ผม...พระ...และ...สาระยุคก่อน

สวัสดียามเช้าๆครับคุณลุง สวัสดียามเช้าๆทุกท่านครับ ^ ^

 

...ขอบคุณครับ

 

ผมชอบครับแบบนี้ คำสันนิษฐาน บางทีก็ไม่ตรงประเด็น และใช้ไม่ได้เสมอไปครับ

 

..........................................................
.......เอามาให้ดู..ล่วงหน้าเป็น..การโหมโรง..........พระของผมเอง..ถ่ายเอง...

 

เห็นด้วยเลยครับ กระทู้ของคุณ modpong นี่สาระแน่นเสมอครับ
ผมติดตามเสมอนะครับ แม้จะไม่ค่อยโพสท์ มีประโยชน์มากครับ

 

สวัสดีครับคุณอา...และทุกท่าน :d

 

ขอขอบคุณ..คุณคนเมืองแป้..คุณ๑๕ค่ำ..คุณโอ ท่าซุง..คุณกำธร นครปฐม..คุณSuppasit
คุณเฉียวฟง
ที่postมา ให้กำลังใจ..ชม..และติดตาม

.........................................................สวัสดีทุกท่าน.....................................................

.............ก่อนอื่นบอกให้ทราบ..เพื่อความเข้าใจ..เรื่อง..”สนิมแดง”...นี้..จต้องมีการท้าวความ
และปรับพื้นฐาน..เพื่อให้เข้าใจ..ได้ดี..และ..ง่ายขึ้น..ตามรูปแบบของผม..ที่ผ่านๆมา..คือต้อง
รู้กัน..ตั้งแต่..ตะกั่ว..ที่มาที่ไป..การเกิดสนิม..และต่อเนื่องไปถึง..ที่มันปรากฎบน..ผิวตะกั่ว..
นอกเหนือจาก..สนิมแดง..คือ..ไขขาว..ด้วย..ฉะนั้น..เรื่องจะยาว..ถ้าอยากเข้าใจให้ดี..ก็ต้องใจ
เย็นๆ.......การวิเคราะห์ข้อมูล..เพื่อ..นำเสนอ..รวมถึง..การประเมิน..เป็นรูปแบบ..ของผมเอง..
..ฉะนั้น..อาจไม่เหมือน..ที่ๆท่านทั้งหลายทราบมา..แต่ผมได้..ทำการค้นคว้า..หาข้อมูล..มานาน
..และสรุปผลประเมิน..ออกมา..ด้วยความเชื่อมั่นในตัวเอง...ก็แล้วแต่วิจารญาน..ของแต่ละท่าน
..เชื่อ..ก็..เก็บไว้ในใจ..ไม่เชื่อ..ก็ขอร้องให้เก็บไว้ในใจเช่นกัน..เป็นข้อมูล..นำเสนออีก..แนว
หนึ่ง...อ่านกัน..แบบต้องใช้สมองครับ..ของผมจะเป็นอย่างนี้..ไม่ใช่อ่านแล้ว..จำ..ลูก..เดียว..ทำ
ไมเป็นอย่างนั้น..ไม่ทราบ..ไม่ใช่ผมแน่นอน...................................



