เพื่อการกุศล *★.• ใกล้หมดแล้ว !!! พญาลิ้นทอง ยอดแห่งมนต์เสน่ห์เขมรโบราณ สายวิชา "กรูเปรี๊ยะออง" ♡* อ.โอม •.★*

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Amata_club, 4 สิงหาคม 2010.

  1. Amata_club

    Amata_club เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    27,075
    ค่าพลัง:
    +52,176
    มากันเยอะ อ่านกันเยอะ คุยกันน้อย ทักทายกันได้นะครับ
    ไม่ปรับ ไม่จับ ไม่คุมประพฤติ ฮิๆๆๆ

    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 10 คน ( เป็นสมาชิก 3 คน และ บุคคลทั่วไป 7 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>Amata_club, HellBoy, Surfers </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  2. Amata_club

    Amata_club เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    27,075
    ค่าพลัง:
    +52,176
    แบบนี้ต้องหาของฝากเพิ่มพลังให้ซะแว้วววว
     
  3. HellBoy

    HellBoy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    3,316
    ค่าพลัง:
    +2,192

    ได้ คาราบาวแดง ซักขวด คงจะดีไม่น้อยยย...
     
  4. suttip

    suttip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    8,672
    ค่าพลัง:
    +31,433
    คิดถึงพี่สุรพล...พี่สุรพลก็มา....

    ... เพิ่งกลับมาถึงบ้าน..ไปดูน้องๆๆ เขาสกีนผ้ายันต์ที่ระลึกงานกฐินวัดป่าโพธิ์ศรีธาตุ.. เมื่อมอบกับผู้ร่วมบูชา และทำบุญครับ...
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. Amata_club

    Amata_club เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    27,075
    ค่าพลัง:
    +52,176
  6. Amata_club

    Amata_club เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    27,075
    ค่าพลัง:
    +52,176
    [​IMG]

    พระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 คือ การประกาศเลิกทาส ทำให้ปวงชนชาวไทยได้เป็นไทมาจวบจนทุกวันนี้

    ในรัชสมัยของพระองค์ สยามประเทศได้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่สร้างความวัฒนาให้กับชาติเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น การไฟฟ้า การไปรษณีย์ โทรเลข โทรศัพท์ ฯลฯ ด้วยพระราชกรณียกิจที่ยังความผาสุกให้เกิดแก่ประชาชน ทวยราษฎร์ทั้งปวงจึงน้อมใจแสดงความจงรักภักดี ด้วยการถวายพระนามว่า "พระปิยมหาราช" หรือพระพุทธเจ้าหลวง และกำหนดให้ทุกวันที่ 23 ตุลาคม เป็น วันปิยมหาราช

    [​IMG] ความเป็นมาของ วันปิยมหาราช


    [​IMG]

    เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ.2453 ได้เกิดเหตุการณ์ที่สร้างความเศร้าโศกให้กับประเทศไทยครั้งใหญ่หลวง เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงประชวรเสด็จสวรรคต ณ พระที่นั่งอัมพรสถานพระราชวังดุสิต เนื่องด้วยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเป็นกษัตริย์ที่เป็นที่เคารพรักของทวยราษฎร์ ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณอเนกประการ ทั้งในการปกครองบ้านเมือง และพระราชทานความร่มเย็นเป็นสุขแก่ชนทุกหมู่เหล่า

    ต่อมาในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ทางราชการได้ประกาศให้วันที่ 23 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นวันที่ระลึกสำคัญของชาติเรียกว่า "วันปิยมหาราช" และกำหนดให้เป็นวันหยุดราชการ

    เจ้าหน้าที่กระทรวงมหาดไทยซึ่งต่อมาเป็น "กรุงเทพมหานคร" ร่วมด้วยกระทรวงวัง ซึ่งต่อมาเป็น "สำนักพระราชวัง" ได้จัดตกแต่งพระบรมราชานุสาวรีย์ ตั้งราชวัติฉัตร 5 ชั้น ประดับโคมไฟ ทอดเครื่องราชสักการะที่หน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ตั้งแต่นั้นมาจนถึงปัจจุบัน

    พระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศล วันปิยมหาราช ครั้งแรกเกิดขึ้นถัดจากปีที่ได้ถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทานถวายแล้วเสด็จฯ ไปถวายพวงมาลา ทรงจุดธูปเทียนเครื่องราชสักการะที่พระบรมราชานุสาวรีย์

    [​IMG] พระราชประวัติ


    [​IMG]

    พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระนามเดิมว่า สมเด็จเจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ พระราชสมภพเมื่อวันที่ 20 กันยายน พ.ศ.2396 เป็นพระราชโอรสองค์ที่ 4 ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระนางเจ้าฟ้ารำเพยภมราภิรมย์ (สมเด็จพระเทพศิรินทรา พระบรมราชินี) เมื่อพระชนมายุได้ 9 พรรษา ทรงได้รับสถาปนาขึ้นเป็น "กรมหมื่นพิฆเนศวรสุรลังกาศ" ต่อมาเมื่อพระชนมายุได้ 13 พรรษา ทรงได้รับสถาปนาขึ้นเป็น "กรมขุนพินิตประชานาถ" บรมราชาภิเษกครั้งแรกเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ.2411 ทรงพระนามว่า "พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว"

