อาฆาตพยาบาทมากค่ะ ทำยังไงดีคะ

ในห้อง 'ภพภูมิ-สวรรค์ นรก' ตั้งกระทู้โดย CasCa, 26 มกราคม 2011.

  1. CasCa

    CasCa สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +14
    เมื่อประมาณ 3 ปีมาแล้ว เคยคบกะแฟนคนเก่า
    แล้วมีผู้หญิงคนนึงเป็นมือที่สาม มาแย่งไปค่ะ เรื่องที่แฟนเก่าเราไม่รักเรา
    ฉันไม่ได้โกรธเรื่องนั้นนะคะ แต่ที่โกรธและผูกใจเจ็บคือ
    ฉันเป็นคนซื่อสัตย์กับแฟนมาก แต่กลับโดนหักหลัง ผู้ชายก็ทำเหมือนกันเราไม่มีความดี ส่วนผู้หญิงคนนั้น ก็ยังพูดจาหยามน้ำใจเรา มันทำให้เรารู้สึกโกรธและเกลียดมาก

    ทั้งๆ ที่ เราดีกว่าทั้งสองคนนั้น ทุกอย่าง ทั้งฐานะ ชาติตระกูล หน้าตา การศึกษา

    หลังจากที่เลิกกันมาได้ มีแต่คนบอกว่าฉันมีบุญ ที่เลิกกับผู้ชายคนนั้นได้
    ตอนนี้มีแฟนใหม่แล้วค่ะ เป็นคนดีมาก ซื่อสัตย์และรักฉันมาก

    แต่มีอย่างนึง ที่ฉันไม่อยากเป็นเลยค่ะ คือ

    ใจฉันยังผูกพยาบาท ผู้หญิงคนนั้น ไม่เลิกค่ะ
    กับแฟนเก่ายังไม่เท่าไหร่นะคะ แต่กับผู้หญิงคนนั้น มันรู้สึกรุนแรงมาก
    จนไม่รู้จะทำยังไง ทั้งๆ ที่ ฉันต้องขอบคุณหล่อนคนนั้นด้วยซ้ำ ที่มาเอานรกไปจากฉัน แต่ฉันก็ยังเกลียดเธออยู่ แต่ที่ไม่เคยทำอะไรลงไปเลย
    เพราะฉันกลัวบาปกรรมค่ะ ไม่อยากสร้างเวรกรรม

    อยากละความอาฆาตนี้มากค่ะ เพราะตอนนี้มีสิ่งเดียวที่ทำให้ใจเป็นทุกข์
    ก็คือ อาฆาตผู้หญิงคนนี้แหละค่ะ

    :'(
     
  2. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    วางให้เป็น แล้วจะไม่ทุกข์

    มองให้เป็นว่า นี่คือกรรมเก่าของเรา
    มองให้เป็นว่า เราโชคดีที่ได้ใช้กรรมเก่าแล้ว
    มองให้เป็นว่า เราพ้นจากผู้ชายห่วย ๆ
    มองให้เป็นว่า พรุ่งนี้ย่อมดีกว่าวันนี้
    มองให้เป็นว่า 1 วันนรก เท่ากับ 9 ล้านปีมนุษย์

    มองให้รู้ แล้วทำให้ได้

    ขอให้พบทางออกของชีวิตครับ

    โมทนา
     
  3. ๒ อัฐ

    ๒ อัฐ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    333
    ค่าพลัง:
    +140
    สวดมนต์ตามบทต่อไปนี้ครับ ทุกวัน วันละครั้ง ก่อนนอน อย่าให้ขาดสัก 7 วันก็จะเห็นผลครับ ขออนุโมทนาครับ สาธุ สาธุ สาธุ

