อยากทำวิปัสสนา ทำอย่างไรครับ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ไตรลักษณ, 9 ธันวาคม 2010.

  1. รู้รู้ไป

    รู้รู้ไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    951
    ค่าพลัง:
    +3,165
    ยุงเกาะรู้ ยุงกัดรู้ เจ็บรู้ โทสะรู้ อยากตบรู้ ยกมือจะตบรู้ กำลังตบรู้ หมั่นรู้ไปเรืื่่่อย ก็รู้ได้เร็วขึ้นเรื่อย ละเอียดขึ้นเรือย ลองมันรู้ได้อย่างนี้ หรือละเอียดกว่านี้ขึ้นมา อย่างเป็นอัตโนมัติ ก็ไม่ได้ก่อกรรมอย่างเป็นอัตโนมัติ มันถูกตัดเป็นตอนตอน ไม่มีกำลังให้ได้ก่อกรรมกัน อันจะเป็นผลต่อตนต่อไป
    สนุกอยู่กับการเป็นผู้รู้ ไม่ใช่การเป็นผู้ไหล
    อย่างเป็นผู้รู้ก็อย่าง อย่างเป็นผู้ไหลตามก็อย่าง

    เริ่มมีการเปรียบเทียบระหว่าง เป็นผู้รู้กับเป็นผู้ไหล
    ใจมันฉลาด มันก็เลือกได้เองอย่างเป็นอัตโนมัต ถ้ามันเห็นจริงๆขึ้นมา มันก้จะไม่เลือกไหล
    หมั่นเจริญ หมั่นเพียร ให้ใจได้เห็นความจริงบ่อยๆ
    มีกำลังสมาธิหนุน ใจสงบ ยิ่งดูได้ละเอียด แต่สงบมากไป จะไม่เห็นอะไร
    ถ้าเห็นได้ละเอียด จริงแล้วที่ก่อกรรมเกิดการกระทำ ก็เกิดจากรักตัวเอง จึงเกิดทุกข์ (ความทนอยู่ไม่ได้ ในภาวะปัจจุบันนั้น) จึงไหวไป

    สาธุ สาธุ
     
  2. kongkiatm

    kongkiatm เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    190
    ค่าพลัง:
    +1,263
    อนุโมทนาคร้าบ สำหรับทุกท่านที่สนใจปฏิบัติธรรม

    คือ ผมมือใหม่ครับ เคยนั่งสมาธิแล้วจิตมันรวมลงมาเป็นสมาธิแบบไหนครับ

    หลังจากนั้น จิตมันตัดกิเลสอ่ะครับ คือ มันตัดประสาทสัมผัสต่างๆ ออก

    (เกิดขึ้นเองน่ะครับ) แล้วจิตมันเห็นกิเลส มันละกิเลสเอง เป็นวิปัสสนา หรือเปล่าครับ

    ผู้รู้ช่วยตอบด้วยครับ ขอบคุณครับ
     
  3. รู้รู้ไป

    รู้รู้ไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    951
    ค่าพลัง:
    +3,165
    ถ้ามัน อ้อ เข้าใจละ
    หรือว่า อ้อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง
    ประมาณนี้ ด้วยแว่บเดียว แต่มีความเข้าใจต่างๆ เกิดขึ้นตามมาในแว่บนั้นอย่างมากมายในโลก ในการต่อสู้กับกิเลส แล้วปัญญาอย่างนั้นติดอยู่กับตัวต่อไป นั่นละ น่ากลัวครับ ว่าจะเป็นวิปัสนา
    ก็ด้วยความเข้าใจ ด้วยเห็นตามจริง ด้วยเห็นโลกอย่างเป็นจริง ตามจริงขึ้นมา
    แต่ถ้ามันตัดเฉยๆ แบบไม่รับรู้ไม่รู้ เหมือนปิดกั้นห้องไว้ ทั้งจงใจเข้า และเข้าไปอยู่เอง ก็น่ากลัวว่าจะเป็นสมถะครับ
    อย่างไหนก็ดี ย้อนออกจากกิเลส ก็ดีทั้งนั้นครับ ตามกำลัง

    ของดี แม้เกลือกกลั้วในโคลนตม ก็ต้องไม่เปื้อนซึ่งโคลนตม
     
  4. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    ของดีบางอย่าง ท่านเปรียบเป็นเพียง

    โคที่เขาเทียมแอกไว้ไขน้ำ มันมีความชำนาญในการย่ำลงในตม
    ได้ลงรอยเดิมทุกครั้งทั้งด้วยจงใจและไม่จงใจ ไม่ไถลพลาดพั้ง
    แต่ก็ไม่พ้นแอกที่เทียมไว้

    ** เติมมิติ **
     
  5. สุปราณะ

    สุปราณะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    206
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +122
    ตอบแบบเด็ก ๆ ที่จำคำครูบาอาจารย์มาพูดต่อนะคะ

    "สมถะเกิดเมื่อหมดความคิด วิปัสสนาเกิดเมื่อหมดความตั้งใจ"
     
  6. kongkiatm

    kongkiatm เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    190
    ค่าพลัง:
    +1,263
    ขอบคุณครับ สำหรับทุกคำตอบ

