ใครศรัทธา หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด มาพูดคุยกันครับ

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย คุณสนุก, 4 พฤศจิกายน 2010.

  1. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,204

    สวัสดีค่ะ....วัดพังเถี้ยะ....อยู่แถวไหนของสงขลาค่ะ....rabbit_run_away
    หลวงปู่ทวด ของสมาชิก งดงามทั้งนั้นนะคะ
     
  2. phattharaphong

    phattharaphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    758
    ค่าพลัง:
    +11,459

    ใกล้ ๆ กับวัดดีหลวง ครับ

    ปัจจุบันวัดพงเถียะมีพระสงฆ์จำพรรษาอยู่รูปเดี่ยว คือ พระครูเฉลียว ดำรงค์ตำแหน่งเจ้าอาวาส พระครูเฉลียวท่านเป็นพระนักปฏิบัติที่เคร่งครัดมาก พระหนุ่ม ๆ มาบวชแล้วไม่ตั้งใจปฏิบัติท่านจะนิมนต์ให้ไปอยู่วัดอื่นครับ พระครูเฉลียว ได้รับนิมิตจากองค์สมเด็จหลวงปู่ทวด ให้สร้างหลวงปู่ทวด ปี 05 วัดพังเถียะ เพื่อแจกจ่ายแก่ผู้ศรัทธาที่มาร่วมบุญในสมัยนั้น ท่านจึงนำความไปปรึกษากับพระอาจารย์ทิม พระอาจารย์ทิมจึงเป็นเจ้าพิธีและปลุกเสกให้จนเรียบร้อย ปัจจุบันท่านกำลังคิดจะสร้างซุ้มประตูหน้าวัดครับ จะสร้างแบบวัดสระเกศ จ.สงขลา คาดว่าท่านยังคงขาดปัจจัยอีกจำนวนมากครับ เพราะท่านทำของท่านองค์เดียว พระอุโบสถของวัดพังเถียะ ท่านสร้างของท่านองค์เดียวเริ่มสร้างตั้งแต่ปี 2535 แล้วเสร็จปี 2551 นานนับสิบปีเลยครับ ใครว่าง ๆ ไปไหว้หลวงปู่ทวด วัดพะโค๊ะ น่าจะแวะวัดพังเถียะ ทำบุญบูชาหลวงปู่ทวด เก่า ๆ ของทางวัดมีหลายรุ่นแล้วแต่จะเลือกหากับท่านพระครูเฉลียว ก็ดีครับ
    พุทธคุณล้วน ๆ ไม่ใช่พุทธพานิชย์

    อนุญาติลงเบอร์ติดต่อทางวัดน่ะครับ
    074 397082 089 8766306
     
  3. ล้างใจ

    ล้างใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    7,268
    ค่าพลัง:
    +24,819
    อ่าาาาาาาา:eek:
     
  4. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,204
    ค่ะ ขอบคุณค่ะ แสดงว่าขับรถผ่านไม่ได้สังเกตเลยค่ะ คิดว่าจะไปบ้านญาติแถววัดสีหยังพอดี...จะแวะเข้าไปดูค่ะ วัดทางใต้น่าทำบุญค่ะ...พระท่านก็ให้ความเมตตา อย่างเจ้าอาวาสวัดสีหยัง...วันก่อนไปที่วัดท่านก็เมตตา พาชมวัดค่ะ... ปีที่แล้วไปเรียนท่านเรื่องการหล่อพระหลวงปู่ทวดรุ่นอุบัติภัย...ที่เชียงใหม่ ท่านก็มอบพระหลวงปู่ทวดวัดสีหยัง ปี 2541 ไปให้ญาติโยมทางเหนือได้บูชาหลวงปู่ทวดกัน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 10 ธันวาคม 2010
  5. ล้างใจ

    ล้างใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    7,268
    ค่าพลัง:
    +24,819
    มีใครทราบปล่าวครับ ปีไหน ขอบคุณครับyimm

    [​IMG]




    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 2.jpg
      2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      106.9 KB
      เปิดดู:
      1,411
    • 3.jpg
      3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      70.3 KB
      เปิดดู:
      1,329
  6. kriengkripob

    kriengkripob เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,326
    ค่าพลัง:
    +2,048
    อนุโมทนา ศรัทธาและเคารพหลวงพ่อทวดมาตลอด (ปี 2555 จะครบ 50 ปี) หลวงพ่อทวด ปี05 เตารีดใหญ่A เนื้อเหลือง หล่อวัด ไม่รู้ว่าราคาจะพุ่งไปถึงสิ้นสุดที่ไหน สาธุ สาธุ
     
  7. ล้างใจ

    ล้างใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    7,268
    ค่าพลัง:
    +24,819
    .......................:cool:
     
  8. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,204
    อนันต์ คณานุรักษ์ ซึ่งเป็นผู้บันทึกเรื่องราวของหลวงปู่ทวดมาแต่เริ่มแรกได้กล่าวว่า
    สมเด็จเจ้าพะโคะหรือพระราชมุนีสามีรามคุณูปมาจารย์ ครองสมณเพศจำพรรษาอยู่วัดพะโคะ เป็นที่พึ่งของประชาราษฏร์มีความร่มเย็นเป็นสุข ได้ช่วยการเจ็บไข้ได้ทุกข์บำรุงสุข เทศนาสั่งสอนธรรมของพระพุทธองค์ ประดุจร่มโพธิ์ร่มไทรของปวงพุทธศานิกชนได้ตลอดเวลา โดยตอนนี้ได้รับความกรุณาจากพระอุปชฌาย์ดำ ดิสสโร สำนักวัดศิลาลอย อำเภอจะทิ้งพระ เป็นผู้เล่าตามนิยายต่อกันมา โดยท่านพระครูวิริยานุรักษ์ วัดตานีนสโมสร บันทึกมาให้ผู้เขียนความดังต่อไปนี้

