มหานาคีมหานาคาครุฑารักษากลุ่มภูเก็ตพังงาบูชานัมทานทีรอยพระพุทธบาท

11ธค.เสาร์ 5 ตั้งจิต รับยันต์เกราะเพชร 2 รอบ สำหรับ ผู้ที่ ห่างไกล...

วันหยุด แวะ บำเพ็ญ ช่วยกวาดลานวัด เจริญสมณะกิจ ภูเก็ต.. จากนั้น ทำแคร่ นั่งภาวนา บนเนินเขา สามกอง ใน เมือง ภูเก็ต..

 

หลังเลิกงาน คืนวันเสาร์ 18 ธค. เดินทาง ขึ้นเนินเขา สามกอง ที่สร้างแคร่นั่งภาวนาใว้ เวลา ประมาณ 23.00 ปักกลด ,กางเต้นท์ รับลมหนาว
ภาวนา ปลีกวิเวก พร้อม ภาพ ดวงธรรม ที่ ปรากฏ ต่อสายตา ให้ รู้ว่า....
เทพเทวา ,ภูมิเทวา ,รุกขเทวา ,อากาศเทวา สัพสัตว์ น้อย ใหญ่ มีจริง ตาม...
อนุสติ ๑๐ ....

อนุสติ ๑๐ คือ อารมณ์ดีงามที่ควรระลึกถึงเนืองๆ ได้แก่ ...
พุทธานุสติ ธัมมานุสติ สังฆานุสติ สีลานุสติ จาคานุสติ เทวตานุสติ มรณสติ กายคตาสติ อานาปานสติ อุปสมานุสติ

เช้าวันอาทิตย์ 19 ธค. รวมกลุ่มเพื่อน พี่ น้อง ญาติธรรม มีกลุ่ม
- กลุ่ม พุทธสัมพันธ์
- กลุ่มมโมยิทธิ คนเมืองบัวภูเก็ต
- กลุ่มบริษัท ซุปเบอร์ซีพ
- กลุ่มบันยัน

ล้างสุขา สุขสราญรมณ์ ๙ วัด ครั้งที่ ๑๙
แต่ ผม ล้างใด้เพียง ๕ วัด เนื่อง จาก เดินทาง ไปบ้าน คุณพ่อ ที่ อ.คุระบุรี จ.พังงา ในการ ดู สถานที่ สร้าง ขนำ ,เรือนพักยามเกิด ภัยพิบัติ บนเนินเขาใกล้บ้าน

ซึ่ง เนินเขาตรงข้าม บ้านคุณพ่อ เป็น ชุมชนเก่า มีการขุดพบลูกปัด และบางท่าน เจอ พระพุทธรูปฯ อยู่ใต้ต้นไม้ ใหญ่ เมื่อ ท่านนี้ มาบอก ชาวบ้าน เขาเลยกลายเป็น คนสติ ไม่ค่อยดี อาจจะเนื่องจาก...
ซึ่ง นาคา พร้อมน้องชาย เดินทาง ขึ้นไป ภาวนา และ ถ่ายภาพ มีดวงธรรม ขนาดใหญ่ เช่นกัน เวลา ประมาณ 11.30 ช่วงสงกรานต์ ปี 2551
คุระบุรี เป็น เมืองท่าเก่า สมัยเดียวกับ เมือง เกาะคอเขา (ที่ล่มสลาย มีการ พบ กำแพงเมือง ทั้งบนเกาะ และใต้ทะเล มี ลูกปัด , มณีนาคราช ,มณี อัญมณี สมัย ทราวดี ) ,ชุมชนเมืองเกาะพระทอง ,เกาะระ ฯ..

ทาง อ.คุระบุรี จ.พังงา ,อ.สุขสำราญ จ.ระนอง มีเพื่อน นักวิทยุสมัครเล่น ช่วย ในการ เฝ้าดู การ เคลื่อนไหว ทาง ธรรมชาติ
โดย มี คลื่น ความถี่ ย่าน วิทนุสมัครเล่น เปิด ใน ระบบ eco link ที่ ความถี่ 145.600 mHz.
( ระบบ eco link เป็น ระบบ วิทยุสื่อสาร ข่ายวิทยุสมัครเล่น ที่ ต่อ วิทยุ ผ่าน ระบบ เครื่อข่าย อินเตอร์เน็ต )<!-- google_ad_section_end -->

ภาพ 1ดวงธรรมขนาดใหญ่ ด้านหน้า แคร่
ภาพ 2 ดวงธรรมเหนือแคร่
ภาพ 4-6 ล้างสุขา วัดนาคา (วัดแรก )
ภาพ 7-9 ล้างสุขา วัดขจรเกียรติ (วัดที่ 2 )

 

ล้างสุขา และ กวาดลานวัด

- วัดนาคาราม
- วัดขจรเกียรติ
- วัดพุทธมงคลนิมิต (ภาพ 1-3 )
- วัดป่าอร่าม (ภาพ 4-6 )*** สำหรับ พระธรรมยุต แนบภาพ วัดและที่พักสงฆ์ ธรรมยุต ใน ภูเก็ต
- วัดวิชิตสังฆาราม (ภาพ 7-10 )
- วัดหลังศาล บนเนินเขาโต๊ะแซะ เหมาะ ต่อการ ภาวนา ,หลบภัย ยามเกิดเหตุ


สังเกตุ สำนักวิปัสสนา เกล็ดดาว เป็นที่พักสงฆ์ โดยมี หลวงปู่มีชัย ( หลวงปู่ พระอาจารย์ ของคุณ อ๋อ falkman ท่านเมตตา มาพัก จำ ที่นี้ นานแล้ว ซึ่ง นาคา มีโอกาส ใด้ ปลีกวิเวก โดยที่ ครูบาอุดม ท่าน เมตตา ให้ นาคา พัก จำภาวนา ที่ กุฏิ หลวงปู่มีชัย (นัยยะ มี พญางู ท่าน ดูแล ) อยู่ หลัง เนินเขา หลังวัด สิริสีลสุภาราม หลวงปู่สุภา ทราบว่า จุดนี้ แดนเมืองลับแล...

ใว้มีโอกาส ผม จะ เดินทาง อาจจะแวะเยือน สำนักวิปัสสนาเกร็ดดาว อีกครั้ง ตามวาระ เพราะ ไม่ใด้ ไปนาน หลังจาก ในคราวนั้น ที่ พักคืนภาวนาใน กุฏิหลวงปู่
ภาพ 11-15 สำนักวิปัสสนาเกล็ดดาว เมื่อ ปี 2550 ( สถานที่ ภาวนา และ หลบภัย ใด้ ตามวาระ )

 

ขออนุญาติ นำประวัติ หลวงปู่มีชัย

หลวงปู่มีชัย ท่านเป็นคนอารมณ์ดี พูดน้อย ท่านจะไม่มีอิริยาบทนอน คือ ใช้วิธีนั่งหลับ (ก่อนจะเล่าต่อไป ขออกตัวก่อนว่า ใช้ศัพท์พระไม่ค่อยเป็น อาจผิดบ้างถูกมั่งต้องขออภัย) ฉันอาหารเจ ฉันมื้อเดียว ตื่นนอนแต่เช้า ตีสาม ท่านบอกว่า ถ้าทำสมาธิลึกๆ หลับจริงๆ วันละครึ่งชั่วโมงก็อิ่มแล้ว อืมมม ท่านเคยนั่งสมาธิ 7วัน 15 วัน โดยไม่นอน ไม่ฉัน ติดต่อกัน (ไม่รู้เขาเรียกอะไร) แต่เวลาท่านสอนลูกศิษย์ ท่านบอกว่า นั่งสมาธิ ไม่ต้องนั่งนานหรอก ถ้าเดินจงกรม 1 ชั่วโมงให้มานั่งพิจารณา 15 นาที แล้วไปเดินใหม่ ทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ หรือ ถ้าใช้ชีวิตประจำวันปกติ ก็ให้มีสติตลอด พยายามให้จิตมาอยู่ใกล้ตัวเรามากที่สุด อย่าให้ไปไหนไกล

ท่านเป็นคนจังหวัดสุรินทร์ ท่านบอกว่าเคยเป็นเด็กวัด วัดบูรพาราม แล้วก่อนท่านบวชเคยเป็นโยมอุปัฏฐากหลวงปู่ดูลย์ หลวงปู่ดูลย์เคยเมตตาไปงานศพของโยมพ่อ ของหลวงปู่ หลวงปู่บอกว่าหลวงปู่ดูลย์กับหลวงปู่สามจะสนิทกันมาก แค่คนไม่ค่อยรู้จักหลวงปู่สามดี เพราะท่านไปอยู่ในป่าเสียมากกว่า ส่วนหลวงปู่ดูลย์ท่านอยู่ในเมือง เคยถามหลวงปู่มีชัยว่า หลวงปู่ดูลย์ท่านสอนเรื่องอะไรบ้าง หลวงปู่บอกว่า ท่านเน้นเรื่องสติอย่างเดียวเลย (ตอบมาสั้นๆ อย่างนี้)

หลวงปู่มีชัยท่านใช้ชีวิตอยู่ในถ้ำมาประมาณ 17-18 ปี ถ้ำที่ท่านอยู่นานที่สุดคือ ถ้ำกระแชง ในนั้นมีเขาชื่อ เขาหิมะพานต์ (หลวงปู่เอามาตั้งชื่อวัดที่ปีนัง ที่ท่านสร้างไว้) ในถ้ำนั้นมีสิ่งแปลกประหลาดมากมาย โล๊กเซี่ยเคยเล่าว่าหลวงปู่เคยบอกว่าถ้ำระแวกนั้นศักดิ์สิทธิ์มาก เป็นที่ๆพระพุทธเจ้าและพระสาวก มาปฏิบัติภาวนากัน ก่อนที่พระพุทธเจ้าจะกลับไปตรัสรู้ โล๊กเซี่ยเล่าว่า มีอยู่วันหนึ่งเค้าเดินไปสำรวจบริเวณถ้ำ แล้วอยู่ดีๆ ถ้ำที่เคยเห็นทุกวัน กลับกลายเป็นคล้ายๆ เหวลงไป แล้วผนังถ้ำจะเป็นถ้ำเล็กๆ แต่ละถ้ำจะเป็นที่นั่งภาวนาของพระอริยสงฆ์ แต่ละถ้ำจะมีพระธาตุประจำถ้ำ แล้วแต่ละถ้ำจะติดผนังถ้ำ เวลาเดินไปแต่ละถ้ำเหมือนกับมองลงเหว แต่เขาแปลกใจว่าทำไมเขาถึงข้ามไปได้ เขาไปแต่ละถ้ำเก็บพระธาตุที่ประจำแต่ละถ้ำมาด้วย มีพระธาตุพระสิวลี พระโมคลาน์ พระสารีบุตร และอีกหลายๆ พระธาตุ โล๊กเซี่ยบอกว่าหลวงปู่บอกว่าตรงนั้นเขาเรียกป่าหิมะพานต์ มีทั้งพระอรหันต์ คนธรรพ์ เทวดา นางฟ้า และอีกมากมาย (จำไม่ได้หมด) โล๊กเสี่ยบอกว่าเขาตื่นเต้นมากแล้วเค้าพาภรรยาของเค้ามาอยากให้เห็นเหมือนที่เขาเห็น แต่คราวนี้ไป กลับกลายเป็นเถาวัลย์ปกคลุมไปทั่ว ต่างกับวันนั้นที่เขาเห็นมาก เช่นเดียว กับพี่กวย พี่กวยเคยเห็นหินงอกออกมาคล้ายๆ คน หลวงปู่บอกว่าเป็นพระอรหันต์ท่านทิ้งร่างไว้ วันต่อมาพี่กวยพาภรรยามาเพื่อจะไปดูอีก แต่ปรากฏว่าหายไปแล้ว หลวงปู่เลยบอกว่า ของพวกนี้เขาตั้งใจให้ดูเป็นคนๆ ไป ไม่ใช่ให้ทุกคนไปดูทุกคนเลยเข้าใจ

