เชื้อสายครุฑหรืออดีตสัตว์ในหิมพานต์ มาแลกเปลี่ยนเรื่องป่าหิมพานต์กันคะ

สาธุ อนุโมทนาบุญด้วยนะ นาคมาเยี่ยม นี่ไม่ว่ากันนะ เพื่อนๆกัน

 

ไม่ว่าเลยคะ ตามสบายเลยมาบ่อยๆก็ได้นะคะ
จะได้ปรงดองกันเสียที อิอิ ;hi2

 

แวะมาแอบเก็บความรู้เผื่อไว้สำหรับอนาคตครับ ^^

*** อดีต ปัจจุบัน อนาคต คือคนละเวลานะ อย่าไปยึดติดอดีต อย่าไปหลงใหลอนาคต แต่จงใช้ปัญญากำกับปัจจุบันเราให้อยู่บนทางสายกลางล่ะ

 

โห โรแมนติกจังเลยคะ แต่เป็นเพราะพี่นั่งสมาธิหรอคะถึงได้ระลึกได้ ถ้าคิดไรออก เล่าบอกกันหน่อยนะคะ จะติดตามผลงานตลอดๆเลยคะchearr

 

ดีจังเลยค่ะมีกระทู้นี้ขึ้นมา

ชอบเรื่องของภพภูมิต่างๆเหมือนกันนะคะ

ที่เข้ามาแว๊บในบอร์ดพลังจิตก็เพราะความเชื่อและศรัทธาในพญานาคพาเข้ามา

ส่วนกินรีนิชอบมากๆเลยค่ะเพราะมองแล้วสวยมากๆ แล้วมีรูปวาดในปฏิทินของเพื่อน

ก็อยากได้มากๆ แต่มันไม่ให้เลยถ่ายจากโทรศัพท์มาวาดเอง ฮ่าๆๆ

ตอนนั้นก็มีคอนเซ็ปท์ของรูปว่ากินรีตนนั้นเคยเป็นเพื่อนพญานาค 55 แบบว่าเพลินมากๆ

ช่วงแรกๆนี่งอมแงมมาก งอแงวอแวกับทุกอย่างที่เกี่ยวกับพญานาคตลอด

แต่ตอนนี้เหมือนกับมันชัดเจนในบางเรื่องจากอะไรไม่รู้

หักเหมุ่งเข้าเส้นทางบุญโดยตรงแล้ว

แต่ยังไงก็ยังศรัทธาไม่เสื่อมคลายค่ะ

 

(kiss) เสนอตัว จะพาพี่คนสวยไป ไปปะละ

 

เดี๋ยววันนี้ จะ เล่าเรื่อง สัตว์ใน หิมพานต์ ดี กว่า ..

 

เข้ามากระทู้นี้ได้ความรู้เพิ่มเติมนะ ^.^ ไม่ว่าเชื้อสายไหนก็เป็นภพภูมิเก่า ปัจจุบันเป็นมนุษย์ รักกันๆไว้เนอะ ถ้าอยากก้าวไปข้างหน้าก็อย่ายึดติดภพภูมินะจ๊ะ เราเชื่ออย่างนึงว่าท่านๆทั้งหลายในภูมิเก่าเค้าอยากให้เราๆมุ่งสู่นิพพานกันทั้งนั้น
ปล.อยากทราบ ผู้ที่หญิงทิพย์ยังไม่พูดถึงเค้าเป็นใครเหรอ ที่กินได้ทั้งครุฑ และนาค

 

คือ มันยังไม่ ชัดเจน น่ะ คระ แต่ คร่าวๆ นะ คิด ว่าคงจะเป็น สัญญารักของ นาคกับครุฑ แหละมั้ง แต่ยังไม่ชัดเจนนะคระ เลยพูดไรมากไม่ได้ ยังไม่ชัดเจนคะ คร่าวๆนะ จะมีสองอริยาบถ ก็คือ สีแดง กับ สีดำ ท่าเป็นสีแดง จะกินผลไม้ แต่ สีดำ จะกิน สัตว์ ทุก ชนิดในหิมพานต์เลย คือ ทั้งป่า จะ วุ่นวายไปหมด ประมาณแค่นี้คะ แต่เค้าก็ จะมี ช่วงจำศิล เหมือนกันนะ