    เนื่องจากขณะนั้นมีพระชันษาเพียง 16 ปี ยังไม่ทรงบรรลุนิติภาวะ สมเด็จพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) จึงเป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน และสถาปนากรมหมื่นบวรวิชัยชาญ พระโอรสองค์ใหญ่ของพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นกรมพระราชวังบวรวิชัยชาญพระมหาอุปราช

    ระหว่างที่สมเด็จพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ เป็นผู้สำเร็จราชการอยู่นั้น สมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ ก็ทรงใช้เวลาศึกษาเล่าเรียนศิลปวิทยาเป็นอันมาก เช่น โบราณราชประเพณี รัฐประศาสน์ โบราณคดี ภาษาบาลี ภาษาอังกฤษ วิชาปืนไฟ วิชามวยปล้ำ วิชากระบี่กระบอง และวิชาวิศวกรรม

    ในตอนนี้ยังได้เสด็จประพาสสิงคโปร์และชวา 2 ครั้ง เสด็จประพาสอินเดีย 1 ครั้ง การเสด็จประพาสนี้มิใช่เพื่อสำราญพระราชหฤทัย แต่เพื่อทอดพระเนตรแบบแผนการปกครองที่ชาวยุโรปนำมาใช้ปกครองเมืองขึ้นของตน เพื่อจะได้นำมาแก้ไขการปกครองของไทยให้เหมาะสมแก่สมัยยิ่งขึ้น ตลอดจนการแต่งตัว การตัดผม การเข้าเฝ้าในพระราชฐานก็ใช้ยืน และนั่งตามโอกาสสมควร ไม่จำเป็นต้องหมอบคลานเหมือนแต่ก่อน

    เมื่อพระชนมายุบรรลุพระราชนิติภาวะ ได้ทรงผนวชเป็นเวลา 2 สัปดาห์ แล้วจึงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเป็นครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2416 และนับจากนั้นมาก็ทรงพระราชอำนาจเด็ดขาดในการบริหารราชการแผ่นดิน

    ตลอดระยะเวลาที่ทรงครองสิริราชสมบัติ ทรงปกครองทำนุบำรุงพระราชอาณาจักรให้มั่งคั่งสมบูรณ์ ดัวยรัฐสมบัติ พิทักษ์พสกนิกรให้อยู่เย็นเป็นสุข บำบัดภัยอันตรายทั้งภายในภายนอกประเทศ ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจต่างๆ อันก่อให้เกิดคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติ ให้รอดพ้นจากวิกฤตการณ์ และสามารถธำรงเอกราชไว้ตราบจนทุกวันนี้

    พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวสวรรคตเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ.2453 รวมพระชนมายุได้ 58 พรรษา ครองราชสมบัติมานานถึง 42 ปี

    [​IMG] พระราชกรณียกิจ

    พระราชกรณียกิจที่สำคัญในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว อาทิเช่น

    [​IMG] 1.การเลิกทาส


    [​IMG]

    เป็นพระราชกรณียกิจอันสำคัญยิ่ง ที่ทำให้พระองค์ทรงได้รับพระสมัญญาว่า "สมเด็จพระปิยมหาราช"
    ด้วยพระองค์ทรงเห็นว่า มีทาสในแผ่นดินเป็นจำนวนมาก และลูกทาสในเรือนเบี้ยจะสืบต่อการเป็นทาสไปจนรุ่นลูกรุ่นหลานอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ถ้าไม่มีเงินมาไถ่ตัวเองแล้ว ต้องเป็นทาสไปตลอดชีวิต พระองค์จึงทรงมีพระทัยแน่วแน่ว่า จะต้องเลิกทาสให้สำเร็จ แม้จะเป็นเรื่องยากลำบาก เพราะทาสมีมาตั้งแต่สมัยโบราณ อีกทั้งเจ้านายที่เป็นใหญ่ในสมัยนั้นมักมีข้ารับใช้ เมื่อไม่มีทาส บุคคลเหล่านี้อาจจะไม่พอใจและก่อให้เกิดความวุ่นวายขึ้นเหมือนกับที่เกิดขึ้นในต่างประเทศมาแล้ว

    พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ จึงตราพระราชบัญญัติขึ้น เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม พ.ศ.2417 ให้มีผลย้อนหลังไปถึงปีที่พระองค์เสด็จขึ้นเสวยราชสมบัติ มีบัญญัติว่า ลูกทาสซึ่งเกิดเมื่อปีมะโรง พ.ศ.2411 ให้มีสิทธิได้ลดค่าตัวทุกปี และพอครบอายุ 21 ปีก็ให้ขาดจากความเป็นทาสทั้งชายและหญิง จากนั้นใน พ.ศ.2448 จึงได้ออกพระราชบัญญัติเลิกทาสที่แท้จริงขึ้น เรียกว่า "พระราชบัญญัติทาส ร.ศ.124" (พ.ศ.2448) เลิกลูกทาสในเรือนเบี้ยอย่างเด็ดขาด เด็กที่เกิดจากทาส ไม่ต้องเป็นทาสอีกต่อไป และการซื้อขายทาสเป็นโทษทางอาญา ส่วนผู้ที่เป็นทาสอยู่แล้ว ให้นายเงินลดค่าตัวให้เดือนละ 4 บาท จนกว่าจะหมด

    ด้วยพระปรีชาสามารถของพระองค์ท่าน ในเวลาเพียง 30 ปีเศษ ทาสในเมืองไทยก็หมดไปโดยไม่เกิดการนองเลือดเหมือนกับประเทศอื่นๆ

    [​IMG] 2.การปฏิรูประบบราชการ

    ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราระเบียบการปกครองขึ้นใหม่ แยกหน่วยราชการออกเป็นกรมกองต่างๆ มีหน้าที่รับผิดชอบเฉพาะไม่ก้าวก่ายกัน จากเดิมมี 6 กระทรวง คือ กระทรวงมหาดไทย, กระทรวงลาโหม, กระทรวงนครบาล, กระทรวงวัง, กระทรวงการคลัง และกระทรวงเกษตราธิการ ได้เพิ่มอีก 4 กระทรวง รวมเป็น 10 กระทรวง ได้แก่ กระทรวงธรรมการ มีหน้าที่ดูแลเกี่ยวกับกิจการของพระสงฆ์ และการศึกษา, กระทรวงยุติธรรม มีหน้าที่ดูแลเกี่ยวกับคดีความที่ต้องตัดสินต่างๆ , กระทรวงโยธาธิการ มีหน้าที่ดูแลตรวจตราการก่อสร้าง การทำถนน ขุดลอกคูคลอง งานที่เกี่ยวกับการก่อสร้าง และกระทรวงการต่างประเทศ มีหน้าที่ดูแลงานที่เกี่ยวข้องกับการต่างประเทศ

    [​IMG] 3.การสาธารณูปโภค

    [​IMG] การประปา ทรงให้กักเก็บน้ำจากแม่น้ำเชียงรากน้อย จังหวัดปทุมธานี และขุดคลองเพื่อส่งน้ำเข้ามายังสามเสน พร้อมทั้งฝังท่อเอกติดตั้งอุปกรณ์สำหรับการทำน้ำประปาขึ้นในเดือน กรกฎาคม พ.ศ.2452

    [​IMG] การคมนาคม วันที่ 9 มีนาคม พ.ศ.2434 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนินไปขุดดินก่อพระฤกษ์ เพื่อประเดิมการสร้างทางรถไฟไปนครราชสีมา แต่ทรงเปิดทางรถไฟกรุงเทพฯ-พระนครศรีอยุธยาก่อน จึงนับว่าเส้นทางรถไฟสายนี้เป็นทางรถไฟแห่งแรกของไทย


    [​IMG]

    นอกจากนี้ได้โปรดเกล้าฯ ให้สร้างสะพาน และถนนอีกมากมาย คือ ถนนเยาวราช ถนนราชดำเนินกลาง ถนนราชดำเนินนอก ถนนดินสอ ถนนบูรพา ถนนอุณากรรณ เป็นต้น และโปรดให้ขุดคลองต่างๆ เพื่อใช้เป็นแนวทางคมนาคม และส่งเสริมการเพาะปลูก

    [​IMG] การสาธารณสุขเนื่องจากการรักษาแบบยากลางบ้านไม่สามารถช่วยคนได้อย่างทันท่วงที จึงพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์จำนวน 200 ชั่ง โปรดเกล้าฯ ให้สร้างโรงพยาบาลวังหลัง ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น "โรงพยาบาลศิริราช" เปิดทำการรักษาประชาชนเป็นครั้งแรกเมื่อ 26 เมษายน พ.ศ.2431

    [​IMG] การไฟฟ้า พระองค์ทรงมอบหมายให้กรมหมื่นไวยวรนาถ เป็นแม่งานในการก่อสร้างโรงไฟฟ้า เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า และสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับประชาชนครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2433

    [​IMG] การไปรษณีย์ โปรดให้เริ่มจัดขึ้นในปี พ.ศ.2424 รวมอยู่ในกรมโทรเลข ซึ่งได้จัดขึ้นตั้งแต่ พ.ศ.2412 โดยโทรเลขสายแรกคือ ระหว่างจังหวัดพระนคร (กรุงเทพมหานคร) กับจังหวัดสมุทรปราการ

    [​IMG] 4.การเสด็จประพาส



    [​IMG]

