ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

รวมข้อความที่คุณ bifern ได้บอกเอาไว้ครับ

ผมรู้เรื่องภัยพิบัติว่าจะเกิดรุนแรงคือปี 50 จากท่านผู้รู้ท่านหนึ่งและมีสถานที่หลบภัยเป็นวัด ท่านบอกว่าเบื้องบนประกาศแล้ว หลีกเลี่ยงไม่ใด้

ตอนนี้ผมได้เตรียมตัวแล้ว คือเตรียมของใช้และของกินที่จำเป็น ยารักษาโรค รวมทั้งเสื้อผ้าและเต็นท์นอนพร้อมเดินทางตลอดเวลา เรื่องนี้รู้กันไม่มากนักในแถวบ้านผม (จ.สุพรรณบุรี) รู้กันเฉพาะในหมู่ญาติ บอกคนข้างเคียงแล้วเขาไม่เชื่อ

ผมอยากจะบอกมากกว่านี้ แต่ผู้รู้ท่านสั่งห้ามไว้เพราะจะมีมารมาคอยขัดขวาง หลังจากเกิดภัยภิบัติแล้วจะเหลือพญามาร 1 ตนพร้อมบริวารที่เหลือรอด (พระศรีอาริยเมตตรัยท่านลงมาเกิดแล้วอยู่ จ.หนึ่งทางภาคอีสาน ตอนนี้เป็นเด็กอยู่) ผมเป็นศิษย์สายหลวงพ่อฤาษีลิงดำครับผมเข้ามาอ่านนานแล้ว สายของผมจะไปหลบภัยบนภูเขาในภาคอีสาน ปลายปีนี้ท่านบอกว่าจะมีภัยรุนแรง

โอวาทหลวงปู่

เปลวแสงเทียน สองพันกว่าปีที่พ่อจุด
จะสิ้นสุดลงแล้ว นะพ่อหนา
เพราะพวกเจ้า โง่เขลาเบาปัญญา
เจ้าจึงพากันหลับ ทับคำภีร์

10-07-2006, 02:41 AM

ภัยพิบัติ

ผมพยายามเข้ามาหลายครั้ง และเน็ตหลุดบ่อยมากครับ(ใช้มือถือต่อคอมฯครับ) ตัวผมเองกับครอบครัวมีเหตุที่ต้องไปตามหาผู้เฒ่าท่านหนึ่งใน จ.บุรีรัมย์ ตัวท่านเองเคยไปในภูเขาควายชั้นใน(ประเทศลาวครับ)กับพระภิกษุรูปหนึ่งที่เก่งมากท่านอยู่บนภูเขาใน จ.อุบลฯครับ ตอนนี้ท่านมรณะภาพไปแล้ว สิ่งที่ท่านทั้งสองบอกไว้คือ เรื่องภัยพิบัติ วันเวลา และสถานที่หลบภัย ท่านบอกทุกอย่างจะบีบรัดเข้ามาทุกด้าน(ผมไปหาท่านผู้เฒ่ากลางปี 47 ก่อนเกิดสึนามิ,ราคาน้ำมันดีเซลลิตรละ 14 บาท และบ้านเมืองปกติดีอยู่) และตอนนี้ทุกอย่างเป็นไปตามที่ท่านบอก มีคนตายมาก มีสงคราม มีการปะทุของภูเขาไฟ มีภัยพิบัติจากน้ำ มีแผ่นดินไหวถี่ขึ้น และมีการย้ายที่ของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขอยกตัวอย่างสองเหตุการณ์ครับ ใน จ.สุพรรณบุรีบ้านผมมีวัดๆหนึ่งใน อ.ศรีประจันต์มีลำแสงพุ่งขึ้นจากกุฏิวัด หลังจากนั้นไม่นานก็เกิดไฟไหม้ และที่บ้านท่าเสด็จในเขต อ.เมือง มีพญานาคลำตัวใหญ่มากว่ายในลำคลอง ทำให้ท่อประปาแบบพีวีซีและสะพานไม้แตกหักพังทลาย และได้ว่ายหายไปในที่สุด เหตุเกิดไม่นานมานี้เองมีคนรู้เห็นนับพันคน สิ่งต่างๆและความรุนแรงได้เริ่มขึ้นแล้ว ทั้งในและต่างประเทศ ท่านบอกหลังเข้าพรรษานี้จะมีน้ำท่วมใหญ่และจะมีภัยพิบัติรุนแรงที่สุด ปลายปี 50 สถานที่หลบภัยของครอบครัวผมคือ จ.อุบลฯศูนย์กลางคือ อ.ตระการพืชผล ที่อื่นคงเป็นภาคเหนือซึ่งมีอยู่ในเว็บนี้แล้ว สิ่งที่ท่านให้ทำในปี 49 นี้ คือรวบรวมทรัพย์สินที่จำเป็นเท่านั้น,ถอนเงินจากธนาคาร (เพราะถ้าเกิดเหตุรุนแรงท่านจะเบิกถอนเงินไม่ได้คงรู้นะครับ)เตรียมของยังชีพที่จำเป็นและเตรียมพร้อมที่จะเดินทางได้ตลอดเวลา

(น้ำท่วมใหญ่ปี 49 นี้ท่านไม่บอกสถานที่ ถ้าคุณๆอยู่กรุงเทพฯระวังมากขึ้นเป็นพิเศษครับ) ภัยพิบัติใหญ่ที่จะเกิดในปี 50 (รายละเอียดต่างๆส่วนมากจะตรงกับของคุณเกษมครับ) วันเวลาในการเดินทางหลบภัยท่านผู้เฒ่าจะบอกผมอีกครั้งหนึ่งครับ

สำหรับคุณๆที่เชื่อกรุณาหาพระหรือผู้รู้ที่เขียนยันต์ลงในแผ่นทองแดงได้เป็นคาถาพญายมแล้วนำมาติดไว้ที่เหนือประตูหน้าบ้าน(ไม่ใช่รั้วนะครับ)และติดไว้ในรถด้วย ถ้าหายันต์ไม่ได้ให้ไปที่วัดท่าซุงของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ให้ไปเช่าเหรียญของขวัญวันเกิดผูกโบว์ติดยันต์ เหรียญรุ่นนี้ท่านปลุกเสกให้กันรังสีได้ครับ หลวงพ่อท่านคงมีเหตุและผลจึงได้ทำเหรียญรุ่นนี้ขึ้นมา(ปลุกเสกปี 2524)

ท่านผู้เฒ่าของผมท่านนี้เปิดโลกทั้งสามได้ทุกขณะจิตท่านดูภาพได้ทั้งสามโลกและท่านเป็นหมอยาแผนโบราณท่านห้ามผมเปิดเผยชื่อครับคงจะ ดังบ่ดี ดีบ่ดัง นั่นแหละครับ และพระภิกษุรูปนี้ท่านพูดได้สิบสองภาษาครับ ท่านเดินทางไปอินเดียกับท่านผู้เฒ่าโดยใช้เวลาเพียงน้อยนิด ด้วยกายเนื้อครับส่วนตัวผมเองไม่มีฌานและญานใดๆผมรู้เรื่องทั้งหมดจากท่านทั้งสอง จึงนำมาบอกต่อกับสายบุญทั้งหลายอยางอื่นผมเปิดเผยไม่ได้เล่ามากแล้วกลัวเกิดภัยกับตนเองครับ
เทพ-มารแฝง แผลงฤทธิ์ได้

วันนี้ 23 ก.ค.49 ได้ติดต่อท่านผู้เฒ่าอีกครั้ง ท่านบอกว่าเดือนนี้บริวารของท่านพญานาคได้ลงมาทำหน้าที่แล้ว ท่านห้ามทำอันตรายงูทุกๆชนิด จะเกิดภัยกับตัวเอง และฝน 3 สีได้ก่อตัวขึ้นแล้ว (ขาว เหลือง ดำ) ท่านบอกมาแค่นี้ครับ

23-07-2006, 06:14 AM

สวัสดีครับทุกคนในเว็ปนี้ ผมมีเรื่องเล่าสู่กันฟัง เมื่อวันที่ 5 พ.ย. 49 ผมกับครอบครัวได้เดินทางไป จ.อุบลฯ อีกครั้งหนึ่ง ในงานฉลองเจดีย์ดอกบัวทอง และนำสังขารหลวงปู่เข้าไว้ในเจดีย์ ซึ่งเจดีย์ดอกบัวทองนี้หลวงปู่สั่งว่า ให้เร่งสร้างเร่งทำให้เสร็จภายใน 3 ปีก่อนปี 50 ท่านผู้เฒ่า อาจารย์หลายท่านและศิษย์หลายสายได้ร่วมกันสร้างจนแล้วเสร็จในปี 49 ในการก่อสร้างและการเดินทางลำบากครับ(สถานที่คล้ายเมืองลับแล ในตำนานกล่าวว่าสถานที่แห่งนี้เป็นที่เสี่ยงทายดอกบัวของพระพุทธเจ้าและพระศรีอารยเมตตรัย)

