มาดูสมเด็จกัน

งานนี้ผมว่าโดนยกชุดนะครับคุณขุมไทย...
องค์แรกผิวแตกลายงาทั้งหน้าหลังจัดมากเกินเหตุ....ในขณะที่ผิวแตกแต่กลับไม่ปรากฎการยุบตัวของผิวเนื้อ...ลักษณะของการแตกลายงาดูเหมือนนำพระไปตากแดดมานานทีเดียวครับ...ส่วนหลุมบ่อนั้นดูเหมือนหลุมกรวดมากกว่าที่จะเป็นหลุมที่เกิดจากการยุบตัวของเนื้อว่านนะครับ.....

ส่วนผิวเนื้อก็มันลื่นดูไม่ธรรมชาติเหมือนผ่านน้ำยาเคลือบดินเผามาเลยครับ...

ส่วนองค์ที่สองนั้นด้านหลังยังหลงเหลือคราบรักน้ำเกลี้ยงที่ทาทิ้งไว้...
เป็นสีน้ำตาลแล้วทำการล้างออก...ซึ่งก็หมายความว่าองค์นี้นั้นเจตนาจะทำให้ผิวเนื้อเกิดการแตกลายงาแต่ใจร้อนรอผลงานไม่ไหวจึงล้างออกเร็วไปรอยแตกลายงาจึงปรากฎไม่สมบูรณ์เท่าที่ควรครับ..

ส่วนพิมพ์นั้นห่างไกลมาก...การยุบตัวไม่ปรากฎ...จบข่าวครับ

 

หลังจากล้างผิวแล้ว....เห็นอะไรในกอไผ่ไหมครับ ?
องค์นี้มีโอกาสที่จะโดนต้มเทียนมาก่อนเป็นไปได้สูงมากครับ....ผิวเนื้อเป็นปูนเปลือกหอยจริงมีประกายรุ้งตามหลักผมว่าว่าผิวปูนแบบนี้สวยนะครับ...

จะติดก็ตรงที่คราบที่ปรากฎนี่แหละครับที่ดูไม่ดีเท่าที่ควร....บอกได้คำเดียวว่าเสียดายแทนครับกำลังไปได้สวยเชียวครับ

 

หมดลุ้นไปญี่ปุ่นครับ....


องค์นี้ผมมองเป็นพิมพ์เส้นด้ายลป.ภูครับ...ผิวเดิมๆ ดีมากครับ


หมดลุ้นอีกเช่นกันครับ...
แต่มีลุ้นได้ตั๋วไปเขมรฟรีนะครับ อิอิ (อ่ะล้อเล่นครับ)


องค์นี้ผ่านครับ....ผ่านไปเลยไม่ต้องจอดพักครับ หุหุ
(เหยียบมิดทะลุไมล์เลยก็ดีครับ...หุหุ แต่ถ้าเป็นพระฟรีก็เก็บไว้ได้ครับถ้าจะเสียตังส์ให้รีบผ่านด่วนเลยครับ...)

 

มีข้อมูลเพิ่มครับมีคนบอกมาว่าคล้ายพิมพ์สมเด็จหลวงพ่อหม่นคลองสิบสองครับแต่ผมก็ไม่รู้จักอีกละครับพี่ท่านว่าไงครับส่วนภาพนั้นตอนถ่ายแสงเฟตมากไปครับเลยขาวสว่างองค์จริงจะออกสีเข็มน้ำตาลดำๆครับ แล้วอีกอย่างองค์นี้ผมได้มาก็ร่วม8ปีกว่าได้มั้งครับได้มาแปปบังเอินครับอิๆๆๆๆ

 

<!-- google_ad_section_end -->
พระชุดนี้ผิวเนื้อเจตนาทำได้เหมือนพระกรุเจดีย์เล็กมากครับ....
เสียก็ตรงด้านหลังนี่แหละครับ....

รอยเงาๆ ที่ด้านหลังไม่ว่าจะเป็นรูปใบโพธิ์ สี่เหลี่ยม หัวใจ ข้ามหลามตัด ล้วนแล้วแต่เป็นการทำขึ้นเพื่อเพิ่มความน่าสนใจว่าเป็นพระเคยผ่านการเลี่ยมทองมา....

