เรื่องราวที่คนทั่วๆไปไม่ค่อยรู้

คุณ sahadham

โรงหล่ออยู่ซอยเพชรเกษม 71 ครับ แต่ทางโรงหล่อมีสถานที่ ที่ใช้ในการทำหุ่นขี้ผึ้งพระขนาดใหญ่ อยู่ที่โรงหล่อพระหลังวัดธรรมศาลา จ. นครปฐมจากวัดเข้าไปประมาณ 1 กม. ขณะนี้ที่นั่นกำลังหล่อพระพุทธรูปโลหะ ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย หน้าตัก 12 เมตร ว่างๆก็ลองแวะเข้าไปดูครับ

สำหรับกระบวนการในการทำพระขนาดใหญ่ของที่นี่นั้น เขาจะปั้นหุ่นขี้ผึ้งพระขนาดหน้าตักประมาณ 13 นิ้ว ทำเป็นต้นแบบเพื่อใช้ในการตรวจดูว่าต้นแบบเหมือนหรือต่างจากที่ต้องการ เพราะว่าการตรวจแบบจากหุ่นขี้ผึ้งของพระขนาดใหญ่จะหลอกตาตรวจแบบได้ยาก ว่าเหมือนหรือต่างจากที่ต้องการหรือไม่ เมื่อได้ต้นแบบพระตามที่ต้องการแล้ว ก็จะใช้วิธีการขยายขนาดเป็นพระขนาดใหญ่ตามสัดส่วนของต้นแบบ ในขั้นตอนการขยายสัดส่วนของพระนั้นจะใช้เวลาไม่นาน ช่างบอกว่าระยะเวลาที่เหลือจนกว่าจะถึงวันหล่อพระยังมีเหลือเฟือ งานนี้ระยะเวลาในการทำงานสบายๆ จะยุ่งหน่อยก็ตอนใกล้ๆวันหล่อพระและในวันหล่อพระเท่านั้นเองครับ

 

(b-wow) (b-wow)เกิดมาก็เพิ่งเคยพบเคยเจอนี่แหละครับ (b-wow)(b-wow)(b-wow)​

[b-hi] เรื่องที่คนทั่วๆไปตอบได้ยาก ตัวอย่างเช่น เรื่องพระครูเทพโลกอุดร อย่างนี้ ญาณศีลธรรม อย่างนี้ สัมผัสที่ 6 อย่างนี้ เป็นต้น ที่นี่มีแต่คน EXPERT ตอบกันเป็นเรื่องปกติเลย.....

(b-uh) แต่...เรื่องที่คนทั่วๆไปตอบได้สบายๆ(ต้องเป็นคนที่มีสัจจะหรือความจริงใจเท่านั้น) ตัวอย่างเช่น เรื่องบัญชีรายชื่อผู้ร่วมบุญ หรือ ยอดบริจาคแต่ละบัญชี หรือ สร้างพระแล้วเอาไปประดิษฐานที่ไหน อย่างไร เจ้าอาวาสและภิกษุในวัดเขาเห็นอย่างไร หรือ เหตุใดจึงไม่ใช้บัญชีในนามวัด หรือภิกษุ ทั้งที่พระก็นำมาถวายที่วัดอยู่ดี เป็นต้น ที่นี่มีแต่คน EXPERT ไม่อยากตอบกัน .....

(verygood) สงสัยต้องขอเปลี่ยนชื่อกระทู้ นี้ใหม่เป็น.....

... เรื่องราวของ จขกท. และคณะ ที่คนปกติทั่วๆไปไม่ค่อยรู้ ซะแล้วสิ :boo: (one-eye)
.....เห็นด้วยไหมครับ[b-wai]

 

คุณมะม่วงสุก

ดิฉันไม่ได้เข้ามาเป็นกรรมการใดๆทั้งนั้น และยอมรับว่าเห็นด้วยกับการสร้างพระอย่างมาก รวมถึงเห็นด้วยกับการทำบุญทำกุศลทุกๆอย่างที่มีในตอนนี้ ดิฉันขวนขวายที่จะทำบุญอยู่แล้ว ไม่เฉพาะการสร้างพระเท่านั้น
การทำบุญด้วยการทำตัวให้เข้าถึงพระธรรมคือบุญเพื่อตัวเองหลุดพ้น ทำบุญด้วยการสร้งสิ่งแทนพระพุทธองค์เพื่อให้คนได้ยึดเหนี่ยวจิตใจและการแนะนำทางเพื่อหลุดพ้นให้คนอื่น คือการทำบุญเพื่อผู้อื่น

ถ้าคุณสังเกตุดีๆดิฉันไม่เคยวิจารณ์ใคร เพียงแค่แสดงความคิดเห็น เพราะไม่อยากเห็นความขัดแย้งเกิดขึ้นระหว่างการทำบุญเท่านั้น มันไม่มีประโยชน์กับใครเลย และไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งที่จะมีการเปรียบเทียบการปฏิบัติพระแต่ละรูปเท่านั้นเอง
คุณเพิ่งสมัครเข้ามาไม่ทราบอ่านกระทู้ย้อนไปบ้างหรือเปล่า น้ำนิ่งแล้วคุณจะกวนให้มีตะกอนทำไมอีกล่ะคะ คำถามความอยากรู้ของคุณก็เหมือนกับกลุ่มที่ขัดแย้งกันในตอนแรก ก็ไม่ทราบทำเพื่ออะไร แต่สำหรับตัวดิฉันทำเพื่อบุญเพื่อกุศลเพื่อให้ได้หลุดพ้น ไม่ว่าใครจะทำตามหรือตำหนิก็ไม่ว่าอะไร

 

ขออนุโมทนาทุกบุญทุกกุศลที่ทุกท่านทำ
ขอให้บุญกุศลนั้นได้ให้เห็นทางแห่งพระพุทธองค์ แล้วเดินตามรอยท่านสู่จุดหมายปลายทาง สู่นิพานที่ท่านหวัง

 

