เอเลี่ยน..! ผู้มาจากต่างดาว มาดี..หรือ..มาร้าย?

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย sron2006, 12 ธันวาคม 2010.

  1. sron2006

    sron2006 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    541
    ค่าพลัง:
    +1,202
    [​IMG]


    เอเลี่ยน..! ผู้มาจากต่างดาว มาดี..หรือ..มาร้าย?

    ไม่ใช่เป็นการพูดเอามันส์อีกแล้วสำหรับผู้มาจากต่างดาว เดินทางมาถึงโลก หรือ ดวงดาวสีน้ำเงิน นักวิทยาศาสตร์ พิสิกซ์ ชั้นยอด 2 คน ของโลก ต่างยืนยัน...เขามาแล้ว แต่มาดี หรือ มาร้าย ยังไม่รู้
    เมื่อเร็ว ๆ นี้ นักวิทยาศาสตร์ คนดัง ของโลกชาวอังกฤษผู้เชี่ยวชาญด้านฟิสิกซ์อวกาศ สตีเวน ฮอว์กิน ได้ออกมากล่าวเตือนชาวโลกว่าเมื่อมนุษย์ต่างดาวมาถึงโลกแล้วอาจเป็น ภัยต่อมนุษย์โลกและไม่มีข้อสงสัยอะไรอีกแล้วว่า มนุษย์ต่างดาวมีจริงหรือไม่
    สตีเฟน ฮอว์กินปัจจุบันป่วยเป็น โรคเส้นประสาทกล้ามเนื้อทั่วร่างกายไม่ทำงาน เขาจึงเดิน และเคลื่อนไหวไม่ได้ แม้แต่คอเอียง ไปด้านหนึ่งตลอดเวลาใช้ชีวิตอยู่บนรถเข็น ตลอดเวลาแต่มันสมองของเขายังคงปราดเปรื่อง
    สตีเฟนยืนยันในการแถลงข่าวครั้งนี้ ว่าจากการคำนวณด้วยสมองของตนเอง มีมนุษย์ต่างดาว หรือ เอเลี่ยนแน่นอน เพราะ ในจักรวาล มีกาแล็คซี่ ต่าง ๆ กว่าแสนล้าน แห่งแต่ละกาแล็กซี่มีดวงตาอีกหลายร้อยล้านดวง ทำให้เป็นเรื่องยากที่คิดสรุปว่า โลกของเราเป็น เพียงดวงดาวเดียวที่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ใน จักรวาลทั้งระบบ
    กับคำถามว่าแล้วมนุษย์ต่างดาวผู้ ทรงภูมิปัญญายิ่งกว่ามนุษย์เดินทางมาถึง โลกหรือยังนั้นคงไม่เป็นคำถามที่น่าสนใจอีก ต่อไปเพราะคำถามที่น่าสนใจที่สุดคือ มนุษย์โลกสามารถพัฒนาเทคโนโลยีถึงขั้น ติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวได้หรือไม่
    ตัวตนของมนุษย์ต่างดาวมีแน่นอน แต่อยู่ในรูปแบบอะไร เป็นสสาร หรือ พลัง หรือ เป็นอะตอม หรือ อณู แปรเปลี่ยนรูปแบบได้ ตามใจชอบ
    สำหรับรูปร่างเอเลี่ยน รูปร่างผอมสูง เหมือนโครงร่างคนหัวโต ตาโต เหมือนลูก อัลมอนด์ไม่มีจมูกมีปากเล็ก ๆ ไม่มีใบหู ผิวกาย เทาอมเขียวล้วนเป็นจินตนาการได้จากหนัง ฮอลลีวู๊ด
    ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์ด้านดารา ศาสตร์อวกาศก็สร้างจินตนาการเอาว่ารูป ร่างรูปแบบของสิ่งมีชีวิตจากต่างดาวน่าจะเป็น สิ่งมีชีวิตเรืองแสงได้ คล้ายปลาหมึกหรือเป็น สัตว์นักล่าสีเหลืองสด สามารถฆ่าเหยื่อได้โดยการ ใช้หางแหลมทิ่มแทงดังรูปโฉมในหนังเรื่อง พรีเดเตอร์
    ทั้งหมดล้วนเป็นข้อสันนิษฐานเพราะไม่มีใครในโลกสามารถมองเห็น หรือสัมผัสตัวตนที่แท้จริงของสิ่งมีชีวิตจากต่างดาวได้