...............ผมเอารูป..”สนิมแดง”(มีไขขาวด้วย)..มาให้ดูจะๆเลย..แสงสะท้อน..มันแรงไปหน่อย
..เลยดู..มันแผล็บ..ของจริง..ก็..มันครับ..แต่ไม่ขนาดในรูป..ผมว่ามันเป็น..ความหลงใหลของ
นักเล่นพระกรุทุกคน..เพราะ..มันมี..เสน่ห์..และ..ลึกลับ..ซับซ้อน..และข้อสำคัญ..ที่คนชอบคือ
..เมื่อ..ส่องผ่านเลนส์..แต่ละไม่ถึง..ตารางเซ็นติเมตร..บนผิวที่เกิด..สนิมแดง..จะไม่เหมือนกัน
เลย..ต่อให้เป็น..หลังพระที่ค่อนข้างเรียบก็ตาม..โทนสี..และคลื่นที่เกิด..มันจะต่างกัน..ในองค์
เดียวกัน..นั่นก็คือ..พระแต่ละองค์พิมพ์เดียวกัน..ก็..ไม่มีทางเหมือนกัน..แล้งพระทั้งกรุ..ก็เลย
ยิ่งไม่เหมือนกัน..เข้าไปใหญ่..ผมพูดได้..เพราะผมส่องพระ..สนิมแดง..มาเยอะมาก..หลายกรุ
...ตลอด..๔๐ กว่าปีของการเล่นพระ..มีพระอีกหลายกรุ..ที่..คนทั่วไปไม่ทราบ..แต่ก็สนิมแดง
..แม้แต่..ตะกรุด..ก็ยังมีสนิมแดง..พระไม่เข้ากรุ..ก็มีสนิมแดง..เกิดได้เช่นกัน...(..ตอนต่อๆไป
..คุณจะได้เห็น..สนิมแดง..ที่ไมใช่..เป็นพระ..หรือ..เครื่องรางของขลัง..และไม่ได้อยู่ใน..ภูมิภาค
นี้ด้วย..เป็นของใช้ครับ.....)....................................................................................
...และให้สังเกตได้เลยว่า..พระกรุเดียวกัน..พิมพ์เดียวกัน..องค์ไหน..สนิมแดงมากกว่า..
ราคา..จะแพงกว่าแน่นอน..นี่หละครับเสน่ห์..ของมัน...ผมว่าเหมือนกันทุกคน..ที่ได้พระสนิม
แดงมาเป็นองค์แรก..ในชีวิต..แทบจะไม่ส่องตรงอื่นเลย..นอนส่อง..สนิมแดงเป็นชั่วโมง.....
เพราะ..ความสวยซึ้งของมัน..และไอ้เส่นห์ตัวจริงของมันคือ...มันไม่ได้มีโทนสีเดียว.........
เพราะ..จริง.คำว่าสนิมแดง..ครอบคลุม..สีไว้..มากกว่า ๑๐ โทนสี..ไล่ตั้งแต่..ส้ม..ส้มแก่..ส้มอม
แดง..ส้มอมชมพู..แดงอมส้ม..แดงอมชมพู..แดงเข้มอมน้ำตาล............ฯลฯ...เพราะมันจะมีสี
อยู่หลายสีนั่นเอง..คือ..ส้ม..ชมพู..แดง..น้ำตาล..ม่วง...ทำไมเป็นอย่างนั้น..เราจะมาว่ากันทีหลัง
...............................................................................................................................
...ส่วน..เรื่องการจะทำปลอมยังไง..ก็คงจะบอกเป็น..แบบ..ประถม..ไป..เพราะผม..ก็ไม่บังอาจ
จะทราบ..ว่าสมัยนี้เ­ขา..เทนิคการปลอม..ไปขั้นไหน..แต่ผม..เคยเห็น..ว่าอย่าง..ร่วงรางปืน..ที่
ผมบอกว่า..ผมเล่นพระ..จะจำรายละเอียดพิมพ์..ไม่ได้..แต่อาศัยส่องเยอะ..ดูเยอะ..จำเค้าหน้า
ได้..ขึ้นใจ..สัดส่วน..ลักษณะการก้มหน้า..อะไรแบบนี้มัน..ฝังสมองไปแล้ว..เห็นรูปทีมีอยู่ในweb
..เรียกว่า..เค้าหน้า..ไม่ใช่..แต่สนิมแดง..ที่ทำออกมา..น่ากลัวมาก..ใกล้เคียงทีเดียว..ดูในจอนี่
สังเกต..แทบไม่ออก..นี่ถ้าเป็นปลอม..ระดับ..ปริญญานี่..ผมเสร็จ..แน่นอน..ยอมรับเลย....
...ฉะนั้น..บอกไว้ก่อน...ถ้าไม่เคยเห็น..สนิมแดง..ของจริงมา..หลายๆองค์..อย่าเช่ามาเด็ดขาด
ถ้า..ไม่มีผู้ช่วยที่มีความชำนาญประกบ.......................................................
.......................ตอนต่อ...ไป..ผมจะเริ่มเข้าเรื่อง..ของ..ตะกั่ว..ประเดิมก่อนครับ.............

