เรื่องราวที่คนทั่วๆไปไม่ค่อยรู้

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย Aunyasit, 26 สิงหาคม 2005.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. Aunyasit

    Aunyasit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,312
    ค่าพลัง:
    +13,053
    พระอาจารย์ วรงคต วิริยะธโร (หลวงตาม้า) วัดพุทธพรหมปัญโญ ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ. เชียงใหม่ เมตตาอธิษฐานจิตลงแผ่นอักขระเพื่อร่วมสร้างพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • TM1.JPG
      TM1.JPG
      ขนาดไฟล์:
      38.8 KB
      เปิดดู:
      55
    • TM2.JPG
      TM2.JPG
      ขนาดไฟล์:
      34.5 KB
      เปิดดู:
      38
  2. Aunyasit

    Aunyasit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,312
    ค่าพลัง:
    +13,053
    ขออนุโมทนาสาธุการกับครอบครัว สันติวราคม ที่มีจิตศรัทธาร่วมสร้างพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 250,000 บาท ครับ
     
  3. BiMode

    BiMode เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    303
    ค่าพลัง:
    +2,322
    ผมและครอบครัวได้ร่วมทำบุญเป็นจำนวนเงิน 635 บาทครับโดยเข้าบัญชี ธ. กรุงเทพ บัญชี นายกฤษณพจน์ สิทธิศุข เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมาครับ.
     
  4. bangmod

    bangmod สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +18
    ถึงคุณมดแดงและพรสิวลี

    อ่านกระทู้และความเห็นหลายๆครั้งของท่านทั้งสองแล้วรู้สึกเลื่อมใส ของสมัครเป็นศิษย์ครับ
    bangmod
     
  5. ujae

    ujae เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2006
    โพสต์:
    208
    ค่าพลัง:
    +610
    ผมและครอบครัวได้โอนเงินร่วมทำบุญครั้งที่ 2 เป็นจำนวนเงิน 100 บาทเมื่อ 13 พ.ย. 49

    โอนเงินร่วมทำบุญครั้งที่ 3 เป็นจำนวนเงิน 1,001 บาทเมื่อ 9 ธ.ค. 49

    เข้าบัญชีคุณ Aunyasit ครับ
     
  6. ฐตธนวัฒฆ์

    ฐตธนวัฒฆ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    145
    ค่าพลัง:
    +745
    ขอเชิญทุกท่านที่มีจิตศรัทธาองค์บรมครูหลวงปู่เทพโลกอุดรและพระพุทธศาสนา ร่วมทำบุญส่งท้ายปีเก่า ๒๕๔๙ ต้อนรับปีใหม่ ๒๕๕๐
    ในวันเสาร์ที่ ๓๐ ธันวาคม ๒๕๔๙ ณ บ้าน "พุทธสยาม" (กองทุนพระครูเทพโลกอุดรมหาสมบัติ เพื่อพระพุทธศาสนาในถิ่นทุรกันดาร) ถนน พุทธมณฑลสาย ๒ ซอย ๑๓ (สุดซอย เลี้ยวขวา)

    ในวันที่ ๓๐ ธันวาคมนี้ องค์แทนของหลวงปู่เทพโลกอุดรเมตตารับบาตรและภัตตาหาร เวลา ๐๙.๐๐ น. และฉันภัตตาหารเช้า(ฉันมื้อเดียว)

    ท่านผู้มีจิตศรัทธาท่านใดต้องการร่วมทำบุญในการสร้างพระพุทธเจ้า ๕ พระองค์ โดยถวายพระเดชพระคุณท่านได้ด้วยตนเอง และร่วมสนทนาธรรมได้ที่บ้านพุทธสยาม

    ขออนุโมทนาครับ

    สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

    พล.อ.ต ภาสกร จูฑะพุทธิ 0-8180-74695 (ประธานกองทุนฯ)
    น.ท. วีระพงศ์ คงสวัสดิ์ 0-8509-44861
    ร.ท. ฐตธนวัฒฆ์ พงศ์พานภักดี 0-8698-04431
    คุณกฤษณพจน์ สิทธิสุข 0-8920-27216
     
  7. Aunyasit

    Aunyasit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,312
    ค่าพลัง:
    +13,053
    ขออนุโมทนาสาธุการกับทุกท่านที่ร่วมทำบุญสร้างพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ มา ณ ที่นี้ ด้วยครับ

    เมื่อวันอาทิตย์ที่ 10 ธ.ค. ตอนบ่ายได้ไปนมัสการหลวงพ่อจำเนียร สีลเสฏโฐ ที่วัดประดู่ธรรมธิปัตย์ หลวงพ่อท่านเมตตาสูงมาก ท่านเมตตาอธิษฐานแผ่นทองเพื่อร่วมสร้างพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ให้เรียบร้อยแล้ว

    และญาณศีลธรรมภายในท่านก็สุดยอดเช่นกันครับ วิชายันต์เก้าของท่านน่าสนใจมาก ก็เลยถือโอกาสถวายธาตุกายสิทธิ์ท่านไปก้อนนึง

