ผม...พระ...และ...สาระยุคก่อน

สวัสดีครับ...ขอบคุณครับ

 

สวัสดีค่ะ คุณ ลุง และ เพื่อนๆสมาชิกทุกท่าน ช่วง2-3 วันนี้ไม่ค่อยว่างเลยค่ะ ต้องไปร่วมงานปลุกเสกวัตถุมงคล และ ไปทำบุญ วันนี้เลยมานั่งตามอ่านกระทู้ 2-3 ตอนค่ะ สาระและคุณภาพยังเข้มข้นสุดยอดเหมือนเดิมเลยค่ะ เป็นกำลังใจให้คุณลุง ทุกวันนะคะ ขอบคุณค่ะ

 

<!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <wunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <wontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if !mso]><object classid="clsid:38481807-CA0E-42D2-BF39-B33AF135CC4D" id=ieooui></object> <style> st1\:*{behavior:url(#ieooui) } </style> <![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> ขอขอบคุณ..คุณanoldman..คุณคนเมืองแป้..คุณกำธร นครปฐม..คุณกวาวชไม..คุณTeera-chang
คุณโอ ท่าซุง..คุณLynn
ที่postมา..ให้กำลังใจ..ชม..และติดตาม

........................................................สวัสดีทุกท่าน......................................................

