ผม...พระ...และ...สาระยุคก่อน

สวัสดีครับพี่modpong
สวัสดีครับทุกท่าน
มาเก็บเกี่ยวความรู้ด้วยครับ

 

สาธุๆ

ชอบจริงๆ เลยจากประสบการณ์จริง แบบทฤษฎีอ่านแล้วปวดหัว ^_^

______________________________
hello9
กลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติ สายอีสาน
กลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติ สายอีสาน มารายงานตัวกันหน่อยครับ

โครงการถวายพระบรมสารีริกธาตุทั่วทุกวัดฯ ทั่วภาคเหนือตอนล่าง
โครงการถวายพระบรมสารีริกธาตุทั่วทุกวัด สำนักสงฆ์สำนักปฏิบัิติธรรม ทั่วภาคเหนือตอนล่าง<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

 

<!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <wunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <wontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if !mso]><object classid="clsid:38481807-CA0E-42D2-BF39-B33AF135CC4D" id=ieooui></object> <style> st1\:*{behavior:url(#ieooui) } </style> <![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> ขอขอบคุณ..คุณLynn..คุณ๑๕ค่ำ..คุณโอ ท่าซุง..คุณJoenok..คุณAnoldman
ที่post มา..ให้กำลังใจ..ชม..และติดตาม

..........................................................สวัสดีทุกท่าน.....................................................

