เหรียญบิน หลวงพ่อทรง - แพโบสถ์น้ำ หลวงตา (เล็ก) น. ๑๒๖๕

กราบหลวงปู่ทรงครับ

ยอดเยี่ยมไปเลยนะ



พี่ท่านใดอยู่ใกล้พื้นที่น้ำท่วมหรืออยู่ในพื้นที่น้ำท่วม ก็ดูแลรักษาสุขภาพด้วยนะครับ

 

กราบ ๆ ๆ หลวงพ่อทรง ครับ

 

กราบ กราบ กราบ หลวงปู่ทรงครับ

สวัสดีครับทุกท่าน ตอนนี้แม่น้ำน้อยที่วิเศษฯ การข่าวเมื่อวานแจ้งมาว่าอีกประมาณ 50 เซนติเมตรก็เลยตลิ่ง ปีนี้วัดใกล้น้ำอย่างวัดท่าช้างคงอาจจะได้ฉลองกฐินกลางน้ำครับ

 

ข่าวไม่ดี ....ครั้งนี้ หนักแบบคิดไม่ถึงจริงๆครับ คนเมืองโคราช อ่วมจริงๆ เพราะไม่ทันระวังตัว เมืองอยู่ที่สูงแท้ๆ

ถ้าคิดแบบในหลวง ว่า สร้างเขื่อนมีแต่ กำไร กับ เท่าทุน น่าจะสร้างหลายๆเขื่อนน่ะครับ จะบรรเทาไปได้ ส่วนหนึ่งทีเดียว

ตอนนี้เขื่อนทุกเขื่อนที่มีคงกินน้ำเต็มแปร้แล้ว ต้องปล่อยออกมาแล้ว ถ้ามีเขื่อนแก่งเสือเต้น ก็อาจจะช่วยเก็บน้ำไปได้ก้อนใหญ่

หรือ สร้างเขื่อน สร้าง ฝายเยอะ ตอนแล้ง ทำแก้มลิง มาช่วยอีก

ตอนสร้างสุวรรณภูมิ ในหลวงท่านก็ทักแล้วว่าตรงนั้น เป็นพื้นที่ เก็บน้ำแก้มลิงใหญ่ พวกเราดันไปถมทำสนามบินตามนักการเมืองซ่ะ ผมกลัวอนาคตอันใกล้นี่จริงๆครับ น้ำพอมันไปไม่ได้ ทีนี้จะท่วมเมืองล่ะครับ

ขอพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจงมีพระมีพลานามัยที่สมบูรณ์แข็งแรงไปอีกนานๆครับ

 

กราบ กราบ กราบ หลวงพ่อทรง ครับ

 

โห...แบบนี้เกรดน่าจะอยู่ 3.8-3.9 แหง๋

 

กราบ กราบ กราบ
หลวงปู่บุญศรี หลวงพ่อทรง หลวงปู่อั๊บ

ไม่ได้เข้ามาศาลา แห่งนี้ซะนาน
วันนี้ ตามมาได้ถึงปัจจุบันแล้ว สบายใจจัง

สุพรรณ บ้านผมก็โดนน้ำมาเยี่ยมเยียนเหมือนกัน
ถ้า 2-3 วันนี้ฝนยังตกไม่หยุดพัก คาดว่าอาจท่วมหนักเหมือนปี 2549

ตอนนี้ก็เร่งระดมสูบน้ำออกอย่างเต็มกำลังล่ะครับ
น้ำมันจ่ายออกไปเกือบสิบถังแล้ว
ตอนนำน้ำมันไปส่ง ได้ยินชาวนาบอก..เมื่อเย็นวาน ต้นข้าวกำลังเหลืองอร่ามรอเก็บเกี่ยว
ตื่นเช้ามาดู ลมแทบจับ ท้องนามีแต่น้ำ..มองเห็นปลายยอดข้าว รวงจมในน้ำ
เงินแสนอยู่ตรงหน้า แต่ไม่มีปัญญาหยิบ เฮ้อ..

