"ทำยังไงดี - คิดไม่ดีอยู่เรื่อย" ดังตฤณ

"[FONT=&quot]ทำยังไงดี - คิดไม่ดีอยู่เรื่อย"[/FONT]

ถ้า คุณเป็นคนหนึ่งที่กำลั<wbr>งทรมานใจอยู่กับความคิดสกปรก ความทรงจำแย่ๆ หรือความลับน่าอับอายเกินกว่<wbr>าจะให้ใครรู้ว่าเราก็คิด อย่างนี<wbr>้ได้ ขอให้ทราบเถิดว่าคุณไม่ได้<wbr>โดดเดี่ยว ยังมีคนอีกทั้งโลกเป็นเพื่อน ที่สำคัญว่าคิดบ้าๆอยู่คนเดี<wbr>ยวก็เพราะไม่ได้เปิดอกนั่งจั<wbr>บเข่าคุย กันเท่านั้นแหละ ใครเล่าจะอยากขุดเอาความคิดเพี้<wbr>ยนๆเลอะเทอะในหัวของตั<wbr>วเองออกมาแฉ ให้คนอื่นร่วมรั<wbr>บทราบไปด้วย


คลื่น ความคิดที่กระทบใจแล้<wbr>วรบกวนเราได้แรงๆนั้น ไม่จำเป็นต้องชั่วช้าสามานย์<wbr>อะไรมาก แค่คำด่าบางคำที่ใครบางคนมาปล่<wbr>อยเรี่ยราดตามเว็บบอร์ด โดยชี้นำให้คิดโยงคำด่านั้<wbr>นไปหาคนที่คุณนับถือ ก็เพียงพอแล้วที่มันจะกลายเป็<wbr>นอาถรรพณ์ ตามมาวนเวียนหลอกหลอนคุณ ยั่วยุให้คุณนึกถึงคำวิปริตนั้<wbr>นวันละเป็นสิบเป็นร้อยรอบ คล้ายมีวิญญาณร้ายแฝงอยู่<wbr>ในสมองของคุณก็ไม่ปาน

ลองมา หาคำตอบกันดูครับ ความเข้าใจถึงที่มาที่ไป ตลอดจนอุบายต่อไปนี้ อาจช่วยคุณให้พ้นทุกข์จากความคิ<wbr>ดชนิดบาดใจได้ใน เวลาไม่นานนัก

ความ คิดไม่ดีมาอยู่ในหัวเราได้<wbr>อย่างไร? [FONT=&quot]และที่ร้ายกว่านั้น ทำไมมันถึงเกิดขึ้นบ่อยๆ ทั้งที่เราเกลียดความคิดแบบนั้<wbr>นแทบดิ้นตาย[/FONT]?

คำตอบ คือใจเราเป็นธรรมชาติอย่<wbr>างหนึ่ง ที่เข้าไปติด เข้าไปข้อง หรือเข้าไปยึดมั่นสิ่งที่รั<wbr>กแรงหรือเกลียดแรงได้อย่างเหนี<wbr>ยวแน่น และความยึดมั่นอย่างเหนียวแน่<wbr>นนั้นเอง เป็นตัวการผลิตความคิดถึงสิ่งที<wbr>่ยึดได้เรื่อยๆ

ขอให้ นึกถึงบุคคลอันเป็นที่รั<wbr>กยิ่ง คุณเห็นเขาหรือเธอปรากฏตัวก็<wbr>อยากถลาเข้าไปกอดรัดให้เต็มอ้<wbr>อมทันที อาการอยากกอดรัดทางกายนั้นแหละ สะท้อนให้เห็นอาการยึดติ<wbr>ดทางใจประมาณ เดียวกัน

ส่วน บุคคลอันเป็นที่ชิงชังยิ่<wbr>งสำหรับคุณ เมื่อใดปรากฏตัว คุณจะอยากเบือนหน้าเดินหนี แต่เหมือนเขายังเป็นเงาติดตามคุ<wbr>ณมา ทุกฝี ก้าวไม่ห่าง นั่นเพราะใจคุณไม่เคย "ทิ้ง" เขาเลย หรือถ้าคุณเกลียดจัด แทนที่จะอยากเดินหนี คุณอาจอยากถลาเข้าไปเขย่าคอ ชกหน้า ตบตี หรือทำร้ายร่างกายเขาเลยด้วยซ้ำ นี่ก็เป็นเครื่องแสดงอาการยึ<wbr>ดของจิต อีกแบบ เกลียดกันแล้วก็ยึดว่าต้<wbr>องทำลายล้าง ต้องทำให้เจ็บปวดในทางใดทางหนึ่<wbr>ง ปล่อยให้ลอยนวลสบายๆไม่ได้