    การเสด็จประพาสเป็นพระราชกรณียกิจที่สำคัญอันหนึ่งของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยหลังจากเกิดกรณีพิพาทกับฝรั่งเศสแล้ว ก็ได้เสด็จประพาสยุโรป 2 ครั้ง ในปี พ.ศ.2440 ครั้งหนึ่ง และในปี พ.ศ. 2450 อีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้เพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรีกับประเทศต่างๆ ในยุโรป ตลอดจนประเทศฝรั่งเศสด้วย อีกทั้งยังได้ทรงเลือกสรรเอาแบบแผนขนบธรรมเนียมอันดีในดินแดนเหล่านั้นมาปรับปรุงในประเทศให้เจริญขึ้น

    ในการเสด็จประพาสครั้งแรกนี้ ได้ทรงมีพระราชหัตถเลขาตลอดระยะทางถึงสมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรีพระบรมราชินีนาถ (ซึ่งต่อมาได้รับสถาปนาเป็น สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชเทวี) ผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน พระราชหัตถเลขานี้ต่อมาได้รวมเป็นหนังสือเล่มชื่อ "พระราชนิพนธ์เรื่องไกลบ้าน" ให้ความรู้อย่างมากมายเกี่ยวแก่สถานที่ต่างๆ ที่เสด็จไป

    ส่วนภายในประเทศ ก็ทรงถือว่าการเสด็จประพาสในที่ต่างๆ เป็นการตรวจตราสารทุกข์สุขดิบของราษฎรได้เป็นอย่างดี พระองค์จึงได้ทรงปลอมแปลงพระองค์ไปกับเจ้านายและข้าราชการ โดยเสด็จฯ ทางเรือมาดแจวไปตามแม่น้ำลำคลองต่างๆ เพื่อแวะเยี่ยมเยียนตามบ้านราษฎร ซึ่งเรียกกันว่า "ประพาสต้น" ซึ่งได้เสด็จ 2 ครั้ง คือในปี พ.ศ.2447 และในปี พ.ศ.2449 อีกครั้งหนึ่ง

    [​IMG]


    [​IMG] 5.การศึกษา

    พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเห็นความสำคัญของการศึกษา จึงโปรดให้สร้างโรงเรียนหลวงขึ้นในพระบรมมหาราชวัง คือ "โรงเรียนนายทหารมหาดเล็ก" ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็น "โรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ" ต่อมาโปรดให้ตั้งโรงเรียนหลวงสำหรับราษฎรขึ้นเป็นแห่งแรก คือ "โรงเรียนวัดมหรรณพาราม" และในที่สุดได้โปรดให้จัดตั้งกระทรวงธรรมการขึ้น เมื่อปี พ.ศ.2435 (ปัจจุบันคือกระทรวงศึกษาธิการ) เพื่อดูแลเรื่องการศึกษาและการศาสนา

    [​IMG]

    [​IMG] 6.การปกป้องประเทศจากการสงครามและเสียดินแดน

    เนื่องจากลัทธิจักรวรรดินิยมได้แผ่อิทธิพลเข้ามาตั้งแต่ปลายรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงใช้ปรีชาสามารถอย่างสุดพระกำลังที่จะรักษาประเทศชาติให้รอดพ้นจากวิกฤติการณ์ ถึงแม้ว่าจะต้องสูญเสียดินแดนบางส่วนไปก็ตาม โดยดินแดนที่ต้องเสียให้กับต่างชาติ ได้แก่

    [​IMG] พ.ศ.2431 เสียดินแดนในแคว้นสิบสองจุไทย
    [​IMG] พ.ศ.2436 เสียดินแดนฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขง ให้ฝรั่งเศส และฝรั่งเศสยึดเมืองจันทบุรีไว้
    [​IMG] พ.ศ.2447 เสียดินแดนฝั่งขวาของแม่น้ำโขงให้ฝรั่งเศส เพื่อแลกกับเมืองจันทบุรี แต่ฝรั่งเศสได้ยึดตราดไว้แทน
    [​IMG] พ.ศ.2449 เสียดินแดนที่เมืองพระตะบอง เสียมราฐ และศรีโสภณ ให้ฝรั่งเศส เพื่อแลกกับตราด และเกาะทั้งหลาย แต่การเสียดินแดนครั้งสุดท้ายนี้ไทยก็ได้ประโยชน์อยู่บ้าง คือฝรั่งเศสยอมยกเลิกสิทธิสภาพนอกอาณาเขต ยอมให้ศาลไทยมีสิทธิที่จะชำระคดีใดๆ ที่เกิดขึ้นแก่ชาวฝรั่งเศส ไม่ต้องไปขึ้นศาลกงสุลเหมือนแต่ก่อน

    ส่วนทางด้านอังกฤษ ประเทศไทยได้เปิดการเจรจากับรัฐบาลอังกฤษ รวมถึงเรื่องสิทธิสภาพนอกอาณาเขตด้วย ใน พ.ศ.2454 อังกฤษจึงยอมตกลงให้ชาวอังกฤษ หรือคนในบังคับอังกฤษมาขึ้นศาลไทย และยอมให้ไทยกู้เงินจากอังกฤษ เพื่อนำมาใช้สร้างทางรถไฟสายใต้จากกรุงเทพฯ ถึงสิงคโปร์ เพื่อตอบแทนประโยชน์ที่อังกฤษเอื้อเฟื้อ ทางฝ่ายไทยยอมยกรัฐกลันตัน ตรังกานูและไทยบุรี ให้แก่สหรัฐมลายูของอังกฤษ

