ขอคำแนะนำครับ สำหรับคนปฏิบัติธรรมแต่มีแฟนครับ

เรื่องมีอยู่ว่าเป็นคนปฏิบัติธรรม มาตั้งนานแล้วหละครับ แต่มาคราวนี้มาเริ่มถือศีล 5 แบบจริงๆ จังๆ ตั้งแต่ที่ได้ฟังหลวงพ่อฤาษีและหลายๆ ท่านในนี้กล่าวว่าถ้าศีลไม่ดี เรื่องปฏิบิตสมาธิภาวนาก็เห็นผลยาก
ในศีล 5 ข้อมีที่แย่ๆ ก็ 2 ข้อ คือ มุสา กับ กาเมฯ (ส่วนข้ออื่นปฏิบัติเป็นปกติแทบจะไม่พลาดเลยก็ว่าได้ เช่นยุงก็ไม่ตบมาน่าจะเกิน 5 ปีแล้ว)

ข้อมุสานี่พลาดบ่อยๆ เพราะเป็นคนชอบพูดเล่น (กะให้แฟนฮา แต่เขาไม่ฮาด้วย)

แต่ข้อกาเมฯนี่พลาดได้เพราะยังอยู่กับแฟน แต่ยังไม่ได้แต่งงานกัน

คราวนี้เรื่องก็เกิดเพราะพอผมตั้งใจเรื่องศีล5มากๆเข้า อยู่ๆ ไอ้ตัวอยาก(กาเมฯ)ก็หายไปเฉยๆ ที่จริงก็ไม่หายขาดหรอกครับ แต่ถ้า 100% นี่ก็มีเหลืออยู่สัก 20%เห็นจะได้แต่...นานนนนนนน นาน จะมาทีครับ
คุณแฟนก็เลยเริ่มน้อยใจ หาว่าไม่เหมือนเดิมบ้าง ไล่ไปหาผู้หญิงอื่นบ้าง
ผมก็เครียดสิ ผมก็รักของผมเหมือนเดิม แต่...มันไม่อยากนี่ครับ ก็บอกว่าอยู่กันแบบไม่ต้องมีความสัมพันธ์กันก็ได้นี่นา(จนกว่าจะแต่งงาน) ก็โกรธเราอีก

เลยอยากให้หลายๆ ท่านแนะนำหน่อยครับ เพราะน่าจะเคยมีคนประสพเหตุแบบนี้บ้าง ขอบคุณล่วงหน้าครับ

ปล.
กับผู้หญิงคนอื่นๆ ผมก็มองนะถ้าสวยแต่ไม่คิดเรื่องแบบนั้นเลย
พอคิดว่าเขาสวยปุ๊บ ใจมันก็บอกว่าไปดูแม่เขาสิ ยายเขาสิ ว่ายังสวยไหม ก็เลิกคิดเรื่องสวยไป

เรื่องหนัง/ภาพอย่างว่า ก็ไม่ดูมานานแล้ว ไม่อยากดูเห็นแล้วก็สังเวชใจ
(ยิ่งเรื่องภาพนี่แทบไม่ดูเลย เมล์มาก็ลบเลย)

อย่างเมื่อคืนอยากรู้ว่าตัวเองผิดปกติไหมก็เปิดหนังอย่างว่าดู ก็มีความอยากเกิดขึ้น แปปเดียวก็หายไปอีกแล้ว
เฮ้อ...ชีวิต

 

อนุโมทนากับ เจ้าของกระทู้ด้วยค่ะ ตัวเราเองเป็นเหมือนกัน จนสามีไปมีคนอื่น ท้ายที่สุด เราขอแยกทาง อยู่กับลูก อยู่กับธรรม สบายใจกว่า รักกันไม่ต้องอยู่ด้วยกันก็ได้นี่คะ เพียงแค่มีใจ ที่มั่นคง ซื่อสัตย์ต่อกัน ก็เำียงพอแล้ว สำหรับรัก

 