เมื่อ รักแรงแล้วคิดถึงบ่อยๆย่<wbr>อมเป็นสุขสดชื่น แต่หากเกลียดแรงแล้วคิดถึงบ่อยๆ ย่อมเป็นทุกข์ อึดอัด ไม่สบายใจ กระวนกระวาย หรือกระทั่งพาลพาโลเกลี<wbr>ยดตนเองไปด้วย ค่าที่รู้สึกว่าความคิดคือเรา เราคือความคิด เมื่อความคิด "น่าเกลียด" ตัวเราก็ย่อมน่ารังเกียจไปด้วย

อาการ ที่สะท้อนความทรมานใจกั<wbr>บความคิดในหัวแต่ละครั้<wbr>งอาจแตกต่างกันไป ถ้าอาการน้อยหน่อยก็อาจแค่<wbr>ขมวดคิ้วนิ่วหน้าอยู่กับตัวเอง แต่ถ้าอาการหนักหน่อยก็อาจทำท่<wbr>าฟึดฟัดงุ่นง่าน จนคนอยู่ใกล้ต้องหันมาถามว่า "เป็นอะไร?" อย่างอด สงสัยไม่ได้

ยิ่ง หากคุณรู้สึกว่าความคิดที่<wbr>เสียดแทงหัวหูอยู่นั้น เป็นเรื่องน่าอับอายเกินกว่<wbr>าจะปรึกษาใคร เรียกว่าไม่กล้าเปิดเผยกั<wbr>นตลอด ชีวิต ก็ยิ่งย้ำติดและคิดหนัก เช่น คำหยาบที่โยงเข้ากับสิ่งศักดิ์<wbr>สิทธิ์ หรือความคิดทางเพศกับญาติเชื้อ แม้คุณจะปฏิเสธว่าไม่ได้คิด ไม่ได้ตั้งใจ ไม่ได้อยากอยู่ข้างเดียวกั<wbr>บความคิดพรรค์นั้น มันก็ยังคงวนเวียนเยี่ยมหน้<wbr>ามาไม่เลิก ราวกับมีศัตรูตามราวีตนอยู่ในตั<wbr>วเอง

หลาย คนต้องทรมานใจเป็นสิบๆปี เพียงเพราะไม่รู้ว่าจะเอาความคิ<wbr>ดบัดสีบัดเถลิงหรือความคิดลบหลู<wbr>่สิ่งศักดิ์ สิทธิ์ออกไปจากหั<wbr>วของตัวเองได้อย่างไร บ้างก็หาทางออกด้วยการเข้าหมู่<wbr>เข้าพวกกับคนถ่อยไปเลย จะได้เห็นเป็นเรื่องธรรมดาให้รู<wbr>้แล้วรู้รอด อันนี้นับเป็นทางออกที่มืดมนที่<wbr>สุด และเป็นเครื่องชี้ให้เห็นว่<wbr>าความคิดในหัวไม่ใช่แค่ลมแล้<wbr>งเล็กน้อย ถ้าแกะไม่ออก ถอดไม่หมด ชีวิตก็อาจพลิกจากด้านสว่างเข้<wbr>าสู่ด้านมืดโดยไม่รู้เนื้อรู้ ตั<wbr>ว

ผมขอ ให้คุณๆมองอย่างนี้ครับว่า ยิ่งหาทางแก้ความคิดไม่ดี ก็ยิ่งตอกย้ำให้กลุ้มว่าเราคื<wbr>อเจ้าของความคิดไม่ดี อย่าไปทำอย่างนั้นเลย หาทางเป็นคนละข้างกับมันดีกว่า

วิธี การก็ไม่ได้ยุ่งยาก และสามารถทำได้จริง คือ ในแต่ละครั้งที่ความคิดเลวร้<wbr>ายมันผุดขึ้นในหัว ให้ดูว่ามันมาเอง เราไม่ได้เชิญ!

ก็ถ้า เราไม่ได้พามันมา เราไม่ได้เป็นฝ่ายเชื้อเชิญมัน แล้วทำไมมันจะต้องเป็นความรับผิ<wbr>ดชอบของเราด้วย?