    [​IMG] ลำดับเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้น

    [​IMG] พ.ศ.2411 เสด็จขึ้นครองราชสมบัติ

    [​IMG] พ.ศ.2412 ทรงโปรดเกล้าให้สร้างวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามซึ่งเป็นวัดประจำรัชกาลของพระองค์

    [​IMG] พ.ศ.2413 เสด็จประพาสสิงคโปร์และชวา, โปรดฯ ให้ยกเลิกการไว้ผมทรงมหาดไทย

    [​IMG] พ.ศ.2415 ทรงปรับปรุงการทหารครั้งใหญ่, โปรดให้ใช้เสื้อราชปะแตน, โปรดให้สร้างโรงเรียนหลวงสอนภาษาอังกฤษแห่งแรกขึ้นในพระบรมหาราชวัง

    [​IMG] พ.ศ.2416 ทรงออกผนวชตามโบราณราชประเพณี, โปรดให้เลิกประเพณีหมอบคลานในเวลาเข้าเฝ้า

    [​IMG] พ.ศ.2417 โปรดให้สร้างสภาที่ปรึกษาราชการแผ่นดิน, ตั้งโรงเรียนกุลสตรีวังหลัง (ปัจจุบันคือ โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย) และให้ใช้อัฐกระดาษแทนเหรียญทองแดง

    [​IMG] พ.ศ.2424 เริ่มทดลองใช้โทรศัพท์ครั้งแรก เป็นสายระหว่างกรุงเทพฯ–สมุทรปราการ, สมโภชพระนครครบ 100 ปี มีการฉลอง 7 คืน 7 วัน

    [​IMG] พ.ศ.2426 โปรดให้ตั้งกรมไปรษณีย์ เริ่มบริการไปรษณีย์ในพระนคร, ตั้งกรมโทรเลข และเกิดสงครามปราบฮ่อครั้งที่ 2

    [​IMG] พ.ศ.2427 โปรดฯ ให้ตั้งโรงเรียนราษฎร์ทั่วไปตามวัด โรงเรียนแห่งแรกคือ โรงเรียนวัดมหรรณพาราม

    [​IMG] พ.ศ.2429 โปรดฯ ให้เลิกตำแหน่งมหาอุปราช ทรงประกาศตั้งตำแหน่งมกุฏราชกุมารขึ้นแทน

    [​IMG] พ.ศ.2431 เสียดินแดนแคว้นสิบสองจุไทให้แก่ฝรั่งเศส, เริ่มการทดลองปกครองส่วนกลางใหม่, เปิดโรงพยาบาลศิริราช, โปรดฯให้เลิกรัตนโกสินทร์ศก โดยใช้พุทธศักราชแทน

    [​IMG] พ.ศ.2434 ตั้งกระทรวงยุติธรรม, ตั้งกรมรถไฟ เริ่มก่อสร้างทางรถไฟสายกรุงเทพ-นครราชสีมา

    [​IMG] พ.ศ.2436 ทรงเปิดเดินรถไฟสายเอกชน ระหว่างกรุงเทพฯ-ปากน้ำ, กำเนิดสภาอุนาโลมแดง (สภากาชาดไทย)

    [​IMG] พ.ศ.2440 ทรงเสด็จประพาสยุโรปเป็นครั้งแรก

    [​IMG] พ.ศ.2445 เสียดินแดนฝั่งขวาแม่น้ำโขงให้แก่ฝรั่งเศส

    [​IMG] พ.ศ.2448 ตราพระราชบัญญัติยกเลิกการมีทาสโดยสิ้นเชิง

    [​IMG] พ.ศ.2451 เปิดพระบรมรูปทรงม้า

    [​IMG] พ.ศ.2453 เสด็จสวรรคต

    [​IMG] พระบรมราชานุสาวรีย์ พระบรมรูปทรงม้า


    [​IMG]

    ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบรมวงศานุวงศ์ข้าราชการ พ่อค้า คหบดี ปวงชนชาวไทยทุกหมู่เหล่าผู้สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ได้ร่วมใจกันรวบรวมเงินจัดสร้างอนุสาวรีย์ถวายเพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งพระเกียรติคุณของพระบาทสมเด็จพระปิยมหาราช ผู้ทรงสร้างพระที่นั่งอนันตสมาคม และเนื่องในมหามงคลสมัยที่ทรงครองราชย์นานถึง 40 ปี

