ออกจากสมาธิไม่ได้

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย เวิ้งว้าง, 26 ตุลาคม 2010.

  1. เวิ้งว้าง

    เวิ้งว้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    53
    ค่าพลัง:
    +177
    ปกติดิฉันจะพยายามนั่งสมาธิทุกวัน แต่พักหลังนี้ไม่ค่อยได้ทำต่อเนื่อง และเรื่องมีอยู่ว่าเมื่อคืนก่อนได้นั่งสมาธิไปจนถึงช่วงละคำภาวนา นั่งไปเรื่อยๆ สักพักเหมือนกายกับจิตแยกกัน แล้วพออยากจะเลิกก็พยายามค่อย ๆ ถอนจิตออกมาเหมือนทุกครั้ง แต่ครั้งนี้แปลกกว่าทุกครั้งคือ พยายามถอนแล้วแต่มันถอนไม่ได้ มันเหมือนจิตยังติดอยู่ตรงนั้น อารมณ์เหมือนเขาอยากให้นั่งต่อ ยังไม่อยากให้ถอนออกมา อยากจะลืมตาแต่ก็ลืมไม่ได้ แต่ด้วยความกลัวเพราะยังไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ก็เลยพยายามลืมตาขึ้นมา แต่ความรู้สึกก็ยังเหมือนอยู่ในนั้นเลย

    ไม่ทราบว่าเป็นอะไร รบกวนท่านผู้รู้ให้คำแนะนำด้วยค่ะ

    ขอบคุณค่ะ
     
  2. ไม่ยึด

    ไม่ยึด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    274
    ค่าพลัง:
    +263
    สงสัยว่าอารมณ์ของสมาธิจะติดออกมาด้วย ชั่งมันจิ แหะๆ

    (ผมอ่อนด๋อยเรื่องสมาธิรอคนเก่งๆมาตอบดีกว่า)
     
  3. ZIGOVILLE

    ZIGOVILLE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    196
    ค่าพลัง:
    +792
    ลองวิธีของผมดูนะครับ