    ในระหว่างฟังธรรมจากหลวงพ่อจำเนียรอยู่นั้น ก็มีลูกศิษย์หลวงพ่อเณรน้อย โทรศัพท์เข้ามาจากจังหวัดปราจีนบุรี บอกว่า หลวงพ่อเณรน้อย จะมาร่วมงานหล่อพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ในครั้งนี้ด้วย ก็ขออนุโมทนาสาธุการ มา ณ ที่นี้ด้วยครับ

    ตอนเย็นก็แวะไปนมัสการ หลวงพ่อพวง สุขินทริโย วัดศรีธรรมาราม จ.ยโสธร ท่านเมตตาลงแผ่นอักขระเพื่อร่วมสร้างสร้างพระพุทธเจ้า 5 พระองค์เรียบร้อยแล้วครับ
     
  8. vachiravute

    vachiravute Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +73
    เรียนถามผู้รู้ในกระทู้นี้

    1.ธรรมะของโลกอุดร จริงๆ เป็นธรรมะแบบไหน มีอยู่ในธรรมะของพระพุทธองค์หรือไม่

    2.ใครเป็นคนแรกที่เอ่ยถึงชื่อนี้

    3.ผู้ที่เข้าถึงโลกอุดรแล้วจริงๆ สามารถพิสูจน์ได้ด้วยสิ่งใด มีอะไรเป็นสัญลักษณ์หรือไม่

    4.ผู้ที่กล่าวว่าตนถึงโลกอุดรธรรม แต่จริงๆแล้วไม่ถึง หรือเข้าใจไปเอง ถือว่าอวดอุตริ หรือไม่

    5.การสร้างพระใหญ่ถือเป็นการรักษาและสืบต่อพระพุทธศาสนาตามคำสอนของพระพุทธองค์จริงหรือ

    6.จากข้อ 5 พระพุทธองค์ทรงเคยตรัสกับพระอานนท์ว่า
    "ดูก่อนอานนท์ ถ้าตราบใดพุทธบริษัท ๔ ยังมีอยู่ พุทธศาสนาของเราตถาคตจะไม่รู้จักคำว่าเสื่อม"
    พุทธบริษัท ๔ ประกอบด้วย ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา
    หลักการปฏิบัติของพุทธบริษัทก็คือ ภิกษุและภิกษุณีมีหน้าที่ศึกษาพระธรรมวินัย และปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน แล้วนำธรรมะมาสั่งสอนแนะนำให้ผู้อื่นรู้ตามเห็นตาม ส่งเสริมวิธีการประพฤติปฏิบัติข้อวัตรที่ถูกต้อง อุบาสกอุบาสิกาเป็นผู้ใกล้ชิดพุทธศาสนา มีหน้าที่ศึกษาประพฤติปฏิบัติตามคำสอนและเป็นผู้ทำนุบำรุงส่งเสริมพระพุทธศาสนา
    ฉะนั้นพุทธบริษัท ๔ จึงเป็นหลักของพุทธศาสนาที่สำคัญมาก ถ้าภิกษุภิกษุณีหมดไป อุบาสกอุบาสิกาหมดศรัทธาไป พุทธศาสนาของเราก็ตั้งอยู่ไม่ได้ก็จะเสื่อมไปสิ้นไป เราจะเห็นว่าพุทธศาสนาของเราอาศัยพุทธบริษัท ๔ ที่อาศัยซึ่งกันและกันสืบเนื่องตลอดมา การทำงานร่วมกันมีความเข้าใจซึ่งกันและกันถือว่าเป็นความเจริญของพุทธศาสนาไม่มีวันหมดไป
    ดังนั้น ถ้าเทียบระหว่างการสร้างพระใหญ่มูลค่าหลายล้านบาทกับการที่พุทธบริษัท 4 ดำรงอยู่โดยร่วมกันเผยแผ่พุทธศาสนาด้วยการ ศึกษา ปฏิบัติและสืบทอดธรรมะคำสอนสั่งขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้าให้แก่ผู้ที่ยังไม่เข้าถึงพระรัตนตรัยให้มีความเลื่อมใสศรัทธาต่อพระรัตนตรัย และชักชวนกันมาเจริญวิปัสนากรรมฐาน หรือสร้างพื้นฐานให้ผู้อื่นมีโอกาสศึกษาปฏิบัติธรรมได้กว้างขวางมากยิ่งๆขึ้น อย่างไหนถือว่าเป็นเหตุในการรักษาสืบต่อพระพุทธศาสนา ที่สำคัญและจำเป็นมากกว่ากัน

    ในข้อนี้ถามผู้รู้เพื่อเปรียบเทียบและคำตอบขอให้ผู้รู้เน้นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นมากกว่ากัน มิใช่เสมอกันหรือเหตุผลแบบศรัทธาอย่างเดียว ...ขออนุโมทนาบุญล่วงหน้า
     
  9. ไผ่สีทอง

    ไผ่สีทอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +120
    กระผมไม่ใช่ผู้รู้นะครับ
    ขออนุญาตตอบแบบโง่ๆ ของกระผมนะครับ
    ต้องรอผู้รู้จริงมาตอบอีกที

    1. คำว่าโลกอุดร น่าจะแปลว่า เหนือโลก เช่น บอกว่า พระสงฆ์รูปนี้เป็นโลกอุดร ก็ย่อมหมายถึง ท่านเป็นพระเหนือโลก เหนือโลกธาตุ และน่าจะอกาลิโกด้วย คืออยู่เหนือกาลเวลา นั่นคือ ไปอดีต หรือ อนาคตได้ ธรรมะของโลกอุดร คือ การเจริญอิทธิบาทสี่ ให้ยิ่ง
    และอยู่ในธรรมะของพุทธศาสนาแน่นอน