ปล.น้ำก็ท่วม สตง.ก็มา แหม..ช่วงนี้สนุกดีจริง ๆ

 

ไม่มืประสบการณ์ก็ดืแล้วสบายดีรุ่นนื้ผมก็มีสององค์ รูปหล่อรุ่นนี้เหมือนหลวงพ่อทรง ฉันทโสภืที่สุดแล้ว พิธีดีมีหลักฐานไม่เก็บแล้วจะเก็บรุ่นไหนกัน อยากมีประสบการณืทางไหนหละ บู๊ก็ต้องขุนแผน ครอบจักรวาลก็จันทร์ลอย ผมเองมีทุกพิมพ์ที่เขามีกันรุ่นแรกยันรุ่นสุดท้ายแต่ก็ใช้จันทร์ลอยองค์เดียวไม่ต้องลองใช้ได้เลย ผมได้มาแบบมีวาสนาว่าองค์นื้แหละของผมจริงแท้แน่นอนหลวงพ่อทรง ฉันทโสภีคงเตรียมไว้ให้ คือว่าน้องรู้จักกันให้ผมมาเฉยเฉยเลยไม่เคยถามไม่เคยพูดเพราะไม่รู้ว่าน้องเขามี พูดถึงหลวงพ่อทรง ฉันทโสภีเท่านั้นน้องบอกมีจันทร์ลอยเดี๋ยวเอามาให้ ตอนนั้นยังไม่รู้จักจันทร์ลอยเลยว่าคืออะไรเลย ให้มาเลยสององค์มีจารทั้งคู่ถ้าไม่ใช่ของผมแล้วจะได้มาแบบปาฎิหารย์ได้ยังไงต้องใช้เงินทั้งนั้นเดื๋ยวนี้ใส่ดูแล้วได้พบได้เจอได้เห็นของจริงยังมีอยู่จริงในปัจจุบัน หรือบางทีก็สลับกับเทพรัญจวนบ้างแล้วแต่โอกาส ทุกวันนี้ใส่อยู่สามชุดสลับกัน วันทำงานหลวงพ่อกุ่มวัดฝางกับเทพรัญจวน วันว่างว่างจันทร์ลอย วันหยุดหลวงปู่โต๊ะ แค่นี้เองของหลวงพ่อทรง ฉันทโสภีผมมีหลายมากตั้งแต่รุ่นแรกยันรุ่นสุดท้ายมีอย่างละหลายองค์ด้วยแต่ผมใส่จันทร์ลอยแค่องค์เดียวคิดเอาเองแล้วกัน โชคดีมีวาสนากันครับ

 

รุ่นนี้พิธีดีมาก ศักดิ์ศรีพิธีหลวงทีเดียว

ใครมีประสบการณ์ขอบันทึกไว้ที่นี่น่ะครับ

 

กราบ กราบ กราบ หลวงพ่อทรงครับ

 

น้ำตาไหลจริงๆครับ หวังว่าข้าวมันจะโตเร็วขึ้นเหนือน้ำทัน....หวังน่ะครับ

 

กราบ กราบ กราบ หลวงพ่อทรงครับ
ดีใจด้วย มีทุนเก็บไว้เยอะแต่ต้น ตอนปลายจะสบายโข อิอิ แล้วสอบวัดผลภาษาผ่านไปรึยัง

 

กราบ กราบ กราบ หลวงปู่ทรงครับ






ที่ยังไม่มีประสพการณ์ชัดเจน เพราะยังไม่เคยแขวนจริงจังครับ

แต่จากประสพการณ์ที่เคยใช้พระหลวงปู่ที่เป็นรูปตัวท่านผมแขวนรูปหล่อปี42

พระที่เป็นรูปเหมือนก็เหมือนแทนตัวท่านครับมีอะไรบอกกล่าวกับท่านได้เลย

รูปหล่อปี 42 นี่เหมือนแก้วสารพัดนึกเลยครับ

ผมคิดว่ารูปเหมือนรุ่นอื่นของหลวงปู่ ไม่ว่าจะปั้ม หรือหล่อ

ที่ผ่านการเสกจากท่านก็คงมีพุทธคุณไม่ด้อยกว่ากัน

 