    ผมเพิ่งสมัครสมาชิกวันนี้วันแรกนะครับ เมื่อวานว่าจะตอบคำถามแล้วล่ะแต่ยังไม่ได้สมัคร เลยกลับไปลองพิจารณาดู ว่า แต่ก่อนก็เคยเป็นแบบนี้เหมือนกัน เป็นสหธรรมิก เดินตามเส้นทางแห่งธรรมเหมือนกัน น่าจะพอได้แลกเปลี่ยนความรู้กันได้ ลองวิธีการแก้ปัญหาตามแบบของผมดูนะครับ อาจจะพอทุเลาหรือเป็นกำลังใจในการบำเพ็ญเพียรต่อไปได้
    1.สวดมนต์ไหว้พระตามสมควร(ถ้า Advanced หน่อยก็อาจทำวัตร) แล้วแผ่เมตตา จากนั้นตั้งสัจจาธิษฐานขอพรบิดา มารดา ครูบาอาจารย์ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เทวดาที่ปกปักษ์รักษาเราทั้งหลายให้ช่วยพิทักษ์รักษาในระหว่างบำเพ็ญเพียรภาวนา ขอบูชาชีวิตนี้ ร่างกาย ลมหายใจนี้แด่ท่านทั้งหลายที่กล่าวมาแล้ว แม้ตายก็ไม่เสียดายชีวิต
    2. เริ่มนั่งสมาธิใหม่จนจิตสงบเหมือนเดิม โดยใช้วิธีที่คุณทำอยู่เป็นประจำ เช่น บริกรรมต่างๆ พุทโธ หรือ นิพพาน หรือ ยุบหนอ พองหนอ ฯลฯ
    3. ให้กำหนดจิตรู้ตามความเป็นจริงนะครับ เช่น จิตฟุ้งซ่าน ก็ดึงกลับมาที่คำบริกรรม หรือเกิดเวทนา ก็รับรู้ว่าเป็นสักว่า ๆ วางใจเป็นกลาง ถ้าเกิดความกลัวให้น้อมจิตระลึกถึงสัจจาธิษฐานข้อ 1 ...ถ้ามีเสียงดัง หรือตกใจให้น้อมจิตเข้ามาที่คำบริกรรมต่อ ห้าม ลุก ห้าม ออกจากสมาธิทันทีเด็ดขาด(ถ้ากำลังสติที่ได้รับการฝึกนานๆ จะไม่ตกใจ สติจะกำหนดรู้เอง)....ถ้าเกิดปิติสุขในสมาธิ ก็ให้กำหนดรู้ที่จิต...ให้ดูจิต...จิตไม่ใช่ของเรา....ความสุขที่เกิดขึ้น...เป็นเพียงสักว่า...เพราะมันเกิดที่จิต จิตไม่ใช่เรา...ความสุขเกิดขึ้น เดี๋ยวก็มีความทุกข์ตามมา....ให้วาง....................ละ...................ให้ระลึกถึงนิพพานอย่างเดียว คือจุดหมายปลายทางของเรา
    4. ภาวนาไปเรื่อยๆ จนกว่าจิตสงบ แล้ว......ก่อนออกจากสมาธิทุกครั้งให้แผ่เมตตา...และกำหนดคำบริกรรมที่เราใช้ประมาณ 10 ครั้ง เช่น พุทโธ ฯลฯ และกำหนดรู้ร่างกายตั้งแต่ปลายผม ลงมาเรื่อยๆ จนถึงฝ่าเท้า(กายคติสติ) พิจารณาขึ้น-ลง ประมาณ 3 รอบ แล้วค่อยๆ กำหนด "ลืมตาหนอๆ" ....."เห็นหนอๆ"......แล้วค่อยๆ ขยับขา....ถ้าเกิดตะคริวรับประทานก็ให้......เหยียดขาให้ตรงในท่านั่งสักพัก จะหาย.......ครับ
    5. อย่าหยุดความเพียร อย่าคิดว่าบำเพ็ญเพียรภาวนาต้อง "นั่งสมาธิ" อย่างเดียว ให้ฝึกทั้งวัน ยืน เดิน นั่ง นอน ทำงาน ฯลฯ สามารถทำได้หมดด้วยการบริการที่เราถนัดนั่นแหละ ตราบใดที่เรายังมีลมหายใจ....
    6. ขออนุโมทนากับบารมีที่ทุกท่าน และพระอริยเจ้าทั้งหลายในสากลโลกนี้ที่ได้บำเพ็ญเพียร สั่งสมมา ขอให้ข้าพเจ้าได้มีส่วนในบุญบารมีเหล่านั้นด้วยเทอญ สาธุ

    ....จริงๆ แล้วผมก็ยังถือว่าเป็นนักปฏิบัตรธรรมดาๆ คนหนึ่ง สิ่งที่ได้นำมาแลกเปลี่ยนนี้นั้น ก็ได้มาจากประสบการณ์ของผม และจากหนังสือธรรมะอื่นๆ เนื่องวิธีปฏิบัตินั้นผมไม่มีเวลาไปที่วัดก็เลยศึกษาเองจากครูบาอาจารย์ แล้วอธิษฐานบารมีพระอริยสงฆ์ต่างๆ ช่วยชี้แนะการปฏิบัติในกรณีเกิดปัญหาต่างๆ ขึ้น แล้วก็ปฏิบัติเองที่บ้าน เลือกหาคำบริกรรมที่ถูกกับนิสัยของเราทำให้เกิดสมาธิได้เร็วที่สุด .....ก็เลยอยากนำมาให้แลกเปลี่ยนกันนะครับ

    ขอบคุณครับ
    โก้
     
  4. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493
    กำลังของจิตในขณะนั้นไม่พอที่จะถอน...ก่อนหน้าเคยนั่งกี่นาที แล้วเมื่อคืนนี้นั่งประมาณกี่นาที
    หากจะตั้งคำถามว่า จะเป็นอะไรไหมแบบเนี่ย ไม่เป็นไรหรอกครับ สบายใจได้
    แล้วที่ว่า ออกมาแล้วความรู้สึกเหมือนยังอยู่ในนั้น ก็แน่ล่ะครับ เพราะอารมณ์นั้นยังค้างอยู่ แก้ด้วยการเดินจงกรมสักสามสิบนาทีก็คลาย
     
