เรื่องราวที่คนทั่วๆไปไม่ค่อยรู้

ศิวดล...หาเรื่องอยู่เรื่อยไม่มีจบสิ้น ไม่เห็นด้วยก็เงียบไปซิ ขวางทางคนอื่นที่จะต้องการสร้างบุญในพระศาสนา

ทางคณะผู้พันประกาศแจ้งเจตนาชัดเจนแล้วนี่ เมื่อคืนบอกให้เลิกทำบุญ วันนี้มาถามคำถามเดิมๆ กลับไปกลับมา เป็นงูกินหาง

ต้องการปั่นอะไรอีก กัดคนนั้นที่คนนี้ที สร้างประเด็นตลอด ไหลไปเรื่อย มีสัมผัสที่ 6 ไม่ใช่หรือ นักปฏิบัติไม่ใช่หรือ เก่งนี่ ทำไมไม่ใช้ความสามารถให้เป็นประโยชน์ละ รู้จักคณะผู้พันดีไม่ใช่หรือ ต้องการรายชื่อมั้ย คณะผู้ดำเนินงานการสร้างพระเจ้า 5 พระองค์ มี 5 คน ติทุกคนซิ ถ้าแน่จริงโทรไปว่าได้เลย ทำตัวเป็นผู้รู้จริง หรืออิงเรื่องส่วนตัวกันแน่

ปัญญาชนหรือเปล่านะเรา พาลไปเรื่อยเปื่อย ไร้หลัก เรื่องนี้ไม่ได้ ก็ยกเรื่องอื่นมาอ้าง ข้างๆคูๆ

ถามจริงตั้งแต่เข้ามาโพสข้อความในนี้ วันๆคงคิดแต่จะหาประเด็นเอาความคนอื่นหรือเปล่า ไม่รู้จักจบสิ้น

ชาตินี้สะสมบุญและปัญญามากพอยัง ถ้ายัง รีบขวนขวายหน่อยนะ นะ...จะบอกให้

ผมมาด้วยสัมผัสกายเย็นใจ...อิ อิ

 

เห็นมีแต่คนเก่ง ๆ ทั้งนั้นเลย....ใครพอรู้จักพระในนิมิตของผมไหม...เมื่อห้าปีที่แล้ว ผมเกิดนิมิตอย่างนี้....

ตัวเองได้เดินไปในสถานที่แห่งหนึ่ง....สถานที่นั้นไม่มีกลางคืนมีแต่กลางวัน....ผมเดินไปมองดูข้างทางที่เดิน เห็นบ้านคนเป็นเหมือนศาลาวัด...ทุก ๆหลังไม่มีฝาผนัง..แต่มีรั้วรอบบ้าน....บ้านไหน ๆ ก็เป็นอย่างนั้น ไม่แตกต่างกันมากนัก....พืนบ้านส่วนใหญ่ติดพื้นดิน...เสากลม มีลวดลาย บัวหัวเสา มีคันทวย...บางเสามีลวยลายตั้งแต่คนเสาไปจนถึงปลายเสาเลย...เป็นอย่างนี้ทุกหลังคา....เดินต่อไปเรื่อย ๆ จนถึงจุดกลางสถานที่...ตรงกลางนั้นมีเสาขนาดใหญ่ จากคนเสาใหญ่และยาวเรียวขึ้นไปเรื่อย ๆ ...มีลวยลายสวยงาม มีเทพนมด้วย...ลดลั่นกันไปจนถึงยอดเสาอย่างสวยงาม....ปลายยอดเสามีแสงสว่างออกมาตลอดเป็นแสงสีขาวนวล ส่องสว่างทั่วบริเวณสถานที่นั้น...ปลายเสาที่เห็นเป็นลักษณะรูปร่างคล้ายดอกบัว...เปล่งแสงสว่างอยู่อย่างนั้นไม่มีดับ.....
เดินไปก็พบคนอายุมากหน่อย...พบท่านแล้วท่านก็พูดและพาไปหาผู้หญิงอีกคน...และบอกว่าเดี๋ยวเขาจะนำผมไปหาบุคคลผู้หนึ่ง.....พอพบผู้หญิง(สวยด้วย) เขาก็พูดให้ผมตามมา....พูดเสร็จเขาก็พนมมือแล้วกลายร่างเป็นเสือดำแล้วก็กระโจนข้ามออกนอกรั้วไป...ผมก็มารู้ตัวอีกครั้งก็ถึงศาลาอีกแห่งหนึ่ง....คล้ายศาลาวัดไม่มีผิดเลย....แต่แปลกมีเสารับด้วยสูงเมตรหนึ่ง....มีบันไดขึ้นอีก...หลังก่อน ๆ ไม่เห็นมีเลย มีแต่ติดพื้นดิน.....พอขึ้นไปบนศาลาก็พบกระทงดอกไม้สีขาวมีกลิ่นหอมอยู่ 3-5 กระทง....แล้วพบพระภิกษุกลางคนองค์หนึ่งท่านนั่งอยู่ต่อหน้า แบบฮ่อยเท้า...ท่านให้ผมยกกระทงดอกไม้ไปหา...แล้วท่านก็พูด ต่อไปเมื่อเจ้าจะทำอะไรในสายช่าง เจ้าสามารถทำได้หมด...เมื่อนึกคิดอะไรในสายช่างไม่ออกให้นึกถึงท่าน...แล้วผมจะคิดได้.

ผมก็ไม่รู้ภิกษุในนิมิตนั้นเป็นใคร...ไปได้พบท่านในนิมิต.

จากเมื่อก่อนวัน ๆ ได้แต่เล่นเกมส์...ชีวิตก็ได้หันมาทำงานทางช่าง...มันก็สามารถทำได้...ก็ไม่ได้หัดอะไรมาก.ห้านาทีสิบนาที คิดนึกอะไรไม่ออก ก็นึกถึงท่าน...นึกถึงพระในนิมิต...แล้วทำใจให้สบายก็นึกคิดออก...แต่ความชำนาญก็ค่อย ๆ หาเอง.

ก็ไม่รู้ภิกษุในนิมตนั้นเป็นใครหน๋อ....ใครสามารถย้อนเข้าไปดูได้ ช่วยดูให้หน่อยนะครับ...จะเป็นพระคุณอย่างยิ่ง....หรือใครสามารถติดต่อพระครูเทพโลกอุดรได้ ช่วยถามท่านให้ผมด้วยนะครับ....คางใจผมมาห้าปีแล้ว....อยากรู้ท่านคือใคร.