......สำหรับ copper chloride..นี่จะว่าเกิดให้เห็นน้อย..ก็ไม่ได้..เพราะถ้า..สมัยก่อนเห็นกัน..
เยอะแยะ...ในเหงื่อของคน..นอกจากจะเป็น..น้ำซะเป็นส่วนใหญ่..ที่รองลงมาคือ..เกลือ..ไงครับ
...เกลือ..ที่ว่าคือ..โซเดียม คลอไรด์ (เกลือแกง)..พวกเดียวกับ..เกลือที่ได้มาจากทะเล...เมื่อ
เราใส่เหรียญทองแดงเปลือยๆ..หรือ..แหวนทองแดง..ออกกำลังมีเหงื่อ..สิ่งที่ปรากฏ..อยูที่ผิว
ของท่าน..ที่สัมผัสกับ..เหรียญ..หรือ..แหวน..เป็น..คราบ..สีเขียว...นั่นแหละครับ..copper
Chloride..แถม..ตามซอกหรือหลุมที่..ตัวเหรียญ..และแหวน..มันก็จะเกาะติดอยู่เช่นกัน....
...แต่อีกสถานที่..ที่พบมาก..คือ..ทองแดง..สัมฤทธิ์..จะเกิดเกลือชนิดนี้มากกว่า..แบบอื่น..
ที่ตั้งอยู่ใกล้ชายทะเลเฉยๆ..อนุมูล..ของ.คลอรีน..ที่ลอยมาจากทะเล..ก็จะมาจับที่ผิว..ที่ถูกฝัง
อยู่ใต้ดิน..ก็จะได้ไปด้วย..ยิ่งวัตถุโบราณ..เหรียญ..พระ..เทวรูป..ก็จะเกิด..เกลือ..ชนิดนี้มาก
กว่า..อย่างอื่น..................(ดูรูปประกอบได้ครับ)
.............ทีนี้..ถามว่า..ไอ้ตัวไหน..มันกัดกร่อนทองแดง..มากกว่ากัน..มันก็คือ..เกลือ..ของกรด
แก่(กรดที่มีความรุนแรง)..อันได้แก่..copper sulfate (..ญาติผู้พี่มันคือ..กรดซัลฟูริค..หรือ
กรดกำมะถัน)..และ copper chloride (ญาติผู้พี่มันคือ..กรดไฮโดรคลอริค..หรือ..กรดเกลือ )
...ทั้งสองตัวนี้..ถ้าเกิดและปล่อยไว้นานๆ..มันจะเหมือน..สนิมขุม..ของเหล็ก..คือ..สามารถ..กัด
กินผิวลงไปได้ลึก..ถ้า..ทองแดง..หรือ..สัมฤทธิ์..Bronze..บางหรือ..ไม่หนา..ก็ถึง..ขั้น..ทะลุ
เลย........ถ้ากลับไปดูกระทู้ที่แล้ว..ผมpostรูป..รูปปั้นBronZe กลางแจ้งไว้..นั่นเป็น..ที่ยุโรป
..รูปหนึ่ง..และ พระพุทธรูปไดบุตสุ..ที่เมืองนารา..ญี่ปุ่น..คราบเขียวที่ติดฝังแน่น..นั้น..เป็น..
Copper carbonate..เรียกว่าเกือบทั้งหมด..ที่มันจะกัดผิวลงไปไม่มาก..ไม่งั้น..เขาก็ต้องขัด
ออกหมดแล้ว..จะมาเอาความสวยไม่ได้..อากาศค่อนข้างดีมาก..พวกแก๊สไข่เน่า..ก็ไม่มี..อยู่
ห่างทะเลด้วย...พระไดบุตสุ..อายุเกือบพันปี..นั่งตากแดดตากลม..เขียวอย่างงี้มาตลอด...
...................................................................................................................................
...........ความจริง..ที่ผมเอาเรื่องคราบเขียวอมฟ้า..ของทองแดง..มาพูด..และเกริ่น..ที่มาที่ไป
..คง..จะลำบาก..กับคนที่เรียน..สายศิลป์หน่อย..แต่ผมก็..พยายามสุดความสามารถ..และ
อ้างอิง..เปรียเทียบ..ให้เข้าใจได้ง่ายขึ้นแล้ว.....เพราะมันจะพามาเข้าสู่..เรื่องเกี่ยวกับพระ..
อยู่ดี..แต่..จะเป็นพวกพระพุทธรูปบูชา..และเทวรูปบูชา..เพราะผมเชื่อว่า..มีผู้อ่านหลายท่าน
ที่เล่น..พระบูชาด้วย..พูดแต่..พระเครื่องอย่างเดียว...เดี๋ยวจะนึกว่า..ผมคงไม่ประสี..ประสา
..เกี่ยวกับ..พระบูชา..อันนี้..เข้าใจผิดครับ..คนรักโบราณคดี..เขาใกล้ชิดกับ..พระบูชา..เทวรูป
บูชา..มากกว่า..พระเครื่อง...และถ้า..ถามว่า..เนื้อพระบูชา..เทวรูปบูชา..ที่คนนิยมเล่น..กันอยู่
..มันคือเนื้ออะไร....คำตอบแน่นอนมาก...ก็คือ...สัมฤทธิ์..หรือ..BRONZE...ฉะนั้นถ้าเล่นพระ
บูชา..ก็สนใจมันเนื้อเดียว..พอแล้ว..ดีกว่าไอ้พวกเล่นพระเครื่อง..ที่ต้องไปศึกษาเนื้อ..หลาก
หลายมาก...แต่ใน สัมฤทธิ์..มันก็มีความหลากหลาย..แตกแยกไปอีก..เพราะ..สัมฤทธิ์โบราณ
..ไม่ว่า..ไทย..จีน..แขก..ฝรั่ง..มันประกอบ..ด้วย..โลหะผสม..มากมาย..ไม่ว่า..ทองแดง..สังกะสี
ตะกั่ว..พลวง..ดีบุก..เงิน..ทอง..บางทีมีปรอท..แถมอีก..เหล็ก..ก็ยังมี..ธาตุที่ไม่ใช่โลหะอีก..
..อย่าง..กำมะถัน..เป็นต้น..ท่านทั้งหลายต้องเข้าใจว่า..บางที่ไอ้พวกที่ไม่ใช่โลหะมันปนอยู่ได้
ยังไง..เพราะการถลุงแร่แบบโบราณ..โดยเอาหินที่มีแร่โลหะที่ต้องการ..ประกอบอยู่..แต่ขณะ
เดียวกัน..มันก็..มีแร่ที่ไม่ใช้โลหะ..ประกอบอยู่ด้วย..ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก..ขอให้ไอ้โลหะที่ต้องการ
มันเหลว..ไหลออกมาเพื่อใช้งานเป็นใช้ได้..ไม่ได้ประสงค์เอาความบริสุทธิ์..คราวนี้ไอ้พวกนี้
มันมีผล..อะไร..มันมีผล..กับ..สีครับ..มันสามารถทำให้โทนสีสัมฤทธิ์เปลี่ยนแปลงได้..เพราะถ้า
มันเกิด OXIDE..หรือ..การจับคู่กับ..โลหะ..บางตัว..แล้วมาเกิด oxide..หรือ..พวกที่เป็นเกลือ
....ที่เมืองนอก..คนที่สนใจ..จะเป็น..ผู้ตรวจสอบวัตถุโบราณ..จะต้องเรียน..สาขาเฉพาะ..และ
ต้องมีการสอบ..ฉะนั้น..เรื่องโลหะวิทยา..และสิ่งที่ผมบอกไปข้างต้นพวกนี้..จะต้องแยกแยะได้
หมด...
..............แต่ไม่ว่ายังไง....ถ้าเป็น..สัมฤทธิ์..หรือ..Bronze..มากกว่า..๕๐ เปอร์เซนต์ขึ้นไป
...มันคือ..ทองแดง..เราจึงต้องสนใจ..ทองแดง..เป็นหลัก...ไม่ว่าสัมฤทธิ์แก่เงิน(น้ำตาลเข้ม
เกือบดำ)...สัมฤทธิ์แก่สังกะสี(เนื้อออกน้ำตาลอ่อนออกขาวๆ)..หรือจะแก่อะไรก็ตาม...มันเกิด
เกลือ..ขึ้นมา..ก็จะเป็น..เกลือของทองแดง..เกือบทั้งนั้น..เพราะปริมาณทองแดงที่ผสมอยู่มัน
มากกว่า..อย่างอื่น..หลายเท่าตัวนั่นเอง......................................................
........ว่าจะเล่าเรื่อง..ของพวกปลอม..พระบูชา..เทวรูปบูชา..ก็เล่าเรื่องที่มาที่ไปซะเยอะ....
คงต้องไปตามต่อในตอนหน้าครับ...มาแน่....................................................

