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>sithiphong<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_447110", true); </SCRIPT>
    สมาชิก GOLD
    สมาชิกยอดฮิต

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 06:44 PM
    วันที่สมัคร: Dec 2005
    ข้อความ: 8,322 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 6,783 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 34,633 ครั้ง ใน 5,220 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 4319 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_447110 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ พรหมประกาศิต [​IMG]
    เนื่องจากว่าได้มีผู้ที่ทายปัญหาของผม ตอบถูกหมดแล้วจึงขออนุญาตเฉลยเลยนะครับจะได้ไม่เป็นการเสียเวลา เพราะว่ามีพวกวัยรุ่นใจร้อนรวมอยู่ด้วย..อิ..อิ
    คนที่ทายถูกให้ไปรับของรางวัลได้ที่สภากาชาดไทย ในวันอาทิตย์ที่ ๑๔ มกรา
    ตั้งแต่เวลา บ่ายหนึ่งโมงถึงสามโมงเย็น ใครไปรับไม่ได้ให้แจ้งล่วงหน้านะครับ
    ถ้าไม่แจ้งล่วงหน้าและผมหอบของไปแล้วที่โน่น แล้วไม่ไปรับตามกำหนดผมถือว่าสละสิทธิ์ ผมจะมอบให้ผู้อื่นที่เห็นสมควรต่อไปครับ
    ผู้ชนะในการทายปัญหาคือคุณหนุ่ม(สิทธิพงศ์)และคุณโต้ง(นักเดินทาง)ครับ
    ขอทราบวิธีเดาหรือทายด้วยครับ ทำไมถึงแม่นเหมือนไปมองดูที่บ้านผมเลยยย
    ส่วนพี่เม้าคาดว่า ที่บ้านโต๊ะบูชาคงเต็มไม่มีที่ว่าง จึงไม่ได้ตั้งใจตอบอ่ะครับ
    ประเดี๋ยวผมเอาหลักฐานรูปภาพมาลงให้ดูด้วยครับ(ถ้าลงได้)
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ขอบพระคุณครับ

    ทั้งสององค์ผมขอถวายพระอาจารย์สา วัดภูเหล่าเงินฮาง 1 องค์ และถวายพระอาจารย์ชยางกูร 1 องค์ครับ ถวายให้เป็นสมบัติของวัดครับ

    ขอบพระคุณอีกครั้งครับ

    ************************

    ที่ผมถวายให้กับพระอาจารย์สา และพระอาจารย์ชยางกูรนั้น ไม่ใช่ว่าผมไม่ชอบนะครับ ผมเองก็อยากได้ แต่ว่าในขณะที่ผมอ่านๆอยู่นั้น มีความรู้สึกแวบมา ทั้งองค์พระสยามเทวาธิราชและองค์พระอินทร์นั้น คงมีความประสงค์ที่อยากจะไปอยู่วัดทั้งสองแห่ง เพื่อไปช่วยสืบพระศาสนา ผมจึงตัดสินใจถวายทั้งสององค์

    ส่วนองค์ไหนน้าแผนจะถวายให้กับว้ดไหน ผมแล้วแต่น้าแผนนะครับ


    โมทนาสาธุครับ

    [​IMG]


    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    .
     
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  18. khongbeng

    khongbeng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    234
    ค่าพลัง:
    +657
    (verygood) ไม่ได้แวะทักทายหลายวัน ศิษย์พี่มักจะมีอะไรดีๆ มาแนะนำเยอะแยะเลย

    ผมอนุโมทนาครับผม....
     