คงต้องให้เวลาเปนเครื่องพิสูจน์

 

ผ่านหมดแล้วครับ แหะๆ

 

ผมเดาว่าคนส่วนใหญ่จะเลือกแขวนพระที่มีข้อมูลเรื่องวิธีใช้และพุทธคุณที่ชัดเจน เช่น พระนักธรรมช่วยเรื่องเรียน พระผงแหวกม่านช่วยขจัดอุปสรรค เหรียญเศรษฐีเป็นโภคทรัพย์ ฯลฯ เพราะสามารถเลือกใช้ได้ตามความต้องการ หรือความจำเป็นครับ

ผมมั่นใจว่าเราเชื่อมั่นในพระที่หลวงพ่อเสกไว้แล้วทุกองค์ แต่เวลาที่ต้องใช้ ผมว่าลึกๆ เราจะมั่นใจมากกว่าถ้าเรารู้ว่าหลวงพ่อท่านเมตตาลงอะไรให้ไว้ เช่น หากมีปัญหาเรื่องงาน ระหว่างรูปเหมือนปั๊ม กับ พระผงแหวกม่าน คนส่วนมากต้องเลือกแขวนพระผงแหวกม่านแน่นอน ทั้งๆ ที่หากอธิฐานกับรูปเหมือนปั๊มของหลวงพ่อ ท่านก็คงเมตตาช่วยเหลือไม่ต่างกัน (อย่างที่คุณเมืองสมุทรว่าไว้)

เนื่องจากเราไม่ทราบว่ารูปเหมือนปั๊มนี่หลวงพ่อท่านลงอะไรไว้ให้บ้างก็เลยยังไม่ค่อยมีใครเลือกห้อยซักเท่าไหร่ทั้งๆ ที่ก็รู้กันดีว่าพิธีดีมากๆ อย่างที่พี่พีว่าไว้น่ะครับ

เดาเอานะครับ ผิดถูกอย่างไรขออภัยไว้ล่วงหน้าครับ

 

กราบ กราบ กราบ หลวงปู่ทรงและคณาจารย์ทุกท่านครับ

สวัสดีพี่พีและสมาชิกทุกท่านครับ

ไม่ค่อยได้เข้ามาโพสบ่อยๆแต่ติดตามอ่านตลอดครับ

ช่วงนี้ก็รักษาสุขภาพกันด้วยนะครับ<!-- google_ad_section_end -->

 