ซึ่งในทางความเป็นจริงแล้วโอกาสที่เราจะไปเจอพระกรุเจดีย์เล็กที่...
ผิวสะอาดแบบนี้แล้วมีรอยเงาเหมือนกันแบบนี้....ผมว่าดูแล้วบังเอิญเกินไปหรือเปล่าครับ ??

สรุป โดยส่วนตัวผมยังสงสัยด้านหลังอยู่ครับ...เอาเป็นว่าผมขอผ่านนะครับ

 

น่าจะโดนยกเซทนะครับ...ผมขอผ่านนะครับ


อืม...ก่อนอื่นต้องขอบอกว่าผมเองก็เคยโดนพระแนวนี้เล่นงานมาก่อนเหมือนกันครับ...
จึงไม่อยากให้ใครโดนเหมือนผม...เอาเป็นว่าขอผ่านยกชุดนะครับ


เข้าใจถูกต้องแล้วครับ....องค์นี้พิมพ์บวมเพราะแม่พิมพ์ยาง...
เนื้อมันเพราะต้มเทียนดูไม่ดีครับ...เลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยงครับ


--------------------------------------
ก่อนอื่นผมต้องขอคุยกันก่อนครับว่า...

"พระสมเด็จนั้นถ้าสมมุติว่ามี 84,000 องค์ ผ่านกาลเวลามาขนาดนี้น่าจะมีพระปลอมนับได้หลายสิบล้านองค์นะครับ..."

ดังนั้นการที่เราหาไม่เจอขออย่าได้แปลกใจครับ...

ของจริงของดีนั้นจำนวนไม่น้อยผ่านกาลเวลามาป่านนี้แตกหักเสียก็มาก....ไปอยู่เมืองนอกซะก็เยอะ...ในรังเซียนใหญ่เก็บถาวรก็เพียบ...
ดังนั้นโอกาสที่จะตกหล่นหลุดมาถึงมือเราจึงไม่ใช่ง่ายๆ แน่ครับ...

ดังนั้นท่านใดที่ผมดูไปแล้วว่าไม่ทัน หมดลุ้น ขอผ่าน ก็ขออย่าได้เสียกำลังใจนะครับ....
พระนั้นอยู่ที่ใจครับ...พระจะแท้หรือจะเทียมขอเพียงใจเราไม่เสียถึงเราจะเช่าพระปลอมมาเราก็ไม่เสียใจครับ...ผิดเป็นครู ประสบการณ์คือบทเรียน ชีวิตคือการเรียนรู้ ผมขอเอาใจช่วยทุกท่านครับ

 

อีกชุดครับ พระปิดตาล้วนๆนะครับ แต่จะถามผิดประเพศอะป่าวครับแต่ก็ขอความอนุเคราะด้วยนะครับช่วยตรวจสอบให้ด้วยนะครับขอบคุณครับ

 

อืม...ไม่ทราบที่มาเหมือนกันครับ....ผมขอผ่านนะครับ


องค์นี้จัดเป็นพระที่พิมพ์ไม่ได้มาตรฐานสากลก็จริง แต่จุดที่น่าสนใจก็คือ
ผิวเนื้อมีการนำปูนเปลือกหอยมาผสมจริง มีการใช้ผงข้าวสุกจริง มีการใช้น้ำอ้อยเคี่ยวจริง...มีการใส่ผงดำจริง....

แต่ทั้งหมดที่กล่าวมานี้มิได้เป็นสิ่งที่ยืนยันว่าถ้ามีมวลสารครบแล้วจะต้องเป็นพระสมเด็จทั้งหมดนะครับ....

สิ่งที่จับได้ว่าองค์นี้ไม่ทันสมเด็จสร้างก็คือ "กรอบกระจก" ที่ด้านขวาขององค์พระมีเส้นซ้อนเกินออกมา 2 เส้น บ่งบอกว่าเป็นพระถอดพิมพ์...

ส่วนพิมพ์นั้นเจตนาเลียนแบบพิมพ์ของหลวงวิจารแต่แกะพิมพ์หลุดหลายจุดมาก...

