"พ่อหลวง"..ของหนู (เรื่องราวแฝงรอยยิ้มของพระองค์)

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย aom-am 1, 5 ธันวาคม 2010.

  1. aom-am 1

    aom-am 1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    178
    ค่าพลัง:
    +731
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#ffffcc><TD vAlign=center></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>



    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>มีเรื่องน่ารัก ๆ ของในหลวงมาเล่าให้ฟังให้พวกเราได้รับทราบ
    ในพระจริวัตรของท่าน เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า พระองค์
    ท่านจะเสด็จเยี่ยมเยียนพสกนิกรของพระองค์ท่านอยู่เป็นประจำ>
    โดยเฉพาะชาวบ้านต่างจังหวัดจะโชคดีกว่าเรานักที่ได้มีโอกาส่
    ชื่นชมพระบารมีของในหลวงได้ใกล้ชิดและบ่อยครั้งกว่าคนใน
    กรุงเทพมากนัก จึงมีเรื่องของในหลวงมาเล่าให้ฟัง
    ฟังแล้วเชื่อว่าทุกคนจะต้องอมยิ้มกันทุกคนแน่

    เรื่องที่ 1. วันหนึ่งพระองค์ท่านเสด็จเยี่ยมเยียนพสกนิกรของ
    > > ท่านตามปกติที่ต่างจังหวัด ก็มีชาวบ้านมาต้อนรับในหลวง
    > > มากมายพระองค์ท่านเสด็จพระราชดำเนินมาตามลาดพระ
    บาทหลวงที่แถวหน้าก็มีหญิงชราแก่คนหนึ่งได้ก้มลงกราบแทบ
    พระบาทแล้วก็เอามือของแก่มาจับพระหัตถ์ของในหลวง
    > > แล้วก็พูดว่ายายดีใจเหลือเกินที่ได้เจอในหลวง แล้วก็พูดว่า
    > > ยายอย่างโน้น ยายอย่างนี้ อีกตั้งมากมายแต่ในหลวงก็ทรง
    > > เฉย ๆ มิได้ตรัสรับสั่งตอบว่ากระไร แต่พวกข้าราชบริภารก็
    มองหน้ากันใหญ่ กลัวว่าพระองค์จะทรงพอพระราชหฤหัย
    > > หรือไม่ แต่พอพวกเราได้ยินพระองค์รับสั่งตอบว่ากับหญิง
    > > ชราคนนั้น ก็ทำให้เราถึงกับกลั้นหัวเราะไว้ไม่ไหวเพราะ
    > > พระองค์ทรงตรัสว่า " เรียกว่ายายได้อย่างไร
    > > อายุอ่อนกว่าแม่ฉันตั้งเยอะ ต้องเรียกน้าซิ ถึงจะถูก "
    > >
    > > เรื่องที่ 2. พระองค์ท่านเสด็จไปที่จังหวัดสกลนคร เพื่อเยี่ยม
    > > เยียนชาวบ้าน และพระองค์ก็ทรงตรัสถามชายคนหนึ่งที่มา
    > > เข้าเฝ้าเพราะแขนเจ็บเข้าเฝือก ในหลวงทรงรับสั่งถามว่า
    > > " แขนเจ็บไปโดนอะไรมา " ชายคนนั้นตอบว่า " ตก
    สะพาน " แล้วในหลวงทรบรับสั่งกลับไปอีกว่า " แล้วแขนอีกข้าง
    หนึ่งละ " ชายคนนั้นก็ตอบกลับมาอีกว่า " แขนข้างนี้ไม่ได้ตกลง
    ไปด้วย ตกข้างเดียว " ในหลวงของเราก็ทรงพระสรวล
    > >
    > > เรื่องที่ 3. พระองค์เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมพสกนิกรที่
    > > ทางภาคใต้ คือจังหวัดนราธิวาส ทางใต้นี้มีปัญหาเรื่องดิน
    > > เป็นกรด มีความเค็ม พระองค์จึงทรงรับสั่งถามกับชาวบ้านที่
    มาเฝ้ารับเสด็จว่า " ดินหลังบ้านเป็นอย่างไร เค็มไหม "
    > > ชาวบ้านก็มองหน้ากันแล้วทำหน้างง ก่อนตอบกลับมาว่า
    > > " ไม่เคยชิมซักที " ในหลวงก็รับทรงสั่งกับข้าราชบริภารที่
    > > ตามเสด็จว่า " ชาวบ้านแถวนี้เขามีอารมณ์ขันกันดีนะ "
    4. ในขณะที่ในหลวงท่านทรงประชวรเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลที่เก่าแก่ที่สุด แห่งนึงมีข้าราชบริพารเข้าเยี่ยมจำนวนมาก ทุกคนคงจำได้ที่เป็นข่าวใหญ่โตที่นายกฯคนปัจจุบันบังอาจถวายบัตร 30 บาท ให้พระองค์เพื่อใช้สิทธิ์สร้างความแค้นเคืองใจให้พสกนิกรชาวไทยทุกคนแต่ไม่มีใครรู้เบื้องหลังว่าพระองค์ทรงตอบว่าอย่างไร ในหลวงทรงตรัสว่า "ไม่เป็นไรหรอก หากข้าพเจ้าไม่สามารถจ่ายค่ารักษาได้แต่คงสามารถใช้บัตรผู้สูงอายุได้ หรือจะใช้สิทธิข้าราชการของบุตรี (ฟ้าหญิง)ก็ได้"ท่านพูดเสียงเรียบๆ ไม่ได้รู้สึกว่าถูกลบหลู่เลย พูดเสร็จก็ยื่นบัตรทองใบนั้นให้นายกที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ฟังแล้วก็อดยิ้มไม่ได้ว่าท่านตอบได้น่ารักมากเคยมีคนถามผมว่า นับถือใครมากที่สุด คิดถึงคนแรกและคนเดียวเลยคือ ในหลวงท่านเหนือกว่ากษัตริย์ใดในโลกหล้า ยิ่งใหญ่กว่าวีรบุรุษคนใดในตำนานมีคุณธรรมประเสริฐล้ำเทียบพระโพธิสัตว์ ขอถวายความจงรักภักดีจนกว่าชีวีจะหาไม่