    2. ชื่อโลกอุดร น่าจะมีการกล่าว การตั้ง มานาน และ หลายครั้ง หลายสมัย
    คนที่เอ่ยก็น่าจะเป็นลูกศิษย์ และสมัยปัจจุบัน คนแรกน่าจะเป็น สมัย ร3 ไม่แน่ใจครับ ต้องรอผู้รู้มาตอบอีกที

    3. ไม่รู้

    4. ไม่มีผู้ใดกล้ากล่าวว่า ตนถึงโลกอุดรธรรม ท่านที่ถึงโลกอุดร มีน้อย
    ท่านน่าจะอยู่ด้วยกันเป็นคณะ ติดต่อกันได้ และท่านที่บรรลุธรรมโลกอุดร ต้องได้รับคำพยากรณ์ หรือคำยืนยันจากท่านที่บรรลุโลกอุดรธรรมโดยตรง
    เช่นกันกับพระอรหันต์ ถ้าพระพุทธเจ้ายังไม่ทรงยืนยัน ก็ยังไม่สามารถกล่าวได้

    ท่านที่ยังไม่บรรลุธรรม ไม่ว่าแบบใดๆ แล้วกล่าว ก็ถือว่า อวดอุตริแน่นอน

    5. การสร้างพระ ไม่ว่าจะเล็ก หรือใหญ่ เป็นการสืบต่อพระศาสนาแน่นอน
    อานิสงค์ต่างกันขึ้นกับระดับจิตของผู้สร้าง เพื่อเป็นสิ่งยึดเหนี่ยว เพื่อเป็นสิ่งให้พุทธศาสนิกชน ได้ระลึกถึง ไม่ว่าสมัยไหนๆๆๆๆๆ ก็ขอให้ผู้คนระลึกถึงให้ได้ และปฏิบัติตามคำสั่งสอนให้บรรลุธรรมตามขั้นปัญญาของตน

    ศาสนาจะเสื่อมก็อาจจะเนื่องมาจาก ไม่มีผู้ใดสนใจในพุทธศาสนา อีกต่อไปแม้แต่คนเดียว ไม่มีคนรู้จัก ไม่มีคนเข้าใจ ไม่มีคนสอนธรรมะ หรือสื่ออะไรได้


    ขออนุโมทนากับ ข้อ 6 ด้วยครับ

    ผู้ที่ได้ร่วมสร้างพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ มีอานิสงค์มากมายแน่นอน
    เพราะเกิดจากการศรัทธาด้วยจิตบริสุทธิ์
     
  10. bangmod

    bangmod สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +18
    ผมรู้สึกดีใจที่ได้อ่านกระทู้ทั้งสองข้างต้นทำให้ได้ทราบว่ามีอะไรอีกมากที่ผมยังไม่ทราบและไม่รู้เกี่ยวกับพุทธศาสนาและพระธรรม ต้องขอขอบคุณทั้ง ไผ่สีทอง และ vachiravute

    bangmod
     
  11. มะม่วงสุก

    มะม่วงสุก Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +83
    ผ่านเข้ามาไม่ทราบเหมือนกันสำหรับเรื่องโลกอุดร เป็นคำยอดฮิตหรือเปล่าก็ไม่รู้นะ ทราบแต่เรื่อง อวดอุตริฯ การอวดอุตริมนุสสธรรม ถ้าเป็นทางพระวินัยแล้ว พระพุทธเจ้าท่านหมายที่จะกำจัดอลัชชีหรือบรรดาผู้ที่เป็นข้าศึกกับพระพุทธศาสนาที่แอบอ้างเข้ามาใช้พระพุทธศาสนาหากินเพื่อหวังลาภสักการะครับ อาบัติในข้อนี้ถ้าเป็นการอวดคุณธรรมที่มีในตนจริงก็ไม่ถือเป็นการอวดอุตริมนุษธรรมสำหรับพระภิกษุ แต่ก็ยังถูกปรับอาบัติทุกกฎคือตำหนิว่าไม่เหมาะไม่ควรครับ