พี่กวยเคยบอกว่า ถ้าอยู่กับหลวงปู่ ลองถามเรื่องธรรมะสิ หลวงปู่จะอ้างอิงไปถึงสมัยพระพุทธเจ้า เล่าได้เป็นฉากๆ เลย พี่กวยบอกว่าหลวงปู่ไม่ได้ใช้วิธีจำจากพระไตรปิฏกแต่น่าจะมีญาณอะไรดู (อิอิ อันนี้ก็ไม่แน่ใจ)

หลวงปู่เคยให้คาถาแก้วสารพัดนึกมา ท่านบอกว่า พระธุดงค์ ไม่ใช่จะปลอดภัยทุกรูปนะ มีตายจากสัตว์ร้าย สิ่งไม่ดีต่างๆ ในป่า มีจำนวนมากที่ต้องเสียชีวิตไป หลวงปู่บอกว่าคาถานี้หลวงปู่ท่องทุกวันตอนอยู่ในถ้ำ ป้องกันสัตว์ร้าย สัตว์มีพิษ หรือสิ่งที่จะมาทำร้ายเรา พี่หมวยก็เคยเล่าว่า (พี่หมวยกับสามีเคยไปปฏิบัติ หลวงปู่อยู่บนถ้ำ) ตอนนี้ถ้ำปิดแล้วเพราะไม่มีหลวงปู่อยู่ มีงูเยอะ งูใหญ่งูมีพิษเยอะ ไม่มีใครกล้าเข้าไป

พูดถึงงู เคยมีงูใหญ่ตามหลวงปู่มาที่วัดที่ปีนัง มานอนอยู่บนเบาะที่หลวงปู่ใช้นั่ง ทุกคนตกใจ กำลังจะไล่ไป พอหลวงปู่มาเห็นหลวงปู่บอกว่า อย่าไปทำร้ายเขา เขามาดี เขาตามหลวงปู่มาจากบนเขา แล้วหลวงปู่หันไปพูดกับงูว่า กลับไปเถอะ อย่ามาที่นี่เลย คนเค้ากลัว เค้าจะทำร้ายเอา อีกแป๊ปงูเลื้อยลงจากเบาะหลวงปู่ หายเข้าไปในป่าเลย หลวงปู่บอกว่า พวกงูพวกนี้เขาปฏิบัติเหมือนคนแหละ เขาจะไปภาวนาในถ้ำ ถ้าเจออีกอย่าทำร้ายเขานะ แต่ไม่นานก็มีงูใหญ่อีกตัวมาที่วัดที่ปีนังอีก ตอนนี้ไปอยู่บนต้นไม้ หลวงปู่ให้กลับไม่ยอมกลับ จะห้อยตัวบนต้นไม้ แต่หลวงปู่สั่งคนแถวนั้นว่าห้ามไปทำร้ายงูตัวนั้น ตอนหลวงปู่จะออกจากวัดเพื่อไปรับกิจนิมนต์ งูจะขู่ฟ่อใหญ่ทุกครั้ง ผลที่สุดงูนี้ก็กลับเข้าป่าไปอีก

เมื่อคืนนี้ข้าพเจ้าได้ไปกราบหลวงปู่มา โล๊กเซี่ยก็ไปด้วย (ถ้าไปคนเดียวไม่มีโอกาสได้สนทนากับหลวงปู่ถึงดึก)

ก่อนกลับข้าพเจ้าถามหลวงปู่ว่า หลวงปู่คะ รูปงูหน้าวัดที่มีคนเอามาแขวนคือ งูอะไรเหร๋อคะ หลวงปู่บอกว่า
อ๋อ งูตัวนี้มาช่วยเฝ้าถ้ำให้หลวงปู่ ตอนนั้นหลวงปู่อยู่ในถ้ำ วันที่หลวงปู่จะไปเข้าเฝ้าสมเด็จพระสังฆราช หลวงปู่
ก็บอกเจ้าที่เจ้าทางให้ช่วยเฝ้าถ้ำให้หลวงปู่หน่อยจะเดินทางเข้ากรุงเทพ ก่อนหลวงปู่จะไปมีงูใหญ่เลื้อยมา
จากไหนไม่รู้ แล้วมานอนขดอยู่ที่ปากถ้ำ แล้วหลวงปู่ก็เดินทางไปกราบพระสังฆราช

หลวงปู่เล่าว่าตอนไม่อยู่ ไม่มีใครเข้าไปในถ้ำได้เลย เจ้างูนอนขวางอยู่ตลอดเวลา พอหลวงปู่กลับมา กำลัง
เดินมาที่ถ้ำ เจ้างูตัวนี้เลื้อยหนีไปเลย หลวงปู่บอกว่า งูตัวนี้แปลกอย่าง เค้าจะไม่ให้เราเห็นหัวเลย ไม่มีใครเห็น
หัวงูตัวนี้ เห็นแต่เลี้อยไปมา ข้าพเจ้าก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ แต่พอลาหลวงปู่กลับบ้าน ข้าพเจ้ามาคุยกับโล๊กเซี่ยว่า
คุณเคยเห็นงูตัวนี้หรือเปล่า โล๊กเซี่ยตอบว่า เคย ทุกคนที่ไปที่ถ้ำจะเจองูตัวนี้ งูตัวนี้มีลักษณะแปลกอย่างนึงคือ
ที่หาง จะแบนๆ คล้ายๆ ฝ่ามือคน ไม่ใช่กลมๆ เหมือนงูทั่วไป แล้วไม่มีใครเห็นหัวเจ้างูตัวนี้ได้เลย จะเลื้อยไปมา
ข้าพเจ้าก็ถามว่า หรือว่า เป็นพญานาคหล่ะ โล๊กเซี่ยตอบว่า ตอนที่อยู่ถ้ำหลวงปู่เคยบอกโล๊กเซี่ยแล้วว่านี่เป็น
พญานาคจริงๆ งูที่เราเห็นอยู่ จริงๆ เค้าตัวใหญ่กว่านี้มากนะ แต่เค้าแปลงมา ลดย่อขนาดมา ไม่ให้ผู้คนตกใจ
อิอิ ข้าพเจ้าเลยบอกว่า อ๋อๆ แล้วข้าพเจ้าถามว่ารูปได้มาอย่างไร ก็ได้คำตอบว่า ตอนหลวงปู่กลับมาจากไป
เข้าเฝ้าพระสังฆราช อังได้ถ่ายรูปนี้ไว้ แล้วเอามาอัด เอามาขยายแล้วเก็บไว้ที่วัด

ถ้ำที่หลวงปู่เคยอยู่ พี่หมวยบอกว่า ตอนนี้ถ้ำปิดแล้ว ไม่มีใครไปอยู่ได้เลย บางทีไปเจองูตัวใหญ่มาก สีขาวทั้งตัว
หรือบางทีสีดำทั้งตัว อยู่ในถ้ำ บางคนเข้าไปเคยเจอแล้ววิ่งออกมาไม่ทัน เค้าบอกว่า ตัวใหญ่เรียกว่าแทบจะเต็ม
ถ้ำเลย

แม่ชีลัดดา ที่เคยไปปฏิบัติกับหลวงปู่ก็เล่าว่า ตอนที่แม่ชีนั่งสมาธิในถ้ำ ก็มีงูใหญ่มา แล้วมานอนมองแม่ชีนั่งสมาธิ
แม่ชีกลัวมาก หลวงปู่เลยบอกเจ้างูให้ออกไป เค้าก็เชื่อโดยดีนะ โดยมีคนเอาไฟฉายนำทางออก เจ้างูเค้าก็เลื้อยออก
ไปตามแสงไฟฉาย
หลวงปู่เคยตายไปฟื้น 3วัน 2คืน
ไปถึงวัด คนเยอะพอสมควร แต่ก็นั่งข้างๆ หลวงปู่ พอคนขาดช่วง ก็สนธนาธรรมกับท่าน อิอิ เรื่องการปฏิบัติ กับข้อสงสัยใน การปฏิบัติท่านก็อธิบายให้ฟัง ท่านบอกว่า ดีแล้ว สังเกตอย่างนี้ อะไรเกิดขึ้นกับจิต ก็ให้สังเกตไป ถ้าเราปล่อยให้ผ่านไปโดยไม่ได้ไปสังเกต เฝ้าดู ก็เหมือนมันผ่านไปโดยไร้ค่า ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เราก็จะไม่ได้อะไรเลย ข้าพเจ้าช่วยหลวงปู่ทำงาน มีโล๊กเสี่ย ข้าพเจ้า พระอังเดร แล้วหลวงปู่ ท่านก็สอนไป เราก็ทำงานของเราไป จนทุ่มนึงพระมาทำวัตร พวกเรา (ข้าพเจ้ากับโล๊กเสี่ย) ก็นั่งข้างหลังพระ พระท่านสวดพวกเราก็นั่งสมาธิ จนกระทั่งพระท่านนั่งสมาธิกันเสร็จ แล้วเราก็มาทำงานกันต่อ แล้วข้าพเจ้าเลยเล่าให้หลวงปู่ฟังว่า ข้าพเจ้าพึ่งได้ฟังเทศน์พระรูปหนึ่งแต่จำชื่อไม่ได้ ท่านตายแล้วฟื้น แล้วไปเห็นสวรรค์นรกมาเล่าให้หลวงปู่กับโล๊กเสี่ยฟัง แล้วเล่าไปเล่ามา เลยเอะใจมาว่า เคยได้ยินว่าหลวงปู่เคยตายแล้วฟื้นหนนึง แต่ไม่เคยได้ยินจากปากท่าน ท่านยิ้มๆ แล้วบอกว่า จริง ที่พระท่านเห็นมาอย่างนั้นหล่ะจริง