พิจารณามวลสารมีการใส่มวลสารได้สมบูรณ์ใกล้เคียงของจริงมากแต่สิ่งที่หายไปก็คือ "ไม่มีผงเกสร" (จุดแดงที่เห็นถือว่าน้ำหนักน้อยไปครับ) "ไม่มีผงพุทธคุณในเนื้อพระ"

ที่สำคัญที่ผู้สร้างพระองค์นี้เขาลืมไปก็คือ...
การผสมน้ำอ้อยเคี่ยวนั้นข้อเสียคือทำให้เนื้อพระผิวไม่สวยและแตกลายงา....(แตกลายงาคนละแบบกับการลงรัก) แต่องค์นี้กลับไม่แตกลายงาซึ่งก็ชี้ชัดว่าน่าจะเป็นพระใหม่เจตนาเลียนแบบแน่นอนครับ...

 

แหมะคุณ ae noi ก็เล่นรู้คำตอบอยู่แล้วหนิครับ....ไม่น่าถามมาเลยนะครับ หุหุ
ผมก็ไม่ได้รู้พระหมดทุกวัดในประเทศไทยซะด้วยสิครับ....เอาเป็นว่าองค์นี้พระใหม่ละกันครับ...จะเก่าเก็บซัก 2 ปี 8 ปี 10 ปี หักลบกับพ.ศ.ที่เหรียญแล้วผิวเนื้อโลหะก็ยังตุ่ยๆ อยู่ดีแหละครับคุณ ae noi อิอิ

 

ตอบกระทู้ที่ #5811



ผมไม่สันทัดพระใหม่นะครับ....ขอผ่านครับ...อิอิ

 

ขอเรียนชี้แจงคุณ ae noi ก่อนครับว่า....
พระวัดอื่นๆ ทั่วประเทศไทยนั้นมีเยอะมากขอรับ....ถ้าพระชุดไหนของคุณ ae noi ลงถามแล้วผมไม่ตอบก็หมายความว่าผมไม่ทราบที่มานะครับ...ผมจะขอผ่านเลยนะครับ

ถ้าจะให้ผมช่วยวิเคราะห์หรือดูให้ขอเป็นพระสมเด็จที่คุณ ae noi กำลังสงสัย...
ถ้าผมพอมีปัญญาจะตอบได้ผมจะตอบให้ครับ...แต่ถ้าไม่ตอบก็แปลว่าขอผ่านนะครับ Okay นะครับเราเข้าใจตรงกันแล้วนะครับ อิอิ

 

ครับผมรับทราบครับแหมพี่ท่านก็พูดซะผมรู้สึกผิด+ละอายใจเลยครับ พี่xlmen ยังไงๆก็ฝากพระปิดตา1ชุดด้วยนะครับกระทู้5863เอาเท่าที่รู้อะครับผมอิๆๆๆผมเป็นห่วงนะจะบอกห้ายเดี๋ยวดูมากจะเครียดนะครับอิๆๆๆๆแต่ก็สงเคราะทู้#5863ด้วยนะครับแหะๆๆๆๆ

 

ขอบพระคุณครับท่าน อาจารย์....

 

ขอบคุณท่านxlmen ครับ ที่ช่วยพิจารณา และ..ขอรบกวนอีกสี่ภาพ พิมพ์สมเด็จ..คราบจริงหรือเทียม ช่วยชี้แนะด้วย..ขอบคุณมากครับ

 

มีพระสมเด็จ พระครูมูลวัดสุทัศน์มาให้ตรวจสอบอีกแล้วครับท่าน ที่ผมคิดว่าเป็นของวัดสุทัศน์เพราะข้างหลังพระมีรอยเขียนว่าเสาชิงช้าครับ หรือของวัดปราสาทอะป่าวครับพี่ๆช่วยตรวจด้วยนะครับขอบคุณครับ ถ่ายภาพสีไม่ค่อยโดนอะครับเปิดหรือปิดเฟตก็ได้แบบนี้อะครับองค์จริงไม่ค่อยมันแต่ก็ไม่แห้งครับอิๆๆๆคิดดูเอาครับแหะๆๆๆ

 

ขออนุญาตท่านเจ้าของภาพด้วยครับ เพื่อความรู้กัน
หลังที่ได้รับคำแนะนำเลยนำไปแช่น้ำอุ่นครับ
ภาพแรกคือก่อนแช่น้ำอุ่น
ภาพสองกับสามคือผ่านการแช่น้ำอุ่นครับ
จากเดิมที่พี่Xlmenบอกว่าที่ด้านหน้ามีลุ้น ด้านหลัง50 50
ตอนนี้พอจะลุ้นขึ้นมั้ยครับ<!-- google_ad_section_end -->

<FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>

</FIELDSET>
( โพสที่แล้วขอลบออกเพราะเปิดภาพไม่ได้ครับ )
สงกะสัยว่าของผมองค์นี้ก็คงโดนเหมือนกันแน่ๆ แหงๆเลยเชียว ไม่เป็นไรจุดมุ่งหมายเพียงนำมาเทียบ เพื่อเป็นตัวอย่างกัน เสียดายตรงที่ว่าการดูผิวว่าเก่าจริงหรือไม่นั้น ผมยังห่างไกลคงต้องเน้นเรื่องนี้ให้มากๆแล้วเรา

ยังไงๆ ต้องรบกวนคุณ wasabi san และคุณ xlmen ช่วยดูว่าโดนเหมือนกันใช่ไหมครับ อิอิอิ เฮ้อ.................

 

แบบนี้จะโดนมั้ย!...............

 

คราบเทียมครับ....ไม่ว่าจะตีว่าแป้งขาวๆ ว่าเป็นแป้งโรยพิมพ์หรือผงพุทธคุณฉาบผิวก็ล้วนแล้วแต่เป็นคราบเทียมทั้งสิ้นครับ....
ถ้าเป็นวัดระฆังจริงพระต้องผ่านการห้อยใช้มาอย่างโชกโชนแป้งโรยพิมพ์ต้องหลุดไปนานแล้วครับ.....

หรือจะบอกว่าเป็นคราบแป้งโรยพิมพ์ในกรุก็ไม่ได้อีก
เพราะในพระกรุคราบแป้งโรยพิมพ์ก็แทบจะหายไปหมดสิ้นเพราะน้ำภายในกรุนะครับ...

หรือจะตีว่าเป็นผงพุทธคุณฉาบผิวนี่ยิ่งยากใหญ่...เอกลักษณ์ของผงพุทธคุณในเนื้อพระผุดขึ้นลักษณะไม่ใช่แบบนี้ครับ...

 

พระเนื้อสวยครับ...แหมะไม่น่าถามเลยว่าออกวัดไหนคุณ ae noi ก็น่าจะรู้ที่มาอยู่แล้วหนิครับทำเป็นถามมานิ อิอิ....
เอาเป็นว่าองค์นี้พระเนื้อสวยพิมพ์แปลกตาคนรู้จักน้อยไม่ปลอมแน่ครับ...


เรื่องผิวเนื้อสวยหนึกนุ่มนี่ใช่ว่าสมัยนี้จะทำไม่ได้นะครับเดี๋ยวนี้เค้าพัฒนาแล้วทำได้ครับ...
อย่างองค์ก่อนที่คุณอังคารสงสัยว่าองค์นี้


จะกลายเป็นพระฝีมือได้อย่างไร ?
ก่อนอื่นผมต้องขอชี้แจงก่อนครับว่าพระทั้ง 2 องค์นี้ทำจากปูนเปลือกหอยเหมือนกันทั้งคู่...และผ่านการอบหรือตากแดดมาอย่างดีโดยมีการใช้น้ำยาเคลือบเพื่อให้ผิวเนื้อเกิดการแตกลายงาที่ทั่วองค์ทั้งด้านหน้าและหลัง...

อีกกรณีที่ทำให้พระทั้งสององค์กลายเป็นพระฝีมือก็คือ พิมพ์เจตนาเลียนแบบพิมพ์นิยมของหลวงวิจารแต่ไม่มีเส้นกรอบกระจก
และถ้าไม่มีเส้นกรอบกระจกก็ควรจะมีลักษณะของขอบพระที่เกิดจากการตัดด้วยมีด ตอกตัด อย่างใดอย่างหนึ่งมิควรเรียบแบบมีระเบียบแบบนี้ครับ..

อีกอย่างถ้าเป็นพระสมเด็จยุคปลายที่ทันหลวงวิจารจริง
ก็ต้องใส่น้ำมันตั่งอิ๋ว และถ้ามีตั่งอิ๋วแล้วผิวเนื้อจะหาเหตุผลอะไรไปแตกลายงาได้หละครับ...

จึงได้ข้อสรุปแบบฟันธงว่า....
"พระทั้งสององค์นี้ผิวแต่งลายงา ขอบเรียบไม่ตัดชิดขอบต้องเป็นพระจำลองพิมพ์แน่นอนครับฟันธง อิอิ"