    ในสมัยสมเด็จเจ้าพะโคะ พำนักอยู่วัดพะโคะครั้งนั้น ยังมีสามเณรน้อยรูปหนึ่งเข้าใจว่าคงอาศัยวัดใดวัดหนึ่ง ในท้องที่อำเภอหาดใหญ่เวลานี้สามเณรรูปนี้ได้บวชมาแต่อายุน้อยๆ ได้ปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัวมีความขยันหมั่นเพียร ก่อแต่การกุศลในพระพุทธศาสนาและตั้งจิตอธิษฐาน จะขอพบพระศรีอริยะอย่างแรงกล้า อยู่มาคืนวันหนึ่งมีคนแก่ถือดอกไม้เดินเข้ามาหา แล้วประเคนดอกไม้ส่งให้แล้วบอกว่า

    "นี่เป็นดอกไม้ทิพย์ไม่รู้จักร่วงโรย"
    พร้อมกับกล่าวว่า "พระศรีอริยะโพธิสัตว์นั้น ขณะนี้ได้จุติลงมาเกิดในเมืองมนุษย์ เพื่อดโปรดสัตว์ในพระพุทธศาสนา สามเณรเจ้าจงถือดอกไม้ทิพย์นี้ออกค้นหาเถิด หากผู้ใดรู้จักกำเหนิดของดอกไม้นี้แล้ว ผู้นั้นแหละเป็นองค์พระศรีอริยะที่จุติมา เจ้าจงพยายามเที่ยวค้นหาคงจะพบ"
    เมื่อกล่าวจบแล้ว คนแก่นั้นก็อันตรธานหายไปทันที สามเณรน้อยมีความปิติยินดีเป็นอย่างยิ่ง วันรุ่งเช้าจึงเข้ากราบลาสมภารเจ้าอาวาส ถือดอกไม้ทิพย์เดินออกจากวัดไป สามเณรเดินทางตรากตรำลำบากไปทั่วทุกหนทุกแหงก็ไม่มีใครทักถามถึงดอกไม้ทิพย์ที่ตนถืออยู่นั้นเลย แต่สามเณรก็พยายามทนต่อความเหนื่อยยากต้องตากแดดกรำฝนเป็นเวลาช้านาน
    วันหนึ่งต่อมา สามเณรน้อยเดินทางเข้าเขตวัดพัทธสิงห์บรรพดพะโคะ ในเวลาใกล้จะมืดค่ำเป็นวันขึ้น ๑๕ ค่ำ พระจันทร์เต็มดวงส่องรัศมีจ้าไปทั่วท้องฟ้า และเป็นวันที่พระภิกษุสงฆ์ลงทำสังฆกรรมในโบสถ์ พอถึงเวลาพระภิกษุทั้งหลายก็เดินทยอยกันเข้าโบสถ์ผ่านหน้าสามเณรไปจนหมด ไม่มีพรภิกษุองค์ใดทักถามสามเณรเลย
    เมื่อพระสงฆ์เข้านั่งที่ในโบสถ์เรียบร้อยแล้ว สามเณรจึงเดินเข้าไปนมัสการถามสงฆ์เหล่านั้นว่า
    "วันนี้พระลงมาอุโบสถหมดทุกองค์แล้วหรือ"
    พระภิกษุตอบว่า "ยังมีสมเด็จอยู่อีกองค์วันนี้ไม่มาลงอุโบสถ"
    สามเณรทราบดังนั้นก็กราบลาพระสงฆ์เหล่านั้น เดินออกากโบสถ์มุ่งตรงไปยังกุฏิของสมเด็จเจ้าฯ ทันที ครั้นถึงสามเณรคลานเข้าไปก้มกราบนมัสการท่านอยู่ตรงหน้า สมเด็จเจ้าฯ ได้ประสบดอกไม้ในมือสามาเณรถืออยู่จึงถามสามเณรว่า

    "นั่นดอกมณฑาทิพย์ เป็นดอกไม้เมืองสวรรค์ผู้ใดให้เจ้ามา"
    สามเณรรู้แจ้งใจตามที่นิมิตจึงคลานเข้าไปใกล้ก้มลงกราบที่ฝ่าเท้า แล้วประเคนถวายดอกไม้ทิพย์นั้นแก่สมเด็จฯ ทันที เมื่อสมเด็จเจ้าฯ รับประเคนดอกไม้ทิพย์จากสามเณรน้อยแล้วท่านได้สงบอารมณ์อยู่ชั่วครู่มิได้พูดจาประการใด แล้วลุกขึ้นเรียกสามเณรเดินตรงเข้าในกุฏิปิดประตูลงกรอนและเงียบไปในคืนนั้น มิได้ร่องรอยแต่อย่างใดเหลือไว้ให้พิสูจน์
    จนเวลา ล่วงเลยมาถึงบัดนี้ประมาณสามร้อยปีแล้ว การหายตัวไปของสมเด็จเจ้าพะโคะครั้งนั้นประชาชนเล่ากันว่าท่านได้สำเร็จสู่สวรรค์ไปเสียแล้วด้วยอำนาจบุญบารมีอภินิหารท่านแรงกล้า ตามที่กล่าวเล่าลือกันเช่นนี้เพราะมีเหตุอัศจรรย์ปรากฎขึ้นในคืนนั้นว่า บรรยากาศข้างบนบริเวณวัดพะโคะได้มีดวงไฟโตขนาดเท่าดวงไต้ส่งรัศมีสีต่างๆ เป็นปริมณฑลดัง "พระจันทร์ทรงกลด" ลอยวนเวียนรอบบริเวณวัดพะโคะ ส่องรัศมีสว่างจ้าไปทั่วบริเวณวัด เมื่อดวงไฟดวงนั้นลอยวนเวียนอยู่ครบสามรอบ แล้วลอเลื่อนไปทางทิศอาคเนย์ ลับหายมาจนกระทั่งบัดนี้
     