ข้าพเจ้าเลยบอกให้หลวงปู่เล่าให้ฟังหน่อยค่ะ หลวงปู่ท่านก็เมตตาเล่าให้ฟัง (พวกเราก็ทำงานของพวกเรากันไป ท่านก็ทำของท่านแล้วเล่าให้ฟัง) ท่านก็เล่าให้ฟังว่าท่านเป็นมาอย่างไร ข้าพเจ้าขอเรียบเรียงใหม่ ตั้งแต่เหตุการณ์เริ่มต้นนะ

หลวงปู่ท่านบอกว่า ท่านคิดว่าที่ท่านตายเป็นวิบากกรรมที่ท่านได้ทำไว้ด้วย ท่านเล่าว่าก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ (ตอนนั้นท่านยังเป็นฆราวาส) เมื่อก่อนท่านมีฟาร์มเป็ดเลี้ยงเป็ดไว้ 300 ตัว เพื่อเก็บไข่ไปขาย แล้วก็มีไร่ มีนา ปลูกข้าว แล้วมีอยู่วันหนึ่ง หมูของเพื่อนบ้านเข้าไปกัดข้าวทำความเสียหายหมดเลย ท่านเลยเกิดโทสะ เอาหมาสามตัว มาดมกลิ่นหมูว่ามันอยู่ไหน พอหาเจอ ท่านตีมันด้วยความโมโห จนมันตาย แล้วเอาเนื้อไปให้คนแร่ พอภรรยาท่านกลับมาบ้าน ภรรยาท่านต่อว่า ว่าทำไปได้อย่างไร วันนี้ก็วันพระ แล้วศีลที่ถือไว้หายไปไหน ท่านโดนภรรยาต่อว่าอย่างแรง

หลังจากนั้นไม่เกินเดือนท่านไม่สบายเป็นอัมพฤต อยู่เกือบสามเดือน หมดเรี่ยวแรง ทำอะไรไม่ได้เลย ลมหายใจก็แผ่วเบาเต็มที มีอยู่วันหนึ่งภรรยาท่านบอกว่า มีพระธุดงค์ มาปักกรดอยู่แถวนี้เลยคิดว่าจะไปหาท่านให้ท่านช่วยรักษา แล้วท่านก็ไปหาพระธุดงค์เพื่อนทำการรักษา พระธุดงค์รูปนั้นคือ หลวงปู่สาม นี่เอง _/\_ ข้าพเจ้าก็ไม่ทันได้ฟังว่าหลวงปู่สามท่านรักษาอย่างไร (เดี๋ยวไปเช็คกับหลวงปู่อีกที) แต่ท่านบอกว่าหลวงปู่สามท่านให้ภาวนาเอาไว้ พุทโธ พุทโธ นี่แหล่ะ หลังจากนั้นไม่นานหลวงปู่ท่านอาการหนักมาก หายใจไม่ได้เลย ก่อนท่านจะสิ้นลมหายใจท่านได้อธิฐานไว้ว่า ถ้าหายจากคราวนี้ท่านจะบวช แล้วท่านนึกถึงคำสอนของหลวงปู่สามว่าให้ท่องพุทโธ พุทโธ อย่างมีสติไว้

หลังจากท่านสิ้นลมหายใจ ท่านบอกว่าเหมือนมีคนมาเรียกชื่อท่าน ท่านก็ขานรับแล้วเค้าก็พาท่านไป ข้าพเจ้าก็ถามท่านว่าคนพาท่านไปแต่งตัวอย่างไรหล่ะ ท่านบอบอกว่าใส่ชุดสีฟ้า คล้ายกับหมอหรือพยาบาลในโรงพยาบาลนั่นแหล่ะ แล้วข้าพเจ้าถามว่าหน้าตาหล่ะเป็นอย่างไร ท่านบอกว่า ขึงขังน่ากลัวมาก หลังจากเค้าพาท่านไป ท่านบอกว่าก็ผ่านโลกมนุษย์ผ่านโลกวิญญาณไปถึงที่แห่งหนึ่ง เหมือนศาลาว่าการ พอไปถึงก็จะไปลงทะเบียน แล้วจะมีความดี ความชั่วที่เราทำปรากฏมาให้เห็นทั้งหมด อาหาร ผ้าไตร หรืออะไรที่เราเคยทำไว้ จำได้หรือไม่ได้มันผ่านมาให้เห็นทั้งหมด แล้วยมบาลถามว่าที่ทำนี่จริงใช่หรือเปล่หลวงปู่ท่านก็บอกว่าใช่

รอสักพัก มีคนเอาตัวท่านไปอีกที่ ท่านบอกว่า เป็นห้องๆ มีทั้งหมด 11 ห้อง แล้วห้องที่ท่านถูกพาไปเป็นห้องสุดท้ายพอดี ห้องที่ 11 พอเข้าไปห้องนั้นภาพที่เคยทำไว้ฉายออกมาหมดเลย แล้วอีกสักครู่มีพยายมเข้ามาพร้อมกับบัญชีในมือ ถามว่า หลวงปู่ชื่ออะไร หลวงปู่ตอบว่า ชื่อ มีชัย แล้วพยายมถามนามสกุลท่านท่านบอกว่า ไม่ใช่ คนนั้นอยู่อีกหมู่บ้านหนึ่งถัดไป
ไม่ใช่ท่าน พยายมบอกว่า อ้าวอย่างนี้ผิดตัวแล้ว เอาไปส่งคืน ข้าพเจ้าถามว่าพยายมหน้าตาเป็นอย่างไร ท่านบอกว่า หน้าตาดุดัน น่ากลัวมากที่สุด (แต่ลืมถามว่าแต่งตัวอย่างไร อิอิ เดี๋ยวไปถามใหม่) หลังจากนั้นมีคนพาท่านออกจากห้อง แล้วก็พามาส่ง

ข้าพเจ้าเลยถามว่า แล้วมาส่งอย่างไร ท่านบอกว่ามีม้าสีขาวมีบังเหียร พร้อมสรรพ มาส่งที่บ้าน พอท่านลงจากหลังม้า ท่านก็พบว่าท่านมาอยู่บริเวณบ้าน แล้วท่านมาเดินๆ อยู่รอบๆ บ้าน แล้วมานั่งพักอยู่โคนต้นมะม่วง แล้วไม่รู้อย่างไรอยู่ดีๆ ไปอยู่ที่โรงศพที่เก็บศพท่าน(ท่านบอกว่า อยู่บ้านนอกไม่ได้ฉีดยากันศพเน่าหรอก ถ้าฉีดไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร) แล้วท่านก็รู้สึกตัวอีกที ท่านบอกว่ามีผ้าห่อตัวอยู่แล้วพยายามดิ้นมาก แล้วได้ยินคนบอกว่า ผีตื่น แล้ววิ่งกันทั้งวัด

ข้าพเจ้าเลยถามว่า หลวงปู่รู้สึกอย่างไรหล่ะคะ ตอนรู้สึกตัวขึ้นมา ท่านบอกว่า รู้สึกว่าทั้งตัวชาไปหมด แล้วหนักๆ ด้วย แต่ตัวเองพยายามดิ้นสุดแรงเกิด จนคนรู้ว่าท่านฟื้นมาแล้ว หลังจากนั้นหลวงปู่ท่านบอกว่า มีนักข่าวจะมาทำข่าวด้วย แต่ท่านบอกว่า ยังไม่ได้ไปเห็นนรกหรือสวรรค์ ไปแค่ศาลาว่าการ ไปลงทะเบียนเฉยๆ พอรู้ว่าผิดตัวก็ได้กลับมา คงไม่มี
ข่าวอะไรหรอก แล้วท่านก็ย้ำกับข้าพเจ้าเรื่องพวกนี้มีจริง ท่านย้ำหลายหนมาก ท่านบอกว่า ที่ท่านกลับมาได้อาจเพราะว่าท่านมีสติ ตอนจะสิ้นลมหายใจก็เป็นได้ ไม่รู้ว่าคนตายแล้วไร้สติจะเป็นอย่างไร อีกอย่างต้องได้ผลจากที่หลวงปู่สามได้สอนท่านไว้ก่อนหน้านี้ ท่านบอกว่าตอนตายสิ่งที่นึกได้ดีที่สุดคือ ศีลที่ท่านรักษามาอย่างดี หลังจากนี้ท่านให้หนังสือเที่ยวเมืองนรกข้าพเจ้ามาอ่านด้วยเล่มนึง อิอิ

หลังจากที่ท่านฟื้นมาแล้ว ท่านบอกว่า ตอนนี้หมดตัว เพราะขายทุกอย่างเพื่อมารักษาตัว จนหายแล้วท่านก็เริ่มชีวิตใหม่ด้วยการเช่าที่เปิดร้านก๊วยเตี๋ยว แต่ว่าขายได้ดีพอควร แล้วขายปอ ไปด้วย ตอนนั่นปอราคาดีจนท่านมีเงินก้อนมาอีกหน เลยซื้อที่ที่เช่าไว้ จนมาวันหนึ่งท่านจำได้ว่าท่านเคยสัญญาว่า ถ้าหายจะบวช ช่วงนั้นโยมพ่อของท่านเสียชีวิต ท่านเลยบวชหน้าไฟ ให้พ่อ ท่านบอกว่าในงานศพโยมพ่อของหลวงปู่

หลวงปู่ดูลย์ได้โปรดมางานศพของโยมพ่อท่านด้วย หลังจากงานศพผ่านไปแล้ว หลวงตา(น้องชายท่านตอนนั้นยังไม่ได้บวช) ถามท่านว่าเมื่อไหร่จะสึก ท่านตอบว่า ยัง รอออกพรรษาก่อนแต่พอออกพรรษา น้องชายก็มาถามอีก วาเมื่อไหร่จะสึก ท่านเลยไม่อยากตอบ แล้วเห็นคนเดินทางไปเชียงใหม่กัน ท่านเลยติดไปด้วย แล้วไปภาวนาที่เชียงใหม่นานเจ็ดปี
ท่านบอกว่า ที่เชียงใหม่เวลามันหนาวมันทรมานมาก หนาวจับใจจริงๆ หลังจากนั้นท่านก็เดินทางธุดงค์ลงมาทางใต้ มาอยู่ที่เขาหลัก ท่านบอกว่าตอนซึนามิลง ทุกอย่างหายไปหมดยกเว้นพระประธาน ท่านได้ธุดงค์จากเขาหลักมาแล้วผลสุดท้ายท่านได้มาอยู่ที่ถ้ำที่ภาคใต้ อยู่หลายถ้ำ แต่ถ้ำหลักๆ คือ ถ้ำนางแก้ว และอีกหลายที่ (ถ้ามีโอกาสจะมาเล่าให้ฟัง)
ที่มาจากhttp://solardog