นอกเรื่องนิดหนึ่งนะ....ขออภัยด้วยครับ อิอิ.

 

อูย...ร้อน! เบรคหน่อยก็ดีพี่.

 

คุณ ศิวดล

สำนวนที่คุณเขียนน่ะ ส่วนใหญ่เป็นสำนวนของเอกชัยน่ะ ผมเดาๆว่าคุณศิวดลอยู่นอกวัด แต่รับข้อมูลจากคนที่อยู่ในวัดละมั้ง คุณศิวดลเองไม่รู้อะไรจริงหรือเท็จเกี่ยวกับเหตุการณ์ต่างๆที่วัดป่าสีดาฯ แม้เอกชัยเองก็ไม่รู้จริงอีกหลายเรื่อง อย่างเช่น

1. เรื่องการสร้างปราสาทเพื่อประดิษฐานสังขารของหลวงปู่นั้น หลวงพี่ต๋อยได้มาปรึกษาผมตั้งแต่หลวงปู่ท่านละสังขารไปในปีแรกโน่น ท่านบอกให้ผมหาแบบปราสาทแล้วท่านจะนำแบบไปให้ผู้ที่เขาศรัทธาในองค์หลวงปู่ ซึ่งเป็นพระสงฆ์ เจ้าอาวาสรูปหนึ่งของวัด ในกรุงเทพฯ ซึ่งพระสงฆ์รูปนี้ผมก็รู้จักดี ท่านเคยบอกว่าทำเมื่อไหร่ให้มาบอก ท่านจะช่วยทำ ผมเคยมาปรึกษาหลวงพี่(พระสุวิทยา) แต่ท่านบอกว่าทำแบบนั้นไม่ได้หรอก ถ้าเขาจะทำก็ให้เขาหาเงินมา แล้วนำมาให้เราทำเองมันถึงจะได้เพราะเราดูแลร่างท่านอยู่ ถึงเวลาเดี๋ยวเราทำกันเอง
เรื่องเหล่านี้ต้องเอาความจริงมาพูดกันนะเอกชัย

2.เรื่องของคำว่า "หลายครู หลายคาย" นั้น หลวงปู่ท่านเทศน์สอนผมเองในทำนองว่าว่า "เมื่อเราเคารพนับถือครูบาอาจารย์ที่มีคุณธรรมสูงกว่า แล้วเปลี่ยนไปนับถือครูบาอาจารย์ที่คุณธรรมต่ำกว่า นั้นมันไม่ดี" แต่ผมนั้นไม่เคยเปลี่ยนจากการเคารพนับถือหลวงปู่ทองทิพย์ เพราะหาผู้ที่มีคุณธรรมสูงไปกว่าท่านนั้นไม่มีแล้ว แม้แต่ครูบาอาจารย์หลายท่านที่ผมไปหา ท่านก็มักพูดให้ฟังเสมอว่า หลวงปู่ทองทิพย์นั้นสูงสุดแล้ว ท่านนั้นใกล้เคียงพระพุทธจ้าที่สุดแล้ว ครับ

ดังนั้นอะไรที่คุณศิวดลหรือเอกชัยไม่รู้ก็อย่าแสดงความไม่รู้ของตนเองออกมา เพราะกำลังปรามาสในคำสอนของหลวงปู่ทองทิพย์ แล้วจะนำพาตัวเองไปสู่ความมืดซะเปล่าๆ เท่าที่เป็นอยู่นี้จิตยังมืดไม่พออีกเหรอ

3. เรื่องที่หลวงพี่นำผ้าไตรมหากฐินที่ผมอธิษฐานถวายหลวงปู่ มาห่มแทนหลวงปู่นั้นเป็นเรื่องจริง ท่านห่มต่อหน้าผมและหลายๆคนนั่นแหละ ถ้าถามว่ามีการชักบังสุกุลไม๊ เท่าที่ผมเห็นนั้นไม่มีครับ สำหรับเรื่องนี้ผมไม่ได้ติดใจหรือสนใจในเรื่องของวินัยสงฆ์หรือการอาบัติแต่อย่างใด จะถูกหรือผิดนั้นผมไม่อยากนำมาพิจารณาเพราะสามารถตีความได้หลายแง่ สำหรับผมติดใจเรื่องเดียวคือเรื่องที่ว่า "ท่านนำผ้าไตรที่คนเขาตั้งใจถวายหลวงปู่มาห่มเสียเองนั้นเหมาะสมหรือไม่"

4. น้องๆบางคนอาจจะเคยไม่สบายใจว่า เมื่อตอนที่หลายๆคนรับขันธ์จากหลวงพี่ในการสละเงินเดือนคนละ 5 % ทุกเดือน เพื่อสะสมไว้ในการสร้างวิหารหลวงปู่ ที่ผมเองนั้นไม่ร่วมรับขันธ์ด้วยเพราะผมพิจารณาแล้วว่าหลักการปฏิบัติของหลวงปู่นั้นท่านไม่มีแบบนี้ และกลัวว่าจิตตัวเองและจิตบางคนจะเกิดความทุกข์เพราะทำไม่ได้ หลักการถวายทานของหลวงปู่นั้น ผู้ถวายท่านจะต้องมีศรัทธาเต็มใจ แม้แต่พระทองคำและหัวใจพระศรีฯที่มีคนเขาอาสาทำ เขาผิดหลักสัจจะท่านเพียงนิดเดียวคือเขาไปเรี่ยไรเงินจากลูกน้องโดยบางคนไม่มีศรัทธาเต็มใจ เมื่อทำมาเสร็จแล้วมาถวาย หลวงปู่ท่านก็ให้คืนกลับไปรักษาไว้ เมื่อหลวงปู่ละสังขารบุคคลผู้นั้นก็นำไปถวายไว้ที่วัดอื่น กลับมาเขาก็ตาย

เมื่อหลายๆคนประสบว่าบางเรื่องที่รับขันธ์สัจจะกับหลวงพี่มานั้น ทำให้ตนเองเดือดร้อนเรื่องการเงินและทราบว่าหลวงปู่ทองทิพย์ท่านไม่ส่งเสริมการทำบุญด้วยวิธีนี้ เขาจึงค่อยๆหายไปจากวัดทีละคนสองคน ลองดูรายชื่อสิ ว่าคนที่รับขันธ์สัจจะกับหลวงพี่ในตอนนั้น ขณะนี้เหลือเข้าวัดกี่คน น่าคิดนะ