  9. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,204
    วันรุ่งเช้าประชาชนมาร่วมประชุมกันที่วัดและต่างคนต่างก็เข้าใจว่าสมเด็มเจ้าฯ ท่านสำเร็จสู่สวรรค์ไป จึงได้พากันพนมมือขึ้นเหนือศีรษะพร้อมกันเปล่งเสียงว่า
    "สมเด็จเจ้าพะโคะโละหายไปเสียแล้วเจ้าข้าเอย"
    เมื่อสมเด็จเจ้าพะโคะโละหายไปจากวัดพะโคะครั้งนั้น สมเด็จเจ้าฯ ท่านได้ทิ้งของสำคัญไว้ให้เป็นที่สักการะบูชาของประชาชนตลอดมาคือ
    1. ดวงแก้วที่พระยางูใหญ่ให้ครั้งเป็นทารกอยู่ในเปล 1 ดวง และสมภารทุกๆ องค์ของวัดพะโคะได้เก็บรักาไว้จนถึงบัดนี้ ปรากฏว่าแก้วดวงนี้ไม่มีใครกล้านำออกจากบริเวณวัดพะโคะ เพราะเกรงจะเกิดภัย
    2. ก่อนที่สมเด็จเจ้าฯ จะโละหายไปปรากฎว่าท่านได้ขึ้นไปทำสมาธิอยู่บนชะง่อนผาบนภูเขาบาท ได้เอาเท้าซ้ายเหยียบลงบนลาดผาลึกเป็นรอยเท้า เป็นที่สักการะบูชาของประชาชนมาจนกระทั่งบัดนี้

    ประวัติศาสตร์ หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด
    ชุมศักดิ์ นรารัตน์วงค์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 10 ธันวาคม 2010
  10. เพชรฉลูกัน

    เพชรฉลูกัน ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    18,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    24
    ค่าพลัง:
    +23,163
    เอ้า...วันนี้ขอเอาดวงกำเนิดของหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืดมาลงไว้แถมด้วยดวงกำเนิด(มหามงคล)ของพระอริยะเจ้าที่ควรเอาไว้บูชากันนะครับ ส่วนดวงหลวงปู่ทวดนั้นได้รู้มาจากวัดแม่ตะไคร้ที่กำลังสร้างลป.ทวดปางธุดงค์ใหญ่ที่สุดครับ ท่านได้ออกเหรียญมาโดยด้านหลังบรรจุดวงลป.ทวดไว้ จึงคัดมาเผื่อใครสนใจเอาไว้บุชาครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMGP5037.JPG
      IMGP5037.JPG
      ขนาดไฟล์:
      352.1 KB
      เปิดดู:
      149
    • IMGP5038.JPG
      IMGP5038.JPG
      ขนาดไฟล์:
      367.4 KB
      เปิดดู:
      119
    • IMGP5039.JPG
      IMGP5039.JPG
      ขนาดไฟล์:
      347 KB
      เปิดดู:
      130
    • IMGP5040.JPG
      IMGP5040.JPG
      ขนาดไฟล์:
      354.4 KB
      เปิดดู:
      303
  11. Aimee2500

    Aimee2500 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    1,703
    ค่าพลัง:
    +1,765
    ทำบุญเพื่อบูรณะวัดพะโคะ ในส่วนที่เสียหาย

    อภินิหารหลวงปู่ทวด ในวันที่พายุกระหน่ำ วัดพะโคะ จ.สงขลา


    [​IMG]

    ปาฏิหาริย์หลวงพ่อทวดทำให้กิ่งไม้ไม่โดนจุดสำคัญ


    [​IMG]

    “พระครูปุญญาพิศาล”


    [​IMG]

    สภาพต้นไม้ด้านหน้าศาลาหลวงพ่อทวด


    [​IMG]

    ต้นไม้ใหญ่ล้มแต่ไร้เสียหาย


    [​IMG]

    นางคลาด สุวรรณศิลป์



    [​IMG]



    <script type="text/javascript">var id='82239';function addCommas(nStr){ nStr += ''; x = nStr.split('.'); x1 = x[0]; x2 = x.length > 1 ? '.' + x[1] : ''; var rgx = /(\d+)(\d{***)/; while (rgx.test(x1)) { x1 = x1.replace(rgx, '$1' + ',' + '$2'); } return x1 + x2;}function count(){$.ajax({ type: "POST", url: "http://www.komchadluek.net/counter_news.php", data: "newsid="+id, success: function(txt){ var counter_=parseInt(txt); $('#counters').html('คนอ่าน '+addCommas(counter_)+' คน'); } });} featuredcontentslider.init({ id: "slider1", contentsource: ["inline", ""], toc: "markup", nextprev: ["Previous", "Next"], revealtype: "click", enablefade: [true, 0.1], autorotate: [true, 8000], onChange: function(previndex, curindex){ }})</script>คมชัดลึก :วัด พะโคะ หรือ วัดราชประดิษฐาน ตั้งอยู่บนเขาพะโคะ หรือเขาสิงห์ หมู่ ๖ ต.ชุมพล อ.สทิงพระ จ.สงขลา เป็นวัดที่มีความสำคัญต่อชุมชนมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา โดยใช้เป็นสถานที่กระทำพิธีดื่มน้ำพระพิพัฒน์สัตยาของเมืองพัทลุง เป็นวัดที่ประดิษฐานพระมาลิกเจดีย์พระพุทธไสยาสน์ หรือพระโคตมะ และอนุสาวรีย์หลวงพ่อทวด (สมเด็จพระราชมุนีสามิราม) ในลักษณะจาริกธุดงค์