    คำบูชาพระ
    อิมินา สักกาเรนะ พุทธัง อะภิปูชะยามิ
    อิมินา สักกาเรนะ ธัมมัง อะภิปูชะยามิ
    อิมินา สักกาเรนะ สังฆัง อะภิปูชะยามิ
    <?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    คำนมัสการพระรัตนตรัย
    อะระหัง สัมมา สัมพุทโธ ภะคะวา พุทธังภะคะวันตัง อภิวาเทมิ(กราบ)
    สะวาขาโต ภะคะวะตาธัมโม ธัมมังนะมัสสามิ(กราบ)
    สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สังฆัง นะมามิ(กราบ)
    <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    คำอาราธนาศีล 5
    มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะนัตถายะ
    ติสะระเณนะสะหะ ปัญจะ สีลานิยาจามะ
    ทุติยัมปิ มะยังภันเต วิสุง วิสุง รักขะนัตถายะ
    ติสะระเณนะสะหะ ปัญจะ สีลานิยาจามะ
    ตะติยัมปิ มะยังภันเต วิสุง วิสุง รักขะนัตถายะ
    ติสะระเณนะสะหะ ปัญจะ สีลานิยาจามะ
    <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    คำนมัสการพระพุทธเจ้า
    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (3 จบ)
    <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ไตรสรณคมณ์
    พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
    ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
    สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
    ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
    ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
    ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
    ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
    ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
    ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
    <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ศีล 5
    ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
    อะทินนาทานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
    กาเมสุมิจฉาจารา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
    มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
    สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
    <o:p></o:p>
    คำขอขมาพระรัตนตรัย
    สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ทวารัตเยนะ กะตัง
    สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ขะมามิ ภันเตฯ
    <o:p></o:p>
    หากข้าพระพุทธเจ้า ได้เคยประมาทพลาดพลั้งล่วงเกิน ต่อพระรัตนตรัย
    อันมีพระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระธรรม
    และพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย ในชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ด้วยกายก็ดี ด้วยวาจาก็ดี
    ด้วยใจก็ดี ด้วยเจตนาก็ดี ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี
    <o:p></o:p>
    ขอองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระธรรม พระอริยสงฆ์
    ทั้งหลาย และผู้มีพระคุณทุกท่าน ได้โปรดงดเว้นโทษให้แก่ข้าพระพุทธเจ้า
    ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานด้วยเทอญ
    <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ๑. พุทธคุณ
    อิติปิโส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ วิชชาจะระณะ สัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู
    อนุตตะโร ปุริสะธัมมะสาระถิ สัตถาเทวมนุสสานัง พุทโธภะคะวาติ
    <o:p></o:p>
    ๒. ธรรมคุณ
    สวากขาโต ภะคะวะตาธัมโม สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก ปัจจัตตังเวทิตัพโพ วิญญูหิติ
    <o:p></o:p>
    ๓. สังฆคุณ
    สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
    สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ยะทิทังจัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะปุริสะปุคคะลา เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
    อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเนยโย อัญชะลีกะระณีโย อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ
    <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ๔. พุทธชัยมงคลคาถา (ถวายพรพระ) <o:p></o:p>
    ๑. พาหุง สะหัสสะมะภินิมมิตะสาวุธันตัง ครีเมขะลัง อุทิตะโฆระสะเสนะมารัง
    ทานาทิธัมมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต* ชะยะมังคะลานิ
    <o:p></o:p>
    ๒. มาราติเรกะมะภิยุชฌิตะสัพพะรัตติง โฆรัมปะนาฬะวะกะมักขะมะถัทธะยักขัง
    ขันตีสุทันตะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต* ชะยะมังคะลานิ
    <o:p></o:p>
    ๓. นาฬาคิริง คะชะวะรัง อะติมัตตะภูตัง ทาวัคคิจักกะมะสะนีวะ สุทารุณันตัง
    เมตตัมพุเสกะ วิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต* ชะยะมังคะลานิ
    <o:p></o:p>
    ๔. อุกขิตตะขัคคะมะติหัตถะสุทารุณันตัง ธาวันติโย ชะนะปะถังคุลิมาละวันตัง
    อิทธีภิสังขะตะมะโน ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต* ชะยะมังคะลานิ
    <o:p></o:p>
    ๕. กัตตวานะ กัฏฐะมุทะรัง อิวะ คัพภินียา จิญจายะ ทุฏฐะวะจะนัง ชะนะกายะมัชเฌ
    สันเตนะ โสมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต* ชะยะมังคะลานิ
    <o:p></o:p>
    ๖. สัจจัง วิหายะ มะติสัจจะกะวาทะเกตุง วาทาภิโรปิตะมะนัง อะติอันธะภูตัง
    ปัญญาปะทีปะชะลิโต ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต* ชะยะมังคะลานิ
    <o:p></o:p>
    ๗. นันโทปะนันทะภุชะคัง วิพุธัง มะหิทธิง ปุตเตนะ เถระภุชะเคนะ ทะมาปะยันโต
    อิทธูปะเทสะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต* ชะยะมังคะลานิ
    <o:p></o:p>
    ๘. ทุคคาหะ ทิฏฐิภุชะเคนะ สุทัฏฐะหัตถัง พรัหมัง วิสุทธิชุติมิทธิพะกาภิธานัง
    ญาณาคะเทนะ วิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต* ชะยะมังคะลานิ
    เอตาปิ พุทธะชะยะมังคะละอัฏฐะคาถาโย วาจะโน ทินะทิเน สะระเต มะตันที
    หิตวานะเนกะวิวิธานิ จุปัททะวานิ โมกขัง สุขัง อะธิคะเมยยะ นะโร สะปัญโญ
    <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    ๕. มหาการุณิโก <o:p></o:p>
    มหาการุณิโก นาโถ หิตายะ สัพพะปาณินัง ปูเรตวา
    ปาระมี สัพพา ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ
    โหตุ เต ชะยะมังคะลังฯ
    ชะยันโต โพธิยา มูเล สักยานัง
    นันทิวัฑฒะโน เอวัง ตะวัง วิชะโย โหหิ ชะยัสสุ ชะยะมังคะเล
    อะปะราชิตะปัลลังเก สีเส ปะฐะวิโปกขะเร อะภิเสเก สัพพะ
    พุทธานัง อัคคัปปัตโต ปะโมทะติฯ สุนักขัตตัง สุมังคะลัง
    สุปะภาตัง สุหุฏฐิตัง สุขะโณ สุมุหุตโต จะ สุยิฏฐัง พรัหมะ
    จารีสุ ปะทักขิณัง กายะกัมมัง วาจากัมมัง ปะทักขิณัง ปะทักขิณัง
    มโนกัมมัง ปะณิธี เต ปะทักขิณา ปะทักขิณานิ กัตวานะ ละภันตัดเถ ปะทักขิเณฯ
    ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา
    สัพพะพุทธา นุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต*
    ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา
    สัพพะธัมมา นุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต*
    ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา
    สัพพะสังฆา นุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต*