    ถ้าเป็นฆราวาสแล้วอวดอ้างอุตริ ที่ไม่มีในตน ก็เข้าข่ายมุสาวาทา พูดจาเพ้อเจ้อ แล้วถ้าทำให้ผู้อื่นหลงเชื่อในคำสอนที่ผิดของตน กรรมหนักครับ ถ้าสอนคนหมู่มากก็คูณเข้าไป คนที่รับการสอนเหมือนคนซื้อหวยครับ ถ้าซื้อถูกก็ได้ทรัพย์ แต่ถ้าไม่ถูกก็เสียทรัพย์ครับ แต่นั่นก็เป็นเหตุในทางพระพุทธศาสนาอย่างนึง ให้เป็นบทเรียนที่ดีสำหรับการทำบารมี นอกจากกรรมมุสาวาทาแล้ว เหตุแห่งกรรมนี้ เกิดชาติต่อไป จะทำให้เจอคนที่ไม่ดี คนพูดหลอกลวง เหมือนที่เขาเคยทำไว้ในอดีตชาติ จะทำให้เขาไม่ได้พบกับธรรมะที่แท้จริงครับ จะเจอแต่ของหลอกลวง อีกทั้งจะไม่ได้กัลยาณมิตรที่ดี และที่สำคัญกรรมที่เกิดจากการอวดอ้าง หรืออวดอุตริในธรรมที่ไม่มีในตน ย่อมจัดเป็นธรรมอันเป็นข้าสึกของ สัจจะบารมี เป็น การทำลายสัจจะบารมีในตัว ทำให้บารมีอีก ๙ ประการที่เหลือไม่เจริญขึ้น เนื่องจากสัจจะบารมีนั้น หากจะอุปมาแล้วก็เปรียบเหมือนเสาหลักที่รองรับโครงสร้างของบ้านทั้งหลังไว้ (คือ บารมีอีก ๙ ประการที่เหลือ) เมื่อใดก็ตามที่เสาหลักหักโค่น บ้านทั้งหลังก็ย่อมพังทลายลงอย่างมิต้องสงสัย ผลของการอวดอ้างหรือแอบอ้างย่อมไม่สามารถพ้นนรกได้ (อาบัติปาราชิกนี่ กฎแห่งกรรมปรับโทษถึงนรกขุมอเวจีครับ !)ส่วนวิบากร่วมทั้งฝ่ายของบรรพชิตและคฤหัสถ์ คือ หากสิ่งที่ตนอวดอ้างอวดอุตตรินั้น ก่อให้เกิดรู้ผิด เห็นผิดแก่ผู้อื่น จนกระทั่งบุคคลเหล่านั้นกลายเป็น "นิยตมิจฉาทิฏฐิ"โทษนั้นเสียดถึงเยื่อในกระดูก ไหม้เป็นจุณวิจุณลงทะเลน้ำกรดในมหานรก หลังจากที่พ้นโทษในมหานรก อุสสทนรก และยมโลกแล้ว เมื่อเข้าสู่กำเนิดแห่งเปรตติวิสยภูมิ ย่อมปฏิสนธิเกิดขึ้นด้วยรูปกายแห่งเปรตจักรผัน ที่มีกงจักรคมเป็นกรดผันมาผ่าหัว มีลำตัวอันบิดเบี้ยว เนื่องจากบิดเบือนและเบี่ยงเบนผู้อื่นออกจากคำสอนที่เป็นสัมมาทิฏฐิ อีกทั้งทางแห่งมรรคผลนิพพาน ....

    สำหรับเรื่องการรักษาศาสนาพุทธตามความเห็น ก็น่าจะการที่พุทธบริษัท 4 มีความเห็นที่เป็นสัมมาทิฏฐิ และมุ่งเน้นในเรื่องธรรมที่พระพุทธองค์สอนเรื่องการทำจิตใจให้บริสุทธิ์ปราศจากอกุศลทั้งปวง พยายามลดละโลภ โกรธ หลง ครับ
    สำหรับการสร้างพระเป็นคติที่ดีน่าส่งเสริม แต่ยังไม่ใช่ที่สุดของการสืบต่อพระพุทธศาสนาในคติของผม เป็นแค่ส่วนหนึ่ง เนื่องจากเป็นเรื่องของความเชื่อและศรัทธา เป็นพุทธานุสติที่ดี แต่ในบางทีรู้สึกว่าต้องมีขอบเขต และความเหมาะสมจำเป็นในสภาพเศรษฐกิจสังคมปัจจุบัน เชื่อว่าพระพุทธศาสนาเป็นเสมือนองค์กรหนึ่งการที่จะเจริญอยู่ได้ย่อมต้องมีการปรับตัวเองให้เข้ากับสภาวะปัจจุบัน และต้องมีการพัฒนาบุคคลากรของที่นั้น(พุทธบริษัท 4)ให้มีศักยภาพควบคู่กันไปอย่างต่อเนื่องและเป็นระบบ ครองที่ดีควรรักษาไว้ ไม่ไปทำลาย หน้าที่ของแต่ละฝ่ายและสามัคคีธรรมต้องเป็นพื้นฐาน การปรับตัวเองและระบบการจัดการที่ดี ก็คือ ธรรมะที่นำมาประยุกต์ใช้นั่นเอง ซึ่งนั่นก็เพียงพอที่จะดำรงรักษาพระพุทธศาสนาไว้ได้ดีในระดับหนึ่งแล้ว....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 ธันวาคม 2006
  12. chatyamn

    chatyamn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    664
    ค่าพลัง:
    +4,058
    เห็นรูปมะม่วงแล้วอยากกินจัง.....อนุโมทนาบุญครับ....เขียนได้ดีจัง...ถูกใจ อิอิ.
     