 

เป็นพันธุ์ ที่ผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่าง นาคกับครุฑ มีลักษณะคล้าย มังกร หรือเปล่าครับ

 

คะ แต่ยังไม่ชัด เจนนะคะ
เทวดาเค้าเรียก ว่า วาหุโลมปักษี มาจากคำว่า วารี +เวหา + โลภะ +ปักษี = แปลว่า นกที่เกิดจาก ความ โลภะ ของ ตัวแทนจาก วารี และ เวหา

แต่มันกด็มีอยู่ตัวหนึ่งชื่อ สุบรรเหรา

มีหัวเป็นนาค(มีเขา 2 ข้าง) ลำตัวเป็นครุฑ น่าแปลกที่ทั้งนาคและครุฑ ล้วนเป็นคู่อริกับหงส์

แต่ยังไม่คอนเฟิม น่ะคะ เพราะ แค่รู้สึกว่า ตัวที่อยู่ในหิมพานต์ ที่ว่ากินได้ทั้งครุฑ ทั้งนาค แล้ว สีแดง กะ สีดำ ที่บอกข้างต้น รู้สึก ว่าจะไม่เหมือนในภาพ เหมือน เขาจะตัวใหญ่ คล้ายๆ ครุฑเลย บอกไม่ถูก
​

 

เข้ามาอ่านค่ะ มันตะหงิดๆยังไงไม่รู้สินะ

 

ก่อนอื่นต้องสวัสดีเจ้าของบ้านก่อนนะคับ..*-* คงจะไม่ว่ากะรัยนะคับที่เหล่านาคราชจะเข้ามาเยี่ยมเยียน..*-*

ขอค้านและหรือเสนอความคิดขัดแย้งนิดหนึ่งนะคับเกี่ยวกับเรื่อง "ชาวบังบด" ที่พากันเข้าใจว่าเป็นมนุษย์เหมือนเราๆ ท่านๆ หากแท้จริงแล้วมิใช่ " ชาวบังบด" ถือกำเนิดโดยแบบ "โอปาติกะ" คือผูดขึ้นมานั่นเอง หากให้ชัดเจนก็คือปรากฏขึ้นมาเองตามบุญกุศลแห่งตนเองที่สั่งสม จริง! ที่บอกว่าชาวบังบดรักษาศีล5 อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะศีลข้อ"มุสา"
ที่นี่จะรักษาสัจจะเป็นอย่างมาก..

บางคนอาจคาน! ไม่ใช่คนแล้วทำไมถึงใส่บาตถวายข้าวพระได้ ก็ไม่น่าแปลกทิพยภพสำเร็จได้ด้วยจิตา! เคยได้ยินไหมพระผู้ปฏิบัติดีมักบิณทบาตรข้าวทิพย์จากเทพเทวา แลรุกขเทวดา! จะแปลกอะรัยหากชาวบังบดจะทำบุญใสบาตรมิได้! มักรีผลหากกล่าวขานว่าอยู่ในภพภูมิที่ละเอียดกว่าหากยังปรากฏให้หมู่มนุษย์ผู้ละโมบได้ยลโฉม! เถอะ! ทิพยภพไม่มีอะรัยที่เป็นไปไม่ได้!

ส่วนเรื่อง ที่เกริ่นไว้ว่านาคราชบรรลุธรรมเข้าสู่เส้นทางแห่งวิมุติสุขนั้น อันที่จริงน่าจะเป็นการเข้าใจผิด นาคราชเราถึงแม้จะทรงภพภูมิที่สูงศักดิ์ มีบารมีธรรมที่มากเพียงใด หากท้ายที่สุดก็หนีความจริงไม่พ้นที่ว่า"เดรัสฉานภูมิ" อยู่ดี หากเว้นเสียแต่นาคราชนั้นจะอุบัติโดยแบบโอปาติกะ สืบเชื้อแลสายการเป็นเทวนาคาโดยกำเนิดเท่านั้นถึงจะบำเพ็ญเข้าสู่ความเป็นอริยมรรค อริยผลได้! โดยที่ตนเองมิต้องอธิษฐานละกายสังขารจากความเป็นนาคราชเข้าสู่ภพแห่งความเป็นมนุษย์เพื่อจะบำเพ็ญเพียรเพื่อก้าวต่อไปเพื่อความหลุดพ้น "มรรคา"