วันนี้ไปดูและแก้ไขปรับแต่งองค์พระต้นแบบหน้าตัก 3.5 เมตร ที่โรงหล่อพระ หลังวัดธรรมศาลา ก็ได้ช่างฝีมือดีเป็นคนปั้นพระ ช่างคนนี้เขาเคยปั้นหุ่นหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ที่วัดห้วยมงคล และก็มีผลงานมามาก แค่ไปเห็นรูปพระต้นแบบก็เกิดปิติแล้วครับ ก็บอกได้ว่าใช่เลย สัดส่วนเป็นไปตามที่หลวงปู่ทองทิพย์ท่านได้บอกไว้ครับ

ช่างส่วนหนึ่งกำลังทำหุ่นขี้ผึ้งของเกศพระซึ่งสูงประมาณ 2 เมตรกว่า และทำลวดลายเกศ/ชฎา ตามแบบของพระแก้วมรกต ก็โชคดีที่ได้รูปแบบต่างๆมาจากวิทยาลัยช่างทองหลวง ในคราวที่เขาทำเครื่องทรงพระแก้วมรกตองค์จริงมาเป็นต้นแบบ เมื่อเสร็จแล้วคาดว่าจะอลังการน่าดูครับ ช่วงนี้ก็ต้องเตรียมเรื่องเพชรพลอยที่จะประดับลวดลายบนองค์พระด้วย

วันนี้รีบไปรีบกลับ ไม่ได้นำกล้องถ่ายรูปไปด้วยจึงไม่ได้ถ่ายภาพมาให้ชมกันครับ อีก 2-3 วันจะกลับไปดูองค์พระอีกครั้งและไปตรวจดูต้นแบบของม้ามณีกาบ รวมทั้งจะถ่ายภาพขั้นตอนต่างๆของการสร้างพระและม้าแก้วมณีกาบเก็บไว้ด้วย หากเลยเวลานี้ไปช่างเขาจะประดับลวดลายบนองค์พระ ก็จะขาดภาพองค์พระและม้าในขั้นตอนนี้ไปครับ

หากท่านใดประสงค์จะไปดูองค์พระ ก็ให้ไปที่วัดธรรมศาลา จ.นครปฐม ขับรถทะลุหลังวัดไปประมาณ 500 เมตร เมื่อเจอแอ่งน้ำให้เลี้ยวขวาไปตามถนนไปประมาณ 300 เมตร ก็จะเจอโรงหล่อพระอยู่ทางซ้ายมือครับ

 

นี่นอกจากเรื่องที่คุณมะม่วงสุกกล่าวไป
บัดนี้...ทำไปทำมาคนสร้างพระเจ้าห้าพระองค์แล้วคิดว่าจะไปไว้ที่วัดป่าสีดาพระรามลักษณ์รัตนโคตรก็ยังไม่เข้าไปกราบ แล้วขออนุญาตเจ้าอาวาสวัดเลยครับ ยังคงอึมครึมกันต่อไป แบบว่าวัดก็อยู่ส่วนวัด คณะสร้างก็ตะบี้ตะบันโปรโมทกันไป
แม้จะอ้างคนใหญ่คนโตสักกี่คน จะร้อยนายพล จะสิบนายก จะร้อยล้านเงินตรา หรืออื่นๆ ก็เถอะ...
หากคุณคิดว่ามันเป็นพลังมวลชนที่จะทำให้กระบวนการสำเร็จไปได้ หรือไปเป็นอิทธิพลที่วัดนี้ได้...คุณคิดผิดแล้ว

หากวิธีการยังไม่ถูกต้อง ก็ยังคงไม่ถูกต้องต่อไป แก้ไขหน่อยก็ดีนะครับ ผู้บริหารการสร้าง ฯ

 

ก็กล่าวกันต่ออีกหน่อยละกัน นอกจากสร้างพระแล้ว ม้าที่จะสร้าง ก็ยังไม่มีใครนำดอกไม้ธูปเทียนไปบอกกล่าวเจ้าอาวาส หรือที่สำคัญกว่าเจ้าอาวาส คือไม่ได้ไปบอกกล่าวหลวงปู่ทองทิพย์ที่นอนอยู่ที่วัดกันเลย มองไม่เห็นท่านกันแล้วกระมัง หรือจะเก่งกันอย่างเคย ว่าติดต่อท่านได้ด้วยทางใน ก็บอกท่านไปตามทางในอย่างนั้น แล้วอย่างนี้ ท่านจะละสังขารให้รักษากันไว้ทำไม ถ้าคิดว่าทางนอกไม่สำคัญ

 

////

เรื่องนี้จริงๆ แล้ว เห็นเหมือนหลายๆคนครับ ไม่ได้มีอคติใดๆ ผมพิจารณามาหลายวันแล้ว มาตอบก็หลายครั้งอยู่ และเชื่อว่าบางท่านที่ออกมาพูดก็คงไม่มีอคติใดๆ เช่นกัน คือ ที่เห็นอยู่ดูจะไม่ให้เกียรติเคารพสถานที่ และพระภิกษุในวัดขณะนี้สักนิด รู้สึกเป็นห่วง เพราะภาพที่ออกมาถึงแม้จะมีรูปครูบาอาจารย์หลายท่านมาลงอักขระให้ก็ตามที แต่เชื่อว่าหลวงพ่อหลวงตาหรือผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองก็คงเข้าใจไปในทิศทางเดียวกันคือ เจ้าภาพที่สร้างพระได้ประสานในเรื่องต่างๆ ไว้ดีแล้ว เป็นธรรมดาของพระและญาติโยมที่ร่วมโมทนายินดีสาธุการแน่ๆ อยู่แล้วเรื่องแบบนี้ แต่อะไรจะเกิดขึ้นล่ะครับถ้าท่านทั้งหลายเหล่านั้นทราบว่ามีปัญหาหลายอย่างที่ยังไม่ได้แก้ไข แน่นอนครับคงไม่มีใครจะใจจืดใจดำพอที่จะฝืนให้เกิดเรื่องเกิดราวที่ไม่ลงตัวแบบนั้นแน่นอน ก็อยากฝากให้พิจารณากันใหม่ให้รอบคอบครับ เพราะเวลาก็ยังพอมีที่จะแก้ไขหลายๆสิ่ง หลายอย่างได้ ไม่อยากปล่อยผ่านไป ใจผมไม่อยากให้คนบุญทะเลาะกันหรือต่างฝ่ายต่างคิดว่าตนเองถูก หรือหาพวกหาฝ่ายมาสนับสนุนกัน ใช้กฎหมู่กัน ไม่ละอายต่อพระพุทธองค์หรือหลวงปู่หลวงตาที่ตนเคารพนับถือ