    คำว่า "พะโคะ" น่าจะมาจากคำว่า "พระโคตมะ" นั่นเอง วัดพะโคะเคยถูกโจรสลัดมลายู ยกทัพเรือมาปล้น ๒ ครั้ง เผาผลาญทำลายพระมาลิกเจดีย์ วิหารพระพุทธบาท และศาสนสถานอื่นๆ อีกจำนวนมาก จึงทำให้มีการบูรณปฏิสังขรณ์วัดพะโคะครั้งสำคัญขึ้น ในครั้งที่สมเด็จพระราชมุนีสามิราม (สมเด็จพระโคะ หรือหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด) ขอพระราชทานที่กัลปนาใหม่ในสมัยสมเด็จพระเอกาทศรถ (ระหว่าง พ.ศ. ๒๑๔๘-๒๑๕๘) ได้บูรณะพระมาลิกเจดีย์สูง ๑ เส้น ๕ วา (สูงกว่าเดิม ๕ วา) โดยได้รับพระราชทานยอดพระเจดีย์เนื้อเบญจโลหะ ยาว ๓ วา ๓ คืบ มาจากกรุงศรีอยุธยา ปัจจุบันมีพระครูปุญญาพิศาล” เป็นเจ้าอาวาส

    “อาตมาตั้งใจอธิษฐานจิตก่อนก้มลงกราบต่อหน้าลูกแก้ว และรูปเหมือนหลวงปู่ทวดเพื่อขอบารมีของท่านช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบาจากวาตภัย ที่ถาโถมเข้าใส่วัดอย่างรุนแรงชนิดไม่เคยพานพบมาก่อนนับตั้งแต่เกิดมาบนโลก ใบนี้ อาตมาและพระลูกวัดพยายามขืนต้านแรงลมเพื่อออกไปต้อนรับญาติโยมทั้งพุทธและ มุสลิมที่อาศัยอยู่ที่ชุมชนริมเล ราวร้อยชีวิตที่อพยพหนีตายจากดีเปรสชันมาขอพึ่งบารมีของหลวงปู่ทวด ที่วัดพะโคะแห่งนี้” นี่คือเหตุการณ์ระทึกขวัญเมื่อพายุดีเปรสชันเคลื่อนตัวเข้าสู่ชายฝั่งบริเวณ จ.สงขลา ตั้งแต่กลางดึกวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๕ จากคำบอกเล่าของ “พระครูปุญญาพิศาล”

    เจ้าอาวาสวัดพะโคะ ย้อนเหตุการณ์ให้ฟังว่า ตลอดวันที่ ๓๑ ตุลาคม ได้ติดตามข่าวสารพยากรณ์อากาศผ่านทางโทรทัศน์ และสถานีวิทยุอย่างต่อเนื่อง ด้วยมีคำประกาศเตือนว่าดีเปรสชันจะเคลื่อนตัวเข้าสู่ชายฝั่งอ่าวไทยบริเวณ จ.สงขลา โดยเฉพาะพิกัดที่ตั้งของ อ.สทิงพระ อ.ระโนด รวมถึง อ.เมืองสงขลา ถือเป็นจุดเฝ้าระวัง จะต้องเตรียมการรับมือกับสถานการณ์ทางธรรมชาติที่จะเกิดขึ้นมากที่สุด
    กระแสลมเริ่มทวีความรุนแรงขึ้นตั้งแต่เวลา ๒๐.๓๐ น. จึงพยายามเดินออกไปดูสถานการณ์รอบๆ วัดปรากฏว่าแทบจะก้าวเท้าเดินไม่ได้ เนื่องจากทัดทานกระแสลมแรงไม่ไหว ขณะเดียวกันก็เห็นชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณชายทะเลทยอยอุ้มคนชรา หอบลูก หอบหลาน เดินทางมาขอพึ่งใบบุญที่วัดพะโคะ เพราะขณะนั้นสถานการณ์ริมทะเลอยู่ในภาวะไม่ปลอดภัยและสุ่มเสี่ยงต่ออันตราย แก่ชีวิตเป็นอย่างยิ่ง
    ใบหน้าของชาวบ้านนาทีนั้นต่างอยู่ในสภาพเดียวกันคือตระหนกตกใจ บางคนก็ร่ำไห้ เพราะก่อนมาถึงวัด หลายคนได้เห็นภาพความรุนแรงของวาตภัยที่โหมกระหน่ำพัดเอาหลังคาบ้านเรือน ปลิวไปเป็นแถบๆ แถมบางคนที่อยู่อาศัยยังพังเสียหายเกือบทั้งหลังก็มี จึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องสะท้อนภาพความหวาดกลัวออกมาให้เห็น และนับตั้งแต่เวลา ๒๑.๐๐ น. ในค่ำคืนวันที่ ๓๑ ตุลาคม ถือเป็นจุดเริ่มต้นของความน่าสะพึงกลัวจากปรากฏการณ์วาตภัยที่รุนแรงที่สุด ที่ชาวบ้านแห่ง อ.สทิงพระ ได้ประสบพบเจอ เพราะแรงลมที่กระหน่ำหนักชนิดไม่แสดงทีท่าว่าจะอ่อนแรง แถมค่อยๆ หอบกระเบื้องมุงหลังคาภายในวัดปลิวว่อนต่อหน้าต่อตาพระและสาธุชนนับร้อย

