ความสงสารกับความรักต่างกันอย่างไร

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย โดเรม้อน, 7 กุมภาพันธ์ 2011.

  1. โดเรม้อน

    โดเรม้อน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    848
    ค่าพลัง:
    +75
    มีผู้หญิงมากมายในโลกที่หลงทาง
    เรืออัปปางไร้รักแห่งธรรมแสง
    เธอปฏิเสธความศรัทธาเพราะอ่อนแรง
    แต่เธอแกร่งด้วยรักสมัครใจ
    หวังจะมีหนึ่งบรุษฉุดเธอไว้
    ไม่ให้จมลงไปในท้องน้ำ
    ทุกข์นทีวัฏฏะทรมาน
    เธอต้องการใครสักคน...มานำใจ


    ความรักอันยิ่งใหญ่มาพร้อมผู้ชายธรรมดา..(ที่ไม่ธรรมดา
    หากทิ้งเธอทั้งหลายไว้ในโลก
    ความทุกข์โศกทรมาณคงล้นเหลือ
    อ้าแขนรับมอบความรักให้จุนเจือ
    รักล้นเหลือคงชี้นำทางรักเธฮ<!-- google_ad_section_end -->
     
  2. Kama-Manas

    Kama-Manas เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    5,351
    ค่าพลัง:
    +6,491
    สำหรับผม 2คำนี้ อธิบายไม่ได้เลย เพราะผมไม่ชอบทำร้ายความรู้สึกใครโดยไม่จำเป็น(ถ้าจำเป็นก็ต้องทำ)
     
  3. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,680
    ค่าพลัง:
    +51,926
    *** โปรดสัตว์โลก ****

    ศาสนาของโลกุตตระ... สอนให้คนเข้มแข็ง
    สอนด้วยสัจจะ สอนให้พึ่งตนเอง
    ไม่ไปหวังพึ่งผู้อื่น

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  4. blackangel

    blackangel เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,750
    ค่าพลัง:
    +1,919
    สงสาร คือการที่เราคิดว่า เขาน่าสงสารต่ำต้อยกว่าเรา เราจะต้องช่วยเขาเพราะเขาต่ำกว่าเรา ก็จะเป็นการเปรียบเทียบ ความสงสารกลายเป็นอารมณ์ อารมณ์ที่รู้สึกว่า เราเก่งกว่า ดีกว่า รวยกว่า


    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=V4FYF5Otp_8]YouTube - All is one-ON AIR_009[/ame]
     
  5. blackangel

    blackangel เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,750
    ค่าพลัง:
    +1,919
    ความ สงสารต่างจากความรักและความเมตตาตรงที่ ความสงสารเป็นความเห็ในใจเพียงชั่วครู่ เป็นความรู้สึกที่ฉาบฉวยไม่มีความมั่นคงทางด้านจิตใจ ฉะนั้นความลึกซึ้งของความเมตตาจึงมีมากกว่าความสงสารมาก บ้างครั้งผู้มีตความเมตตาไม่จำเป็นต้องมีความสงสาร ในขณะเดียวกันผู้มีความสงสารไม่จำเป็นต้องมีความเมตตาย่อมเป็นไปได้ ฉะนั้นความสงสารเป็นความรู้สึกต้องการให้ผู้อื่นยอมรับ แต่ความเมตตาเป็นความรู้สึกที่ออกมาจากใจอย่างแท้จริง

    ความสงสาร เมื่อแสดงออกมาแล้วก่อให้เกิดความยอมรับจากผู้คนได้โดยง่าย เพราะเป็นการแสดงความเห็นอกเห็นใจอย่างออกนอกหน้า แต่ความเมตตาเป็นการแสดงความรักที่กอร์ปด้งวยเหตุผลอย่างทรงพลัง บางทีแล้วการแสดงออกซึ่งความเมตตาบุคคลทั่วไปอาจจะมองไม่เห็นในความเมตตา หรือมองเห็นเป็นตรงกันข้ามก็ได้ แต่ความสงสารนั้นผู้มองเห็น ด้วยความผิวเผินจะทำให้มองเห็นว่าผู้ที่มีความสงสารกลายเป็นผู้มีความเมตตา ได้