5. เรื่องการศรัทธาของญาติโยมที่เขามาที่วัดนั้น ชาวบ้านเข้ามาวัดมากขึ้นเมื่อหลวงหลวงตาเถียรเข้ามาบวชใช่หรือไม่ และคนที่เข้ามาวัดส่วนใหญ่นั้นเป็นผู้เฒ่า เป็นลูกศิษย์หลวงปู่ทองทิพย์มาก่อนและสนิทสนมกับโยมแม่ ผมสนิทสนมกับหลายๆคนที่มาวัดในตอนนี้มากกว่าศิวดลและเอกชัยแน่นอน จึงรู้ว่าเขาศรัทธาในสิ่งใด คุณศิวดลหรือเอกชัย เคยเห็นชาวบ้านเหล่านั้นมาสนทนา วิสาสะ คุยธรรมะกับหลวงพี่หรือเปล่า เพราะอะไร เวลาเขามาทำบุญเขาทำกันที่ศาลาหน้าวัดไม่ใช่เหรอ บางครั้งหลวงพี่ก็บอกว่า ชาวบ้านเขาถามหาผู้พัน ถ้าผู้พันมาวัดเขาจะได้สบายใจ แล้วทำไมผมไปวัดแล้วชาวบ้านเขาสบายใจ มันน่าคิดนา อย่าลืมว่าเราทำมวลชนกับชาวบ้านลูกศิษย์หลวงปู่มายาวนาน จนแทบจะอยู่ตัวแล้ว ว่างๆคุณศิวดลหรือเอกชัยลองคุยกับชาวบ้านเหล่านั้นดูบ้างนะ จะได้เข้าใจอะไรมากขึ้นน่ะ

คนเราเมื่อบอกกล่าวหรือสอนกันยาก วันนึงบุพกรรมจะสอนเขาเอง ครับ

 

ศิวดล และจักร

หยุดคิดพิจารณาให้ดี ก่อนที่จะคิด พูดอะไรออกมา ไม่มีใครอยากให้ร้ายใครหรอก แต่ว่าเมื่อมาถึงจุดนี้แล้ว เปิดเผยความจริงกันดีกว่า เพราะว่าทางคณะผู้ดำเนินงานการสร้างพระพุทธเจ้า ๕ พระองค์ได้แสดงเจตนาอย่างชัดเจน อีกอย่างถ้าคิดพากันจะนำเอาปัจจัยคนอื่นสร้างพระพุทธเจ้านำไปแบ่งกันอย่างที่คุณคิดนะมันไร้สาระ เฉพาะงวดแรกที่นำไปจ่ายให้กับทางโรงหล่อจำนวน ๑.๑ล้านนั้น บางส่วนก็เป็นของพี่ๆในคณะถวายเอง ประมาณ ๙แสนบาท
เรื่องพระที่จะนำเอามาถวาย พระที่วัดไม่ยอมรับนั้นก็หาเหตุผลข้างๆคูๆ ว่าสร้างไม่ถูกสูตรบ้าง ไม่มีที่ประดิษฐานบ้าง ไม่ต้องห่วงหรอก มีผู้คนพร้อมที่จะเป็นเจ้าภาพสร้างให้แล้วปราสาทพระพุทธเจ้า ๕ พระองค์ แม้กระทั่งวิหารเก็บสังขารหลวงปู่ก็มีคนพร้อมที่จะสร้างถวายให้

หยุดได้แล้วก่อนที่จะพาตนเองไปไม่รอดถึงฝั่ง ตอนนี้ไม่คิดโกรธพวกคุณกันเลยนะ สงสารเพียงอย่างเดียว แค่กรรมประกาศอย่างโจ่งแจ้งให้คนเลิกทำบุญ ไม่ยอมรับพระพุทธเจ้า (พระพุทธรูป)มันเป็นกรรมหนัก อยู่แล้ว เจตนาให้ร้ายคนอื่นที่มีศรัทธาอันบริสุทธิ์ มันหนักนะ ไม่ได้ขู่ สิ่งที่คุณแสดงออกมาในที่นี้ การสร้างพระครั้งนี้ไม่ได้สร้างแค่คนเพียง ๔ คน แต่มีครูบาอาจารย์ท่านๆอื่นอีกเป็นร้อย อีกหลายคนที่ศรัทธาร่วมทำด้วยเท่ากับพวกคุณกล่าวหาท่านไปด้วยนะ

ศิวดล จักร เอกชัย แจ๊คและทุกๆคน ก็เป็นรุ่นน้องเป็นลูกศิษย์ของผู้พันอยู่แล้ว ทำไมไม่ลองพิจารณากันให้ดีๆ ท่านก็เคยสอนพวกคุณมาทั้งหมดไม่ใช่หรือครับ หรือว่าไม่สามารถระลึกถึงอาจาริยคุณได้

หยุดคิดพิจารณา ให้ดีๆ ก่อนที่มันจะสายไป ชีวิตคนเรามันสั้นแค่ลมหายใจเข้าออกเท่านั้น สะสมบุญให้มากๆ เจริญสติให้มากๆ ใช้ปัญญาไปในทางที่ถูฏ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไม่ต้องใช้ความคิดอะไรมากในการตัดสิน ใช้ปัญญาธรรมดาก็พอ

น้องๆ มีข้อสงสัยอะไร ก็โทรคุยกับพี่เป็นการส่วนตัวกันไป อย่าทำเป็ยปกปิดตนเองเลย ว่าไม่รู้จักกัน มันน่าขำมากกว่า เอาตนเองออกมาขายหน้าทำไม

ว่างๆจะแวะไปหาที่วัดนะ ศิวดล เอกชัย สุริยา จักร และคนอื่นๆด้วยจะได้คุยกันกับคณะผู้ดำเนินงานทั้งหมดตามรายชื่อในใบบอกบุญ

 

ขออนุโมทนาสาธุการในกุศลจิตของทุกท่านที่ โทรศัพท์มาร่วมบุญกุศลนะครับ

สำหรับเรื่องที่พักของพระสงฆ์ ที่ท่านต้องมาพักค้างคืนนั้น เมื่อวานผมได้ไปเรียนปรึกษาหลวงพ่อเจ้าอาวาสวัดธรรมศาลาแล้ว ท่านบอกว่าสบายมาก ท่านมีสถานที่รองรับพระสงฆ์อยู่แล้ว ผมขอที่พักสงฆ์ไว้สำหรับพระสงฆ์ 40-50 รูปครับ