 

ข้อมูล ในการ อัญเชิญถวายพระ บรมสารีริกธาตุ ใน ภูเก็ต ,พังงา

ข้อมูล ในการ อัญเชิญถวายพระ บรมสารีริกธาตุ ใน ภูเก็ต ,พังงา

1.ถวายวัดสามัคคีธรรม (ป่าส้าน )อ.คุระบุรี พังงา 3/2/2551

2.ถวายวัดสีลสุภาราม หลวงปู่สุภา กันตสีโล ภูเก็ต 5/3/2552 ทริปพลังจิตตนุภาพโดย คุณkananun

3.ถวายวัดป่าสวนงาม อ.คุระบุรี พังงา 13/4/2552 (พร้อมพระธาตุข้าวบิณฑ์ )
4.ถวายวัดหลักแก่น อ.ท้ายเหมือง พังงา ทริปพลังจิตตนุภาพ 2 โดยคุณถาวะโร ถาวโร(ถา-วะ-โร), ทับละมุ 11/7/2552

5.ถวาย วัดใหม่ ราชกรูด ระนอง 22/8/2552 (พร้อมเหรียญทำน้ำมนต์ )

6.ถวายสำนักปฏิบัติท่านสมภารงอ อ.ถลาง ภูเก็ต 18/10/2552 (พร้อมพระธาตุข้าวบิณฑ์ )

7.ถวายวัดราชา อ.ท้ายเหมือง พังงา 23/1/2553 (พร้อมพระธาตุข้าวบิณฑ์ ,เหรียญทำน้ำมนต์ )
8.ถวายวัดนางย่อน อ.คุระบุรี พังงา 27/1/2553 (พร้อมพระธาตุข้าวบิณฑ์ )

9.ถวาย สวนภาวนาพุทธธรรมเขาขาดคุณาราม เฉลิมพระเกียรติ 4/3/2553(พร้อมพระธาตุข้าวบิณฑ์ ,เหรียญทำน้ำมนต์ ๑หนังสือวิชชาฯ )

10. สำนักสงฆ์เกาะแก้วพิสดาร อ.กระทู้ ภูเก็ต 13/3/2553 (พร้อมคณะบึงลับแล ทริป สักการะรอยพระพุทธบาท นัมทานที เกาะแก้ว )

11. ถวายวัดภูติบรรพต อ.สิงหนคร สงขลา 10/4/2553

-- .
--
* *** วัดถ้ำเสือ ( กระบี่ ) ทริปพลังจิตตนุภาพ 2 **11/7/2552 โดย คุณ kananun ****<!-- google_ad_section_end -->

ผ้าป่า ที่พักสงฆ์ควนตาแท่น 28 มีนา 2553 อัญเชิญพระธาตุข้าวบิณฑ์ ที่ ทางส่วนกลางเว็ปพลังจิต สนับสนุน ให้มา ประมาณ 70 ชุด แด่สาธุชน ที่ ร่วมบุญกองผ้าป่า ที่พักสงฆ์ควนตาแท่น

***************

ให้ น้องสาว อัญเชิญ ถวาย วัดไทย ในอินเดีย ในปี 2552

1. วัด ไทยราชคฤห์ เมือง ราชคฤห์
2. วัด ไทยพุทธคยา เมือง คยา
3. วัด ไทยสาระนาถ เมืองพาราณสี
4. วัด ไทยกุสินาราเฉลิมราช เมือง พราราณสี
5. วัด ไทยลุมพินี เนปาล
6. วัด ไทย เชตวัน มหาวิหาร เมืองสาวัตถี
7. ถวาย พระอาจารย์ มหาบุญมี
8. ถวาย พระอาจารย์ สมชาย วัด กุสินาราเฉลิมราช

-----

อัญเชิญ ให้ น้อง <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->เกษา<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3479311", true); </SCRIPT> พร้อมพระธาตุข้าวบิณฑ์ ( ..กลุ่มปฎิบัติธรรมเพื่อต้านภัยพิบัติ-ฝึกสมาธิเพื่อยกระดับจิตประเทศฟินแลนด์--**Finland Tampere--** )

-และ อัญเชิญ ให้ บุคคล ย่อยๆ อีก ทั้ง ใน กทม , โคราช ,ภูเก็ต ,พังงา
- อัญเชิญ ให้ น้องทหารอากาศ ในส่วน ของ กทม , เชียงใหม่

 

อัญเชิญเหรียญทำน้ำมนต์ เพื่อบรรเทาภัยพิบัติ ในพื้นที่ภูเก็ต พังงา

อัญเชิญเหรียญทำน้ำมนต์ เพื่อบรรเทาภัยพิบัติ ในพื้นที่ภูเก็ต พังงา

1.วันที่ 21 พค.52 ศูนย์สถาบันชีววิทยาทางทะเล อ่าวมะขาว มลฑป ที่ประดิษฐานสมเด็จหลวงปู่อุปคุต ที่ศิษยานุศิษย์หลวงปู่สุภา อัญเชิญประดิษฐานใว้ ทิศตะวันออก
2.วันที่ 25 พค.52 วัดนาคาราม ,วัดใต้ วัดลัฏฐิวนาราม (ทางทางใต้ วัดฉลอง ) อัญเชิญ เหรียญทำน้ำมนต์ใว้ที่ วิหาร หลวงพ่อองค์ดำ
3.วันที่ 27 พค.52 วัดเขารังสามัคคีธรรม(สำนักปฏิบัติธรรมเทพขจรจิต หลวงปู่สุภา)
4.วันเสาร์ 30 พค.กราบหลวงปู่แช่ม หลวงพ่อช่วง หลวงพ่อเกลื้อม วัดฉลองภูเก็ต พร้อม น้องมุก และเพื่อนน้องมุก ที่รับเรื่อง รายงาน วัดฉลอง จากคุณครู ( องค์นาคราช สระน้ำด้านหลัง พระมหาธาตุเจดีย์พระจอมไทยบารมีประกาศ )

5.วันที่ 9 กค.52 ทางกลุ่มคณะโครงการพลังจิตตานุภาพ-2-ฝึกปฏิบัติสมาธิช่วงเข้าพรรษากับคณะ-อ-คณานันท์-ที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ ใด้เดินทาง สู่เกาะภูเก็ต แวะรับน้องมุก และอัญเชิญ เหรียญตามจุดต่างในภูเก็ต ตามวาระจะอำนวย

- สะพานท้าวเทพกษัตรี
- สะพานท่าเทียบเรือหาดราไวย์
- สะพาน ท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง
10 กค.เดินทาง แสวงบุญ เกาะแก้วพิสดาร อัญเชิญเหรียญ กลางทะเล ด้าน อ่าวทะเลใน ,ทะเลนอก ด้านหน้า เกาะแก้วพิสดาร
11. 28-08-2009, 09:28 PM
เช้า วันอาทิตย์ แวะ อัญเชิญ เหรียญทำน้ำมนต์ ฝากกระแส พลังบุญ ที่ องค์พระ ด้านหน้า ศาลา ข้างๆ ที่รับสังฆทาน วัด เทพนิมิตร (ข้างๆ บ้าน นาคา )<!-- google_ad_section_end -->
12. 11-09-2009, 09:37 PM
อัญเชิญ เหรียญทำน้ำมนต์ ฝาก กระแส พลังบุญ ใว้ที่หน้าตัก องค์พระ ด้านจุดชมวิว ด้านกะตะ กะรน ยอดเขานาคเกิด ความสูงเหนือ ระดับน้ำทะเล ประมาณ 400 กว่า เมตร
13. 14-09-2009, 10:14 PM
- แวะ มาที่สะพานคลองบางใหญ่ ใกล้ๆ จุดปลายแหลมสะพานหิน โอกาสเหมาะ ตั้งจิต ขอบารมีสมเด็จองค์ปฐม ในการอัญเชิญเหรียญทำน้ำมนต์หย่อยในลำน้ำ
14. 27-09-2009, 10:00 PM
-เช้าวันพระ 27 กันยา แวะอัญเชิญเหรียญทำน้ำมนต์ฝากกระแส บุญใว้ที่ หลวงพ่อขาว สำนักปฏิบัติพ่อท่านสมภารงอ อ.ถลาง ภูเก็ต
15. 27-09-2009, 10:00 PM
- แวะ วัดโมษิต อัญเชิญเหรียญทำน้ำมนต์ฝาก พลังกระแสบุญ ในศาลา พ่อท่านรอด ซึ่งพ่อท่าน สร้างวัด ในสมัยก่อน ตามจารึก
รอยพระพุทธบาทจำลอง อัญเชิญจาก ศรีลังการ
16. 18-10-2009, 09:34 PM
- วันอาทิตย์ 18 ตุลา พร้อม คุณพ่อ วาระธรรมะจัดสรรค์ น้อมอัญเชิญ พระบรมสารีริกธาตุ ส่วนพระโลหิตธาตุ และ ส่วนต่างๆ จากกลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติ พร้อม พระธาตุข้าวบิณฑ์ และ หนังสือ วิชชาอยู่รอดจาก ภัยพิบัติ แด่ พระอาจารย์พัฒน์ สำนักปฏิบัติธรรมท่านสมภารงอ ต.เชิงทะเล อ.ถลาง ภูเก็ต




อัญเชิญเหรียญทำน้ำมนต์ เพื่อบรรเทาภัยพิบัติ ในพื้นที่ พังงา

1. วันที่ 23 มิย. 2552 อัญเชิญ เหรียญทำน้ำมนต์ ให้ ทางคุณ ต้น เจ้าของกิจการปั้มแก๊ส อ.ทับปุด พังงา ใว้ เพื่อ บรรเทาภัยพิบัติ ส่วนตัว

จากนั้น จึง อัญเชิญ เหรียญทำน้ำมนต์ ประดิษฐานใว้ที่ ที่ประทับ ท่านท้าวมหาพรหม อีก 1 องค์ (ทางคณะอ.คนเมืองบัว ร่วมด้วยกลุ่มปฏิบัติธรรม )