    <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    กราบ ๓ ครั้ง เสร็จแล้วสวดเฉพาะพุทธคุณ ดังต่อไปนี้ <o:p></o:p>
    อิติปิโส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ วิชชา จาระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู
    อะนุตตะโร ปุริสะทัม มะสาระถิ สัตถาเทวะ มะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ
    <o:p></o:p>
    ให้สวดพุทธคุณเกินอายุ ๑ จบ เช่น อายุ ๒๘ ปี ให้สวด ๒๙ จบ <o:p></o:p>
    บทพุทธคุณ (ทำบ่อยๆเห็นผลสิ่งดีๆจะเข้ามา)<o:p></o:p>
    ภาวนาไปหลายๆรอบเกินอายุ <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    เสร็จจากบทนี้แล้วจะเสริมต่อด้วยบทสวดมนต์อื่นๆก็ได้เช่น ชินบัญชรหรือคาถาอื่นๆตามที่เราต้องการแล้ว ตามด้วยบทแผ่เมตตา..<o:p></o:p>
    หรือนั่งสมาธิอีกก็ได้..<o:p></o:p>
    เมื่อสวดพุทธคุณครบตามจำนวนจบที่ต้องการแล้วหรือสวดมนต์บทอื่นๆแล้ว หรือนั่งสมาธิแล้วจึงตั้งจิตแผ่เมตตาและอุทิศส่วนกุศลดังนี้ <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    คาถาแผ่เมตตาตนเอง<o:p></o:p>
    อะหัง สุขิโต โหมิ ขอให้ข้าพเจ้ามีความสุข
    อะหัง นิททุกโข โหมิ ขอให้ข้าพเจ้าปราศจากความทุกข์
    อะหัง อะเวโร โหมิ ขอให้ข้าพเจ้าปราศจากเวร
    อะหัง อัพยาปัชโฌ โหมิ ขอให้ข้าพเจ้าปราศจากอุปสรรคอันตรายทั้งปวง
    สุขี อัตตานัง ปะริหะรามิ
    ขอให้ข้าพเจ้าจงมีความสุขกายสุขใจ รักษากายวาจาใจให้พันจากความทุกข์ภัยทั้งปวงเถิด
    <o:p></o:p>
    แผ่เมตตาให้สรรพสัตว์
    สัพเพสัตตา สัตว์ทั้งหลาย ที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น
    อะเวรา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย
    อัพยาปัชฌา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้พยาบาทเบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย
    อนีฆา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลย
    สุขีอัตตานัง ปะริหะรันตุ จงมีความสุขกายสุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเถิดฯ
    <o:p></o:p>

