ทำอย่างไรจึงจะฝึกมโนมยิทธิได้คล่อง ?

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย tamsak, 2 ตุลาคม 2010.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,171
    [​IMG]



    ถาม: จำเป็นไหมครับ ต้องไปนั่งเพ่งพระพุทธรูป ?

    ตอบ : ถ้าจะทำอย่างนั้นก็ได้ แต่ว่าของเราเหมือนกับคนรวยแล้วหาเรื่องเหนื่อย คือ คนที่จะฝึกมโนมยิทธิได้ พื้นฐานเก่าต้องมีอยู่แล้ว ถ้าไปย้อนกลับทำอย่างนั้นใหม่ เสียเวลา แต่จะเรียกเสียเวลาก็ไม่ได้ เพราะเราต้องการกำลังใจที่มั่นคงขึ้น เพียงแต่ว่าตอนเราย้อนเข้าไปทำลักษณะนั้น เป็นการย้อนเข้าไปสู่ฌานสมาบัติใหม่ ถ้าตายตอนนั้นไปแค่พรหม แต่ถ้าเราเอาจิตเกาะนิพพานไว้ จะชัดไม่ชัดก็ไม่ว่า เรามั่นใจตรงนี้ใช่แน่ ถ้าตายตอนนั้นจะไปนิพพาน

    ถาม : คำภาวนา สัมปจิตฉามิ กับ นะ มะ พะ ธะ ต่างกันอย่างไรครับ ?

    ตอบ : ต่างกันที่ว่า นะ มะ พะ ธะ เป็นการฝึกมโนมยิทธิอย่างเดียว แต่ สัมปจิตฉามิ เป็นกำลังของอภิญญา

    มโนมยิทธิเป็นพื้นฐานของกสิณแค่กองเดียว อาจจะเป็น อาโลกกสิณ กสิณแสงสว่างก็ได้ โอทาตกสิณ กสิณสีขาวก็ได้ เตโชกสิณ กสิณไฟก็ได้ เป็นอำนาจของกสิณกองเดียว

    แต่ สัมปจิตฉามิ นี่ ถ้าหากเราทำได้คล่องตัว เราใช้อำนาจของกสิณ ๑๐ ได้ครบเลย

    ดังนั้นถามว่าต่างกันไหม ? ต่างกันเยอะ ถ้าหากว่าทำได้คล่องตัวจริงๆ จะได้ชัดเจนเหมือนตาเห็นเลย

    ถาม : ที่หลวงพ่อท่านให้ภาวนา นะ มะ พะ ธะ เพราะว่า ?

    ตอบ : ที่ท่านให้ทำอย่างนี้เพราะว่า เป็นการทำที่ง่ายที่สุด อันนั้นเป็นพื้นฐานอภิญญา เหมือนกับเก็บเงินซื้อรถเบนซ์ เอาจักรยานได้เร็วกว่า

    ถาม : (ไม่ชัด)

    ตอบ : นั่นของเขามีความคล่องตัวในนอดีตอยู่แล้ว อาตมาเองเคยโดนไล่เตะออกจากกลุ่มมาแล้ว คล่องตัวเกินไป แค่ครูฝึกเขาพูดคำ เรารู้ว่าทั้งประโยคคืออะไร เราชิงตอบก่อน ครูฝึกก็เอ๋อรับประทานไปด้วยซ้ำ ทำให้เขาเสียจังหวะไปหมดทั้งขบวนเลย ไปๆ มาๆ เขาก็เลยต้องเชิญตัวออกไปนอกห้อง อยู่ร่วมกับเขาไม่ได้ คือคนที่เคยทำมาแล้ว ถ้าของเก่ามีจริงๆ จะคล่องตัวขนาดนั้น ไม่ต้องไปสงสัย เขาทำมาแล้ว ของเราๆ ก็พยายามทำให้ได้อย่างเขาก็แล้วกัน

    ถาม : แล้วของเราที่มาได้จี๊ดๆ ก็ต้องทำต่อไปใช่ไหมคะ ?