  13. พรหมประกาศิต

    พรหมประกาศิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    1,684
    ค่าพลัง:
    +13,541
    ผมไม่คิดว่าตัวเองจะมีบารมีอะไรหรอกนะครับ แต่ถ้ามีปัจจัยก็อยากจะลองสร้างดูบ้างครับ เพราะพระแก้วมรกตนี่ผมก็ชอบครับ เอาเป็นว่าขอร่วมสร้างบารมีด้วยสักคนดีกว่านะ คือว่าผมชอบทำบุญอ่ะครับ ได้ทำนิดหน่อยก็ยังดี หวังว่าคงไม่รังเกียจที่เข้ามาโพส
    (bb-flower
     
  14. kitjang

    kitjang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กันยายน 2006
    โพสต์:
    133
    ค่าพลัง:
    +511
    การงานที่เต็มไปด้วยความเสียสละยังประโยชน์เหล่านี้คือศีล
    การพูดจาเป็นคำพูดที่สามารถทำลายโทษและสร้างสาระ

    สมาธิคือเวลาพบกับปัญหาหรือเรื่องราวต่างต่าง สามารถควบคุมตัวเองไม่ให้วิตกกังวล หรือไม่แก้ปัญหาด้วยอารมณ์

    สติปัญญาคือความมีชัยชนะต่อความโง่ หลงผิด เหล่านี้คือคุณสมบัติของพระ
    คำพูดของ พระพุทธะอิสระ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 ธันวาคม 2006
  15. จักร

    จักร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    94
    ค่าพลัง:
    +432
    เอามาโพสช้าหน่อย... มาประกาศภาพงานบุญสมโภชหอทองธรณีจักรแก้ว(หอพระมหาจักรพรรดิ์)ครับ เอาตัวอย่างมาลง 6 ภาพ...
    <?xml:namespace prefix = v ns = "urn:schemas-microsoft-com:vml" /><v:shape id=_x0000_i1025 style="WIDTH: 152.25pt; HEIGHT: 115.5pt" type="#_x0000_t75"><v:imagedata src="file:///C:\DOCUME~1\RONIN1\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_image001.jpg" o:title="นาคก่อนบวช"></v:imagedata></v:shape>#ภาพนาค 5 องค์ ก่อนอุปสมบทหมู่ วันที่ 4 ธ.ค.49
    <v:shape id=_x0000_i1026 style="WIDTH: 171pt; HEIGHT: 149.25pt" type="#_x0000_t75"><v:imagedata src="file:///C:\DOCUME~1\RONIN1\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_image003.jpg" o:title="แท่น"></v:imagedata></v:shape>
    #ภาพโต๊ะหมู่บูชา ... มีรูปหลวงปู่ทองทิพย์ปางประธานพรเป็นประธาน
    วันที่ 5 ธ.ค.49<O:p</O:p
    <v:shape id=_x0000_i1027 style="WIDTH: 278.25pt; HEIGHT: 213pt" type="#_x0000_t75"><v:imagedata src="file:///C:\DOCUME~1\RONIN1\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_image005.jpg" o:title="พ่นน้ำ2"></v:imagedata></v:shape>
    #..พญานาค มังกร แสดงลีลาพ่นน้ำทิพย์
    <v:shape id=_x0000_i1030 style="WIDTH: 174pt; HEIGHT: 126pt" type="#_x0000_t75"><v:imagedata src="file:///C:\DOCUME~1\RONIN1\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_image007.jpg" o:title="DSC01999"></v:imagedata></v:shape>#งานในน้ำ...
    <v:shape id=_x0000_i1028 style="WIDTH: 180pt; HEIGHT: 139.5pt" type="#_x0000_t75"><v:imagedata src="file:///C:\DOCUME~1\RONIN1\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_image009.jpg" o:title="ถวายซอง"></v:imagedata></v:shape>#ภาพทางวัดป่าสีดาฯ ถวายปัจจัยพระสงฆ์ที่มาร่วมในพิธี
    # ภาพหอฯ ในยามดึก... สวยด้วยแสงไฟ
    <v:shape id=_x0000_i1029 style="WIDTH: 181.5pt; HEIGHT: 243pt" type="#_x0000_t75"><v:imagedata src="file:///C:\DOCUME~1\RONIN1\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_image011.jpg" o:title="กลางคืน"></v:imagedata></v:shape>
    ที่เอาภาพมาลง เพราะเพื่อให้พ่อแม่พี่น้อง ที่ได้ร่วมบุญทั้งหมดที่ไม่ได้ไปร่วมงานได้รู้ ได้เห็น ผลของการที่เราท่านได้ร่วมกันสรรค์สร้างสิ่งบูชาเพื่อพระพุทธศาสนาและครูบาอาจารย์หลวงปู่ทองทิพย์(โพธิสัตโต) ให้ปรากฏตราบไป บูชาถึงยุคพระศรีอาริยเมตไตร แต่ในสองเดือนนี่ก็ยังต้องเพื่มเติมงานตกแต่งเกี่ยวกับงานภูมิทัศน์เกี่ยวกับน้ำ สี หรือองค์ประกอบให้ครบในระบบโลกธาตุมากขึ้น หรืออาจติดกระจกก็ได้(อันนี้ใครมีประสบการณ์ความรู้แนะนำได้นะครับ อย่างคุณ Chattyman เป็นต้น)
    ในวันงาน ทางวัดได้มีพิธีมงคลฤกษ์ขุดหลุมสร้างวิหารพระศรีอาริยเมตไตรแล้ว ในกุฏิเจ้าอาวาสที่เก็บรักษาร่างสังขารของหลวงปู่ทองทิพย์ ก็ขอประกาศให้พุทธบริษัทที่ศรัทธา ไปร่วมทำบุญได้ครับ วัตถุประสงค์ดูแลระบบหลักของวัดคือสังขารของครูบาอาจารย์ให้ถาวร มั่นคง สง่างาม เพราะสถานที่บริเวณที่สร้างวิหารนี้ เป็นพื้นที่ที่หลวงปู่ทองทิพย์จำวัด อาศัยอยู่นานที่สุดในวัดนี้ ขยับขยายมาเรื่อยๆ ในบริเวณนี้ ถือว่าเป็นสถานที่แห่งพระศรีฯ ทีเดียว<O:p></O:p>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. chatyamn