    บทกรวดน้ำ (อุทิศส่วนกุศล)
    อิทัง เม มาตาปิตูนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ มาตาปิตะโร
    - ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่มารดาบิดาของข้าพเจ้า ขอให้มารดาบิดาของข้าพเจ้า จงมีความสุข
    อิทัง เม ญาตินัง โหตุ สุขิตา โหนตุ ญาตะโย
    - ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า ขอให้ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า จงมีความสุข
    อิทัง เม คุรูปัชฌายาจริยานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ คุรูปัชฌายาจริยา
    - ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แด่ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ของข้าพเจ้า ขอให้ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ จงมีความสุข
    อิทัง สัพพะ เทวะตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ เทวา
    - ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่เทวดาทั้งหลาย ขอให้เทวดาทั้งหลายจงมีความสุข
    อิทัง สัพพะเปตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ เปตา
    - ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่เปรตทั้งหลาย ขอให้เปรตทั้งหลาย จงมีความสุข
    อิทัง สัพพะ เวรีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพเวรี
    - ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ขอให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย จงมีความสุข
    อิทัง สัพพะสัตตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพสัตตา
    - ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ขอให้สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง จงมีความสุข
     
  4. ศรัทธา-rayong

    ศรัทธา-rayong สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +4
    ผูกโกรธไว้ เกิดใหม่ ก็มาเจอกันอีก...เราอยากเจอเค้ามาทำแบบนี้กับเรา อีกกี่ชาติครับ
    หากชาตินี้พอแล้ว ก็อโหสิกรรมให้แก่เค้า ความแค้นอาฆาต จะค่อยๆ ทุเลาลง

    แค้นเพราะเสียหน้า.... ยิ่งเห็นว่าเค้าแย่กว่าเราทุกอย่าง ยิ่งทำให้เราเสียหน้า ยิ่งโกรธแค้น
    ทำความเข้าใจกับความแค้นดีๆ ครับ วิธีคือคิดถึงสิ่งที่แค้นอย่างตรงไปตรงมา ไม่พยายามแก้ แต่ทำความเข้าใจกับความรู้สึกของเรา ทำความเข้าใจความเป็นไปของใจเรา
    จะค่อยๆ จางเอง แต่บังคับให้เลิก ไม่ได้ครับ
     
  5. samaice

    samaice เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    271
    ค่าพลัง:
    +1,018
    เราก็เคยเจอคล้ายๆกับคุณนะแต่เราไม่โกรธไม่เกลียดผู้หญิงเพราะเรารู้ตัวเราเองว่าเราต่างกับผู้หญิงคนนั้น เทอมาคบกับผู้ชายที่มีเจ้าของแล้วแถมมาด่าเจ้าของเขา เรามองว่าโถ่จิตใจตำ่มาก ดีแล้วล่ะถ้าจะมาเอากับผู้ชายที่ไม่ซื่อสัตว์กับคนรักอย่างแฟนเรา แฟนเราเลือกเราน่ะ แต่เราไม่เอาให้เขาไปสมส กันต่อไปทุกวันนี้เราก็เจอคนดี ส่วนเขาทั้งสองก็ยังล่องลอย ต่างก็คงรักสนุกกันไปเรื่อยๆไม่อยากรับรู้ เราอามาตผู้ชายมากสาบแช่ง และเราก็มาคิดว่า ไครทำกรรมไดไว้ ต้องได้รับผลของกรรม ทุกวันนี้คิดแค่ว่า ต้องขอบคุณผู้ญ คนนั้นที่ทำให้เราไม่ได้ผู้ชายคนนั้นมา ต้องไปกราบเทอด้วยซ้ำ ที่ทำให้เราได้คนดีดีอย่างทุกวันนี้มาครอง
     