    มีสิ่งหนึ่งที่แน่นอนที่สุดมนุษย์ต่างดาว คือผู้ทรงภูมิปัญญาเหนือกว่ามนุษย์โลก มีเทคโนโลยีก้าวหน้ากว่าโลกเป็นพันปีหรือ หมื่นปี เพราะมิฉะนั้นแล้ว พวกเขาไม่อาจเดิน ทางไกลเป็นระยะทางหลายร้อยหลายพันปีแสงมาถึงดาวโลกได้
    สตีเฟน อธิบายอีกว่า หากเอเลี่ยนมาถึงโลกเมื่อใด ผลที่เกิดขึ้นจะเป็นเช่นเดียวกัน ที่เรือใบ 3 เสา ของคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส ผู้ค้นพบทวีปอเมริกาเป็นคนแรก ซึ่งแน่นอนว่า ผู้มาเยือนอาจมีทัศนคติไม่ดีนักต่อชนเผ่า อินเดียนแดงท้องถิ่น ซึ่งมีสภาพชีวิตของสังคม ด้อยพัฒนาในทุกด้าน
    จึงมีความเป็นไปได้ว่าเมื่อมนุษย์ ต่างดาวมาถึงพบว่าชาวโลกใช้ประโยชน์ใช้สอย ได้อีก ก็จะไล่ล่าทำลายล้างเหมือนคนผิวขาว ไล่ล่าอินเดียนแดงจนเกือบสิ้นเผ่าพันธุ์
    ในยุคปัจจุบัน จึงเป็นไปได้ว่ามีกลุ่มเอเลี่ยนที่มีวิวัฒนาการสูงส่ง ออกเดินทาง เร่ร่อนไปในจักรวาลเพื่อค้นหาอาณานิคมดังนั้น จึงกล่าวว่าไม่รู้โชคดีหรือร้ายหากเอเลี่ยน มาถึงโลกของเราแล้ว
    การพูดอย่างเปิดอกของสตีเฟน ฮอว์กิน ครั้งนี้ เป็นไปในลักษณะ “คนรู้ไม่พูด คนพูดไม่รู้” ปกติแล้ว สตีเฟน เป็นคนพูดน้อยมากจนถึงระดับไม่เคยพูดอะไรเป็นสัปดาห์ เป็นเดือน แต่สมองของเขาทำงานอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นการออกมาเตือนภัยมนุษย์ต่างดาวครั้งนี้ จึงบอกให้รู้ว่าเขาอยู่ในสภาพเหลืออดเหลือทนที่ชาวโลกต้องเผชิญหน้ากับภัยร้ายแรงโดย ไม่รู้อะไรเลย
    ทั้งนี้เมื่อหลายปีก่อน องค์การอวกาศ แห่งสหรัฐอเมริกา หรือ นาซ่า จัดทำโครงการ ใหญ่เพื่อติดต่อกับสิ่งมีชีวิตนอกโลกหลายครั้ง หลายหน เช่นส่งยานอวกาศไพโอเนียร์ 10 และ 11ขึ้นสู่อวกาศในปีค.ศ.1972และปี 1973 พร้อมติดตั้งภาพเปลือยผู้ชายผู้หญิงของ มนุษย์โลกรวมทั้งสัญลักษณ์ให้รู้ว่าตำแหน่ง ของโลกอยู่ที่ใดในจักรวาล
    ต่อมาได้ส่งยานอวกาศโวยาจเจอร์ 1 และ 2 ขึ้นสู่อวกาศอีก ในปี 1977 พร้อมแผ่น โฟโนแกรม ทำจากทองคำ ซึ่งมีการบันทึกเสียง และภาพของโลกเอาไว้ ซึ่งยานอวกาศทั้งหมด เดินทางร่อนเร่ไปในอวกาศ เพื่อว่าสักวันหนึ่ง ได้พบกับสิ่งมีชีวิตต่างดาว
    ล่าสุดในปี ค.ศ.2008 หรือ 2 ปี ที่ผ่านมา องค์การน่าซ่ายังได้ส่งคลื่นเสียงเพลง “อะครอส ดิ ยูนิเวิร์ส” หรือ ข้ามผ่านจักรวาล ของวงเดอะปีเติลส์ ไปยังจักรวาลอื่น ๆ เพื่อส่งข้อฃวามสันติภาพไปยังมนุษย์ต่างดาว ซึ่งอาจอาศัยอยู่ในกลุ่มดาวเหนือ
    องค์การ “เซตี” ได้รับสัญญาณจาก นอกโลกตอบกลับมาอย่างน้อย 2 ครั้ง แต่ไม่มีใครในโลกถอดรหัสสัญญาณได้ว่า หมายถึงอะไร