    พระบรมรูปทรงม้านี้ หล่อด้วยโลหะชนิดทองบรอนซ์ พระองค์ใหญ่กว่าขนาดจริงเล็กน้อย ประดิษฐานบนแท่นหินอ่อนอันเป็นแท่นรองสูงประมาณ 6 เมตร กว้าง 2 เมตรครึ่ง ยาว 5 เมตร ห่างจากฐานของแท่นออกมามีรั้วเตี้ยๆ ลักษณะเป็นสายโซ่ขึงระหว่างเสาล้อมรอบกว้าง 9 เมตร ยาว 11 เมตร ที่แท่นด้านหน้ามีคำจารึกบนแผ่นโลหะติดประดับสรรญเสริญว่า "คำจารึกฐานองค์พระบรมรูปทรงม้า ศุภมัสดุ พระพุทธศาสนากาลล่วงแล้ว 2451พรรษา จำเดิมแต่พระมหาจักรีบรมราชวงศ์ ได้ประดิษฐาน แลดำรงกรุงเทพมหานคร อมรรัตนโกสินทร์ มหินทราอยุธยาเป็นปีที่ 127 โดยนิยม"

    สำหรับแบบรูปของพระบรมราชานุสาวรีย์ฯ ได้จ้างช่างหล่อชาวฝรั่งเศส แห่งบริษัทซูซ เซอร์เฟรส ฟองเดอร์เป็นผู้หล่อ ณ กรุงปารีส เลียนแบบพระบรมรูปทรงม้าของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ที่ประดิษฐานอยู่หน้าพระราชวังแวร์ซายส์ ในประเทศฝรั่งเศส เมื่อคราวที่พระบาทสมเด็จพระปิยมหาราช รัชกาลที่ 5 เสด็จประพาสยุโรปครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ.2450 พระองค์ได้เสด็จประทับให้ช่างปั้นพระบรมรูป เมื่อวันที่ 22 สิงหคม ศกนั้น พระบรมรูปเสร็จเรียบร้อย และส่งเข้ามายังกรุงรัตนโกสินทร์ในทางเรือ

    เมื่อ พ.ศ.2451 โปรดให้ประดิษฐานไว้ ณ พระลานหน้าพระราชวังดุสิต ระหว่างพระราชวังสวนอัมพรกับบสนามเสือป่า ทางทิศตะวันออกของพระที่นั่งอนันตสมาคม ทรงประกอบพระราชพิธีเปิดพระบรมรูปนี้ในวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ.2451 ตรงกับวันพระราชพิธีรัชมังคลาภิเษกครองราชสมบัติได้ 40 ปี

    เจ้าพนักงานได้อัญเชิญพระบรมรูปทรงม้า ขึ้นประดิษฐานบนแท่นรองที่หน้าพระลานพระราชวังดุสิต ที่ประจักษ์อยู่ในปัจจุบันนี้ โดยพระบาทสมเด็จพระรามาธิบดีศรีสุนทรมหาวชิราวุธ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ขณะดำรงพระราชอิสริยยศเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงอ่านคำถวายพระพรชัยมงคล เสร็จแล้วจึงน้อมเกล้าฯ ถวายพระบรมรูปทรงม้า กราบบังคมทูลอัญเชิญให้พระบาทสมเด็จพระปิยมหาราช พระราชบิดาให้ทรงเปิดผ้าคลุมพระบรมราชานุสาวรีย์เป็นปฐมฤกษ์ เพื่อประกาศเกียรติคุณในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ให้สถิตสถาพรปรากฏสืบไปชั่วกาลนาน

    [​IMG] กิจกรรมใน วันปิยมหาราช


    [​IMG]

    ในวันที่ 23 ตุลาคม ของทุกปี หน่วยงานต่างๆ ทั้งราชการและภาคเอกชน นักเรียน-นิสิตนักศึกษา รวมทั้งประชาชนจะมาวางพวงมาลาดอกไม้สักการะ และถวายบังคมที่พระบรมรูปทรงม้า เพื่อเป็นการรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และทำบุญตักบาตอุทิศเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว นอกจากนี้ในหน่วยงาน และโรงเรียน มหาวิทยาลัย จะจัดนิทรรศการเผยแพร่พระราชประวัติ และพระราชกรณียกิจ ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว อันเป็นการประกาศเกียรติคุณให้ไพศาลสืบไป

    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
    ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต
     
  7. Amata_club

    Amata_club เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    27,075
    ค่าพลัง:
    +52,176
    วันนี้เพิ่มLink งานบุญให้เพื่อนๆ พี่ๆ ได้ติดตามกระทู้งานบุญได้อย่างสะดวก

    ทุกงานบุญทำด้วยเจตนาที่บริสุทธิ์ ทุกอย่างทำด้วยศรัทธา
     
  8. Amata_club

    Amata_club เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    27,075
    ค่าพลัง:
    +52,176
    วันหยุด แต่ยังมีหลายท่านที่ตื่นเช้าเพื่อทำบุญ หรือทำงานเหมือนผม
    สวัสดีวันพระครับคุณ nu_wa

    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 2 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 0 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>Amata_club, nu_wa </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  9. Amata_club

    Amata_club เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    27,075
    ค่าพลัง:
    +52,176
    เข้มขลัง อลังการงานสร้าง เสกหนักๆ จัดแรงๆ เลยนะครับ :cool:

    มีอะไรที่พอช่วยได้ก็บอกมาได้เลยนะครับ

    [​IMG]

    อนุโมทนาด้วยครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 99999.jpg
      99999.jpg
      ขนาดไฟล์:
      124.4 KB
      เปิดดู:
      1,255
  10. HellBoy

    HellBoy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    3,316
    ค่าพลัง:
    +2,192


    ผมขอเล่าต่อเรื่อง เบี้ยแก้ นะครับ

    หลังจากพยาบาลท่านี้ ตรวจดู เขี้ยวเสือเสร็จแล้ว

    พยาบาลอีกท่าน ก็ มานั่งคุยกับผม จนมาถึง วัตถุมงคล ชิ้น หนึ่ง "เบี้ยแก้"

    ผมยังไม่บอกว่า ได้มาจากไหน ใครเสก

    เมื่อพยาบาลท่านี้ รับไป แกบอกว่า "พลังมัน ทิ่มแทงบนฝ่ามือ ของเธอ!"

    "มันมีชีวิต มันมีชีวิตจริงๆนะ"

    แล้วเวลา แห่งความตื่นตา ตื่นใจ ก็ เกิดขึ้น

    พยาบาลท่านนี้ บอกว่า "คอยดูนะ จะเอาจิต ใส่เข้าไปที่เบี้ยนี้ !"


    พยาบาลท่านนี้ วางเบี้ย ไว้บนฝ่ามือ...แล้วเริ่ม กำหนดจิต ไปที่ เบี้ย ทันที!

    ทันใดนั้น เบี้ยตัวนี้ ค่อยๆเดิน ถ้าท่านผู้อ่าน นึกภาพไม่ออก

    ลองนึกถึงเวลาที่ หอยทาก มันเดินนะครับ (ไม่ทราบเคยเห็นกันบ้างมั้ย!...)

    ถ้านึกออกแล้ว นั่นแหล่ะครับ เบี้ย นี้ ก็ ออกเดินแบบเดียวกัน

    ค่อยๆ กระดื้บ กระดื้บ ... ผมและหลายๆ ท่าน อุทาน พร้อมกันว่า "มันเดินๆ !"

    ด้วยเกียรติของผม ผมขอบอกเลยว่า เบี้ย มันเดินได้จริงๆ เกิดมา ผมไม่เคยเห็น

    ความอัศจรรย์ อย่างนี้เลย และ หายเคลือบแคลงสงสัยทันทีเลยว่า "ที่เค้าว่า หลวงปู่องค์โน้น องค์นั้น เสกแล้ว ปลัดตั้ง เสือเดิน หรือ เหรียญบิน มันเป็นไปได้! อย่างนี้นี่เอง"


    ความศักดิ์สิทธิ์ มีจริงๆ

    อัปปมาโณ พุทโธ
    อัปปมาโณ ธัมโม
    อัปปมาโณ สังโฆ

    อำนาจแห่งพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ไม่มีประมาณ...



    ผมขอยืนยันว่า เรื่องของการตรวจพลังพระเปิดโลก เรื่องอำนาจของเขี้ยวเสือ และเรื่องของเบี้ย ที่เล่ามาทั้งหมด เป็นเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นจริง พยานบุคคล ยังมีชีวิตอยู่ และ ผม ไม่จำเป็นต้อง"กุเรื่องขึ้นมา เพื่อให้พระขายได้ หรือ เพียงเพื่อ ให้เรื่องราวน่าอ่าน และสนุกสนาน!"

    ทั้งหมดนี้เป็นความจริง

    โดยมีคุณตำรวจ(ขออนุญาตเอ่ยนาม จริงๆเคยขออนุญาตไว้นานแล้ว แต่ตอนหลัง ย้ายไปประจำการที่ใต้ เลยมิได้ขออนุญาตอีกเป็นหนที่สอง)
    รตต.ศรายุทธ พ้นภัย สังกัด สน.มีนบุรี (ในตอนที่ไปตรวจพลังกัน ยังอยู่สน.นี้ ) เบอร์ติดต่อ 086-508-9965

    และยังมีท่านอื่นๆอีก เพียงแต่ มิได้ ขอรายชื่อไว้


    การเผยแพร่ข้อมูลในครั้งนี้
    ทำเพื่อการกุศลและเผยแพร่ กิตติคุณ หลวงปู่ทอง วัดเกาะ
    หากผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยทุกท่านที่เกี่ยวข้องไว้ด้วยครับ


    ในการตรวจพลังครั้งนี้ ยังได้ตรวจพลัง "ปลัดขิก" ตามตำรับ หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ ผมสร้างถวายไว้จำนวนหนึ่ง โดยให้หลวงปู่ทอง วัดเกาะ เสก

    เรื่องราวจะเป็นอย่างไร โปรดติดตามตอนต่อไปนะครับ ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 ตุลาคม 2010
  11. w.สุรพล

    w.สุรพล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,216
    ค่าพลัง:
    +4,544
    คิดถึง อ.ปุ้ม เหมือนกันครับ.................................
     