ท่านให้สร้างเจดีย์เพราะต่อไปจะเป็นศูนย์กลางแดนอารยธรรม อีกแห่งหนึ่งหลังจากเกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่ ปี 50 (ปีจอต่อปีกุน ) อาจารย์ท่านบอกว่าเหตุการณ์น้ำท่วมปีนี้แค่ชิมลาง เพราะหลายสถานที่มีผู้รู้ทำการแก้เคล็ดไว้รวมทั้งเจดีย์แห่งนี้ด้วยแต่แค่บรรเทา ปีหน้าหนักครับ ทางด้านท่านผู้เฒ่าบอกล่าสุดว่า เหตุภัยพิบัติครั้งใหญ่เกิดขึ้นแน่นอนไม่เลื่อนครับ เมื่อวันที่ 14พ.ย.49 ผมได้เห็นดวงอาทิตย์ช่วงเช้าและเย็น มีจุดสีดำใหญ่มาก มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แม้วันนี้(17พ.ย.49)ก็ยังเห็นอยู่แต่เล็กลงครับช่วงกลางวันมองเห็นได้โดยมองผ่านฟิล์มกรองแสงครับ คงเกิดการระเบิดบนดวงอาทิตย์ และอีกไม่นานคงจะมีพายุสุริยะกระทบถึงโลกบ้าง นักท่องเที่ยวบนเขาสูงคงเห็นชัดครับ

17-11-2006, 03:51 AM

 

อิหร่านเผยพร้อมซ่อนวัสดุนิวเคลียร์หากถูกโจมตี

เวียนนา 16 ธ.ค.- เจ้าหน้าที่อิหร่านเผยว่า อิหร่านพร้อมนำวัสดุนิวเคลียร์ไปซ่อนและเดินหน้ากระบวนการเพิ่มสมรรถนะต่อไปหากถูกขู่โจมตีด้วยกำลัง
นายอาลี อัสการ์ โซลตาเนียห์ ทูตอิหร่านประจำทบวงการพลังงานปรมาณูสากล หรือไอเออีเอ กล่าวต่อที่ประชุมสัมมนาของสถาบันออสเตรียด้านวิเทศสัมพันธ์ว่า อิหร่านมีพื้นที่กว้างใหญ่ถึง 1.6 ล้านตารางกิโลเมตร สามารถซ่อนเครื่องเพิ่มสมรรถนะแร่ยูเรเนียมได้อย่างสบาย ๆ และว่าอิหร่านมีเทคโนโลยีและมีสิทธิเพิ่มสมรรถนะแร่ยูเรเนียมตามที่ไอเออีเออนุญาต หากสหรัฐเร่งคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติให้ผ่านญัตติใช้กำลังทหารโจมตีหวังหยุดยั้งอิหร่าน ถือว่าสหรัฐกำลังทำผิดแล้ว
ขณะเดียวกัน นายอาลี ลาริจานี หัวหน้าคณะเจรจานิวเคลียร์ของอิหร่านเตือนว่า ชาติตะวันตกจะถูกอิหร่านใช้มาตรการตอบโต้อย่างเจ็บปวดหากผ่านญัตติลงโทษอิหร่าน เพราะหากใช้อาวุธกับอิหร่าน อิหร่านก็จะใช้อาวุธตอบโต้กลับไป.-สำนักข่าวไทย
[ 2006-12-16 : 11:01:35 ]

 

นาซ่าจะให้นักบินอวกาศออกทำงานในอวกาศรอบที่4ในวันจันทร์

16:25 น. คณะกรรมการบริหารการบินและอวกาศของสหรัฐฯ (นาซ่า) ประกาศเมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ที่กรุงวอชิงตัน ดีซี ว่าในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ นักบินอวกาศจากยานขนส่งอวกาศ "ดิสคัพเวอร์รี่" จะออกเดินในอวกาศเป็นรอบที่ 4 ระหว่างก่อสร้างเพิ่มเติมบนสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) ที่กำลังดำเนินอยู่ ซึ่งเป็นการประกาศหลังนักบินอวกาศเสร็จสิ้นการออกเดินในอวกาศครั้งที่สามเมื่อวันเสาร์ โดยไม่ประสบความสำเร็จที่จะใช้มือถอดแผงโซล่าเซลล์ซึ่งเกิดปัญหาเมื่อวันพุธออก โดยการออกเดินครั้งที่สี่นี้ นักบินอวกาศจะพยายามใช้มือพับแผงโซล่าเซลล์เก่าอันดังกล่าวลง
การเพิ่มการเดินในอวกาศรอบที่สี่ ทำให้ต้องเพิ่มกำหนดเวลาปฏิบัติภารกิจของนักบินอวกาศอีก 1 วัน จากเดิม 12 เป็น 13 วัน และต้องเลื่อนกำหนดการเดินทางกลับโลกออกไปอีก 1 วัน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ คือเปลี่ยนระบบพลังงานบนสถานีอวกาศ ISS ซึ่งทำไว้เพื่อใช้งานเป็นการชั่วคราว ตอนส่งยานขึ้นสู่ห้วงอวกาศเมื่อปี 2541 เป็นระบบพลังงานแบบถาวร

เนชั่นทันข่าว ประจำวันที่ 17 ธันวาคม 2549

คงรู้นะครับเขาติดตั้งอะไร

 

แผงโซล่าเซลล์ ที่ติดตั้งใหม่นี้ คนละอันกับ ที่ติดตั้งเพื่อนำมาใช้เป็นพลังงานขับเคลื่อนดาวเทียม

 

ไม่ได้เข้ากระทู้ตัวเองตั้งนาน...พอมาเข้าอีกที มันเยอะแยะไปโหมมดดดเยย เหอะๆ เท่าที่อ่านมา สงกะสัยต้องเตรียมรับมือกับภัยพิบัติทั้งภายนอกและภายในซะแล้ววว

 

ลูกเรือดิสคัฟเวอรี่พร้อมออกซ่อมแผงพลังงานแสงอาทิตย์สถานีอวกาศ
15:02 น. สองลูกเรือกระสวยอวกาศดิสคัฟเวอรี่ โรเบิร์ต คูร์บีม และคริสเตอร์ ฟูเกิลแซง จะออกสู่ห้วงอวกาศนอกสถานีอวกาศนานาชาติ (ไอเอสเอส) ที่ดิสคัฟเวอรี่จอดเทียบท่าในเวลาประมาณ 02.12 น. เช้ามืดวันอังคารนี้ เพื่อซ่อมแซมสายเคเบิลนำแผงพลังงานแสงอาทิตย์ด้านนอกไอเอสเอสที่พันกันออก เพื่อให้แผงรับพลังงานแสงอาทิตย์ความยาว 110 ฟุตกางออกจากกล่องเก็บได้เต็มที่
ประมาณการว่า การปฏิบัติการในอวกาศครั้งนี้ ซึ่งเป็นครั้งที่ 4 นับตั้งแต่ดิสคัฟเวอรี่เข้าจอดเทียบสถานีอวกาศจะใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง และจะมีการบันทึกภาพปฏิบัติการไว้ทั้งด้านนอกและจากในสถานีอวกาศ เพื่อใช้ปรับปรุงมาตรฐานการซ่อมแซมอุปกรณ์ภายนอกสถานีอวกาศในโอกาสต่อไป

ทั้งนี้ ดิสคัฟเวอรี่มีกำหนดเดินทางกลับสู่โลกในเช้ามืดวันพุธ และจะร่อนลงที่ศูนย์อวกาศเคนเนดี้ในรัฐฟลอริดา วันศุกร์นี้ ตรงกับเวลาเมืองไทยเช้ามืดวันเสาร์

เนชั่นทันข่าว
ประจำวันที่ 18 ธันวาคม 2549

 

น่ากลัวจะเนอะ

น่ากลัวจังเลยครับ ผมคิดว่าผมคงไม่รอด แต่ถ้ารอดก็ดีนะ
(verygood)

 