    ดังนั้นแล้วสิ่งที่ไม่ควรมีคือความสงสาร แต่ให้ค่อย ๆ เปลี่ยนความสงสารให้กลายเป็นความเมตตา เพราะความเมตตาเป็นสิ่งที่ออกจากใจด้วยความจริงใจ แต่ความสงสารนั้นเป็นความรู้สึกฉาบฉวย แสดงออกเพื่อต้องการให้ผู้อื่นยอมรับเป็นหลัก ด้วยเหตุผลนี้ทำให้ผู้มีความสงสารผู้อื่นเป็นผู้ขาดพลัง เพราะผู้อื่นจะๆม่สามารถสัมผัสความลึกซึ้งที่มาจากผู้ที่มีความสงสารได้ แต่ผู้ที่มีคตวามรักหรือมีความเมตตาอย่างใดอย่างหนึ่ง จะทำให้ผู้อื่นสามารถสัมผัสความรักหรือความเมตตาได้ แล้วที่ผู้เขียนเลือกใช้คำว่าหรือ เพราะผู้เขียนได้อธิบายความต่างระหว่างความรักและความเมตตาไปแล้ว

    ดัง นั้นทั้งความรักและความเมตตา อย่างใดอย่างหนึ่งจึงมีพลังมากกว่าความสงสาร เพราะทั้งความรักและความเมตตานั้นเป็นความรู้สึกที่ออกจากใจทั้งสิ้น มีจุดต่างที่เป็นนัยยะที่สำคัญ คือความรักเป็นสิ่งที่แสดงออกซึ่งเป็นลักษณะของการใช้อารมณ์ ความเมตตาเป็นลักษณะของการใช้เหตุผล ส่วนความสงสารนั้นใช้ความต้องการให้ผู้อื่นยอมรับในตนเองเป็นตัวขับเคลื่อน จะเห็นว่าความลึกซึ้งของคำทั้ง 3 จึงมีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดเจน

    เรา จึงปฏิเสธไม่ได้แล้วว่า ความอยากให้ผู้อื่นยอมรับในตนเป็นโทษมากกว่าประโยชน์ เพราะเจตนาเช่นนี้เป็นตัวทำลายคุณค่าที่พึงมีทั้งความรักและความเมตตาให้มี ค่าด้อยลงเหลือเพียงความสงสารเท่านั้น วัดจากความรู้สึกอย่างง่าย ถ้าเราจะทำอะไรเพื่อใครแล้ว และปรารถนาจะทำให้เพื่อผู้นั้นอย่างแท้จริง แต่ถ้าเรายังมีความรู้สึกว่า เกรงผู้นั้นจะตำหนิติว่า หรือเกรงผลกระทบในลักษณะใดลักษณะหนึ่งมาถึงตน นั่นหมายความว่าเรายังไม่มีแม้แต่ความรักเลยแม้แต่น้อย มีได้แต่เพียงความสงสารเท่านั้น ความเมตตาไม่ต้องกล่าวถึง ด้วยเหตุนี้ พ่อแม่ที่รักลูกจึงทำเพื่อลูกได้ โดยไม่เกรงผลกระทบมาถึงตน แต่ถ้ารักมากจนเข้าข้างการกระทำผิดของลูกก็ส่งผลเสียหายต่อทั้งตนและลูกได้ จึงต้องแยกความเมตตาออกจากความรัก ด้วยกาสรใส่เหตุผลลงไปในความรักเพื่อให้เกิดเป็นความเมตตาได้ในที่สุด

    ท้าย สุดเพื่อให้เกิดความละเอียดอ่อนในการแสดงอารมณ์ จึงควรแยกว่าใครบ้างที่เราสงสาร ใครบ้างที่เรารัก เพราะความรักนั้นยังใช้ได้อยู่ เพียงแต่ใส่อารมณ์ลงไปในความเมตตาเพื่อให้เป็นธรรมชาติของมนุษย์ ความเมตตาก็สามารถเปลี่ยนเป็นความรักได้ เมื่อเป็นความรักแล้วไม่สร้างความเดือดร้อนให้ผู้ใดโดยเจตนา เราก็ย่อมแสดงออกซึ่งความรักได้ เพื่อลดความแข็งกระด้างด้วยการใช้เมตตาซึ่งจะว่ากันเชิงเหตุและผลอย่างเดียว เท่านั้น ฉะนั้นสิ่งสำคัญคือในเมื่อทุกอย่างที่ทั้งข้อดีและข้อเสีย อย่างเช่นความรักกับความเมตตา แล้วเพื่อให้เป็นธรรมชาติก็ให้ใช้ความรักผสมกลมกลืนกับความเมตตาให้มีความ กลมกลืนกัน แล้วให้ตัดความสงสารทิ้งเสีย เพราะความสงสารมีโทษมากกว่ามีประโยชน์นั่นเอง