    5.เราจับได้แล้ว ท่านผู้หญิงเกนหลง สนิทวงศ์ ณ อยุธยา
    นางสนองพระโอษฐ์ในสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ
    ....ครั้งหนึ่งในงานนิทรรศการ "ก้าวไกลไทยทำ" วันที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2538
    "The BOI Fair 1995 commemorates the 50th Anniversary of His Majesty King Bhumibol Adulyadej's reign" (Board of Investment Fair 1995 BOI)
    หลังจากที่เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถตามศาลาการแสดงต่างๆ ก็มาถึงศาลาโซนี่ (อิเล็กทรอนิกส์) ภายในศาลาแต่งเป็น "พิภพใต้ทะเล" โดยใช้เทคนิคใหม่ล่าสุด "Magic Vision" น้ำลึก 20,000 league จะมีช่วงให้แลเห็นสัตว์ทะเลว่ายผ่านไปมา ปลาตัวเล็กๆสีสวยจะว่ายเข้ามาอยู่ตรงหน้า ข้อสำคัญเขาเขียนป้ายไว้ว่าถ้าใครจับปลาได้เขาจะให้เครื่องรับโทรทัศน์ พวกเราไขว่คว้าเท่าไหร่ก็จับไ ม่ได้เพราะเป็นเพียงแสงเท่านั้น แต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำรัสว่า "เราจับได้แล้ว" พร้อมทั้งทรงยกกล้องถ่ายรูปชูให้ผู้บรรยายดู แล้วรับสั่งต่อ "อยู่ในนี้" ต่อจากนั้นคงไม่ต้องเล่าเพราะเมื่ออัดรูปออกมาก็จะเป็นภาพปลาและจับต้องได้ บริษัทโซนี่จึงต้องน้อมเกล้าฯถวายเครื่องรับโทรทัศน์ตามที่ประกาศไว้...