..................................................สวัสดี...................................................................

 

เป็นกำลังใจให้
และรอติดตามตอนต่อไปครับ

 

..................................................
...เอาไปดู..เป็น...SAMPLE.............

 

มาเก็บตอนที่หนึ่งครับ แล้วรอตอนต่อๆไป สนิมแดงไม่กล้าเช่าเหมือนกันครับและแบบอื่นๆด้วย เลิกเช่าพระมาได้ 3-4 ปีแล้วยกเว้นเวลาทำบุญแล้วได้มา เพราะติดตัวจริงๆก็ไม่กี่องค์ มีหลวงปู่แหวน ท่านเจ้าคุณนร พระคำข้าวหลวงพ่อฤษี ได้มาฟรีทั้งนั้น sampleอย่างกับลูกอมเลยครับ

 

สวัสดียามเช้าครับ...เก็บความรู้ต่อครับ

 

สวัสดียามเช้าครับคุณลุง สวัสดียามเช้าครับทุกท่าน ^ ^

 

สวัสดีครับคุณอา..และทุกๆท่าน มารอติดตาม เรื่อง สนิมแดงต่อครับ

 

ขอขอบคุณ...ทุกๆท่าน
ที่postมา ให้กำลังใจ..ชม..และติดตาม

..................................................สวัสดีทุกท่าน............................................................