    chatyamn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    664
    ค่าพลัง:
    +4,058
    อนุโมทนาบุญครับ คุณอบนำรูปมาให้ชมกันอีกแล้ว.....นาคสององค์ผมจำได้นะครับ ตอนนั้นเห็นท่านช่วยงานก่อสร้าง ทาสีทองอยู่เลย อนุโมทนาบุญครับ.

    เห็นดวงกลม ๆ ด้วย...ที่หอจักรแม่ธรณี....เห็นที่ไรผมก็รู้สึกปลื้ม ๆ .

    เห็นพญานาคข้างบนพ่นน้ำไกลจังเลยนะครับ....ช้างน้ำก็พ่นน้ำด้วย....งานพิธีต่าง ๆ ชีวิตผมไม่ค่อยได้ไปร่วมกับใครเลย....ได้ดูชมก็ยังดี.
     
  17. tomon2

    tomon2 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +77
    อนุโมทนาคุณอบสำหรับรูปที่นำมาลงครับ(f)


    คุณ vachiravute คำถามท่านนั้นผมว่ายากไป ในเรื่องโลกอุดร เชื่อว่าท่านที่ปฏิบัติถึงคงตอบได้ แต่คงไม่มาเขียนคุยกันในเวปนี้แน่ๆ เนื่องจากช่องทางนี้อาจเกิดการปรามาสโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์นั่นเอง ดังนั้นสิ่งที่เราได้ยิน ได้ฟังอย่างมากมาย ณ ที่นี้คืออะไรกัน

    ด้วยเหตุที่ว่าเราท่านทั้งหลายที่มาสนทนากันในที่นี้ยังไม่มีใครสักคนที่ปฏิบัติได้ถึงสิ่งนี้ นอกจากฟังเขามาเล่า และที่สำคัญคือ ณ เวลานี้ใครจะสามารถออกมายืนยันได้ ดังนั้นผลที่ตามมาทำให้เราคิดได้ว่า การใช้คำนี้ อ้างสิ่งเหล่านี้ คนเหล่านั้นมีการปฏิบัติธรรมที่ไปถึงแล้วจริงๆหรือ คำพูดของนักปฏิบัติคนหนึ่งมีเครื่องพิสูจน์คือสิ่งใด เพราะผลที่เกิดคือ ต้องการรวบรวมศรัทธาให้คนเห็นเป็นอัศจรรย์ในการกระทำสิ่งหนึ่งสิ่งใด
    อาทิ การสร้างพระพุทธรูป การสร้างวัด การสร้างสาธารณประโยชน์อื่นใด เป็นต้น สิ่งเหล่านี้คนทั่วไป เรียกว่า บุญ หรือความดี แต่ความดีดังกล่าวถ้าเริ่มต้นจากการกล่าวอ้างสิ่งเหล่านั้น และต่อมาภายหลังก็กลายเป็นว่าเพื่อมาสร้างในสิ่งที่เรียกว่า ความดี อย่างนี้ถือเป็นอุบายของผู้นำในการทำบุญหรือเปล่า

    คนเรามักมองข้ามประวัติศาสตร์ แต่บทเรียนของประวัติศาสตร์มักกลับมาหลอกหลอนคนเราเสมออดีตจนปัจจุบันและอนาคต สิ่งนี้เรียกว่า บุญบริสุทธิ์หรือไม่ ลองคิดพิจารณาดู แต่ในความคิดของผมคือ อุบายในชักชวนทำบุญของผู้นำ และศรัทธาที่ขาดปัญญาอย่างบริสุทธิ์ของผู้ตาม ในแง่ความดีทุกคนสามารถทำได้กันทุกคน คงไม่มีใครคิดจะหลอกใครให้เป็นบาป

    แต่ก็เคยมีคนดีๆที่เขาทำให้เป็นตัวอย่าง และมีคนอื่นเห็นตามก็มักรวมกันเป็นหมู่คณะเพื่อร่วมกันกระทำต่อไปก็มี ตัวอย่างเช่น ท่านมาฆมานพ ในประวัติการทำบารมีของพระอินทร์องค์ปัจจุบัน ที่ทำความดีโดยเริ่มจากตนเอง จนมีเพื่อน 32 คนเห็น และภรรยาอีก 3เห็น อนุโมทนายินดีและร่วมกระทำตาม

    ถ้าเปรียบในยุคปัจจุบันก็ คือ ในหลวง ที่ปวงชนชาวไทยยินดีหรือยินยอมทำสิ่งใดก็ตามเพราะเห็นและเชื่อในความดีและสิ่งที่ในหลวงทรงทำเป็นตัวอย่างตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา โดยไม่เคยสักครั้งที่จะกล่าวอ้างสิ่งใดที่อยู่นอกเหนือความดีีที่จะกระทำแม้จะมีอุปสรรคลำบากเพียงใด ไม่เคยคิดโทษปัญหาหรือสิ่งที่มากระทบ หรือแสดงออกแบบว่ากำลังตกเป็นทาสความโลภ โกรธ หลง