    องค์การเซตี หรือ หน่วยงานวิจัย ค้นหาสิ่งมีชีวิตผู้ทรงภูมิปัญญาจากนอกโลก (SETI) เพื่อแถลงเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า แท้จริงแล้ว มนุษย์ต่างดาว อาจนั่งดูโศกนาฎกรรมชีวิต บนโลกมนุษย์อยู่ เหมือนนั่งดูละครโทรทัศน์ น้ำเน่า
    แฟงค์ เดร็ค อายุ 79 ปีนักวิทยาศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านดาราศาสตร์อวกาศ ชาวอเมริกัน ผู้ก่อตั้งองค์กรณ์การเซตี กล่าวยืนยันว่า “ผู้มา จากนอกโลก กำลังยืนดูศึกสงครามความ ขัดแย้งที่มนุษย์โลกกำลังไล่ล่ากันชนิดเลือด ท่วมจอภาพเหตุการณ์เช่นนี้ ทำให้มนุษย์ต่างดาว สรุปได้แล้วว่า เกิดอะไรขึ้นบนดวงดาวสีน้ำเงิน เราอยู่อย่างอารยะชน หรือคนป่าเถื่อน”
    “ในทางกลับกันกรณีที่มนุษย์ ต่างดาวไม่ตอบกลับมายังโลก อาจมีเหตุผล 2 กรณี ประการแรก เอเลี่ยนมองว่าชาวโลก เป็นสิ่งมีชีวิตไม่มีคุณค่าพอที่พวกเขาสมควร คบหาสมาคม อย่างฉันท์มิตรได้ ประการที่สอง แรงส่งคลื่นวิทยุไมโครเวฟ ไปยังดวงดาวต่างๆ นั้นด้วยเทคโนโลยี และ มีกำลังส่งแค่น้อยนิด ไปไม่ถึงถิ่นที่อยูในสภาพคว้าน้ำเหลว” แฟรงค์ ผู้ก่อตั้งเซตีกล่าว
    ทำลายเผ่าพันธุ์มนุษย์ยุคนี้ทิ้งไป เพราะนับวันเป็นอันตรายต่อโลกและดวงดาว อื่น ๆ หรือ เก็บเอาไว้เพื่อเอาเป็นอาณานิคม กวาดต้องคนไปเป็นทาสเหมือนประวัติศาสตร์โลก เมื่อ 400 ปีก่อน เป็นยุคคนผิวขาวผู้ฉลาดกว่า จากทวีปยุโรปออกล่าดินแดนอาณานิคมจากชน เผ่าที่ด้อยพัฒนากว่า
    อย่างไรก็ตาม นักยูเอฟโอ. ชาว อังกฤษผู้หนึ่ง ยืนยันว่ามนุษย์ต่างดาวอย่างน้อย 2 ชนเผ่าเดินทางมาถึงโลก เมื่อราว 5,000 ปีก่อน ดังจะพบว่ามนุษย์โลกได้พัฒนาเทค โนโลยีขึ้นอย่างกะทันหันจากยุคออกจากถ้ำ รู้จักโละ รู้จักปลูกพืช แล้วเจริญพรวดพราดมา เป็นผู้สร้างพีระมิดที่อียิปต์ ค้นพบวิธีทำดิน ปืนที่จีน ค้นพบวิธีทำวงล้อรถโดยชาวกรีกโบราณ ตลอดจนการรู้วิธีจดบันทึกประสบการณ์ตัวเอง เพื่อพัฒนาประสบการณ์เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
    นัก ยู เอฟ โอ. วิตกผู้นี้อธิบายอีกว่า วิธีพัฒนาเทคโนโลยีแก่มนุษย์โลกโดยมนุษย์ ต่างดาวมี 2 วิธี ฃือ ถ่ายทอดวิทยาการความรู้ให้ โดยตรงจากบันทึก นักปราชญ์ชาวกรีกเมื่อ 4,000 ปี ก่อน มีสิ่งมีชีวิตขึ้นจากทะเลมา สั่งสอนวิทยาการแก่ชนเผ่าที่อยู่ริมทะเลสิ่งมี ชีวิตนั้นมีรูปร่างฃล้ายปลา มีเกล็ดเขียวทั้งตัว
    วิธีที่ 2 คือ พัฒนาสายพันธุ์มนุษย์ โดยการโคลนนิ่ง โครงสร้าง ดีเอ็นเอ. มนุษย์ ต่างดาวเข้ากับเชื้อพันธุ์ของชาวโลก วิธีนี้ทำให้ ชาวโลกที่ผ่านการโคลนนิ่งสามารถพัฒนา ตัวเองขึ้นสู่จุดสูงสุดได้แฃ่ชั่วข้าวคืนเท่านั้น