  5. Palm21

    Palm21 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +7
    อนุโมทนาสาธุ ข้อความนี้ ผมเห็นด้วยครับ น่าจะเป็นประโยชน์แก่ผู้เริ่มปฎิบัติใหม่ดีครับ
     
  6. เวิ้งว้าง

    เวิ้งว้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    53
    ค่าพลัง:
    +177

    เรียน คุณมาจากดิน

    ดิฉันเริ่มปฏิบัติมาไม่กี่เดือนมานี้ตามหลักหลวงพ่อจรัญ และปกติจะนั่งทุกวัน วันละ 1 ช.ม. แต่เนื่องจากเหนื่อยจากการทำงานและเลี้ยงลูกก็เลยมีเวลาทำน้อยลง พักหลังนั่งได้ประมาณ 15 นาที ถึง 30 นาทีค่ะ อาการแบบนี้เพิ่งเคยเป็นค่ะ อารมณ์มันเหมือนอยากนั่งต่อไปเรื่อย ๆ แต่อีกใจหนึ่งก็รู้สึกว่าดึกแล้วอยากเข้านอนเพราะต้องตื่นไปทำงานแต่เช้าค่ะ

    รบกวนชี้แนะด้วยนะคะ

    ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาให้คำแนะนำด้วยค่ะ

    อนุโมทนา
     
  7. Mr.Boy_jakkrit

    Mr.Boy_jakkrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    2,063
    ค่าพลัง:
    +2,676
    ควรนั่งสมาธิเพื่อฝึกสติไปด้วยจะดีครับ
    สติที่ว่าก็คือสติที่ต่อเนื่องจากแข็งๆกระด้างกระดกก็จะค่อยเป็นสติที่เลียบราบจึงจะเกิดสมาธิต่อ เช่นการกำหนดรู้ลมหายใจหรืออริยบทอื่นนั่นก็เป็นหน้าที่ของสตินะครับ ก่อนที่จะเข้าสู่ภวังค์และเข้าไปในณานสมาธิที่มีลักษณะของสภาวะที่แนบนิ่งสนิท บางครั้งงานของสติอาจจะดูเหมือนว่าจบสิ้นแล้วต่อไปเป็นหน้าที่ของสมาธิที่อยู่กับความสงบสุขเปรมปรีมีปีติในขณะเข้าณานตรงนี้ควรที่จะมีสติที่เบาๆระลึกรู้ถึงสภาวะต่างๆแบบเนืองๆ และควรที่จะฝึกให้รู้เท่าทันในสถานการณ์ที่อาจไม่เคยคาดคิดมาก่อน เช่น กรณีมีเสียงดังเกิดขึ้น มีคนเรียก(หมายถึงคนเป็นๆนะประเดี๋ยวจะเข้าใจไปเป็นอื่นเสียก่อน) มีภาระกิจต้องทำ ตรงนี้จะเป็นจุดทดสอบของสภาวะจิตครับ เพราะหากในกรณีที่กล่าวมานั้นเราสติไม่ไวพออาจจะมีอาการทางอารมณ์ที่ค่อนข้างจะรุนแรงตามมาด้วยได้เช่นกัน บางท่านพอนั่งสมาธิแล้วจิตใจเข้าไปรับรู้ถึงสงบก็มีอาการใคร่ครวญโหยหา เกิดความอยากปราถนาจะเข้าไปสัมผัสอีก เกิดความหลงติดอกติดใจในสภาวะนั้นๆ แต่ได้เวลานั่งกลับมิบังเกิดสภาวะดังเดิมก็อาจจะสติแตกอาระวาทโวยวายโทษโน่นโทษนี่ อารมณ์เสียพลานไปเรื่อย ข้อนี้ก็ควรระวังไว้ด้วย
    บางท่านก็จะเอาแต่นั่งสมาธิที่หมายมั่นปั้นมือว่าฉันนั้นจะสงบๆๆๆๆ แล้วก็จะบึ่งไปนิพพานพวกเอ็งอย่ากวนใจนะโว้ย..อย่างนี้ก็มีนะ