    ที่มา
    ความสงสารกับความเมตตา
     
  6. โดเรม้อน

    โดเรม้อน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    848
    ค่าพลัง:
    +75
    หากความรักมีล้นดวงจิต
    เพ่งพินิจเมียงมองรักหนักเหลือ
    ความสงสารดึงรั้งและคลุมเคลือ
    ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่เหลือประมาณ
    ความสงสารเจือจานด้วยวัตถุ
    จะบรรลุทางผลหลายมาเหลือ
    หากมีรักพร้อมเมตตามาจุนเจือ
    รักล้นเหลือเปลี่ยนเป็นสุขนิจนิรันดร์
    ....................................
    จงมีความรักและความเมตตาต่อสรรพสัตว์เสมอส่วนความสงสารคือรากฐานเอาไว้ยืน
    ก้าวข้ามแล้วจะพบว่านอกจากความสงสารแล้วมีทางออกที่ดีกว่ามากมาย
    วาทะของ ลี ชุน มิก หน้า 3 บทที่ 11
     
  7. เลขโนนสูง

    เลขโนนสูง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กันยายน 2010
    โพสต์:
    360
    ค่าพลัง:
    +825
    มุมมองความสงสาร ความเมตตา ความรัก ขอแต่ละท่าน ช่างลึกซึ้งจับใจ

    ใช้คำใหนจะเหมาะสมดีน่า........

    ((ช่างงดงาม ไร้ที่ติ))

    คำนี้เข้าใจว่าคงเหมาะสมนะครับ

    ความสงสาร ในการกระทำของตนเอง กับความสงสารในการกระทำของตนเองเพื่อผู้อื่นต่างกันหรือเปล่าครับ ((ไม่ได้กวนนะครับ ต้องการทราบมุมทองของแต่ละท่านครับ รบกวน
    ด้วยนะครับ))
     
  8. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ความรัก มีได้หนึ่งเดียว แต่ถ้ามีมากกว่า1 เรียกว่าคนหลายใจ
    ความสงสาร เกิดได้ไม่จำกัด ถ้ามีเมตตาสูง และไม่เรียกว่าเป็นคนหลายใจ
    และคนบางคนอาจไม่รู้จักคำว่ารักเลยก็เป็นได้ เหมือนคนไม่เคยมีลูกย่อมไม่รู้จักความรักที่มีต่อลูก
    คนที่ไม่เคยมีความรักต่อผู้อื่น จึงไม่รู้จักว่าความรักต่อผู้อื่นเป็นอย่างไร ของแบบนี้มันบังคับใจกันไม่ได้
    ถ้าจะเกิดมันก็เกิดเอง ถ้ามันไม่เกิดทำยังไงมันก็ไม่มี หลอกตัวเองก็ไม่ได้ด้วย

    ความรัก มักจะมาพร้อมกับความสงสาร
    แต่ความสงสารอาจไม่มีความรักเลยก็ได้
    และความสงสารอาจทำให้เกิดเป็นความรักตามมาทีหลังก็ได้
    คนไม่มีความรัก ย่อมไม่รู้จักความรัก
    คนไม่มีความสงสาร ย่อมไม่รู้จักความสงสาร
    คนไม่เคยพบสภาวะนิพพาน ย่อมไม่รู้จักนิพพาน
    คนที่ไม่เคยพบความจริงของสภาวะใด ย่อมไม่รู้จักสิ่งนั้นจริงๆ รู้ได้เพียงบัญญัติที่ผู้รู้จักสภาวะนั้นๆ บอกไว้ เล่าไว้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กุมภาพันธ์ 2011
  9. เลขโนนสูง

    เลขโนนสูง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กันยายน 2010
    โพสต์:
    360
    ค่าพลัง:
    +825
    [/COLOR]


    ประสบการณ์เยอะจังเลยคร้าบบ ((ชอบอะคร้าบ)) คุณ k.kwan

    แต่บางทีผู้นั้นเขาอาจจะรู้ แต่เขาคงหาคำพูดที่ดีที่สุดมาบรรยายให้คนฟังเข้าใจเช่นที่เขาเข้าใจนั้นยากมากมายก็ได้นะครับ เพราะสิ่งที่เราประสบพบเจอมันก็อัดอก เขา จนไม่รู้ว่าจะบรรยายเช่นไรให้ผู้อื่นเข้าใจได้นะครับ
     
  10. เลขโนนสูง

    เลขโนนสูง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กันยายน 2010
    โพสต์:
    360
    ค่าพลัง:
    +825
    วันที่ 14/02/2011.........................


    "14-2-11=1"

    จากการคำนวน วันวาเลนไทน์ปีนี้สถิติคนอกหักสูงมาก เหมาะกับการอยู่คนเดียว.......
     