    ตอบ : ทำได้เยอะ แต่เราไม่มีความตั้งใจที่จะไปฟื้นมันจริงๆ

    ถาม : ถ้าอย่างพวกผมมีได้จริงๆ ถ้าจะฟื้นนี่ก็ต้องทำบ่อยๆ

    ตอบ : ต้องประเภททุ่มเทกันเลย ถามว่าทำบ่อยแค่ไหน ไม่ต้องมากหรอก วันละ ๒๔ ชั่วโมงก็พอ คือ พยายามประคับประคองใจไว้ อย่าให้รัก โลภ โกรธ หลง กินใจได้ ถ้ารัก โลภ โกรธ หลง กินใจไม่ได้ นิวรณ์ ๕ กินใจไม่ได้ สภาพจิตจะแจ่มใสเป็นปกติ นึกเมื่อไหร่ก็เห็นเมื่อนั้น นึกเมื่อไหร่ก็ไปได้เมื่อนั้น



    สนทนากับพระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    เดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๔๖(ต่อ)
    ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ



    .
     
  2. ชนะ สิริไพโรจน์

    ชนะ สิริไพโรจน์ ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,891
    กระทู้เรื่องเด่น:
    14
    ค่าพลัง:
    +35,260
    สาธุ ขออนุโมทนาเป็นอย่างสูงครับ
    เว็บทางนิพพาน เว็บไซด์ เผยแพร่ ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น<O:p

    ที่รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน<O:p
    ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่
    www.tangnipparn.com
    <?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com[​IMG]ขอเชิญแวะเยี่ยมชมและโมทนาบุญเว็บศูนย์พุทธศรัทธา </O:p>
    *
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ตุลาคม 2010
  3. phanit

    phanit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2006
    โพสต์:
    2,099
    ค่าพลัง:
    +984
    สาธุ ขออนุโมทนาเป็นอย่างสูงคะ
     
  4. monsy

    monsy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    61
    ค่าพลัง:
    +341
    อนุโมทนาด้วยค่ะ เข้าใจตัวเองอีกเป็นกองเลยค่ะว่าเราอยู่ตรงไหน ควรทำอะไรต่อถูกทาง เพราะบางทีก็งงๆ ตัวเองเหมือนกลับไปกลับมาวนอยู่ในอ่างทั้งๆที่เคยออกไปก็บ่อย
     
  5. lukchai

    lukchai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2006
    โพสต์:
    326
    ค่าพลัง:
    +323
    สาธุครับ

    แต่มีข้อสงสัยเรื่องวิธีการฝึก โดยใช้คำภาวนาเป็น สัมปจิตฉามิ จะมีวิธีต่างจากการที่ใช้ นะ มะ พะ ธะ เป็นคำภาวนาอย่างไร จะกำหนดจังหวะของลมหายใจอย่างไร

    รบกวนท่านผู้รู้ช่วยตอบทีครับ
     
  6. ตันติปาละ

    ตันติปาละ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    4,421
    ค่าพลัง:
    +4,649
    ความรู้ใหม่ ขอบคุณครับ
     
  7. SPARTANS

    SPARTANS เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    3,380
    ค่าพลัง:
    +2,987
    กราบนมัสการหลวงพี่เล็กครับ
     
  8. ไข่นคร

    ไข่นคร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    145
    ค่าพลัง:
    +281
    อยากฝึกมโนมยิทธิด้วยตัวเองคับ
    มีวิธีไหนไหมคับ
     
  9. EakChutidet

    EakChutidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    199
    ค่าพลัง:
    +856
    ขออนุโมทนา ขอความเจริญในธรรมจงบังเกิดแก่ทุกท่านทุกรูปทุกนาม หากการกระทำใดๆ
    ของข้าพเจ้าล่วงเกินท่านทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นวจีกรรม,มโนกรรม ข้าพเจ้าขออโหสิกรรมมา ณ ที่นี้

    ขอปฎิญาณตนเป็นคนดี ละเว้นการกระทำชั่ว ถือศิล มีธรรมะประจำใจ มีพระนิพพานเป็นอารมณ์
    จะขอมีสติทุกลมหายใจเข้า-ออก ระลึกถึงความตายไว้เสมอทุกลมหายใจเข้า-ออก ละลึกเสมอว่า
    ตัวเรามิใช้ของเรา กายเราก็มิใช่ของเรา เคารพในครูบาอาจารย์ หมั่นปฎิบัติมิให้ขาด ตั่งจิตตั้งใจ
    จะไม่เกิดใหม่อีก ขอให้ถึงพระนิพพานในชาตินี้

    ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลนี้ไปให้ทุกรูปทุกนามทั้ง 20 ชั้นพรหมโลก 6 ชั้น
    เทวะโลก มนุษย์โลก มารโลก ยมโลก อบายภูมิทั้ง 4 มี นรก เปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน
    และในหมื่นโลกธาตุกับอีกแสนจักรวาลพิภพ ทั้งที่เป็นมนุษย์ อมนุษย์ รูปวิญญาณ อรูปวิญญาณ
    และสรรพสัตว์ทั้งหลาย ทั้งที่เป็นมิตรและศัตรู ตลอดจนเจ้ากรรมนายเวรของข้าพเจ้า
    .........ขอให้ทุกรูปทุกนาม จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรซึ่งกันและกันเลย
    อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย ขอให้ทุกรูปทุกนาม จงโมทนาในส่วนกุศลนี้
    พึงได้รับประโยชน์ความสุขเช่นเดียวกัน ข้าพเจ้าจะพึงได้รับ ณ กาลบัดนี้ด้วยเทอญ .........

    พร้อมกันนี้ ขออนุโมทนา บุญกุศลกับทุกท่านด้วยครับ
    นายชุติเดช วรรณสุวงค์
    _/l\_ สาธุ สาธุ สาธุ _/l\_

    พระคาถาพุทธ นะฤาชา
    ให้ตั้งนะโม 3จบ

    นะฤาชา กุติยะ ปัญจะลือ โสภะกัญจะ สะวะรัง วะรัง ฤามะหันตา นะมามิหัง
    กรีนิ อักขรานิ ชาตานิ อุณาโลนาถัง เพชรตังโหติ อะสังวิสุโลปุสะพุภะ สัตถุโน
    พุทโธ. (จบ)
    พระคาถานี้ใช้ภาวนา เป็นเมตตามหานิยม ก็ได้ ใช้ทางคงกระพัน ก็ได้ กันภูติผีปีศาจก็ได้
    เป็นทั้งมหาอำนาจ ก็ได้ ใช้ได้ 108 ประการ แล้วแต่อธิฐานเอา
    พระคาถานี้หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ได้ถ่ายทอดให้หลวงพ่อสำเนียง อยู่สถาพร
    ซึ่งหลวงพ่อเป็นโอรส ของพระเจ้าวรวงศ์เธอกรมหลวงชุมพรเขตุอุดมศักดิ์ หรือเสด็จเตี่ย
    ซึ่งเป็นรู้จักและเคารพนับถือกันมานานข้าพเจ้าลูกศิษย์หลวงพ่อสำเนียง
    เห็นว่าเป็นประโยชน์แก่คนรุ่นหลัง ไว้ใช้ไว้ป้องกันตัว ยามคับขัน
    จึงขออนุญาตนำมาเผยแผ่ และให้ช่วยกันรักษาสืบต่อไป


    พระคาถากันตัวกันกระทำย่ำยีจากคุณไสย์ทั้งปวง

    ตั้งนะโม 3 จบ

    พุทธังกันตัง ธัมมังกันไป สังฆังกันอยู่ ปิตตะระ ปิตตะรัง กันสัง กันเว กันอุดกันปิด
    กันนะ กันใน กันคุณ กันไสย์ กันเสน่ห์เล่ห์ลม กันผีทั้งกลม กันลมพระพาย กันคนฉิบหาย คนตายไม่ดี
    กูจะกันฝูงผี มายีมายา กันคุณกันยา อักขระอักษรสามสิบสองตัว อะระหัง สวัสดีมีชัย สิทธิสวาหะ..(จบ)

    ใช้ ภาวนากันตัวเองหรือ เสกข้าวกินเสกน้ำกินป้องกัน หรือภาวนาก่อนนอนเวลาต้องไปพักตามสถานที่ต่างๆ
    ป้องกันการรบกวนของวิญญาณร้าย หรือเสนียดจัญไร ป้องกันภูติผีปีศาจ และการกระทำทุกชนิด ทีใช้อำนาจอวิชา
    และวิญญาณร้ายมาทำร้ายเรา บ่ มิได้เลย
    ...ต่อนี้ไปก็อ่านคาถาที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นประธานและให้ทุกคนตั้งใจนึก ถึงองค์สมเด็จ
    พระสัมมาสัมพุทธเจ้าคิดว่าคาถาทั้งหมดนี้จงปรากฏอยู่ในจิตของเรา ลาภผลต่างๆให้ปรากฏแก่เราตามที่พระองค์ทรงต้องการนะ….
    นึกถึงท่านนะ