กราบ กราบ กราบ หลวงปู่ทรง............... ครับ

พอดีไปเจอข้อมูลที่เซฟเก็บเอาไว้เลยนำมาฝาก ขอรับกระผม

“พระครูสุภัทรธรรมโสภณ” หรือ “หลวงพ่อทรง ฉันทโสภี” มีนามเดิมว่า ทรง วารีรักษ์ เกิดเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ.2466 ตรงกับวันพุธ แรม 14 ค่ำ เดือน 8 ปีกุน ณ บ้านม่วงเตี้ย ต.ม่วงเตี้ย อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง โยมบิดา-โยมมารดาชื่อ นายกอง และนางจัน วารีรักษ์ ครอบครัวประกอบอาชีพค้าขาย หลังอุปสมบท ท่านได้อยู่ปรนนิบัติรับใช้หลวงพ่อชวนระยะหนึ่ง จากนั้น ได้ย้ายไปอยู่จำพรรษาที่วัดไร่และวัดศาลาดิน เพื่อศึกษาพระปริยัติธรรมและพระธรรมวินัย สามารถสวดพระปาติโมกข์ได้อย่างคล่องแคล่ว ขณะเดียวกัน ท่านได้ศึกษาสรรพวิชาอาคมจากหลวงพ่อชวน วัดยางมณี, หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่, หลวงพ่อพักตร์ วัดโบสถ์, หลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ ศึกษาโหราศาสตร์กับหลวงพ่อเข็ม วัดข่อย พระเกจิดังแห่งยุค ได้เมตตาถ่ายทอดสรรพวิชาให้อย่างครบถ้วน นอกจากนี้ ท่านได้เรียนวิทยาคมจากตำราโบราณที่รับสืบทอดจากบรรพบุรุษ จนเชี่ยวชาญสามารถเขียนอ่านอักษรขอมได้ หลวงพ่อทรง เคร่งครัดปฏิบัติและชอบการปลีกวิเวก หมั่นฝึกฝนปฏิบัติวิชาอาคมต่างๆ ตามที่ได้ร่ำเรียนและได้รับการถ่ายทอดมา จนมีความชำนาญในวิปัสสนากัมมัฏฐาน มีพลังสมาธิญาณอย่างน่าอัศจรรย์ มีเรื่องเล่าขานกันว่า เมื่อปี พ.ศ.2513 ท่านได้จัดงานปิดทองฝังลูกนิมิตอุโบสถ จัดสร้างเหรียญเสมาเป็นรูปท่านครึ่งองค์ เพื่อมอบให้สาธุชนเป็นที่ระลึก โดยนิมนต์หลวงพ่อแพ เขมังกโร วัดพิกุลทอง ต.พิกุลทอง อ.ท่าช้าง จ.สิงห์บุรี, หลวงพ่อมุ่ย พุทธรักขิโต วัดดอนไร่ ต.หนองสะเดา อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี และพระเกจิผู้ทรงวิทยาคมรูปอื่นๆ มาร่วมนั่งปลุกเสก หลังจากพระเกจิผู้ทรงวิทยาคม คลายพลังสมาธิญาณและผ่อนคลายอิริยาบถ หลวงพ่อทรงยังคงนั่งนิ่ง ส่งพลังสมาธิญาณ กระทั่งเหรียญเสมาที่อยู่ในบาตร บินลอยวนไปมา ส่งเสียงกระทบฝาบาตรอย่างน่าอัศจรรย์ จนหลวงพ่อมุ่ย พุทธรักขิโต วัดดอนไร่ เปรยว่า “พอแล้วท่านทรง จะปลุกเสกไปถึงไหน เดี๋ยวเหรียญก็ได้แตกป่นกันหมดพอดี” หลวงพ่อทรง จึงผ่อนคลายสมาธิญาณ คณะศิษยานุศิษย์ ตั้งสมญานามเหรียญรุ่นนี้ว่า “รุ่นเหรียญบิน” ตราบจนปัจจุบัน หลวงพ่อทรง ได้รับการยอมรับและศรัทธาของศิษย์ทุกระดับชั้น เชื่อถือกันว่าท่านมีคาถาอาคมทรงพุทธคุณครอบจักรวาล โดยเฉพาะด้านเมตตามหานิยม ความเจริญรุ่งเรือง และด้านมหาอำนาจปกป้องผองภัยสารพัด สิ่งมหัศจรรย์ที่บังเกิดทั้งปวง ศิษยานุศิษย์ต่างประจักษ์ สามารถให้คำตอบได้เป็นอย่างดี
องค์นี้หลวงพ่อลงเมจิสีน้ำเงินด้านหลังให้ตอนนี้ก็จางๆตามกาลเวลา แต่พอสังเกตุเห็นด้านบนนะครับ