  11. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    จากประสบการณ์ส่วนตัว ถ้ารู้จริงในเรื่องใดก็จะอธิบายเรื่องนั้นได้ไม่คลุมเครือ
    แต่ถ้ารู้ไม่ชัด มันจะตอบแบบไม่ชัด พูดสับสน วกวน จนตัวเองก็ยัง งง ในตัวเอง

    แต่ถ้าเป็นคนที่รู้จริงและรู้ชัดจริงๆ แต่อธิบายเป็นคำพูดไม่ได้ พวกเขาก็จะไม่พูด
    นะ เพราะรู้ตัวว่า อธิบายไปก็คนอื่นฟังแล้วก็เข้าใจไม่ถูกไม่ตรงกับใจคนพูด
    พูดไปก็พาคนอื่นเข้าใจผิดหนักขึ้นไปอีก แต่ก็นะ ทุกเรื่องก็คงมีเรื่องยกเว้นอยู่ดี
    เราคงไม่อาจไปรู้เรื่องของคนอื่นได้ถูกต้องตรงตามจริงได้ เราก็รู้แต่เรื่องของตัวเราเองเท่านั้น

    มีเรื่องน่าสนใจเอามาฝากนะ เรื่องความทุกข์ของคนไร้คู่

    ชาวจีนวัยทำงานฮิต “จ้างคนรักปลอม” ช่วงตรุษจีน
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>9 กุมภาพันธ์ 2554 14:58 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]

    ในภาพ ถัง หย่งเสวีย ยืนอยู่บนถนนในเมืองเฉิงตู มณฑลซื่อชวน(เสฉวน) พร้อมกับถือป้าย "หาเพื่อนชายกลับบ้านช่วงตรุษจีน" ค่าจ้าง 5 วัน 10,000 หยวน

    ไชน่า เดลี่ - เทศกาลตรุษจีน ถือเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขสันต์สำหรับชาวจีน ที่จะได้กลับไปพบปะและสังสรรค์กับครอบครัวอย่างพร้อมหน้า แต่ทว่า สำหรับคนเมืองในวัยทำงานที่ยังโสด กลับเป็นช่วงเวลาแห่งความลำบากใจ หากจะต้องกลับบ้านเพียงลำพัง

    สื่อจีนเผยกระแสการจ้างคนรักปลอมให้ร่วมเดินทางกลับบ้านไปพบครอบครัวในช่วงเทศกาลตรุษจีน เพื่อเลี่ยงปัญหาการโต้เถียงกับครอบครัวในเรื่องการหาคู่แต่งงาน อันเป็นความคาดหวังของบรรดาพ่อแม่ชาวจีนจำนวนมาก

    เมื่อเดือนธ.ค.ปีที่ผ่านมา ถัง หย่งเสวีย ยืนถือป้ายอยู่บนถนนในเมืองเฉิงตู มณฑลซื่อชวน(เสฉวน) ในป้ายระบุว่า “ต้องการจ้างแฟนปลอมสำหรับช่วงเทศกาลตรุษจีน” ค่าจ้าง 5 วัน 10,000 หยวน(ราว 45,000 บาท) โดยผู้สมัครจะต้องมีอายุในช่วง 26 - 30 ปี สูงอย่างน้อย 175 ซม. และเป็นคนฉลาด เธอกล่าวกับนักข่าวว่า “ฉันต้องการจ้างเพื่อนชายร่วมเดินทางกลับบ้านไปหาพ่อแม่ของฉัน”

    วิธีการดังกล่าว เป็นที่นิยมอย่างมากในโลกออนไลน์ โดยมีการโพสต์โฆษณาหาคู่ปลอมมานัดเดทในช่วงวันหยุดเทศกาล หรือโฆษณารับจ้างเป็นแฟน บนเว็บไซต์ยอดฮิตของจีนจำนวนมาก อาทิ เว็บไซต์ซีน่า และเว็บไซต์เถาเป่า

    ชาวเน็ตจีนที่ใช้ชื่อว่า Howe.C กล่าวว่า “มันเป็นเรื่องสนุก ที่ได้ช่วยบรรเทาความหนักใจในเรื่องการแต่งงานของคนอื่น นอกจากนี้ การได้เที่ยวกับคนที่ไม่ได้รู้จักกันมาก่อน ก็เป็นเรื่องน่าตื่นเต้น”

    และให้ความเห็นว่า “สำหรับยุคนี้ เราไม่ควรแต่งงาน ด้วยเหตุผลเพียงแค่ถึงวัยที่ควรจะแต่ง แต่เราควรตามหารักแท้ให้เจอ ซึ่งอาจต้องใช้เวลา ในบางครั้งพ่อแม่ก็กดดันเรามากเกินไป และสำหรับผู้หญิงที่มีอายุย่างเข้าเลข 3 จะยิ่งรู้สึกกดดันหนัก เนื่องจาก โดยทั่วไปคนจะมองว่า ผู้หญิงยิ่งมีอายุมากเท่าไร โอกาสในการแต่งงานจะยิ่งน้อย”

