ผม...พระ...และ...สาระยุคก่อน

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย modpong, 8 พฤษภาคม 2010.

  1. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> ขอขอบคุณ..ทุกๆท่านที่
    Post มาให้กำลังใจ..ชม..และติดตาม
    .........................................................สวัสดีทุกท่าน......................................................
    ........กุรข่า..นักรบเลือดดุ..............................................................................................
    .............................................กองกำลังอังกฤษ..ที่ค่อยคืบ.มุ่งหน้า..สู่ ที่ราบสูงDeothal..
    พร้อม..กำลังรบ..เสริม..เต็มพิกัด..งวดนี้..ใช้ช้าง..บรรทุกปืนใหญ่..เป็นจำนวนมาก..ขึ้นเนินเขา
    มาด้วย..กองพันทหาร..ที่เป็นแขกอินเดีย..๒ กองพัน..กองพันที่เป็น..ทหารอังกฤษ ๑ กองพัน
    (เป็น GRENADIER(ทหารราบรักษาพระองค์))ประมาณ๑,๐๐๐นาย..รวมกำลังเป็น ๓,๕๐๐ นาย
    ..พร้อมกับ..อาวุธ..และ..เสบียง..เพียบ..เพราะมุ่งมั่นมาก..และได้บทเรียนจาก AmarSingh
    Tappa..มาแล้ว..ได้ตั้งแนว..ที่จะล้อมป้อมMaluan..ไว้ห่างๆ..โดยอาศัย..ปืนยาว..และปืนใหญ่
    ถล่มอย่างเดียว..โดยจะไม่เข้าตีแบบปกติอีกแล้ว..กันพวกกุรข่า..ออกมาลุย.......
    .........................จนถึงเย็น..วันที่๑๕..เมษายน คศ. ๑๘๑๕ BhaKti Thappa..ขุนพลเฒ่าผู้เจน
    ศึก..ซึ่งวางแนวป้องกันที่Surigargh..อยู่ไม่ห่างจาก..ป้อมMaluanเป้าหมายหลัก..ของอังกฤษ
    เท่าไหร่นัก..ได้แอบสังเกตุการณ์..กำลังทหารอังกฤษ..ที่วางกำลังอยู่..ก็คิดในใจว่า..คงหนัก
    หนาสาหัส..แน่..ขุนพลเฒ่ากุรข่า..วัย..๗๔ ปี..ก็นำกำลังทั้งหมด๔๐๐..หลีกเร้น..อาศัยความมืด
    หนีสายตา..ทหารสังเกตุการณ์อังกฤษ..แอบเข้าป้อมจนได้..เพื่อสมทบกับ ผบ.สูงสุดกุรข่า..
    AMarSinghTappa..........