สำหรับโรงทานนั้นหลวงพ่อเจ้าอาวาสวัดธรรมศาลา ท่านเมตตามาก ท่านให้แม่ครัวของวัดธรรมศาลาเป็นผู้จัดการทำโรงทานให้ คณะผู้สร้างก็แค่นำปัจจัยไปให้แม่ครัว อุปกรณ์ทุกอย่างของวัดก็มีอยู่แล้วครับ

ท่านที่แวะไปเที่ยวชมที่วัดธรรมศาลาและต้องการร่วมทำบุญสร้างพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ หลวงพ่อท่านเจ้าอาวาส ท่านเมตตาอนุญาตให้ใช้ตู้บริจาคของวัดธรรมศาลา รวบรวมปัจจัย โดยติดป้ายว่าเป็นงานบุญสร้างพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ แล้วให้ทางคณะผู้สร้างพระเก็บกุญแจไว้เพื่อรวบรวมปัจจัยเป็นระยะๆ ครับ

ทางคณะฯ ก็ขอกราบขอบพระคุณเจ้าอาวาสและกราบนมัสการ คณะสงฆ์วัดธรรมศาลา มา ณ ที่นี้ด้วยครับ

 

คุณ อัญญาสิทธิ์ และ คุณ จักร

1/สูตรการสร้างพระเคยมีการเอามาเทียบกันหรือยังครับ
ถ้าตรงกัน ก็น่าที่จะร่วมมือกันได้นี่ครับ?

2/เรื่องวิหารกับปราสาท จะสร้างก่อนหรือหลัง ยังไงซะ
ก็ต้องสร้างอยู่ดี ก็ไม่น่าจะเป็นประเด็นใช่หรือไม่?

3/พระพุทธเจ้า5พระองค์ หากสร้างแล้ว หลวงปู่ท่าน
กําหนดไว้หรือไม่ว่า จําเป็นจะต้องประดิษฐาน ณ.
บริเวณใดจุดใดของวัด? (หากมีการกําหนดและทั้ง
2ฝ่ายไม่มีการร่วมมือกันสร้าง ปัญหานี้น่าจะรุนแรง)

 

ดูเหมือนจะเริ่มลงตัว นะจ๊ะ แต่...ช้าก่อน ยังไม่ได้ตอบผม

"ทำไมถึงไม่ไปปรึกษาคนที่วัดก่อน ถ้าสร้างเสร็จแล้วจะเอามาวางไว้เฉยๆ หรือ วัดนี้ไม่ใช่วัดร้างนะเขามีคนดูแลอยู่ รวมถึงญาติโยมที่มาทำบุญทุกเช้าๆ เขาก็เป็นห่วงเรื่องนี้ และเขาก็รักและศรัทธาพระที่คุณพูดถึงกันทุกคน ทำไมคุณเอาข้อมูลไม่จริงมาลงล่ะ เพื่ออะไร เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ของหลวงปู่หรือใครกันแน่"
คำตอบของคุณฐตธนวัฒน์ และคุณอัญญาสิทธิ์ดูเหมือนจะพยายามดิสเครดิตพระที่วัดและเพิ่มเครดิตให้ตนเอง เพื่อให้คณะที่มาร่วมบุญทุกคนลืมไปว่า พวกท่านกำลังล่วงล้ำอะไรอยู่ เรื่องบัญชีการสร้างนี่ผมอุตส่าห์เมตตาไม่ขุดเอามาพูดแล้วนะ ผมเปรียบให้ฟังเหมือนที่คุณ kitjang แสดงให้เห็นเป็นตัวอย่างครับ ทำไมไม่ทำแบบนี้เพื่อความบริสุทธิ์ล่ะ มีแต่อัญญาสิทธิ์แสดงเป็นข้อความตัวเลขนิดๆหน่อยๆ เอง

มองอีกมุมนะ ถ้าสิ่งที่พวกคุณมาอยู่บนพื้นฐานความจริง ทำไมล่ะคนที่เขาไปวัดป่าสีดาจริงๆกันมาเร็วๆนี้หลายคณะ เพื่อถามข้อมูลการสร้างพระกลับเชื่อพระที่วัดมากกว่าอีก บางคนเขาคงเป็นเชื้อสายของที่นี่จริงๆ กลับไปบ้านบางคนหลวงปู่ท่านยังมาในนิมิตแสดงศีลธรรมบางอย่างให้เห็นด้วยซ้ำ การแปลศีลธรรมเขาก็ให้พระผู้มีศีลบริสุทธิ์เป็นผู้แปลถึงจะแน่นอน ในขณะเดียวกับที่คณะของคุณกำลังก้มหน้าก้มตาทำโดยไม่สนใจใคร พยายามดิสเครดิตคนที่วัดตลอดเวลา นี่หรือธรรมะหลวงปู่ของคุณ หรือของใครกันแน่

 

- เรื่องการขออนุญาติ ในการสร้างพระทางวัดป่าสีดาก่อนตรงนี้ผมเห็นด้วยครับ....มันเป็นสิ่งที่ดีแน่นอน....เพราะจะไปหล่อที่วัดธรรมศาลา คณะผู้สร้างก็ยังขออนุญาติทางวัดนั้นเลย...แต่ที่นี่วัดป่าสีดาเองซึ่งเป็นวัดที่จะนำพระที่สร้างเสร็จแล้วนำมาถวาย...ยิ่งต้องขออนุญาติก่อนด้วยอย่างยิ่ง.

- เรื่องบัญชี รายรับรายจ่าย ตรงนี้ก็สำคัญ....ใครทำบุญเมื่อไหร่ วันไหน เบิกออกจ่ายเมื่อไหร่ ก็รู้ด้วยกันทั้งหมดครับ......ทางผู้พันและคณะในการสร้างพระก็รับปากแล้วว่าจะ แจ้งไว้เป็นระยะหลังจากเซ็นสัญญาแล้ว...ผมก็ยังไม่เห็น ...มี มีแต่รายชื่อผู้ทำนิดหน่อยอย่างคุณศิวดลพูด......ตรงนี้เงินผู้ร่วมทำบุญคงเข้าบัญชี ก็คงแสกนให้ผู้อื่นดูได้เป็นระยะ ๆ ....ซึ่งยังไม่เห็น....ผมไม่ได้จับผิดนะครับ....มันเป็นสิ่งที่ควรทำอย่างยิ่ง.