  19. guawn

    guawn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    10,642
    ค่าพลัง:
    +42,113
    ป้ายโฆษณาติดกระจก รกสายตา...สมองเสียศูนย์!?
    <HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message --><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline-pink vAlign=top align=left>ป้ายโฆษณาติดกระจก รกสายตา...สมองเสียศูนย์!?
    <TABLE id=Table1 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=message-copyright vAlign=top align=middle height=10>คลิกที่ภาพเพื่อดูภาพขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR><TR><TD style="HEIGHT: 2px" vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=90 hight="90">[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR><TR><TD class=message-normal vAlign=bottom align=left>สิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์ ทั้งสิทธิในชีวิตร่างกาย เสรีภาพ เป็นสิทธิที่จะต้องได้รับการ คุ้มครอง ในยุคสมัยนี้ ความเข้าใจเรื่องสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์กว้างขวางมากขึ้น ทำให้ผู้คนให้ความสำคัญและพึงรักษาสิทธิกัน การละเมิดสิทธิจึงเป็นไปได้ยากกว่าเดิม และเมื่อเกิดขึ้นไม่ว่าจะมาจากภาครัฐหรือภาคเอกชน จึงต้องมีส่วนร่วมในการรับผิดชอบ เห็นได้จากกรณีศาลปกครองเชียงใหม่ สั่งให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ขูดลอกป้ายโฆษณาออกจากตู้รถและทำความสะอาดกระจกหน้าต่างรถไฟทุกคัน หลังจากที่มีผู้ยื่นฟ้องว่า ระหว่างการเดินทาง ด้วยบริการรถไฟ ไม่สามารถมองผ่านกระจกเพื่อพักสายตาและชมทิวทัศน์ได้ จนเกิดอาการพร่ามัว คลื่นไส้ตลอดการเดินทาง เนื่องจาก ร.ฟ.ท. นำแผ่นป้ายโฆษณาสินค้ามาปิดทับกระจกหน้าต่างตู้ขบวนรถไฟ

    อาการเวียนหัวเมื่อนั่งรถไฟแล้วมองออกไปนอกหน้าต่างโดย ที่มีป้ายมาปิดบังการมองของสายตานั้น นพ.เมธี วงศ์ศิริสุวรรณ ศัลยแพทย์ระบบประสาทวิทยา โรงพยาบาลวิภาวดี อธิบายถึงการเกิดอาการเหล่านี้ให้ฟังว่า

    การรับภาพของมนุษย์เริ่มต้นจากแสงที่ผ่านเลนส์นัยน์ตาแล้วตกกระทบมายังจอรับภาพที่เรียกว่าเรตินา (Retina) จากนั้นสัญญาณแสงจะถูกเปลี่ยนเป็นสัญญาณไฟฟ้าวิ่งไปตามประสาทตาเข้าสู่สมองทางด้านท้ายทอยซึ่งเป็น ส่วนที่แปลสัญญาณดังกล่าวเป็นภาพให้เราเห็น

    โดยปกติภาพที่ตกกระทบจอรับภาพในนัยน์ตาจะต้องไปตกกระทบยังจุดที่ทำให้เห็นภาพชัดเจนที่สุดเรียกว่า Fovea โดยสมองจะปรับการเคลื่อนไหวของนัยน์ตาให้แสงตกกระทบจุดดังกล่าวผ่านทางกล้ามเนื้อในกระ บอกตาและกล้ามเนื้อคอที่ใช้ควบคุมการหันศีรษะ ดังนั้นไม่ว่าวัตถุจะเคลื่อนที่ไปอย่างไรสมองจะควบคุมกล้ามเนื้อตาและคอให้เพ่งไปยังวัตถุดังกล่าวตลอดเวลา เพื่อบังคับให้แสงตกกระทบ Fovea ให้ได้มากที่สุด เพื่อความชัดเจนของภาพนั่นเอง เช่น การมองภาพปลาที่ว่ายน้ำในตู้ปลา การอ่านหนังสือ