สิ่ง ใดเกิดขึ้นในหัวของเรา ไม่ได้หมายความว่ามันเป็นตั<wbr>วเราหรือของเราเสมอไป ยกตัวอย่างเช่นถ้าคุณไปเก็<wbr>บตกคำด่าที่สาดกระจายเรี่<wbr>ยราดตามเว็บ บอร์ด แล้วเอามานั่งกลุ้ม เพราะคำนั้นดันติดแน่นฝังหัว ผุดขึ้นในหัวของคุณบ่อย ทั้งๆที่คุณไม่อยากให้มีคำนั้<wbr>นขึ้นมาในโลก อย่างนี้ให้ตั้งหลัก ตั้งสติ แล้วคิดย้อนศรง่ายๆว่าคำหยาบเป็<wbr>นวจีทุจริตของคนอื่น เป็นการจงใจสื่อสารที่ชั่วร้<wbr>ายของ คนอื่น มันไม่ใช่คำของคุณมาแต่แรก คุณไม่ได้ชั่วร้ายอย่างเขา แต่คุณ "เคราะห์ร้าย" ที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไปเกิดความเกลียดคำๆนั้นเข้า จิตเลยเกิดอาการยึดคำนั้นไว้เต็<wbr>มเหนี่ยวด้วยพลังมืดของความเกลี<wbr>ยด ดังกล่าวไว้แล้วแต่ต้น

เมื่อ ยึดมากก็หวนกลับมาคิดมาก และยิ่งรู้สึกคล้ายเป็นเจ้<wbr>าของความคิดเสียเอง มากขึ้นทุกที การทึกทักหลงยึดว่าความคิดนั้<wbr>นๆเป็นของคุณ เป็นตัวคุณนั่นแหละ ก่อความรู้สึกผิดขึ้นมา จนกระวนกระวายเสียสุขภาพจิตเปล่<wbr>าๆ

พอ พิจารณาอย่างละเอียดเท่านี้ คุณจะเริ่มโล่งใจ สบายใจขึ้น อย่างน้อยก็มีแก่ใจจะรับมือกั<wbr>บความคิดเลวร้ายอย่างถูกต้อง นั่นคือ ไม่ไปให้ "อาหาร" หล่อเลี้ยงมันด้วยความรู้เท่<wbr>าไม่ถึงการณ์ซ้ำซ้อน ทั้งในทางคล้อยตามมันไป และในทางต่อต้านปฏิเสธจะไม่<wbr>ยอมให้มันมา

ทำไม จึงไม่ควรต่อต้าน? อย่าง ที่ผมกล่าวแล้วว่ายิ่งเกลี<wbr>ยดแปลว่ายิ่งยึด ส่วนการต่อต้านก็คือยิ่งตอกย้<wbr>ำความเกลียดเข้าไปใหญ่ แล้วเมื่อไรใจจะเลิกยึดได้เล่า?

ท่าที ที่ถูกต้องคืออย่างไร? ประการ แรกคุณต้องยอมรับตามจริ<wbr>งโดยดุษณีว่าความคิดเลวร้ายมั<wbr>นเกิดขึ้นใน หัวของคุณ และนอกจากจะเห็นมันมาเองโดยคุ<wbr>ณไม่ได้เชิญแล้ว ยังต้องเห็นว่ามันไปเองได้<wbr>โดยไม่ต้องขับไล่อีกด้วย ขอแค่ใจเย็น เฝ้าดู และไม่แคร์ว่าจะต้องดูกี่ร้อยกี<wbr>่พันรอบก็ตาม

พอคุณ เฉยๆในอาการยอมรับว่ามั<wbr>นมาเองและไปเอง ขณะนั้นจิตของคุณจะประกอบด้<wbr>วยสติ รับตามจริง รู้ตามจริง ไม่หลอกตัวเอง บ่อยครั้งเข้าในที่สุดจะได้ข้<wbr>อสรุปเป็นความสบายใจอย่างมีสติ<wbr>รู้ ว่ามันไม่ใช่เรา เราไม่เห็นจะต้องไปให้ความร่<wbr>วมมือหรือต่อต้านมันเลยแม้แต่นิ<wbr>ดเดียว

ผล พลอยได้ที่ตามมาคือคุณจะไม่<wbr>ใช่พวกรักแรงเกินไป เกลียดแรงเกินไป คือรักได้และเกลียดได้นะครับ แต่ไม่เกินขีด ไม่แปรความรักและความเกลี<wbr>ยดมาเป็นความยึดแน่นให้เป็นทุ<wbr>กข์เปล่า

ดัง ตฤณ
จากบท ความ "ทำยังไงดี"
นิตยสาร Miracle of Life ฉบับ เดือนพฤษภาคม ๕๓
http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1809071

 

อนุโมทนาค่ะ อ่านแล้วได้ความรู้ดีๆนำไปปฎิบัติมากมายจริงๆ
เรานี่มาทั้งภาพทั้งคำพูด หนักหนาสาหัส เป็นมานาน กำลังฝึกดูอยู่ค่ะ

ฝึกให้ตัวเองเป็นคนไม่ยึดติดด้วย ดีมากๆล่ะค่ะ

 

อนุโมทนากับหลักสอนดีๆที่นำมาเผยแพร่ค่ะ
เป็นประโยชน์มากค่ะ
สาธุ