/// ขอให้คิดใหม่แก้ไขใหม่ครับ การแก้ตัวไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาให้ดีขึ้นครับ ทั้งความคิดและศรัทธาคน มีแต่จะแย่ลงแย่ลงทุกวัน ///

 

ขออนุญาตครับผม

วันนี้กระผมจะมาขอเตือนตัวกระผมเองครับ ไม่เกี่ยวกะท่านใด
วันนี้ ความยึดมั่นถือมั่นของกระผมลดลงบ้างแล้วหรือยัง
กระผมยังยึดมั่นว่า ผมเป็นเจ้าบ้านในทะเบียนบ้าน หรือเพียงแต่ผู้อาศัย

คนที่อยู่ในบ้านเป็นญาติพี่น้อง คนข้างบ้านมันไม่ใช่ญาติเรา

ครอบครัวผมชอบไปทำบุญวัดนี้ เพราะชอบพิธีแบบนี้
กระผมไม่ชอบ คนข้างบ้านเลย ชอบทำบุญแปลกๆ

เออ เค้าจะทำแบบไหน ก็ช่างเขาดีกว่า
เขาทำเขาก็ได้บุญ จะมากจะน้อย ก็เป็นเรื่องของเขา
มันไม่เกี่ยวกับเราสักนิด
เราต่างหาก
เราทำเราก็ได้ เราไม่ทำเราก็ไม่ได้ จะบอกใครไปทำให้ก็ไม่ได้
จะให้ใครทำให้ก็ไม่ได้
เราชอบแบบไหนก็ทำแบบนั้น ทุกคนคงทำแบบเดียวกัน หรือแบบเดียวกับเรา
คงจะไม่ได้ ควรจะปล่อยวางเสีย

ยิ่งเห็นคนกำลังจะทำบุญ ก็ไม่ควรไปท้วง หรือติงใดๆ มันเป็นเรื่องของเขา

เราทำบุญ หรือปฏิบัติมากพอแล้วหรือยัง

เขาทำอย่างนั้นอย่างนี้ ดีอย่างนั้นดีอย่างนี้ เราดีเท่าเขาแล้วหรือยัง

เราดีหรือยังเลว เราเลวหรือยังดี

กระผมเรียนจบสถาบันอันมีชื่อเสียง ท่านอาจารย์มีความรู้ความสามารถระดับประเทศ จะไปเหยียบย่ำ ท่านที่จบสถาบันอื่นก็ไม่ควร ยังยึดมั่นถือมั่น ในครูบาอาจารย์ ปฏิบัติตามคำสั่งสอนของครูบาอาจารย์ดีแล้วหรือยัง

หรือกระผมจะจบปริญญา จะไปเหยียบย่ำว่าคนที่ต่ำกว่า หรือสาขาวิชาที่แตกต่างกับเรา ก็ยิ่งไม่ควร เพราะทุกท่านมีภูมิปัญญาที่ต่างกัน และเห็นไม่เหมือนกัน ควรเคารพซึ่งกันและกัน ต่างคนก็ยังมี ขันไว้อาบน้ำอยู่


เขียนมากไป เดี๋ยวอาจจะมีคนมาแย้ง จะไปกันใหญ่

ก่อนไปขอขมากับทุกท่านด้วยนะครับ
และขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่กำลังทำความดีด้วยนะครับ

 

เป็นเรื่องของการใช้สำนวนภาษาหรือเปล่าครับ เลยทำให้หาความหมายที่แท้ไม่ได้ ภาษาหาที่สิ้นสุดยากยุคหนึ่งก็แบบหนึ่ง

 

ก็ไม่ได้ว่าจะใช้สำนวนลึกลับซับซ้อนเข้าใจยากนักหรอกครับ เขียนตามความจริง
อีกอย่างครับคุณ KEN_BP และคนอื่น ๆ ขอบคุณที่เตือนนะครับว่า "เขาจะทำบุญก็เรื่องของเขา ไม่เกี่ยวกับเราสักนิด"
นั่นอาจเป็นคุณครับ แต่สำหรับผม เขาจะทำสิ่งที่ยังไม่ถูกต้องนักในวัดที่ผมศรัทธา... ถ้าคุณจะเปรียบว่าบ้านผม ก็คงได้ครับ มันก็เลยต้องทักน่ะครับ มันไม่เสียหายนี่ครับ มันไม่ได้เป็นการลดยอดเงินบริจาคนี่ครับ ก็แค่อยากให้มันถูกและให้เกียรติสงฆ์ที่วัดนั้นๆ (เจ้าบ้าน) นั่นเอง ไปลามาไหว้ เข้าออกบอกเจ้าบ้าน คือสิ่งที่พึงควรครับ
อีกอย่าง นี่ไม่ใช่ Big Brother ผมจึงไม่จำเป็นต้องแคร์ ยอดการอนุโมทนา
ผมก็ยินดีกับผู้สร้างมากนะ แต่ติงนิดเดียวให้มันถูกขั้นตอนก็พอ เมื่อนั้นผมก็พร้อมที่จะลงแรงกายแรงใจช่วยก้วยซ้ำครับ

 