- และจากการอ่านข้อความของแต่ละท่าน...ผมไม่เห็นใครขวางกันสร้างพระอย่างจริงจังเลยนะครับ...มีแต่เสนอแนะ ติติงบางส่วนเพื่อให้ถูกต้องขึ้น...คงไม่มีใครเขาอยากตรวจสอบอะไร...และมันก็เป็นผลดีต่อคณะผู้จัดสร้างองค์พระมากขึ้นไปอีก...คงไม่มีอยู่ ๆ เงินมาจากไหนไม่รู้....เงินมันคงมีที่มาที่ไป...อย่างน้อยผู้ร่วมทำบุญได้เห็นชื่อตนเองก็ปลื้มใจแล้วครับ....ที่ไม่ประสงออกนามก็คงมี.

 

คุณ ศิวดล

1. เรื่องการปรึกษากับหลวงพี่(พระสุวิทยา)เรื่องการสร้างพระพุทธเจ้า 5 พระองค์นั้น คุยกันกับหลวงพี่มาต่อเนื่องยาวนานมากแล้ว ตั้งแต่หลวงปู่ท่านยังอยู่ ยันหลวงปู่ท่านละไปก็นับครั้งไม่ถ้วน เท่าที่ฟังดูหลวงพี่ไม่ได้มีเป้าหมายและกาลเวลาในการสร้างพระพุทธเจ้า 5 พระองค์เลย ครั้งสุดท้ายคุยโทรศัพท์กัน 3 สาย กับหลวงพี่ แจ็ค และผม ท่านบอกว่าการสร้างพระเอาไว้ทีหลัง ยังไม่ถึงเวลา ท่านบอกว่าพระนั้นอาจจะสร้างด้วยปูนก็ได้ พระเจ้า 5 พระองค์นั้นอาจจะสร้างขนาดไหนก็ได้ ใช้ปัญญาเอา ท่านอยากทำวิหารก่อน อาตมาเป็นห่วงว่าโยมจะตาย หรือคนในคณะโยมจะตายกัน

ผมพิจารณาเห็นว่าไม่เป็นไปตามเจตนารมย์ของหลวงปู่ทองทิพย์สักประการเดียว ทั้งเรื่องของขนาดองค์พระ ระยะเวลา วัสดุที่สร้าง ฯลฯ จึงสรุปได้ว่า หลวงพี่ไม่ดำเนินตามเจตนารมย์ของหลวงปู่ทองทิพย์เลย ผมจึงต้องไปปรึกษาผู้รู้อื่นๆ เพื่อมาร่วมกันสร้างให้เสร็จตามเจตนารมย์ของหลวงปู่

เอ้อ ก็สงสารศิวดลนะ เผ่าพันธ์คุณสร้างกรรมอะไรไว้หนอจึงต้องมารับกรรมหนัก ในสถานการณ์แบบนี้ เป็นคนที่น่าสงสารที่สุด ครับ


คุณ chatyman

สำหรับเรื่องปัจจัยหรือเงินนั้น คณะผมก็รับผิดชอบเองอยู่แล้วครับ ที่ยังไม่แสดงเพราะว่ายอดเงินยังมีไม่มากเท่านั้นเอง การเบิกจ่ายนั้นมันมีหลักฐานปรากฏในบัญชีอยู่แล้ว ตอนนี้ยอดเงินยังขาดอีกเยอะ คุณ chatyman มาร่วมรับผิดชอบกับคณะผมในส่วนของเงินที่ยังขาดอยู่สักหน่อยดีไม๊ ครับ
ผมรู้ว่าผมกำลังทำอะไร ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ถ้าห่วงจริงก็นั่งนิ่งๆ ดูคนเขาสร้างบุญกุศลในศาสนากันครับ


คุณ Tewadhol

เรื่องตำแหน่งของพระพุทธเจ้า 5 พระองค์นั้น หลวงปู่ท่านกำหนดไว้ให้แล้วครับ ไม่ต้องห่วงถึงเวลาก็ทำได้ไม่ยาก ครับ


วันก่อนผมกับอบ ก็ได้ปรึกษากันถึงเรื่องบางเรื่องที่อาจจะกระทบต่อหลวงพี่และอาจจะกระทบต่อความเป็นสงฆ์ของท่านได้ด้วย คุณศิวดลช่วยคิดหน่อยสิ ว่าจะช่วยท่านได้อย่างไร หากเราแก้ไม่ได้ถึงตอนนั้นไม่ใช่แค่หลวงพี่ที่เดือดร้อน ศิวดลเองก็อาจจะต้องไปหาวัดทำบุญกันใหม่ก็เป็นได้ ใช้สมองคิดแก้ปัญหาให้ท่านสิ

 

ขอบคุณครับ คุณ Tewadhol ผมจะขอขยายความ "เจ็ดก้าวกวี" นี้สักหน่อยนะครับ

ต้นถั่วเผาต้มถั่ว_______ร่ำระรัวถั่วในกะทะ
ร่วมรากเกิดแล้วจะ _____เร่งเผาผลาญกันทำไม

ความหมาย คือ หลังจากที่เก็บเกี่ยวไร่ถั่วแล้ว ก็จะนำถั่วมาคั่วหรือต้มให้สุกเพื่อรับประทานและก็ใช้เถาของต้นถั่วนั่นแหละครับเป็นเชื้อไฟในการต้มถั่ว ยิ่งใส่เถาต้นถั่วมากเท่าไหร่ ไฟก็จะลุกโชนมากขึ้นเท่านั้นซึ่งก็จะทำให้ถั่วต้มนั้นสุกเร็วขึ้น

บทกวีข้างต้นเป็นกวีชิ้นเอกชิ้นหนึ่งในยุคสามก๊ก ผู้แต่งคือ

 

เรียนคุณchatyman ด้วยความเคารพครับ
จากข้อความ
"
เห็นมีแต่คนเก่ง ๆ ทั้งนั้นเลย....ใครพอรู้จักพระในนิมิตของผมไหม...เมื่อห้าปีที่แล้ว ผมเกิดนิมิตอย่างนี้....