เคลียร์นุกโสมแดงยังไม่คืบ มะกันขู่ใกล้หมดความอดทน [19 ธ.ค. 49 - 07:47]
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันนี้ (19 ธ.ค.) ว่า นายคริสโตเฟอร์ ฮิลล์ หัวหน้าทูตพิเศษฝ่ายสหรัฐฯ กล่าวถึงการเจรจา 6 ฝ่ายเพื่อปลดอาวุธนิวเคลียร์เกาหลีเหนือ ซึ่งเริ่มขึ้นในกรุงปักกิ่งของสาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อวานนี้ (18 ธ.ค.) ว่า การประชุมวันแรกยังไม่มีผลคืบหน้า เนื่องจากเกาหลีเหนือยังคงยืนกรานว่า ตนเองเป็นมหาอำนาจนิวเคลียร์ และวางเงื่อนไขยาวเหยียดให้ปฏิบัติตาม เพื่อแลกกับการระงับโครงการนิวเคลียร์ ซึ่ง 1 ในเงื่อนไขเหล่านั้น ก็คือให้สหรัฐฯ ยุติการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือในทุกด้าน รวมทั้งด้านการเงินด้วย แถมยังให้สหรัฐฯ จัดหาเตาปฏิกรณ์ และช่วยเหลือเกาหลีเหนือในด้านพลังงานนิวเคลียร์ จนกว่าจะสร้างโรงงานนิวเคลียร์เสร็จ <?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>
<o> </o>
นายฮิลล์ กล่าวอีกว่า สหรัฐฯ จะคว่ำบาตรเกาหลีเหนือต่อไปจนกว่าเกาหลีเหนือจะยุติโครงการอาวุธนิวเคลียร์ และหวังว่า เกาหลีเหนือคงจะใช้โอกาสในที่ประชุมนี้ เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่า พร้อมทำตามข้อตกลงยุติโครงการนิวเคลียร์ที่เกาหลีเหนือประกาศไว้เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว <o></o>
<o> </o>

 

ทุกอย่างถูกกำหนดไว้ ใครก็หนีไม่พ้น ทางเดินชีวิตของสัตว์โลกถูกกำหนดไว้ตั้งแต่เกิดแล้วว่าจะมีจุดจบอย่างไร ถ้าไม่สามารถปฏิบัติจนหมดอาสวะกิเลสอย่าหวังว่าจะรอดพ้นจากสิ่งที่จะเกิด

 

(verygood) เอ้า เร่งทำความดีกันไว้นะ

 

สึนามิทางเศรษฐกิจ
ในปี พ.ศ.2550
<!-- Start Dymanic Body --><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=10 width="85%" border=0><TBODY><TR class=px15><TD vAlign=top align=middle width="40%"><!-- แสดงรูปภาพของสินค้า --></TD></TR></TBODY></TABLE>
​

นายภาณุวัฒน์ พันธุ์วิชาติกุล ซินแสชื่อดัง ทายทักดวงเมืองว่า ปีนี้เป็นปีจอ ธาตุไฟ ดวงเมืองของประเทศไทยตั้งขึ้นเมื่อปี 2325 เป็นปีขาล ธาตุน้ำ แต่มาเจอปีจอธาตุไฟ ไฟเผาน้ำ น้ำกลศาสตร์จีนคือเงิน ภายนอกดูเหมือนว่า เศรษฐกิจโดยรวมมั่นคงขึ้น มีความสงบสุขกลมเกลียวกันดี แต่มันแฝงตัวเป็นคลื่นใต้น้ำพร้อมจะระเบิดได้ทุกเมื่อ อนาคตของเศรษฐกิจไทยจะมีปัญหาระบบการเงินอย่างรุนแรง ตั้งแต่ปี 2549 และจะรุนแรงถึงขั้น​

 

<TABLE height=34 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=780 border=0><TBODY><TR><TD style="PADDING-LEFT: 30px">เพนตากอนแถลงเหตุรุนแรงอิรักเพิ่มสูงสุดไตรมาส ที่แล้ว [20 ธ.ค. 49 - 03:51]
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=0 width=780 border=0><TBODY><TR><TD align=middle><TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=0 width="85%" border=0><TBODY><TR><TD>สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อ 19 ธ.ค.ว่า รัฐบาลสหรัฐฯแถลง ณ เพนตากอน หรือกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เมื่อ 18 ธ.ค. ถึงสถานการณ์สงครามในอิรักในรอบไตรมาสที่ผ่านมา นับตั้งแต่ 12 ส.ค. จนถึง 10 พ.ย. ระบุเหตุโจมตีในอิรักเพิ่มขึ้น 22 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับ 3 เดือนก่อนหน้า มีการโจมตีมากกว่า 959 ครั้งต่อสัปดาห์ นับเป็นสถิติที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ที่สภาคองเกรสเริ่มให้เพนตากอนรวบรวมสถิติในปี 2548 ซึ่งปัจจัยหนึ่งอาจเพราะเป็นช่วงเดือนถือศีลอด มักเกิดเหตุรุนแรงมากกว่าปกติอยู่แล้ว
รายงานในหัวข้อ

 

สถานที่ปลอดภัย ในยามเกิดภัยพิบัติ
โดย ลุงคนเชียงใหม่


​

มากมายหลายกระแสทั้งผู้รู้จริงและผู้ที่คาดเดาเอาตามกระแส จนถึงทุกวันนี้ก็มีเพียงกลุ่มคนเล็กๆ เท่านั้นที่มีการเตรียมตัวกันอย่างจริงจัง ลุงพบมีคนญี่ปุ่นกลุ่มหนึ่งมาตั้งหมู่บ้านเล็กๆ ของเขาในเขตชนบท ห่างจากหมู่บ้านอื่นๆ พอสมควร ช่วงรอยต่อของอำเภอสะเมิงกับอำเภอแม่ริม ใช้ชีวิตกันแบบพึ่งพาภายนอกชุมชนน้อยมาก


พื้นที่บริเวณหมู่บ้านมีการปลูกพืชอาหาร ที่เพียงพอกับคนในกลุ่มบ้านนั้น(ประมาณ 20 หลังคาเรือน) เช่นพวกกันแกว มันฝรั่ง เผือก(เขาเน้นอาหารที่มีหัวในดิน คิดว่าเพราะถ้าเกิดอะไรขึ้นจะมีเพียงอาหารพวกนี้แหละที่ปลอดภัยอยู่ในดินไม่ต้องมาเก็บไว้ในบ้าน นานหลายเดือน)


ลุงไปเที่ยวพูดคุยกับเขา พบว่าเป็นช่วงที่เขากำลังจัดงานปิดไฟฟ้าไม่พึ่งพาอาหารนอกชุมชน ประทับใจมากเพราะเขาสามารถอยู่กันได้โดยไม่ต้องอาศัยไฟฟ้า และไม่ไปซื้ออาหารจากนอกชุมชน เลย เป็นเวลา 7 วัน (คงเป็นการทดสอบระบบ)ทุกบ้านมีแท้งPVC ขนาดใหญ่ที่เก็บน้ำที่พอใช้บริโภคได้เป็นเดือน รวมทั้งมีโรงพยาบาลเล็กๆในชุมชนที่มีความพร้อมขนาดที่ลุงเห็นแล้วตกใจ


บ้านเก็บทุกหลังสร้างจากไม้ หลังคามุงสังกะสีทับด้วยหญ้าคา (คงป้องกันการพังทลายจากเหตุแผ่นดินไหว) มีห้องประชุมกลางของหมู่บ้านที่ทำเป็นเหมือนหลุม ขนาดใหญ่และใช้ซุงทำเป็นคล้ายกระโจมร้อยด้วยเชือกสลิงทำเป็นหลังคา (คงเอาไว้หลบภัยถ้ามีอะไรตกจากท้องฟ้าลุงเดาเอา)


ทุกหลังคาเรือนมีระบบไฟสำรองคือแบตเตอรี่บ้านละ 5-10 ลูกไม่นับไฟฉาย มีถ่านฟืนทุกบ้านกองเบ้อเริ่ม และอะไรๆ อีกมากมายเล่าไม่จบ สิ่งที่ทุกคนในชุมชนเล็กๆ นี้ พูดคุยกันตลอดก็คือBEST PLACE หรือบ้านที่ปลอดภัยทั้งร่างกายและจิตใจเขาอนุญาตให้คนนอกชุมชนเข้าไปน้อยครั้งอย่างที่รู้เรื่องนะ แต่เวลาขับรถผ่านถ้าไม่ลงไปถามลักษณะภายนอกก็ดูเหมือนชุมชนชนบทบ้านเราหมู่บ้านเล็ก ๆ หมู่บ้านหนึ่งเท่านั้นเอง