    ............... สมรภูมิละเลงเลือด DEOTHAL……………………………………………
    .....ขุนพลเฒ่าBhakti..ขอต่อ..Amarว่า..ดูถ้า..พวกอังกฤษมันคง..ไม่บุกเข้ามา..โดยใช้ปืนยาว
    ..และปืนใหญ่..ถล่มพวกเราไปอย่างนี้..เรื่อยๆ..และบีบให้เราต้องสละป้อม..หรือ..ไม่ก็ต้องยอม
    แพ้ต่อมัน..เพราะขาดเสบียง..ตัวเองพร้อม..นักรบกุรข่า..๔๐๐ คน..ที่มาด้วย..จะออกจากป้อม
    เพื่อ..ไปฆ่าทหารอังกฤษเอง..โดยสาบานไว้ว่าทุกคน..รวมทั้งตัวเองยอม..สละชีพเพื่อชาติ..จะ
    รบจนตัวตาย..ไม่มีการถอย..ให้เกียรตินักรบกุรข่า..ได้จารึกไว้(คำขวัญของทหารกุรข่าทุกคน..
    ..ใช้จน..ปัจจุบันนี้..ในภาษาอังกฤษ..เขียนไว้ว่า...BETTER DIE THAN TO BE A COWARD
    ...ซึ่งแปลเป็นไทยว่า..ยอม..ตาย..ดีกว่า..จะเป็น..คนขี้ขลาด...)..BhaKti ได้สั่งเสียกับ..หลาน
    ชาย..ที่เป็นนักรบกุรข่าเช่นกันซึ่งอยู่กับAmar...ให้ปกป้องAmar..จนกว่าชีวิตจะหาไม่...........
    .......แล้ว ๐๓.๑๕ ของเช้า..วันที่ ๑๖ เมษายน ๑๘๑๕ เสียงกลองเบาๆ..ก็ลอยมาถึง....
    ทหารอังกฤษ..เพื่อปลุกให้ทหารอังกฤษได้ตื่นขึ้น..แต่มันไม่ใช่..เสียงกลองของทหารอังกฤษ
    .แต่เป็นกลองของ..นักรบกุรข่าในบังคับบัญชาของฺBhakti..เพื่อให้อังกฤษ...รู้ว่าสุภาพบุรุษชาติ
    นักรบกุรข่า..ขอเชิญ..เหล่าทหารอังกฤษ..เตรียมพร้อมได้................................
    .............พร้อมกับเสียงกลองที่ดัง......ประตูใหญ่..ป้อมMaluan...ก็เปิดออก......................
    ........................................ต่อตอนหน้าครับ...............................................................
    ...............................................................................................................................
    ................................................................................................................................
    .............................................ขุนแผน VS ขุนแผน........................................................
    ......................ผมกำลังจะบอก..ท่านทั้งหลายว่า..............ข้อสันนิษฐานของผม..ก็คือ...
    ..ขุนแผนเคลือบ..ก็คือ..สิ่งมงคล..ที่..กษัตริย์..สร้างเพื่ออุทิศส่วนบุญกุศลถวาย..แด่..พระพุทธ
    ศาสนา..และ..เพื่อเสมือนเป็นสิ่งแทน..พระองค์....สมเด็จพระเนรศวรมหาราช..และ..สมเด็จพระ
    เอกาทศรถ...ซึ่งปรากฏ..เป็นแบบ..พิมพ์ใหญ่.....ส่วนพิมพ์แขนอ่อน..นั้น..คือสิ่งที่สมเด็จพระ
    อนุชาสร้างเพื่ออุทิศถวายแทนให้..แก่พระพี่นาง...สุพรรณกัลยา...ส่วนขุนแผนใบพุทรา..นั่นคือ
    พระที่..อุทิศส่วนบุญกุศลถวาย..ในนามเหล่าทหารหาญทั้งหมด... ...อย่าเพิ่งว่าผมเว่อร์..ลอง
    ฟังเหตุผล..ผมไปเรื่อยๆก่อน...............................................................................
    .....................ท่านฟังผมเล่าเรื่องการสร้างพระ..เพื่ออุทิศถวายเป็นพระราชกุศล..ของกษัตริย์
    ก็..ต้องมีความเป็นพิเศษอยู่แล้ว..ซึ่งผมเล่าที่มาไปแล้วนั้น..ในกรณีนี้..ก็คงต้องเป็นพิเศษ....
    เหมือนกันครับ..เพราะเป็นครั้งแรก..ที่พระเครื่อง..มีการเคลือบ........ปกติในอยุธยา..เครื่อง
    เคลือบ..ก็..ถือว่าเป็นของชั้นสูงอยู่แล้ว..ฉะนั้นเมื่อเอามาใช้ประกอบในการนี้..ก็สมเหตุผล...
    ...เพราะ..ใช้กับเชื้อสายกษัตริย์..ย่อมคู่ควร....ส่วนพิมพ์นั้น..เป็นรูปพระ..ประทับอยู่ใน..ซุ้มกนก
    ..หรือถ้า..พูดง่ายๆตามลักษณะ..ก็เหมือนพระราชวัง..หรือ..ตำหนัก..ที่มีเครื่องประดับหลังคา
    มีกนก..ช่อฟ้าใบระกา..และพร้อมเสาของรับ..ซึ่งเป็นที่ประทับของชนชั้น..กษัตริย์นั่นเอง...
    ..ส่วนเนื้อนั้น..อันนี้จำเป็นต้องเป็นดินขาว..เพราะเมื่อเคลือบ..ก็จะได้เห็นสีเคลือบชัดเจนส่วาง
    ..และมองเห็น..องค์พระชัดเจน..พุทธลักษณะของพิมพ์ใหญ่..ชัดเจน..สง่าผึ่งผาย..ไหล่กว้าง
    เอวคอด..สมชายชาติกษัตริย์..ที่ผมบอกว่าแทน..ของทั้งพระเนรศวร..และ..พระเอกาทศรถ..
    เพราะพระองค์ดำท่าน..ก็ยกย่อง..พระอนุชาเทียบเท่า..พระองค์เองอยู่แล้ว..ซึ่งมีปรากฎหลัก
    ฐานทางประวัติศาสตร์ชัดเจน...ส่วนพิมพ์แขนอ่อนนั้น..แสดงลักษณะออกไปทางสตรี..ค่อนข้าง
    ชัด..ไหล่ไม่กว้างเท่า..แขนเล็กและเรียว..อ่อนช้อย..เหมือนตัวนางในรามเกียรติ์..(ในกรุบ้าน
    กร่าง..จะลักษณะคล้ายนี้อยู่ใน..พลายเดี่ยว..และ..พลายคู่).....................................
    ...............................ต่อตอนหน้าครับ..ยังมีอีก...........................................................

    .....................................................สวัสดี....................................................................

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     
  2. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    .....................................................
    ...ขอบคุณ..มากครับ..เอาของเก่า..อีสานมาให้ดู...ศิลปอีสานแท้(รับอิทธิพลของ..ศิลปะล้านช้าง(ลาว)..มาเป็นหลัก)...เห็นของชอบผม...........เสมาหินทราย...เสมาหินทราย..ทางอีสาน(ตั้งแต่ยุคทวาราวดีเป็นต้นมา)..มีเรื่องราวหลากหลาย..จริงๆ..
    ...อย่าลืม..คอยผมจะมาเล่าเรื่องยาว..อีกเรื่อง..สงสัยต้องปีหน้าครับ..ผมจะมาวิเคราะห์เรื่อง..."เสมา..นั้นหรือ..คืออะไร..."
     
  3. ToPiCaL

    ToPiCaL เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,475
    ค่าพลัง:
    +4,585
    ผมเห็นภาพเลยคับ ตอนพี่เล่าว่าไปโรงเรียนเล่นแล้วเหงื่อออกต้องมานั่งผึ่งลมให้เสื้อแห้ง
    เด็ก ๆ ผมก็เป็นเหมือนกัน แล้วก็ชอบเอาไรยัดปากเหมือนกัน เห็นไรต้องลองชิมหมด
    เหมือนตอนพี่เล่าว่า ชอบเอาพระมาอม รสปะแล่ม ๆ 55555

    เด็ก ๆ ผมก็ชอบเอาพระติดกระเป๋านักเรียนไป ไม่ใช่ชอบพุทธคุณหรอกคับ
    เอาไปโชว์เพื่อน ๆ เท่ห์ๆ เฉยๆ ห้องพระยายผมผมเทลงใส่กระเป๋าหมด
    ทั้งพระทั้งประคำ เต็มกระเป๋า 55555 นึกเสียดายตอนนี้ไม่รุ้อยู่ไหนหมด
     
  4. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ..................................................
    ...ต้องพวกเหรียญทองแดง..นี่ละครับ..อร่อยสุด..พวกเงิน..ทอง..ไม่มีรสชาติอะไร.........................
     