    นัก ยู เอฟ โอ.วิทยาชี้ให้เห็นว่ามนุษย์ โลกสามารถพัฒนาเทคโนโลยีได้เร็วมากอย่าง เหลือเชื่อ เมื่อ 100 กว่าปีก่อน พี่น้องตระกูลไรท์ เพิ่งสร้างเครื่องบินลำแสงได้สำเร็จเวลาผ่านไป ร้อยกว่าปีเท่านั้นนักวิทยาศาสตร์สร้างยาน อวกาศเดินทางไปสำรวจถึงขอบนอกของสุริย จักรวาลได้แล้ว วิวัฒนาของมนุษย์เช่นนี้ คงไม่ใช่เป็นไป อย่างบังเอิญอย่าง แน่นอนต้องมี สิ่งที่อยู่เบื้องหลัง แต่ก่อนคนเราคิด ว่าเป็นการกระ ทำโดยพระเจ้าแต่ เวลานี้เรามั่นใจ เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ เป็นฝีมือผู้ทรง ภูมิปัญญาจาก ต่างดาว
    “มีคำ ถามว่าแล้วมนุษย์ ต่างดาวเร่งวิวัฒนา การมนุษย์โลก ไปเผื่ออะไร? แต่ ก่อนไม่มีคำตอบ เวลานี้นักวิทยาศาสตร์หลายคนพบว่าการ ปลูกพืชก็ย่อมหวังผลดังนั้นการเร่งให้สายพันธุ์มนุษย์ ฉลาดขึ้นให้เทคโนโลยีทั้งทางตรงและทางอ้อม ก็เพื่อให้มนุษย์โลกพัฒนาตัวเองไปถึงจุด ๆ หนึ่ง ซึ่งมนุษย์ต่างดาวสามารถใช้ประโยชน์ได้”
    “เหมือนเจ้าของฟาร์มเลี้ยงไก่ ต้องเลี้ยงไก่ให้อ้วน มีน้ำหนักดี ปราศจากโลก ทำให้ขายได้ราคา หรือเอาไปเชือดกินก็คุ้มค่า เช่นเดียวกัน หากใครต้องการทาสผู้รับใช้ ไม่เพียง ให้เขาแต่งตัวสะอาดเท่านั้น ต้องเฉลียวฉลาด พอสมควรด้วย” นัก ยู เอฟ โอ. ชาวอังกฤษ กล่าววิเคราะห์อย่างน่าฟัง
    นักวิยาศาสตร์ ผู้ทำวิจัยเกี่ยวกับ มนุษย์ต่างดาวระบุว่า การติดต่อกับชาวโลก โดยมนุษย์ต่างดาว แบ่งออกเป็น 5 ระดับ ระดับแรก หรือ เฟิร์สต ดายด์ การเดินทางมาถึงโลก ระดับที่ 2 ปรากฏตัวให้ชาวโลกเห็น เห็นทั้งรูปจำลอง และ ยานอวกาศ ระดับที่ 3 แอบดู แอบฟัง เพื่อเก็บ ข้อมูล ระดับที่ 4 ลักพาตัวขึ้นยานเพื่อสแกน ตรวจสอบร่างกายอย่างละเอียดระดับที่ 5 เร่งวิวัฒนาการมนุษย์ ซึ่งตรงกับสถานการณ์ ปัจจุบันระดับที่ 6ครอบครองและปรากฏตัวตน ที่แท้จริง
    “เราเคยตั้งทฤษฎีเพื่ออธิบายว่า มนุษย์จากต่างดาว ควรมีรูปร่างอะไรสัมมนากัน หลายครั้ง มีข้อสรุปตรงกันประการเดียวว่า สิ่งที่มนุษย์โลกเคยเผชิญหน้ากับมนุษย์ต่างดาว ล้วนเป็นรูปสมมติทั้งสิ้น ตัวตนที่แท้จริง เป็นอะไรอย่างไร ไม่มีใครในโลกสามารถ รู้ได้”
    “แต่มีทฤษฎี หนึ่งน่าสนใจผู้มาจาก นอกโลกน่าจะเป็นพลังงานรูปแบบหนึ่ง ซึ่งไม่มีสภาพ แต่สามารถแปรเปลี่ยนเป็น อะไรก็ได้ เพื่อให้เข้ากับสภาพแวดล้อม ดังที่พระชาวทิเบตอธิบายว่า เป็นดวงจิต หรือ ดวงวิญญาณก็ได้”
    “ซึ่งเช่นนี้ มีความเป็นไปได้สูง เพราะมีแต่พลังงานไร้สภาพหรือ ดวงจิตเท่านั้น ที่สามารถเดินทางข้ามผ่านมิติแห่งกาลเวลา หรือเดินทางด้วยความเร็วสูงกว่าการเดินทาง ของแสงโดยที่ไม่ได้ความเสียหาย” นัก ยู เอฟ โอ. วิทยาคนเดิมกล่าว
    “ทีมงานวิจัยของเรา จึงขอสรุปว่า มนุษย์ต่างดาวเดินทางมาถึงโลกนานแล้ว แต่จะมาดีมาร้าย กาลเวลาเท่านั้นที่จะ บอกได้”
    ที่มา : plak.nokroo
     