..................”ตะกั่ว”(Lead)..ที่นำมา..หล่อ..เป็น..พระเครื่องหรือ..รีดเป็น..แผ่น..แล้ว..ค่อย
กลายเป็น..ตะกรุด..หรือ แผ่นปิดเบี้ยแก้..นั้น..ได้มาจาก..การถลุง(เผาด้วยไฟในเตา)..แร่..หรือ
หินธรรมชาติ..ที่มี..ธาตุโลหะตะกั่ว..เป็นองค์ประกอบ..เช่น..แร่Galeena...และ..อีกหลายตัว
..ซึ่งลักษณะเป็นเหมือน..ก้อนหินหรือ..อาจขึ้นเป็น..รูปผลึก..ด้วยความง่ายในสมัยโบราณ..ที่
ไม่จำเป็น..ต้องให้ความร้อนสูงมาก(ประหยัด..วัสดุ)..เตาถลุง..ไม่ต้องลงทุนมาก..ตัวสินแร่
หาไม่ยาก..ราคาไม่แพง..เช่นเดียวกับ..เมื่อเอาตัวตะกั่ว..หลังจากได้ในการถลุง..มาหลอมละ
ลาย..ก็ไม่ต้องใช้ความร้อนสูงอีก..การเทเข้าแบบ..ก็สะดวก..กรณีอย่างหล่อเป็นพระ..ก็ไม่จำ
เป็นให้มันแข็งแรงอะไร..สามารถใช้ตะกั่วล้วนๆได้เลย..(ถ้าจะให้มีความ..แข็ง..ก็ใส่..ดีบุก..
หรือพลวง..หรือสังกะสี..ลงไปผสม..ขึ้นกับความต้องการ)..โลหะเกือบทุกชนิด..ก็สามารถ..
หลอมละลายเข้าได้ง่าย..ยิ่งแผ่นตะกั่วเกือบบริสุทธิ์(ที่เรียกว่า..ตะกั่วนม)..ก็เหมาะสำหรับการ
ดัดแปลงใช้..โดยเฉพาะ..ง่าย..ในการจารอักขระ......ฉะนั้น..ตะกั่ว..จึงเลยเป็นที่นิยม..ในการ
นำมาทำพระเครื่อง..เครื่องราง..และองค์ประกอบต่างๆ...ถ้าสำหรับใน..พระเครื่อง..ก็มีอายุ
ย้อนไปถึงพันปี..แล้ว...
..........ตะกั่ว..เอง..ในธรรมชาติ..เมื่อสัมผัสอากาศ..ความร้อน..ความชื้น...มันเกิดทำปฎิกิริยา
กับ..oxygen..ด้วย..องค์ปรกอบดังกล่าว..กลายเป็น..ตะกั่วอ็อกไซด์..ซึ่งมีหลายรูปแบบ..และเกิด..เป็น..หินตัวใหม่ได้อีก..เช่น Minium(Pb3O4..ชื่อเล่นคือ Red Lead หรือ “ตะกั่วแดง”)
..หรือ Litharge(PbO)....(ดูรูปที่post..ประกอบ).......นี่เป็น..สนิมตะกั่ว..แบบที่เกิด..ในธรรม
ชาติ...คราวนี้..เรามามาพูดถึง..ที่เห็นกันทั่วไป...สมมุติ..เราเอาพระตะกั่ว..มาหนึ่งองค์....
เอา..ปังตอ..สับผ่ากลางองค์...เราจะเห็นสิ่งแรกที่รอยตัด..คือความแวววาว..สีที่เหมือนเงิน...
พอเราทิ้งไว้..๑ คืน..กลับมาดู..เราจะเห็น..ที่รอยตัดนั้น..หมองไม่วาว..กลายเป็น..สีเทา..ตรง
นั้น..คนไทยเรียกว่า..เป็นสนิมตะกั่ว..ฝรั่งเรียก TARNISH..หรือ..”การหมองเมื่อสัมผัสอากาศ”
...ซึ่งตะกั่ว..จะจับกับ อ๊อกซิเจน..เป็น..สนิมอีกตัวคือ lead dioxide (PbO2)...แต่สนิมตัวนี้ไม่
ได้คงที่เสมอไป..เพียงแต่มันเกิดขึ้นก่อน..และเร็ว..เพราะด้วยองค์ประกอบหลายๆอย่าง..ที่จะ
เล่าต่อไปภายหลัง..สนิมตัวนี้..ก็สามารถเปลี่ยนไปเป็น..RED LEAD..หรือ..สนิมแดง..ได้.....
...............................................................................................................................