  5. samzuzaa

    samzuzaa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    169
    ค่าพลัง:
    +501
    ยิ่งได้อ่านเรื่องราวของนักรบกุรข่านานเท่าไหร่...ยิ่งซาบซึ้งมากเท่านั้น...ขอสดุดีทุกดวงวิญญาณยอดนักรบชาวเอเชีย...อยากให้พวกขายชาติคิดล้างแผ่นดินได้อ่านนัก...ไม่รู้ว่าจิตวิญญาณของพวกมันเมื่อไหร่จะรู้จักจิตวิญญาณของคำว่าชาติ...=/\=
     
  6. ToPiCaL

    ToPiCaL เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,475
    ค่าพลัง:
    +4,585
    พี่ครับ แล้วพระกรุวังหน้า พี่พอทราบหรือเปล่าครับว่าเป็นอย่างไร
    ไม่รู้พี่มีเขียนหรือยังผมยังอ่านไม่หมด
    ผมเห็นหลายๆ เว็บ เอามาลงกันเยอะมากๆ สีสันสวยงาม ปิดทองฝังพลอย
    ลวดลายสวยสุด ๆ มีไม่รู้กี่พิมพ์
    พอดีก่อนหน้านี้มีกระทู้หนึ่ง เอามาให้คนบูชา ผมไม่ค่อยรู้ประวัติเพราะไม่ได้เล่นพระจริงจัง
    เลยถามไปในกระทู้ว่าประวัติเป็นไง คำตอบที่ได้กลับมาผมอ่านแล้วเหมือนกระแทกกระทัน
    เค้าบอกให้ผมไปล้างหน้าล้างตา แล้วเปลี่ยนทัศนะคติใหม่ ผมก็ไม่รู้จะเปลี่ยนยังไงเพราะ
    ยังไม่ได้รับคำตอบอะไรเลย เลยเขียนมาถามพี่ละกันครับ
     
  7. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ..................................................
    ..อ๋อ..ผมไม่เขียนถึงหรอกครับ..แล้วแต่ความเชื่อ...แต่ถ้าถาม..ผมว่ามีมั้ย..ไม่มีครับ..อยากจะมีมั้ย...ตอบว่า..ไม่ครับ..และไม่ได้สนใจด้วย...บางทีของอย่างนี้..บางท่านก็รุนแรงไปหน่อย..แต่ถ้าคุณใช้sense ..ในคำตอบ..ก็จะเข้าใจได้..ถ้าเชื่อ..และศรัทธา..ก็ทำต่อไปไม่ผิดครับ..เพราะมันมีความสุข..แต่ไม่แน่ใจ..ก็ไม่ต้องไปใส่ใจ..เพราะมีพระกรุอีกตั้งเป็นร้อยกรุ..ที่มีที่มา..ที่ไปชัดเจน..ให้เล่น..ให้สะสมได้..ไม่ดีกว่า..เหรอครับ...
     
  8. คนบ้านสะแก

    คนบ้านสะแก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    78
    ค่าพลัง:
    +432
    สวัสดีครับพี่
    ผมคนอยุธยา อ่านที่พี่เขียน ผมอ่านแล้วค่อยๆคิดตามไป อยากบอพี่ว่า หูตาผมกว้างขึ้นอีกเยอะ
    ผมชอบวิธีคิดของพี่จริง มีข้อมูล วิเคราะห์ โดยเหตุผล ออกมาเป็นความน่าจะเป็น
    มากกว่า การใช้ความเชื่อแบบดิบๆ แบบ"เขาเล่าว่า" หรือพี่อาจคุ้นๆคำนี้ "องค์นี้เป็นของ
    ปู่ของปู่ทวดเลยนะนี่"55555
    มีคำพูดคำหนึ่งที่ชอบพูดกันติดปากคือ "ไม่เชื่อ แต่อย่าลบหลู่" เป็นคำพูดที่ผมเกลียดเข้า
    ใส้เลย ทำไมละก็ผมไม่เชื่อนี่ ทำไมผมจะลบหลู่ ดูแคลนไม่ได้ แต่ผมก็ไม่ขวางใครนะ เป็น
    เรื่องของแต่ละบุคคล แต่ใครจะห้ามใจผมคิดได้ ผมเคยมีประสบการณ์ สมัยรุ่นๆ เตะขัน
    น้ำมนต์ของคนทรงเจ้า กระเด็นมาแล้ว วงแตกเลย เจ้ากลับศาลแทบไม่ทัน มันมาต้มแม่ผม
    ผมนั่งฟังอยู่นาน ทนไม่ไหว

    เข้าเรื่อง คนแก่ก็แบบนี้ จะคุยกับพี่ก็เขียนเรื่อยเปื่อยไปเรื่อย เรื่องการแขวนพระเครื่องของพี่
    ตามที่พี่เล่า ผมเข้าใจเลยพี่ ผมเองก็แขวนพระเครื่องหลายองค์ แต่ของผมน้อยกว่าพี่ ผม
    แขวนพระเครื่องสองเส้น เส้นหนึ่งสั้นสวมหัวได้พอดีแขวนพระเครื่ององค์เดียว ซึ่งจะติดตัว
    ผมตลอดเวลาไม่ถอดจากคอ ไม่ว่าจะอาบน้ำ นอน คือติดตัวตลอด ยกเว้นปล้ำเมีย หรือถูกเมียปล้ำ
    ถึงจะถอด55555(พี่ก็คงถอดนะ ไม่ถอดนี่ผมนึกภาพแล้วมันแหม่งๆ 555555 ) หยอกเย้า
    พี่นะครับ อย่าถือสาน้อง
    ที่แขวนติดตัวตลอด ไม่ใช่เพื่อความอุ่นใจนะครับ แต่เป็นความรู้สึกผูกพันระหว่างอาจารย์
    กับศิษย์ และมีความสุขที่ได้สัมผัสองค์ท่าน อีกอย่างเวลาจะทำอะไรเลวๆ ก็เกรงใจอาจารย์ท่าน
    อีกพวงหนึ่งพวงนี้หลายองค์ ที่แขวยหลายองค์เพราะ ผมไม่สามารถจะถอดองค์ใด องค์หนึ่ง
    ออกได้ เพราะผมมีประสบการณ์(ปาฏิหารย์หรือ จะเรียกว่าความบังเอิญ ประจวบเหมาะ
    อย่างไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ จนจิตสัมผัสได้กับพลังงานนั้นได้)
    อีกเหตุผลหนึ่ง ผมมีเหตุผลว่า อาจารย์ทุกองค์นั้น ก็ศึกษาและมีความถนัดจัดเจนในแนว
    ทางที่แตกต่างกัน พลังงานที่ประจุในพระเครื่องแต่ละองค์ ก็แตกต่าง ยกตัวอย่างเช่น
    หลวงพ่ออั้น วัดพระญาติ(ผมใช้แหวนท่านใส่มาตั้งแต่หนุ่มยันแก่)หรือหลวงปู่สีวัดสะแก
    คือสายวัดประดู่โรงธรรม วัตถุมงคลของท่านที่ผมสัมผัสได้นั้นก็แบบหนึ่ง คือขึ้นคอแล้ว
    ใจนั้น นิ่งสนิทจริงๆ
    กับวัตถุมงคลของหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี เมื่อขึ้นคอจะสัมผัสได้ถึงความร่มเย็นสงบ
    ทีนี้ในแต่ละวันที่ดำเนินชีวิต สิ่งที่เกิดขึ้นมันหลากหลาย เราต้องการอารมย์แบบไหน
    ก็ระลึกถึง แต่ละองค์ท่าน