ลุงไปเจอและรู้จักเขาเพราะบังเอิญเจอกันที่วัดเลย รู้เรื่องเอา(ขออนุญาตไม่ระบุที่ชัดเจนนะเพราะรับปากเขาไว้แล้ว เขาขี้เกียจมีคนไปรบกวนและตอบคำถามคนที่ไปเยาะเย้ยถางถางว่าบ้าอะไรพรรณ์นี้) คนจากประเทศอื่นกว่าครึ่งร้อยกำลังมาเตรียมพร้อมในบ้านเรา


ลุงถามว่าทำไมเลือกตรงนี้ เขาตอบว่ามีคนคำนวนทั้งทางธรณีวิทยา และศาสตร์ต่างๆแล้วที่นี่ปลอดภัยที่สุดทั้งจากภัยทางธรรมชาติทางน้ำ ทางแผ่นดินไหว(อันนี้ไม่แน่ใจบ้านลุงไหวมา หลายครั้งแล้วในช่วงนี้แรงด้วย แต่คงน้อยกว่าที่ญี่ปุ่น ) และความมีน้ำใจของคนที่จะไม่ฆ่าฟันกันเองในขณะที่เกิดความอดอยาก เพราะมีทางเลือกด้านอาหารมากกว่าภาคอื่นๆ


ที่สำคัญคือ เขามีการเตรียมตัวกันอย่างจริงจัง และเป็นกลุ่มที่มีอะไรจะได้ช่วยกันได้เต็มที่ มากกว่าคนที่รู้แล้วต่างคนต่างเตรียม ลุงอยากจะชวนให้มีกลุ่มคนที่มีความเชื่อมั่นและพร้อมที่จะเลือกชุมชนใหม่ ด้วยกันมาคิดร่วมกันมาทำชุมชนอย่างนี้ด้วยกันจะดีใหมครับ มีใครสนใจบ้างครับ


เราลองมาจับกลุ่มใหญ่ ๆ คุยกันและหาหมู่บ้านเพื่อการอยู่รอดกันดีใหมครับ
​

การเตรียมพร้อมที่ดีที่สุดคือเตรียมจิตใจ เราคงไม่ทราบว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น ลองสมมุติเหตุการณ์ว่าเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ทุกอย่างพินาศหมด อาหารการกินสำรองเราก็พอมี แต่การเตรียมพร้อมในเรื่องอาหารอุปกรณ์ต่างๆ ควรต้องคำนวนเผื่อเหตุการณ์ ที่ว่าข้างบ้านเรากำลังมีการอดอยาก คลุ้มคลั่งกันใหญ่เข้ามาแย่งอาหารหรือทุกอย่างที่ประทังความหิวได้ เราจะทำอย่างไร ควรจะมีการรวมกลุ่มลักษณะของหมู่บ้านกัน ที่มีความเข้าใจและเต็มใจที่จะเตรียมความพร้อมไปด้วยกันน่าจะช่วยได้มากกว่า

ผมชวนขึ้นมาอยู่จังหวัดเชียงใหม่ด้วยกันนะ
<!-- / message -->

ที่มา http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=44604&page=11​

 

อนุโมทนาด้วยค่ะ
เชื่อจริงๆว่า แม้เหตุการณ์จะร้ายแรงแค่ไหน
เราอยู่ใต้พระบารมีของพ่อหลวง ทุกข์นั้น
ย่อมคลายได้ในที่สุด

 

เกาหลีเหนือระบุ สหรัฐเตรียมโจมตีเกาหลีเหนือ

17:28 น. หนังสือพิมพ์โรดอง ซินมอน กระบอกเสียงของพรรคคอมมิสนิสต์เกาหลีเหนือ ได้รายงานในบทวิเคราะห์ กล่าวหาสหรัฐว่า กำลังวางแผนโจมตีเกาหลีเหนือ โดยอาศัยการเจรจา 6 ฝ่าย ที่กำลังเปิดฉากขึ้นใหม่ในกรุงปักกิ่งของจีน มาบังหน้า แต่ในบทวิเคราะห์ ที่ถูกนำออกเผยแพร่โดยสำนักข่าวกลางเกาหลี ได้ละเว้นที่จะเจาะจงลงไปว่า แผนการที่ว่านี้ ชื่อว่า คอนแพลน 5029

เมื่อเดือนตุลาคม หนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์ ได้รายงานว่า แผนการที่ชื่อว่า คอนแพลน 5029 ถูกร่างขึ้นโดยสหรัฐและเกาหลีใต้ หลังจากเกาหลีเหนือทดลองนิวเคลียร์ เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม และคอนแพลน 5029 ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในปฏิบัติการโจมตีที่เป็นการชิงลงมือก่อน ต่อเกาหลีเหนือ ในกรณีที่มีการเคลื่อนไหวส่งออกอาวุธที่มีประสิทธิภาพในการทำลายล้างสูง และนับเป็นครั้งแรกที่มีการวางแผนร่วมระหว่างสหรัฐกับเกาหลีใต้ ในการเล่นงานเกาหลีเหนือ
แม้ว่า เกาหลีเหนือจะไม่ได้เปิดฉากรุกราน หรือโจมตีเกาหลีใต้ก่อนก็ตาม การเจรจา 6 ฝ่าย ที่หวนกลับมาเริ่มต้นใหม่เมื่อวันจันทร์ หลังจากชะงักงันไปนาน 13 เดือน ได้มีเป้าหมายเพื่อโน้มน้าวให้เกาหลีเหนือยอมละทิ้งโครงการนิวเคลียร์ เพื่อแลกกับผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ และการรับประกันด้านความปลอดภัย

เนชั่นทันข่าว ประจำวันที่ 20 ธันวาคม 2549

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=10 width="96%" align=center border=0><TBODY><TR><TD height=70>หนุ่มยุ่นรอดปาฎิหาริย์ หลังพลัดตกเขานาน24วัน </TD></TR><TR><TD vAlign=top bgColor=#ededed>22:33 น. สำนักข่าว AFP รายงานว่า นายมิตสึทากะ อูชิโคชิ ชาวญี่ปุ่นวัย 35 ปี ที่หายตัวไปในบริเวณภูเขานาน 24 วัน สามารถรอดชีวิตมาได้ โดยไม่ได้รับประทานอาหารหรือดื่มเครื่องดื่มใดๆ ยกเว้นซอสบาร์บีคิว และใช้วิธีเลียนแบบหมีที่จำศีลในฤดูหนาว เขากล่าวว่า ในวันที่สองของการหลงทาง เขานอนลงบนบริเวณที่เป็นพื้นหญ้าและมีแสงแดด ทำให้รู้สึกง่วง ซึ่งเป็นสิ่งที่สุดท้ายที่เขาจำได้ ปัจจุบัน นายอูชิโคชิ ที่สุขภาพแข็งแรงดีเหมือนเดิม กลับไปทำงานแล้วที่เทศบาลในเมืองนิชิโนมิยะ เขากล่าวว่า การจำศีลอย่างหมี เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม หลังเขากับเพื่อนชวนกันไปไต่เขาร็อคโค่ ในเมืองโกเบ เขาแยกตัวจากการสังสรรค์กับกลุ่มเพื่อนและพลัดตกเขา ทำให้บาดเจ็บที่หลังและไม่สามารถขยับตัวได้ อาหารชนิดเดียวที่ติดตัวเขาไปคือซอสบาร์บีคิวรสชาติแบบเกาหลี ที่เขาใช้ประทังชีวิตในเวลาต่อมา เมื่อเจ้าหน้าที่กู้ภัยไปพบเขาใน 24 วันถัดมา คือวันที่ 31 ตุลาคม อุณหภูมิในร่างกายของเขาลดลงไปอยู่ที่ 22 องศาเซลเซียส ซึ่งแพทย์ลงความเห็นว่าสภาพร่างกายของเขาเหมือนกับการจำศีล ระบบการทำงานของสมองไม่ได้รับความเสียหาย และกลับเป็นปกติ 100 เปอร์เซ็นต์ ส่วนบิดาของเขาระบุว่า ตอนที่พบตัวบุตรชาย เขายังมีลมหายใจ และหัวใจยังเต้น ขณะที่สภาพภายนอกเหมือนกับคนที่เสียชีวิตไปแล้ว
</TD></TR></TBODY></TABLE>
เนชั่นทันข่าว

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ชายฝั่งเมืองคอนวิกฤต คลื่นซัดชายหาดพังราบ-วัดก็ไม่เหลือ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>21 ธันวาคม 2549 11:45 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=150 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle width=150> </TD></TR><CAPTION align=bottom>ชายฝั่งเมืองคอนถูกคลื่นซัดเสียหายหนัก</CAPTION></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> นครศรีธรรมราช - ชาวเมืองคอนผวาคลื่นถล่มชายหาดพังเละหวั่นแผ่นดินหายต่อเนื่อง วัดเกาะเพชรวิกฤต เผยในรอบ 5 ปีทะเลกลืนเนื้อที่วัดแล้วกว่า 5 ไร่ ขณะที่ยังไม่มีหน่วยงานไหนเข้าไปดูแล