................ต่อจาก..ข้อ ๔...ตอนที่แล้วครับ
...............๕. การกระเทาะ..ของ..รัก..เนื่องจาก..อายุ..รัก..เก่ามากกว่า ๑๐๐ ปี..การปริ..จนถึง
กระเทาะ..ย่อมเกิดขึ้นได้..จากสภาพการใช้งาน...ต้องไว้อย่างหนึ่งว่า..รักที่เกิดการกระเทาะ
ตามปกติ(ไม่ใช่ไป..แงะ..แซะ..หรือ..ขูด..อันนี้ถือว่าไม่ปกติ)..จะไม่เกิดที่..ส่วนที่เป็นหลุม..หรือ
..ร่อง..เด็ดขาด..การกระเทาะออก..จะเกิด..หลังจาก..การปริ..ของผิวรัก..หรือ..อีกนัยคือ..ต้น
เหตุของ..การกระเทาะ..มาจาก..ปริ..ก่อน..การปริ..คือการที่ผิวแยกออกจากกัน..เพราะเกิด
แรงดึง..ขึ้นที่ผิว..ซึ่งพระทั้งองค์..ส่วนที่..นูน..ทั้งหมด..เกิดแรงดึง..ตามปกติอยู่แล้ว..มันมีมา
ตั้งแต่..รักหดตัว..จากขบวนการทางเคมีของมัน..ปริมาตร..จะเล็กลง(..หด..)ซึ่งทำให้เนื้อรัก
ถูกรั้งออกจากกันในส่วนที่นูน..ที่ผ่านมาตลอดเป็น ๑๐๐ ปี..มันอยู่ได้เพราะ..ตัวรักเอง..สามารถ
รับแรงนี้ได้..เหมือนคาน..ของบ้าน..มันรับน้ำหนักโครงสร้างของมันอยู่โดยตลอด..แม้ไม่มีใคร
อยู่..ในบ้าน..ในตัวคาน..ก็ยังมีแรงดึงอยู่ตลอดเวลา...............
........การปริ..คือการที่..รัก..เสียความสามารถ..ในการยึดตัวของมันเองไว้..เพราะเกิด..จาก
มีแรงมาเพิ่ม..หลายสาเหตุเช่น
......... ๑. ถูกแรงภายนอก..มากระทำอย่าง..แรงทันที..เช่น..ตก..หรือ..กระแทก..หรือ..กด
อย่างแรง
..............๒. ถูกแรงภายนอก มากระทำอย่าง..ไม่แรงมาก..แต่ต่อเนื่องนาน..จนรักมันเอง..รับ
ไม่ไหว..เช่นเลี่ยมพลาสติก..แล้วไปกด..อยู่ตาม..เข่า..หัว..อยู่ไปซัก..ห้า หกเดือน..รักเริ่มปริ
............ ๓. การเปลี่ยนแปลง..อุณหภูมิ..อย่างรวดเร็ว..ทำให้รักเอง..ยืด(เมื่อร้อน)..หด(เมื่อ
เย็น)..อย่างไม่สมดุลย์..คือ..ยืดหดเร็ว..ทำให้เกิดแรงดึง..เพิ่มอย่างรวดเร็ว..ไม่เป็นแบบค่อย
เป็นค่อยไป...ซึ่งพบมาก..และค่อนข้างเป็น..สาเหตุหลัก..เจ้าของพระบางคน..บอกว่า..พระ
เก็บมา..ตั้งแต่สมัยปู่(..ที่ว่า..ก็คือ.เมื่อสามสิบ..สี่สิบปีก่อน)..เอาพระ..ออกมาเพื่อจะมาเลี่ยมใช้
..ผิวรัก..ด้านนอก..ก็กระเทาะแล้ว..สอบถามกันได้ความว่า..บริเวณที่เก็บพระ..อยู่ที่แสงแดด
บ่ายส่องได้..ปํญหาที่เกิดจะเกิดในช่วงหน้าหนาว..เพราะแดดแรง..อุณหภูมิสูง..พระโดนแดด
ส่อง..ร้อน..รัก..ก็..ขยายตัว..พอแดดพ้นไป..เมื่อไม่โดนแดด..อุณหภูมิก็เย็น..อย่างรวดเร็ว..
..กำลังยืดๆอยู่..เปลี่ยนกลับ..มาหด..มันก็ค่อยๆเริ่มสะสมจาก..รอยปริ..ที่ส่วนนูนนิดเดียว...