    อันนี้อยากให้คนอ่านคิดดูไม่อยากให้ผ่านไปเฉยๆ หรือทำเหมือนว่า ก็ที่ฉันทำน่ะเป็นความดีนะ จะมาขวางบุญกุศลอะไรมากมาย หรือ อย่าสงสัยใดๆอีกเลย จงเร่งขวนขวายบุญนี้เถอะ หรือ อันความผิดของผู้อื่นชอบเพ่งพิจแต่ของตัวเองกลับมองไม่เห็น อันนี้คือ อคติ หรือ ทิฏฐิมานะหรือเปล่าลองตรองดู

    การที่คนเราได้มองข้ามถึงที่มาที่ไปอย่างไร้สติ สุกเอาเผากิน นี่แหล่ะคือ การไม่พิจารณาธรรมะที่พระพุทธองค์สอนสั่งอย่างไม่ต้องสงสัย สำหรับในเรื่องสร้างพระผมเองก็ไม่ขัดเช่นกันแต่วิธีปฏิบัติเท่าที่ดูน่าจะเป็นโลกทักษิณมากกว่าโลกอุดรนะ...ว่าไหม
    (nogood)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 ธันวาคม 2006
  18. มพดา

    มพดา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    122
    ค่าพลัง:
    +547
    เรียนท่านผู้สงสัยในเรื่องราวของธรรมะโลกอุดร และพระครูเทพโลกอุดร

    โลกอุดร เป็นภาษาดั้งเดิมที่มีมานานแล้วตั้งแต่สมัยที่พระอุตตระเถรเจ้าเข้าเผยแพร่พุทธศาสนายังดินแดนสุวรรณภูมิ โดยได้เข้ามาที่นครศรีธรรมราชเป็นครั้งแรก (ได้สร้างพระศรีมหาธาตุ) ต่อมาได้เข้ามาที่นครปฐม (สร้างพระปฐมเจดีย์ โดยมีพระโสณะเถระเป็นผู้นำในการสร้าง) แล้วค่อยเผยแพร่ไปอย่างก้วางขวาง ทางพม่า ลาว เขมร เวียดนาม

    โลกอุดร หรือ โลกุตตระ เป็นคำเดียวกันมีความหมายเหมือนกัน เพียงแต่หลายคนหลายท่านยึดมั่นในอุปาทานของทิฐิตนจึงมีความหมายแตกต่างออกไป ผู้ไม่รู้ไม่เข้าใจจึงคิดว่า ไม่มีปรากฏในคำสอนพระพุทธองค์

    ผู้เข้าถึงโลกอุดรนั้น ต้องเข้าถึงด้วยการปฏิบัติ การน้อมตน น้อมจิตไปธรรมอันเป็นโลกอุดรหรือโลกุตตรธรรม ผู้ที่ถึงธรรมอันเป็นโลกอุดรนั้นก็มีมากมาย ไม่ได้มีเฉพาะบุคคลบุคคลหนึ่ง เพราะเป็นธรรมของกลาง ไม่มีใครเป็นเจ้าของ เพียงแต่ว่าบุคลนั้นจะทราบจะรู้ด้วยการปฏิบัติเท่านั้น

    เรื่องที่ควรสงสัยในเรื่องนี้คือ ทำอย่างไรถึงจะน้อมตน ส่งตนไปในธรรมที่จะนำไปสู่โลกุตตระ หรือ โลกอุดรได้ เมื่อรู้แล้ว เห็นแล้ว ถึงแล้วก็จะทราบเอง

    ธรรมะ พระพุทธองค์ได้ตรัสว่า ธรรมะอันปราณีตลึกซึ้ง รู้ได้เห็นได้ด้วยตนเอง ไม่มีกาล ไม่มีเวลา เมื่อปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรมแล้ว ก็จะเข้าใจเอง

    เมื่อไม่สามารถรู้ได้ เห็นได้ด้วยตนเอง ก็ไม่ควรปฏิเสธ หรือไม่เห็นด้วย เพราะจะเป็นบาปกรรมเปล่าๆ ควรทำใจให้เป็นกลาง แล้วพิสูจน์ด้วยธรรมะที่รู้ด้วยปัญญาตนเองที่ผ่านการปฏิบัติ อันเป็นสัมมาปฏิบัติ จึงจะสามารถตัดสินได้ว่า เรื่องราวของพระครูเทพโลกอุดรนั้นเป็นจริงหรือไม่

    คนเราส่วนใหญ่สมัยนี้ชอบถือมงคลตื่นข่าว ไม่ใช้วิจารณญาณ พิจารณาเรื่องราวต่างๆด้วยสัมมาธรรม แต่เป็นการตัดสินด้วยทิฐิตนเอง

    ผู้ที่รู้ได้ว่า ใครคือพระครูเทพโลกอุดรนั้น ก็ต้องทำตนเป็นให้เข้าหาธรรมะอันเป็นโลกอุดรหรือโลกุตตระก่อน นอกเสียจากว่าท่านเหล่านั้นจะแสดงตนเองให้รู้ให้เห็นเอง ด้วยบุพกรรมอันมีมาแต่อดีตชาติร่วมกัน บารมีถึงพร้อมแล้ว เวลาเป็นปัจจัย ท่านก็มาปรากฎให้เห็นเองอย่างไม่ต้องสงสัย