.......................................................สวัสดี..............................................................

 

สวัสดียามเช้าครับ..วันนี้เงียบๆนะครับ หลายๆคนคงได้หยุด แต่ผมต้องมาทำงานครับ

 

สวัสดีครับทุกท่าน ทานข้าวกลางวันหรือยังครับ รักษาสุขภาพด้วยนะครับ บ้านผมอากาศเริ่มเปลี่ยนแล้วครับ เห็นคุณลินหายไปนึกว่าไม่สบาย เห็นเงียบไปทั้งสองกระทู้เลย ไปทำบุญก็อนุโมธนาบุญด้วยนะครับ รอติดตามสาระดีๆจากพี่Modpongต่อไปครับ

 

รอติดตามชม
และศึกษาวิธีดูสนิมแท้ สนิมเทียมครับ

 

<!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <wunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <wontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> ขอขบคุณ..คุณโอ ท่าซุง..คนเมืองแป้..คุณOrkar
ที่postมา ให้กำลังใจ..ชม..และติดตาม

.......................................................สวัสดีทุกท่าน....................................................

............การปลอม..พระบูชา..เทวรูป..มันไม่เหมือน..ปลอมพระเครื่อง..เพราะการหล่อ..มันไม่
ใช่ปั๊ม..และเป็นการหล่อ..แบบเททองไล่เทียนหุ่น..มีดินหุ่นด้วย..การทำ..และ..การตบแต่ง..
ครั้งละไม่มาก..ยิ่งถ้าจะปล่อย..ทั้งออกนอก..หรือ..ในไทยก็ตาม..ต้องแนบเนียน..เพราะมูลค่า
สูง..แต่ถ้าแค่..พระบูชาหน้าตัก..ไม่ถึง..คืบ..ปล่อยในไทย..อย่างเดียว..ศิลปตามไทยนิยม...
ความละเอียดละออ..อาจลดลงบ้าง..แต่ถ้าพวกโหล..นี่ทำเขียว..เสร็จแล้ว..ก็ไม่ต้องตบแต่ง
กันมากมาย..จะมีโผล่ตาม..จตุจักร..ท่าพระจันทร์..พวกทำขายฝรั่งมาเที่ยวไทย..นักเลงพระ
มองแพล็บเดียว..ก็เมิน.......ผมเองจะเอารูป..มาpost..จากเน็ต..ค้ดแล้วคัดอีก..เพราะอยากชัวร์
ไม่อยากเอา..ของเก๊มาpost..ขายหน้าขายตาหมด..ยังแย่..เพราะดูแล้ว..ส่วนใหญ่..ไม่ชัวร์..
ไม่ใช่ว่า..เก๊..แต่ไม่ชัวร์...การจะเก่งพระบูชา..ไม่เหมือนเก่งพระเครื่อง..คุณไปหาเซียนที่เชื่อ
ถือได้..รู้จักกัน..นั่งกินกาแฟอยู่..ขอเค้าดู..เขาก็เอาออกมาให้ดู..ตรงนั้น..แต่พระบูชา..คุณต้อง
โคตรสนิท..ถึงจะไปขอดูที่บ้านได้..พระบูชาที่มีวางขายกัน..คุณก็แน่ใจไม่ค่อยได้..และส่วน
ใหญ่..ก็..หน้าตักเล็กๆ..สาม-สี่นิ้ว.......อันนี้..ไม่ต้องเสียเงินเลี้ยงกาแฟ..แล้วชัวร์ด้วย..แต่เสีย
เงินค่าเข้าดู..พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ..ทั้งในกรุงเทพ..และ..ต่างจังหวัด..คนเล่นพระบูชา..
ต้องพึ่ง..แบบนี้เป็นครู..ทั้งนั้น..เพราะมีให้ดูหลากหลายมาก..เอาแว่นขยายมีด้ามจับ..เข้าไป
ด้วย..แบบผม..ส่องไปเถอะ..จะแก่..เงิน..แก่สังกะสี..แก่พลวง..แถม..ลักษณะซอก..ผิว..และ
สนิมเกลือเขียวอมฟ้า...มันต้องเห็นของจริง..อย่างเดียวครับ..ไม่งั้นเสร็จ..แน่นอน......
....ดูแต่ละปาง..แต่ละยุค..แต่ละขนาด..แต่ละพิมพ์...ดูซ้ำๆบ่อยๆให้มันซึม..เบื่อแล้ว..ก็ไปดู
ที่..กำแพงเพชร..เชียงใหม่..โคราช..ฯลฯ...หลากหลายจริงๆครับ..แต่ละแห่ง..ของก็ไม่ซ้ำ...
..........................................................................................................................