    เพราะฉนั้นหัวใจหลักของสมถะก็ย่อมต้องมีสติ จึงจะเกิดสมาธิ ส่วนปัญญาก็ค่อยมาเล่าต่อในโอกาสต่อไป ตอนนี้ควรเปลี่ยนทัศนคติ(ทิฏฐิ) ไปในแนวทางที่พึงสังเกตุอาการ(สภาวะ)ต่างๆตามความเป็นจริง เช่น สงบรู้ แรกๆก็บริกรรมตามไปด้วย อาจจะใช้คำว่า รู้หนอ รู้หนอ ไปเรื่อย จงอย่าไปอยากให้มันหายไป และอย่าไปอยากให้มันเกิดขึ้น เพียงเฝ้าดูการเกิดดับของสภาวะนั้นๆไปเรื่อยๆนะครับ

    ปฏิบัติต่อไปครับ

    อนุโมทนา
     
  8. ผู้พันจุ่น

    ผู้พันจุ่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,396
    ค่าพลัง:
    +2,983
    คุณจะต้องกลับไปตามทางเดิม ไปให้ถึงที่เก่า เมื่อถึงแล้วก็ค่อย ๆ กำหนดความรู้สึกตัวถอยออกจากสมาธิ อาจจะท่องบริกรรมให้หนักแน่น จิตมันก็จะคลายการยึดความสงบนั้น เริ่มจะรู้สึกต้ว คลายตัวออกจากความแนบแน่นนั้น ....

    ปัญหาก็คือ จะกลับไปสู่ที่เดิมไหม?????? เข้าให้ลึกมากกว่าเก่าก็ได้ แล้วค่อย ๆ ถอนออกมาตามลำดับ ....ที่ให้ทำอย่างนี้ก็เพราะ มันจะคล้าย ๆ สติตามไม่ทันปัจจุบัน เหมือนเล่นกีฬาแล้วไม่ทันลูก ไม่ทันเกมส์ แต่ถ้าไม่เป็นไรก็ช่างเถอะ ไม่ต้องทำก็ได้ ผมเคยเป็นแล้วนานด้วย กว่าจะแก้ได้เป็นอย่างที่ว่านี้แหละ
     
  9. ทัสชา 567

    ทัสชา 567 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    341
    ค่าพลัง:
    +1,008
    เคยมีอาการเช่นนี้เช่นกัน ตั้งใจว่าจะถามหลวงพ่อ (สาขาหนองป่าพง) เพียงแต่คิดในใจ ท่านกลับตอบว่า"อย่าสงสัยให้ปฎิบัติไป" เกิดปิติขึ้นทันทีและอิ่มสุขทั้งวัน
     
  10. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,288
    ใช่อาการที่เรียกว่าผีอำหรือเปล่าครับ มันเป็นอาการที่เหมือนกับเราทำสมาธิไปจนร่างกายมันหลับไปแล้ว แต่จิตเรายังตื่นอยู่ไม่สามารถที่จะควบคุมร่างกายได้ ผมเคยเป็นครับเหมือนกับเราแค่กำลังหลับตาแต่ควบคุมร่างกายไม่ได้ มีสติครบ อยากตะโกนก็ทำไม่ได้ จะยกแขนอะไรแบบนี้ไม่ได้ใช่หรือเปล่าครับ มันเป็นเรื่องปกติครับอาจจะเพราะร่างกายเพลียมากเกินไปก็พยายามสังเกตลมหายใจครับมันเป้นตัวเชื่อมกายกับใจได้<O:p</O:p
     
  11. สับสน!

    สับสน! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +3,984
    สติอ่อน หรือ กำลังจะขาดสติครับ..ถ้าสติมีจะแจ่มชัด อาการจะกระฉับกระเฉงภายในจิต เพราะจิตมีกำลังไม่เผลอไม่เบลอ..เป็นเพราะร่างกายอ่อนเพลียครับส่งผลมาถึงจิตจะขาดกำลังอยากนอนใช่ไหมครับ
     
  12. เตชพโล

    เตชพโล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    267
    ค่าพลัง:
    +1,431
    จิตเค้าอยากพักตัวก็ให้เค้าพักเุถอะครับ
    ถึงเวลาเค้าก็ถอนของเค้าออกมาเองครับ

    เดี๋ยวคราวหน้าเข้าสมาธิอย่างนี้ไม่ไ้ด้อีก
    แล้วจะเสียดายนะครับ....
     