  2. พหูรูด

    พหูรูด Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2010
    โพสต์:
    30
    ค่าพลัง:
    +26
    wow..............ทำไงดีอ่ะครับ
     
  3. Phusaard

    Phusaard เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    436
    ค่าพลัง:
    +349
    ขึ้นอยู่กับว่า พวกดีกับพวกร้าย พวกไหนจะมาถึงก่อน
     
  4. ratercracker

    ratercracker เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    484
    ค่าพลัง:
    +729
    ได้ข้อมูลมาจากไหนครับท่าน ใช้ได้เลย
     
  5. มโหสถผู้เจริญ

    มโหสถผู้เจริญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2006
    โพสต์:
    250
    ค่าพลัง:
    +851
    ถ้าฮอกิ้งใช้สมองของเขาศึกษา พระพุทธศาสนา แล้วนำไปเตือนชาวโลก
    จะมีใครฮืฮาใหมหนอ
     
  6. สิบหก

    สิบหก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    680
    ค่าพลัง:
    +603
    การทำลายล้างเผ่าอินเดียแดง เป็นสันดานของมนุษย์ที่เจริญกว่าอย่างนั้นหรือ เลยเปรียบเทียบว่ามนูษย์ต่างดาว ก็มี สันดานคล้ายมนุษย์อย่างนั้น หรือ ผมว่าพวกที่เจริญกว่าทั้งเทคโนโลยี่และจิตใจที่สูงกว่า ยกตัวอย่าง ลองสังเกตุ คนที่รักสัตว์เลี้ยงกับคนที่ไม่ชอบสัตว์ จิตใจก็ห่างกันลิบลับ กับ คนที่ชอบดื่มเหล้า ขี้เมา ขี้โมโห กับ คนที่ไม่ดื่ม แต่รักษาศีล ทำทาน เจริญภาวนา คุณคิดว่าคน ดังตัวอย่าง มีความรู้สึกนึกคิดเหมือนกันไหม ............. อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด มนุษย์อย่างเรา จะไปทำอะไรได้
     