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดภัยธรรมชาติอย่างต่อเนื่องตลอดประมาณเกือบ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาอันเนื่องมาจากคลื่นลมแรงในอ่าวไทยส่งผลให้ชายฝั่งทะเลโดยเฉพาะตั้งแต่แหลมตะลุมพุก อำเภอปากพนัง ต่อเนื่องไปจนถึง อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งมีระยะทางยาวกว่า 30 กม.ถูกกระแสคลื่นซึ่งมีความสูงกว่า 2 เมตรได้พัดถล่มชายฝั่งจนความรุนแรงของคลื่นได้กัดเซาะพื้นดินหายไปแล้วจำนวนมาก

โดยบางช่วงได้พัดเซาะถนนลาดยางแอสฟัลต์หายไปถึง 1 ช่องจราจร ขณะเดียวกันแนวสายส่งไฟฟ้าแรงสูงถูกน้ำทะเลกัดเซาะพื้นดินที่มีการปักเสาส่งอย่างต่อเนื่องจนเสาส่งไปอยู่ในทะเลเป็นระยะทางยาวหลายร้อยเมตร รวมทั้งมีบ้านเรือนประชาชนพังไปแล้วหลายสิบหลัง

นายวิชิต มณีโลก หัวหน้าฝ่ายป้องกันและปฏิบัติการสำนักงานป้องกันบรรเทาสาธารณภัยนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ในช่วงมรสุมมีคลื่นลมแรงจัดทำให้แนวอ่าวไทยมีปัญหามาก โดยเฉพาะนครศรีธรรมราชแนวคลื่นได้ก่อความเสียหายให้กับชุมลนและบ้านเรือนเป็นวงกว้างในช่วงหมู่ 1-3 ต.แหลมตะลุมพุก อ.ปากพนัง และ หมู่ 1-9 ต.หน้าสตน อ.หัวไทร เป็นพื้นที่วิกฤติ ทางอำเภอเองได้มีการเปิดศูนย์ช่วยเหลือแล้วและมีเงินในการสำรองอำเภอละ 1 ล้านบาท ส่วนความเสียหายนั้นมีบ้านพังอย่างสิ้นเชิงไปแล้ว 3 หลัง เสียหายบางส่วนอีกประมาณ 25-30 หลัง

“ขณะนี้ทุกฝ่ายกำลังเร่งหาทางแก้ไขอย่างเร่งด่วนทั้งทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นโดยเฉพาะ อบต.ในพื้นที่ สำนักงานโยธาธิการและผังเมือง โดยเฉพาะแขวงการทางได้เข้าบรรเทาความเดือดร้อนโดยการใช้หินทิ้งบรรเทาความรุนแรงของคลื่น ซึ่งความสูงขณะนี้ประมาณ 2-3 เมตร และมีภาวะน้ำทะเลหนุนสูงประดังเข้ามาด้วยจึงมีความรุนแรงมากขึ้นกัดเซาะรวดเร็วขึ้น บางพื้นที่โดยเฉพาะที่ ต.แหลมตะลุมพุก มีทรายที่ถูกคลื่นซัดเข้ามากองสูงเป็นเมตร ได้ขอให้ชาวบ้านอพยพออกจากพื้นที่แล้ว และบางส่วนถูกกัดเซาแผ่นดินหายไปหลายเมตร ขณะที่ผู้ใช้รถใช้ถนนก็ควรหลีกเลี่ยงเส้นทางในพื้นที่เหล่านี้เพราะรถยนต์อาจจะถูกคลื่นซัดได้รับอันตรายได้” นายวิชิตกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ที่วัดเกาะเพชร ม.6 ต.เกาะเพชร อ.หัวไทร นครศรีธรรมราช หลังจากเกิดเหตุการณ์คลื่นลมแรงโดยมีคลื่นสูง และได้สร้างความเสียหายแก่บ้านเรือนราษฎรอย่างต่อเนื่องเกือบ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ชาวบ้านได้เฝ้าระวังกันอย่างต่อเนื่อง และที่สร้างความหวาดวิตกและเป็นห่วงของชาวบ้านคือวัดเกาะเพชร ต.เกาะเพชร อ.หัวไทร แนวคลื่นได้พัดเข้าใกล้โบสถ์เข้าไปทุกขณะห่างเพียงไม่กี่สิบเมตรเท่านั้น ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระประธานคือหลวงพ่อเกาะเพชร ที่เป็นที่เคารพบูชาของชาวงบ้านในละแวกดังกล่าว และหากความรุนแรงของคลื่นคงอยู่ในระดับนี้และยังไม่มีการแก้ปัญหาคาดว่าแนวคลื่นจะถึงตัวโบสถ์ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

พระราเชนทร์ ปัญญาวุโธ เจ้าอาวาสวัดเกาะเพชร กล่าวว่า วัดแห่งนี้เป็นเพียงวัดเดียวของชาวบ้านในตำบลที่เป็นศูนย์รวมในการทำกิจกรรมและศาสนพิธีต่างๆ เพราะรอบวัดจะเป็นมัสยิดและพื้นที่ของวัดมีอยู่ 12 ไร่กว่า ในรอบ 5 ปีที่ผ่านมาถูกน้ำทะเลซัดกินเนื้อที่ไปเหลือเพียง7ไร่กว่าเท่านั้นและสิ่งที่น่าเป็นห่วงในขณะนี้ก็คือ ความรุนแรงของคลื่นที่แรงขึ้นทุกปีและในระยะไม่เกิน 5 ปีหากไม่มีการป้องกันวัดแห่งนี้ก็คงจะถูกคลื่นซัดหายไปหมดเหลือเพียงแต่ชื่อเหมือนกับวัดหน้าโกฏิ ซึ่งถูกคลื่นซัดจมหายไปในทะเลและไม่มีการสร้างวัดใหม่แต่อย่างใดเหลือเพียงแต่ชื่อเท่านั้น ชาวบ้านตำบลเกาะเพชรไม่อยากให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีกกับวัดเกาะเพชรจึงได้รวมตัวกันมาเฝ้าระวังกันตลอด

โดยเหตุการณ์ของธรรมชาติที่เกิดขึ้นทุกปีและที่ผ่านมาชาวบ้านในตำบลก็ได้ช่วยเหลือกันเองตามประสาขนหินมากั้นเพื่อไม่ให้คลื่นซัดเข้ามาถึงวัดแต่ดูเหมือนว่าสถานการณ์ได้รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนชาวบ้านรับมือไม่ไหว อาตมาจึงอยากจะเรียกร้องให้หน่วยงานที่รับผิดชอบหรือเกี่ยวข้องได้มาดูแลหรือหาทางช่วยเหลือป้องกันวัดไว้ให้กับตำบลแห่งนี้ด้วย อย่าให้วัดนี้ต้องเหลือเพียงแต่ชื่อเหมือนกับวัดที่อยู่ใกล้เคียงเมื่อ 20 ปีก่อน

นายประเสริฐ เพชรแก้วเพชร อดีตอาจารย์ใหญ่ ร.ร.วัดเกาะเพชร กล่าวว่า ที่ผ่านมาชาวบ้านได้เคยทำเรื่องเสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือในการหามาตรการป้องกันไม่ว่าจะเป็นการหาก้อนหินขนาดใหญ่เพื่อมาวางกั้นหรือการสร้างเขื่อนกั้นแนวคลื่น แต่ก็ไม่มีหน่วยงานไหนมาช่วยเหลือเลย ทางชาวบ้านได้หารือร่วมกันว่าคงจะต้องให้ทางวัดจัดสร้างวัตถุมงคลจตุคามรามเทพเพื่อหารายได้มาสร้างเขื่อนในการป้องกันปัญหาคลื่นซัดในโอกาสต่อไป
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=10 width="96%" align=center border=0><TBODY><TR><TD height=70>21 ธค. 49 เนชั่นทันข่าว
----------------------------------------------------------