......จากรูป..ที่ผมpost..ในคราวนี้..จะเป็นพระพุทธรูปเป็นหลัก...ท่านจะเห็น..เกลือเขียวอมฟ้า
ที่จับอยู่ที่ผิว..ของ..สัมฤทธิ์..ชัดเจน..คนทำปลอม..เขาก็ต้องเลียนแบบผิวให้เหมือน..แล้วจะ
ทำยังไง..ก็ต้องรู้ว่ามันคือ..อะไรด้วย..พวกมือระดับต่ำ..ที่ไม่รู้ก็มี..ก็จำทำตามเค้า..เคยเป็นลูก
มือ..ออกมาทำเอง..ก็มี...แต่มีระดับ..เค้าต้องรู้..เพราะมันจะต้องค้นคว้าเพิ่มเติม..ทำให้เหมือน
เก่าเข้าไปอีก..ถ้าคุณจะค้นคว้าพัฒนา..อะไร..สักอย่าง..คุณต้องรู้ที่มาที่ไปของมัน..มันคือ..
อะไร..มันเกิดได้ยังไง..มีอะไรเป็นองค์ประกอบในการเกิด..นั่นคือที่มาที่ผมบอกว่า..คนปลอม
พระ..หรือ..เทวรูปบูชา..จะรู้ว่ามันไม่ใช่Oxideมากกว่า..คนทั่วไป............................
...............ความจริง...คนเราใช้ประโยชน์..ของ copper carbonate(สีเขียวอมฟ้า)..มาตั้ง
แต่ปลายยุคกลาง..ในยุโรปแล้ว..ก็ไม่น้อยกว่า ๕๐๐ ปี..ความจริง..มันมีประโยชน์เอาไปใช้ได้
หลายอย่าง...แต่ผมจะพูดถึงสมัยโบราณ..และเอาไปใช้มากที่สุดคือ..สี..ครับ..เป็นผง..เอาไป
ผสมกับ..น้ำมันสน..น้ำมันลินสีด..วาดรูป..เพราะสีมัน..ไม่เปลี่ยนแปลง..และคงสภาพ..เป็น..
สีเขียวอมฟ้า..ขายเป็นผง..ลูกค้า..ก็คือ..จิตกร..โรงเรียนสอนเขียนภาพ......................
...........วิธีการก็ไม่ยุ่งยากครับ..คุณรู้อยู่แล้ว..ว่าฝรั่งมันเก่งเรื่องค้นคว้า...มันจะทำหม้อโลหะ
ขนาดใหญ่...ด้านบนมีที่แขวน..แผ่นทองแดงบริสุทธิ์..ขนาดใหญ่ไว้..หลายแผ่น..ส่วนด้านล่าง
ใส่..สารตัวสำคัญ..นั่นคือ..น้ำส้มสายชู..(VINEGAR)..ที่ทุกคนรู้จักดี..เขาจะต้ม..น้ำส้มสายชู
ให้มันร้อน..ไอ้อูณหภูมิเท่าไหร่..นานแค่ไหน..ผมไม่ทราบ..แต่ที่ถังนี้เขาจะรูไว้นิดเดียว..กันฉุก
เฉินประเภท..ต้มแล้วลืม..ไปขี้..หรือเผลอเมาหลับ..เดี๋ยวหม้อระเบิด..แล้วเขาจะทิ้งไว้ให้มันเกิด
ผงเขียวอมฟ้า..จบที่ผิวทองแดง..จนแน่น..เข้าใจ..ว่าไม่น้อยกว่า..อาทิตย์..พอได้ที่..เขาจะเปิด
ฝามัน..แล้วดึงแผ่นทองแดง..ที่แขวนไว้..เอาออกมาขูด..ผงเขียวออก..เอาไปตากแดดให้แห้ง
..แค่นี้..ก็ได้สีเขียวอมฟ้า..ที่ใช้วาดภาพเขียนสีน้ำมันแล้ว(..ยุคโบราณ..สีจะเป็นผงทั้งนั้นครับ
จิตรกร..ต้องมาผสมน้ำมันเองถึงจะใช้ได้..............................................
.............หลักการก็คือ..น้ำสมสายชู..นี้..ความจริง..มันเป็นกรดอ่อน..ที่เราเรียกกันว่า...........
...”กรดน้ำส้ม”(Acetic acid)..ซึ่งองค์ประกอบมัน..จะมี..คาร์บอน..ไฮโดรเจน..และ.อ็อกซิเจน
จับตัวกัน..เป็นรูปของกรด..ที่เป็นของเหลว..แต่ระเหยได้..ค่อนข้างง่าย..ยิ่งโดนความร้อน..จะ
ยิ่งระเหย..เร็วขึ้น..เมื่อถูกเร่งให้ระเหยเร็ว..ทั้ง คาร์บอน..ไฮโดรเจน..อ็อกซิเจน..และไอความชื้น
(น้ำ)..จะกระจายทั่ว..หม้อด้วยความรวดเร็ว..เมื่อไอ้สารทั้งหมดที่กระจายมาเจอ..กับทองแดง
เข้า..บวกกับความร้อนภายในหม้อ..copper carbonate..ที่ประกอบด้วย..ทองแดง..คาร์บอน
..อ็อกซิเจน..จึงเกิด..จับที่หน้าผิวทองแดง..อย่างรวดเร็ว..และค่อยๆเพิ่มจำนวนมากขึ้น..จน
เต็มแผ่น..ถ้า..ให้เป็นธรรมชาติเอง..มันต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่า..สามสิบปี..ได้มั้ง.........