  13. จิตโต

    จิตโต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +163
    คุณไม่ต้องกลัวหรือตกใจ ทำอารมณ์ปกติวางเฉย....เป็นอุเบกขาธรรม
    ประคับประคองจิตให้อยู่ในฐานของความสงบ

    ขณะนั้นจิตเป็นสมาธิแน่วแน่ อย่าถอนจิตออกมาเด็ดขาด....
    ให้จิตได้พักอยู่ในความสงบได้กำลังสมาธิเต็มที่
    เมื่อถึงเวลาจิตมันจะถอนของมันออกมาเอง

    หลังจากจิตถอนออกมา...พิจารณาร่างกาย
    พิจารณาจนกระทั่ง...จิตรวมเข้าสู่ความสงบ พักอยู่ในสมาธิ

    จากนั้น....ค่อยๆ ถอนจิตออกจากสมาธิ
    ทบทวนวิธี....ทางเดินของจิต
    ตั้งแต่ขณะจิตเริ่มเป็นสมาธิ ขณะจิตกำลังทรงสมาธิ
    และสภาวะในขณะที่จิตกำลังถอนออกจากสมาธิ




    รู้สักแต่ว่า รู้
     
  14. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    จิตกำลังจะลงสู่ภวังค์ พอจะถอน จึงต้องใช้กำลัง และ ดูเหมือนว่าจะถอนไม่ได้

    ไม่ต้องกังวล คราวหน้า เอาสมาธิจ่อตรงหน้าให้ได้ เอาแบบเหมือนคนดูหนัง ตาไม่กระพริบ

    ก็ไม่เคยปรากฎว่า คนดูหนังถอนไม่ได้ หรือว่า คนอ่านหนังสือถอนไม่ได้ มีแต่ ไม่อยากถอน เพราะมันสนุก
     
  15. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,473
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,012
    ฝากถึงคุณ เวิ้งว้าง ครับ เรื่องของสมาธินั้น เราควรต้องปฎิบัติในทุกๆวันนะครับ ไม่อย่างนั้น สมาธิของเราจะเสื่อมได้ ผมอยากให้คุณ เวิ้งว้าง ปฎิบัติในทุกๆวันครับ หากคิดว่าไม่มีเวลานั่งจริงๆ หันมานอนสมาธิก็ได้ครับ ตอนนอนก็นอนจับลมหายใจเข้าพุท ออกโธไปจนหลับไปในทุกวันครับ หากทําเเบบนี้ทุกวันจนถึงขั้นที่เราได้ณานจะถือว่า เราอยู่ในณานจนกระทั่งตื่นขึ้นมาครับ อันนี้ผมไม่ได้พูดเองนะ หลวงพ่อท่านสอนมาครับ ไม่อยากให้คุณ เวิ้งว้าง ประมาทครับ ผมเคยนั่งสมาธิเเล้วเลิกนั่งไปนานๆ พอกลับมานั่งอีกที รู้เลยว่า สมาธิเราตกไปมากๆ กว่าจะกลับมาได้เหมือนเดิมอีกเเทบเเย่เหมือนกัน เราต้องหมั่นฝึกซ้อมจิตของเราในทุกๆวันครับ ทุกวันมีค่า เราจะละเลยไปไม่ได้เลยครับ ฝากอันนี้ให้คุณ เวิ้งว้าง อ่านเเล้วกันครับ อาจจะมีข้อที่คุณ เวิ้งว้าง กําลังเป็นอยู่ครับ ลองเข้าไปอ่านดูครับ เจริญในธรรมครับ

    อุปสรรคและวิธีแก้ไขในการทำสมาธิ

    http://palungjit.org/threads/อุปสรรคและวิธีแก้ไขในการทำสมาธิ.217531/
     
  16. อวตาร.

    อวตาร. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    411
    ค่าพลัง:
    +633
    ใช้คำภาวนา เพื่อโยงจิต จะได้ถอนออกมาที่ คำภาวนา ได้ง่ายขึ้น
     

แชร์หน้านี้

Loading...