น้ำท่วมหนักในมาเลย์ไร้ที่อยู่กว่า 6 หมื่นคน
</TD></TR><TR><TD vAlign=top bgColor=#ededed>18:09 น. เจ้าหน้าที่ทางการมาเลเซีย เปิดเผยว่า ฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก และน้ำที่เอ่อล้นแม่น้ำหลายสายได้ส่งผลให้หลายเมืองและหลายหมู่บ้านทางตอนใต้ของมาเลเซีย เผชิญน้ำท่วมหนัก ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 คน และไร้ที่อยู่อาศัยอีกกว่า 6 หมื่นคน เหตุการณ์น้ำท่วมที่เกิดจากฝนที่ตกหนัก ทำให้น้ำในแม่น้ำและจากเขื่อน ไหลท่วมรัฐยะโฮร์ มะละกา ปะหัง เนกรี เซมบิลัน นอกจากนี้ยังได้สร้างความเสียหายให้กับพื้นที่เพาะปลูกพืชไร่ กระแสไฟฟ้า ทางรถไฟและถนนหลายสายถูกตัดขาด ทางการมาเลเซีย ระบุว่า เหตุการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ นับเป็นครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบ 100 ปี สำหรับรัฐยะโฮร์ ซึ่งขณะนี้ได้มีการเปิดศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยเกือบ 300 แห่ง เพื่อให้ประชาชน53,000 คน ใช้เป็นที่พักอาศัย หลังอพยพออกจากบ้านเรือนที่ถูกน้ำท่วมใน 8 เขต ด้านสำนักงานอุตุนิยมวิทยา ได้พยากรณ์ว่า คาดว่าฝนจะตกอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ทางภาคใต้ของมาเลเซียไปจนถึงสุดสัปดาห์นี้
</TD></TR></TBODY></TABLE>

-----------------------------------------------------------------------
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=10 width="96%" align=center border=0><TBODY><TR><TD height=70>พบเกาหลีเหนือเคลื่อนไหวผิดปกติคาดกำลังเตรียมทดลองนุก </TD></TR><TR><TD vAlign=top bgColor=#ededed>18:14 น. สำนักข่าวยนฮัพของเกาหลีใต้ รายงานอ้าง นายชอง ฮยอง เคียน กรรมาธิการข่าวกรองรัฐสภาเกาหลีใต้ ระบุว่า มีการตรวจพบการเคลื่อนไหวผิดปกติในบริเวณที่เกาหลีเหนือทำการทดลองนิวเคลียร์ครั้งแรก โดยตั้งแต่ต้นเดือนที่ผ่านมา พบการก่อสร้างขนาดใหญ่ ซึ่งหน่วยข่าวกรองตะวันตกสงสัยว่าอาจจะเป็นสถานที่สำหรับการทดลองนิวเคลียร์ครั้งที่สอง แต่เขาไม่ได้เปิดเผยที่มาของข้อมูล รายงานดังกล่าวสอดคล้องกับการออกมาเตือนของนายคิม จาง ซู รัฐมนตรีกลาโหมคนใหม่ของเกาหลีใต้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ที่อ้างข้อมูลข่าวกรองระบุว่า เกาหลีเหนืออาจทำการทดลองนิวเคลียร์ครั้งที่สอง เพื่อสร้างอำนาจต่อรองในการเจรจา 6 ฝ่ายที่กรุงปักกิ่ง หากการเจรจา 6 ฝ่ายเพื่อคลี่คลายวิกฤตินิวเคลียร์เกาหลีเหนือไม่มีความคืบหน้า
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

รวมข้อมูลคำทำนายเรื่องภัยพิบัติ​

​

เนื่องจากสมาชิกเว็บพลังจิต มีข้อมูลเรื่องภัยพิบัติมาบอกกล่าวให้ได้ทราบกัน แต่ข้อมูลเหล่านั้นมักกระจัดกระจายไปตามกระทู้ต่างๆ ทำให้สมาชิกบางท่าน พลาดข่าวสำคัญไป ผมจึงขออนุญาตนำข้อมูลเหล่านั้นมารวมไว้ในกระทู้แห่งนี้ เพื่อสะดวกแก่ท่านที่ไม่ค่อยจะมีเวลาไปติดตามหาอ่านกันนะครับ​

ข้อมูลเพิ่มเติมของลุงคนเชียงใหม่​

ลุงมีข้อมูลที่เขาคาดเดาว่าอะไรจะเกิดเล่าให้ฟัง​

1.เขาเชื่อว่าภัยพิบัติจะเกิดจากแผ่นดินไหว ขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยเจอมา เขาเชื่อว่ามังกร(ประเทศญี่ปุ่นจะบินขึ้นผงาดบนฟ้าแล้วหายไป คงหมายถึงประเทศญี่ปุ่นหายไป) จะทำลายโลกอย่างแน่นอนและปรากการณ์อย่างหนึ่งคือพื้นหินชั้นใต้ดินที่เก็บน้ำไว้จะแตกหัก ถ้านำไม่ลงไปข้างล่างก็จะขึ้นมาข้างบนจะทำให้ขณะเกิดเหตุน้ำจะเจิ่งนองไปหมด ยังไม่นับที่เขื่อนหรืออ่างเก็บน้ำต่างๆพังทลายลงไป ลองนึกภาพ เขื่อนใหญ่ทั้งหมดของเราแตกพร้อมกัน ทำให้นึกถึงภาพขนาดของน้ำจำนวนมหาศาลที่จะกวาดลงไปตั้งแต่จังหวัดเชียงใหม่ ที่มีเขื่อนแม่งัดแม่กวง เขื่อกิ่วลมที่ลำปาง เขื่อสิริกิตต์ที่อุตรดิตถ์ เขื่อนภูมิพลที่ตาก แตกพร้อมๆกันขณะเกิดแผ่นกดินไหวที่บ้านพักอาศัยพังทลายไปแล้ว ทุกอย่างก็จะถูกกวาดไปลงทะเล (อย่าลืมคิดคำนวนปริมาณน้ำที่โผล่ออกมาจากใต้ดินที่เกิดจากชั้นหินที่เก็บน้ำไว้ถูกทำให้แตกหักทำลาย)
2.ความอดอยาก จะตามมาหลังเหตุการณ์ที่ 1 ที่ตามก็คือน้ำที่มีอยู่ก็จะหายไปอย่างรวดเร็วจากที่ชั้นหินที่อยู่ไต้ดินที่ทำหน้าที่อุ้มน้ำมีรอยรั่ว บ่อน้ำที่มีอยู่จากบ่อน้ำหรือที่หาได้ก็จะหมดไป น้ำสะอาดจะหายากขึ้น ยังไม่พออาหารเท่าที่มีจะถูกกวาดไป คือแผ่นดินไหวทำลาย แล้วน้ำก็กวาดไปทิ้ง ที่เหลืออยู่ก็ไม่พอบริโภค
3.สงครามแย่งอาหาร และสงครามเต็มพื้นที่ ​

ดังนั้นเขาจึงเตรียม สถานที่ๆไม่ถูกทำลายจากแผ่นดินไหว เลือกภูเขาที่ไม่สูงห่างจากแนวร่องลำน้ำที่มีเขื่ออยู่ต้นน้ำ เตรียมน้ำ อาหาร และยารักษาโรคอย่างพอเพียง(มากกว่าคน100 คนต้องการร่วม10เท่า) รวมทั้งมีการใช้วิทยุคลื่นสั้นติดต่อกันระหว่างบ้าน แทนที่จะเลือกใช้การสื่อสารที่ทันสมัยอย่างอื่นๆ​

ลุงอยากจะหาแนวร่วมที่อยากมาอยู่เชียงใหม่ด้วยกัน
ศึกษาหาพื้นที่ที่ปลอดภัย(ไม่ได้กลัวตายนะ แต่อยากเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและความเปลี่ยนแปลง ไม่อยากตายตอนหัวม้วน เพราะตอนกลางเรื่องอาจจะได้เห็นอะไรที่ทั้งชีวิตไม่เคยเจอมา)
หวังว่าจะมีผู้ร่วมบุญกับลุงมาอยู่ในพื้นที่เดียวกัน
ขอบุญกุศลคุ้มครองทุกคน​