  7. เมษามายา

    เมษามายา Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +75
    เอเลี่ยน

    สุดยอด....... เข้ากับหลักคำสอนของพระพุทธศาสนาหมดเลย ไม่ต้องสงสัย
     
  8. วิถีคนจร

    วิถีคนจร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    696
    ค่าพลัง:
    +226
  9. วิถีคนจร

    วิถีคนจร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    696
    ค่าพลัง:
    +226
    พวกดีก็มีครับ แต่ตอนนี้ที่มีมาคือไม่ค่อยหวังดีซักเท่าไหร แต่ไม่ค่อยชัดเจน
    ว่าต้องการอะไร ตอนนี้เป็นขั้นตอนพาไปสัมผัส พาไปดูUfoอยู่นะครับ

    ๊Ufo ทุกวันนี้อาจไม่มีจริงก็ได้ แต่ที่เราเห็นอาจเป็นเพียงสิ่งจำลองเพื่อชักชวนก็ได้
     
  10. EBE

    EBE สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +2
    จะมาดีเรามนุษย์โลกก็ตอนรับครับ
    แต่ถ้ามาร้ายเราก็ยินดีที่จะโต้กลับ จากอาวุธทุกชนิด
     
  11. วิถีคนจร

    วิถีคนจร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    696
    ค่าพลัง:
    +226
    ตอบดต้มันไม่ได้หรอกนะครับ มันไม่ได้ทำสงครามวัตถุ มันหลอนจิตเราทุกวันๆๆๆๆๆๆ ผ่านสื่อต่างๆๆๆๆ เวลบาเราสนใจ Ufo นะเราจบพบเรื่อง Ufo บ่อยๆเลย
    สังเกตุไหม
     
  12. น้ำดี1

    น้ำดี1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    13,402
    ค่าพลัง:
    +43,432
    ขอให้มาดีก็แล้วกัน...............
     
  13. คนขวางโลก

    คนขวางโลก Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +28
    จิตแพทย์ มักพูดว่า มนุษย์มักจะมองสิ่งต่างๆ ตามพื้นฐานจิตของตน เช่น

    คนดีก็มักมองโลกในแง่ดี ที่ผู้มีอภิญญา ถือศีล นั่งสมาธิจนจิตสามารถ

    ติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวได้ ก็มักจะคิดว่า มนุษย์ต่างดาว มาดี ตามพื้นฐานจิต

    ที่ดีของตัวเอง มนุษย์ต่างดาวอาจจะแสร้งทำจิตตัวเองให้ดีได้หรือเปล่า

    หรือ จิตดีจะจูนคลื่นได้กับจิตดีเหมือนกันเท่านั้นหรือเปล่า ผมก็ไม่รู้


    ส่วนตัวไม่รู้ว่าเขาจะมาดี หรือ มาร้าย แต่ที่มั่นใจอยู่อย่างหนึ่ง

    คือ ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต ไม่ว่าจะชั้นสูงหรือต่ำ แค่ไหน ก็จะมี สิ่งหนึ่งที่มี

    เหมือนกัน นั้นคือ สัญชาตญาณในการเอาตัวรอด เพราะ ถ้าสิ่งมีชีวิต ไม่มีสิ่งนี้

    ก็คงสูญพันธุ์ไปหมด (ขนาด พืชเคลื่อนไหวไม่ได้ ยังพยายามแพร่พันธุ์

    โดยใช้ละอองเกสรปลิวไปตามลม หรือ ใช้ นก และ แมลง ในการช่วยผสมพันธุ์ เลย

    เพราะสัญชาตญาณในการเอาตัวรอด ไม่ให้เผ่าพันธ์สูญพันธุ์ )