    แม้ว่าการจ้างเพื่อนชายหรือเพื่อนหญิง จะดูเหมือนเป็นการหลอกลวงครอบครัวของผู้ที่ใช้บริการ แต่ผู้ที่สนับสนุนวิธีการดังกล่าวมองว่า เป็นการโกหกที่มีเจตนาดีและส่งผลดีต่อทั้งสองฝ่าย ช่วยให้คนโสดทั้งหลายไม่ต้องทะเลาะโต้เถียงเรื่องแต่งงานกับครอบครัวของตน ขณะที่ บางคนมองว่า หากโชคดี คู่รักปลอมอาจกลายเป็นคู่รักแท้จริงได้

    เหริน หง ชายโสดวัย 31 ปี แห่งกรุงปักกิ่ง กลับมองว่า “การหลอกลวงเป็นสิ่งที่ยาก คุณต้องแต่งเรื่องมากมาย เพื่อปกปิดเรื่องจริง และหากครอบครัวของคุณรู้ พวกเขาจะรู้สึกแย่มากกว่าเดิม”

    “ครอบครัวของผมเร่งเร้าให้ผมหาคู่ครอง แต่ผมบอกไปว่า ผมมีความสุขที่ได้ใช้ชีวิตในแบบของผม ซึ่งผมเชื่อว่า พวกเขาก็มีความสุขกับแนวทางของผม และผมจะไม่มีวันหลอกลวงพวกเขา”

    เหริน ชี้ว่า “แทนที่จะนำคนแปลกหน้ามาสวมบทบาทคู่รักจำลอง เราควรใช้เวลามองหาความสัมพันธ์อันลึกซึ้งและจริงจังดีกว่า อย่างน้อยก็ยังดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย อีกทั้งทำให้ครอบครัวของเราพอใจ”

    โฮ่ว จือหมิง นักวิจัยด้านกฎหมายแห่งปักกิ่ง และที่ปรึกษาด้านความสัมพันธ์ มองว่า “บางครั้ง การหลอกลวง อาจเป็นสิ่งที่เหมาะสม มันอาจไม่ใช่เรื่องผิด หากลูกหลานต้องการทำเพื่อเอาใจพ่อแม่ของเขา”

    และกล่าวว่า “การหลอกลวง อาจเป็นเรื่องที่ยอมรับได้ หากเป็นการทำเพื่อสนองต่อความปรารถนาสุดท้ายของสมาชิกในครอบครัวที่จะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน อย่างไรก็ตาม หากไม่ใช่กรณีดังกล่าว ก็ไม่ควรหลอกลวงครอบครัวของเราด้วยการจ้างคู่รักปลอมมาที่บ้าน แต่อาจใช้วิธีถ่ายภาพคู่และโชว์ให้ครอบครัวดู พร้อมกับอธิบายว่า มันเร็วเกินไปที่จะแต่งงาน”

    “เราจำเป็นต้องพูดคุยกับครอบครัวอย่างมีเหตุผล บอกพวกเขาไปว่า คุณพอใจกับการเป็นโสด แต่ก็ยังคงหวังว่าจะได้พบคนที่ใช่และได้แต่งงานอย่างมีความสุข”

    China - Manager Online -
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กุมภาพันธ์ 2011
  12. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    เหตุเกิดเพราะวันวาเลนไทน์
    รัฐมาเลย์เตรียมกวาดล้าง “คู่รัก” ชิงสุกก่อนห่ามในวัน “วาเลนไทน์”
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>9 กุมภาพันธ์ 2554 14:16 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]


    นาสรุดดิน ฮาซัน ตันตาวี หัวหน้าฝ่ายเยาวชนพรรคอิสลามิก พีเอเอส

    เอเอฟพี - หลายรัฐในมาเลเซียเตรียมแผนกวาดล้างหนุ่มสาวที่ทำผิดจารีตประเพณีในวันวาเลนไทน์ ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการรณรงค์ให้ประชาชนใช้ชีวิตในกรอบศีลธรรม ผู้นำพรรคอิสลามิก เผยวันนี้(9)

    นาสรุดดิน ฮาซัน ตันตาวี หัวหน้าฝ่ายเยาวชนของพรรคอิสลามิก พีเอเอส ระบุว่า รัฐเกดะห์, ปีนัง, กลันตัน และ สลังงอร์ จะทำการ “ตรวจจับการทำผิดศีลธรรม” ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ นี้

    พีเอเอส เป็นหนึ่งในพันธมิตรฝ่ายค้านที่ได้ชัยชนะในการเลือกตั้งในปี 2008 และสามารถควบคุมการบริหารใน 4 รัฐข้างต้น แนวทางอนุรักษ์นิยมของ พีเอเอส ทำให้เกิดข้อขัดแย้งกับพรรคฝ่ายค้านอื่นๆ รวมถึงพรรคเดโมแครติก แอคชั่น ปาร์ตี ซึ่งมีสมาชิกส่วนใหญ่เป็นชาวจีน