2.อ.คุระบุรี พังงา เมื่อ ประมาณ 1 มค.52
อัญเชิญ แก้วมหาจักรพรรดิ์ ประดิษฐาน ในบาตร สมเด็จหลวงปู่อุปคุต รอวาระ

เสาร์ 22 สิงหา อัญเชิญเหรียญทำน้ำมนต์ ฝากกระแส พลังบุญ ที่องค์พระประทานพร แล้วครับ<!-- google_ad_section_end -->

3. วันที่ 10 มค. 2552 ช่วงเย็น ของวันที่ 10 กค.ทางกลุ่มคณะ โครงการพลังจิตตานุภาพ 2 : ฝึกปฏิบัติสมาธิช่วงเข้าพรรษากับคณะ อ. คณานันท์ ที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ จากนั้น ใด้อัญเชิญเหรียญ ทำน้ำมนต์ ใว้ที่อ่าวปาก-วีป

4.เสาร์ 11กค.ทางคณะคุณเล็ก ใด้แวะดู อุทยานพระนาราย์ที่ขุดค้นพบ ที่ เมืองเก่า ตะโกลา (ตะกั่วป่า ) ใต้ต้นโพธิ์ และอัญเชิญหย่อนเหรียญทำน้ำมนต์

อัญเชิญเหรียญทำน้ำมนต์ ที่ท่าน้ำ ตะกั่วป่า ข้างๆตลาด บขส.ท่านกลางฝนที่ตก (ปากอ่าวทะเล -คลองเมืองเก่าตะโกลา -ทุ่งตึก หรือ ทางท่าขึ้นเรือ เกาะพระทอง,เมืองเก่าเกาะคอเขา )

5. วันที่ 30 กค. อัญเชิญเหรียญ หย่อน ในคลองบ้านปาก-วีป
6. วันที่ 1 สค. แวะ อัญเชิญหย่อนเหรียญทำน้ำมนต์
- สะพาน คลองคุระบุรี
- สะพาน แม่ยาย ข้ามไปบ้านทุ่งรัก (ที่ นาคา อัญเชิญ สมเด็จหลวงปู่อุปคุต ประดิษฐานใว้ที่ วัดสวนวาง , สะพานนี้ เมื่อก่อน มีจระเข้น้ำเค็ม ปากอ่าว ทะเลใน ด้านหลังจะเห็น เขา ที่มีการพบลูกปัด ....)
-สะพานคลองย่านบ้า
-สะพานโค้งต้นไทร (วิญญาณมากมาย เพราะอุบัติเหตุมากมาย ทั้งการล่าสังหาร..)<!-- google_ad_section_end -->

7. 28-08-2009, 09:07 PM
- เข้ากราบ หลวงปู่บุญธรรม ที่ ท่านมาจาก ระนอง (วัดป่ารากลอย )กิจนิมนต์ ที่ภูเก็ต พระท่าน น้อม ถวายพระบรมสารีริกธาตุ พร้อมเจดีย์ อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ และ พวงมะลิ บูชา ถวายแด่ หลวงปู่ บุญธรรม .
8. 12-10-2009, 05:54 AM
-เสาร์ 10 ตุลา แวะที่ วัดนางย่อน อ.คุระบุรี พังงา อัญเชิญเหรียญทำน้ำมนต์ ฝากกระแส พลังแห่งบุญ ที่ คลองนางย่อน ข้างๆวัด (สมัยก่อนตอนเด็กๆ มี จระเข้ ) วัดนางย่อน อายุเก่าแก่
9. 12-10-2009, 05:54 AM
- จากนั้นเดินทางกลับภูเก็ต แวะ ที่ คลองบางม่วง อ.ตะกั่วป่า พังงา
10. 12-10-2009, 05:54 AM
- แวะที่ บ้านทุ่งมะพร้าว อ.ท้ายเหมือง พังงา ด้านคลองแม่ยาย ด้านข้าง ทุ่งมะพร้าว กับ กระแส น้ำที่เชี่ยว มาก เนื่องจากระดับน้ำล้น ในคลอง เพราะ ฝนตกหนัก อัญเชิญเหรียญ ฝากกระแสพลังแห่งบุญ
11. 15-10-2009, 10:06 PM
- เช้าวันพุธ 14 ตุลา ล้อหมุน แวะที่ เขาเจดีย์ล้างบาศ ในตัวเมืองพังงา อัญเชิญเหรียญทำน้ำมนต์ ฝาก กระแส พลังบุญ กับเทพเทวา
เจดีย์ล้างบาศ ( ล้างบาตร ...) สร้างขึ้นในราวสมัยกรุงศรีอยุธยา ตอนปลาย (ตามจารึก )
12. 15-10-2009, 10:06 PM
- แวะ พาเด็กๆ หลานๆ ที่ถ้ำฤาษี ในสวนเฉลิมพระเกรียติ สมเด็จย่า ในพังงา อัญเชิญทำน้ำมนต์ ฝากกระแส บุญ กับองค์เทพเทวา และ ปู่ฤาษีตาไฟ หน้าถ้ำ
13. 15-10-2009, 10:06 PM
- แวะ คลายร้อน ที่น้ำตกสระนางมโนราห์ พังงา พร้อมกับ หน้าที่ อัญเชิญเหรียญทำน้ำมนต์ เดิน ขึ้นไปทางจุดเริ่มต้นเส้นทาง น้ำตก
14. .....
-

 

วันพฤหัส คือ ว่า เป็นวันครู ( 23 ธค. )

พร้อม ด้วย คุณพี่ รัตนกมล, ,คุณ จ้อย เดินทาง ตั้งจิต...เทวรูป ...
กล่าวกันว่า เมื่อ หลายปี ที่ผ่านมา ใด้มี จาก กรุงเทพ ใด้ มา อัญเชิญ การ ตั้ง เทวรูป ให้ เป็น ที่ รักษา
ณ. สถานที่ บนเนิน เล็กๆๆ จากนั้นมี พิธี บวงสรวงใหญ่..
มหานาคี ครุฑา รักษา

จากนั้น ในช่วง เย็น เดินทาง แสวงบุญ และ ร่วมสวดมนต์ทำวัตรเย็น กับ หลวงพ่อ บุญฤทธ์ ณ.วัดถ้ำเจ้าหนู อ.เมือง จ.พังงา
กับข้อธรรม และ หลวงพ่อ ท่าน เมตตา กล่าวใว้ ว่า

ถ้าจะมา บำเพ็ญ ภาวนา ที่นี่ ต้อง เข้าวัด ๙ วัน
ด้านหลัง ที่สวดมนต์ ของพระ นั้น จะมี ถ้ำใต้ดิน ลึกลงไป ซึ่ง จุดนี้ หลวงพ่อ ท่านไม่ให้ ผู้ใด เขาไป นอกจาก จะ ปฏิบัติเข้มข้น คือ .......ปิดวาจา .... ทราบ มาว่า ถ้ำใต้ดิน จุดนี้ มี กายทิพย์...



ถ้ำเจ้าหนู นาคา พร้อมด้วย ท่านจ่า ถาวโร (ถาวะโร ) ใด้เดินทาง กราบหลวงพ่อ เมื่อประมาณ กลางปี นี้ ครับ

 

กราบอนุโมทนาบุญกับคุณนาคา และ ญาติธรรมทุกท่านค่ะ

 

โมทนาสาธุกับพี่นาคาและคณะด้วยครับ

ขออนุญาตฝากสติถิข้อมูลต่าง ๆ ศูนย์ข่าวภัยรีพอร์ต ครับ


มูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ </B><!-- google_ad_section_end -->