อีกเรื่องครับ...
วันสองวันนี้ ทราบมาว่ามีคณะพระสงฆ์ที่มาจากเรณูนคร จ.นครพนม ที่คุณ Aunyasit เคยกล่าวถึงว่ารู้เรื่องต่าง ๆ ดี ไปพำนักที่วัดป่าสีดา ฯ และสักการะหลวงปู่ทองทิพย์... จริงอยู่พระคณะนี้ทราบเรื่องที่คุณ Aunyasit ไปบอกบุญเรื่องสร้างพระเจ้าห้าพระองค์ แต่พระกลุ่มนี้ก็เพิ่งทราบเช่นกัน ว่าทางคณะสร้าง ฯ ยังไม่ได้ไปขออนุญาตทางวัด ซึ่งไม่สมควรอึมครึมเช่นนี้

 

//// มันไม่ใช่สำนวนภาษาหรอกครับ มันคือ เรื่องปัญหาที่ยังไม่ได้แก้ไขมากกว่า

/// เท่าที่ดูและเข้าใจไม่มีใครอยากไปขวางทางบุญใครหรอกครับ เพราะสิ่งที่เขาสงสัยที่เราทำ ควรถามตัวเราเองก่อนว่าได้แสดงออกถึงความบริสุทธิ์ดีพอแล้วหรือยัง ตัวอย่างที่ถูกเขาก็มีให้เห็น ทำเป็นแนวทาง บุญก็เป็นบุญอยู่วันยังค่ำ แต่มันก็พิสูจน์ได้ในขั้นตอนดำเนินงานครับ สำหรับเรื่องที่พิสูจน์ไม่ได้เช่น เรื่องโลกอุดร ก็แล้วแต่จะเห็นกัน เวลาคงเป็นเครื่องพิสูจน์เท่านั้น ใครจะพูดแบบไหนเห็นด้วยไม่เห็นด้วย ผมก็ว่าทุกคนมีสิทธิ์พูดไม่ใช่ไม่มี ผู้ใหญ่บางทีก็ต้องตักเตือนลูกหลานของตัวเอง อาจสอน ว่าหรือ ด่าตี เด็กก็สอนผู้ใหญ่ได้ ไม่ใช่ไม่ได้ แต่อาจใช้ปัญญาพูดหรือกระทำบางสิ่งให้ผู้ใหญ่คิดได้ ไม่ใช่ไปตีผู้ใหญ่ คือ ผมไม่เห็นว่าในที่นี้จะมีใครติงอะไรกันไม่ได้ ทำได้ครับ คุณจะพูดจะเขียนอะไร อ้าวแล้วคุณมีเหตุผลยังไงตอบไม่ตอบ คุณตอบได้ไหม ทำไมตอบไม่ได้ คนอื่นอาจเข้ามาแสดงความคิดเห็นอื่นๆอีกก็ได้ ปัญหาเวลานี้ถ้าเรามาตรองดูข้อเท็จจริงแล้วจะพบว่าเป็นสิ่งที่ จขกท และคณะยังไม่ได้แก้ไขให้ชัดเจนเป็นรูปธรรมเลย(หรือใครว่าชัดเจนช่วยอธิบายให้คนอื่นเข้าใจด้วยครับ) ผมเคยคุยกับพระที่วัดตอนที่ขอเบอร์ จขกท. ไป และก็เคยไปวัดมา 2 ครั้ง และครั้งหลังก็เลยไปอีกวัดเพื่อหาพระที่ติดต่อพระครูเทพฯ 1 ครั้ง ที่หนองคาย ผมขอพูดถึงที่วัดแรกก่อนว่าได้เจอและได้คุยกับหลายคน ทั้งพระทั้งโยมที่อุปฐากหลวงปู่มาตั้งแต่ยังไม่เป็นวัด เห็นเขาให้ความสำคัญกับเรื่องร่างหลวงปู่ทองทิพย์และวิหารที่จะสร้างถวายบูชาหลวงปู่มากครับ เขาเห็นว่าหลายสิ่งหลายอย่างควรปรับปรุงให้สมเกียรติหลวงปู่มากที่สุด เขาบอกว่าหลวงปู่รักวัดนี้มาก คนที่นี่เขาทำบุญให้หลวงปู่ทุกปี ตลอด 5 ปีที่ท่านละสังขารไป จะมีโยมที่คอยดูแลถวายภัตตาหารให้หลวงปู่ เสมือนว่าหลวงปู่ยังอยู่ เพราะหลวงปู่ได้สั่งไว้ บางครั้งโยมคนนั้นเงินตัวเองก็ไม่ค่อยจะมีกินด้วยซ้ำ แต่ก็พยายามหามาถวายหลวงปู่ ซึ่งผมเองได้มอบเงินจำนวนหนึ่งให้โยมผู้นี้ไปเพื่อให้ท่านเป็นค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่ง คนที่นี่ขออำนาจแม่ธรณีในการปกป้องรักษาหลวงปู่ด้วยครับ เขารักและเทิดทูนหลวงปู่ทองทิพย์เหมือนพ่อแม่ครับ หอแม่ธรณีก็มีความหมายเกี่ยวกับหลวงปู่นี่ล่ะครับ ตามที่ผมได้สัมผัสมา พวกเขามาอยู่ที่นี่กันตั้งแต่ไม่เป็นวัด มาปฏิบัติธรรมกับหลวงปู่สมัยหนุ่มๆสาวๆก็หลายคน ผมก็สงสัยมากว่าทำไมคนดีที่นี่จึงถูกพูดจาในทางที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ และเป็นการพูดกันข้างเดียว ซึ่งไม่มีโอกาสมาเล่า มาแก้ตัวให้ใครต่อใครฟังเลยสักนิด เหตุผลเขาหรือใครเรื่องการสร้างพระมาตากแดดตากฝนอันนี้หลวงปู่สอนมา บางที จขกท อาจมาไม่ทันสมัยที่หลวงปู่สอนเรื่องนี้ก็เป็นได้ คนที่พูดห้ามไม่ได้คิดเองแต่มาพิจารณาตามคำสอนครูบาอาจารย์ แล้วพูดออกไป แต่ก็ถูกยกเอามาเป็นประเด็น และโดน จขกท นำมาเล่าว่า อ้างว่าบอกแล้วแต่พระที่วัดไม่เห็นด้วยบ้าง กลัวโยมจะตาย ก็เลยเป็นที่มาของคำว่าบอกแล้วแต่ท่านไม่ให้ทำไงล่ะครับ แต่ผมได้ลองสอบถามมาแล้วล่ะเหตุผลลึกๆประเด็นที่เอามาอ้าง หลายคนบอกว่าจะตายหรือตกต่ำก็เพราะเรื่องผิดครูนี่แหล่ะ เพราะการแสดงออกแบบที่ทำนี้เป็นเหตุครับ ไม่ใช่ ไปยกเป็นความดีเข้าตัวว่าไม่กลัวตาย อันนี้ดูจะฟังไม่ได้ศัพท์จริงๆ อย่างที่เขาว่าครับ แต่ใครๆที่นี่เขาก็ดูให้เกียรติ และเมตตาทาง จขกท พอสมควรเหมือนกัน แต่ระยะหลังๆ จขกท ก็ไม่ได้มาพูดคุยแต่ได้ยินว่า ชักชวนคนอื่นๆ ออกจากวัดไปหาอาจารย์หรือพระที่วัดอื่นๆ ก็ไม่ทราบเหตุผลเรื่องนี้ แต่เหตุผลในการสร้างวิหารนั้นมีมากแต่ไม่ค่อยได้นำมาเล่ากัน ที่คุณอบ หรือคุณจักร เคยนำมาเล่านี่ก็เป็นแบบนั้นครับ คนที่นี่ดูแล้ว เป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของร่างหลวงปู่เป็นหลักครับ ซึ่งตัวผมเห็นว่าคนเหล่านี้เขากำลังแสดงความกตัญญูกตเวทิตาต่อครูบาอาจารย์ที่เคารพนับถือด้วยความบริสุทธิ์ใจอยู่ครับ ไม่ได้เสียหายอะไร ถ้าหลวงปู่อยู่ท่านคงเมตตาคนเหล่านี้เป็นแน่ เรื่องพระเจ้า 5 พระองค์นั้นเขาบอกเป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการในอนาคตอยู่แล้ว เพราะวิหารหลวงปู่ทองทิพย์ที่กำลังบอกบุญสร้างอยู่นี้ เจ้าอาวาสก็มีโครงการเตรียมพื้นที่ไว้สำหรับประดิษฐานพระเจ้า 5 องค์ด้วย ท่านบอกว่าที่ใครๆ หลายคน(ไม่ใช่มี จขกท คณะเดียว) บอกจะสร้างมาถวายนั้น ถ้าตามหลักควรมาปรึกษารายละเอียดกันก่อน เพราะน้ำหนักและขนาด รวมถึงวิธีการประดิษฐานพระที่มีขนาดใหญ่และถาวรวัตถุครอบพระจะต้องมีการเตรียมการและวางแผนที่ดีไม่ใช่สร้างพระมาใหญ่โต แต่เอาเข้าไปไม่ได้หรือต้องทุบอาคาร หรือไม่สัมพันธ์กับขนาดวิหารที่สร้างก็เข้าไม่ได้อีก งบประมาณในการสร้างวิหารปัจจุบันก็มีไม่มากครับ ปัจจัยตรงนี้ก็มีผลกับอาคารที่จะสร้างด้วยว่าจะออกมาใหญ่โตเพียงใดแน่นอน ถ้าใครเคยสร้างโบสถ์วิหารจะเข้าใจ