    “เราจะเข้าไปตรวจตามจุดต่างๆที่คู่รักหนุ่มสาวมักจะไป โดยใช้เจ้าหน้าที่หน่วยงานด้านศาสนาในท้องถิ่น รวมถึงสมาชิกพรรค เพื่อหยุดยั้งพฤติกรรมที่เป็นบาป เช่น การมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่จริงจัง ซึ่งขัดต่อหลักศาสนาอิสลาม” นาสรุดดิน ให้สัมภาษณ์ พร้อมระบุว่า จะจัดการกับเยาวชนที่ทำผิดตามหลักกฎหมายอิสลาม ซึ่งใช้ควบคู่กับกระบวนการยุติธรรมทางโลกในสังคมมาเลเซีย

    “ที่ผ่านมาเคยมีการรณรงค์ให้หนุ่มสาวงดสวมกางเกงในในวันวาเลนไทน์ และบางโรงแรมยังเปิดห้องฟรีให้คู่รักที่ยังไม่ได้แต่งงานด้วย เราต้องหยุดการกระทำที่เป็นบาปเหล่านี้”

    นาสรุดดิน ระบุว่า กลุ่มเยาวชนพีเอเอส จะสนับสนุนให้หนุ่มสาวใช้ชีวิตอย่างถูกทำนองคลองธรรมในช่วงเทศกาลนี้

    “เราไม่ได้ห้ามการมีความรัก แต่เราต้องการรณรงค์ให้ชาวมุสลิมในมาเลเซียประพฤติตนอยู่ในกรอบความเชื่อของอิสลาม”

    พีเอเอส ประกาศจุดยืนด้านศีลธรรมอย่างแข็งกร้าวในรัฐกลันตัน ด้วยการห้ามการพนันทุกชนิด จำกัดการจำหน่ายแอลกอฮอล์ และกำหนดให้ผู้ชายและผู้หญิงที่ไปซื้อของตามร้านค้าต้องต่อคิวแยกกัน

    Around the World - Manager Online -

    คาดเงินสะพัดวาเลนไทน์ 2.6 พันล้าน โพลชี้ ม่านรูดยังครองใจวัยรุ่น

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>9 กุมภาพันธ์ 2554 12:35 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]
    โพล ม.หอการค้า ชี้ เทศกาลวาแลนไทน์ปีนี้ เม็ดเงินสะพัด 2,655 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.38% จากปีก่อน เผยวัยรุ่น 16.9% มีแผนมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก ม่านรูดยังครองแชมป์ พร้อมระบุ เหตุปะทะไทย-กัมพูชา ไม่กระทบอารมณ์การใช้จ่าย

    นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย แถลงทัศนคติพฤติกรรมและการใช้จ่ายผู้บริโภคช่วงเทศกาลวาเลนไทน์ จากการสำรวจกลุ่มตัวอย่าง 1,206 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 2-6 กุมภาพันธ์ 2554 โดยคาดว่าจะมีเงินสะพัดทั่วประเทศ 2,655 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.38% จากปีก่อน ที่มีเงินสะพัด 2,450 ล้านบาท

    ส่วนสาเหตุที่วาเลนไทน์ปีนี้ยังคึกคัก แม้ว่าตัวเลขการใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนจะมีเพียง 1,288 บาท เมื่อเทียบกับระดับปกติที่ควรมีการใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคน 1,400 บาทนั้น เป็นเพราะเศรษฐกิจไทยเริ่มกลับมาฟื้นตัวไม่นาน อีกทั้งการใช้จ่ายช่วงวาเลนไทน์จะเป็นกลุ่มวัยรุ่นเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งมีกำลังซื้อไม่มากพอเท่ากับผู้ใหญ่ ส่วนปัจจัยเสี่ยง เช่น ปัญหาการเมืองภายในประเทศ การปะทะระหว่างไทยและกัมพูชา แทบจะไม่มีผลต่อบรรยากาศการใช้จ่ายเลย

    จากผลการสำรวจยังพบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับวันวาเลนไทน์เพิ่มขึ้นจากในอดีต 5-10 ปีที่ผ่านมา และสถานะของผู้ตอบที่จะไปฉลองวาเลนไทน์ส่วนใหญ่มีคนรู้ใจ แต่ไม่ถึงขั้นเป็นแฟน ส่วนบรรยากาศวันวาเลนไทน์ ผู้ตอบส่วนใหญ่ 42.6% มองว่า ปีนี้คึกคัก เพราะเศรษฐกิจดีขึ้น มีสถานที่เที่ยวมากขึ้น เป็นต้น ส่วนผู้ตอบ 24.6% ที่ตอบว่าคึกคักน้อยลง เพราะราคาสินค้าแพงขึ้น และเศรษฐกิจแย่ลง