ลองนึกภาพที่บ้านของเรา
วันนี้แผ่นดินไหว ตึกใหญ่ บ้านปูนพังยับ
ถนนที่มีอยู่ใช้การไม่ได้ พังยับเยิน
ปั้มน้ำมันระเบิดไฟใหม้จนแทบไม่เหลือ
ไฟฟ้าดับหมด โรงไฟฟ้าพังยับเยิน
อาหารไม่มีคนขาย เพราะบ้านส่วนใหญ่พังหมด (คงมีการไหวของแผ่นดิน 15-20 ริกเตอร์ หรือมากกว่า เพราะขนาดที่มีการทำนายกันไว้ว่าแผ่นดินแยก เหมือนมีงูยักษ์มุดออกมาจากแผ่นดินต้องไหวระดับแรงหินใต้ดินโก่งตัวอย่างรุนแรง)
ทุกคนอยู่ในอาการกระวนกระวายร้องให้เพราะความสูญเสีย อาหารที่มีในมือก็พอกินได้ อีก2-3 มื้อ
เป็นปรกติแล้วที่เราจะมีอาหารอยู่ประมาณนั้น ที่เหลือพึ่งตลาด
เพราะอาหารในตู้เย็นเริ่มเสียแล้วเนื่องจากไฟดับ
หรือ ถูกบ้าน(โดยเฉพาะแบบสร้างด้วยปูน)ถล่ม
อาหารขาด เงินจำนวนมากเท่าไดก็ไม่สามารถแลกอาหารได้มากพอ เริ่มมีการแก่งแย่งกันเกิดขึ้น
หลายพอเริ่มจะตั้งหลักกันได้
คนที่เริ่มคิดได้ก็จะไปริมทะเลเพื่อมองหาอาหารแล้ว คลื่นยักษ์ที่เกิดจากแผ่นดินไหว ก็พากันกวาดเอาคนจำนวนมาลงทะเล
จนคนจำนวนมากไหวหวั่น กระวนกระวาย
การจราจรแย่งอาหารเกิดขึ้นในเขตเมืองก่อน
แล้วค่อยลามมายังเขตปริมณฑลที่ยังพอมีอาหารมากกว่า .........................
-----------------------------------------------------------
วันที่ 3ก็มาถึง น้ำเหลือจำนวนมากมายก็พากันหลั่งโหมเข้ามากวาดเอาคนต้อนคนที่บนทรากปรักหักพังลงสู่ท้องทะเล
เสียงกรีดร้องน้ำตา จากความเศร้าเสียใจของคนที่เหลือเพียงไม่กี่คน
(ตำนวนของชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยงที่เลือกอยู่บนยอดดอย เพราะเขามีการสอนกันมาว่าเขาคือผู้ที่รอด
ในบ้านนอกมียุ้งข้าวที่กินได้
มีฟักข้างบ้าน มีไก่เลี้ยงตามใต้ถุน มีหมูที่เลี้ยงไว้ที่บ้าน
แล้วเราคนในเมืองหละถ้าวันี้ ต่อไปอีก 3วันตลาดไม่มีอะไรเลย(เพราะถนนพังทั้งหมด)
ไม่มีอุปกรณ์หุงหาอาหาร เพราะไฟฟ้าดับหมด
...........................................
มองในมุมร้าย หรือมองโลกในแง่ร้ายมากไปหรือเปล่า
........................................................
แต่ชักชวนครับผมกำลังจำทำเรื่องเช่าที่ส่วนป่าเสื่อมโทรมบริเวณประมาณ 300 ไร่
กำลังหาสมาชิก เพื่อจะมาร่วมมือกันคิดกันอย่างจริงจัง
ถ้าทำแบบที่ญี่ปุ่นทำกัน ผมดูแล้วบ้านที่ปลอดภัยจากแผ่นดินไหว
หลังละไม่กี่หมื่นเท่านั้นเอง(เขาบอกว่าต้องเป็นวัสดุที่ล้มไปแล้วนำมาประกอบใหม่ได้)
อุปกรณ์กลางเช่น เครื่องทำน้ำจากอากาศ โรงพยาบาลเล็กๆ
แหล่งหลบภัยกรณีมีอะไรตกจากฟ้า

อยู่ร่วมกันอยู่เหมือนบ้านที่มีการเตรียมพร้อมทั้งจิต และกาย อาหาร สิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัย
เพื่อจะได้เป็นผู้รอดที่มีพลังพอจะช่วยเหลือมนุษย์โลกที่เหลือต่อไป
ในรูปแบบ นิคมพุทธหรืออะไรอย่างนี้ก็ไม่เลวนะ
เพราะวันนั้นแล้ว ถ้าพลังไม่พอเหล่ามารคงไม่พอใจที่มีพวกที่รอดอย่าง
เข้าใจและมีพลังก้าวเดินต่อไปอีกจำนวนมาก
..................................................................................

ที่จังหวัดเชียงใหม่ มีบริเวณที่เป็นที่ลุ่มรอยต่อระหว่างฝั่งดอยสะเก็ดกับฝั่งแม่ริม
ทางฝั่งดอยสะเก็ด ติดค่อนไปทางเชียงรายที่มีเหตุการแผ่นดินไหวบ่อยครั้ง
ฝั่งอำเภอแม่ริม อำเภอสะเมิง อำเภอแม่แตงตอนบน(เหนือเขื่อแม่งัด) จะติดค่อนไปทางแม่ฮ่องสอน
บ้านของลุงเองอยู่คนละฝั่งแม่น้ำปิงกับจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวครั้งก่อน คราวที่ไหว 5.1ริกเตอร์
ทางฝั่งโน้น บ้านร้าว ของตกระเนระนาด
แต่ฝั่งบ้านลุงเอง ไม่รู้สึกรุนแรงเหมือนในข่าว ยิ่งคนแถบสะเมิง ไม่มีความรู้สึกเลย(อันนี้น่าคิดนะ เพราะระยะห่างจากจุดศูนย์กลางพอๆกับอำเภอเมือง ขณะที่อำเภอเมืองไหวจนวิ่งกันหน้าตั้ง แต่อำเภอสะเมิงหลับกันสบาย ไม่รู้สึกซักกะแอะ) แต่อย่างไรก็ตามบ้านลุงเองก็ยังไม่ปลอดภัยเพราะปีที่ผ่านมาน้ำที่ไม่เคยท่วมกลับมีน้ำหลากมาจากบริเวณภูเขา กวาดเอาบ้านไกล้ๆพังไปหลายหลัง
แต่ได้เตรียมการหาที่เหมาะสมสำหรับทุกคน คิดว่าน่าจะซัก 20 ครอบครัว ไม่เกิน 100 คนน่าจะมีกำลังเพียงพอในการที่จะเผชิญปัญหาที่จะเกิดขึ้นหรือจำเป็นต้องเริ่มต้นชีวิตในโลกที่สูญสิ้นไปเกือบสิ้นเชิง เช่นสงครามแย่งชิงอาหาร โรคระบาด หรือโลกมืดไป 47 วัน
อยากได้ข้อมูล
1.แบบบ้านที่ทนต่อแผ่นดินไหว
1.1 ที่ราคาไม่แพง
1.2 รองรับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นได้ แผ่นดินไหว น้ำท่วมหลาก(น้อยๆเพราะอยู่บนเขาอยู่แล้ว)
2. รูปแบบของการจัดการระบบอาหาร แบบไม่พึ่งไฟฟ้า
3. การจัดการระบบพลังงานในพื้นที่(กรณีที่โลกมืดไป 7ราตรีเหมือนคำทำนายของหลายๆฝ่าย)
4. ระบบการจัดการชุมชนให้สามารถอยู่ได้
5. ระบบการสื่อสาร/รับข้อมูล
6. การเตรียมการด้านสิ่งเหนือปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ(ที่คนอื่นจะเข้าใจ) เช่นกรณีเกิดภูตผีปีศาจ
7.การเคลื่อนเข้าสู่ชุมชนของสมาชิกในหมู่บ้านกรณีเกิดปัญหาขึ้น(เตือนกันอย่างไรดี หรือใครตัดสินใจที่จะเตือนสมาชิกเข้าสู่ชุมชน)
ขอส่งข้อมูลให้ลุงเรื่อยๆนะแม้จะเริ่มแก่แล้ว
(ยืนยันนะว่าไม่ได้กลัวตาย เพราะชีวิตที่ผ่านมาเพียงพอแล้วหละ ทำบุญมามากพอที่จะไม่ตกนรกและไม่มีพลาดตอนอาสัญนกรรมแน่เพราะปลงกับความตายตั้งแต่ตอนเรียนผ่าศพแล้วหละ)
แต่ก็อยากดูสิ่งที่เราฟังมาตลอดชีวิตกลัวมันจะเกิดหลังวันที่เราตายไปแล้ว 1 วัน
จิตอย่างนี้เป็นห่วง จนเป็นเหตุให้เป็นเดรัจฉานหรือเปล่าก็ไม่รู้
เอ้าช่วยๆกันหน่อย
ใครจริงจัง กับลุงไปด้วยก็เตรียมตัวคุยกันต่อไปนะ
ขอบคุญและยินดีกับคำแนนำที่ผ่านๆมา และผู้ที่ร่วมอนุโมทนาบุญด้วย


-----------------------------------------------------------------------
ข้อมูลจากคุณ Nirvana
<!-- / message -->
ที่ลุงเชียงใหม่เสริมบทความเข้ามาอีกก็น่าพิจารณานะครับ