...................................................ต่อตอนหน้าครับ...................................................

.........................................................สวัสดี............................................................

 

สวัสดีครับ รับความรู้จากบทนี้แล้วก็รอบทต่อไป รบกวนถามหน่อยครับ พระเนื้อทองแดงเถื่อนเป็นทองแดงจากธรรมชาติหรือเปล่าครับ และพระหลวงปู่บุญเนื้อขี้นกเขาเปล้าจริงๆคือเนื้ออะไรครับ

 

...........................................................
ปกติ..ทองแดง..จะได้มาจากการถลุงหินที่ีมีแร่ทองแดงที่เป็นองค์..ประกอบ..เช่น หินchalcocite..เป็นต้น..ซึ่งเป็นเรื่องปกติ..
คราวนี้คำว่า.."ทองแดงเถื่อน"..น่าจะหมายความได้ ๒ ประการ..คือ
๑. เอาขุดหินที่มีแร่ทองแดง..มาถลุง(เข้าเตาหลอม)เอง..แล้ว..ทองแดงแยกตัวมา..หรือ
๒. แร่ทองแดงบริสุทธิ์..ซึ่งหายาก..แต่..มันก็มี..ที่มัน..แยกตัวออกมา..เหมือน ..ทอง..แล้ว..อยู่ปะปนกับหิน..ได้มา..ก็เอาไปหลอมได้เลย..เพราะบริสุทธิ์มากกว่า ๙๐ %..ผมมีรูปมาให้ดูด้วย
..ผมไม่เอาคำสันนิษฐานคนอื่นมา..เพราะไม่ใช่รูปแบบ..ของผม..ที่แน่ๆ..คือ..ทำเอง..ไม่ได้ซื้อ..แต่จะเป็น ๑ หรือ ๒ ไม่ทราบ..แต่ ๒ นี่หายาก..และมีน้อย...ไม่ว่า ๑ หรือ ๒ ถือว่า "เถื่อน"ทั้งคู่..เพราะ..ต้องเอามาจากป่า..ไม่ใช่มาจาก..ร้าน..
.........................................................
...เรื่องเนื้อขี้นกเปล้า..เท่าที่ทราบ..จะใช้เนื้อนี้เป็นหลัก..อาจมีอย่างอื่นปน..แต่น้อยมาก..เพราะถือ..ว่าเป็นของศักสิทธิ์ในตัว..นกเปล้าที่ว่า..หากินกลางคืน..มันก็คงเป็น..นกที่มั่วพอควร..คือกินตามพื้นนี่แหละ..แต่ไอ้ที่กินไปนี่..พอผ่านขบวนการเคี่ยว..แล้วก็ใส่โน้นนี่เข้าไป..มันจะมีโลหะแยกออกมา..ท่านอาจารย์ทั้งหลาย(ไม่ใช่หลวงปู่บุญองค์เดียว)..ก็จะเอามาหลอม..แล้วหล่อพระ..อีกที..นอกจากหลวงปู่บุญ..ก็มี..หลวงพ่อทบ เพชรบูรณ์ .........หลวงพ่อเขียน พิจิตร..ที่ใช้เนื้อนี้เช่นกัน.................
...สรุป...เป็นเนื้อโลหะ..ที่ได้มาจากขี้นก..ครับ..แต่เป็น..โลหะอะไรบ้างนี่ไม่ทราบ..กระผมก็รู้แค่นี้แหละ.............