ผมเข้าใจว่า ปัจจุบันกลายเป็นว่าเจ้าอาวาสต้องดำเนินการสร้างวิหารไปกับลูกศิษย์ที่เหลือ และลูกศิษย์กลุ่มใหม่ๆที่เริ่มเข้ามา ขณะที่กลุ่มของ จขกท ที่เคยไปมาหาสู่ก็ไม่ได้มาพูดคุย ซ้ำยังปล่อยข่าวกันอย่างที่เคยเห็น จขกท โต้ตอบในเวปนี้ ผมเองเห็นทางออกในเวลานี้ว่า การพูดจาเป็นสิ่งจำเป็นมากที่สุดในขณะนี้ วิหารก็เพิ่งเริ่มขุดตอม่อกัน พระก็เพิ่งทำหุ่นพิมพ์ยังไม่สมบูรณ์ด้วยซ้ำ ยังเหลือระยะเวลาอีกพอสมควรที่จะมาพูดคุยกันระหว่าง จขกท และคณะ กับเจ้าอาวาสที่ดูแลวัดในขณะนี้ จขกท ต้องลดทิฐิมานะลงบ้าง เรื่องราวปัญหาก็คงลดลง เนื่องจากวัดได้รับทราบอย่างชัดเจนเป็นรูปธรรม นอกจากนี้รูปแบบดำเนินงานอาจเปลี่ยนไป อาจใช้เป็นบัญชีของวัดหรือเจ้าอาวาสแทน หรือใช้ทั้ง 2 แบบ ของเจ้าของกระทู้ด้วยก็ได้ แต่ไม่ควรมีหลายบัญชีหลายคน เพราะดูแล้วไม่ค่อยมีใครเขาทำกัน แล้วก็เลยมีคนไม่เห็นด้วยมาโพสกันมากมาย ทั้งนี้จะสามารถแก้ปัญหาไป 2 เรื่อง คือ บัญชี และวัดที่จะนำพระไปถวาย .....แล้วจะมาเล่าต่อครับว่าวัดที่ 2 เป็นยังไงตอนหน้า....