<CENTER>ที่สุดแห่งภัย ที่สุดแห่งปี 53 ศูนย์ข่าวภัยรีพอร์ต </CENTER><CENTER></CENTER>ปี 2553 นอกจากการเมืองเหลือง-แดง ความรุนแรงจากภัยพิบัติ ปี2010 เรายกให้เป็นปีแห่งภัยพิบัติ มีผู้คนเสียชีวิตถึง 250.000 คนทุบสถิติปี 2552 ถึง16 เท่าตัว
เปิดศักราชใหม่วันที่ 12 มกราคม 2553 เกิดแผ่นดินไหวที่ "เฮติ"​ ขนาด 7.0 ริกเตอร์ สร้างความเสียหายมากมายมหาศาล โดยศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ห่างจากกรุงปอร์โตแปรงซ์เมืองหลวงของประเทศเฮติ มีผู้ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวครั้งนี้มากกว่า 3 ล้านคน รัฐบาลเฮติรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตเกือบ 3 แสนคน ผู้บาดเจ็บอีกกว่า 3 แสนคน และอีกกว่า 1 ล้านคนไร้ที่อยู่อาศัย
วันที่ 27 กุมภาพันธ์ เกิดแผ่นดินไหวขนาด 8.8 ริกเตอร์ทุบสถิติความรุนแรงแห่งปีที่นอกชายฝั่งแคว้นเมาเลประเทศชิลี จนเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายของทรัพย์สินชนิด "ราบพนาสูญ"​ความเสียหายซึ่งมากมายมหาศาล เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้แกนโลกเอียงไปจากตำแหน่งเดิม 3 นิ้วส่งผลให้ระยะเวลาสั้นลงไป 1.26 ไมโครวินาที (1ไมโครวินาที เท่ากับ 1 ในล้านวินาที)
วันที่ 8 มีนาคม 2553 เกิดพายุทำให้เกิดฝนตกหนักในนครเมลเบิร์น วัดระดับน้ำฝนได้ 26 มิลลิเมตร พื้นที่อื่นวัดระดับน้ำฝนได้สูงถึง 70 มิลลิเมตร นอกจากนี้ ยังมีลูกเห็บยักษ์ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางถึง 4 นิ้ว หรือเท่ากับลูกเทนนิส มีประชาชนแจ้งขอรับความช่วยเหลือมากกว่า 4,000 คน
วันที่ 20 มีนาคม 2553 เกิดการปะทุของภูเขาไฟชื่อดังในไอซ์แลนด์ จริงๆ แผ่นดินไหวได้เริ่มต้นขึ้นนับตั้งแต่ปลายปี พ.ศ. 2552 ในครั้งนี้ ซึ่งมีการจัดดัชนีการระเบิดของภูเขาไฟอยู่ที่ระดับ 1 การปะทุครั้งล่าสุดเกิดขึ้นในวันที่ 14 เมษายนที่ผ่านมาและได้รบกวนการจราจรทางอากาศในทวีปยุโรปมหาศาล ส่งผลกระทบต่อผู้โดยสารนับล้านๆ คน
31 มีนาคม 2553 เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงในอ่าวเบงกอล วัดขนาดแรงสั่นสะเทือนได้ 6.8 ริคเตอร์ที่หมู่เกาะอันดามันแอนด์ นิโคบาร์ ในอ่าวเบงกอล
วันที่ 7 เมษายน 2553 เมื่อเวลา 05.15 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) ขณะที่คนกำลังหลับใหลเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวนอกชายฝั่งของเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย มีความรุนแรง 7.8 ริกเตอร์ ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหลังจากนั้นเกิดคลื่นสึนามิ สูง 1.5 ซม.ใกล้ศูนย์กลางแผ่นดินไหว ซึ่งเป็นคลื่นขนาดเล็ก
ถัดมา อีก 1 อาทิตย์ถัดมา เกิดภูเขาไฟใต้ธารน้ำแข็งตอนใต้ของเกาะไอซ์แลนด์ระเบิดปะทุขึ้นฟ้าสูงถึง 8 กิโลเมตร ฝุ่นขี้เถ้าลอยสูงกว่า 6 พันเมตร และฟุ้งกระจายไปทั่วประเทศ และหลายประเทศในยุโรปตั้งแต่วันที่ 14 เม.ย.เป็นต้นมา กลุ่มควันและเถ้าละอองปลิวฟุ้งขึ้นไปบนท้องฟ้าก่อให้เกิดอันตรายกับเครื่องยนต์ไอพ่นของเครื่องบินโดยสาร การจราจรทางอากาศเป็นอัมพาธ เกือบ 1สัปดาห์
วันเดียวกันที่ประเทศจีนเกิดแผ่นดินไหวซ้ำอีก มีความรุนแรง 6.9 หรือ 7.1 ริกเตอร์ บริเวณเขตปกครองตนเองยูซู มณฑลชิงไห่ สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อเวลา 07.49 น. (ตามเวลาในท้องถิ่น) สำนักข่าวซินหัวของประเทศจีน รายงานว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการ 2,220 ราย สูญหาย 70 ราย และบาดเจ็บ 12,135 ราย ซึ่งในที่นี้บาดเจ็บสาหัสเกือบ 2 พันราย
15 พฤษภาคม 2553 พายุทอร์นาโด และพายุลูกเห็บที่เมืองซุ่ยหัว ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองฮาร์บินประมาณ 120 กิโลเมตร ในมณฑลเฮยหลงเจียง ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสาธารณรัฐประชาชนจีน ทำให้มีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บมากมาย
วันที่ 1 มิถุนายน 2553 เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.4 ริกเตอร์ที่นอกหมู่เกาะอันดามันของอินเดียที่ระดับความลึก 127 กิโลเมตร และมีศูนย์กลางแผ่นดินไหวห่างประมาณ 120 กิโลเมตร จากเมืองพอร์ตแบลร์ของหมู่เกาะอันดามัน
วันที่ 5 มิถุนายน 2553 พายุทอร์นาโดพัดถล่มทางภาคตะวันตกด้านกลางของสหรัฐอเมริกา
วันที่ 7 มิถุนายน 2553 ภูเขาไฟระเบิดที่ประเทศคู่แค้นกับอเมริกา "รัสเซีย" และมีรายงานข่าวภูเขาไฟระเบิดอย่างต่อเนื่องมากถึง 3 ครั้งต่อชั่วโมงที่ประเทศเอควาดอร์
วันที่ 9 มิถุนายน 2553 เกิดแผ่นดินไหวขนาดเกือบ 6 ริกเตอร์ ที่บริเวณประเทศฟิลิปปินส์ นอกจากนั้นยังเกิดแผ่นดินไหวที่เกาะวาเนาตู (Vanautu) ขนาด 6.0 ริกเตอร์อีกต่างหาก
วันที่ 10 มิถุนายน 2553 เกิดน้ำท่วมขนาดใหญ่ที่รัฐเท็กซัส ของมหาอำนาจสหรัฐอเมริกา
* วันที่ 12 มิถุนายน 2553 หลังเที่ยงคืน เกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.5 ริกเตอร์ ที่นอกชายฝั่งประเทศอินเดีย ซึ่งห่างจากซีกตะวันตกของหมู่เกาะนิโคบาร์ไปประมาณ 150 กิโลเมตรที่ความลึก 35 กิโลเมตร ประเทศไทยต้องประกาศเตือนภัยสึนามิ
วันที่ 13 มิถุนายน 2553 เหตุภัยพิบัติพายุฝน และดินถล่มทางตอนใต้ของประเทศจีน ซึ่งได้คร่าชีวิตชาวจีนไปจำนวนหนึ่ง สำหรับมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจคิดเป็นเงินประมาณ 43,000 ล้านหยวน และมีผู้อพยพกว่าเกือบ 3 ล้านคน
วันที่ 16 มิถุนายน 2553 เกิดเหตุแผ่นดินไหวบริเวณเกาะไบแอ็ก (Biak) อยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิกทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะปาปัว วัดความสั่นสะเทือนได้ 6.2 ริกเตอร์
วันที่ 18 มิถุนายน 2553 ประเทศจีนเกิดน้ำท่วมและแผ่นดินถล่มฉับพลันในพื้นที่ 74 เมือง ของ 6 มณฑล ประมาณการณ์ว่าประชาชนกว่า 2.56 ล้านคนได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติครั้งนี้
เดือนกรกฎาคม วันที่ 14 เกิดเหตุน้ำท่วม และดินถล่มจากฝนตกหนักทางภาคใต้ของจีน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 400 คน

วันที่ 16 กรกฎาคม 2553 เกิดพายุโซนร้อน "โกนเซิน" (Conson) ณ บริเวณทะเลจีนใต้ มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 600 กิโลเมตร ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองฮานอย ประเทศเวียดนาม
ปลายเดือนกรกฎาคมจนถึงราวต้นเดือนกันยายน 2553 เกิดไฟป่าในรัสเซียนับหลายร้อยแห่ง เนื่องจากอุณหภูมิที่สูงที่สุดเท่าที่เคยบันทึกมาในประวัติศาสตร์รัสเซีย และความแห้งแล้งในภูมิภาค มีการประมาณผู้เสียจริงอาจสูงถึง 8,000 คน
วันที่ 1 สิงหาคม เกิดอุทกภัยรุนแรงทางตะวันตกเฉียงเหนือของปากีสถาน จากผลพวงของพายุฤดูร้อน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1,000 ราย
8 สิงหาคม 2553 เกิดอุทกภัย และแผ่นดินถล่มที่จีน เนื่องมาจากฝนตกหนัก ที่เมืองทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศจีน คร่าชีวิตประชาชนไปแล้วอย่างน้อย 127 คน สูญหายอีก กว่า 1,300 คน
7 วันถัดมาเกิดเหตุไฟป่าในโบลิเวียเป็นเหตุการณ์ที่นำไปสู่การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเนื่องจากพบว่ามีไฟป่าเกิดขึ้นมากกว่า 25,000 จุดทั่วประเทศ ไฟป่าได้ผลาญทำลายบ้านเรือนไปเกือบ 60 หลังคาเรือน
6 กันยายน 2553 โคลนถล่มกัวเตมาลา พบผู้เสียชีวิตและสูญหายพุ่งเกินกว่า 100 ราย
มาถึงคิวประเทศไทย น้ำท่วมที่ราบสูง วันที่ 10-30 ตุลาคม 2553 เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ในพื้นที่ภาคกลางและอีสาน เสียหายหนักที่สุดในรอบหลายสิบปี ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างหนัก มีคนไทยสังเวยชีวิตเกือบ 300 คนทรัพย์สินในหลายพื้นที่แบบที่หลายคนยังประเมินความเสียหายไม่ได้
25 ตุลาคม 2553 แผ่นดินไหวที่อินโดนีเซีย ขนาดความรุนแรง 7.7 ริกเตอร์
26 ตุลาคม 2553 ภูเขาไฟเมราปี (Merapi) ระเบิดซ้ำที่ประเทศอินโดนีเซีย โดยมีรัศมีการกระจายของขี้เถ้าขยายเป็นวงกว้างประมาณ 2-4 กิโลเมตร
27 ตุลาคม 2553 สึนามิถล่มซ้ำที่หมู่เกาะ เมนตาไว ประเทศอินโดนีเซีย ความรุนแรงถึง 7.2 ริกเตอร์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 108 คน และสูญหายราว 500 คน
1 พฤศจิกายน 2553 เป็นอีกครั้งหนึ่งที่กลายเป็นประวัติศาสตร์ความเสียหายของประเทศไทย กับการเดินทางผ่านของพายุดีเปรสชั่นถล่มภาคใต้ เสียหายยับเยิน

ยอดผู้เสียชีวิตจากภัยพิบัติปี 2553 มากกว่า 250.000 คนเปรียบเทียบ ปี 2552 มีเพียง 15000 คน
18 ประเทศ ทำสถิติอากาศร้อนที่สุด รัสเซีย จีน ปากีสถาน 54 องศา
เศรฐกิจโลกเสียหาย 222.000 ล้านดอลลาร์
เรื่องแปลกแห่งปี ภูเขาไฟใต้ธารน้ำแข็งในไอแลนซ์ระเบิด การจราจรทางอากาศในยุโรปเป็นอัมพาธ 4 วัน ตามด้วยภูเขาไฟในคองโก กัวเตมาลา เอกวาดอร์ ฟิลิปินส์ อินโดนีเซีย

ปี 2554 ขอให้คนไทยโชคดี ปลอดภัย และห่างไกลจากภัยพิบัติครับ ......ศูนย์ข่าวภัยรีพอร์ต มูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ<!-- google_ad_section_end -->

 

ปัจฉิมโอวาท ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า...