    ระลึกถึงนะครับ ไม่ได้ขอ ผมไม่ค่อยขออะไรกับอาจารย์ท่านหรอกครับ คือรู้สึกเหมือนรบกวนท่าน ท่านก็ดูแลศิษย์อยู่แล้ว ยกเว้น จวนตัว ฉุกเฉิน แก้ไม่ได้ หมดปัญญา จนทาง
    ละก็ ยกมือพนม ตั้งจิตขอท่านละครับ.....แล้วปาฏิหารย์ ก็จะเกิด....

    สร้อยเส้นนี้ ผมจะแขวนเมื่ออาบน้ำตอนเช้า สวดมนต์เสร็จ ก็จะใส่ตลอดทั้งวัน กลางคืน
    ถอดใส่พานไว้ในห้องพระ

    คุยกันเรื่อยๆนะพี่ แต่ในการที่ผมคุยนั้น ผมมีจุดประสงค์อย่างหนึ่ง คือเป็นการถ่ายทอด
    ความคิดของผม ซึ่งเป็นเหมือนคำถามถึงพี่ว่า มันเหมาะสมไหม ตรงไหนไม่ถูก พี่ช่วยชี้
    แนะผมด้วย ถ้าขัดใจด่าได้55555 นึกว่าเอ็นดูน้อง

    สุภาษิตโบราณ "คนจะคมได้ ต้องลับด้วยคน"
     
  9. คนบ้านสะแก

    คนบ้านสะแก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    78
    ค่าพลัง:
    +432
    ลืมไป ขอบคุณครับพี่ สำหรับ link ลืมนึกไปว่า ใช้ google หาได้
    สงสัยอยู่นาน เพราะได้ยินสมัยเด็ก แต่ไม่รู้จักพระว่ารูปร่างเป็นอย่างไร
    อ่านตาม link แล้วถึงบางอ้อ ถามใครถึงไม่มีใครรู้จัก พระหูไห
     
  10. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ..................................................
    ..ดี..เข้ามาแลกเปลี่ยนกัน..มันจะเกิดความหลากหลาย..ไม่เหงา..หลายอารมณ์..ของพี่นะ..ความที่เป็นคนขี้ลืมมาแต่หนุ่ม(คนที่ลืม..คือ..คนที่ใจลอย..เรียกว่าใจไม่อยู่กับตัว..ฉะนั้น..จิตส่วนความจำ..แบ่งไปใช้คิดเรื่องอื่น..อยู่..ก็เลยจำไม่ค่อยได้)..พี่ก็เลยไม่ถอด..ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ..หลวงพ่อที่ใช้นี่ก็..สุดยอด..แล้ว....พี่ใช้เรื่อง"ความน่าจะเป็น"หรือprobability"..เพราะติด..ก็ไม่จริง..เพราะถ้าติดจริงคือ..ใช้คำว่าprob..เฉยๆ..แต่ด้วยเป็น.วิศวกรออกแบบ..และ..เป็นนักวิชาการ..มันหนี..ไม่ออกเรื่องความน่าจะเป็น..เป็นการอธิบายอะไรสักอย่าง..ในเรื่องที่ยังไม่มีหลักฐานพิสูจน์ชัดเจน..หรือยังไม่เกิด
     
  11. ASSET ME

    ASSET ME เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +112
    สวัสดีครับคุณmodpongและคุณคนบ้านสะแก
    บอกตรงๆชอบและศรัทธาครับ ค่อยๆเล่าและถ่ายทอดนะครับ
    จะได้มีเรื่องดีๆมีสาระให้อ่านและติดตามได้นานๆ เพราะบางทีเจอแต่กระทู้น้ำๆ(ไม่มีเนื้อ) จนบางทีไม่อยากเข้าเวป ผมก็เป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์โลก(โดยเฉพาะชาติไทย) ทุกเรื่องทุกตอนผมคิดว่า มันแฝงคติธรรมหลายๆอย่างครับ (ถ้าค่อยๆอ่านแล้ววิเคราะห์) ขอปรบมือและประสานมือขอบคุณ
     
  12. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ..................................................
    ...นี่คือส่วน..หนึ่ง..ที่อยากให้คิดกัน..นอกเหนือจากความมัน..ของเรื่อง..คือ..การที่เป็นคนรักชาติ..ความกล้าหาญ..ความอดทน..และการเสียสละเพื่อชาติ..และความสามัคคี..เป็นหนึ่งเดียว...ขอบคุณครับ..คุณSamzuzaa........
     