ผ่านไป..สิ่สิบห้าสิบปี..รอยปริก็ขยายไปเรื่อย..จากต้นทางมาจนรอยกลับมาบรรจบที่ต้นทาง
อีกที..ก็กระเทาะหลุด
..............ปัญหาคนสงสัย(สงสัยแน่...)...แล้วส่วนใหญ่ทำไม..กระเทาะ..ที่รักผิวนอก..อย่าง
เดียวเป็นส่วนใหญ่...อันนี้จุดหลักๆ..ก็เพราะ..กระบวนการ..ทารัก..ครับ.....
......ผมเคยเล่าไปแล้วที่..รัก..ยึดเกาะพื้นผิวดี..เพราะขบวนการที่มันจะแข็ง..ตัวมันหด..ที่ผิวรัก
ที่แทรกไปตามผิวที่ไม่เรียบ(ดูเหมือนเรียบ..แต่คุณลองมองผิวพระเนื้อผง..ทั่วไป..ผ่านเลนส์
ขยายซัก 20x ขึ้นไป..จะเห็นได้เลยว่า..ไม่เรียบ..นั่นแหละครับ..เมื่อรักหด..รักจะบีบผิวที่ไม่
เรียบไว้..จึงเกิดการยึดเกาะ..เหมือน..มือคุณ..ทีแรกวางแปะ..อยู่บน..กะลามะพร้าวครึ่งซีกที่
คว่ำอยู่กับพื้น..คุณไม่กำมัน..คุณก็ยก..กะลาขึ้นจากพื้นไม่ได้..พอคุณกำ..นั่นคือการหดนิ้วเข้า
หากัน.คุณก็ยก..กะลาขึ้นได้..นั่นคือ..คุณยึดมันไว้....ฉันใด..ฉันนั้น....
..........ที่นี้..เมื่อทารักชั้นแรก..และปล่อยจนแห้งดีแล้ว(จำเป็นครับ..ไม่งั้นถ้ารีบทา..รักชั้นล่าง
จะแข็งตัวช้า..พลอยทำให้รักชั้นบน..แข็งช้าไปด้วย..อันนี้ท่านที่เคยทา..แลกเก้อร์..หรือ แชล็ก
จะทราบดี)..รักเมื่อทาแห้งใหม่ๆผิวจะมันวาวเรียบเหมือน..ผิวกระจก..(ผมทามาแล้ว..ครับ)..
...ถ้าไม่ใช้..ผ้าแห้ง..ทาให้ผิวเกิดความ”สาก”...(ทำให้ผิวไม่เรียบนั่นเอง)..หรือ..ทำให้ผิวมัน
ด้านๆหน่อย..การเกาะยึดของรักทั้งสองชั้น..จะน้อย..(ผมทดลองทำเอง..มาแล้ว)..กว่าไม่ทำ
แต่เพราะมันอาจเสียเวลา..และอีกอย่าง..น้ำมันสนที่ผสมอยู่ในรักชั้นบนที่จะทา..มันก็พอทำให้
เกิดการเชื่อมประสานได้บ้างอยู่แล้ว..แต่ถ้าลองทาที่เรียบๆ..แล้ว..มันสามารถจะล่อนออกจาก
กัน..ได้ง่ายกว่า..สำหรับพระ..มีส่วนนูน..ส่วนเว้าช่วย..ก็เลยทำให้การยึดติดกัน..แต่ไม่ดี..
เท่ากับ..การยึดของ..รักชั้นล่าง..กับผิวพระ..นั่นแหละครับ..เมื่อเกิด..การปริที่ชั้นบน..มันจึง
ไม่ปริต่อลงไปชั้นล่างด้วย..เพราะผิวสัมผัส.ของรักทั้งสองชั้นหลุดจากกันก่อน..เมื่อเกิดแรง
ดึง..ขึ้นมา.....
........................งง..หน่อยนะครับ..ต้องค่อยๆอ่าน..อ่านซัก ๒-๓ รอบ..นึกภาพไปด้วย..
จะเข้าใจเอง.......................................................
.......................................ต่อตอนหน้าครับ.............................................