 

สวัสดียามเช้าครับคุณลุง อากาศเริ่มเข้าหน้าหนาวแล้ว ดูแลสุขภาพมากๆนะครับ

 

สวัสดียามเช้าทุกท่านเช่นกันครับ...

 

สวัสดีครับพี่ modpong มารอฟังครับ

 

มารออ่านครับ
ทองแดงเถื่อนนี่ได้ยินมานานแล้วครับ
แต่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร
เพิ่งมารู้แบบชัดๆก็คราวนี้เอง
ขอบคุณครับ

 

ขอบคุณสำหรับคำตอบครับ

 

สวัสดีค่ะ คุณคนแป้ คุณ ลุง และ เพื่อนๆสมาชิกทุกท่าน ขอบคุณมากเลยนะคะในความเป็นห่วง ช่วงนี้ยุ่งๆนิดค่ะ
แต่ถ้ามีเวลาก็ต้องเข้ามาอ่าน กระทู้คุณ ลุงก่อนค่ะ เพราะกระทู้ดีๆมีสาระหาอ่านได้ยากค่ะ มีสองสามเรื่องที่คุณ ลุงเขียนแนะนำไปแล้ว ลินก็ตั้งใจจะลองทำดู แต่ยังหาเวลาว่างไม่ได้เลยค่ะ อันดับแรกจะลองปิดทองก่อนเลยค่ะ จะถ่ายภาพมาลงให้ชมกันด้วยนะคะ คุณลุงจะได้ให้คะแนนลูกศิษย์ด้วยค่ะ หุๆๆ
อุบลฯ ก็อากาศเริ่มเย็นลงแล้วในช่วงเช้าและตอนเย็น ค่ะ
ลินก็ขอให้คุณ ลุง และเพื่อนๆสมาชิก รักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ

 

สวัสดีครับพี่modpong
สวัสดีครับทุกๆท่าน

 

สวัสดีครับคุณอา..และทุกท่าน
มารอฟังตอนต่อไปครับ

 

<!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <wunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <wontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if !mso]><object classid="clsid:38481807-CA0E-42D2-BF39-B33AF135CC4D" id=ieooui></object> <style> st1\:*{behavior:url(#ieooui) } </style> <![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> ขอขอบคุณ..คุณคนเมืองแป้..คุณ๑๕ค่ำ..คุณโอ ท่าซุง..คุณกำธร นครปฐม..คุณOrkar..คุณLynn
คุณJoenok..คุณเฉียวฟง
ที่postมา ให้กำลังใจ..ติดตาม..และชม

.......................................................สวัสดีทุกท่าน.......................................................