    “อาตมาไม่รู้จะอธิบายภาพความรุนแรงอย่างไร แต่บอกได้ว่าเสียงของดีเปรสชันมันช่างโหยหวลอย่างมาก แถมอาตมายืนมองความรุนแรงของลมที่บ้าคลั่ง โดยมันค่อยๆ ถอนรากถอนโคนต้นไม้ทีละต้น จนต้องตัดสินใจเดินเข้าไปสวดมนต์และอธิษฐานจิตต่อหน้าลูกแก้ว และรูปเหมือนหลวงปู่ทวด เพื่อขอให้ปกป้องทุกชีวิตภายในวัดพะโคะแห่งนี้ ชาวบ้านนับร้อยทยอยเดินเข้ามาสวดคาถาหลวงพ่อทวด และกราบกรานและบนบานต่อลูกแก้ว และรูปเหมือนหลวงปู่ทวดในวิหาร เพื่อช่วยให้ชีวิตรอดพ้นจากอันตรายของวาตภัยครั้งนี้ ซึ่งท่ามกลางดีเปรสชันที่ถาโถมเข้าใส่ ได้เกิดปรากฏการณ์อันน่าอัศจรรย์ใจ นั่นคือจุดสำคัญที่ชาวบ้านมารวมตัวหนีภัยธรรมชาติ ไม่ปรากฏความเสียหาย รวมไปถึงจุดสำคัญที่เกี่ยวเนื่องกับหลวงปู่ทวดแทบทุกแห่งไม่ได้รับความเสีย หายจากแรงลมที่กระหน่ำตลอดทั้งคืนไปเกือบรุ่งสางแต่อย่างใด" คำกล่าวของพระครูปุญญาพิศาล

    นางคลาด สุวรรณศิลป์” อายุ ๗๕ ปี ชาวบ้านที่อาศัยใกล้วัดพะโคะ ผู้รอดตายจากเหตุดีเปรสชัน ครั้งล่าสุดบอกว่า ทั้งชีวิตไม่เคยเห็นความโหดร้ายของธรรมชาติรุนแรงเท่าครั้งนี้ ลมที่พัดเหมือนจะหอบเอาร่างให้ลอยขึ้นจากพื้น จึงได้แต่คิดถึงหลวงปู่ทวด วัดพะโคะ ตลอดเวลา ในมือกำหลวงปู่ทวดที่คล้องคอไว้แน่น และท่องแต่ “นะโมโพธิสัตโต อะคันติมายะ อิติภควา” ตลอดเวลา ซึ่งแทบไม่น่าเชื่อว่าคนอายุปูนนี้จะก้าวเดินฝ่ากระแสลมมาถึงบันไดวัดพะโคะ และรอดพ้นความตายจากวาตภัยครั้งนี้ ทั้งที่บ้านได้รับความเสียหายแทบทั้งหลัง

    สำหรับการบูรณะซ่อมแซมขณะนี้ชาวบ้านที่หนีดีเปรสชันมาพึ่งใบบุญบารมีหลวงพ่อ ทวดในค่ำคืนวิปโยค โดยระดมตัดท่อนไม้และรื้อซากปรักหักพัง ส่วนงบประมาณที่ใช้ขณะนี้ได้จากเงินเก็บของวัด และรายได้จากวัตถุมงคลที่หลงเหลืออยู่ในวัด ซึ่งสาธุชนต่างหลั่งไหลมาบูชาและทำบุญ โดยเฉพาะ “หลวงพ่อทวด เนื้อว่าน รุ่นเสาร์ห้า” เนื่องจากชาวบ้านอาราธนาคล้องคอ และมีชีวิตปลอดภัยถ้วนหน้าในวันที่ดีเปรสชันถาโถมเข้าใส่วัดพะโคะแห่งนี้ สำหรับสาธุชนที่สนใจทำบุญเพื่อบูรณะวัดในส่วนที่เสียหายสามารถบริจาคเงิน ผ่านบัญชีวัดพะโคะ ธนาคารกรุงไทย สาขาสทิงพระ เลขที่ ๙๒๓-๑-๑-๘๗๓๖-๘
    เรื่อง/ภาพสุพิชฌาย์ รัตนะ สำนักข่าวเนชั่น
     
  12. รักษ์สยาม

    รักษ์สยาม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    707
    ค่าพลัง:
    +1,129
    ข้อมูลดีจิงๆครับ สุดยอดพระนิรันตรายแห่งวัดช้างให้
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. phattharaphong

    phattharaphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    758
    ค่าพลัง:
    +11,459

    น่าจะประมาณ ปี 34 ครับ ลองตรวจสอบกับ รุ่น สร้าง... ปี 34 ไม่มั่นใจนะครับ
     
  14. ล้างใจ

    ล้างใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    7,268
    ค่าพลัง:
    +24,819
    ขอบคุณครับ เด๋วจะลองgoogle ดู..ปี34 :cool:
     