<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0 Valign="Bottom"><TBODY><TR bgColor=white><TD vAlign=top align=middle hspace="0" vspace="0">ทรงยกพระธรรมวินัยไตรปิฎกเป็นศาสดา ประทานปัจฉิมโอวาทแล้วปรินิพพาน</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=left hspace="0" vspace="0">[SIZE=+0]<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0 valign="Bottom"><TBODY><TR><TD align=left>
ก่อนเสด็จนิพพานเล็กน้อย คือภายหลังทรงโปรดสุภัททะปริพาชกแล้ว พระพุทธเจ้าประทานโอวาทพระสงฆ์ โอวาทนั้นเป็นพระพุทธดำรัสสั่งเป็นครั้งสุดท้าย </PRE>
พระพุทธเจ้าก็ตรัสสั่งพระสงฆ์ไว้ฃัดเจนก่อนจะนิพพานว่า พระภิกษุรูปใด ตรัสบอกพระอานนท์ว่า "ดูก่อนอานนท์ ธรรมก็ดี วินัยก็ดี ที่เราได้แสดงไว้ และบัญญัติไว้ด้วยดี นั่นแหละจักเป็นพระศาสดาของพวกท่านสืบแทนเราตถาคต เมื่อเราล่วงไปแล้ว" ครั้นแล้ว พระพุทธเจ้าตรัสเป็นปัจฉิมโอวาทครั้งสุดท้ายว่า "ภิกษุทั้งหลาย! บัดนี้เราขอเตือนพวกท่านให้รู้ว่า สิ่งทั้งหลายที่เกิดมาในโลกมีความเสื่อมสลายเป็นธรรมดา ท่านทั้งหลายจงทำหน้าที่อันเป็นประโยชน์แก่ตนและคนอื่นให้สำเร็จบริบูรณ์ด้วยความไม่ประมาทเถิด" หลังจากนั้นไม่ได้ตรัสอะไรอีกเลย จนกระทั่งนิพพานในเวลาสุดท้ายของคืนวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ หรือวันเพ็ญวิสาขะ ณ ภายใต้ต้นสาละทั้งคู่ที่ออกดอกบานสะพรั่งเป็นพุทธบูชานั่นเอง</PRE></TD></TR></TBODY></TABLE>[/SIZE]จึงขออนุญาติ นำข้อมูล ที่พอจะ ทราบบ้าง เพื่อ ความไม่ประมาท ในประการทั้งปวง</TD></TR></TBODY></TABLE></P>
สถานที่ หลบภัย ใน ภูเก็ต ;

1. ยอดเขานาคเกิด ( อาจจtสวนทาง การ ขึ้นไป นั่นคือ อาจจะเกิด อุบัติเหตุ จากการ ขับขี่รถ เนื่องจาก หลายท่าน พยายาม หนี หนี)

2. วัด หลวงปู่สุภา บารมี หลวงปู่ จะ คุ้มครอง
3. จุดชมวิว อบต.วิชิต เขาขาด ( ไปทาง ถ.ศักดิเดช ทางไป อ่าวมะขาม ) เข้าทาง ศาลาแดง ทางเข้า มัสยิด บ่อแร่
แต่ สนทาง ถ้า เกิด คลื่นทะเล กะแทก มาก เพราะเส้นทาง ขึ้น เขา ผ่าน ป่าชายเลน

4. ผ่าน โลตัส ไปทาง ถ.บายพาส สังเกตุ ทางเข้า ป้าย GS batterry ป้าย ใหญ่ จะมี ถนน คอนกรีต ขึ้นไป นำรถยนต์ ขึ้นไปใด้ ประมาณ 200 เมตร ที่ ความสูงประมาณ 100 เมตร จะมี ลาน จอดรถ และ กางเต้นท์ ใด้
จุดนี้ ยังไม่มี ใคร รู้จัก เพราะ จะมี พม่า สร้างขนำ ตัดยาง ของ เถ้าแก่ ภูเก็ต
ถ้า มี นำทะเล หนุน ขึ้นมา มาก กว่า 100 เมตร
เราสามารถ ขึ้น เขา ตาม เส้นทาง ป่ายาง ไป พัก ...บนยอดเขา ใด้ ... ที่ความสูง ประมาณ 300 เมตร ขึ้น

ซึ่ง จุดนี้ ผม จะ นำรถขึ้นไปแน่นอน

5. ผ่าน โลตัส มาทาง บ้านชุมชน 3 กอง เข้ามา ผ่าน รพ.กรุงเทพ-ภูเก็ต สังเกตุ ให้ เข้า ซอย สามัคคี 3 สุดซอย จะมีทาง.. ขึ้นไปเนิน เขา ซึ่ง ผม และ เพื่อน ..สร้างใว้ ชั่วคราว ) แต่ คาดว่า ...คน ในชุมชน 3 กอง จะขึ้นไป เยอะ มาก

6. เข้าในเมือง เข้า เขารัง จุดนี้ คน จะขึ้นไป มาก ให้
เข้าทาง แอบ ข้าง รพ. วิชิระ ผ่าน วัดสามัคคีธรรม เขารัง จะมี พระพุทธใหญ่ ปาง ประทานพระ ( หลวงปู่ สุภา ท่านเมตตา สร้างใว้ เนื่องจาก หลวงปู่ ท่าน เคยจำวัด ที่นี้ )
ผ่าน หน้าวัด นำรถยนต์ ขึ้น ไปทาง เขารังใด้เลย คาดว่า จุดนี้ คนเข้าไปเยอะ

7. เขาโต๊ะแซะ ผ่านทาง ศาลกลางภูเก็ต สถานีถ่ายทอดสัญญาณ ทีวี

8. วัดหลังศาล จะมี รูปหล่อ หลวงปุ่ เทส เทสรังสี ( ตีนเขา ทางขึ้น เขาโต๊ะแซะ ) หลังศาลภูเก็ต จุดนี้ นำรถ จอดใด้ ที่ วัด
จากนั้น จะ เดิน ขึ้น บนเนิน เขา ใน วัด เนื่องจาก มี ศาลา 8 เหลี่ยม กุฏิพระ

9. ผ่านมา หน้า รร.เทคโน ฯ จะมี วัด โฆษิตวิหาร นำรถ ขึ้นมาใด้
จะมี รูปหล่อ หลวงปู่รอด ซึ่งเป็น พระอาจารย์ หลวงปู่ สงฆ์ วัดเจ้าฟ้า ศาลาลอย ที่ ชุมพร (หลวงปู่สงฆ์ ท่าน มาเรียน กรรมฐาน จาก หลวงปู่รอด ที่นี้ เรียน การ ถอดกายทิพย์ ใว้ทะเล ภูเก็ต
ถ้า น้ำทะเล หนุน ขึ้นมาเยอะ.....
เราขึ้น บรรได 255 ขั้น ไปพัก ที่ วิหาร (ร้าง )ที่เคย ครอบ รอยพระพุทธบาทจำลอง ที่ หลวงปู่ ท่านเจ้าอาวาส องค์ที่ 3 วัดโฆษิต อัญเชิฐ มาจาก ศรีลังกา
จุดนี้จะ ขึ้น ผ่าน สถูปกระดูก ต่างๆ มากมาย อาจจะ น่ากลัว
( ซึ้ง ผม ปักกลด มาแล้ว 5 คืน นั่ง นอนคนเดียว 3 คืน )

10 ผ่านไปทางเกาะสิเหร่ ขึ้น บนเขาเกาะสิเหร่ จะมี วัดเกาะสิเหร่ บนเขา ซึ่ง หลวงปู่ สุภา ท่านเมตตา สร้างใว้ เป็น วัดแรก ที่ ท่านมา ภูเก็ต

11. ธุดงส์สถาน ตาล 3 ต้น (เขาเรดาห์ ) เนินเขาอีกลุกหนึ่ง ผ่านไปทาง โค้งตลาดนัด ใกล้ TOT ก่อนถึงวัดสิริสีลสุภาราม หลวงปู่สุภา ประมาณ 200 เมตร สังเกตุ ด้านขวา จะมีร้านขาย ดอกไม้ สังฆพรรณ เลี้ยว เข้าไปสุด ขึ้นเนิน เขา ความสูง น่าจะประมาณ 300 เมตร
ถ้าเลี้ยวขวา ขึ้น เขายอดไม้เท้า 12 ซึ่งเป็นฐานทัพทหาร มี เรดาห์ ทหาร ดดยตรง ซึ่งเขายอดไม้เท้า12 นี้ ถือว่า สูงที่สุด ในภูเก็ต ประมาณ 550 กว่าเมตร (เขตหวงห้ามทหาร )

13. เข้าผ่าน วัด หลวงปู่สุภา จะมี สะพาน ข้าม ให้เลี้ยวซ้าย จะมี สำนักปฏิบัติธรรมเกล็ดดาว
หรือ ผ่าน ขึ้นเขา ด้านหลังนี้ ไปแล้ว 1ลุกที่ ความสูง ประมาณ 300 เมตร ขึ้น จะมี ขนำพักตัดยางพารา จะมี ต้นไม้ใหญ่ ขนาด สูงประมาณ 30 -50 เมตร ด้านโคนต้น มี เมืองบังบด ,ลับแล

ตามความเชื่อ ศรัทธา

มีชาวลับแล มาอธิฐานจิต วัตถุมงคล รุ่นหนึ่ง ของหลวงปู่สุภา (ด้านหลังวัด )
และ ตามคำเล่า ของคุณครูอาจารย์ ท่านหนึ่ง ศิษยานุศิษย์ หลวงปู่สุภา ท่าน เล่าว่า ที่ ตัว ต.กระทู้ เก่า น่าจะใกล้ ศาลเจ้า (อ๊ามกระทู้ ) มีเขต เมืองลับแล..

พิจาณาด้วย ปัญญา เถิด...

----28-31 ธค. ,1 มค. ผม ทำงานทางโลกตลอด...ด้วยจิต ศรัทธา และช่วยงาน หลวงปู่ทวด, หลวงปู่คล้าย วาจาสิทธ์ ,หลวงปู่ศุข ,หลวงปู่สุภา...

มหานาคี มหานาคา ครุฑา รักษา สร้างหล่อราวประมาณ ปี 2529

โมทนา บุญรักษา คุ้มครอง ครับ

 

กราบเรียนพี่นาคาผมได้จัดส่ง พระธาตุ, เหรียญทำน้ำมนต์, ลูกแก้วจักรพรรดิ์ไปให้แล้วครับโดยฝากคุณไก่ไปให้ครับ โมทนสาธุกับพี่และคณะด้วยครับ

 

กราบโมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วยครับ ด้วยจิตที่ร่วมใจกันเป็นมหากุศลอีกทั้งมีบารมีพระพุทธ พระธรรม พระอริยะสงฆ์ครูบาอาจารย์ เทพพรหมเทวา ปวงหมู่นาคา นาคีทั้งหลายเมตตาสงเคราะห์ช่วยเหลือ

คนดีฟ้าท่านย่อมคุ้มครองให้ปลอดภัยครับ

 

คืนนี้ประมาณ 2 ทุ่ม
เชิญช่วนสมาชิกทำสมาธิหมู่
ส่งจิตเหยีบท้าวสฟริ่ง
เพื่อดูดพลังงานไม่ดีลงดินกันครับ
เรามาช่วยอาจารย์ญาณรัตน์กันครับ
สาธุ
..............