    “การทำให้ภาพที่ตกกระทบนัยน์ตาและจอรับภาพ มีความคมชัดมากที่สุดโดยอาศัยกล้ามเนื้อ ในกระบอกตาเป็นกลไกอันหนึ่ง ที่น่าทึ่งที่สุดของร่างกายคนเรา เพื่อที่จะทำให้ภาพมีความคม ชัดอยู่ตลอดเวลา กล้ามเนื้อในกระบอกตาต้องเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เรียกว่า มีการเคลื่อนไหวแบบ Saccades ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วที่สุด ที่เกิดจากกล้ามเนื้อมีการหดตัวและคลายตัว ประมาณว่าความถี่ในการหดตัวและคลายตัวอย่างรวดเร็วนี้เกิดขึ้นกับนัยน์ตาคนเรามากกว่าแสนครั้งในแต่ละวัน”

    หากวัตถุที่จ้องมองมีการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว กล้ามเนื้อตาและคอต้องทำงานมากขึ้น การหดตัวและคลายตัวของกล้ามเนื้อในการควบคุมให้ภาพตกกระทบ Fovea ผลคือ เกิดอาการล้าของระบบกล้ามเนื้อและประสาท ทำให้มีอาการเวียนหัว คลื่นไส้ ตาพร่า อาเจียน หรืออ่อนเพลียได้

    การมองวัตถุที่เคลื่อนไหว อย่างรวดเร็ว อาทิ การมองออกไปนอกหน้าต่างรถไฟเพื่อมองสิ่งที่อยู่ภายนอกอย่างเสาไฟฟ้า การจ้องภาพเกมสามมิติบนจอคอมพิว เตอร์ที่มีการเคลื่อนไหวสลับไปมาอย่างรวดเร็ว การจ้องภาพเหล่านี้โดยเฉพาะการเล็งไปที่จุดใดจุดหนึ่งเป็นพิเศษในขณะที่ตัวเรากับวัตถุดังกล่าวมีการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว จะทำให้สมองและกล้ามเนื้อต่าง ๆ ดังกล่าวทำงานอย่างต่อเนื่องจนเกิดอาการผิดปกติได้

    “เมื่อภาพมีการเปลี่ยนแปลงเร็ว ๆ สัญญาณแสงจะตกกระทบไปที่ลูกตา กล้ามเนื้อตาจะดึงลูกตาให้สลับกันซ้าย ขวา ด้วยความถี่ที่สูงมาก ฉะนั้นกล้ามเนื้อตาจะล้า ประสาทตารับภาพเมื่อภาพส่งไปที่สุดท้าย คือ สมอง สมองจะเป็นตัวแปลผลว่าเห็นอะไร เมื่อสมองมีการเปลี่ยนแปลงภาพอย่างเร็ว ความถี่สูง กล้ามเนื้อตาต้องทำงานหนัก ต้องบังคับตามองตามตลอด มีการมองอย่างเร็วและถี่ ร่างกายเรา จะรับไม่ได้ เมื่อรับไม่ได้จะส่งให้ เกิดอาการพร่ามัว เวียนหัว ส่วนอาการคลื่นไส้ อาเจียนนั้นเป็นอาการที่ตามมา เนื่องจากสมอง ทำงานไม่ไหว เพราะมีการเห็นภาพที่ถี่มากเกินไป”

    ความผิดปกติดังกล่าวไม่จำเป็นต้องเกิดกับการจ้องมองวัตถุเท่านั้น แม้แต่การจ้องมองแสงที่มีความสว่างมาก ๆ พร้อม ๆ กับการเปิด-ปิดอย่างรวดเร็ว เช่น ไฟที่ใช้ในสถานบันเทิง เหล่านี้จะเปรียบเสมือนกับการจ้องมองวัตถุที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ทำให้ร่างกายเกิดความผิดปกติได้ ซึ่งในผู้ป่วยบางรายที่มีโรคประจำตัวเช่น ลมบ้าหมู แพทย์จะแนะนำให้หลีกเลี่ยงสถานที่ดังกล่าว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการกระตุ้นและมีการชักตามมา