1. พระปิดตาพะเนียงแตกนี้อยู่ในชุดพระกริ่งเศรษฐีนวโกฏิ ปั้นหุ่นได้สวยงามดีพอควร เป็นรูปพระปิดตามหาอุด ยกพระหัตถ์ปิดปากคู่หนึ่ง ปิดตาคู่หนึ่ง ปิดทวารคู่หนึ่ง พระเศียรมีเม็ดพระศก ที่สะดือมียันต์ตัว อุ ม้วนอยู่ ด้านหลังปรากฏเป็นผ้สังฆาฏิยาวเป็นหางนกแซงแซว
พระปิดตานี้ หลวงพ่อปลุกเสกเน้นมหาอำนาจ คงกระพันกันศาสตราวุธ กันเขี้ยวงาพิษสัตว์ มหาอุดแคล้วคลาด และคุ้มครองตัวเป็นเยี่ยม
พระปิดตานี้มีอภินิหารสมควรบันทึกไว้คือ พระที่หล่อในพิธีนี้ ช่างหล่อได้ทำช่อพระมากเกินจำนวนเล็กน้อยเพื่อกันเสีย เพราะต้องเททองหล่อในฤกษ์ ตอนเททองเสร็จจะต้องนำพระไปทำการตัดช่อและแต่งผิวที่บ้านของช่าง ขณะที่ช่างได้ขึ้นไปลาหลวงพ่อจะกลับ “นายนพ” คนแถววัดคำหยาดได้เดินเตร่ไปที่รถของช่าง เห็นช่อพระปิดตาที่หล่อกันเสียโผล่อยู่ท้ายรถ จึงถือวิสาสะหยิบติดมือมาโดยไม่ได้บอกใคร รอจนสรงน้ำหลวงพ่อเสร็จ และผู้คนทยอยกลับกันจนหมดแล้ว นายนพได้นำพระปิดตามาเลื่อยก้านชนวนทิ้ง กับเพื่อนชื่อ “นายเอ๋” แบ่งกันคนละองค์ ทั้งสองคนได้นำพระปิดตาที่เพิ่งหล่อเสร็จเมื่อบ่ายนี้ หลวงพ่อยังไม่ทันได้เสกเลยมาลองยิงกันกลางทุ่งนาหลังวัด โดยใช้ปืนพกของนายเอ๋ ยิงไปที่พระปิดตาที่วางอยู่บนกระป๋องน้ำอัดลม นายเอ๋ยิงในระยะห่าง 3 เมตร ยิงไป 3 นัด ปรากฏว่าลูกปืนไม่ออกเลยซักนัด เสียงดัง “แซะ แซะ แซะ” พอเอากระสุนออกมาดูมีรอยสับนกทุกนัด พอเพื่อนเห็นดังนั้นต่างคนต่างก็แย่งพระปิดตาที่เหลือติดช่อเป็นชุลมุน คนที่แย่งไม่ทันก็เลื่อยก้านชนวนมาติดตัวกันเป็นแถว พอข่าวว่าเขาลองยิงพระกันหลังวัดดังแพร่ไปทั่วก็มีคนไปบอกหลวงพ่อว่าวันเทพระ ไอ้นพกับเพื่อนลองยิงพระกันหลังวัด ยิงไม่ออกเลยทั้งที่หลวงพ่อยังไม่ได้เสก หลวงพ่อนี้แน่จริงๆ หลวงพ่อท่านก็หัวเราะ และพูดในทำนองถ่อมตนว่า “ที่มันไม่ออกเพระปืนมันไม่ดีละมั้ง” พระปิดตามหาอุดนี้ท่านเคยพูดกับคุณสายันณ์ กิจพิสัย ศิษย์การไฟฟ้าอ่างทอง ว่า “ทำให้ทหาร ตำรวจไว้ใช้ดี ปลอดภัยดี”





เมื่อวันศุกร์ที่ 5 เมษายน 2550 เวลา 22.50 น. "หลวงพ่อทรง ฉันทโสภี" พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง เจ้าอาวาสวัดศาลาดิน ผู้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญในพุทธาคม ได้ถึงแก่กาลมรณภาพลงอย่างสงบ สิริอายุได้ 83 ปี 63 พรรษา ณ โรงพยาบาลวิเศษชัยชาญ

ก่อนหน้านั้นเมื่อต้นเดือนตุลาคม 2549 "หลวงพ่อทรง" และคณะกรรมการวัด ได้ตกลงปรึกษากันว่าจะจัดให้มีพิธีไหว้ครูขึ้น ในวันสงกรานต์ที่ 13 เมษายน 2550 ซึ่งถือเป็นงานไหว้ครูครั้งแรกของวัดและของหลวงพ่อ