.......ที่ผมเอ่ยขึ้นมาก่อน...เพราะให้หลายท่านมากๆ..เข้าใจผิด..ว่า..สนิมตะกั่ว..จริงๆ..เป็นสีดำ
...ที่เห็น..เป็นสนิมแดง..ที่เกิดขึ้นบนพระเครื่อง..เป็นสนิมปรอท..สีแดง..ที่ผมกล่าวมา..เพื่อให้
ทราบ..ว่า..สนิมตะกั่ว..มีหลายสี..และหลายโทน..อย่าง..red lead..หรือ..ตะกั่วแดงเอง..มันยังมี
สี..ไล่ตั้งแต่..ส้ม..ไปถึง..แดง..ด้วยซ้ำ........................................
......แต่ผมจะมาบอกว่า..ที่เข้าว่า..แดง..เพราะ..สนิมปรอท..นั้น..โอกาศที่เป็นไปได้..แทบไม่มี
ตามธรรมชาติ..ยกเว้น..จะได้จากห้องทดลอง...มันหายากมาก..เพราะต้องอาศัย..องค์ประกอบ
ที่จะเกิดขึ้น..ในธรรมชาติ..ที่เฉพาะจริงๆ..และตัว..ปรอทแดงนั้น..ในก็เพิ่งมาเปิดตัวในศตวรรษ
ที่ ๑๘ นี่เอง..ในห้องทดลอง..มีราคาแพงมาก..และเป็นวัตถุอันตราย.......ผมจึงขอชี้แจงข้อเท็จ
จริงให้ทราบกัน..ไม่ใช่..รับข้อมูลที่ไม่ศึกษาอย่างถ่องแท้..แล้วมาเผยแพร่..ทำให้คนทั่วไปเข้า
ใจผิด..................................................................................................................
............และถ้าคิดแบบชาวบ้าน..ง่ายๆ..ก็น่าจะนึกออก..............
๑. ปรอท..เป็น..ของแพงมาแต่ไหน..แต่ไร....ถ้า..จะมีผสม..อยู่ในพระเครื่อง..อัตราส่วน
ผสม..ที่มี..ให้เก่งสุด..ไม่เกิน..๕ เปอร์เซนต์...(ผลจากการวิเคราะห์..เนื้อพระ..ด้วย)..เพราะ
ไม่ใช่พระองค์เดียว..อย่างกรุร่วงรางปืน...กรุท่ากระดาน..จำนวนพระ..หลายร้อยขึ้น..สมัยนั้น
..คงไม่มีปัญญา..ไปหามาผสมได้เยอะ.........และปรอท..ปริมาณมากไป..ก็จะมีปัญหาการผสม
ผสาน..และการแข็งตัวด้วย..เพราะปรอทเอง..ธรรมดามันไม่แข็ง......................
..............แต่..เมื่อคุณดู..จากสนิมแดง..ที่เกิด..อย่าง..พระท่ากระดาน..ร่วงรางปืน..ร่วงบ้านหัว
เกาะ..ร่วงหัวโตสุพรรณบุรี.......คุณจะเห็นว่า..สนิมแดง...ขึ้นทั้งองค์....ถ้ามันเกิดจาก..ปรอท
เหมือนอย่างที่พูดกันจริง...สัดส่วน..ของปรอทจะต้องมากขนาดไหน..จากสนิมที่เห็น..อาจจะ
ต้องผสม..ปรอทสัก...๑ใน ๓ ..มั้ง........ไม่สมเหตุผลครับ........................
๒. ที่ผมบอกไปแล้ว..ว่าตามธรรมดา..มันเกิดขึ้นยากมากๆ......แต่บ้านเรา...พระตะกั่วบรร
จุกรุ..อายุ..ร้อยกว่าปี..สนิมแดง..ก็ขึ้นกันแล้ว..มากบ้างน้อยบ้าง..แถม..พระไม่ลงกรุ..อย่าง
หลวงพ่อเนียม..หรือตะกรุดตะกั่วนมโบราณ..อยู่ในสภาพธรรมดาๆ..ก็ยังขึ้นสนิมแดงได้....
....อย่างนี้..เรียกว่ามันเกิดยากรึเปล่า...ลองคิดดู(พระวัดเก๋งจีน..แปะอยู่กับผนังโบสถ์..สนิม
แดงยังตรึม.......แต่พระตะกั่วกรุวัดสัมพันธวงศ์(วัดเกาะ)..ไม่ขึ้นสนิมแดง..ทั้งๆที่อายุพระเกือบ
สองร้อยปี).........................................................