    ทั้งนี้ ของขวัญที่นิยมมอบให้กันมากที่สุด ได้แก่ ดอกไม้ ดอกกุหลาบ ร้อยละ 81 ดอกรัก ร้อยละ 5.7 ดอกทิวลิป ร้อยละ 3.9 และนิยมดอกไม้ในประเทศมากกว่าดอกไม้นำเข้า

    “ผลการสำรวจดังกล่าว สะท้อนให้เห็นว่า ประชาชนยังมีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจไทยที่เริ่มฟื้นตัว โดยปัญหาทางการเมือง และปัญหาการปะทะระหว่างไทย-กัมพูชา มีผลต่อารมณ์ของการจับจ่ายเล็กน้อยเท่านั้น เพราะส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่น”

    สำหรับหัวข้อเรื่องพฤติกรรมการมีแผนมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก ในวันวาเลนไทน์ส่วนใหญ่ 51.5% ตอบว่า ไม่มีแผน ขณะที่ 16.9% มีแผน และ 31.5% ไม่แน่ใจ สะท้อนว่า วัยรุ่นไทยยังติดค่านิยมการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร ส่วนการประกาศเคอร์ฟิวหลัง 4 ทุ่ม ห้ามเด็กออกจากบ้าน ไม่มีผลต่อการมีเพศสัมพันธ์ ของเด็กในช่วงวันวาแลนไทน์

    เมื่อสอบถามทัศนะต่อคู่รักกลุ่มที่มีการฉลองวาเลนไทน์ด้วยการมีเพศสัมพันธ์ พบว่า อายุระหว่าง 23-29 ปี สถานะโสด เป็นกลุ่มที่มีเพศสัมพันธ์มากสุด ส่วนสถานที่ที่วัยรุ่นอาจมีการฉลองวาเลนไทน์ด้วยการมีเพศสัมพันธ์ส่วนใหญ่ยังเป็นโรงแรมม่านรูด รองลงมาเป็นห้องพักรายวัน อพาร์ตเมนต์ บ้าน และ สวนสาธารณะ เมื่อถามถึงทัศนคติการมีเพศสัมพันธ์ก่อนการแต่งงาน ส่วนใหญ่ 43% ตอบว่า แล้วแต่มุมมอง ส่วน 29% ตอบไม่ควร และอีก 28% ตอบว่าเป็นเรื่องธรรมดา

    http://www.manager.co.th/Business/ViewNews.aspx?NewsID=9540000017542
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กุมภาพันธ์ 2011
  13. โดเรม้อน

    โดเรม้อน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    848
    ค่าพลัง:
    +75
    หลายสิ่งในโลกมีเกิดและเป็นไปตามวาระกรรม คนทุกคนต้องการเลือกสิ่งที่ดีแต่อะไรละดีที่สุด Something For notthing
     
  14. โดเรม้อน

    โดเรม้อน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    848
    ค่าพลัง:
    +75
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=F11T>
    ความรัก...... จากพระไตรปิฎก


    มารู้จัก ความรัก วาเลนไทน์
    จากพระไตรฯ กล่าวถึงรัก สมัครสมาน
    ถ้าต้องการ ให้รักนั้น มั่นยืนนาน
    ต้องร่วมสาน สองดวงจิต ชิดธัมมา

    หนึ่งต้องมี สัทธา เสมอกัน
    สองศีลนั้น ต้องเสมอกัน มั่นปรารถนา
    สามจิตมั่น ตรงกัน ในจาคา (จาคะ)
    สี่ปัญญา ต้องมิเหลื่อม เลื่อนจากกัน

    ธรรมทั้งสี่ นี้ให้คู่ ดูสดใส
    เจริญใน ธัมมา พาสุขสันต์
    ทั้งศีล วัตร มิพร่อง ต้องเสมอกัน
    ทั้งคู่นั้น จะคู่กัน นิรันดร์ไป

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  15. โดเรม้อน

    โดเรม้อน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    848
    ค่าพลัง:
    +75
    เยส

    เมื่อสอบถามทัศนะต่อคู่รักกลุ่มที่มีการฉลองวาเลนไทน์ด้วยการมีเพศสัมพันธ์ พบว่า อายุระหว่าง 23-29 ปี สถานะโสด เป็นกลุ่มที่มีเพศสัมพันธ์มากสุด ส่วนสถานที่ที่วัยรุ่นอาจมีการฉลองวาเลนไทน์ด้วยการมีเพศสัมพันธ์ส่วนใหญ่ยังเป็นโรงแรมม่านรูด รองลงมาเป็นห้องพักรายวัน อพาร์ตเมนต์ บ้าน และ สวนสาธารณะ เมื่อถามถึงทัศนคติการมีเพศสัมพันธ์ก่อนการแต่งงาน ส่วนใหญ่ 43% ตอบว่า แล้วแต่มุมมอง ส่วน 29% ตอบไม่ควร และอีก 28% ตอบว่าเป็นเรื่องธรรมดา