ส่วนเรื่องที่มีสัตว์ชนิดหนึ่งในหิมพานต์ที่กินได้ทั้งนาคราช แล ครุฑนั้น! เท่านที่พอรู้มิมีสัตว์ในหิมพานต์ตนใดอาจหาญกล้ามาต่อกร ทิพยอำนาจ ครุฑราแลนาคราชได้! แลหากเป็นเทวปักษาและเทวนาคราชแล้วยิ่งเป็นไปไม่ได้ หากเว้นเสียแต่ จะเป็นเพียง "พญานาค"ที่มิใช่พญานาคราช นาคราชเหล่านี้จะถือกำเนิดจากไข่ ชาติภูมิจึงแลดูต่ำศักดิ์กว่ามาก ดังนั้นหากจะเสียเปรียบก็คงจะไม่แปลกเพราะทิพยอำนาจก็ไม่ได้แตกต่างจากสัตวป่าหิมพพานต์ทั่วไปนัก หากแต่ก้น้อยเท่าน้อยที่จะมีสัตว์ตนใดที่สามารถทัดทานพิษแห่งนาคราชได้!sleeping_rb

 

เข้ามารอสัญญารัก นาคและครุฑนี่แหละ หึหึ คนกันเองห้ามมาขำนะจ๊ะ

เหล่านาคา เริ่มชุมนุมอีกแล้ว ขออนุญาตเหล่าครุฑ และกินนร กินรีด้วยจ้ะ

 

ตัวที่กินได้ทั้งนาคและครุฑ จะใช่ตัวเหราหรือเปล่า แต่ก็ไม่มีข้อมูลยืนยันว่าจะกินนาคอันมีกำเนิดแบบใดได้บ้างนะ ใครรู้แถลงไขด้วยนะจ๊ะ

 

ขอบคุณคะ สำหรับข้อมูลจากคุณพี่ NAKNOI B​

ชาวบังบดเป็นคน แต่กึ่งเทวดา ที่อยู่เรียกว่าเมืองลับแล ​

ยาวมาก เอาเป็น ว่า คำตอบจาก หนูก็ คือ ​

ทิพยภพไม่มีอะรัยที่เป็นไปไม่ได้!
ดั่งที่พี่กล่าวไว้ข้างต้น​

หนูเองอาจจะไม่ได้เก่งกาจเท่าพี่นะ
แต่พี่รู้ จักพญาครุฑ ที่ชื่อ โฆษฑัณกะ รึเปล่าคะ
เอาแค่้ตรงนี้ก่อน ดีกว่า จ่ะ ​

ว่าแต่พี่เป็นนาค บาดาลมีกี่ชั้นคะ ​

อตล มีผู้ครองชื่อ มหามะยะ
วิตล มีผู้ครองชื่อ หาตกศวร
สุตล มีผู้ครองคือ ท้าวพลี
ตลาตล มีผู้ครองคือ มะยะ
　
พี่เป็นนาคสีรุ้งใช่ไหม
นาคสีรุ้งอยุ่ชั้นไหน ...คะ
แล้ว นาค ดูว่าสวยดูว่างามดูตรงไหน ​

* จ้า แค่แซวเล่นๆนะคะ อย่าคิดอารายมากมายคะ
ขอบคุณนะคะสำหรับข้อมูลหลากหลายที่ให้มา ไว้
เรามาแลกเปลี่ยนข้อมูลกันคะ เอาไว้เป็น วิทยาทาน​

อนุโมทนาทั้งนาคและทุกท่านคระ ​

 

นาคน้อยตนนั้น เป็นตระกูลสีรุ้งค่ะ อิอิ ส่วนข้อมูลอื่น รอเจ้านาคน้อยมาตอบเองนะจ๊ะ รู้สึกว่าจะมีข้อมุลส่วนนั้นอยู่พร้อมแล้ว