....................................................สวัสดี................................................................

 

สุดยอดเลยค่ะ คุณ ลุง ประสบการณ์ล้วนๆ เลยค่ะ ขอบคุณค่ะ

 

สวัสดีครับ..ขอบคุณครับ..

 

ขอบคุณมากครับสำหรับความรู้
เปรียบได้กับการทาสีภายนอก
จำพวกสีพลาสติก-สีน้ำมันใช่หรือเปล่าครับ
พอโดนแดด-ฝนนานๆก็จะหลุดล่อนออกมาครับ
ไม่รู้คิดถูกหรือเปล่าครับ

 

ขอบคุณครับคุณลุง ^ ^

 

ไม่ได้เข้ามาอ่านหลายวัน วันนี้ว่างเข้ามา เจอเรื่องรักๆ ชอบเลย รอติดตามต่อนะครับ

 

..............................................
ทำนองเดียวกัน..เรื่องของอุณหภูมิ..ด้านนอกหดแล้ว..ด้านในยังร้อน..ยังยืดอยู่..แต่เรื่องสี..มันมีเรื่อง..การเสื่อมสภาพ..จากแสงแดด..และ ultraviolet..มาประกอบด้วย..เพราะปะทะแสงแดด..โดยตรง..แต่สำหรับพระนี่ทางอ้อม..ไม่ปะทะตรงแต่ได้รับความร้อนมาไว้....