.................................................ต่อตอนหน้าครับ..แล้วผมจะมาเล่า..เหตุผลเสริม..เพิ่มเติม
อีก....เพราะของบางชนิด...ที่ทำเป็น..จำนวนหมื่นถึงแสน..มันยังมีสนิมแดงขึ้นได้..เป็นของใช้
แล้วทิ้งอีกต่างหาก..คุณต้องลงทุนเอาปรอทไปใส่ขนาดนั้นหรือ..................................

..............................................สวัสดี.......................................................................

 

ขอบคุณครับ กระจ่างเลย รอตอนต่อๆไปครับ

 

ขอบคุณครับ....

 

สวัสดียามเช้าครับคุณลุง สวัสดียามเช้าครับทุกท่าน ^ ^

เข้ามาเก็บเกี่ยวประสบการณ์ดีๆ ที่หาที่ใหนไม่ใด้ นอกจากที่นี่ ขอบคุณคุณลุงมากครับ

 

....ดูขนาดจริง........

 

ขอขอบคุณ ทุกๆท่าน
ที่postมา ให้กำลังใจ..ชม..และติดตาม

.......................................................สวัสดีทุกท่าน.......................................................

...........ตอนนี้..ตามที่บอกไว้ตอนที่แล้ว..ว่าจะกล่าวถึง..สนิมแดง..ที่ไม่ใช่พระ..หรือ..เครื่อง
รางใดๆ..แถม..ไม่ใช่ของ..ไทย..ลาว..เขมร..พม่า...อีกต่างหาก..ผมอุตส่าห์ค้นมาให้..เพื่อ..
ผู้อ่านขาประจำของผมโดยเฉพาะ..ของหายาก..ครับ..แถม..นอกเรื่องเล็กน้อย..เปลี่ยนบรรยา
กาศ........................................
...............ท่านที่อ่านประจำ..ติดตามมาตลอด..จะเห็นที่..ผมpost..ไอ้ลูกกลมๆที่ขึ้น..สนิมแดง
..แถมมี..ไขขาว(จริงๆ)..อีกต่างหาก..ส่วนใหญ่..จะนึกว่า..เป็นลูกอม..ถ้าผมแกล้งบอกว่า...
ลูกอมหลวงพ่อเนียม วัดน้อย..หรือ..ลูกสะกดกรุศรีสวัสดิ์(กรุเดียว..กับ..พระท่ากระดาน)..รับ
รอง..มีคนเชื่อมากกว่าครึ่ง...นี่ก็คือ..เทคนิคโมเม..หรือ..โอละเห่..ที่วงการฯใช้หลอก..ผู้งมงาย
ทั้งหลาย....โดยอาศัย..ส่วนเหมือน..เอามายัด..เป็นของกรุที่โน้น..ที่นี่..หลวงพ่อโน้น..นี้.......
..........ลองกลับไปดูรูปขยาย..ซิครับ..สนิมแดง..สนิมแดงอมม่วง..ไขขาว..แทบจะไม่ต่างจาก
..พระท่ากระดาน..เลย..ถ้าผมอ้าง..ก็คงเถียงยาก..หรือ..บอกว่า..เป็น..ของหลวงพ่อเนียม...
ทุกคนจะนึกถึง..ตะกั่ว..สนิมแดง..ไขขาวหน่อยๆ..ก็เข้าล็อกอีก(..ก็..ที่เป็นของหลวงพ่อเนียม..
..จริงๆ..มีไม่ถึง..ครึ่ง..ของตลาดที่วิ่งกันอยู่..ใช้เทคนิคโมเม..หรือ..เทคนิคยัดวัด..ยัดหลวงพ่อ
..กันสนุกสนาน )................................................................................................