    “การจ้องมองจนเกิดความผิดปกติขึ้นนั้น ปัญหาจริง ๆ น่า จะเกิดจากที่แสงลอดผ่านเข้าได้เป็นช่วง ๆ ผ่านสายตาเป็นระยะ ๆ โดยมีความถี่สูง ถ้ามีการปิดทึบคงไม่มีปัญหา คล้ายกับมีคนมากะพริบไฟใส่บ่อย ๆ จะถี่ขึ้น ๆ อยู่นิ่ง ๆ คงไม่มีปัญหา จะมีปัญหาก็ต่อเมื่อมีการเคลื่อนไหวที่เร็ว จะทำให้ความถี่ในการเปลี่ยนภาพสูงตามไปด้วย ปัญหาไม่ได้เกิดจากภาพ แต่เกิดจากการที่มีภาพเปลี่ยนแปลงตลอดมีแสงเข้า-ออกตลอด ในขณะที่มีการเคลื่อนไหวด้วยความเร็ว จึงเกิดอาการพร่ามัวขึ้น”

    หลังจากเกิดอาการเหล่านี้แล้ว เมื่อละสายตาจากการมอง ด้วยการหลับตาสักพักอาการจะดีขึ้นแล้วกลับสู่สภาวะปกติ ถ้าร่างกายแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัว อาการเช่นนี้คล้ายกับอาการเมารถ เมาเรือ แต่อาการเมาเรือเป็น อาการของการทรงตัวของน้ำในหู เพราะเมื่อลงเรือเรือจะโยกไปมา ทำให้น้ำในหูแกว่ง ทำให้เวียนหัว แต่ในกรณีเช่นนี้มีสาเหตุมาจากการมอง ซึ่งอวัยวะ 3 ส่วนที่มีความสัมพันธ์กัน คือ สมอง หู ตา เป็นส่วนที่ทำให้มนุษย์สามารถทรงตัวได้ ถ้าระบบใดระบบหนึ่งเสียจะ ไม่สามารถทรงตัวได้ อาการของการที่ทรงตัวไม่ได้ก็จะเกิดการ เวียนหัว คลื่นไส้และอาเจียน ถ้าเป็นมากก็จะไม่สามารถทรงตัวอยู่ได้ คล้ายกับการนั่งเก้าอี้หมุนที่ เด็ก ๆ เล่นกัน เมื่อนั่งแล้วหมุนไปสักพักหนึ่ง เมื่อหยุดแล้วให้ยืนจะเกิดอาการเซ เดินไม่ตรงทาง และอาจมีการล้มเกิดขึ้นได้ เพราะน้ำในหูถูกแกว่ง ถูกเหวี่ยงตอนที่นั่ง

    สิ่งที่สำคัญ คือ ต้องดูที่ความเร็วในการเคลื่อนไหวเป็นหลัก ภาพที่เปลี่ยน แสงที่ลอดเข้ามาจะต่างกัน ยิ่งเคลื่อนไหวเร็วมากเท่า ไร ภาพก็จะเปลี่ยนเร็วมากเท่านั้น เมื่อภาพเปลี่ยน แสงลอดเข้ามาด้วยความถี่สูง อาการเวียนหัว คลื่นไส้ก็จะเกิดขึ้นเร็วเช่นกัน แต่ถ้าเคลื่อนที่ไม่เร็วนัก จะส่งผลกับการมองภาพมากกว่า ไม่ได้มีปัญหาส่งผลไปถึงสมอง นอกเสียจากการบดบังสายตา มองเห็นไม่ชัด หรือเกะกะสายตา ซึ่งเป็นเรื่องของความรู้สึกที่ไม่ใช่ความ ผิดปกติจากการมองภาพ