    นาสังสิโมคาถาพระพุทธกัสสป

    บทแรก"พรหมา จะ มหาเทวา สัพเพยักขา ปะรายันติ"อันนี้ตัดอุปสรรคที่ลาภจะมาแต่เขามาบอก ว่ามีผลแน่นอน คือว่าแกจะไม่ยอมให้ลูกแกจน พูดง่าย ๆ ก็แล้วกัน พระพุทธเจ้า ก็ทรงยืนยันบอกว่า ให้หมด

    บทที่สอง"พรหมา จะ มหาเทวา อภิลาภาภะวันตุเม"คาถาบทนี้เป็นคาถาเงินแสนของท่าน

    บทที่สาม"มหาปุญโญ มหาลาโภ ภะวันตุ เม"บทนี้เป็นคาถาปลุกพระวัดพนัญเชิง

    บทที่สี่"มิเตพาหุหะติ"เป็นคาถาเงินล้าน

    บทที่ห้า"พุทธะมะอะอุ นะโมพุทธายะ วิระทะโย วิระโคนายัง วิระหิงสา วิระทาสี วิระทาสาวิระอิตถิโย พุทธัสสะ มามีมามะ พุทธัสสะ สวาโหม"เป็นคาถาพระปัจเจกพุทธเจ้า

    บทที่หก"สัมปติจฉามิ"บทนี้เป็นบทเร่งรัดบทสุดท้าย

    บทที่เจ็ด"เพ็ง ๆ พา ๆ หา ๆ ฤา ๆ"พระปัจเจกพุทธเจ้ามาบอกหลวงพ่อเมื่อ พ.ย. 33 เป็นภาษาโบ ราณ แต่เทียบกับภาษาไทยอ่านได้อย่างนี้เป็นคาถามหาลาภ มีผลยิ่งใหญ่มาก ทั้งหมดนี้ต้องสวดเป็นบท เดียวกัน บูชาเรื่อย ๆ ไปการบูชาถ้าบูชาเฉย ๆ มันเป็นเบี้ยต่อไส้

    อย่าลืมนะเวลาสวดมนต์ แล้วให้สวดคาถานี้ 9 จบเท่าเดิมนะ และเวลาภาวนานอนภาวนาก็ได้ ว่าเรื่อยๆ ไปจนกระทั่งหลับไปเลย ตื่นขึ้นมา ต่อจากกรรมฐาน นอนก็ได้ ใจสบาย ๆ นะ บางทีเผลอ ๆฉันก็ต้องว่า ของฉันเรื่อย ๆ ไป
    คาถาเงินล้านนี่ มาให้เมื่อปีฝังลูกนิมิตท่านบอกว่า งานข้างหน้าจะหนักมาก หลังจาก นี้เป็นต้นไป เงินจะใช้มากกว่าสมัยที่สร้างโบสถ์ อย่าลืมนะ…..เวลาว่าง ๆ นั่งนึกก็ได้ เดินไปก็ได้ ไม่ห้ามเลยนะให้มันติดใจอยู่อย่างนั้น ให้ถือว่า เป็นกรรมฐานไปในตัวเสร็จเพราะ
    คาถาที่พระพุทธเจ้า บอกทุก บทก่อนจะทำต้องนึกถึงท่าน ถือว่าเป็นพุทธานุสสติกรรมฐาน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. bcbig_beam

    bcbig_beam เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    1,811
    ค่าพลัง:
    +3,246
    มโนมยิทธิเป็นพื้นฐานของกสิณแค่กองเดียว อาจจะเป็น อาโลกกสิณ กสิณแสงสว่างก็ได้ โอทาตกสิณ กสิณสีขาวก็ได้ เตโชกสิณ กสิณไฟก็ได้ เป็นอำนาจของกสิณกองเดียว

    แต่ สัมปจิตฉามิ นี่ ถ้าหากเราทำได้คล่องตัว เราใช้อำนาจของกสิณ ๑๐ ได้ครบเลย

    ดังนั้นถามว่าต่างกันไหม ? ต่างกันเยอะ ถ้าหากว่าทำได้คล่องตัวจริงๆ จะได้ชัดเจนเหมือนตาเห็นเลย

    ขอโมทนาเป็นอย่างสูงครับ
    สาธุ สาธุ อนุโมทามิ
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...