ตัวเองได้เดินไปในสถานที่แห่งหนึ่ง....สถานที่นั้นไม่มีกลางคืนมีแต่กลางวัน....ผมเดินไปมองดูข้างทางที่เดิน เห็นบ้านคนเป็นเหมือนศาลาวัด...ทุก ๆหลังไม่มีฝาผนัง..แต่มีรั้วรอบบ้าน....บ้านไหน ๆ ก็เป็นอย่างนั้น ไม่แตกต่างกันมากนัก....พืนบ้านส่วนใหญ่ติดพื้นดิน...เสากลม มีลวดลาย บัวหัวเสา มีคันทวย...บางเสามีลวยลายตั้งแต่คนเสาไปจนถึงปลายเสาเลย...เป็นอย่างนี้ทุกหลังคา....เดินต่อไปเรื่อย ๆ จนถึงจุดกลางสถานที่...ตรงกลางนั้นมีเสาขนาดใหญ่ จากคนเสาใหญ่และยาวเรียวขึ้นไปเรื่อย ๆ ...มีลวยลายสวยงาม มีเทพนมด้วย...ลดลั่นกันไปจนถึงยอดเสาอย่างสวยงาม....ปลายยอดเสามีแสงสว่างออกมาตลอดเป็นแสงสีขาวนวล ส่องสว่างทั่วบริเวณสถานที่นั้น...ปลายเสาที่เห็นเป็นลักษณะรูปร่างคล้ายดอกบัว...เปล่งแสงสว่างอยู่อย่างนั้นไม่มีดับ.....
เดินไปก็พบคนอายุมากหน่อย...พบท่านแล้วท่านก็พูดและพาไปหาผู้หญิงอีกคน...และบอกว่าเดี๋ยวเขาจะนำผมไปหาบุคคลผู้หนึ่ง.....พอพบผู้หญิง(สวยด้วย) เขาก็พูดให้ผมตามมา....พูดเสร็จเขาก็พนมมือแล้วกลายร่างเป็นเสือดำแล้วก็กระโจนข้ามออกนอกรั้วไป...ผมก็มารู้ตัวอีกครั้งก็ถึงศาลาอีกแห่งหนึ่ง....คล้ายศาลาวัดไม่มีผิดเลย....แต่แปลกมีเสารับด้วยสูงเมตรหนึ่ง....มีบันไดขึ้นอีก...หลังก่อน ๆ ไม่เห็นมีเลย มีแต่ติดพื้นดิน.....พอขึ้นไปบนศาลาก็พบกระทงดอกไม้สีขาวมีกลิ่นหอมอยู่ 3-5 กระทง....แล้วพบพระภิกษุกลางคนองค์หนึ่งท่านนั่งอยู่ต่อหน้า แบบฮ่อยเท้า...ท่านให้ผมยกกระทงดอกไม้ไปหา...แล้วท่านก็พูด ต่อไปเมื่อเจ้าจะทำอะไรในสายช่าง เจ้าสามารถทำได้หมด...เมื่อนึกคิดอะไรในสายช่างไม่ออกให้นึกถึงท่าน...แล้วผมจะคิดได้.

ผมก็ไม่รู้ภิกษุในนิมิตนั้นเป็นใคร...ไปได้พบท่านในนิมิต.

จากเมื่อก่อนวัน ๆ ได้แต่เล่นเกมส์...ชีวิตก็ได้หันมาทำงานทางช่าง...มันก็สามารถทำได้...ก็ไม่ได้หัดอะไรมาก.ห้านาทีสิบนาที คิดนึกอะไรไม่ออก ก็นึกถึงท่าน...นึกถึงพระในนิมิต...แล้วทำใจให้สบายก็นึกคิดออก...แต่ความชำนาญก็ค่อย ๆ หาเอง.

ก็ไม่รู้ภิกษุในนิมตนั้นเป็นใครหน๋อ....ใครสามารถย้อนเข้าไปดูได้ ช่วยดูให้หน่อยนะครับ...จะเป็นพระคุณอย่างยิ่ง....หรือใครสามารถติดต่อพระครูเทพโลกอุดรได้ ช่วยถามท่านให้ผมด้วยนะครับ....คางใจผมมาห้าปีแล้ว....อยากรู้ท่านคือใคร.

นอกเรื่องนิดหนึ่งนะ....ขออภัยด้วยครับ อิอิ.
"
มานอกเรื่องกันคลายเครียดนะครับ
จากนิมิตนะครับ แสดงว่าเป็นคนไม่ธรรมดาครับ
คือ ชอบทางด้านช่าง อิอิ
และคุณchatyman ก็น่าจะรู้แล้วว่า ท่านคือใคร

จากประสบการณ์ของกระผมนะครับ
ผมจะรู้ทันทีว่าท่านคือใคร

และจากการอวดอุตริของผม
ผมเจอ หลวงปู่ หลายองค์ ผมก็ไม่เคยถามถึงเรื่องของคนอื่นครับ
นอกเสียจากจะเกี่ยวเนื่องกัน

เรียนถามคุณศิวดลด้วยความเคารพอีกคน
จากการที่ผมได้พยายามตามอ่านว่าคุณต้องการอะไรกันแน่
ด้วยปัญญาอันน้อยนิดของกระผม และจากการเขียนล่าสุด
"((
ดูเหมือนจะเริ่มลงตัว นะจ๊ะ แต่...ช้าก่อน ยังไม่ได้ตอบผม

"ทำไมถึงไม่ไปปรึกษาคนที่วัดก่อน ถ้าสร้างเสร็จแล้วจะเอามาวางไว้เฉยๆ หรือ วัดนี้ไม่ใช่วัดร้างนะเขามีคนดูแลอยู่ รวมถึงญาติโยมที่มาทำบุญทุกเช้าๆ เขาก็เป็นห่วงเรื่องนี้ และเขาก็รักและศรัทธาพระที่คุณพูดถึงกันทุกคน ทำไมคุณเอาข้อมูลไม่จริงมาลงล่ะ เพื่ออะไร เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ของหลวงปู่หรือใครกันแน่"
คำตอบของคุณฐตธนวัฒน์ และคุณอัญญาสิทธิ์ดูเหมือนจะพยายามดิสเครดิตพระที่วัดและเพิ่มเครดิตให้ตนเอง เพื่อให้คณะที่มาร่วมบุญทุกคนลืมไปว่า พวกท่านกำลังล่วงล้ำอะไรอยู่ เรื่องบัญชีการสร้างนี่ผมอุตส่าห์เมตตาไม่ขุดเอามาพูดแล้วนะ ผมเปรียบให้ฟังเหมือนที่คุณ kitjang แสดงให้เห็นเป็นตัวอย่างครับ ทำไมไม่ทำแบบนี้เพื่อความบริสุทธิ์ล่ะ มีแต่อัญญาสิทธิ์แสดงเป็นข้อความตัวเลขนิดๆหน่อยๆ เอง