    จงก้าวพ้นล่วงความสงสัยด้วยสัมมาปฏิบัติ อันส่งตนดีแล้วไปในอธิศีล อธิสมาธิ อธิปัญญา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 12 ธันวาคม 2006
  19. มะม่วงสุก

    มะม่วงสุก Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +83
    อยากเรียนถามท่านวิสุทธิเทพผู้แตกฉานในธรรมะ(เท่าที่ดูมา) มีข้อสงสัยมากมายในคำตอบ เนื่องด้วยผมยังเป็นปุถุชนอยู่

    1.ท่านกล่าวว่า "โลกอุดร หรือ โลกุตตระ เป็นคำเดียวกันมีความหมายเหมือนกัน เพียงแต่หลายคนหลายท่านยึดมั่นในอุปาทานของทิฐิตนจึงมีความหมายแตกต่างออกไป ผู้ไม่รู้ไม่เข้าใจจึงคิดว่า ไม่มีปรากฏในคำสอนพระพุทธองค์"
    แสดงว่ามีในคำสอนพระพุทธองค์ ช่วยกรุณาแสดงข้อธรรมนั้นให้ปรากฏเป็นธรรมทานด้วยครับ

    2.ท่านกล่าวว่า "โลกอุดรเป็นธรรมของกลาง ไม่มีใครเป็นเจ้าของ เพียงแต่ว่าบุคคลนั้นจะทราบจะรู้ด้วยการปฏิบัติเท่านั้น " แล้วท่านคิดเห็นอย่างไรบ้าง ครับกับการที่มีผู้อ้างว่าติดต่อพระครูเทพได้ หรือมีผู้อ้างว่าพระครูเทพฝากมาให้ทำโน่นนี่อะไรทำนองนี้ครับ ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงก็แสดงว่าไม่ใช่อวดอุตริ แต่เป็นกิจเพื่อศาสนา เพราะการปฏิบัติของท่านเหล่านั้น บอกให้ท่านต้องช่วยเหลือพระพุทธศาสนาด้วยวิธีแบบนั้น และถือว่ากระทำได้โดยสุจริตและไม่ต้องมีใครมาสนใจแบบนั้นใช่ไหมครับ

    3.ท่านกล่าวว่า "ที่สงสัยในเรื่องนี้ควรที่จะน้อมตน ส่งตนไปในธรรมที่จะนำไปสู่โลกุตตระ เมื่อรู้แล้ว เห็นแล้ว ถึงแล้วก็จะทราบเอง ธรรมะ พระพุทธองค์ได้ตรัสว่า ธรรมะอันปราณีตลึกซึ้ง รู้ได้เห็นได้ด้วยตนเอง ไม่มีกาล ไม่มีเวลา เมื่อปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรมแล้ว ก็จะเข้าใจเอง " ไม่ทราบว่าท่านวิสุทธิเทพเห็นธรรมนั้นแล้วหรือยังครับ เพราะคนที่เห็นผมคิดว่าคงอธิบายได้แตกฉานและย่นย่อพิสดาร สำหรับผมเองยังไม่เห็น แต่ที่เห็นคือ ในที่นี้ ผู้สำเร็จธรรมโลกอุดรดูจะมีผู้พบเห็นกันหลายท่าน มีเบอร์ติดต่อ ที่อยู่ให้ด้วยครับและมีภารกิจใหญ่คือ การสร้างพระเพื่อดำรงพระพุทธศาสนา ราคาหลายล้านบาท แล้วต้องหล่อใน 3 เดือนนี้ด้วย(อันนี้แปลกใจมาก เสี่ยงจริงๆ กับการยึดมั่นถือมั่นครั้งนี้) แถมเป็นบารมีที่ไม่เพียงแต่มนุษย์จะทราบจากเวปนี้ แต่ 31 ภพภูมิ หรือเทพเทวาก็ร่วมยินดีช่วยกันมาก

    4.ไม่ทราบว่าสัมมาปฏิบัติของท่านที่เป็นรูปธรรม รวมถึงวิธีการเข้าถึงพระครูเทพของท่านผ่านการปฏิบัติมาจริงมากน้อยขนาดไหนครับ อยากให้เล่าประสบการณ์สำคัญๆ ให้ฟังบ้าง เอาแบบย่นย่อพิสดารก็ได้ครับ ผมชอบ

    อนุโมทนาบุญครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 ธันวาคม 2006
  20. Tewadhol

    Tewadhol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    190
    ค่าพลัง:
    +694
    แหม่...ถามแบบเจาะจงคําตอบแค่สองทางแบบนี้ ผมว่ายากไป
    รู้ก็ทั้งรู้ เมื่อคนเราได้รับการเผยแผ่ สั่งสอน ย่อมเกิดศรัทธา
    ศรัทธามากก็ปฏิบัติมาก สร้างมาก เป็นเงาตามตัว
    พระเจ้าอโศกมหาราช ยังสร้างเจดีย์ตั้ง 84000 เลยนา

    ลองคิดดีๆนา...ยังไงซะก็แยกกันไม่ออกหรอก ของมันคู่กัน
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...