  13. lynn@nice

    lynn@nice เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    21,515
    ค่าพลัง:
    +19,462
    สวัสดีค่ะ คุณ ลุง ทำไมประจวบเหมาะในทุกครั้งเลยค่ะ ที่อยากจะรู้เรื่อง อะไร แล้วเข้ามาอ่านกระทู้ คุณ ลุง ก็จะได้รับคำตอบทุกที่ ( สงสัยกระแสจิตลินคงดี หุๆๆ ) เพราะต้นปีหน้า ลินได้จองเป็นเจ้าภาพ ถวายใบเสมาให้วัด หนึ่งใบ และ ลินก็เลือก ติดตั้งในทิศเหนือค่ะ คุณ ลุง ลินจะรออ่านบทความเรื่องใบเสมา ในตอนต่อๆไปนะคะ ขอให้คุณ ลุง สุขภาพแข็งแรง และ เป็นกำลังใจในการเขียนทุกๆวันเลยค่ะ ขอบคุณค่ะ
     
  14. คนบ้านสะแก

    คนบ้านสะแก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    78
    ค่าพลัง:
    +432
    สวัสดีครับพี่
    รบกวนขอความคิดเห็นพี่หน่อยนะครับ ช่วยวิจารณ์ เกี่ยวกับแนวคิดเรื่องพระเครื่องของผม
    หน่อยนะครับ


    พระเครือง เรื่องมหาอุด เหนียว แคล้วคลาด ความเจริญก้าวหน้าของชีวิต สรุปคือพุทธคุณ
    ในพระเครื่องนั้น ผมคิดอย่างนี้นะครับ

    คือจากวัยเด็ก ที่เคยเห็นชนิดจะจะตาเลย คือมีนักเลงรุ่นใหญ่ สองคนตีกันด้วยไม้คมแฝก
    เสียงไม้กระทบเนื้อนี่ผมอธิบายไม่ถูกว่าน่ากลัวแค่ไหน ในความเป็นจริงตามธรรมชาติ
    ผมว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่แตก กระดูกไม่หัก แต่บวมปูดขึ้นมาเป็นแนวเลย แต่ไม่แตก

    อีกครั้งก็ลุงเสือ...ที่ผมเล่านั่นแหละ พรรคพวกลุงแก มาหาพูดคุยกัน ก็มีการลองพระกัน
    ยิงด้วยปืน เมาเซอร์ต่อด้าม กับปืนคาร์ไบร์ มีบางองค์ยิงไม่ออกจริงๆ

    จากสองเรื่องนี้ ทำให้ผมเชื่อเพราะเห็นกับตา แต่ถามว่าเชื่อสนิทใจไหม ก็ไม่เชื่อโดยสนิท
    ใจนะ ก็คิดยกให้เป็นเรื่องบังเอิญ จนต่อมาอายุมากขึ้นเรื่อยๆ และใช้พระเครื่องมาตลอด
    มันก็ค่อยๆเรียนรู้และรู้สึกได้ จากประสบการณ์ต่างๆที่เจอกับตัวเอง ซึ่งไม่สามารถจะไป
    เล่าให้ใครฟังได้ นอกจากรู้อยู่แก่ใจตนเองว่า ของจริง มีจริง

    ก็มานั่งคิดสรุปว่า พุทธคุณในพระเครื่อง เป็นเรื่องจริงหรือ คิดโดยละเอียด ก็สรุปกับตัวเอง
    โดยไม่มีอะไรเคลือบแคลงสงสัยว่า มีจริง จากนั้นมาผมก็เชื่อโดยสนิทใจ ใน
    พุทธคุณพระเครื่องที่ผมแขวนอยู่ หลังจากนั้นมา ก็สัมผัสในเรื่องราวของพุทธคุณ
    พระเครื่องได้บ่อยๆ เรื่องราวดีๆ ก็เกิดกับชีวิต มาตลอด

    ผมจึงมาคิดว่าการจะสื่อให้ถึงพุทธคุณ ในพระเครื่องนั้น ต้องมาจาก ความเชื่อมั่น ศรัทธา
    อย่างบริสุทธิใจ โดยไม่ต้องไปคิดถึงหลักการทางวิทยาศาสตร์ หรืออะไร เพราะวิทยาศาสตร์
    ถ้าเทียบกับโลก จักรวาลก็เป็นเพียงแค่เด็กทารกเท่านั้น วิทยาศาสตร์ยังไม่รู้อะไร
    อีกมาก และยังพิสูจน์เรื่องบางเรื่องไม่ได้มากมาย เมื่อพิสูจน์ไม่ได้ ก็โยนให้เป็นเรื่องเหลว
    ไหล หรือบังเอิญไป หรือถ้ายากเกิน ก็ไม่สนใจไปเลย เช่นเรื่องลางสังหรณ์ ไม่เห็นนัก
    วิทยาศาสตร์ คนไหนมาศึกษา ทั้งที่รู้ว่ามีอยู่จริง

    สรุปคือว่า ผมว่าสมัยก่อนที่พระเครื่อง ใช้กันได้ผลชัดเจน เพราะคนสมัยก่อนเขาเชื่อมั่น
    ไม่คิดมาก ทำให้เกิด พลังใจ เหมือนที่เขาพูดกันว่า"เสียอะไรเสียได้ แต่ใจอย่าเสีย"

    อีกนิดนะพี่ อันนี้บ่น คือหลังจากผมสะสมพระเครื่องจนพอใจ สักเมื่อยี่สิบกว่าปีที่ผ่านมา
    ผมก็หยุด และไม่ได้ติดตามเรื่องราวเลย เกี่ยวกับงานด้วย จนมาต้นปีนี้แหละที่เข้ามาดูๆ
    อีกที ยอมรับว่าตกใจ กับเรื่องราวหลายเรื่อง ในวงการจนรู้สึก ห่วงๆเด็กรุ่นหลังๆ ไม่ว่า
    จะเป็นการสร้างกระแส การปั่นราคาพระเครื่องจน เลยเถิด