 

เท่าที่พิจารณาดู ตอนนี้การสร้างพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ ไปเกี่ยวข้องกับคนวัดป่าสีดาฯ(ที่พักสงฆ์วัดป่าสีดา)น้อยมาก เพราะไม่ได้สร้างในนามที่พักสงฆ์วัดป่าสีดาฯ จึงไม่จำเป็นต้องขออนุญาตบุคคลใดในวัดป่าสีดาฯอีก คณะสร้างพระขึ้นมาตามเจตนารมย์ของหลวงปู่ทองทิพย์ซึ่งทุกคนทราบดีอยู่แล้วว่าหลวงปู่ทองทิพย์ท่านเป็นคนเอ่ยปากและให้คณะผมเป็นผู้ดำเนินการสร้างพระ และผมก็เข้าใจว่า ณ ที่วัดป่าสีดาฯนั้นคงไม่มีใครยิ่งใหญ่ไปกว่าหลวงปู่ทองทิพย์อีกแล้วครับ ที่จริงธาตุขันต์ท่านแตกดับไปเฉยๆ แต่สานุศิษย์หลวงปู่หลายๆคนก็ทราบดีว่าหลวงปู่ท่านก็ยังอยู่เหมือนเดิมและผมก็รับรู้และสัมผัสอยู่เสมอว่าหลวงปู่ท่านติดตามและอยู่เบื้องหลังการสร้างพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ อยู่ตลอดเวลาครับ

สำหรับการประดิษฐานพระนั้น ตอนนี้เนื่องจากพระยังสร้างไม่เสร็จ และมีระยะเวลาอีกนานกว่าการตกแต่งพระจะเสร็จสมบูรณ์ ทางคณะฯจึงยังไม่ได้คิดดำเนินการอะไรเกี่ยวกับการประดิษฐานพระ คณะฯจะทำงานทีละอย่างและที่ผ่านมาก็ได้เรียนรู้มากับหลวงปู่ทองทิพย์มากพอที่จะรู้ว่างานต่างๆที่ท่านให้ทำนั้นจะทำให้สำเร็จได้อย่างไร และท่านก็เคยแนะนำให้ทำบุญกุศลหลายๆอย่างเพื่อให้เป็นการเรียนรู้ เพื่อให้สามารถทำงานใหญ่ให้สำเร็จเป็นขั้นๆไปครับ

สำหรับพระสงฆ์สานุศิษย์หลวงปู่ทองทิพย์ที่อยู่ อ.เรณูนครนั้น ผมก็ติดต่อพูดคุยกับท่านอยู่บ่อย วันก่อนท่านโทรมาคุยประมาณ 1 ชั่วโมงและบอกให้ผมขึ้นไป จ.นครพนมเพื่อพูดคุยกันว่าท่านจะช่วยในการสร้างพระได้อย่างไรบ้าง หนึ่งในจำนวนนั้นมีพระสงฆ์รูปหนึ่งที่หลวงปู่ทองทิพย์ท่านมอบหลายสิ่งหลายอย่างให้ รวมทั้งสั่งให้มีหน้าที่ดูแลวัดป่าสีดาฯด้วย แต่ท่านไม่ต้องการเพราะไม่อยากจะขัดแย้งกับใครและในวาระสุดท้ายที่หลวงปู่ทองทิพย์ถอดกายทิพย์ออกไป ท่านก็อยู่กับหลวงปู่ทองทิพย์ พระสงฆ์รูปนี้เคยขอดูภายในของพระครูเทพโลกอุดร ลองไปถามท่านดูว่าสิ่งที่ท่านเห็นนั้นเหมือนหรือแตกต่างจากสิ่งที่คณะผมกำลังสร้างหรือไม่ อย่างไร และถามท่านด้วยว่าในวาระสุดท้ายก่อนจากไป หลวงปู่ทองทิพย์ท่านปรารภไว้ว่าอย่างไร ใครผ่านไปทาง อ. เรณูนคร ลองไปพูดคุยสนทนากับสานุศิษย์ของหลวงปู่ทองทิพย์ที่ อ. เรณูนครดูได้ครับ มีพระสงฆ์อยู่หลายรูปที่นั่น จะได้รับรู้คำสอนหรือเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับหลวงปู่ทองทิพย์จากผู้ใกล้ชิดท่านหลายๆคน ดีกว่ารับรู้จากคนๆเดียวครับ คณะสงฆ์ที่นั่นเพิ่งจะเสร็จงานปริวาสกรรมที่วัดท่าน เมื่อ 22 ธ.ค.นี้ครับ

สำหรับท่านใดที่อยากจะร่วมทำบุญสร้างวิหารที่วัดป่าสีดาฯ ก็เชิญได้เลยครับ ส่วนคณะผมนั้นขอสร้างพระให้เสร็จก่อนครับ

ส่วนท่านใดอยากรับรู้เรื่องราวต่างๆเกี่ยวการสร้างพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ว่ามาเกี่ยวข้องกับพระครูโลกอุดรอย่างไร ก็เชิญมาถามด้วยตนเองที่พุทธมนฑล สาย 2 ในวันที่ 30 ธ.ค. นี้ ช่วงเวลาประมาณ 9 โมง จนถึงบ่ายครับ

 