ฮาๆๆๆ เหมือนกันเลยแต่ไม่เหมือนตรงที่ เราบอกแฟนเราก่อนเราจะรักกันว่า ถ้าต่อไปในอนาคตเราไม่มีอะไรกัน จะอยู่ได้ไหม ไม่ว่าจะในขณะที่ยังหนุ่มสาวหรือแก่เฒ่า ผมเป็นแฟนหรือคนรักกันมา ๑๑ ปีแล้วยังไม่แต่ง แต่ไม่ค่อยเสพ และกามรมณ์อันเป็นราคะเกิดเพราะความหลงที่เห็นว่ารูปนั้นสวยทั้งของแฟนและของคนอื่นมีบ้าง แต่เพียงและเกิดขึ้นในตนเองเท่านั้น ไม่มีแรงพอจะไปก้าวล่วงคนอื่น เห็นผลกระทบจากการเป็นผู้ประพฤติผิดในกามและการมุสาวาสเพราะกามราคะนั้น มันหาความสุขในอัตภาพนั้นไม่ได้เลย ควรซื่อสัตย์ ต่อกัน และมีศีลดังเดิม และศีลบริสุทธิ์เมื่อเหตุทั้งหลายนั้นบริสุทธิ์ ผมก็เป็นผู้มีศีลไม่บริสุทธิ์แต่ไม่ใช่ตลอดเวลา เพราะอาศัยสติระลึกรู้ว่า เมื่อใดควรพอเมื่อใดควรหยุด แต่การฆ่านั้นการอยากได้ของคนอื่นการโกหกการประพฤติผิดในกามและการดื่มมันไม่เคยอยู่ในใจตลอดเวลา และไม่เคยสร้างเจตนาในการทำสิ่งต่างๆเพื่อหวังผลสิ่งใดเลย จึงไม่รู้สึกอึดอัดแต่อย่างใด และวันหนึ่งแฟนก็คงเข้าใจได้เองถ้าสร้างกรรมและกุศลมาร่วมกัน

 

ใช่ครับใจผมมันก็คิดแบบนี้ ขนาดเรามีแฟนคนเดียวยังทุกข์ซะขนาดนี้ เรื่องจะไปมีใหม่ยิ่งไม่มีอยู่ในหัวผมเลย แต่...เธอไม่เข้าใจผม

 

ได้รู้...อีกแล้ว.....ความรักที่ดี..ต้องมี...ธรรม..อยู่ด้วยจริงจะเป็นรักที่ถูกต้อง...อิอิ

 

เวลาครับ..............อิอิ...ท่าน....มันจะทำให้เราเข้าใจมากขึ้น...ต้องมีขันติ...ด้วยนะครับ...ลองแล้วได้ผลครับ..อิอิ

 

เดินไปด้วยกัน ก็เห็นเหมือนกัน ก็เข้าใจเหมือนกัน

ป.ล
เห็นแล้วดับ ก็สนุกแบบเห็นแล้วดับ เห็นแล้วต้องทำนู่นทำนี่แล้วดับ ก็สนุกแบบทำนู่นทำนี่แล้วดับ
เห็นแล้วดับ ก็ยิ่งดับ
เห็นแล้วต้องทำนู่ทำนี่ ก็ยิ่งต้องทำนู่นทำนี่

อนุโมทนาด้วยครับ

 

ขอร้องอย่าขี้โม้เลยครับ ไม่อยากมีกามราคะแต่มีแฟนเนี้ยนะ
ถ้าไม่มีจริงๆทำไมไม่เลิกกันไปให้รู้แล้วรู้รอด แฟนเขาจะได้ไป
หาคนใหม่ เอาเขามาทนทุกข์ใจทำไม

กามราคะมันไม่ได้เกิดเพราะใจอย่างเดียว มันเกิดจากกายด้วย
พอถึงเวลา ไปบังคับมันมากๆ เดี๋ยวมันก็หลั่งมาเอง

คนเราเวลาหิวกต้องกินข้าว ป่วยก็ต้องกินยา การดำรงเผ่าพันธ์ก็เป็นส่วนหนึ่งของมนุษย์
นางวิสาขา เป็นถึงโสดาบัน ยังมีลูกเป็นโขยงเลย
หรือว่าพวกท่าน เลยขั้นโสดาบันไปแล้ว

 