 

สำหรับตัวนี้ น้องยังไมแน่ใจอ่าคระ เเต่ก็บอก คร่าวๆ ไว้ดั่งข้างต้นที่บอกคะหนูไม่ค่อยแน่ใจชื่ออาราย สรุปก่อนนะคะ ตอนนี้มีข้อสัญนิษฐาน อยู่ สอง อย่าง
1.เป็นสัตว์ ที่ผสมจาก ครุฑและนาค ซึ่งเทวดาจะเรียกว่า วาหุโลมปักษี มาจากคำว่า วารี +เวหา + โลภะ +ปักษี = แปลว่านกที่เกิดจาก ความ โลภะของตัวแทนจาก วารีและเวหา แต่ก็มีอีกตัวหนึ่งชื่อ
แต่มันกด็มีอยู่ตัวหนึ่งชื่อ สุบรรเหรา



แต่มันกด็มีอยู่ตัวหนึ่งชื่อ สุบรรเหรา มีหัวเป็นนาค(มีเขา 2 ข้าง) ลำตัวเป็นครุฑ น่าแปลกที่ทั้งนาคและครุฑ ล้วนเป็นคู่อริกับหงส์
ตามความรู้สึกน้องมันไม่ใช่ สุบรรณเหรา ไม่ได้เหมือนในภาพคะ คือที่เห็นจะตัวใหญ่เหมือนครุฑเลยแข็งแรงมากๆ พูดถึงที่ว่ากินได้ทั้งครุฑและนาคน้องคิดว่า กินได้หมายถึงครุฑและนาคที่อยู่ในภพภูมิกำเนิดต่ำว่าตัวเค้า หรือ ท่าเป็นครุฑ ก็อาจจะเสมอกันสูสีคู่คี่คะ แต่ท่าเป็นครุฑที่เป็นพหนะของเทพ พญาครุฑคงจะไม่เอาตัวเองมาแลกกับศิลต่ำกว่าคะ


2.ยังไม่ทราบแน่ชัด ว่าชื่ออาราย มาจากไหน

แต่ลักษณะโดยทั่วไปก็ คือ อาศัยในป่าหิมพานต์ จะมีสองอริยาบถก็คือ สีแดง กับ สีดำ ท่าเป็นสีแดงจะกินผลไม้ แต่สีดำจะกินสัตว์ทุกชนิดในหิมพานต์เลย คือ ทั้งป่าจะวุ่นวายไปหมด จะมี ช่วงจำศิลเหมือนกันนะ<!-- google_ad_section_end -->

ว่าแต่ท่าใครทราบข้อมูลของสัตว์ตัวนี้ มาบอกหน่อยคะ เพราะอยากรู้มานานเหลือเกินไม่ได้คำตอบสักทีเลย ช่วยยด้วยย ..

 

ท้าววิรุฬหก รักษาโลกด้านทิศใต้ ทำหน้าที่ปกครอง ครุฑ​

​

พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์
กรมหลวงชุมพรฯ
เข้ามาโพสไม่บ่อยนะครับ

​

พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๙ สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค​