    ดีนะครับที่พี่ มาถ่ายทอดความรู้ มุมมองบางอย่าง ซึ่งมีประโยชน์ต่อ คนรุ่นหลัง เป็นกุศล
    อย่างยิ่งครับพี่ นับถือครับพี่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 พฤศจิกายน 2010
  15. chopper1972

    chopper1972 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,314
    ค่าพลัง:
    +13,153
    อนุโมทนากับพี่ๆอาวุโสนะครับ ที่มาถ่ายทอดประสบการณ์และแนวคิดดีๆให้กับน้องๆหลานๆฟัง....เรื่องในอดีตเหล่านี้ หาคนถ่ายทอดได้น่าติดตามแบบนี้ยากมากๆครับ....ขอบพระคุณมากครับ:cool:
     
  16. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ..................................................
    ...ได้บุญสูงครับ...เดี๋ยวนี้..ใบเสมาจะตั้ง..ฐานลูกนิมิต..ซึ่ง..ได้ความหมายทางปกป้อง..เพราะลูกนิมิต..คือลูกอม..หรือ..ลูกสะกด..ขนาดยักษ์..เพื่อขับไล่สิ่งอัปมงคล..เสนียดจัญไร..ไม่ให้เข้ามา..ในเขตพุทธาวาส..เสมาในสมัยโบราณ..วัดไม่มีลูกนิมิต..ก็ใช้เสมาทำหน้าที่..สองอย่างคือ..บอกเขตพุทธาวาส..และปกป้องกันสิ่งชั่วร้ายเสนียดจัญไรทั้งปวงด้วย..ซึ่งเสมาสมัยโบราณ..จะศักสิทธิ์มาก..เพราะจะได้รับการปลุกเสกเป็นพิเศษ..ฉะนั้น..อานิสงค์..ก็ได้คือ..ได้รับการปกป้องจากสิ่งชั่วร้ายทั้งปวงด้วย...........
     
  17. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    .................................................
    ...ดีครับ..เข้ามาแบ่งปัน..กัน..ความจริง..หลักการทางพุทธศาสนา..ก็เป็นวิทยาศาสตร์ทั้งหมด..ตั้งแต่.."มีเกิด..ย่อมมีดับ"..เป็นต้น..ไสยศาสตร์..และ..พลังจิต..เดี๋ยวนี้..ทางฝรั่งก็ยอมรับ..เพียงแต่ไม่หมด..คนที่ไม่รู้จริง..เอาวิทยาศาสตร์..มาเปรียบเทียบ..แล้วบอกว่าพิสูจน์ไม่ได้..จึงไม่ถูกต้อง..ต้องบอกว่า..ตอนนี้..ยังพิสูจน์ไม่ได้..เพราะเมื่อมันเกิดขึ้นจริง..ย่อมไม่เหลวไหล..ทุกสรรพสิ่ง..ต้องมีที่มาที่ไป..เมื่อมีเหตุ..ย่อมมีผลตามมา..เพียงแต่หาต้นตอ..ของเหตุ..ได้หรือยัง..เท่านั้น..นี่คือวิทยาศาสตร์..วิทยาศาสตร์คือวิชาความรู้ในการ..หา..เหตุ..ที่มาของเหตุ..และผล..ที่ได้..และนำผลที่ได้มาวิเคราะห์..แล้ว..ไป..สู่เหตุ..จากเหตุ..นำไปสู่ผล..อย่างไม่สิ้นสุด..ผมถึงบอกว่า..เมื่อขบวนการ..หาเหตุ..วิเคราะห์เหตุ..ยังไม่สิ้นสุด..จะมาใช้คำว่า"วิทยาศาสตร์"..ไม่ได้.."พิสูจน์ไม่ได้"..นั่นเพราะ..ยังวิเคราะห์..ไม่ลึกพอ...ไม่เก่งพอ..ฉะนั้นจะใช้คำว่า..เหลวไหล..ไม่ได้..เมื่อ ..ผล..ถูกยืนยันทาง..รูปธรรม..หา..เหตุที่ทำให้เป็นเช่นนั้นไม่ได้..แล้วคนที่มาพูด..บอกว่า..วิทยาศาสตร์..พิสูจน์ไม่ได้..เหลวไหล..นั่นคือ..คำพูดของ..คนโง่..เพราะถ้าเป็น..นักวิทยาศาสตร์ตัวจริง..เข้าถึงศาสตร์จริง..เขาจะไม่พูดครับ..เขา..จะพูดว่า..ยังพิสูจน์ไม่ได้..เท่านั้น..เดี่ยวนี้..ทางวิทยาศาตร์..ก็เริ่มพิสูจน์ได้..แล้ว..ว่า"พลังจิต"..เกิดขึ้นได้..อย่างไร...อีกหน่อยถ้ามีคนศึกษาต่อ..ก็จะรู้ว่า..ไสยศาสตร์..เกี่ยวข้องกับ..พลังจิต..ยังไง..แล้วก็จะหา..ที่มาแห่งเหตุ..จึงทำ..ให้เกิดผล..ได้..อย่างนี้ครับ.....วิทยาศาสตร์
     