มองอีกมุมนะ ถ้าสิ่งที่พวกคุณมาอยู่บนพื้นฐานความจริง ทำไมล่ะคนที่เขาไปวัดป่าสีดาจริงๆกันมาเร็วๆนี้หลายคณะ เพื่อถามข้อมูลการสร้างพระกลับเชื่อพระที่วัดมากกว่าอีก บางคนเขาคงเป็นเชื้อสายของที่นี่จริงๆ กลับไปบ้านบางคนหลวงปู่ท่านยังมาในนิมิตแสดงศีลธรรมบางอย่างให้เห็นด้วยซ้ำ การแปลศีลธรรมเขาก็ให้พระผู้มีศีลบริสุทธิ์เป็นผู้แปลถึงจะแน่นอน ในขณะเดียวกับที่คณะของคุณกำลังก้มหน้าก้มตาทำโดยไม่สนใจใคร พยายามดิสเครดิตคนที่วัดตลอดเวลา นี่หรือธรรมะหลวงปู่ของคุณ หรือของใครกันแน่
))"
ผมมีความเข้าใจว่า ยิ่งพูด วัดที่คุณปากก็ว่าเคารพและศรัทธานั้น
การพูดของคุณยิ่งพูดวัดก็ยิ่งมัวหมอง มัวหมองในแน่ที่ว่า
คล้ายๆกับ วัดข้าใครอย่าแตะ หรือป่าว

มนุษย์เราทุกผู้ทุกนาม มีทั้งคนรัก มีทั้งคนเกลียด
คุณยกบางข้อความของการโพสท์ของคุณทางไกลมาบางส่วน
และคงเป็นส่วนที่คุณไม่ชอบ หรือไม่ชอบมั๊กๆ
แล้วถ้าอยากจะให้คนอื่นเขาพิจจารณาควรยกข้อความมาทั้งหมด
เขาถึงจะได้พิจจารณาถูก แต่จากที่อ่านข้อความตามนั้น
ความคิดผมนะครับ คุณทางไกลก็ไม่ได้เป็นคนชั่ว เป็นคนเลวร้ายอะไร

และเคยอ่านท่าน Aunyasit ก็ตอบไปแล้วว่า ไม่ใช่คุณทางไกล
จะใช่หรือไม่ใช่ผมก็ไม่เห็นว่า ความศรัทธาในการที่ผมจะได้ร่วมบุญสร้างกุศลในครั้งนี้ลดน้อยลง

ทุกท่านในที่นี้ที่บอกว่าเป็นลูกศิษย์วัด อยากให้วัดเจริญ
ความคิดผมนะครับในฐานะคนนอก ไม่รู้จักท่านใดๆเลย
อยากจะบอกว่าอย่ากระทำการอันใด ที่จะทำให้คนอื่นไม่ศรัทธาวัด
ไม่ศรัทธาพระสงฆ์ ไม่ศรัทธาต่อพระศาสนา กรรมมันหนัก
ซึ่งเราๆท่านๆ อาจจะมองไม่เห็น
ท่านอาจจะมองว่ากระผมเป็นคนเลว
คนเลวคนนี้ก็ขอเตือนด้วยความหวังดีนะครับ
เพราะสัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
เตือนกันได้ก็เตือนกันไป ถ้าจะฝืนกฏแห่งกรรมก็ต้องขออุเบกขา

ถ้ากระผมได้ล่วงเกินท่านใด จะมีเจตนาหรือไม่มีก็ตาม ได้โปรดอโหสิให้กระผมด้วยครับ

สุดท้ายท้ายสุด เราๆท่านๆ ก็คงได้เจอกัน
<!-- / message -->
<!-- / message --><!-- sig -->

 

...

เข้ามาดู...!

 

ขอให้ปัญญา.......จงเกิดแก่ปัญญาชน

ขอให้ความเจริญ......จงเกิดแก่พระศาสนา

ขอให้ทุกท่าน.......ใช้ปัญญาแก้ปัญหา
พระพุทธองค์ท่านสรรเสริญผู้ที่ แก้ปัญหาด้วยปัญญา
ถ้าเจริญรอยตามพระพุทธองค์ใช้ ทางสายกลาง ทุกอย่างย่อมคลี่คลายได้
ลองวางใจให้เป็นกลางรับฟังคนอื่นบ้างก็ดีนะคะ จะดีต่อทุกฝ่ายด้วย

 

ขอบคุณครับคุณ KEN BP ...
เห็นกระทู้ร้อน ๆ นอกเรื่องไปนิด...จริง ๆ ผมก็คนนอกครับ....แต่ก็อยากเห็นอะไรมันจบลงด้วยดีอย่างสันติ....ผมแค่สงสัย เพราะเห็นท่านในนิมิตเป็นพระสงฆ์....สงสัยและเดาไว้สององค์...แต่ท่านคงไม่ธรรมดาแน่...เพราะทำให้ชีวิตทั้งชีวิตเราเปลี่ยนไป...จากเคยอยู่เล่นเกมส์ไปวัน ๆ ไม่ทำการงาน...ก็เริ่มมาทำการงานขึ้น.

ถึงเวลาผมก็ร่วมบุญด้วยครับ ผู้พัน...แต่คงไม่มากนักคงไม่ปฏิเสธเงินผมนะครับ....แต่รอดูสถานการณ์สงบลงสะหน่อย....ผมคงไปร่วมรับผิดชอบด้วยไม่ได้หรอกครับ...เรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ นี่ลำบากใจ...บารมีผมน้อย...จะดูเขาทำบุญนิ่ง ๆ นี่คงยาก อย่างน้อยถึงเวลาก็ร่วมอนุโมทนาบุญครับ.

 