.....ต่อครับ วัดที่ 2 ที่ไปนี้ชื่อ วัดป่าช้าอภัยทาน ได้เจอพระหนุ่มรูปหนึ่งอายุประมาณ 30 กว่าๆ สังเกตดูลักษณะท่านมือเท้าดูใหญ่แต่ก็ไม่มากนัก บริเวณที่นั่งจะมีรูปพระครูเทพโลกอุดรที่เราเคยเห็นกัน แต่เป็นรูปคล้ายภาพวาด ใกล้ศาลามีพระปูนปั้นองค์ใหญ่ และฤาษี ก็ได้สนทนากับท่านหลายเรื่องทั้งเรื่องการสร้างพระ และเรื่องธรรมะทั่วๆไป เรื่องหลวงปู่ทองทิพย์ ท่านบอกท่านเคยไปปฏิบัติอยู่ที่วัดป่าสีดาฯ ด้วย สมัยหลวงปู่ทองทิพย์อยู่ แต่คนไม่ค่อยรู้จักเท่าไหร่นัก ท่านพูดดูเหมือนว่าท่านติดต่อทางในได้กับหลวงปู่ทองทิพย์ และพระครูเทพโลกอุดรได้ครับ ผมถามเรื่องพระ ท่านเล่ามา คล้ายๆ กับที่ จขกท เอามาเล่าในเวป ผมสังเกตว่าเวลาถามท่านสิ่งใดไปบางทีท่านจะหลับตาสักพัก แล้วค่อยตอบกลับมา ดูโดยรวมแล้วส่วนตัวคำสอนท่านก็ดีครับ แต่เรื่องที่ผมแปลกใจมี 2 เรื่อง คือ เรื่องการพูดถึงพระที่วัดป่าสีดา และร่างสังขารของหลวงปู่ทองทิพย์ที่วัด สองสิ่งนี้ดูท่านจะไม่ค่อยให้ความสำคัญมากนัก แต่จะเป็นอย่างไรนั้น จะไม่ขอนำมาเล่านะครับ เพราะผมพอจะเดาสาเหตุส่วนหนึ่งของความขัดแย้งนี้ได้ และพอเดาความคิด จขกท ออกว่าทำไมจึงคิดแบบที่เราเคยได้ยินกัน เอาเป็นว่าใครอยากรู้ก็ลองถามกันเอาเอง ผมคุยไม่นานก็ลากลับครับ วัดอยู่ไม่ไกลครับเลยวัดป่าสีดาฯ ไปทางโพนพิสัยประมาณ 30 กิโลเห็นจะได้ ล่าสุดที่ จขกท โพสมาก็อยากแสดงความคิดเห็นส่วนหนึ่งว่า บางทีหลวงปู่ท่านอาจฝากฝังในเรื่องการสร้างพระไว้กับท่านก็เป็นได้ แต่หลวงปู่ท่านคงอยากเห็นในความสามัคคีของคนที่วัด และลูกศิษย์ที่มาทำบุญด้วยกันมากกว่านี้ ได้ยินว่าทุกท่านเคยผ่านวิกฤตร่วมกันมาสมัยนำร่างหลวงปู่คืนมาจากคนไม่ดี นี่อาจเป็นตัวอย่างในเรื่องสามัคคีธรรมที่ผมเคยได้ยินมา มาถึงครั้งนี้ถ้าต่างคนต่างก็ทำหน้าที่ตามที่หลวงปู่มอบหมายจริงๆ ก็ทำไปเถอะครับ แต่อยากให้เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์และไม่เศร้าหมองจิตใจทั้ง 2 ฝ่าย บางทีในระบบของหลวงปู่ทองทิพย์อาจจะมีจิ๊กซอลให้เลือกหลายตัว หรือเสี่ยงทายในบางสิ่งบางอย่างเราก็ไม่อาจรู้ได้ มีแต่ปัญญาขั้นปรมัตถ์เท่านั้นที่อาจจะพอเห็นได้เอง แต่ถ้าเป็นไปเพื่อระบบสามัคคีธรรมที่หลวงปู่สอนมา ทุกฝ่ายไม่ว่าคนไหนก็ตาม ...ผู้ใหญ่จะเริ่มก่อนหรือเด็กจะเริ่มก่อนไม่สำคัญครับ แต่ขอให้ใช้ความดีที่เคยทำร่วมกันมาคุยกันครับ อย่าตั้งฝ่ายและหาแนวร่วมสนับสนุนเลย มันไม่จบง่ายๆ แน่ครับเรื่องนี้

 

ขอคุณพระพุทธองค์ทุกๆพระองค์ ให้ทุกท่านได้เห็นทางสู่นิพาน ท่านที่เห็นแล้วก็ขอให้ตั้งใจไปให้ถึง ท่านที่ยังไม่เห็นก็ขอให้ได้เห็น

 

...คุณอัญญาสิทธิ์นั้นพูดจริงอยู่ครับ แต่อาจพูดความจริงไม่หมด ทำให้คนฟังเข้าใจไขว้เขวไป ยกตัวอย่างเรื่อง พระที่หลวงปู่ให้ดูแลวัด แล้วไม่อยากขัดแย้งใคร(ท่านพูดแค่นี้คนเค้าก็หมายถึงพระที่วัดในขณะนี้สิครับ) จริงๆแล้ว สมัยนั้น ไม่มีใครคิดจะขัดแย้งใคร แต่พอหลวงปู่มรณภาพไปก็มีอิทธิพลเกิดขึ้นทันที ตอนนั้นพระไม่มีใครอยู่ได้ครับ เขาขู่จะฆ่าหมด แม้แต่พระที่เรณูนครที่คุณอัญญาสิทธิ์พูดถึง ก็หนีครับ ล่าสุดที่พระจากเรณูนครเขามาคุยกันนี่ก็คุยเรื่องการช่วยสร้างวิหารกับเจ้าอาวาสที่วัด เพราะเป็นสิ่งที่เขาคุยกันมาเมื่อ 5 ปีก่อนแล้ว พระที่เป็นหลานหลวงปู่ในวัดท่านก็เห็นด้วยในเรื่องนี้ ตอนนี้เขาเริ่มมองผู้พันแปลกๆแล้วล่ะครับ อย่าไปอ้างท่านมากเลยจะเป็นบาปเป็นกรรมซะเปล่าๆ

 

ท่านที่ต้องการทราบความก้าวหน้าในการสร้างพระ ผมนำรูปบางขั้นตอนในการสร้างพระ มาให้ชมกันแล้วครับ ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนการเกลาหุ่นขี้ผึ้งของพระต้นแบบ และเกศพระ รวมทั้งหุ่นต้นแบบขนาดเล็กของม้าแก้วมณีกาบซึ่งยังไม่เสร็จสมบูรณ์และต้องทำลวดลายต่างๆอีกหลายอย่าง ครับ

อาทิตย์หน้า ก็จะเป็นขั้นตอนของการลงการลงลวดลาย เครื่องทรงต่างๆ ลงบนองค์พระ และการขึ้นหุ่นต้นแบบของม้าแก้วมณีกาบขนาดใหญ่ครับ