......ที่ท่าน..เห็น..นี่คือ..ลูกตะกั่ว(ลูกกระสุน)..ของปืนคาบศิลา(ปืนแก็ป)..ที่ตามจริงผลิตสำหรับ
..ปืนคาบศิลาของฝรั่งเศษ...ยุคนโปเลียน..อายุประมาณ๒๐๐ ปี..แต่พบที่..เนปาล...
.......ซึ่งตามสันนิษฐาน..ทหารอังกฤษ..คงยึด..มาจากทหารฝรั่งเศษ..หลังจากชนะ..นโปเลียน
...แล้วเอามาใช้..ในอินเดีย..แล้วมาต่อสู้เพื่อบุก..ประเทศเนปาล...(......นี่ไงครับ..ที่ผมบอก..
ว่า..ผลิตเป็นหมื่นเป็นแสน..(..ทหาร๑คน..พกกระสุน..ไม่น้อยกว่า ๕๐ ลูก..ทหาร ๕๐๐๐ คน..
จำนวนลูกกระสุน..ล่อไป..๒๕๐,๐๐๐...ผมถามว่า..ถ้าสนิมแดง..เกิดจากสนิมปรอท..ที่ว่ากัน..
คุณจะต้องใช้ปรอท..ผสม..ลงไปในตะกั่ว..เยอะขนาดไหน..ถึงจะทำให้ขึ้นสนิมแดงได้อย่างใน
รูป...ผมอ่านเรื่องนี้ทีไร..ผมสงสาร..คนที่เชื่อ..จริงๆ...ลูกตะกั่วปืนแก็ป..ไม่ว่าที่ไหน..ก็ใช้แต่
..ตะกั่ว..ล้วนๆ..เพราะ..มันถูก..และหนัก..หล่อง่าย..รวมถึงนิ่ม..ไม่ทำลายลำกล้องปืน)..ของ
ใช้แล้วทิ้ง...)......................................................................................
............พอดี..ผมพูดถึง..เนปาล..มันมีเรื่องนึง..ที่น้อยคนมาก..จะรู้ส่วนนี้..ความจริงมันไม่ใช่
เรื่องลับ..แต่คนไทย..รูแค่ว่า..เป็นที่ประสูติพระพุทธเจ้า..เป็นที่ตั้งของยอดเขาสูงที่สุดในโลก
..แค่นั้น...ไอ้เรื่องนี้..ทำให้ผม..หน้าแหก..มาแล้วสมัยเรียนที่..ญี่ปุ่น..เพื่อน..ผม(ค่อนข้างสนิท
กัน)..เป็นคนเนปาล...วันหนึ่ง..พวกผม(หลายชาติ)..นั่งคุยเล่นกัน..พอดี..มีเพื่อนที่เป็นพวก..
อเมริกาใต้หลายคน..มี๒คนมาจากประเทศเดียวกัน..บอกว่า..พรุ่งนี้มันจะฉลองวันประกาศ
เอกราช..จากเสปน(วันชาติ-Independent day(วันประกาศอิสระภาพ))...ผมก็เลยหันไปถาม
ไอ้เนปาลเพื่อนผมว่า..แล้ววันประกาศอิสระภาพของมึง..วันไหน(ความเข้าใจ..และความหมาย
..คือ..ประกาศอิสระภาพจาก..อังกฤษ..เหมือนอย่างเพื่อนบ้าน..อินเดีย..ปากี..บังคลาเทศ)..มัน
..บอกผม..ด้วยน้ำเสียงไม่พอใจนิดๆ..ว่า..ประเทศกู..ไม่มีวันประกาศอิสระภาพ..เพราะไม่เคย..
เป็น..เมืองขึ้นใคร...ไอ้ผมละ..งง..เลย..แล้วยังมีหน้าไปพูดเถียงกับมันอีกว่า..อ้าวประเทศมึง..
ไม่ใช่เมืองขึ้นอังกฤษ..เหรอ..มันหัวเราะ..แล้วบอกผมว่า..อย่างไอ้พวกอังกฤษ..มันไม่มีความ
สามารถ..มาเอาชนะคนเนปาลได้หรอก...มึงกลับไปอ่านประวัติศาสตร์โลกใหม่ไป๊...
..............ผมก็เลยต้อง..ขอโทษมัน...ในใจก็คิด..เดี๋ยวกูกลับไปเมืองไทย..แล้วจะกลับไปอ่าน
ใหม่..ถ้ามึงตอแหลกู..กูจะเขียนจดหมายไปด่ามัน(..ผมไปญี่ปุ่น..ประมาณปี๒๕๒๗..ยังไม่มี
Internet..ครับ).......ผมกลับมาก็ไม่ลืม..ไปค้นหนังสือในห้องสมุดเลย..เพราะมันคาใจ...
.............จริงครับ..จริงของมัน..แถมเลยชื่นชม..ในชนชาติ..ของมัน..และ..ชนชาติเผ่าใหญ่
ที่สุดของมัน..ในความกล้าหาญ..และเก่งกาจ...”กุรข่า”..สมัยอังกฤษ..ปกครองอินเดีย..ได้ยิน
คำนี้..ถึงกับ..หนาวขี้..เพราะอะไรเหรอครับ...ต้องอ่านเรื่องที่ผมจะเล่านี้......................
..........ขออภัยด้วยที่นอกเรื่อง..แต่เป็นเรื่องที่น่าสนใจ...ผมpost..รูปอาวุธประจำกาย..ของ
..ชนชาติกุรข่า..ทิ่ติดอันดับ๑ใน๑๐..อาวุธประจำกาย(ที่ไม่ใช่ปืน)ที่ดีที่สุดในโลกมาด้วย
...นั่นคือ..”คูครี(KUKRI)”..ที่แม้ในปัจจุบัน..ทหารกุรข่าทุกคน..ที่อยู่ในส่วนต่างๆของโลกจะ
ต้องพกติดกายตลอดเวลา....ถือซะว่า..เปลี่ยนบรรยากาศ..แล้วกัน
........................................ต่อตอนหน้าครับ.................................................................

...............................................สวัสดี.......................................................................

 

รอฟัง
เรื่องกุรข่าครับ
ได้ยินว่าเป็นพวกที่รบเก่ง
และมีเทคนิคการใช้อาวุธมีด
ที่มีรูปแบบของตัวเองด้วย
ว่าแต่ว่าคุณลุงครับ
ไอ้มีด ..”คูครี(KUKRI)”.. เนี่ย
ในไทย มันจะมีขายรึปล่าวครับ
แบบว่าเป็นของสะสม ที่กำลังมองหาอยู่
ชิ้นนึงอะครับ