เล่าสู่กันฟัง
เมื่อคืนส่งจิตไปเหยียบเท้าขวาของสฟริ่ง พลังงานไม่ดีดูดลงสู่พื้นดินมากเลยครับ ประมาณ 1 ใน 10 ส่วน เห็นอาจารย์ญาณรัตน์ ท่านยืนอยู่บนยอดปิระมิตส่งจิตลงมาช่วยกันครับ
......................

ลองทำดูนะครับ โดยหันหน้าไปทางทิศตะวันออกกำหนดตัวสฟริ่งขึ้นมา นำเท้าขวาเหยียบท้าวสฟริ่ง จะเห็นตนเองหมุนเร็วมากพลังงานไม่ดีจะดูดลงพื้นดิน ทำได้ทุกวันยิ่งดีครับ

โมทนาสาธุครับ

............ คืนนี้ประมาณ 2 ทุ่ม เชิญสมาชิกร่วมทำกันครับ สาธุอีกครั้ง .......<!-- google_ad_section_end --> <!-- google_ad_section_end -->

 

กราบ สวัสดีปีใหม่ ด้วย การเจริญธรรมะ ขอองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ภาวนามัย ด้วย บารมี ๑๐ ทัศ ๓๐ ทัศ สู่ จิตใจ อันบริสุทธ์ ของทุกท่าน ครับ

26 ธค.53 ยามเย็น เดินทางขึ้น ธุดงสถานตาล สามต้น (เนินเขา สูงน่าจะประมาณ 300 เมตร ขึ้น ข้างๆ ทางขึ้น ยอเขาไม้เท้าสิบสอง เขาหทาร มยอดไม้เท้าสิบสอง ความสูง ที่550 เมตร จากระดับน้ำทะเล ) ร่วมภาวนาโดย
19.00 ภาวนา 1 ชม. / 19.15 สวดมนต์ทำวัตรเย็นแปล ,สนทนาธรรม

2 มค.54 เดินทางแสวงบุญ รับบุญปีใหม่ กับ คุณจ้อย ๔ วัด + ๑ สถานพลังบุญ ) พร้อมทำบุญตามวาระ
ภาพ 1-5 วัดสวนไผ่ (สำนักสงฆ์ตถตา ) อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา
ภาพ 6-13 วัดคึกคัก กราบสังขาร พ่อท่านแหว่ง คึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา
ภาพ -วัดหลักแก่น กราบสังขาร พ่อท่านพริ้ง ( คราวทริปแนะนำกรรมฐาน ฯ
แวะมาพักที่วัด ) พร้อมด้วย คุณจ่า ถาวะโร ฐท.ทับละมุ
ภาพ - วัดประชาธิการาม พ่อท่านเปีย กราบรูปหล่อ อ.ท้าบเหมือง จ.พังงา

ยามเย็น นั่งภาวนา รับ -ส่งพลังบุญ สื่อ ต่อ องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ,พ่อแม่ ครูอาจารย์ ,มหาเทพ เทวา มหานาคี มหานาคา คุรฑา รักษา พร้อม ด้วยญาติธรรม

ระบบ วิ่งไม่ผ่าน ต้อง รอโพสส์ภาพ***<!-- google_ad_section_end -->

 

๒ มค. ๕๔

ภาพ1-8 -วัดหลักแก่น กราบสังขาร พ่อท่านพริ้ง ( คราวทริปแนะนำกรรมฐาน ฯ
แวะมาพักที่วัด ) พร้อมด้วย คุณจ่า ถาวะโร ฐท.ทับละมุ
ภาพ 8 วิหาร ที่จะอัญเชิญ พ่อท่านพริ้ง ใว้ในห้องแอร์ ประมาณ วันที่ ๑๔ มค.๕๔ นี้
ภาพ 9-10 - วัดประชาธิการาม พ่อท่านเปีย กราบรูปหล่อ อ.ท้าบเหมือง จ.พังงา
ภาพ 11 กุฏิเก่า พ่อท่านเปีย ซึ่ง ตอนที่ ผมบวช มีโอกาสใด้ พัก ที่นี้ ( พระอาจารย์ คุณย่า ,คุณพ่อผม ,ย่าผมนั้น ท่านนั่งธรรมะ ด้วย สัมมา อะระหัง และ...)

ยามเย็น 2 มค. พร้อมด้วย คุณพี่รัตนกมล, ญาติธรรม นั่งภาวนา รับ -ส่งพลังบุญ สื่อ ต่อ องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ,พ่อแม่ ครูอาจารย์ ,มหาเทพ เทวา มหานาคี มหานาคา คุรฑา รักษา พร้อม ด้วยญาติธรรม

สมัยหนึ่ง ลุงปั้น เสือเก่า ท่านหนึ่ง คือ...

 

๒ มค. ๕๔

ภาพ1-8 -วัดหลักแก่น กราบสังขาร พ่อท่านพริ้ง ( คราวทริปแนะนำกรรมฐาน ฯ
แวะมาพักที่วัด ) พร้อมด้วย คุณจ่า ถาวะโร ฐท.ทับละมุ
ภาพ 8 วิหาร ที่จะอัญเชิญ พ่อท่านพริ้ง ใว้ในห้องแอร์ ประมาณ วันที่ ๑๔ มค.๕๔ นี้
ภาพ 9-10 - วัดประชาธิการาม พ่อท่านเปีย กราบรูปหล่อ อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา
ภาพ 11 กุฏิเก่า พ่อท่านเปีย ซึ่ง ตอนที่ ผมบวช มีโอกาสใด้ พัก ที่นี้ ( พระอาจารย์ คุณย่า ,คุณพ่อผม ,ย่าผมนั้น ท่านนั่งธรรมะ ด้วย สัมมา อะระหัง และ...)

ยามเย็น 2 มค. พร้อมด้วย คุณพี่รัตนกมล, ญาติธรรม นั่งภาวนา รับ -ส่งพลังบุญ สื่อ ต่อ องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ,พ่อแม่ ครูอาจารย์ ,มหาเทพ เทวา มหานาคี มหานาคา คุรฑา รักษา พร้อม ด้วยญาติธรรม
<TABLE class=tborder style="BORDER-TOP-WIDTH: 0px" cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR title="โพส 4226363" vAlign=top><TD class=alt2 align=middle width=125>ศรศิลป์</TD><TD class=alt1>เรื่องการสร้างพระอุปคุตสี่องค์ ตามที่หลวงปู่สุภา สั่งไว้ที่สี่มุมเมืองเกาะภูเก็ต ไม่ทราบว่าสร้างเสร็จทุกมุมหรือยัง </TD></TR></TBODY></TABLE>

ต้องขอโมทนา และขอบคุณครับ คุณ ศรศิลป์ ;
หลวงปู่สุภา ท่านเมตตา หล่อองค์หลวงปุ่อุปคุตมหาเถระ ใว้ และ ให้ ศิษยานุศิษย์ อัญเชิญใว้ ๔ มุมเมืองภูเก็ต แล้วครับ ( จะนำภาพมา โพสส์ ใว้ในโอกาส ต่อไปครับ )

 

อนุโมทนา สาธุ ทั้งหมดทั้งมวลค่ะ

 

เรื่องการสร้างพระอุปคุตสี่องค์ ตามที่หลวงปู่สุภา สั่งไว้ที่สี่มุมเมืองเกาะภูเก็ต ไม่ทราบว่าสร้างเสร็จทุกมุมหรือยัง

 

(ช่วงนี้ เว็ปเข้าไม่ค่อยใด้ ทำให้โพสส์ ข้อความขาดตอน )
ต่อ....
ยามเกือบเที่ยง ในวันจันทร์ 3 มค. เดินทางพร้อมด้วยครอบครัว ร่วมบุญ ณ.ยอดเขานาคเกิด อัญเชิญปัจจัย ร่วมบุญ ตามกำลัง ,วาระ โดย
แม่บุญญสิกขา - แจ้งร่วมบุญ ๑๐๐ ร่วมสร้างสมบุญ ยอดเขานาคเกิด
- บุญมุทิตา ร่วมบุญ หลวงปู่สุภา กันตสีโล ๑๐๐

ภาพ 13.มีลานนั่งเล่น สนทนาธรรม และสามารถ กางเต้นท์ ,กลด ในการพักกาย และจิต ใด้ ด้านล่างลาน มีห้องน้ำสะดวก
หรือ จะ กางเต้นท์ ,กลด บนลานจุดชมวิว ข้างๆ รอยพระพุทธบาท,พระพุทธหัตถ์ แต่ ลมจะแรงมาก

ภาพ 14 แบบแปลน ที่จะสร้าง สถาน ธรรม บนยอดเขานาคเกิด พระพุทธ หันพระพักตร์ เข้า ทิศเหนือ
ให้สังเกตุ จะมี การหล่อ ปู่พระอินทร์ ทรง ช้าง เอราวัณ ๓ เศียร

ภาพ 15 .คุณสุพร (ผู้นำการสร้างสถานมงคล และ พระพุทธมิงมงคลเอกนาคคีรี )นำกรรมฐาน ง่ายๆ เวลาประมาณ 7 นาที ต่อ ผู้เข้ามาร่วมบุญ
ยินดี เมื่อทุกท่าน จะ เข้ามา รับพลังบุญณ.ยอดเขานาคเกิด พระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคาคีรี (นาคคีรี )

ค่ำคืนวันพระ อังคาร 4 มค. ร่วมนั่งภาวนา วัดสิริสีลสุภาราม จากนั้น ร่วมถวายพวงมาลัย บูชาครู และ ปัจจัย แด่ หลวงปู่สุภา โดย
-แม่บุญญสิกขา ๑๐๐
-พี่ ร่มบุญ ๒๐๐ (จากการ จัดสรรค์ ปัจจัย ที่ ร่วมโอนมาในปลายปี ๒๕๕๓ )
-นาคา พร้อม ครอบครัว และ คุณ นุ๋ย (มโนมยิทธิคนเมืองบัว ภูเก็ต )

****วันเสาร์ ที่ 22 นัดสังสรรค์ กันในกลุ่ม วิทยุสมัครเล่น (กลุ่มเด็กเลี้ยงแกะ 144.975 mhz ภูเก็ต ,พังงา ) ประจำปี ประมาณ 30 คน ที่ วนอุทยานน้ำตก โตนไพร อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา***

ประมาณ วันเสาร์.... อาจจะขึ้นเนินเขา หลังวัดทุ่งมะพร้าว อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา (จุด ที่เคยเกิด รถแก็ส ระเบิด เมื่อหลายปีก่อน )
รอโพสส์ภาพ ภาพ ไม่ขึ้น...