  12. abnormol9

    abnormol9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,529
    ค่าพลัง:
    +7,288
    ประมูลพระเปิดโลก เพื่องานบุญสร้างโบสถ์พระธาตุ วัดโพธิ์ศรีธาตุ1209คับ
     
  13. HellBoy

    HellBoy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    3,316
    ค่าพลัง:
    +2,192
    เล่าต่อนะครับ

    สำหรับปลัด ก็ อาการคล้ายๆ เบี้ยครับ คือ กำหนดจิตเข้าไป แล้วปลัดดิ้นได้

    และผม ตัดสินใจนำ ปลัด ออกให้ประมูลดังนี้

    1.ปลัด เนื้อไม้ตะเคียนหลักเมือง ออกให้ประมูล1 ตัว ตัวละ 1,999 บาท(หนึ่งพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้าบาท) ทั้งหมด สร้างได้เพียง 12 ตัว เท่านั้น

    2.ปลัดแกะจากไม้ตีพริก(สากเบือ เสน่ห์แรง มีครอบครัวแล้วอย่าเอาไป) นำออกให้ประมูล 1 ตัว ราคาเริ่มต้น 1,299 บาท (หนึ่งพันสองร้อยเก้าสิบเก้าบาท)

    เริ่มเปิดประมูล วันที่ 23 ตุลาคม 2553 เวลา 17.30 น.

    ปิดประมูล วันที่ 9 พฤศจิกายน 2553 10.30 น. ครับ




    รายได้ทั้งหมดขอมอบให้ทางวัด ทุกบาท ทุกสตางค์ ครับ

    โอนเข้าบัญชีของวัดได้เลยครับ
     
  14. HellBoy

    HellBoy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    3,316
    ค่าพลัง:
    +2,192
    [​IMG]


    ขุนแผนดำ องค์ส่วนตัว ที่ผมใช้อยู่ครับ

    องค์นี้แหล่ะครับ ที่ คุณพยาบาลแกจับ แล้วต้องรีบ สลัดมือทิ้ง เพราะ...ช็อต แรงมาก แกจับไม่ได้

    สำหรับผู้ตรวจ ซึ่งเป็นศิษย์ หลวงพ่อแนม สาย มโนและสติปัฎฐาน อีกท่าน กล่าวว่า
    อำนาจทางเสน่ห์ ที่ปู่ท่านลง เป็นมหาเสน่ห์แบบโบราณ (ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน)

    แถมมีทาง กำบัง จังงัง ด้วย ลงมาครบทุกทางเลย
     
  15. วิชาญ

    วิชาญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2008
    โพสต์:
    446
    ค่าพลัง:
    +1,354
    สวัสดีครับ
    ผ้ายันต์สวยมากเลยครับ
     
  16. วิปัสสนู

    วิปัสสนู เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    8,693
    ค่าพลัง:
    +16,951
    สวัสดีคร๊าบ....
    แอบเข้ามารายงานตัว...ก่อนจะแอบแว๊บหายไปอีก
    ช่วงนี้ต้องขออภัยท่านเจ้าเมือง และพี่ๆเพื่อนๆทั้งหลายด้วยครับ เพราะที่ไม่ค่อยได้เข้ามาลงประวัติวัดให้อ่านกัน ตอนนี้กะลังวุ่นๆงงๆกับการเตรียมงานกฐินอยู่ ก็เลยได้แค่แอบแว๊บๆเข้ามาดูครับ (แก้ตัวสุดฤทธิ์)

    พอดีเมื่อวานเพิ่งไปเอาแผ่นศิลาฤกษ์มาก็เลยเอามาลงให้ชมกันครับ....


    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. abnormol9

    abnormol9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,529
    ค่าพลัง:
    +7,288

    อยากได้องค์นี้มากกว่าคับ

    มวลสารล้วนๆ เส้นเกษา จีวร ไม้โพธิ์นิพพาน

    ตะกรุดฯลฯ เต็มสูตรคับ
     
  18. HellBoy

    HellBoy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    3,316
    ค่าพลัง:
    +2,192
    โปรดติดตาม พระปิดตา ราชมนู (ปั้นมือ) ฝังตะกรุด

    ใครเสก มวลสารอะไร ที่สุดแค่ไหน ... ที่นี่ เร็วๆนี้ ครับ
     
  19. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,566
    ค่าพลัง:
    +30,871
    เข้ามาทักทายเจ้าของกระทู้หน่อยครับ วันหยุดยังต้องทำงานอีกหรือครับ:boo:
     
  20. Amata_club

    Amata_club เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    27,075
    ค่าพลัง:
    +52,176
    สวัสดีวันหยุดของเพื่อนๆ พี่ๆ หลายๆ ท่าน
    แต่เป็นวันทำงานของผมนะครับ
    วันก่อนไปวัดโพธิ์ทอง วัดหนองน้อย วัดม่วงพึ่งกลับมาเมื่อคืน เดี๋ยวเอาภาพบรรยากาศบางส่วนมาให้ชมกันครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...