 

ขอบคุณครับพี่ modpong เรื่องรักนี้กระจ่างขึ้นเยอะเลยครับ

 

..................................................
ยัง..ยัง...ยังไม่จบง่ายๆ..น้องกำธร..เหลืออีกหลายตอนมาก...ยังมีเทคนิคย้อนรอยกลับไป..เพื่อสร้างรักจีน..สีทับทิม..อีกเยอะน้อง...ไหนๆเล่าแล้ว..เอาซะให้หมด

 

สุดๆไปเลยครับคุณอา ขอคาราวะครับ(deejai)

 

ขอขอบคุณ..คุณLynn..คุณโอ ท่าซุง..คุณjoenok..คุณ๑๕ค่ำ..คุณคนเมืองแป้..คุณกำธร นครปฐม
คุณเฉียวฟง
ที่post ให้กำลังใจ..ชม..และติดตาม

.........................................................สวัสดีทุกท่าน......................................................

..............ตอนที่แล้ว..ในหัวข้อ..การกระเทาะของรัก..ยังไม่จบ..คงมีหลายท่านยัง..งงๆ..เรื่อง
อุณหภูมิร้อน-เย็น..แล้วเกิดการ..ยืด-หด..ทำให้..รักส่วนนอกปริ..
..................องค์พระนั้น..มีความหนา..เมื่อโดนความร้อน..เป็นชั่วโมงๆ..ความร้อนจะสะสมอยู่
ภายใน..การคายความร้อน..จะยาก..รักชั้นใน..ที่ติดแน่นกับผิวพระ..จะได้อิทธิพลไปด้วย...
...แต่รักชั้นนอก..สัมผัสอากาศ..โดยตรง..และมีความบาง..การยึดเกาะกัน..ของ..รักทั้งสองชั้น
ดีไม่เท่ากับ..รักชั้นใน..ที่ยึดกับผิวพระ...เมื่อเมื่อแดดไม่ส่อง..อุณหภูมิภานนอก..ช่วงหน้าหนาว
จะเปลี่ยนมาก..คือ..ลดลงเร็ว...โดยเฉพาะ..รักชั้นนอก..ที่หุ้มส่วนที่นูนของพระ(จะบาง..กว่า..
ตามหลุม..หรือ..ร่อง..)..จะคายความร้อนได้ก่อนใคร..เมื่อคายได้หมด..รักชั้นนอก(ที่ส่วนนูน)
จะหยุดขยายตัว..และค่อยๆกลับ..ไปหดแทน..ตามอุณหภูมิที่ลดลงเร็ว...ขณะเดียวกัน..ส่วนใน
คือ..รักชั้นในกับองค์พระ..อุณหภูมิจะลดลงช้ามาก..เพราะมีความร้อนที่สะสมอยู่ข้างใน..คือ
เพียงแค่..อัตราการขยายตัวลดลง..ซึ่ง..จะสวนทาง..กับรักชั้นบนส่วนที่นูน..แรงตรงนี้..จะค่อยๆ
เพิ่ม..มากขึ้นตามเวลาที่เปลี่ยนไป..จนชนะความสามารถในการยึดเกาะ..ของรักทั้งสองชั้น
..ผลที่เกิด..ก็คือ..รักชั้นนอกที่อยู่ในหลุมหรือซอก..ที่ยึดติดกับ..รักชั้นในดีกว่า..และไม่หดตาม
ก็เกิด..รอยแยกออกจาก..รักชั้นนอก(ที่ส่วนนูน)ที่รั้งตัวเข้ามา..เพราะหด..และตามด้วย..รอยยึด
ของรักชั้นนอก(ส่วนที่นูน)..กับรักชั้นในก็แยกจากกันด้วย..ก็คือ..ปริ..และเผยอ..นั่นเอง..นาน
วันเข้า..รอยปริ..ก็ขยาย..ไอ้ที่เผยอ..ก็เผยอมากขึ้น..แล้ว..หลุดออกมาจากกัน....