    หากไม่จำเป็นควรหลีกเลี่ยง เมื่อไม่มีทางเลือก สิ่งที่ควรทำ คือ การหลับตา เพื่อไม่ให้มีปัญหากับการเปลี่ยนภาพที่เร็ว ๆ แต่ถ้ามองไปแล้วจะเกิดอาการก็ให้พักสายตา หลับตา ปลดเครื่องแต่งกายให้หลวม ๆ อย่างเนก ไท หรือเข็มขัด กระดุมคอ ให้อยู่ในสภาวะที่หายใจคล่อง ไม่อึดอัด วิธีป้องกันที่ดีที่สุด คือ การหลีกเลี่ยง พยายามอย่ามองภาพที่มีการเคลื่อนไหวที่ถี่ ๆ เร็ว ๆ

    ทุกคนคงต้องดูแล ป้องกันตนเอง ด้วยการหลีกเลี่ยง อย่างไม่จ้องมอง เพ่งมอง จะเกิดอาการมึนน้อยกว่าที่จะลืมตามอง เมื่อไม่สามารถมองได้ ให้ละสายตาไปมองอย่างอื่น หรือหลับตาแทนเป็นวิธีที่ดีที่สุด

    สิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์เป็นสิทธิที่เราไม่ควรมองข้าม!!.

    ref.http://www.dailynews.co.th/
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    พระเจ้าพรหม ในตำนานของล้านนา<O:p</O:p

    <O:p</O:p

    พิเศษ เจียจันทร์พงษ์ ผู้ทรงคุณวุฒิกรมศิลปากร<O:p</O:p

    <O:p</O:p

    เรื่องพระเจ้าพรหมมหาราชมีที่มาจากเรื่องราวที่ปรากฏอยู่ในเอกสารโบราณของล้านนา ที่มีชื่อเรียกต่างๆ กัน เมื่อต้นปี ๒๕๔๕ กรมศิลปากรได้รับเรื่องในลักษณะตำนานจากจังหวัดเชียงราย เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาสร้างอนุสาวรีย์พระเจ้าพรหมมหาราช ตำนานที่จังหวัดเชียงรายส่งมาเรียกชื่อว่าตำนานโยนกนาคนครไชยบุรีศรีช้างแส่น (ฉบับวัดร่องบง) เนื้อหาสาระของตำนานเรื่องนี้ได้มีการคัดลอกกันไปมาในสมัยโบราณ มีการรวบรวมจัดพิมพ์ออกเผยแพร่โดยวัดในภาคเหนือเขตล้านนาแล้วหลายฉบับ เท่าที่พบมีฉบับพิมพ์วัดเจดีย์หลวง เชียงแสน จังหวัดเชียงราย (พ.ศ. ๒๕๑๖) กับฉบับพิมพ์วัดศรีโคมคำ จังหวัดพะเยา (พ.ศ. ๒๕๓๘)

    ในส่วนกลางที่กรุงเทพฯ มีฉบับหอสมุดแห่งชาติที่มีการนำมาจัดพิมพ์รวมอยู่ในประชุมพงศาวดาร ภาคที่ ๖๑ ในชื่อว่าตำนานสิงหนวัติ แต่เป็นฉบับพิมพ์ที่มีการตัดทอนข้อความบางตอนออกไปด้วยคิดว่าไม่มีความสำคัญในทางประวัติศาสตร์ พระยาประชากิจกรจักร์ (แช่ม บุนนาค) ก็ได้เก็บความรวบรวมอยู่ในหนังสือพงศาวดารโยนก ปริเฉท ๓ ว่าด้วยสร้างเมืองนาคพันธุนคร

    นอกจากที่กล่าวมานี้ เท่าที่ทราบมีฉบับตัวเขียนอื่นๆ ที่เก็บรวบรวมตามสถาบันการศึกษาของล้านนา และที่วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพฯ ก็น่าจะมีอยู่ด้วยเช่นกัน ฯลฯ ซึ่งเอกสารเรื่องนี้เป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไปในชื่อว่าตำนานสิงหนวัติ