๙. สุปัณณสังยุต
๑. สุทธกสูตร
ว่าด้วยกำเนิดครุฑ ๔ จำพวก
[๕๓๑] พระนครสาวัตถี. ครั้งนั้นแล พระผู้มีพระภาคได้ตรัสกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูกร
ภิกษุทั้งหลาย กำเนิดของครุฑ ๔ จำพวกนี้. ๔ จำพวกเป็นไฉน? คือ ครุฑที่เป็นอัณฑชะ ๑
ครุฑที่เป็นชลาพุชะ ๑ ครุฑที่เป็นสังเสทชะ ๑ ครุฑที่เป็นอุปปาติกะ ๑. ดูกรภิกษุทั้งหลาย กำเนิด
ของครุฑ ๔ จำพวกนี้แล.
.
๒. หรติสูตร
ว่าด้วยความยิ่งหย่อนของกำเนิดครุฑ ๔ จำพวก
[๕๓๒] พระนครสาวัตถี. ดูกรภิกษุทั้งหลาย กำเนิดของครุฑ ๔ จำพวกนี้. ๔ จำพวก
เป็นไฉน? คือ ครุฑที่เป็นอัณฑชะ ๑ ครุฑที่เป็นชลาพุชะ ๑ ครุฑที่เป็นสังเสทชะ ๑. ครุฑ
ที่เป็นอุปปาติกะ ๑. ในครุฑทั้ง ๔ จำพวกนั้น ครุฑที่เป็นอัณฑชะ ย่อมนำนาคที่เป็นอัณฑชะไปได้
นำนาคที่เป็นชลาพุชะ สังเสทชะ อุปปาติกะไปไม่ได้. ครุฑที่เป็นชลาพุชะ ย่อมนำนาคที่เป็น
อัณฑชะและชลาพุชะไปได้ นำนาคที่เป็นสังเสทชะ อุปปาติกะไปไม่ได้. ครุฑที่เป็นสังเสทชะ
ย่อมนำนาคที่เป็นอัณฑชะ ชลาพุชะและสังเสทชะไปได้ นำนาคที่เป็นอุปปาติกะไปไม่ได้ ครุฑ
ที่เป็นอุปปาติกะ ย่อมนำนาคที่เป็นอัณฑชะ ชลาพุชะ สังเสทชะ และอุปปาติกะไปได้. ดูกร
ภิกษุทั้งหลาย กำเนิดของครุฑมี ๔ จำพวกนี้แล.

๓. ทวยการีสูตรที่ ๑
ว่าด้วยเหตุปัจจัยให้บุคคลเข้าถึงความเป็นสหายของพวกครุฑ
[๕๓๓] พระนครสาวัตถี. ภิกษุรูปหนึ่งเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ถวาย
บังคมพระผู้มีพระภาคแล้ว. นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคว่า
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ อะไรหนอเป็นเหตุ เป็นปัจจัย ให้บุคคลบางคนในโลกนี้ เมื่อตายไป ย่อม
เข้าถึงความเป็นสหายของพวกครุฑที่เป็นอัณฑชะ พระเจ้าข้า?
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรภิกษุ บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้กระทำกรรมทั้งสองด้วย
กาย ด้วยวาจา ด้วยใจ เขาได้สดับมาว่า พวกครุฑที่เป็นอัณฑชะ มีอายุยืน มีวรรณะงาม มี
ความสุขมาก. เขาจึงมีความปรารถนาอย่างนี้ว่า โอหนอ เมื่อตายไป ขอเราพึงเข้าถึงความเป็น
สหายของพวกครุฑที่เป็นอัณฑชะ. ครั้นตายไป เขาย่อมเข้าถึงความเป็นสหายของพวกครุฑที่เป็น
อัณฑชะ. ดูกรภิกษุ ข้อนี้แลเป็นเหตุ เป็นปัจจัย ให้บุคคลบางคนในโลกนี้ เมื่อตายไปย่อม
เข้าถึงความเป็นสหายของพวกครุฑที่เป็นอัณฑชะ.

๔-๖. ทวยการีสูตรที่ ๒-๔
ว่าด้วยเหตุปัจจัยให้บุคคลเข้าถึงความเป็นสหายของพวกครุฑ
[๕๓๔] พระนครสาวัตถี. ภิกษุนั้นนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้ว ได้ทูลถามพระผู้มี
พระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ อะไรหนอเป็นเหตุ เป็นปัจจัยให้บุคคลบางคนในโลกนี้ เมื่อ
ตายไป ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายของพวกครุฑที่เป็นชลาพุชะ ... ของพวกครุฑที่เป็นสังเสทชะ ...
ของพวกครุฑที่เป็นอุปปาติกะ พระเจ้าข้า?
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรภิกษุ บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้กระทำกรรมทั้งสอง
ด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ เขาได้สดับมาว่า พวกครุฑที่เป็นอุปปาติกะ มีอายุยืน มีวรรณะ
งาม มีความสุขมาก. เขาจึงมีความปรารถนาอย่างนี้ว่า โอหนอ เมื่อตายไป ขอเราพึงเข้าถึงความ
เป็นสหายของพวกครุฑที่เป็นอุปปาติกะ. ครั้นตายไป เขาย่อมเข้าถึงความเป็นสหายของพวก
ครุฑที่เป็นอุปปาติกะ. ดูกรภิกษุ ข้อนี้แลเป็นเหตุ เป็นปัจจัย ให้บุคคลบางคนในโลกนี้ เมื่อ
ตายไปย่อมเข้าถึงความเป็นสหายของพวกครุฑที่เป็นอุปปาติกะ.