    คือ หลังจากนั้น ที่จิตมันตัดกิเลส มันเกิดขึ้นในระหว่างใช้ชีวิตประจำวัน กำลังเพลินไปกะโลก มันใช่ วิปัสสนา ป่าว ครับ (เกิดขึ้นหลายครั้งแล้วสงสัยอยู่)
     
  7. รู้รู้ไป

    รู้รู้ไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    951
    ค่าพลัง:
    +3,165
    สมถะ ไม่มี เพราะไม่มี จึงสงบอยู่
    วิปัสนา ไม่มี เพราะ มีก็เหมือนไม่มี จึงสงบอยู่

    สมถะ ด้วยกำลัง ความตั้งมั่น ความสงบ
    วิปัสนา ด้วยกำลัง เห็นตามจริง เข้าใจ
     
  8. ไตรลักษณ

    ไตรลักษณ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    30
    ค่าพลัง:
    +29
    พึ่งกลับจากต่างจังหวัดมา แวะขอบคุณทุกคำตอบครับ อ่านทบทวนหลาย ๆ ครั้ง ก็ทำให้มีกำลังใจมากขึ้น ในระหว่างเดินทางหลายวันมานี้ได้มีโอกาสพบโน่นเจอนี่มากมายที่ผ่านมากระทบทางตา หู จมูก ลิ้น กาย อารมณ์ รัก ชอบ พอใจ โกรธ เกลียด อยากได้ ไม่อยากได้ มันก็เกิดขึ้นตามธรรมดาตามสิ่งที่พบเจอ พอสติเราตามทันมันก็รัก ก็เกลียดได้แป๊บเดียว แล้วมันสอนตัวเองว่าถ้าสติเราไม่ทัน ใจเราก็หวั่นไหวกับสิ่งที่มากระทบ ไหลเข้าไปรัก ไปเกลียด สิ่งที่เราเจออีก ถ้าสติเราเร็วขึ้น ซักวันหนึ่งสิ่งที่มากระทบทางตา หู ฯลฯ มันก็คงไม่มีอิทธิพลกับอารมณ์จิต อย่างนี้ดำเนินถูกต้องแล้วใช่ไหมครับ (มันเหมือนนึกคิดเตือนตัวเองนะครับ)
     
  9. รู้รู้ไป

    รู้รู้ไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    951
    ค่าพลัง:
    +3,165
    ทันหรือไม่ทัน เพียงเห็นหรือไหลตาม ยังมีอิทธิพลต่อจิตได้ หรือไม่มี
    อนุโมทนครับ
    มีแต่ถูกของใคร
     
  10. ไตรลักษณ

    ไตรลักษณ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    30
    ค่าพลัง:
    +29
    "สติเราตามทัน ก็ แป๊บเดียว สติเราไม่ทัน ก็ ไหลเข้าไป วันหนึ่งสิ่งที่มากระทบ ก็ ไม่มีอิทธิพลกับ จิต"

    ยืนยันเลยครับ ขอบคุณคุณ รู้รู้ไป ครับ
     
  11. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    ผมนั้นพิจารณาสิ่งที่ผ่านไปแล้วในอดีตย้อนไปตั้งแต่พอจำความได้แล้วก็กลับยังปัจจุบันจะทำให้เห็นในหลายสิ่งทั้งที่ชอบและไม่ชอบมองดูทุกอารมณ์ที่เกิดขึ้นเห็นถึงความเป็นไปไม่ว่าสุขหรือทุกข์ ก็จะเห็นว่าความสุขที่เราเข้าใจว่าสุขนั้นเป็นเพื่อนกับความทุกข์ ทุกครั้งที่เราหลงคิดว่าเป็นสุขแต่เพียงไม่นานความทุกข์ก็จะเข้ามาแทนที่ มีความทุกข์ไม่นานก็จะมีความสุขให้ได้ชื่นชม จนทำให้คิดไปถึงเหตุที่ทำให้เกิดสิ่งเหล่านี้ หากว่าเราไม่มีการเกิดสิ่งเหล่านี้ก็ไม่เกิดจนเห็นถึงความตายที่รอเราอยู่ข้างหน้าทำให้เรารู้สึกถึงสิ่งที่เรายึดติดอยู่ว่าเรากำลังทำอะไร พอพิจารณาบ่อยเข้าจิตก็นิ่งลงไปจนเป็นรูปแบบของสมาธิ หรือ พิจารณาขันธ์ 5 ก็ได้ครับ พิจารณาถึงสิ่งที่ก่อให้เกิดขันธ์ 5 และขันธ์ 5 ก่อให้เกิดอะไร พิจารณาบ่อยเข้าจิตก็นิ่งลงไปจนเป็นรูปแบบของสมาธิเหมือนกันครับ (ผมกล่าวตามความเห็นของผมครับ)
     
  12. ไตรลักษณ

    ไตรลักษณ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    30
    ค่าพลัง:
    +29
    ขอบคุณครับ ต้องลองยืมวิธีคุณ oatthidet ไปใช้บ้างแล้ว รู้สึกว่าอ่านแล้วถูกใจเหลือเกิน
     

แชร์หน้านี้

Loading...