  18. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ขอขอบคุณ..ทุกๆท่านที่
    Post มาให้กำลังใจ..ชม..และติดตาม...
    ....................................................สวัสดีทุกท่าน............................................................
    ........กุรข่า..นักรบเลือดดุ..............................................
    .......................จารึกแห่งเกียรติศักดิ์นักรบกุรข่า..ที่เอาเลือดทาปฐพี..DEOTHAL...............
    ..............................................ภาพที่ปรากฏแก่สายตา..ทหารอังกฤษ..พร้อมกับ..เสียงย่ำ
    เท้า.นักรบกุรข่า๔๐๐ คน..คือเหล่าผู้กล้า..นำโดยขุนพลชรา..วัย๗๔ ปี..Bhakti THappa..กับ
    นักรบของเขา..เดินออกมา..แบบช้าๆ..ไม่เร่งรีบ..ขณะเดียวกัน..ผู้บังคับบัญชา..และ..นายทหาร
    อังกฤษ..ก็สั่งการเตรียมพร้อม..อาวุธทุกชนิด..เล็งไปที่เป้า...เมื่อ...Bhakti..ซึ่งตอนนี้เด่นมาก
    เพราะ..ทั้งผม..หนวด..ขาวโพลนไปด้วยความชรา..ปลิวไสว..นำ..นักรบกุรข่าทั้ง ๔๐๐ คน
    ออกจาก..ป้อมหมดแล้ว..เสียงกลอง..จึง..หยุด....เสียงย่ำเท้า..ไม่มี..ประตูป้อมปิดกลับ..เช่น
    เดิม...เวลาเหมือน..หยุดเดินไปชั่วขณะ..ทุกอย่างเงียบ............มีแต่เสียง..หายใจของ..นักรบ
    ..ทั้ง..สองฝ่าย......................................................................................
    ................................แล้ว...................เสียงของ..Bhakti..ที่โห่ขึ้นด้วยเสียงอันดังตาม..รูป
    แบบการบุก..ของกุรข่า..พร้อมๆกันกับเสียงโห่ของนักรบกุรข่าอีก ๔๐๐ คน...................
    .......ที่ชักทั้ง..ดาบ..และ..คูครี..กระชับแน่น..เงื้อขึ้น..ในลักษณะพร้อมรบ(บางคน..ก็..ใช้โล่ห์
    แล้วแต่ถนัด...แต่ที่แน่ๆ...คือ..ไม่มีใครใช้ปืน.....)......................เบื้องหน้าพวกเขา...คือทหาร
    จำนวน ๓,๕๐๐ คน..ที่มีปืนยาว..เป็นอาวุธประจำกาย..และเล็งมาที่กุรข่า..ปืนใหญ่วิถีราบ..ขนาด
    ๖ ปอนด์..เรียงเป็นตับ....สภาพพร้อมยิง.....
    .........................ผมว่าในใจ..ขุนพลเฒ่า..ก็เตรียมพร้อมอยู่แล้ว..รวมทั้งนักรบของแก..ทั้ง..
    ๔๐๐ ว่าเป็นวันสุดท้าย..แต่จะตายทั้งที..ก็ต้องตายแบบสมชายชาตินักรบกุรข่า..การรบต้องเปิด
    เผย..แกจึงตีกลองปลุกทหารอังกฤษ...ให้เตรียมพร้อม..เพื่อจะสู้กันแบบ..ลูกผู้ชายที่แท้จริง...
    ...และให้ทหารอังกฤษจะได้ซึ้ง..ถึง..ความกล้าหาญไม่กลัวตาย..และ..ความรักชาติ..ของพวก
    เขา..............................................................................
    ............................เสียงโห่..ไม่สิ้นสุด..BhaKti..ก็..วิ่งนำพร้อมกับ..เหล่านักรบกุรข่า..ทุกคน..
    เป้าหมาย..คือ..หัวทหารอังกฤษ........แล้วเสียงปืน..ทุกชนิด..ของทหารอังกฤษ..ก็ระเบิดขึ้น
    พร้อมกัน......................... ....................... ..........................
    ......................................................ต่อตอนหน้าครับ..................................................


    [​IMG] [​IMG]


    [​IMG]