  6. COME&Z

    COME&Z เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,144
    ค่าพลัง:
    +234
    อาฆาตเขาก็เหมือนจุดไฟเผาตัวเองเปล่าๆ ผู้หญิงคนนั้นเขาคงไม่มาเดือดร้อนกับคุณหรอกค่ะ อิอิ... รักตัวเองให้มากๆดีกว่านะคะ เริ่ดๆ เชิดๆ ชิวๆ ค่าาาาา.... (k) เคยได้ยินคำนี้มั้ยคะ"รู้ว่าอุจจาระมันเหม็น ก็อย่าเอาเท้าไปสะกิด"ค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มกราคม 2011
  7. ชุนชิว

    ชุนชิว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    722
    ค่าพลัง:
    +780
    ถ้าคุณเข้าใจกฎแห่งกรรม คุณจะสงสารเขามากกว่าอาฆาต เพราะเขาต้องมาเจอเหตุการณ์ที่เขาเคยทำกับคุณไว้ จะต้องเจ็บปวดแบบที่คุณเคยเป็นและมากกว่า เพราะมีดอกเบี้ยกรรมด้วย และยิ่งถ้าคุณเป็นคนดีมีศีลมีธรรม กรรมของเขาก็ยิ่งมากขึ้นตามลำดับ แต่ถ้าเราไม่ดี เขาก็ไม่ดี มันก็เจ๊ากันไปแค่นั้นเอง ผมว่าอโหสิกรรมเขาซะดีกว่า คิดซะว่าเป็นกรรมเก่าที่เราเคยทำเขาไว้ ยอมรับซะว่าเราเคยทำไม่ดีมาก่อน(ในชาติก่อนๆ) และเราก็ได้ชดใช้ไปแล้ว และลืมมันไปซะจากใจ เพื่อให้หลุดพ้นจากกรรมเก่าที่ผูกพันกันเอาไว้ แต่ถ้าคุณปฏิเสธว่าคุณไม่เคยทำ คุณไม่ผิดและยังคิดถึงมันอยู่ มันก็จะดึงดูดคุณเข้าไปหาเหตุการณ์เดิมๆอีกโดยไม่รู้ตัว เพื่ออะไร ก็เพื่อให้คุณได้รู้ไงว่าคุณคิดผิด และคิดใหม่ได้แล้ว คล้ายๆกับการสอบ สอบไม่ผ่านก็ต้องกลับมาซ่อม ถ้ายังไม่ผ่านก็ต้องซ่อมอีก พูดง่ายๆ ก็คือ มันเป็นแค่การทดสอบ (ที่โหดร้าย) จนกว่าจะผ่าน ตอนนี้ก็เหมือนกัน คุณมีความทุกข์อยู่เพราะอะไร เพราะคุณทำผิดหรือคิดผิด มันต้องมีอะไรสักอย่างผิดพลาดแน่ๆ แต่สุดท้ายเรื่องราวทั้งหลาย มันก็เป็นแค่ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา คือ มันไม่เที่ยง เมื่อเอาใจไปยึดมันก็ทุกข์ ในที่สุดมันก็สลายตัวไป ไม่เหลืออะไรเลย กลายเป็นไม่มีไป
     
  8. Red Leaf

    Red Leaf เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    1,397
    ค่าพลัง:
    +4,547
    ใช้ตัว "หยุด" ค่ะ...เมื่อใดที่เริ่มนึกถึงเธอคนนั้น ให้หยุดทันที ไม่ต้องต่อยอดความคิดต่อไปอีก

    ปัญหาของคุณตอนนี้อยู่ที่ความคิดเท่านั้น และความคิด มันก็เกิดขึ้น ตั้งอยู่แล้วก็ดับไปด้วยตัวของมันเองได้...ลองสังเกตดูสิคะ บางทีคุณกำลังคิดโกรธเธออยู่ พอมีเรื่องอื่นเข้ามา คุณก็เบี่ยงเบนไปคิดเรื่องอื่นได้ ใช่ว่าคุณจะคิดโกรธเธออยู่ทุกขณะจิตเมื่อไหร่