เพราะครูอาจารย์ท่านได้ส่งสัญญานมาว่า ที่ราบภาคกลางจนถึงนครสวรรค์จะจมอยู่ใต้น้ำทั้งหมด เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็คือ จะมีแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ จนแผ่นดินทรุดลงไป น้ำจากที่ต่างๆก็จะไหลมารวมกัน แต่ที่น่าสะพรึงกลัวกว่านั้นคือ น้ำที่เข้ามาเป็นน้ำเค็มครับ กินไม่ได้ แฮ่ะๆๆๆๆ

ลองคิดดูเล่นๆว่า ที่ราบภาคกลางอันเป็นแหล่งผลิตข้าวที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกได้อันตรธานไปอย่างเฉียบพลันจะเกิดอะไรขึ้น
ถูกต้องแล้วครับ ทุกภิกภัยครั้งนี้ไม่ได้เศร้าเฉพาะสยามเมืองยิ้นเท่านั้น ประเทศอื่นๆที่คอยกินข้าวไทยก็ต้องพลอยอดไปด้วยล่ะครับ นี่แหละมหาภัยตัวจริง

และที่ว่า สองลำ สองเชียงน่ะ อยากจะให้ข้อคิดว่า เชียงใหม่แถบดอยสะเก็ด สันกำแพง สันทราย ยังอยู่ในข่ายที่ต้องระวังนะครับ เพราะเป็นที่ราบลุ่ม
ส่วนตัวเมืองลำปางก็เป็นที่ลุ่มเหมือนกัน ลองตรึกตรองดูดีๆนะครับ

อีกประการหนึ่งตั้งแต่เชียงดาวลงมา ก็ยังเป็นแนวแผ่นดินไหวอยู่ด้วยนะครับ

เป็นความจริงอย่างยิ่งว่าถึงเวลานั้นเงินจะกลายเป็นเศษกระดาษไปในพริบตา ปัจจัยสี่และพลังงานจะกลายเป็นทองคำแทนที่
ท่านที่ไม่ได้เล่นเนท 1 วัน ไม่ตายหรอกครับ แต่ไปลองอดข้าวดูแล้วจะรู้ว่าที่พูดนี่เป็นอย่างไร

ผู้ไม่ประมาทเท่านั้นที่จะอยู่รอด ท่านลองสังเกตดูว่ามนุษย์หลายคนที่มีองค์บ้าง ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบบ้าง เริ่มไปตั้งหลักบนที่สูงกันเกือบหมดแล้ว
สายบุญทางนี้ก็พูดกันหนาหูขึ้น คนที่ไม่เชื่อก็คงมีกรรมไปบดบังให้ต้องไปเจอวิกฤตด้วยตัวเอง หากไม่มีบุญคงกลับตัวไม่ทัน เรียบร้อยไป

การรวมกันอยู่ก็เป็นความคิดที่ดี เพราะจะได้ช่วยเหลือกันได้ แต่อย่าลืมว่ามากคนก็มากปัญหา ดังนั้นจึงต้องพิจารณาคัดเลือกเหมือนกัน

สงครามแบบทุกวันนี้คงต้องเลิกรบกันไป เพราะไม่มีแผ่นดินจะให้แย่งชิงกัน ปัญหาภาคใต้ก็จะสงบแบบถาวร เพราะไม่มีแผ่นดินจะให้แยกอีกต่อไป

ประเทศอื่นในวันนั้น ก็รับกรรมกันตามที่ก่อกันในวันนี้ ตามแต่กำลังความชั่ว-ดี เพราะวันนั้นก็ถือเสียว่าเป็น "วันพิพากษา" จริง ๆ ซะที (Judgement Day)

วันนี้ท่านสร้างบุญบารมีเพิ่มขึ้นอีกบ้างหรือยัง

-----------------------------------------------------------------------
ข้อมูลจากคุณคณานันท์เรื่องที่หลบภัยพิบัติ

ถ้าตามความรู้ที่ผมพอทราบอยู่บ้าง สถานที่หลบภัยพิบัตินอกเหนือจากเขต พุทธคุณแล้ว ก็มีเขตที่ผู้คนใช้ความสามัคคีบ้าง สติปัญญาและความรู้ทางวิทยาศาสตร์บ้าง มาช่วยกันทำขึ้น

ส่วนอีกสองสามกลุ่มก็ได้แก่ ประตูมิติแห่งเมืองลับแลที่จะเปิดออกรับกัลยาณชนคนดีให้อยู่รอดเพื่อรักษาพระศาสนา ผู้ที่จะได้เข้าไปอยู่ที่นั้นต้องเป็นผู้ที่มีจิตใจที่ดีงาม มีศีลห้าเป็นปรกติ มีคุณธรรมประจำใจ

เมืองพญานาคที่รับลูกหลานเก่าไว้พึ่งพิงชั่วคราว

ยานแม่ของชาวดาวดวงอื่นที่จะมารับบุคคลที่ถูกคัดเลือกไว้

ทั้งสามประเภทนี้ ผมยังไม่อยากให้หวังกัน ขอให้สู้ด้วยกำลังตนจนสุดกำลังกันก่อนครับ เพราะผมไม่อาจรับรองได้ว่าท่านจะได้ถูกรับเลือกหรือไม่

แต่อันที่จริงโดยส่วนตัวผมและเพื่อนอีกสามคน เคยได้เห็นยานแม่ขนาดเท่าภูเขากับตาตัวเองจริงๆ มาแล้วที่เขตรอยต่อจ.ลพบุรีไปนครสวรรค์ครับ แล้วจะค่อยๆเล่าให้ฟังในโอกาสต่อไปครับ

ส่วนเมืองลับแล กับ เมืองพญานาค ไปดูด้วยกำลังของมโนมยิทธิครับ แต่มีผู้ที่ท่านสามารถพาลูกศิษย์ท่านเข้าไปในเมืองลับแลได้จริงๆด้วยกายเนื้อจริงๆได้ครับ เสียดายที่ตอนนี้ท่านสิ้นเสียแล้ว เป็นศิษย์ในดงของหลวงปู่เทพโลกอุดรครับ ดังนั้นผมจึงคาดว่าน่าที่จะมีท่านอื่นๆที่ทำได้แต่ยังไม่เปิดเผยตัวครับ
<!-- / message --><!-- sig -->
____________________________________________________________

ข้อมูลจากคุณหนุมาน ผู้นำสาร

*** เมื่อปริมาณฝนมากขึ้น **** น้ำบนดินมากขึ้น เปลือกโลกรับน้ำหนักมากขึ้น และขยับมากขึ้น แผ่นดินไหวมากขึ้น แผ่นดินแตกร้าวมากขึ้น เขื่อนทุกๆ ประเทศจะเสี่ยงมากขึ้น .... ทุกอย่างเป็นไปจากน้อยไปหามาก จนถึงจุดสูงสุด จุดแตกหัก ความรุนแรงจะถูกปลดปล่อยอย่างไม่น่าเชื่อ ไม่เคยพบ ไม่เคยเห็น .... เมื่อแผ่นดินจีนไหวหนัก เขื่อนเก่าจำนวนมากจะอันตราย น้ำแข็งบนเทือกเขาสูงจะทลายลงสู่แม่น้ำสายใหญ่...แม่น้ำโขงจะอันตราย ระดับน้ำจะสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ก่อเกิดคลื่นยักษ์พุ่งกระแทกมาตามลำน้ำ เมื่อถึงเชียงแสน เชียงของ น้ำจำนวนมหาศาลจะไหลขึ้นเหนือตามลำน้ำไม่ทัน น้ำจะทะลักเข้าประเทศไทย....แผ่นดิน ภูเขา ภูหิน ต้นไม้ จะถูกกระชากด้วยพลังกระแทกและความเร็วของน้ำ...ในตอนเหนือจะเกิดน้ำวนขนาดยักษ์พัดทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางหน้า น้ำจะไหลลงสู่ทิศใต้ตามความเอียงของประเทศไทย หินใหญ่ ไม้ใหญ่ ท่อนซุง จะพัดมาทับถมแถบตาก และกำแพงเพชร น้ำจะท่วมลงมาถึงกรุงเทพ ฯ ....ประชาชนคนไทยจะแสนสาหัส คนที่สะสมความดี คนที่มีสัจจะจะรอดพ้นอย่างปฏิหาริย์...หากไม่เชื่อ เมื่อถึงเวลาจะเชื่อเอง

" หนุมาน ผู้นำสาร "

<!-- / message -->ที่มา http://www.palungjit.org/board/forumdisplay.php?f=2