    ตัวเลขบ่งบอกค่านิยมของคนในยุคนี้
     
  16. blackangel

    blackangel เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,750
    ค่าพลัง:
    +1,919
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=Ij57om9P-TU&feature=related]YouTube - ส่งต่อความรัก.wmv[/ame]
     
  17. AiiFAR

    AiiFAR เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    69
    ค่าพลัง:
    +194
    ความรักอาจจะเริ่มต้นด้วยความสงสาร
    แต่ความสงสาร ไม่ใช่ความรัก :)
     
  18. เลขโนนสูง

    เลขโนนสูง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กันยายน 2010
    โพสต์:
    360
    ค่าพลัง:
    +825
    ปล่อย


    ฝืนข่ม เหมือนคนไม่มีน้ำตา
    ฝืนทน กับความช้ำของวันวาน
    กับเรื่องราวที่ผ่านมา
    เมื่อทุก สิ่ง วกวนข้างในหัวใจ
    ทุกคำ ยังตอกย้ำทำลายใจ
    ว่ารักคงไม่กลับมาอีก แล้ว
    เปลี่ยนวันที่ใจนั้นเปลี่ยน
    วันที่คนหนึ่งคนทิ้ง กัน วันที่เธอต้องกลืนต้องเก็บ
    วันที่ทรมาณ วันที่เกินจะทนรับมันเอาไว้
    อยาก จะร้องบ้างไหม ร้องให้กับมันซักที
    ร้องซักครั้ง ร้องพอให้มีน้ำตามาแบ่งเบา
    ร้องจนกว่าจะลืมเรื่องราว
    เมื่อ รักเปลี่ยน เหลือเธอที่ยังเหมือนเดิม
    หัวใจ เหนื่อยเพียงไหนที่เฝ้าคอย
    แต่ รักคงไม่กลับมาอีกแล้ว
    ปล่อยวันนี้เธอแค่ปล่อย วันนี้เธอเข้าใจซักที
    วันที่โลกทั้งใบนั้นเปลี่ยน เธอก็คงต้องปล่อย
    พอ ซักทีอย่าทนรั้งมันเอาไว้
    อยากจะร้องก็ร้อง ร้องให้กับการร่ำลา ร้องซักครั้ง
    ร้องให้กับคนที่คงไม่กลับมา ร้องจนกว่าจะหมดน้ำตา
    ก็ปล่อยให้ใจร้องซักครั้ง ร้องจนกว่ามันจะชินและชา
    ร้องครั้งนี้ร้องให้รักและวันเวลา ให้หยดน้ำตา มันลบภาพในหัวใจ
    วันนั้น สิ่งนั้น จะรั้งไว้ทำไม
    วันนี้ พรุ่งนี้ ความฝันยังยาวไกล
    ความ รัก วันนั้น ให้เรียนรู้มันเอาไว้
    สุดท้าย ชีวิต มันสวยงามเพียงใด
    ปล่อยวันนี้เธอแค่ปล่อย พอน้ำตามันลบเลือนไป สักวันก็คงเข้าใจ

    ((เอาคลิบมาลงไม่เป็นก็อ่านเนื้อไปก่อนแล้วกันนะครับ :boo:))
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กุมภาพันธ์ 2011
  19. ปุณฑ์

    ปุณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,760
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,692
    ความสงสาร เกิดได้เมื่อเห็นคนอื่นประสบทุกข์ มาจากความรักแท้(จิตเดิม) อยู่ที่ว่าจะพัฒนาต่อไปในทางไหน
    ความรัก(ปุถุชน) เกิดเพราะความไม่สมประกอบแห่งจิต ถ้าจิตที่มีความสมบูรณ์จะไม่ต้องการความรักเช่นนี้ เพราะมันมาจากรากฐานแห่งความเกลียด (ทวิภาวะธรรมดาของสรรพสิ่งเป็นลักษณะเช่นนี้)

    ความรักแท้นั้น มีระดับบารมีไม่เท่ากัน
    ต่ำสุดไม่ทำร้ายใคร สูงสุดช่วยคนได้ไม่มีประมาณ
     
  20. โดเรม้อน

    โดเรม้อน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    848
    ค่าพลัง:
    +75

    ร้องอย่าร้องให้เสียน้ำตาหากเธอรักเขาก็จงลืมฉัน จะต้องตัดใจ ปวดร้าวทำไม ตัดใครสักคนมั่นหนึ่งในรักเดียว
     

แชร์หน้านี้

Loading...