เรียน คุณอัญญาสิทธิ์ที่เคารพ
คุณสรุปเอาเองหรือเปล่าว่าหลวงพี่ไม่ได้มีเป้าหมาย ดังนั้นคนที่ไม่ได้มีเป้าหมายเหมือนคุณคุณก็เลยเหยียบหัวเขาเลยใช่ไหม สิ่งที่คุณทำอยู่ขณะนี้น่ะ ขอโทษที่พูดแรง ขอถามหน่อยกับสิ่งที่พูดว่า "ผมพิจารณาเห็นว่าไม่เป็นไปตามเจตนารมย์ของหลวงปู่ทองทิพย์สักประการเดียว ทั้งเรื่องของขนาดองค์พระ ระยะเวลา วัสดุที่สร้าง ฯลฯ จึงสรุปได้ว่า หลวงพี่ไม่ดำเนินตามเจตนารมย์ของหลวงปู่ทองทิพย์เลย ผมจึงต้องไปปรึกษาผู้รู้อื่นๆ เพื่อมาร่วมกันสร้างให้เสร็จตามเจตนารมย์ของหลวงปู่"
ผมจะเปรียบให้ฟังว่า หลวงปู่พูดเรื่องพระเจ้า 5พระองค์มาทุกยุคทุกสมัย ท่านทดสอบบารมีลูกศิษย์เหมือนกันหมดครับ แต่ต่างๆกันไปตามวาสนา ขนาดของพระที่คุณว่านี่ก็ใช่อยู่ครับ แต่ระยะเวลานี่ไม่ใช่ มันเป็นสิ่งที่คุณกำหนดขึ้นเอง ไม่มีเหตุผลนอกจากคุณว่ารีบทำให้เสร็จ แต่คุณกลับไม่ให้ความสำคัญวิหารที่ประทับหลวงปู่ที่คุณนับถือ คุณมองว่าเป็นเรื่องรองมาตลอด(หรืออาจมองว่าเป็นบริวารพระที่คุณสร้าง) สำหรับวัสดุที่สร้างเป็นเรื่องของวาสนาบารมีของคนในยุคนี้ครับ หลวงปู่ท่านไม่ได้กะเกณฑ์ขนาดนั้น อยู่ที่ปัญญาของใครจะขวนขวายเอามาได้ ถ้าคุณสร้างด้วยแก้วมณีโชติทั้งองค์ก็สุดยอดครับ ถ้าสร้างด้วยทองคำทั้งองค์อานิสงค์แบบหนึ่ง สร้างด้วยปูนอานิสงค์แบบหนึ่ง หรืออื่นๆก็แล้วแต่วัสดุที่จะหาได้ในยุคนั้น
แต่คุณไม่เข้าใจเรื่องนี้กะเกณฑ์เกินไป และยังไม่เข้าใจสูตรภายในอย่างแท้จริง พระที่หลวงปู่สร้างมากมายท่านปั้นด้วยมือท่านเอง วางรากฐานเอง มีวิหารหรือที่ประทับทุกที่ สูตรภายในก็มีต่างหากอีก คุณได้เรียนรู้มามากจริงอยู่ แต่เรื่องพวกนี้คุณได้สั่งสมบารมีมาตั้งแต่ต้นหรือเปล่า คุณอัญญาสิทธิ์ พระที่วัดถ้าคุณลองสังเกตให้ดีคุณจะพบว่าตลอดระยะเวลา ทุกอย่างที่ท่านทำ ทุกอย่างที่ท่านสร้าง จะมีปรมัตถ์ธรรมทุกชิ้น ของที่คุณนำมาถวายหลายชิ้นที่ท่านนำมาตกแต่งปรุงให้ก็มากมาย มันก็มาจากสองมือ และ ปัญญาของท่านและจากหลวงปู่ที่หลวงพี่ได้รับถ่ายทอดมา บางอย่างเป็นปรมัตภ์ธรรมพระเจ้า 5 พระองค์ด้วยซ้ำ ไปดูในโบสถ์พระแก้วที่วัดซิ คุณเข้าใจอะไรบ้างกับสิ่งที่บูชาอยู่หน้าพระ คุณเคยเห็นภายในหรือเปล่า หลวงปู่บรรจุสิ่งใดลงไปในองค์พระแก้วคุณรู้ไหม คุณไม่รู้หรอก ผมเชื่อ คุณเองไม่เข้าใจระบบพระเจ้า 5 พระองค์นี้ดีพอหรอก รวมถึงใครที่คุณเอามาอ้างด้วยนะ เพราะมันเป็นเรื่องภายในของวัดนี้ หลวงพี่ท่านเมตตาคุณขนาดไหนรู้ตัวไหม มากกว่าตัวผมเองด้วยซ้ำ แต่ดูตัวคุณในขณะนี้สิ ทำอะไรอยู่ เงินทองมันไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุดหรอกเป็นแค่องค์ประกอบหนึ่งในความสำเร็จเท่านั้น กำลังใจในการสร้างสรรค์และกระทำลงมือด้วยตัวเองจนสำเร็จมากกว่าเป็นสิ่งที่ควรอนุโมทนาที่สุด หลักสำเร็จตามสัจจะเป็นสิ่งที่ควรทำแต่ศึกษาให้ลึกซึ้งและรอบคอบหน่อยก็จะได้รับการสรรเสริญจากเทพเทวดามากกว่านะครับ

เรียนคุณ KEN_BP
ขอโทษครับ ผมไม่มีเจตนาให้วัดนี้มัวหมองนะ ถ้าใครเข้าใจแบบนั้นก็ผิดครับ ผมไม่เคยพูดเรื่องที่มัวหมองด้วยซ้ำ แต่คุณจุดประเด็นนี้มาก็ขออธิบายนิดนะว่า เรื่องที่พวกคุณกับคณะสร้างทำกับวัดนี้เป็นเรื่องน่ามัวหมองมากกว่านะ ทางออกที่มี ผมและหลายคนในที่นี้ก็แนะนำไว้จนขี้เกียจจะพูดแล้ว ตัวคุณเองก็น่าจะสำรวจดูตัวเองบ้างนะ ถ้าให้ดีก็ลองไปวัดนี้ดูบ้าง ไม่ใช่จำจากใครมาเขียน หรือใครเขียนให้อ่านแล้วก็เชื่อง่ายๆ มันไม่ใช่ปัญญาที่แท้จริง..ขอโทษที่พูดแรง

 

เรียน คุณ chatyman
นิมิตคุณสำคัญครับ เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้คุณรู้สึกที่จะไปดูที่วัดนี้เองให้เห็นกับตา แล้วจะได้ตัดสินว่าอะไรเป็นอะไร ซึ่งคุณก็ได้เห็นแล้ว ขออนุโมทนาด้วยใจครับ

 

...ผมเขื่อว่าในเวปนี้มีคนดูอยู่เยอะ ผมไม่ต้องการมาแสดงออกอะไรที่ดูไม่ดี แต่ความจริงที่ถูกบิดเบือนนี่รับไม่ได้จริงๆ นิสัยผมก็แบบนี้ล่ะ...

 

...จริงๆ อยากจะบอกทุกท่านว่า วิจารณ์ผมได้ ด่าก็ได้ แต่ก็ขอให้วิจารณ์คณะนี้ด้วยว่าทำถูกต้องไหมอย่างไร เขาให้เหตุผลที่ต่อเนื่องหรือไม่ ถ้าชาวพุทธที่ดีไม่ตรวจสอบกันและกันนี่ ศาสนาพุทธจะเป็นอย่างไรต่อไป ...

 

เห็นคน อบ อ่านอยู่นานแล้ว.....แสดงความคิดเห็นหน่อยนะครับ....