ผมก็เป็นเหมือนกันครับ แต่พอดีว่า แฟนผมเขาก็เป็นคนศึกษาธรรมมะเหมือนกัน

แต่เราก็ยังเป็นวัยรุ่นกันอยู่............บางครั้งผม ปฏิบัติมากเข้า เริ่มเหินห่าง

เธอก็จะพูดแบบนั้นแหละครับว่า ทำไม่ไม่เหมือนเดิม...........พอนานไปๆ

ผมเริ่มกลับเป็นคนเดิม ..............ก็กลายเป็นเธอที่เป็นคนห่างเหินบอกว่า

จะรักษาศีล5 อย่างเด็ดขาด ห้ามมีอะไรด้วย............อ่าว เป็นงั้นไป

ผมก็เลยปลง แล้วก็ดีใจแบบแปลกๆว่า เออ ........เราจะได้อดทนกับเรื่องกาม

เพราะผมไม่คิดจะมีอะไรกับคนอื่น............และเราจะได้ปฏิบัติให้มากขึ้น

สำหรับที่ผม อ่านที่ จขกท นั้น ผมคิดว่า จขกท เป็นคนที่ศึกษาธรรมะ และปฏิบัติ

ได้มากกว่าฝ่ายหญิง ทำให้ผู้หญิงไม่เข้าใจ ผมแนะนำว่า คู่กัน หรือคุยกันรู้เรื่อง

ศีล ธรรม ต้องเสมอกัน แนะนำให้ฝ่ายหญิงศึกษา และปฏิบัติสิครับ จะช่วย

ส่งเสริมบารมีซึ่งกัน และกัน เกื้อหนุนเรื่องทางโลก คือชีวิตครอบครัว และทางธรรม

ก็เจริญไปพร้อมกัน ............ กระทู้นี้ดี เป็นกระทู้เปิดใจเลยครับ

 

สภาวะ...ความเพียงพอ...
1.เพียงพอ...โดยการที่พอใจกับการ..กิน..การนอน...การถ่าย
2.เพียงพอ...โดยการอยู่ร่วมกันภายในครอบครัว
3.เพียงพอโดยการอยู่ร่วมกันในสังคม
คนเราจะใช้คำว่าเพียงพอแบบใหน..ขึ้นอยู่กับ..ปัญญาของแต่ละคน.
(ความเห็นส่วนตัวนะครับ..เราเองที่เป็นผู้เลือก..หรือต้องการ...ว่าจะทำ จะเป็นแบบใหนผมเองที่เป็นผู้พอใจ..ที่จะเพียงพอเท่านี้ครับ..อิอิ)...อีกนิดตอนนี้ผมว่าผมหิวน้ำแล้ว..ผมคงต้องหาน้ำดื่มแล้วครับ..อิอิ......มันก็ไม่ได้เกี่ยวกันหลอกครับ...แต่ก็เขียนๆไปงั้น

 

ผู้ที่เห็นโทษของกาม และดำริจะออกจากกาม น่าสรรเสริญอย่างยิ่ง

อนุโมทนาด้วยครับ

 

555อ่านแล้วก็รู้สึกฮาเหมือนกัน ผมว่ามันมีสองแบบคือมีแฟนก่อนแล้วศึกษาธรรมะ กับมีธรรมะแล้วก็มีแฟน บางอย่างก็ดูปกติธรรมดา แต่ที่มันรู้สึกนั่นเพราะความคิดว่าคนมีธรรมต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้ แต่ที่จริงคนมีธรรมต้องรู้ว่าความพอดีอยู่ที่ไหนต่างหากและความพอดีแบบไหนเป็นของตนและครอบครัวอย่างถูกต้อง พระอริยะเจ้าท่านก็ประมาณนี้แหละเว้นเสียแต่พระอรหันต์ท่านไม่มีห่วงเรื่องเหล่านี้ ผมชอบทำให้มันหลั่งเพราะว่ารู้ว่า ยังดีกว่าไปทำให้คนอื่นต้องเดือดร้อน และมันจะไม่หลั่งก็ต่อเมื่อมันเห็นความจริงนั้นได้อย่างจริงๆ ปล. มันเป็นธรรมชาติของสัตว์แต่มากไปเขาเรียกว่าหมกมุ่น แต่คำว่ามากของแต่ละคนก็ต่างกัน บางคนครั้งเดียวก็เรียกว่ามาก สิบยี่สิบครั้งถึงจะเรียกว่ามากแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่สิ่งที่ทุกคนควรมีคือ ควรรู้ว่ามันมีอยู่และหาทางหยุดมันถ้าสมควรแก่เหตุนั้นๆ ไม่ควรหลอกตนเองเพราะการหลอกตนเองจะพาตนไปสู่ความทุกข์ทนเสมอ ไม่เคยแปรเปลี่ยน เพราะมันไม่รู้ว่าแท้จริงเกิดอะไรกับตนกันแน่มันเลย หลั่งออกมาเอง555
สาธุนะครั๊บ