    อย่าวิตกให้มากจนเกินไปค่ะ ทำความเข้าใจและเท่าทันความคิดตัวเองเท่านั้น คิดเมื่อไหร่ก็หยุดเสีย หรือทำตัวเป็นคนอีกคน เฝ้าดูความคิดตัวเองว่า มันจะหยุดของมันเมื่อไหร่ ในที่สุดพมันก็จะหยุดของมันไปเองตามธรรมชาติค่ะ

    นอกจากนี้ เมื่อใดที่จิตคุณผ่องใสดี หลังจากทำบุญ ให้แผ่เมตตาน้อมนำบุญกุศลนั้นให้กับเจ้ากรรมนายเวรของคุณ รวมทั้งให้เธอผู้นั้นด้วย เพราะบางทีที่เป็นเช่นนี้ก็อาจด้วยเจ้ากรรมนายเวรบันดาลให้จิตคุณเป็นไป เพราะฉะนั้นแผ่เมตตาไว้ด้วยเถอะค่ะ
     
  9. หงษ์

    หงษ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    474
    ค่าพลัง:
    +821
    ดิฉันก็เคยเจอเหตุการณ์แบบที่คุณเจอ เคยด่าว่าผู้หญิงรุนแรง โกรธ เกลียดจนบอกไม่ถูก แต่มาวันนี้ รู้สึกขอบคุณผู้หญิงคนนั้นมาก ที่ช่วยเอาคนเลวๆออกไปจากชีวิตได้ ช่วยให้เห็นธาตุแท้ของผู้ชาย รวมถึงอโหสิกรรมให้ผู้หญิงคนนั้น เพราะตอนนี้เขาก็ได้รับกรรมอย่างแสนสาหัส เพราะใครที่ไม่ซื่อสัตย์ จะหาความซื่อสัตย์ก็คงไม่มี ลืมมันเถิดนะค่ะ อย่าเก็บเรื่องไม่ดี คนไม่ดี มันไม่มีประโยชน์อะไรค่ะ แต่ต้องใช้เวลาอาจจะหลายปี แต่ขอให้พยายามนะค่ะ สู้ๆค่ะเป็นกำลังใจให้นะค่ะ
     
  10. kook5921

    kook5921 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +13
    เคยเจอเหตุการร์คล้ายๆกันค่ะแต่ที่ฉันทำได้ก็คือสวดมนต์และอุทิศส่วนกุศลและอโหสิกรรมให้กับเค้าทั้งสอง ตอนนี้ฉันก็อยู่ดีมีความสุข ทั้งกาย ใจ มี สามีที่ดี มีลูกที่น่ารัก ส่วนกรรมของเค้าทั้งสองคนที่จะได้รับฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเป็นยังไงแต่ที่รู้ๆคือเค้าอยู่อย่างไม่มีความสุขแน่นอนค่ะ.... ปล่อยวางค่ะ..สู้ๆๆ
     
  11. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,288
    ความอาฆาตนี้มันเกิดจากการที่เรารู้สึกถูกกระทำและอยากเอาคืน แก่ง่ายๆ
    ก็ด้วยการมองว่าเป็นกรรมของเราไป ซึ่งในความเป็นจริงแล้วมันก็เป็นอย่าง
    นั้นจริงๆ ถ้าคุณถนัดมองว่าเป็นกรรมก็มองว่าเป็นเพราะกรรมที่เคยทำมา แต่
    ถ้าคุณมองว่าเป็นกรรมของคุณจริงๆ เรื่องเหยื่อผู้โชคร้าย และเรื่องของผู้ร้าย
    มันต้องหายไปด้วย เพราะการเข้าใจกฎแห่งกรรมมัน คือการเข้าใจว่าทุกสิ่ง
    ที่คุณได้รับไม่ใช้คนอื่นหยิบยื่นให้คุณ แต่เป็นตัวคุณเอง คุณเห็นไหมว่ามันเป็น
    ทั้งการให้และรับ แต่ทั้งผู้ให้และผู้รับก็คือตัวคุณเอง คนอื่นแค่เป็นสื่อเท่านัน
    ผู้หญิงคนนั้นไม่ทำหน้าที่นี้ก็จะมีคนอื่นทำให้อยู่ดี ดังนั้นอย่าไปโกรธแค้นเขา
    เลยครับ เขาคือภาพสะท้อนของตัวคุณเอง เขาแสดงให้คุณเห็นตัวเอง เมื่อคุณ
    เคยทำแบบเดียวกันกับคนอื่น เมื่อคุณเห็นตัวเองผ่านผู้หญิงคนนั้นแล้วคุณจะ
    หายอาฆาต จำไว้นะครับ ผู้หญิงคนนั้นเป็นภาพสะท้อนของตัวคุณเอง มันเป็น
    แบบนั้นจริงๆ
     