    ๑. สังเขปเรื่องพระเจ้าพรหม

    ในตำนานสิงหนวัติ

    เนื้อหาสาระของตำนานสิงหนวัติมีว่า เจ้าชายสิงหนวัติเป็นโอรสองค์ที่ ๒ (บางฉบับว่าเป็นองค์สุดท้อง ในโอรสทั้งหมด ๓๐ พระองค์) ของกษัตริย์กรุงราชคฤห์ในอินเดีย โอรสองค์โตพระนามภาทิยะ เป็นผู้สืบราชสมบัติกรุงราชคฤห์ คือพระเจ้าภาทิยะพระราชบิดาของพระเจ้าพิมพิสาร และพระเจ้าพิมพิสารคือกษัตริย์กรุงราชคฤห์ ผู้ทรงมีพระชนมายุร่วมวัยเดียวกับพระพุทธองค์ในพุทธประวัติ ส่วนเจ้าชายสิงหนวัติทรงได้รับแบ่งราชสมบัติผู้คนเดินทางมาตั้งบ้านเมืองบนที่ราบเชียงแสนชื่อเมืองโยนกนาคพันธ์ มีทายาทสืบเชื้อสายราชวงศ์กษัตริย์กันต่อๆ มา โดยมิได้ปะปนกับชาวพื้นเมือง (เป็นวงศ์กษัตริย์บริสุทธิ์) เมื่อแรกๆ ได้ปราบปรามพวกขอมดำ เมืองอุมงคเสลา ชนพื้นเมืองที่อยู่มาก่อนจึงได้เป็นใหญ่อยู่ในดินแดนที่ภายหลังเป็นล้านนา

    จนถึงสมัยบิดาของพระเจ้าพรหม พวกขอมได้กลับมายึดเมืองโยนกนาคพันธ์ได้ ต้องเป็นเมืองขึ้นขอมอยู่หลายปี จนพระเจ้าพรหมเติบโตทรงได้ปราบขอมดำให้พ่ายแพ้ไป พี่ชายของพระเจ้าพรหมทรงได้ขึ้นครองเมืองโยนกนาคพันธ์ต่อไป ส่วนพระเจ้าพรหมได้ทรงแยกมาตั้งเมืองใหม่ชื่อว่าเมืองไชยปราการ ตามหลักฐานที่บรรยายในตำนานตั้งอยู่บนฝั่งใต้ของแม่น้ำกก ในเขตท้องที่อำเภอเวียงชัย จังหวัดเชียงราย ในปัจจุบัน

    เมื่อพระเจ้าพรหมล่วงลับไปแล้ว เมืองไชยปราการมีกษัตริย์องค์ต่อมา คือพระเจ้าไชยศิริผู้เป็นพระโอรส ก็ถูกกองทัพเมืองสุธรรมวดีโจมตี พระเจ้าไชยศิริต้องทรงอพยพผู้คนทิ้งเมืองหนีลงใต้ไปสร้างเมืองอยู่บริเวณละแวกเดียวกันกับที่ภายหลังตั้งขึ้นเป็นบ้านเมืองกำแพงเพชร ส่วนที่เมืองโยนกนาคพันธ์มีกษัตริย์สืบต่อจากพี่ชายของพระเจ้าพรหมสองพระองค์ ถึงพระเจ้ามหาไชยชนะมีคนไปหาปลาได้ปลาไหลเผือกตัวใหญ่เอามาแบ่งกันกินทั้งเมือง ตกกลางคืนเมืองได้ถล่มจมลงกลายเป็นหนองน้ำเรียกว่าหนองหล่มในบัดนี้ เหลือยายแก่ที่ไม่ได้กินปลาไหลเผือกคนเดียวที่รอดตายมาได้ มาเล่าเหตุการณ์เมืองล่มให้คนทั้งหลายฟัง

    จึงเป็นอันว่าเชื้อสายราชวงศ์กษัตริย์จากอินเดียได้หมดสิ้นไปจากที่ราบเชียงแสนตั้งแต่บัดนั้น