    ดั่งนั้นต่อให้สิ่งมีชีวิต ชั้นสูงแค่ไหน ถ้าเกิดเผ่าพันธุ์เขากำลังมีปัญหา

    จนต้องการโลกของเรา ก็คงพูดได้ยากว่า พวกเขาเลือกที่จะสูญพันธุ์ไปเอง

    โดยไม่เบียดเบียนสิ่งมีชีวิตที่อยู่ต่ำกว่าในห่วงโซ่อาหารตามกฎธรรมชาติ


    โลกของเราเปรียบได้กับ โอเอซิส กลางจักรวาล อาจจะมีดวงดาวแบบโลก

    อีกเยอะ แต่ ถ้าเทียบกับ ดาวที่สิ่งมีชีวิตไม่สามารถอาศัยอยู่ได้แล้ว ดาวแบบ

    โลก มันมีน้อยกว่ามากๆ เมื่อก่อน มนุษย์ด้วยกันเอง ยังล่าอณานิคม ฆ่าฟัน

    กันเองอยู่บ่อยๆ เดี๋ยวนี้ก็ยังมีแต่ก็พยายามทำให้ดูไม่น่าเกลียดมาก อย่าง

    สหรัฐ กับ อีรัก ยิ่งกับสัตว์ป่า ที่อยู่ใต้ห่วงโซ่อาหารของเรา เรายัง

    ทำลายป่า รุกรานอณานิคม โดยไม่สนใจ ถ้ามีเผ่าพันธุ์อื่นที่มีเทคโนโลยี

    เหนือกว่าเรามาอยู่บนสุดของห่วงโซ่อาหารแทนเรา ก็ไม่แปลกที่เขาจะทำกับ

    เราเหมือนที่เราทำกับสัตว์ป่า


    โดยส่วนตัว คิดว่ามนุษย์ต่างดาวมีทั้งดีและไม่ดี แต่ก็พอจะเข้าใจที่

    สตีเวน ฮอว์กิน คิด คือมองมนุษย์ต่างดาวในแง่ไม่ดี ไว้ก่อน เพราะว่า

    ถ้ามนุษย์ต่างดาว ที่มีเทคโนโลยีเหนือกว่ามนุษย์มาที่โลกจริง มนุษย์ก็จะไม่

    ใช่สิ่งมีชีวิตที่อยู่บนสุดของห่วงโซ่อาหารของโลกอีกต่อไป

    คุณคงไม่อยากนึกภาพ มนุษย์ ถูกเลี้ยงไว้ใช้แรงงาน ถูกจับขังไว้ดูเล่น

    ถูกล่าเพื่อความสนุก หรือ ถูกฟาร์มเลี้ยงไว้เป็นอาหาร ซึ่งเป็นสิ่งที่มนุษย์

    ได้ทำไว้กับสิ่งมีชีวิตอื่นๆ และหวังว่ามนุษย์อย่างพวกเราคงจะไม่มีวันแบบนั้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 ธันวาคม 2010
  14. leonids

    leonids เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    116
    ค่าพลัง:
    +103
    น่าจะมีทั้งดี และไม่ดีนะ
     
  15. Siani_3D

    Siani_3D เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    723
    ค่าพลัง:
    +607
    น่าจะที่นี้ครับ

    แปลกทะลุโลก

    (พอดีผมเป็นแฟนคลับของนิตสารนี้)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 ธันวาคม 2010
  16. อาจีฟา

    อาจีฟา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    199
    ค่าพลัง:
    +307
    เป็นไปได้ไหมว่า ufo ทีพบเห็นกันบางส่วนจะถูกสร้างขึ้นจากกลุ่มมนุษย์ในโลก
    ที่ค้นพบเทคโนโลยีของแอตแลนติสแล้วนำมาสร้างเป็นระบบของมนุษย์ต่างดาวขึ้น
    โดยส่วนตัวคิดว่า มนตด ของจริงน่าจะรูปร่างหน้าตาเหมือนคน มีอารยธรรมจิตใจที่สูงกว่า แล้วคงไม่ไ่ด้มาให้พบเห็นกันบ่อยมากนัก
     

แชร์หน้านี้

Loading...