  15. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,204
    หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด
    ตามทัศนะ อาจารย์ลักษณ์ เรขานิเทศ
    โหรแห่งกรุงรัตน์โกสินทร์

    ดวงชะตาของเทพเจ้าแห่งภาคใต้ "หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด"
    ตามพื้นชะตาราศีในทางโหราศาสตร์นั้น ท่านมีชะตากำเนิดวันศุกร์ เดือน ๔ ปีมะโรง พุทธศักราช ๒๑๒๕
    หากวิเคราะห์กันตามหลักของการกำเนิดนั้น วันศุกร์มีดาวศุกร์เป็นดาวประจำตัว ประจำตน ดาวศุกร์นั้นตามหลักเทวกำเนิดสร้างจากคนธรรพ์หรือพิทยาธรผู้มีฤทธิ์ทั้งหมด ๒๑ องค์ พระศิวะเทพอัมพาพรเป็นผงห่อด้วยผ้าสีฟ้ากำเนิดออกมาเป็นเทพพระศุกร์พระศุกร์จึงมีอิทธิพลให้คนที่เกิดวันศุกร์คือให้เป็นคนรักดนตรีรักศิลปะ ทำให้คนที่อยู่ใกล้มีความสุข
    นี่จะเป็นเหตุหนึ่งกระมังไม่ว่าจะอยู่ในสมณเพศหลวงปู่ทวดก็สร้างความสุขให้แก่ปวงชนชาวไทย หรือคนที่เคารพศรัทธาท่านให้มีความสุขความเจริญ เปรียบประดุจเทพพระศุกร์ เป็นเทพที่เข้าใจในจิตใจและวิญญาณด้วยวิถีของความเป็นมนุษย์ ตามหลักของการกำเนิดนั้นพระอาทิตย์อยู่ในพื้นชะตากำเนิดราศีมีนซึ่งเป็นราศีปลายธาตุน้ำ อยู่ในเรือนธาตุน้ำในพื้นชะตากำเนิดมีพระอาทิตย์กุมลัคนา พระอาทิตย์เป็นอายุก็แสดงว่าท่านนั้นดูหน้าตาสูงวัยก็เห็นจะจริง เพราะว่าพิจารณาจากคนเกิดวันศุกร์พระอาทิตย์เป็นอายุกุมจุดเกิดนั้นแปลว่าแก่กว่าวัย....ถ้าพิจารณาจากรูปหน้าขององค์หลวงปู่ทวดเองก็จะชี้ชัดได้ว่าท่านแก่หรือสูงวัย เป็นผู้คงแก่เรียน
    พฤหัสบดี กุมลัคนาได้ตำแหน่งเกษตร แปลว่าเป็นดาวตัวแทนหรือองค์แห่งความรู้ ปกติดาวพฤหัสบดีกุมลัคนาผู้ใดนั้นจะมีเกณฑ์ได้กมุทเกณฑ์ มีหลักทางโหรศาสตร์กล่าวไว้ว่าเอกราศีครุลัคนัง อันว่าพฤหัสบดีอยู่ได้ด้วยลัคนาผู้ใด กมุทเกณฑ์ธังสุขังชีเว ท่านกล่าวว่าชะตาผู้นั้นเป็นเกณฑ์สมุทเกณฑ์ อุปมาดังดอกอุบลหรือดอกบัวมีกลิ่นหอมหวนให้สุขแก่ผู้นั้น ราชาโกติสะ สัตตะสหสานิ อันว่าพระยาในโลกนี้ได้แขวนโกศพระองค์ใดก็ดี จักกะวัตติปะทานนัง ย่อมมีพระยาจักรพรรดิ์กษัตราธิราชเป็นประธาน ลัคนาชีเวจะโสภะเน ครั้นแลมีพฤหัสบดีเป็นประธานแก่ลัคนาโทษมิอาจมาต้องได้เลยย่อมให้ดูเรืองแล แปลว่าลัคนาสถิตราศีพิจิกพฤหัสบดีอยู่ด้วยลัคนาเป็นกมุทเกณฑ์ก็สรรเสริญตามพระคัมภีร์ทางโหราศาสตร์ที่ได้กล่าวเป็นภาษาบาลีแล้วขยายความเอาไว้นั้น องค์แห่งความรู้ในพระเวทย์และองค์แห่งความรู้ในเรื่องขององค์ความรู้โดยที่จะทำให้มนุษย์ดำรงอยู่ โดยหลักแห่งโลกียะและโลกุตตระ
     