    ...............................................................................................................................
    ...............................................................................................................................
    ................................................ขุนแผน VS ขุนแผน ..................................................
    ..................การสร้างพระดินเผา...ที่เป็น”ดินขาว”........ต้องถือว่าเป็น..ครั้งแรก..และพิเศษ
    จริงๆ...เพราะ..”ดินขาว”..ไม่ใช่..ดินสอพอง...ในภาคกลางนั้นไม่มี...แหล่งดินขาว..อยู่ในภาค
    เหนือ..ตอนบน..เช่นลำปาง..แถบ..แจ้ห่ม..ซึ่งแถบแจ้ห่ม..นี่ก็..เป็นการต่อยอด..ในการหาแหล่ง
    ดินขาว..ในยุคใหม่..ถ้าจำได้ผมเคยพูดเรื่อง”สังคโลก”..มาแล้ว..ไม่ใช่ไทย..สู้จีนไม่ได้เลย..
    เลิกผลิต..แต่เพราะ..ดินขาวหมด..และในยุคนั้น..ก็หาแหล่งอื่นมาทดแทน..ไม่ได้..ทำให้เรา..
    ทำ..เครื่องถ้วยสังคโลก..เนื้อขาวไม่ได้..เมื่อใช้ดินที่ไม่ค่อยขาวมาแทน..คณภาพเลยด้อย..
    และต้องเลิกรา..ไปในสมัย..อยุธยา..ฉะนั้น..แหล่งดิน..รู้แต่เพียงว่าอยู่ภาคเหนือตอนบน..อาจ
    จะใช้แหล่งเดียว..กับเครื่องเคลือบเตาเวียงกาหลง..ก็เป็นไปได้.....นีจึงแสดงถึง..ความพิเศษ
    และต้องมีการเตรียมการล่วงหน้าพอสมควร.............สำหรับ “ขุนแผนใบพุทรา”..ที่ผมบอกว่า
    แทน..เหล่าทหารกล้าทั้งหลาย..นั่นชัดเจน..เพราะใช้ดินธรรมดา...แถมรูปแบบก็แตกต่างไป
    โดยสิ้นเชิง...ไม่มีปราสาท..หรือซุ้ม..มาครอบพระ............รูปแบบค่อนข้างเรียบง่าย........
    ....ด้วยประวัติการสร้าง..จึง..ทำให้เกิดความสอดคล้อง..การทำพิธี..แบบที่ยิ่งใหญ่มากๆ....
    ..และอย่าลืม..ว่า..ไม่ใช่แค่สร้างพระ..แต่รวมถึง..การสร้างเจดีย์ขนาดใหญ่..ของพระองค์ท่าน
    ..การสมโภช..เจดีย์..การนำพระเข้าบรรจุ..ก็คงเป็นเวลาใกล้ๆกัน.........................
    .........นี่ก็แค่..เป็นข้อสันนิษฐาน..ของกระผมเท่านั้น..อ่านเอาเพลินๆครับ................
    ...................ต่อไปก็คงจะมาวกเข้า..เรื่องที่เกี่ยวกัน..ว่า..รูปแบบพระขุนแผนเคลือบ..จะเอา
    มาจาก..ที่อื่นเป็นไปได้ใหม.......ผมว่าความเป็นไปได้น้อยมาก...เพราะย้อนกลับไป..ที่เป็นพิธี
    ยิ่งใหญ่..และ..การที่ช่างจะนำเสนอรูปแบบ..เอง..ก็ต้องผ่าน..ระดับสูงของ..ทั้งฝ่าย..บรรพชิต
    และฆาราวาส..ก่อน..จะนำไปให้ทั้ง..สมเด็จพระพนรัตน์..และ..สมเด็จพระเนรศวร..ได้พิจารณา
    ....ต่อให้..ขุนแผนเคลือบ..ไม่ได้เสมือน..พระองค์ท่าน..แต่..พระองค์ท่านเป็นผู้สร้าง..อุทิศถวาย
    เพื่อพุทธศาสนา..เราอย่าลืมว่า..ณ ขณะนั้น..เกียรติภูมิ..ของพระองค์ท่านยิ่งใหญ่..และมีบารมี
    มากเพียงใด..พสกนิกรใต้พระบาทท่าน..ย่อมเทิดทูน..ยิ่งในสมัยก่อน..คนไทย..อยู่ในระบบสม
    บูรณายาสิทธิราช..ทุกคนเป็นข้าฯใต้พระบาท..เมื่อช่างสักคน..ได้รับมอบหมาย..งานออกแบบ
    สร้างพระ..ที่สมเด็จพระเนรศวร..เป็นผู้สร้าง..เรียกว่าเป็นเกียรติ..แก่ตัวเอง..และวงศ์ตระกูล..
    ขนาดไหน...การที่จะเอารูปแบบที่เคยทำไปแล้ว..แล้วเอาไปใช้อีก..โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับของ
    สมเด็จพระเนรศวร..ไม่ต้องไปถามใคร..ผมว่าท่านลองถามตัวท่านเอง..ถ้าท่านเป็นช่างคนนั้น
    ท่านจะทำมั้ย..สังคมคนไทย..ให้ความเคารพกษัตริย์เพียงไหน..ถึงแม้ไม่ใครทราบ..แต่ตัวเอง
    ทราบ..ใจตัวเอง..ผมว่าทำไม่ได้หรอกครับ..ช่างสมัยก่อน..ไม่ใช่แบบสมัยนี้..ที่เก่งแต่ก้อบปี้งาน
    ชาวบ้าน..นี่ช่าง..ผมก็ว่าน่า..จะเป็นช่างหลวงด้วย..เป็นข้าในพระองค์..การเป็นช่างหลวงก็ต้อง
    เก่งมาก...ทำไมจะออกแบบใหม่ไม่ได้....(เรื่องต่างคน..ต่างออกแบบ..แล้วมาเหมือนกัน..นี่..น่า
    จะตัดประเด็นนี้ออกไปได้เลย..เพราะโอกาศความน่าจะเป็นแทบไม่มี..)..................
    ....ผมเองจึงเชื่อว่าจากเหตุที่ประมวลมา..น่าจะเป็นรูปแบบ..ที่สร้างขึ้นมาใหม่เอง..ไม่ได้ลอกมา
    จากใคร.................................................................................................
    .............................................ต่อตอนหน้าครับ...................................................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  19. lynn@nice

    lynn@nice เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    21,515
    ค่าพลัง:
    +19,462
    ขอบพระคุณ คุณ ลุง มากๆ เลยค่ะ ถือว่าเป็น สิริมงคลของชีวิต ลิน และ ครอบครัว เลยค่ะ

    เรื่องของ กรุข่า นักรบเลือดเดือด พออ่านมาถึงใกล้ๆบทสุดทัายก็ให้เศร้าใจ เพราะผลที่ออกมา ก็คือการจากไปของพวกเขา แต่ก็ต้องยกย่อง นักรบทุกท่าน เลยค่ะ ถึงแม้นหนทางข้างหน้าจะมีเพียง ตาย กับ ตาย พวกเขาเหล่านั้นก็สู้ไม่ถอย เพียงเพื่อปกป้องคนที่เป็นที่รัก และ ถิ่นที่เกิด ซาบซึ้งใจจริงๆค่ะ
     
  20. คนบ้านสะแก

    คนบ้านสะแก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    78
    ค่าพลัง:
    +432
    ขอบคุณมากครับพี่

    พี่ครับ ถ้าจังหวะไหน พี่ว่าง ผมอยากให้พี่เล่าเรื่อง "พลังจิต" ด้วยนะครับ
    เมื่อไรก็ได้ครับ เพราะผมตามอ่านกระทู้พี่ตลอด

    คือผมไม่ได้เข้าเนททุกวันน่ะครับ เวลาไปฟาร์มเมืองกาญจน์ ผมก็ไม่มีเนทใช้

    ขออนุญาตพี่ save กระทู้พี่ไว้นะครับ ไปต่างจังหวัดจะได้อ่าน
    เที่ยวที่แล้วอ่านเร็วไปหน่อย เก็บรายละเอียดได้ไม่หมด

    ขอบคุณครับสำหรับสิ่งดีๆนะครับพี่
     

แชร์หน้านี้

Loading...