............ที่ผมกล่าวไปตอน..ที่แล้ว..นั่นคือการสร้าง copper carbonate...เพื่อเอามาทำเป็น...
วัสดุใช้งานของ..คนโบราณ...แต่มันก็จุดประกายแนวความคิด..สำหรับผู้ทำของเลียนแบบ..สำ
หรับ..ตลาดค้าวัตถุโบราณของ..ยุคสัมฤทธิ์(Bronze Age)..ในเมืองนอก..ที่มีมาก่อนเราเสียอีก
..........ผมจึงคิดว่า..หลักการนี้..คนไทย..ทำปลอมวัตถุโบราณ..ที่เป็นสัมฤทธิ์..คงได้..ไอเดีย..
มาจาก..เมืองนอก ..อย่าง..ฮ่องกง..ซึ่งถือ..เป็นแหล่งปลอม..มานมนาน..เก่าแก่..และคนไทย..
ก็ไปมาหาสู่..กันอยู่แล้ว..ตัวตลาดค้าวัตถุโบราณใหญ่ของ..เอเซียก็อยู่ที่นี่..ถ้าเมืองนอก..ก็..
อิตาลี..กรีก..ตุรกี...............................................................................................
.............การปลอม..พระบูชา..เทวรูปบูชา..ที่เป็นสัมฤทธิ์..เมื่อ ๓๐-๔๐ ปี..ก่อน..ก็ใช้เทคนิค
เดียวกัน..อีกอย่าง..น้ำส้มสายชู..ถูก..การเกิดสนิมเขียว(เกลือของทองแดง)..ที่ผิว..ไม่รุนแรง
เกินไป..ถ้าไปใช้พวกกรดเกลือ..หรือ..กรดกำมะถัน...แต่พวกกรดเหล่านี้..ยังมีประโยชน์คือ..
สร้าง..ลักษณะแบบ..กร่อน..ผุ..ซึ่งจะสำแดงถึงความเก่า..คนทำปลอม..จะเลือกทำเป็น..จุดๆ..
ให้มันดูธรรมชาติ..เช่น..บริเวณฐาน..สว่นดีคือ..เมื่อใช้..กรดกัด.ผิวให้กร่อน..และผุแล้ว..บริ
เวณนั้น..สนิมเขียวก็จะเกิดขึ้น..ด้วยเป็นการกลบเกลื่อนอย่างดี..(กรดกำมะถัน..จะได้ copper
Sulfate..ใช้กรดเกลือ..จะได้..copper chloride...ซึ่งสีสันก็เป็น..โทนเดียว..กับcopper
Carbonate...คือตั้งแต่..เขียวไปถึง..ฟ้าเช่นกัน..)..จากนั้นค่อยไปอบร้อน..น้ำส้มสายชู...
เพื่อ..จะทำเขียว..ในภาครวมอีกที..หรือ..อาจมีการใช้แบบ..ทาน้ำส้มสายชู..เลย..(พวกองค์
ไม่ใหญ่)...................
...................นี่แหละครับ..ผมถึงยอมรับพวกทำพระปลอม..ว่าเก่ง..อย่างพระสัมฤทธิ์..นี่จะว่า
ปลอม..ก็ไม่ถูกทีเดียว..เพราะไอ้ที่เราเห็นว่า..เขียว..มันก็ตัวเดียวกันเลย..ขูดไปเข้าห้องLab
ได้เลย..เพียงแต่เขาร่นเวลา..การเกิดให้มันเร็วขึ้น..แค่นั้น.....................
...........ผมว่า..บางคน(เน้น..นะครับว่า..บางคน..คือส่วนใหญ่..น่าจะรู้)..อาจไม่เข้าใจว่า...
ทำไม..คนโบราณ..ถึงเอาทองแดง..มาเป็น..เครื่องมือ..เครื่องใช้..ก่อน..พวกเหล็ก..เหตุผล
ง่าย..ครับ..เพราะการแยก..มันออกมา..โดยการเผานั้น..ใช้ความร้อนต่ำ..เนื่องจากสมัยโบราณ
..ไม่สามารถ..สร้างให้ไฟมันมีความร้อนสูงๆมากได้..หินทองแดงนั้น..เพียงเอาฟืนสุมต่อเนื่อง
มีตัวพัดให้ลมเป่า..ที่ไฟให้แรง..ก็สามารถ..ทำให้..แร่ทองแดง..แยกออกมาได้แล้ว..แต่เนื่อง
จากทองแดง..บริสุทธิ์มันอ่อนไป..เขาก็เอา..พวกโลหะถลุงง่าย..เช่น..พวก..ตะกั่ว..ดีบุก..ผสม
เข้าไป..ปรากฏว่า..มันแข็งขึ้น..จนใช้ได้..ก็เลยเกิด..ยุคสัมฤทธิ์ขึ้น..ที่ต่อ..มาจาก..ยุคหินใหม่
.............................................................................................................................
..คนโบราณ..ที่ช่างสังเกตุ..เขามาเห็นว่า..ทำไม..สัมฤทธิ์..ที่ทำมาในยุคแรกเลย..ผิวจะไม่เรียบ
..จากการ..ลองผิด..ลองถูก..จึงรู้ว่า..ถ้าหินทองแดง..ที่เอามาถลุง..เอาไปย่อยเป็นเล็ก..แล้วเผา
ซะก่อน..ก่อนจะไปเข้าเตาถลุงเลยทีเดียว..จะทำให้ผิวสัมฤทธิ์..เรียบขึ้น..(สังเกตุ..พระพุทธรูป
สมัยทวาราวดี..ผิว..ขนาดมองด้วยตาเปล่า..บริเวณที่ไม่ถูกขัดแต่ง..ผิวจะพรุนมาก)...ความจริง
แล้ว..เพราะหินทองแดง..ส่วนใหญ่..จะมี..กำมะถัน..เป็นองค์ประกอบ..ถ้าเป็นก้อนใหญ่..แล้ว
เอาไปถลุงทีเดียว..กำมะถัน..จะค้างบางส่วน(เพราะเป็นไอไปยังไม่หมด)..และปนมากับ..ตัว
เนื้อทองแดง..พอจะเอาทองแดงผสม..โลหะอื่น..มาเป็นสัมฤทธิ์..ไอ้กำมะถัน..ที่ค้างอยู่บ้างก็เลย
ส่งผล..ทำให้ผิวเกิดรอยพรุน..จากการที่มันได้รับความร้อนแล้วหนีออกจากเนื้อโลหะ...
....เมื่อเอามาย่อยทำให้มีขนาดเล็กลง..เมื่อเผาให้ความร้อน..กำมะถันก็สามารถระเหยออกปได้
ง่ายขึ้น.............................
................ถ้าฝีมือไม่สูง..เราสามารถแยกแยะ..ไอ้สนิมเขียว..ตัวนี้ได้จาก..ความกลมกลืนของ
มัน..ความฝังตัวแน่นของมัน..และความเนียนของมัน..ที่ผมอธิบายนี่มันยาก..ผมถึงบอกให้ไป
..พิพิธภัณฑ์..นั่นแหละครับ..เห็นของจริงว่า..มันฝังตัวยังไง..อย่างที่ผบอกแล้วคุณ..จะนึกออก
..เอง(..แต่..พระพุทธรูปปลอมเดี๋ยวนี้..ผมว่าน่ากลัว..เพราะเทคโนโลยี..มันพัฒนาไปเยอะแล้ว)
..........ไม่ว่า..จะเป็น..พระบูชา..พระเครื่อง...หลักการ..เหมือนกันหมด...คือ..ถ้าไม่เคยเห็นของ
จริงมาก่อน(แบบส่องดู)..กรุณาคิด..ว่าเงินทอง..มันไม่ใช่หามา..ง่ายๆ..เรื่องเผื่อฟลุ้ค..พยายาม
อย่าไปคิดมัน..โอกาศมี..แต่น้อยมาก..ไม่คุ้มครับ..ทำอะไรอย่างมีหลักการ..จะไม่เจ็บตัวมาก..
..และเป็น..การพัฒนาสมองด้วย.............................................