  16. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,204
    พฤหัสบดี นั้นกลุ่มลัคนาเป็นกลุ่มเกษตราธิบดีได้ตำแหน่งที่มั่นคง ถือว่าเป็นตำแหน่งที่ดีทางโหราศาสตร์ ผู้ใดมีดวงลักษณะเช่นนี้ถือได้ว่าได้เกณฑ์ที่มั่นคงที่ดี อาทิตย์เป็นมิตรกับพฤหัสบดีกุมจุดเกิดได้ตำแหน่งคู่มิตรเป็นที่รักแก่ปวงมหาชน เพราะอาทิตย์เป็นมิตรกับครู ตลอดจนจะเห็นได้ว่าพระศุกร์กับพระพุธเป็นดาวคู่ธาตุน้ำ เป็นที่รักแก่ปวงชนหรือปวงมหาชน ในทางน้ำหรือประเทศในถิ่นทางน้ำที่ทางภาคใต้ก็เหมาะก็สมควรแก่พื้นแห่งดวงชะตาของหลวงปู่เอง พระจันทร์โยกหน้านั้น พระจันทร์ถือว่าได้เป็นมุมแห่งปทุมเกณฑ์ พระจันทร์เป็น ๓ หรือเป็น ๑๑ แก่ลัคนานั้น จะเห็นได้ว่ามีลักษณะได้เช่นเดียว เพราะตามหลักโหราศาสตร์กล่าวเอาไว้ว่า ตติเยจะยทาศุกรา ในกาลใดพระศุกร์ เป็น ๓ แก่ลัคน์ จตุถัทโถครูพะวิสัตติ และมีพฤหัสบดีเป็น ๔ ลัคนา เอกะทัสสะ พระจันทร์เป็น ๑๑ ลัคนาหรือโยกหน้า เทวสัตนาประกาศิตาทิกะวะนี ชะตาผู้นั้นคือเทพยดาลงเกิดแล
    เห็นได้ว่าดวงชะตาของหลวงปู่ทวดนั้นมีพระจันทร์โยกหน้ามีตำแหน่งเป็นมหาอุดได้ตำแหน่งที่เด่นชัดเลย จะเห็นได้ว่าหลวงปู่ทวดไม่ว่าจะสร้างเป็นเครื่องขลังบูชาในยุคในสมัยใดก็เป็นที่ยอมรับแก่ปวงมหาชนโดยทั่วไป เป็นที่เคารพและศรัทธาในเรื่องของอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ เป็นที่พึ่งพาแก่มนุษย์ซึ่งยังเวียนตายเกิดอยู่ในโลกียะ....

    ช่วงหนึ่งอาจารย์ลักษณ์กล่าว
    ทำไมต้องแขวนคอ? ทำไมจะต้องเอาเครื่องรางของขลังมาเป็นเรื่องสำคัญ?
    คนจิตใจต้องละเอียดและเข้าใจในมุมกว้างๆ คนบางคนแค่มีพระอยู่ที่ใจ ระลึกถึงองค์พระก็เข้าใจในข้อธรรมของพระพุทธเจ้า แต่คนบางคนเขามีกรรมมาก อดีตกรรมบังเกิดในมีบุญน้อยกรรมมากเลยต้องเอาวัตถุเป็นที่พึ่งพาทางจิตใจ แต่อย่างน้อยก็นำไปสู่การทำความดี การปฏิบัติดี แบบนี้จะว่ากันไม่ได้
    พฤหัสเป็นมนตรีธรรมทักษากุมลัคนา เป็นที่รักของปวงมหาชนทุกองค์ความรู้ สุรีย์นั้นตามหลักของเทวกำเนิดนั้นสร้างจากเทพฤาษี เพราะฉะนั้นองค์พระสุรีย์เลยมีลักษณะของฤาษี คือมีความเป็นครูบาอาจารย์ ความเมตตา ฤาษีนั้นมีฤทธิ์ ฤาษีเป็นหมอยา เป็นหมอรักษา เป็นหมอมีฤทธิ์ในการเรื่องดิน ฟ้า ลม ฝน เป็นทุกสิ่งทุกอย่าง เพราะฉะนั้น การที่พฤหัสบดีถูกสร้างจากฤาษี ๑๙ ตน จึงมีอิทธิพลหรือเป็นบุญวาสนาบารมีให้ใครก็ตามที่มีดาวพฤหัสบดีกุมลัคนา มีนิสัยเหมือนครูบาอาจารย์ นักบวช ผู้ทรงศีล ตลอดจนหมอผู้ให้ความรู้รักษาทางกาย รักษาทางใจแก่คนโดยทั่วไป และเป็นมนตรีธรรมรักษา
     
  17. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,204
    โดยมุมดวงชะตาของหลวงปู่ทวดนั้นจะแสดงว่า เป็นมุมที่ดีในทางโหราศาสตร์ที่ดีต้องกล่าวสรรเสริญไว้เป็นปฐม พฤหัสบดีเปนมุระแสดงว่าองค์จริงของหลวงปู่ท่านก็คงจะท้วมหน่อย เพราะมูระกุมจุดเกิด มูระกุมลัคนา อ้วนท้วม บริวารกุมลัคน์คือพระศุกร์ กุมลัคนาเป็นที่รักแก่คนทั่วไปมหาอุตมากมาย มหาอุต อยู่ราศีมีนของพระศุกร์นั้นมีตำแหน่งที่เข็มแข็ง เป็นเสน่ห์มีสง่า บุคคลที่มีบุญมีวาสนามักจะได้มีตำแหน่งเป็นมหาอุตคือทำกรรมในชาติภพก่อนไว้มาก ชาตินี้เลยเป็นที่ศรัทธาหรือเป็นที่รักใคร่แก่ปวงมหาชนโดยทั่วไป พระจันทร์ก็เช่นเดียวกันเป็นมหาอุต เพราะฉะนั้นยังมีคุณอีกด้านหนึ่งนอกจากเมตตามหานิยมด้วยเสน่ห์แล้วก็คืออยู่ยงคงกระพัน แคล้วคลาดจากภยันต์อันตรายต่างๆ ในเรื่องของอภินิหารตลอดจนบุญฤทธิ์ของท่านนั้นก็มีในเรื่องนี้
    อังคารในเรือนพุธตรงไปตรงมาเที่ยงธรรม อังคารในดาวสงครามดาวแห่งอุบัติเหตุมีดาวเกตุคุ้มครองเคราะห์ร้ายภัยเวรจะไม่ปรากฎ เพราะมีเอาไว้คุ้มครอง ราหูเล็งกับพระอังคาร ดาวคู่ธาตุลม แสดงว่าในนิมิตแห่งการเคลื่อนที่ของหลวงปู่นั้นรวดเร็ว จิตระลึกถึงองค์ท่านก็มาอย่างฉับพลัน แปลว่าใครจะนึกจะบูชาซึ่งตามเรื่องที่ได้กล่าวมาแล้ว่า แม้ยังมีภาพเหมือนภาพกระดาษหรืออะไรก็ตามที่หลวงปู่ท่านวางไว้บูชา เอาไว้เก็บรักษาหรือแขวนคอก็เป็นมงคลสำหรับตัว
    นี่แหละครับคือการอธิบายว่ามีอังคารเล็งราหูเป็นคู่ธาตุลม สัมพันธ์ถึงกันในดวงชะตาดีของหลวงปู่ทวด แล้วก็เลยเป็นอิทธิพลหนุนนำให้บารมีขององค์ท่านคุ้มครอง เพราะฉะนั้นตามหลักที่ได้อธิบายไว้ทั้งหมดนี้ อยากจะบอกกล่าวเล่าขานในมุมที่ต้องบอกเล่าเป็นแนวทางสำหรับมนุษย์ปุถุงชนธรรมดาว่า การได้ครอบครองหรือบูชาหลวงปู่นั้นควรจะให้ความสำคัญ..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 11 ธันวาคม 2010
  18. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,204
    การได้ครอบครองหรือบูชาหลวงปู่นั้นควรให้ความสำคัญกับ