    6. หมึกไม่ออก ผู้ช่วยศาสตราจารย์อนงค์รัตน์ สุขุม ........
    วันที่ 19 กรกฎาคม 2526 เป็นวันพระราชทางปริญญาบัตรที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่นายกสโมสรอาจารย์จะเป็นผู้ดูแลถวายปากกาให้ทรงลงประปรมาภิไธย แต่ในปีนั้นดิฉันในฐานะอุปนายกสโมสรอาจารย์ได้รับหน้าที่นี้แทน ก่อนจะเสด็จประราชดำเนินเราก็ดูแลความเรียบร้อยทุกอย่าง อย่างระมัดระวังที่สุดโดยเฉพาะปากกาลองกันหลายครั้งจนมั่นใจว่าไม่มีปัญหาแน่
    พอเสด็จฯมาถึงท่านก็ทรงลงประปรมาภิไธย ปรากฏว่าทรงจรดปากกาลงไปแล้วแต่ไม่มีหมึกออกมาเราก็ตกใจมากเลย ไม่รู่จะทำยังไงดี นึกในใจว่าเป็นความบกพร่องของเราแน่ๆลองมากไปจนหมึกหมด ดิฉันก็เลยถวายกระดาษทิชชูเปล่าๆ ที่อยู่ในมือให้ท่านเพื่อจะให้ท่านทรงเช็ดปากกา แต่ท่านทรงพระเมตตามากเลยสีพระพักตร์ที่ท่านมองดิฉันเหมือนกับจะตรัสว่า "ไม่ต้องตกใจ"แล้วก็ทรงนำปากกามาลองที่มือดิฉันที่มีกระดาษทิชชู่ ปรากฏว่าหมึกออกจากนั้นก็ทรงหันไปลงพระปรมาภิไธยในสมุด พอท่านเสด็จพระราชดำเนินไปแล้วทุกคนก็รีบเข้ามาดูกระดาษที่ทรงลองปากกาแผ่นนั้นกันใหญ่ ศาสตราจารย์ ดร.สุรพลวิรุฬห์รักษ์ ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งคณบดีคณะศิลปกรรมศาสตร์ บอกว่า
    "พี่ๆขอหน่อยเถอะพี่ จะเอาไปเป็นมงคล" ก็เลยแบ่งให้อาจารย์ไปส่วนหนึ่ง...

    7. ทุกข์ยามดึก
    พลตำรวจตรีสุชาติ เผือกสกนธ์ ผู้อำนวยสำนักงานโครงการพระดาบสอดีตอธิบดีกรมไปรษณีย์โทรเลข .....การที่ได้ทรงพระกรุณารับฟังและติดต่อทางวิทยุตำรวจเป็นประจำ จึงทรงทราบความลำบากความเดือดร้อนของข้าราชการตำรวจชั้นผู้น้อย ตำรวจประจำตู้ยามบางคนคับแค้นใจเกี่ยวกับปัญหาครอบครัว
    ปัญหาการครองชีพ เมื่อเสพสุราแล้วครองสติไม่ได้ไม่รู้จะระบายความในใจกับใคร จึงได้พล่ามบรรยายมาทางวิทยุ บางคนหลับยามไม่พอกดคีย์ไมโครโฟนค้าง ทำให้มีเสียงกรนออกอากาศมาด้วย บางคนตะโกนร้องเพลงลูกทุ่งออกอากาศมาเป็ฯการแก้เหงา ก็มีที่จัดได้ว่าโชคดี คือ ศูนย์ควบคุมข่ายตำรวจแห่งชาติ "ปทุมวัน" กล่าวคือ ในยามดึกวันหนึ่ง พนักงานวิทยุคนหนึ่งได้ระบายความเดือดร้อนเนื่องจากหิวโหยไม่สามารถ หาอาหารรับประทานได้เพราะต้องเข้าเวรเมื่อทรงรับฟังแล้วทรงสงสาร จึงได้รับสั่งทางวิทยุกับผู้เขียนในฐานะที่เป็นผู้บังคับบัญชาของหน่วยงานนั้นโดยตรงว่า "โปรดเกล้าฯ พระราชทานตู้เย็นเพื่อเก็บอาหารสำรอง สำหรับเวรยามดึกให้ 1 ตู้"




    </TD></TR></TBODY></TABLE>ที่มา</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>
    siweb.dss.go.th






    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  2. น้ำดี1

    น้ำดี1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    13,402
    ค่าพลัง:
    +43,432
    ได้ฟังเรื่องของพระองค์ท่านแล้วปลื้มปิติมากค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...