    ๒. เวลาในตำนานสิงหนวัติ

    และความบิดเบือน

    ตำนานสิงหนวัติมีปัญหาที่ทำให้ต้องถกเถียงกันมาแต่เดิมคือเรื่องของเวลา ประเด็นหนึ่งคือตัวเลขศักราช เนื่องจากเป็นเอกสารต้นฉบับตัวเขียนที่คัดลอกกันต่อๆ มา และแพร่กระจายอย่างกว้างขวาง การคัดลอกเอกสารเก่าๆ ที่เป็นลายมือทำให้มีการผิดพลาดในการคัดลอก ตัวเลขศักราชที่กำกับเรื่องราวตามต้นฉบับตัวเขียนที่พบแล้วหลายฉบับจึงอาจไม่ตรงกัน ผิดเพี้ยนกันไปบ้าง ทำให้บางครั้งมีการถกเถียงกันว่าตัวเลขศักราชของฉบับใดจะถูกต้องมากกว่ากัน

    อีกประเด็นหนึ่งคือ ศักราชที่ใช้ในตำนานปรากฏว่ามีถึง ๓ แบบ ซึ่งตำนานเรียกว่าโบราณศักราช ทุติยศักราช และตติยศักราช โดยไม่บอกว่าเป็นศักราชอะไร และเนื่องจากตำนานสิงหนวัติที่ใช้กันแพร่หลายแต่เดิมในประชุมพงศาวดาร ภาคที่ ๖๑ เป็นการถอดความจากใบลานเดิม มีการตัดทอนข้อความที่คิดว่าไม่สำคัญออกไป คือส่วนที่เกี่ยวกับเรื่องประวัติพระพุทธศาสนา ทำให้มีการแปลความหมายเวลาในตำนานผิดพลาดมาแต่สมัยโบราณ ปัจจุบันได้พบตำนานสิงหนวัติอีกหลายฉบับ มีการปริวรรตจัดพิมพ์โดยมิได้ตัดทอนข้อความใดๆ ออกไป และเมื่อได้วิเคราะห์เปรียบเทียบกับเรื่องราวทางศาสนาที่จะมีการกล่าวถึงสลับกันอยู่ คือพุทธประวัติและเรื่องการสังคายนาพระไตรปิฎก ก็จะสามารถทราบได้ว่าศักราชที่กล่าวถึงในตำนานสิงหนวัตินั้นประกอบด้วย ที่เรียกว่าโบราณศักราชนั้นคืออัญชนะศักราช ซึ่งเก่ากว่าพุทธศักราช ๑๔๘ ปี ทุติยศักราช ก็คือพุทธศักราช อันเป็นจำนวนปีหลังจากพระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพาน และตติยศักราช ก็คือมหาศักราช ซึ่งหลังกว่าพุทธศักราช ๖๒๑ ปี

    โดยเฉพาะตำนานสิงหนวัติฉบับวัดร่องบงของจังหวัดเชียงรายที่ส่งไปนั้น มีข้อดีที่ผู้คัดลอกในสมัยโบราณได้พยายามกล่าวเปรียบเทียบในเหตุการณ์แต่ละตอนว่า ตรงกับพระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพานไปแล้วกี่ปี (คือตรงกับปีพุทธศักราชใด) บ่อยครั้งกว่าตำนานสิงหนวัติฉบับอื่นๆ ทำให้มีตัวเทียบกับพุทธศักราชได้มากกว่า

    จึงอาจกล่าวโดยสรุปว่า สาระตำนานสิงหนวัตินั้นได้สมมติเวลาว่าเกิดขึ้นก่อนพระพุทธเจ้านิพพาน (ก่อนพุทธศักราช) ๑๔๘ ปี และเรื่องจะจบลงที่วงศ์กษัตริย์จากอินเดียหมดไป (คือเวียงล่มจมหายไปกลายเป็นหนองหล่ม) จากดินแดนที่ราบเชียงแสนก่อนเริ่มจุลศักราช คือก่อนพุทธศักราช ๑๑๘๑ อันเป็นช่วงเวลาเริ่มต้นของเรื่องลวจกราช ปฐมบรรพบุรุษของราชวงศ์พระเจ้ามังรายบนที่ราบเชียงแสน