    ประการแรก คือ ทำความดีแล้วระลึกถึงหลวงปู่ท่าน อุปสรรคที่ติดขัดในการทำความดีจะผ่านไปได้ทุกเรื่องทุกราว

    ประการที่ ๒ คือ หลวงปู่นั้นชอบน้ำ สิ่งที่เย็นๆ การบูชาการให้ความเย็นความชุ่มช้ำใจ เป็น อโหสิกรรม ก็จะเป็นมงคล หากท่านมีไว้ครอบครองแล้ว ได้ปฏิบัติตัวตามนั้นคือทำเป็นคนใจเย็น อโหสิกรรมนั้นเป็นเรื่องที่ดี หลวงปู่จะคุ้มครอง

    ประการที่ ๓ คือ ท่านชอบความงดงาม ความเป็นระเบียบ ต้องอยู่บนพื้นฐานของความเป็นระเบียบอย่างเช่นระเบียบในการทำงาน จะได้รับบุญบารมีธรรมของท่านคุ้มครองตลอดไป

    ประการที่ ๔ คือ อยู่กับศีลธรรมและข้อกฏหมายให้ถูกต้องทำนองคลองธรรม พฤหัสบดีมีมุมที่เด่นชัด เพราะฉะนั้นอย่างไรก็ตามทีดวงชุตาของหลวงปู่นั้นเกื้อหนุนให้กับท่านที่คิดบูชา อธิษฐานขอให้ประสบความสำเร็จในการศึกษา เมื่อตั้งใจจะสอบเข้าที่ใดอธิษฐานขอพรจากหลวงปู่ทวดได้ถือว่าเป็นมงคล และเป็นวิริยะอุตสาหะให้เกิดปัญญาที่ให้เกิดแตกฉาน เมื่อทำข้อสอบก็จะนึกขึ้นได้ตอบคำถามได้

    ประการสุดท้าย เรื่องของการมีบุตรถือว่าเป็นปฐมเกณฑ์ ใครที่ยังไม่มีบุตรและปราถนาที่จะมีบุตร มีความพร้อมแล้วก็อธิษฐานขอให้เทพเทวาที่คุ้มครองหลวงปู่ท่านมาจุติมาเกิดเป็นลูกของท่าน จะทำให้เป็นเด็กที่มีปัญญาเฉลียวฉลาด
    นี่ก็คือมุมที่แนะนำในการขอ ในการอธิษฐานตลอดจนในเรื่องของมุมประวัติ จากมุมประสบการณ์จากเรื่องราวที่สัมพันธ์กับประสบการณ์
    ในฐานะเป็นนักโหราศาสตร์ที่ได้ผ่านวงเวียน การพบเห็นเจอเรื่องราวต่างๆ มากมายผมหวังว่าเรื่องราวของโหราศาสตร์ที่ผมได้กล่าวได้เขียนถึงร่วมกับคุณชุมศักดิ์นี้จะเป็นประโยชน์กับท่านทั้งหลาย ก็ขอเขียนฝากไว้ในวาระนี้

    กรุงรัตนโกสินทร์ ๒๒๑ ปี เดือนธันวาคม

    ประวัติศาสตร์สมัย หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด
    ชุมศักดิ์ นรารัตน์วงศ์
     
  19. khunden

    khunden Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +25
    เพิ่งอัญเชิญท่านมาจากหิ้งที่บ้าน มาอยู่ condo
    เนื้อโลหะ หน้าตักประมาณ 4 นิ้วกว่าครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC06363.JPG
      DSC06363.JPG
      ขนาดไฟล์:
      85.4 KB
      เปิดดู:
      149
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 ธันวาคม 2010
  20. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,204
    กราบหลวงปู่ทวดค่ะ งดงามนะคะ พระบูชากี่นิ้วค่ะ ..
    รูปหน้าเหมือนพระบูชาหลวงพ่อทวดเนื้อปูนผสมว่าน วัดช้างให้ ขนาดเจ็ดนิ้ว ปี 2497 นะคะ
    แต่ที่ฐานไม่เหมือนกัน (ดูจากหนังสือค่ะ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 11 ธันวาคม 2010

แชร์หน้านี้

Loading...