"หลวงพ่อทรง" ท่านบอกให้สร้างผ้ายันต์ขึ้น 2 ชนิด เพื่อจะเสกและออกจำหน่ายในวันไหว้ครู ในตอนนั้นสุขภาพท่านยังแข็งแรงมาก โดยท่านออกแบบลายยันต์ในผ้าทั้งหมด กำชับว่าให้ทำผ้ายันต์ทั้ง 2 แบบให้เสร็จโดยเร็ว จะเอาไว้เสกนานๆ หน่อย โดยผ้ายันต์ผืนใหญ่ หรือผ้ายันต์พัดโบก หรือผ้ายันต์โบกขรพัตรนั้น ท่านปลุกเสกด้วยวิชาจินดามณี และวิชาด้านการเสริมดวงชะตา และผ้ายันต์ไหว้ครู ท่านได้ปลุกเสกโดยรวมสายวิชาของครูบาอาจารย์ที่ท่านได้เล่าเรียนมาจนครบถ้วน

"ผ้ายันต์พัดโบก" มีขนาดใหญ่กว้าง 20.5 นิ้ว ยาว 32 นิ้ว มีหลายสี คือ สีขาว (ผ้าบังสุกุลเป็น) สีเหลือง (สีวันพ่อ) สีจีวร, สีฟ้า, สีเขียว และสีน้ำตาล มีลวดลายสวยงามมาก เรียกว่า รวมสรรพมงคลของสายวิชาหลวงพ่อไว้ครบถ้วน คล้ายท่านจะสร้างไว้เป็นครั้งสุดท้ายจริงๆ ลวดลายและพระยันต์ บนผ้ายันต์พัดโบกนั้น หลวงพ่อทรงท่านออกแบบเองทั้งหมด

หากใครได้เรียนทางพุทธาคม แล้วจะรู้ว่าเป็นการออกแบบอย่างรู้จริง และรู้ลึกยิ่งนัก เพราะสวยงามด้วยเทวศิลปและอุดมด้วยพุทธาคม ท่านให้เขียนเป็นรูปเทวดา 2 องค์ เชิญผ้ายันต์ มีรูปหลวงพ่อทรง นั่งอยู่ตรงกลางภาพ พญานาค 4 ตน ขนดตัวเป็นยันต์จินดามณี หลังหลวงพ่อ, ด้านบนศีรษะท่านเป็นยันต์ประทีปพระพุทธเจ้า แวดล้อมด้วย อิติปิ โส มงกุฎเพชรและมงคลจักรวาล ด้านล่างเป็นหงส์ทอง และยันต์ดอกบัวบาน ที่ท่านให้เอาไปใส่ไว้ในหลังเหรียญน้ำมนต์ของท่าน

ล่างสุดเป็นสัตว์พาหนะ คือเต่าและจระเข้ ซึ่งเป็นวิชาที่ท่านเลือกนำมาสงเคราะห์คน มีข้อความอ่านโดยรวมว่า "ผ้ายันต์โบกขรพัตร (พัดโบก)" ของหลวงพ่อทรง ฉันทโสภี วัดศาลาดิน อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง บูชาอยู่กับบ้านเป็นสิริมงคล เจริญโภคทรัพย์ เจริญรุ่งเรือง ค้าขายร่ำรวย ทั้งเป็นเมตตามหานิยม จะนำมาซึ่งสิ่งไชยมงคล ไชยลาภา มีแต่ความเจริญ จงตั้งปรารถนาเอาเถิด

สำหรับผ้ายันต์ไหว้ครูและผ้ายันต์พัดโบก ซึ่งถือว่าเป็นมรดกทางวัตถุชิ้นสุดท้าย ที่หลวงพ่อทรงสร้างทิ้งไว้ให้ศิษย์ที่เคารพนับถือ

 

กราบหลวงพ่อทรง...ครับ
เข้ามาตอกบัตรกะดึกๆ ( ช่วงนี้คอมว่างนิดส์ๆ )

 

กราบขอบคุณในข้อมูลน่ะครับ

ข้อมูลเหล่านี้ลงในหนังสือพระเครื่อง จัดสร้างโดยศูนย์ใหญ่ศูนย์หนึ่ง ครับ