    ปีเกิดของพระเจ้าพรหมในตำนานฉบับวัดร่องบง ตรงกับมหาศักราช ๒๘๓ ซึ่งเป็นตัวเลขที่ถูกต้องเมื่อเทียบกับฉบับตัวเขียนอื่นๆ คือมหาศักราช ๒๘๓ ตรงกับพุทธศักราช ๙๐๔ (๒๘๓ + ๖๒๑) แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าอาจเป็นมาตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนปลายแล้ว ที่ตำนานสิงหนวัติได้ตกทอดมาสู่กรุงศรีอยุธยา ได้มีการเข้าใจผิดว่าศักราช ๒๘๓ เป็นจุลศักราช จึงมีการคำนวณโดยเข้าใจผิดว่าพระเจ้าพรหมเกิดเมื่อพุทธศักราช ๑๔๖๔ (๒๘๓ + ๑๑๘๑) ในหนังสือจดหมายเหตุโหร (ประชุมพงศาวดาร ภาคที่ ๘)

    เรื่องการเข้าใจผิดว่ามหาศักราชเป็นจุลศักราชนี้ มีหลักฐานเป็นมาตั้งแต่สมเด็จพระนารายณ์มหาราชในสมัยกรุงศรีอยุธยาแล้ว ดังปรากฏเรื่องเล่าในบันทึกของลาลูแบร์ อัครราชทูตฝรั่งเศสที่เข้ามาสมัยนั้น ที่ได้ฟังจากชาวอยุธยาเกี่ยวกับปฐมกษัตริย์ของกรุงศรีอยุธยา ซึ่งมีลักษณะเป็นตำนานทำนองเดียวกันกับเรื่องพระเจ้าไชยศิริทรงอพยพผู้คนจากเมืองไชยปราการ (เชียงราย) หนีข้าศึกลงใต้มาสร้างเมืองใหม่ในตำนานสิงหนวัติว่า เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อประมาณ พ.ศ. ๑๔๐๐ กว่าๆ

    ข้อที่ทำความยุ่งยากแก่ตำนานเรื่องนี้มากขึ้นคือ เมื่อศักราชเรื่องพระเจ้าพรหมและทายาทผู้อพยพลงมาทางใต้ ถูกดึงให้ใหม่ขึ้นโดยความเข้าใจผิดถึง ๖๖๐ ปี ภายหลังได้มีการนำตำนานของคนภาคกลางเรื่องท้าวแสนปมเข้าไปต่อ (มีหลักฐานจากเรื่องพงศาวดารกรุงศรีอยุธยาฉบับของวันวลิต เขียนขึ้นในสมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททองแล้ว ที่ส่อให้เห็นแนวคิดเกี่ยวกับเรื่องพระเจ้าพรหมเป็นต้นราชวงศ์กษัตริย์อยุธยา) จึงทำให้เรื่องพระเจ้าพรหมและทายาทที่อพยพทิ้งเมืองไชยปราการที่เชียงราย กลายเป็นต้นบรรพบุรุษของปฐมกษัตริย์ผู้สถาปนากรุงศรีอยุธยา คือสมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๑ พระเจ้าอู่ทอง ด้วยเหตุนี้ในแบบเรียนประวัติศาสตร์สมัยก่อนที่ศึกษาจากเรื่องตำนานแท้ๆ อย่างเดียว โดยมิได้นำตำนานมาทำการวิพากษ์เสียก่อน จึงเรียกราชวงศ์กษัตริย์ผู้สถาปนากรุงศรีอยุธยาว่าราชวงศ์เชียงราย

    <O:p</O:p

    ****************************************************

    <O:p</O:p
     

แชร์หน้านี้

Loading...