สำหรับม้าแก้วมณีกาบนั้น คงจะหล่อให้เสร็จก่อนแล้วยกไปประกอบพิธีในงานหล่อพระ เนื่องจากในการหล่อพระนั้นต้องใช้คนงานหลายร้อยคน หากมีการหล่อม้าแก้วมณีกาบในวันนั้นด้วยก็จะยุ่งเกินไปครับ

กลางเดือนมกราคม 2550 หากท่านใดจะไปชมหุ่นต้นแบบของม้าแก้วมณีกาบขนาดใหญ่ ก็สามารถไปดูได้ที่ซอยเพชรเกษม 81 และในขณะนี้หากท่านใดจะไปชมหุ่นต้นแบบขององค์พระแก้ว ก็สามารถไปดูได้ที่โรงหล่อ ด้านหลังวัด ธรรมศาลา ผมเองก็ไปดูบ่อยเนื่องจากมีการทำงานก้าวหน้าไปทุกวันครับ

 

อนุโมทนาครับ
ผมมองพระพักตร์พระพุทธรูปแล้ว ไม่ทราบว่าใครเป็นคนร่างแบบครับ ผมดูแล้วจะออก ไปแนว ทางจีนหรือทิเบต ตามแบบมหาโพธิสัตว์เจ้า ดูแล้วอิ่มเอิบใจดีครับ

ในปีใหม่นี้ก็ขอให้ทุกท่านมีความสมบรูณ์ ในพลังกาย พลังจิต คิดสิ่งใดให้สมความปรารถนา ทุกท่านเทอญ

 

คุณ Kitjang

พระพักตร์ของพระพุทธรูปนั้นนำแบบมาจากใบหน้าที่เป็นกายทิพย์ของหลวงปู่ทองทิพย์ ซึ่งมีลูกศิษย์ท่านคนหนึ่งเขาถ่ายภาพได้ และเป็นรูปใบหน้าที่หลวงปู่ทองทิพย์ท่านบอกกับผมไว้ว่าให้ใช้หน้านี้เป็นพระพักตร์ของพระแก้ว ช่างปั้นเองก็คุยกับผมเช่นกันว่าปกติพระพักตร์ของพระพุทธรูปจะมีลักษณะเฉพาะอยู่แล้ว แต่พระองค์นี้ให้ใช้เป็นหน้ามนุษย์ซึ่งช่างไม่เคยทำมาก่อน ผมก็บอกช่างไปว่าปั้นให้ใกล้เคียงใบหน้ากายทิพย์ของหลวงปู่ให้มากที่สุดก็แล้วกันและผมก็ให้ช่างแก้ไข จนมาลงตัวเป็นพระพักตร์ตามที่เห็นครับ


สำหรับท่านที่ต้องการทราบเกี่ยวกับการสร้างวิหารให้หลวงปู่ ใครทำผมก็ขออนุโมทนาด้วยครับ แต่เท่าที่โทรศัพท์พูดคุยกับพระสงฆ์ที่เป็นหลานหลวงปู่ ท่านก็ถามผมอยู่เช่นกันว่าผู้พันทราบเรื่องการวางรากฐานสร้างวิหารหรือเปล่า เพราะตำแหน่งที่กำลังจะทำนั้นไม่ใช่ตำแหน่งที่หลวงปู่ท่านบอกเอาไว้ และคณะสงฆ์ที่อยู่ อ.เรณูนคร ท่านก็บอกผมเช่นกันว่าตำแหน่งที่จะสร้างวิหารนั้นไม่ใช่อยู่ในตำแหน่งนั้น ท่านก็เป็นห่วงเรื่องนี้เช่นกัน ผมก็บอกไปตามตรงว่าผมไม่ได้มีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้องกับการสร้างวิหารหลวงปู่ ผมคงจะเข้าไปร่วมหลังจากมีผู้ดำเนินการไประยะนึงแล้ว และผมคงจะเคลียร์เรื่องตำแหน่งที่จะสร้างวิหารให้ไม่ได้ ให้ท่านลองคุยกันเองก็แล้วกัน ซึ่งพระสงฆ์หลานหลวงปู่และพระสงฆ์ที่อยู่ อ. เรณูนคร ท่านก็หนักใจเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน ผมก็เรียนพระสงฆ์ที่ อ.เรณูนครไปว่า ทางที่ดีให้ท่านประชุมพระสงฆ์ที่เป็นลูกศิษย์หลวงปู่ทั้งหมด รวมทั้งลูกศิษย์ฆราวาส แล้วก็ปรึกษากันเพื่อชี้เขตที่จะสร้างวิหาร เพราะเข้าใจว่าในพระธรรมวินัยนั้นมีข้อกำหนดเกี่ยวกับการสร้างศาสนวัตถุไว้ ทำนองว่าจะต้องมีคณะสงฆ์และญาติโยม ร่วมกันชี้เขตแดนที่จะสร้าง ถ้าทำไปตามพระธรรมวินัยได้ก็น่าจะได้ข้อยุติครับ

สำหรับเรื่องการสร้างวิหารนั้น หลวงพี่ที่เป็นลูกหลานหลวงปู่ ท่านมาปรึกษาผมตั้งแต่หลวงปู่ท่านละสังขารใหม่ๆแล้ว แต่เหตุของสามัคคีธรรม ที่ยังไม่เกิดขึ้นนั้นเป็นเพราะอะไร ท่านใดสนใจก็ลองไปศึกษาดูครับ หากจะคุยโทรศัพท์สายตรงกับพระสงฆ์หลานหลวงปู่ หรือพระสงฆ์ลูกศิษย์หลวงปู่ ที่อยู่ อ.เรณูนคร ผมก็จะให้เบอร์โทรศัพท์ไปครับ หากได้พูดคุยกับท่านเหล่านั้นแล้ว ค่อยมาพิจารณาว่าสิ่งที่ผมเล่ามาเกี่ยวกับความเป็นไปในวัดป่าสีดาฯนั้นเป็นจริงหรือเท็จครับ