  12. khomeraya

    khomeraya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +21,369
    อาฆาตพยาบาท หรือโกรธใคร เกลียดใครก็ดี นั่นแสดงว่าเราขาด "เมตตา" ต่อตัวเค้า

    เพราะฉะนั้น คู่ปรับของความอาฆาตพยาบาท หรือความโกรธก็คือ "เมตตา" อันเป็นพรหมวิหาร 4

    มีผู้รู้สอนผมว่า "ให้แผ่เมตตาทุกลมหายใจ" นึกหน้าเค้านี่แหละ ตอนที่หายใจเข้า แล้วก็นึกในใจว่า "ขอให้เป็นสุขๆเถิด อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย" ตอนหายใจออก ก็นึกในทำนองเดียวกัน

    ความยากอยู่ที่ ถ้าคุณนึกหน้าเค้าปุ๊ป แล้วจิตยังอาฆาตพยาบาทอยู่ ก็อาจจะทำให้คิดไปในทางร้ายๆ แต่นั่นแหละ คือ "การฝืน" เราต้องแผ่เมตตาให้เค้ามากๆ ถึงจะดับไฟอาฆาตพยาบาทนี้ได้

    ทำไปเหอะ แล้วจะดีเอง แต่ตอนแรกๆต้องฝืนทำ !
     
  13. ราคุเรียวซาย

    ราคุเรียวซาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    2,940
    ค่าพลัง:
    +8,515
    ลองลางานซักอา ๓ วันสิคะ

    ต้องให้เวลาในการอาฆาตซะหน่อย (ไม่ต้องรังเกียจตัวเองมากน่า ธรรมดา)

    แล้วตั้งหน้าตั้งตา คิดอาฆาตแค้น ที่แม่คนนี้ทำอะไรเรามั่ง ๓ วัน
    พอคิดเรื่องอื่น ก็ให้กลับมาวนเวียนคิดอาฆาตต่อ อย่าให้เรื่อง ข้าวปลา อาหาร ฮื่นๆมาทำเสียสมาธิได้

    รับรอง อาฆาตต่อเนื่องไปไม่ได้นาน เดี๋ยวคุณเบื่อไปเอง เชื่อเหอะ

    อารมณ์ อาถรรพ์ อาฆาตนี่
    เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ได้

    ข้าพเจ้าเคยมาแล้ว
    เวลามีใครมาทำให้เคืองนี่ ตั้งใจโกรธไปเป็น ๑๐ ปี หรือชั่วชีวิตเลยนะ
    (ก็แหม นานโกรธที ตั้งใจจะโกรธให้คุ้มไง)

    และตั้งใจจะไม่หายโกรธ จะโกรธให้นานที่สุดคอยดูนะ ไอ้พวกขัดใจเราทั้งหลาย จะโกรธแกทุกวัน

    ผ่านไป วันเดียว ยังไม่ลืมนะ แต่มันหายโกรธไปเอง บางทีก็ไม่ถึงวัน
    จนโมโหตนเอง นั่นล่ะ
     
  14. ราคุเรียวซาย

    ราคุเรียวซาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    2,940
    ค่าพลัง:
    +8,515
    แล้วคิดเรื่อง กรรม
    ว่า เขาทำกรรมกับเรา
    แล้วเขาต้องได้รับกรรมอะไรหนอ

    พอคิดว่า เดี๋ยวเค้ามีกรรมของเค้า ที่ต้องเจอ โน่นนี่นั่น
    ซึ่งอาจน่าสงสารมาก จนคุณโกรธเค้าไม่ลงไปเอง
    โดยเฉพาะ ที่เค้าได้แฟนเก่าเส็งเคร็งของคุณ(ที่ไม่ได้คู่ควรกะคุณเลย)ไป นับว่าน่าสงสารมากนะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...