ผมก็ขอเปรียบเปรยสักเล็กน้อย..จะได้เข้าใจกันมากขึ้น.....
เป็นเรื่อง..ของ พ่อ-แม่-ลูก...ที่วันหนึ่งอากาศดี..เดินเล่น..
................พ่อ...เปรียบเหมือน..องค์พระกับ..รักด้านใน..ที่ยึดติดกันแน่น
................แม่...เปรียบหมือน...รักด้านนอก..บริเวณที่เป็นส่วนนูน
................ลูก...เปรียบเหมือน...รักด้านนอก..ที่อยู่ตาม..ซอก..ร่อง..หรือที่บุ๋ม..ลงไป
ทั้งสามเดินมาด้วยกัน(เปรียบกับ..ได้รับความร้อน..แล้ว..ขยายตัว)..โดยพ่อ..เดินเกี่ยวแค่นิ้ว...
กับ..แม่(เปรียบเหมือนแรงยึดเกาะ)..แต่..พ่อ..กำข้อมือลูกไว้(แสดงถึง..การยึดเกาะที่ต่างกัน)
...ขณะที่..ค่อยๆเดินมาเรื่อยๆ...ทางฝ่ายแม่..ก็เหลือบไปเห็น..เขากำลังมีการถ่ายหนังกัน..และเห็นดาราชายนำ..หน้าตาคุ้นๆ..ก็สนใจหันมองตามพร้อมกับการก้าวที่ช้าลง.(เปรียบ..ไม่มีแดด
แล้ว..อุณหภูมิลดลง..อัตราการขยายตัวด้านนอกลดลง)..ผลที่เกิดก็คือ..นิ้วที่เกี่ยวกันไว้เฉยๆ
แขนของทั้งสองคนห้อยอยู่ข้างลำตัว..ระยะห่างของทั้งทั้งพ่อและแม่..เพิ่มขึ้น..เพราะแม่เดินช้า
ลง..พ่อยังเดินเท่าเดิม..นิ้วที่เกี่ยวกันก็เกิดแรงดึงขึ้น..แขนที่เดิมห้อยอยู่ก็ยกสูงขึ้น.....
...แล้วแม่..ก็..จำได้ว่า..นั่นคือ..เคน ธีรเดช..ขวัญใจของแม่...แล้วแม่ก็..หยุดเดิน..ขณะที่..พ่อ
กับ..ลูกเดิน..ช้าลง..เพราะแม่รั้งอยู่..เมื่อแม่หยุด(เปรียบ..อุณหภูมิ..ของรักชั้นนอกส่วนที่นูน..
ลดลง..เป็นปกติ..การยึดขยายยุติลง..แต่รักชั้นในกับรักชั้นนอกส่วนที่บุ๋ม..รวมถึงองค์พระ..แค่
ลดอัตราการขยายลง..แต่ยังคงขยายอยู่)..พ่อก็พยายามดึงให้แม่เดินไปข้างหน้าต่อ..แขนที่
เกี่ยวกันไว้ของทั้งคู่..ก็ยืดขนานกับพื้น..แรงที่นิ้ว..ของทั้งคนก็เพิ่มมากเต็มที่(เปรียบ..แรงยึด
เกาะถึงวิกฤต)..ลูกเล็กก็ไปคว้าข้อมือแม่..เพื่อจะดึง..แม่ให้เดินหน้าไปกับพ่อ.......
.....................แต่..สำหรับแม่..โอกาศที่จะได้พบ..พี่เคนขวัญใจ..มาแล้ว..แม่ก็ไม่สนใจ..พ่อและ
ลูก..เดินย้อนทางกลับไป..ทำให้..เกิดแรงชนะ..นิ้วที่เกี่ยวกันไว้..ของพ่อกับแม่..ก็หลุดจากกัน
..รวมทั้ง..ข้อมือแม่อีกข้างก็หลุด..จากมือลูกเช่นกัน(เปรียบได้กับ..กับ..การที่รักด้านนอก(ส่วน
ที่นูน)เปลี่ยนกลับไปหดตัวแทนตามอุณหภูมิที่เย็น(..พี่เคน..เปรียบได้กับ..อุณหภูมิที่เย็น..)แรง
ดึงที่เกิด..ก็ชนะ..แรงยึดเกาะ..ระหว่างรักชั้นนอกด้วยกัน..รวมทั้ง..รักชั้นในด้วย..ก็เลยปริ..และ
เผยอ...)
.....หลังจากนั้น..แม่ก็เดิน..ไปถึงกองถ่าย..แล้วหยุดดู..พี่เคนแสดง....พ่อ..ก็ทำใจ..ค่อยๆเดิน
กับลูก..กลับมา..ใกล้ๆแม่..แต่เลิกจับมือ..กันแล้ว..เซ็ง..(เปรียบได้กับ..ทั้งรักชั้นอกส่วนที่บุ๋ม..
รักชั้นใน..และองค์พระ..คายความร้อนหมด..หยุดขยาย(ยืด)..แล้วค่อยๆหดตัว..ตามอุณหภูมิ
ภายนอก.............เป็นอันจบ..................
.........ก็ขออภัยด้วย..ถ้าหลายคนรำคาญ..เพียงเพราะผมอยาก..เปรียบเปรย..กับเรื่อง..อะไร
สักอย่าง..จะได้เข้าใจง่าย..เท่านั้นเองครับ
.................................................................................................................................
...........สำหรับ..บางท่านเคยเห็น..ภาพพระปิดตาหลวงพ่อแก้ว..หลายๆองค์คล้ายกับมีรัก..ชั้น
เดียว..ความจริง..ก็มีครับ..หลายองค์ที่ชั้นเดียว..แต่อีกหลายองค์ที่เห็นตรงรอยกระเทาะเหมือน
เป็นเนื้อ..แต่จริงๆไม่ใช่..เป็นรักชั้นใน..แต่ทาไว้บางมากเลยใส..เห็นเป็นเหมือนผิวเนื้อใน....
เวลาถ่าย..แต่จริงมันแผล็บ..เพราะรักใส..หุ้มอยู่....................................
...........จะสังเกตได้ว่า..อย่าง..ปิดตาหลวงปู่เอี่ยม..และปิดตาหลวงพ่อแก้ว..เนื่องจาก
อยากจะหุ้มรักให้หนา..เพื่อป้องกัน..จึงมีการเพิ่มเนื้อให้รัก..เพื่อจะได้ทาได้หนาขึ้น..โดยการ
ผสม..ชาด..เพิ่มลงไปอีก..ทำให้ความใสจะลดลงจากเดิม..แต่ก็มีไม่น้อยที่..ไม่เพิ่ม”ชาด”..ใน
ส่วนด้านใน..อยางที่เห็นว่า..ใสๆนั่นแหละครับ..........................
..................ยังครับ....ยังไม่จบ..อีกนาน....ยังต้อง..มีเรื่องการพิจารณา..รอยกระเทาะของรัก
อีก..และอีกหลายเรื่อง..กว่า..จะไปถึง..เรื่อง..รักเทียม(ที่ไม่เทียม)..อีก
....................................ต่อตอนหน้า.......................................
..........
..................................................................สวัสดี......................................................