 

แฮะๆ ก็อย่างที่บอกแหละครับ ว่าไม่ 100% ไอ้ 20% เนี่ยมันก็น้านนน นานโผล่มาสักครั้ง เรื่องที่เครียดก็เหมือนที่คุณบอกแหละครับ ว่าทำไมไม่เลิกๆ ให้รู้แล้วรู้รอดไป

อืม...ถ้าไปอ่านของผมให้ดี ผมก็บอกอยู่ว่ายังรักอยู่ แต่...จะดีไหมถ้ามีอะไรกันหลังจากแต่งงานแล้ว (เพราะไม่ล่วงเกินศีล5ไงครับ) 555 แฟนเลยงอนบอกว่า แล้วทำไมไม่คิดได้ตั้งแต่แรก

ถ้าจะบอกก็คือคนเราถ้าไม่เจอทุกข์ ก็ไม่เห็นทุกข์ พอเห็นทุกข์ก็หาทางดับทุกข์
แต่... มันสวนกระแสโลกเหลือเกินครับ (ก็จะพยายามต่อไป)

 

ยังไม่ได้แต่งงาน แต่พูดเรื่อง...กันอย่างจริงจัง นึกว่าเป็นสามีภรรยากันแล้วซะอีก
ถ้าเราเลือกแล้ว ในทางนี้ ผู้หญิงไม่เอา้ด้วย และขาดเรื่อง... ไม่ได้ อีกทั้งเราเองไม่อาจสนองได้ ก็ควรปล่อยเค้าไปหาคนที่เหมาะกันกว่า แต่ถ้าฝ่ายหญิงรักเรามากพอที่จะอยู่ด้วยความรัก พร้อมจะเป็นคู่ร่วมทำบุญไปกับเรา เค้าก็คงจะยอมรับและอยู่กับเราอย่างมีความสุขได้เอง ของแบบนี้เราบังคับไม่ได้

 

คุณเก่งเค้นหนี้ ผมเคยอ่านความเห็นของคุณมา ผมสังเกตุดู
ทำไมความเห็นแต่ละครั้ง ทำเหมือนกับกับว่า ต้องบีบต้องเค้นมันออกมา
ถามจริงรู้สึกเหนื่อยมั้ยครับ พูดแบบธรรมดาที่ชาวชาวเขาพูดกันก็ได้

ถามหน่อยคุณมุสาอยู่หรือเปล่าครับว่า"บอกผู้หยิงก่อนจะเป็นคนรักว่า
จะไม่มีอะไรกันในอนาคต ไม่ว่าหนุ่มสาวหรือแก่เฒ่า"

ผมว่านะครับ ต่อให้ผู้ชายคนนั้น จะใจกล้าหน้าด้านแค่ไหน ก็คงไม่กล้าที่จะ
ไปบอกหรือถามคนกำลังจะจีบเป็นแฟนแบบนี้หรอก แล้วกับคุณที่คุยโม้ว่า
เป็นคนดีมีคุณธรรมคุณทำได้หรือครับ ขอร้องครับจะโม้อะไรกรุณาเรียบเรียง
เนื้อเรื่องให้น่าเชื่อถือหน่อย ขอบอกคำพูดของคุณ มันไม่ได้ดูดีเลย
มันหยาบคายมาก พูดได้ยังไงกับคนที่ยังไม่ได้เป็นอะไรกัน

ที่พูดมามันดีหรือน่าภูมิใจตรงไหนหรือกับคำว่า"ไม่ค่อยเสพ "
คุณลืมไปแล้วหรือว่า เป็นแค่แฟนกันยังไม่ได้แต่ง พ่อแม่ฝ่ายหญิง
จะยินดีมั้ย กับคำว่าไม่ค่อยเสพของคุณ
การปฏิบัติของคนเป็นแค่แฟน จะต้องไม่เสพเลย ไม่ใช่ไม่ค่อยเสพ
แค่ศีลยังทำไม่ได้ แต่ดันมาโม้ว่าตัวมีธรรมในขั้นของ สกิทาคา