๗-๑๖ อัณฑชทานูปการสูตรที่ ๑-๑๐
ว่าด้วยเหตุปัจจัยให้บุคคลเข้าถึงความเป็นสหายของพวกครุฑ
[๕๓๕] พระนครสาวัตถี. ภิกษุนั้นนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้ว ได้ทูลถามพระผู้
มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ อะไรหนอ เป็นเหตุ เป็นปัจจัย ให้บุคคลบางคนในโลกนี้
เมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายของพวกครุฑที่เป็นอัณฑชะ พระเจ้าข้า?
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรภิกษุ บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้กระทำกรรมทั้งสองด้วย
กาย ด้วยวาจา ด้วยใจ เขาได้สดับมาว่า พวกครุฑที่เป็นอัณฑชะ มีอายุยืน มีวรรณะงาม มี
ความสุขมาก. เขาจึงมีความปรารถนาอย่างนี้ว่า โอหนอ เมื่อตายไป ขอเราพึงเข้าถึงความเป็น
สหายของพวกครุฑที่เป็นอัณฑชะ. เขาจึงให้ข้าว น้ำ ผ้า ยาน มาลา ของหอม เครื่องลูบไล้
ที่นอน ที่พัก ประทีปและอุปกรณ์แห่งประทีป เมื่อตายไป เขาย่อมเข้าถึงความเป็นสหายของ
พวกครุฑที่เป็นอัณฑชะ. ดูกรภิกษุ ข้อนี้แลเป็นเหตุ เป็นปัจจัย ให้บุคคลบางคนในโลกนี้
เมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายของพวกครุฑที่เป็นอัณฑชะ.

๑๗-๔๖ ชลาพุชาทิทานูปการสูตรที่ ๑-๓๐
ว่าด้วยเหตุปัจจัยให้บุคคลเข้าถึงความเป็นสหายของพวกครุฑ
[๕๓๖] พระนครสาวัตถี. ภิกษุนั้นนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้ว ได้ทูลถามพระ
ผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ อะไรหนอ เป็นเหตุ เป็นปัจจัย ให้บุคคลบางคนในโลกนี้
เมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายของพวกครุฑที่เป็นชลาพุชะ ... ของพวกครุฑที่เป็น
สังเสทชะ ... ของพวกครุฑที่เป็นอุปปาติกะ พระเจ้าข้า?
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรภิกษุ บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้กระทำกรรมทั้งสอง
ด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ เขาได้สดับมาว่า พวกครุฑที่เป็นอุปปาติกะ มีอายุยืน มีวรรณะ
งาม มีความสุขมาก. เขาจึงมีความปรารถนาอย่างนี้ว่า โอหนอ เมื่อตายไป ขอเราพึงเข้าถึง
ความเป็นสหายของพวกครุฑที่เป็นอุปปาติกะ. เขาจึงให้ข้าว น้ำ ผ้า ยาน มาลา ของหอม
เครื่องลูบไล้ ที่นอน ที่พัก ประทีป และอุปกรณ์แห่งประทีป เมื่อตายไป เขาย่อมเข้าถึงความเป็น

[music]http://palungjit.org/attachments/a.1174250/[/music]​

 

แล้ว มีนกอะไร ที่ คล้ายๆ เหยี่ยว หรือ ฟีนิก หรือป่าวครับ เคยเห็นรูปเมฆบนท้องฟ้า สวยดี มีหางยาวๆ ด้านหลัง 2 เส้น พอจะนึกภาพออกไหมเอ่ย