 

สุดยอดเลยค่ะ คุณ ลุง เปรียบเทียบ ได้ร่วมสมัยมากๆเลยค่ะ ขอบคุณค่ะ

 

สวัสดียามเช้าครับ...น่าศึกษามากครับ...

 

เปรียบเทียบจนเห็นภาพเลยนะนี่ เกาะขอบจอติดตามต่อไปครับ ความรู้ทั้งนั้น หาอ่านที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว

 

...............................................
......เอาไปดูเล่นๆก่อน.....................

 

ตะกรุดไม้ไผ่เคลือบรัก!

 

<!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <wunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <wontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if !mso]><object classid="clsid:38481807-CA0E-42D2-BF39-B33AF135CC4D" id=ieooui></object> <style> st1\:*{behavior:url(#ieooui) } </style> <![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <o:shapedefaults v:ext="edit" spidmax="1026"/> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <o:shapelayout v:ext="edit"> <o:idmap v:ext="edit" data="1"/> </o:shapelayout></xml><![endif]--> ขอขอบคุณ..คุณLynn..คุณโอ ท่าซุง..คุณคนเมืองแป้..คุณjoenok
ที่post มา..ให้กำลังใจ..ชม..และติดตาม

.......................................................สวัสดีทุกท่าน........................................................