ผมว่าก่อนที่จะให้แฟนเข้าใจ คุณต้องเข้าใจตัวเองเสียก่อน
คนเป็นแฟนกัน เรื่องเยื่อใยยังมีไม่มาก ภาระผูกพันก็ไม่มี
มันไม่เหมือนกับคนมีครอบครัวมีลูกมีเต้า สิ่งนี้ทำได้ยาก

ถ้าคุณไม่มีความต้องการในเรื่องกามราคะจริงๆแล้ว
ไม่ควรที่จะมีแฟนหรือยังเป็นแค่แฟน ควรพูดคุยกันให้เข้าใจ
และแยกกันไป ไม่ควรให้เกิดการล่วงเลย มาเป็นครอบครัว
เพราะถ้าครอบครัวไม่เข้าใจในตัวเรา มันจะทำให้เกิดวิบากกับคนอื่น
เอางี้ไปบอกแฟนเลยว่า เราอย่าเป็นแฟนกันเลยน่ะ
เราเป็นแค่เพื่อนหรือกัลยาณมิตรที่ดีต่อกันจะดีกว่า

ถามจริงกล้าหรือเปล่า ถ้าไม่กล้าแสดงว่า
เสียดายกลัวเขาไปมีคนอื่น ฮิ ฮิ ฮิ..ๆ

 

คุณเก่ง คุณเค้นตัวหนังสือมาเสียยืดยาว แต่คุณรู้หรือเปล่าว่า
มันคนละเรื่องแล้ว คุณมาแก้ผ้าประจานตัวเองแบบนี้
ไม่อายชาวบ้านหรืองัย นี้นะหรือคนที่คุยว่า ไม่อยากยุ่งเรื่องกาม

ไอ้คำของผมที่ว่า "หลั่งเอง" ไม่ได้มีความหมายความแบบคุณ
ลักษณะการกระทำของคุณ เด็กวัยรุ่นเขาเรียกว่า "การช่วยตัวเอง"
มันเป็นอาการของคนที่ มีกามราคะมาก แต่ไม่มีทางออก
เลยต้องช่วยตัวเองครับ

ความหมาย"หลั่งเอง" ของผมมันมีลักษณะที่ ใจไม่ได้คิดเรื่องกาม
แต่เป็นเรื่องของกาย ที่ฮอโมนในร่างกายมันทำงานของมันเอง
และมันเกิดในขณะนอนหลับ ผมหวังว่าคุณจะเข้าใจ ผมไม่อยากเอ่ย
มันกระดากปาก

 

การถือศิล 5 ไม่ได้ทำให้กิเลสหมดสิ้นไป และที่สำคัญเป็นศิลของพุทธศาสนิกชนทั่วไป ทีมีความศรัทธาในพระพุทธศาสนา คุณยังเข้าใจเรื่องศิลข้อ 3 ผิดไปมาก เพราะความหมายก็คือ ให้เว้นจากการประพฤติผิดในกาม ในที่นี้หมายถึง การไปเป็นชู้นั่นเอง หรือไปผิดลูกผิดเมียผู้อื่น ส่วนการที่อารมณ์ของคุณขึ้น ๆ ลง ๆ แสดงว่ามีปัญหาเกี่ยวกับทางเพศ ทางที่ดีแนะนำให้ไปปรึกษาแพทย์ครับ ดีไม่ดีอาจจะมีโรคบางสิ่งบางอย่าง ที่ร้ายแรงพอสมควร อาจถึงขั้นเสียชีวิต รีบไปตรวจร่างกายก็ดีนะครับ

 

...ถูกขนบธรรมเนียม ถูกกฎหมาย ถูกทั้งศีล และธรรม....

...ทำให้มันถูก.....ก่อน

...หากจะตัดตอน ก็ต้องทำใจให้ฉลาด เป็นเวลาๆ.....แก้ที่เหตุจึงควร

...ทำให้เจ้าของสิทธิ์ยอมรับ แล้วจะเบา....

 

ผมเป็นเหมือน จขกท ทุกอย่างเลย เป๊ะ เลยอ่ะ

ส่วนผมเลือกทาง ที่ทุกข์ใจน้อยที่สุด สบายใจมากที่สุด

ต้องถามใจตัวเองดูอะ ว่าทางไหน ถ้าเลือกไปแล้ว

เราโอเค....สู้ๆๆครับ

 

แนะนำสักนิดได้รึไม่ครับ?