..............................ตอนหน้า..จะเป็นเรื่องที่..Return..มาอีกครั้ง..แต่จะว่ากัน..เป็นเรื่อง..
เป็นราว..และ..ยาวววว...เรื่องของ..........................สนิมแดง...........................

.....................................................สวัสดี................................................................

 

มารอเรื่องสนิมแดงครับ มีกับเขาองค์หนึ่งไม่รู้เป็นยังไงบ้าง

 

"...............................................
....โดยทั่วไป..ดูดี..(แต่..ผมไม่มาฟันธง..ให้นะครับ..เพราะดูจาก..จอ..ไม่เป็น..ไม่เก่งขนาดนั้น..ถ้า..มือจับ..ตาดูผ่านเลนส์..ละ..ฟันได้)...พระเชียงแสนเนื้อตะกั่ว..ถือว่า..ถ้าองค์ไหน..ไม่มีสนิมแดงขึ้น..นี่ถือว่าแปลก..เหมือน..ร่วงรางปืน..ที่ไม่มีองค์ไหน...ที่ไม่มี..สนิมแดง........
........ผมดู..พระไม่ค่อยเหมือนคนอื่น..นะครับ..เพราะผม..เดินทางที่ไม่ถูก
มา..เพราะขี้เกียจ..คือ..ผมจะไม่แม่นพิมพ์..แต่ผม..จะดูเนื้อ..ฟังเสียง..ดมกลิ่น..ดูผิว..ดูสี..ดูสนิม..ดูคราบกรุ..ดูกลางวัน..แสงธรรมชาติอย่างเดียว..ถ้าไม่แน่ใจ..หรือ..มีแหม่งนิดเดียว..
ถึงแท้..ผมก็ไม่สน..ไมว่าจะถูก..หรือ..แพง..ซึ่งไม่ใช่หนทางที่ถูกต้อง....
อย่าเอาเป็น..เยี่ยงอย่าง...แก่แล้วครับ..ปรับตัวไม่ได้..และไม่ปรับด้วย