.....................๖.รัก..ที่กระเทาะออกจนเห็นเนื้อพระ..ที่จะพูดถึงใน..พระที่เป็นเนื้อผง..ค่อนข้าง
ขาว..ซึ่งเนื้อ..จะไม่เหนียวแน่น..เท่าพวกออกสี..น้ำตาล..และพวกเนิ้อผงคลุกรัก...การกระเทาะ
ออกไป..ไม่ว่า..จะทารัก..ชั้นเดียว..หรือ..๒ชั้น..บริเวณ..ส่วนนูน..หัว..หน้า..หัวเข่า..ข้อศอก...
..ที่เกิดขึ้น..เกือบทั้งหมด..ส่วนผิวของเนื้อ..จะหลุดติดตามรัก..ออกไปด้วย..บริเวณดังกล่าว
ผิวจะไม่เรียบ..เพราะรักจีนที่ติดกับผิว..พระ..จะติดแน่นมาก..ถ้าเป็นไปตามปกติ..รักจะไม่หลุด
..จะต้องเกิด..การกระแทก..กดแรง..หรือไปแงะออกเอง.....ผิวพระ..จะออกพรุนๆ..หรือ อาจจะ
แหว่งหน่อยๆไปได้..แต่จะไม่เนียน..ยกเว้นเจ้าของพระ..จะไปขัดให้สวย..รักที่ติดกับเนื้อพระ...
ไม่เหมือน..เปลือกเกาลัด..กับ..ลูกเกาลัด..ซึ่ง..กระเทาะเปลือก..แล้วเนื้อไม่หลุดตามเปลือก..
ขอให้เข้าใจ..ตามนี้ครับ
๗. เนื้อผงคลุกรัก..ก็เคยบอกไว้แต่ต้นๆ..ของเรื่อง..รัก..ว่าเจตนา..เพื่อเอาไว้เป็น
ตัวประสาน..แทนวัสดุชนิดอื่น..เกือบทั้งหมด..จะใช้..รัก(น้ำเกลี้ยง)ดำ..ของบ้านเราเอง..เพราะ
ถูกกว่า..รักจีนของนอก..มาก..แน่นอน..คือ..ต้องผสม..น้ำมันสนกับรักก่อน..เพื่อไม่ให้เหนียว..
หนืด..เกินไป..ผสมให้เป็นเนื้อเดียวกับผง..แทบเป็นไปไม่ได้..สัดส่วนขึ้นอยู่กับ..คนผสม..จะกะ
เกณฑ์เอา..แต่เนื้อ..ก็ไม่ได้ดำปี๋..ออกเทา-ดำ..บ้าง..ออกน้ำตาล-ดำ..บ้าง..แล้วแต่..เนื้อจะแน่น
และเหนียว..ผมคาดว่า..ในการทำแต่ละครั้ง..อาจมีหลายเนื้อด้วยกัน..ซึ่งตามความคิดผมว่า..
...ถ้าในการทำครั้งนั้น..มีพระที่เป็นเนื้อผงขาว..ด้วย..และมีพวกเนื้อผงคลุกรักด้วย...นั่นแหละ
ถึง..พวกเนื้อผงคลุกรัก..จะมาทารักเคลือบอีก...เพราะพวกเนื้อผงออกขาวจำเป็นอยู่แล้ว..ที่ต้อง
ทารักเพื่อเคลือบป้องกัน..ก็เตรียมมาไว้..รักหลังจากทาพวกเนื้อขาว..เหลือ..ก็เลยเอาทาเนื้อ
คลุกรักด้วย...เพราะลำพังเนื้อผงคลุกรัก..จะเนียน..แข็งแรง..ไม่จำเป็นต้องมา..ทารักอีกให้เสีย
เวลา..และเปลืองรัก..ข้อสังเกตอีกอัน..ค่อนข้างแน่นอนคือ..พวกเนื้อผงคลุกรัก..เกือบทั้งหมด
จะทารัก..ชั้นเดียว..ยกเว้นเจ้าของ..จะไปทาเพิ่มเอาเอง..เพื่อจะปิดทอง..หรือ..อย่างอื่นก็แล้ว
แต่.....
๘. ...ปิดตาหลวงปู่เอี่ยม..โดยเฉพาะ..รักชั้นที่สอง..คาดว่าจะใช้วิธี..เอาไม้เสียบ
ที่ฐานพระ..แล้วจุ่ม..พระลงในรักเลย..เพราะรัก..ที่เคลือบอยู่ค่อนข้างหนา..และต้องใช้เวลาตาก
ให้แห้ง..และ..แข็ง..นานกว่าแบบทา..มาก..กว่าปฎกิริยาจะสมบูรณ์..รักส่วนที่อยู่ใต้ผิวส้มผัส..
อากาศ..แข็งตัวหลังสุด......
๙. รอยกระเทาะ..แบบธรรมชาติ(เป็นเอง)..ส่วนใหญ่..ที่ขอบของรอย..จะไม่
คม..เพราะผ่านเวลามานาน..ถูกมือ..ถูบ้าง..ผ้าถูบ้าง..และที่รอยกระเทาะด้านล่าง..ที่ติด..กับ..
ผิวพระ..หรือ..รักชั้นล่าง..จะมีเศษขี้ผง(ขี้ฝุ่น)..ฝังอยู่ในเนื้อรัก..เพราะพระผิวกระเทาะ..เอาวาง
ไว้..ขี้ฝุ่น.ขี้ผงละเอียด..มันจะไปสะสมตัวมาก..ที่จุดรอยต่อนี่..เมื่อเช็ดทำความสะอาด..หรือถูก
มือถู..ขี้ฝุ่นเหล่านี้..จะไปฝังอยู่ในรอยพรุนเล็กๆที่รอยเตกของรัก..เอาไม่ออก..ทำความสะอาด
แบบปกติ..ก็จะเอาไม่ออก..
๑๐...ผิวรัก..จะไม่มีการแตกราน..แบบชามสังคโลกเด็ดขาด..ในสภาพปกติ..
..เว้นแต่โดยเจตนา..เพราะรักถึงแม้จะดูเหมือนแข็ง..แต่มันก็มีความเหนียวด้วย..ไม่ใช่แบบ
ขุนแผนเคลือบ..ตัวมันเอง..ก็ยืดหดได้..พอสมควรตามอุณหภูมิ..ถ้าจะมี..ก็เป็นอย่างที่ผมว่า..
คือกระเทาะ..และ..ก็..จะเป็นที่ส่วนนูน..เท่านั้น..ในร่อง..ส่วนที่บุ๋มลงไปจะไม่แตก

..............................................................................................................................
........ตอนหน้าผมจะมาว่า..ถึงรักจีนแท้ยุคแรก..ที่ไม่ได้ทา..หรือ..เคลือบ..จากวัดตั้งแต่แรก
..แต่เจ้าของเอามา..ทาเอง...............................................................................

............................................สวัสดี...........................................................................

 

ขอบคุณ มากเลยค่ะ คุณ ลุง บทความดีๆมีสาระมากๆ ทุกวันเลยค่ะ ขอบคุณค่ะ