ใครมีความรู้เกี่ยวกับหินทิเบต(DZI)ที่กำลังฮิตอยู่บ้าง

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Bank Chelsea, 11 ตุลาคม 2006.

  1. sasiriya

    sasiriya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    1,064
    ค่าพลัง:
    +751
    <TABLE id=HB_Mail_Container height="100%" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0 UNSELECTABLE="on"><TBODY><TR height="100%" UNSELECTABLE="on" width="100%"><TD id=HB_Focus_Element vAlign=top width="100%" background="" height=250 UNSELECTABLE="off">ขออนุญาตินำข้อความที่คุณ mountain ลงมาให้เพื่อน ๆ อ่านเพื่อความสะดวกนะคะ


    หินทิเบต หินมหัศจรรย์ เครื่องรางแห่งโชคลาภ <?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    <HR align=center width="100%" color=white noShade SIZE=1>
    "คุณราช รามัญ จัดว่าเป็นขาใหญ่วงการหิน
    ของเมืองไทย ได้ศึกษาหินทิเบตมานานพอสมควร
    ต่อมาเห็นมีขายกันเกลื่อนทั้งของใหม่และของปลอม
    ราคาไม่กี่สิบบาท หากจะบูชาทั้งทีต้องของเก่าและของแท้
    จึงจะมากด้วยอิทธิโชค"

    คนไทยเพิ่งจะเริ่มรู้จักหินทิเบต กว้างขวางขึ้นเมื่อ 2-3 ปีนี้เอง
    แต่ความจริงอิทธิพลและความเชื่อของหินทิเบต เข้าสู่แผ่นดินสุวรรณภูมิ
    แห่งนี้มาเนิ่นนานแล้ว หลากหลายเรื่องราวและประสบการณ์จากผู้ที่
    ได้สักการะบูชาหินทิเบต คุณราช รามัญ ได้เรียบเรียงเอาไว้ อย่างครบครัน ให้ได้ศึกษา<o:p></o:p>
    หินทั้งปวงที่คนโบราณนิยมนำมาทำเครื่องประดับ
    ไม่ว่าจะเป็นคนโบราณพื้นที่ใดๆในโลก ยุคใดของโลกก็ตาม
    ต่างย่อมมีที่มาและเรื่องราวที่น่าศึกษาเป็นอย่างมาก ทั้งในเชิงธรณีวิทยา และ เทวะวิทยา


    การศึกษาเรื่องของเครื่องประดับ ที่เหนือกว่าเครื่องประดับทั้งปวง
    อันอลังการอย่างหินและลูกปัด ผู้ที่ได้ครอบครองและได้ศึกษา
    ต้องถือได้ว่ามากด้วยบุญบารมี เพราะที่มาของเครื่องประดับนั้น
    ไม่ใช่ธรรมดาเลย ขอให้ติดตามอ่านด้วยความระทึก<o:p></o:p>
    รูปขนาดเล็ก <o:p></o:p>
    <?xml:namespace prefix = v ns = "urn:schemas-microsoft-com:vml" /><v:shapetype id=_x0000_t75 stroked="f" filled="f" path="m@4@5l@4@11@9@11@9@5xe" o:preferrelative="t" o:spt="75" coordsize="21600,21600"><v:stroke joinstyle="miter"></v:stroke><v:formulas><v:f eqn="if lineDrawn pixelLineWidth 0"></v:f><v:f eqn="sum @0 1 0"></v:f><v:f eqn="sum 0 0 @1"></v:f><v:f eqn="prod @2 1 2"></v:f><v:f eqn="prod @3 21600 pixelWidth"></v:f><v:f eqn="prod @3 21600 pixelHeight"></v:f><v:f eqn="sum @0 0 1"></v:f><v:f eqn="prod @6 1 2"></v:f><v:f eqn="prod @7 21600 pixelWidth"></v:f><v:f eqn="sum @8 21600 0"></v:f><v:f eqn="prod @7 21600 pixelHeight"></v:f><v:f eqn="sum @10 21600 0"></v:f></v:formulas><v:path o:connecttype="rect" gradientshapeok="t" o:extrusionok="f"></v:path><o:lock aspectratio="t" v:ext="edit"></o:lock></v:shapetype><v:shape id=_x0000_i1025 style="WIDTH: 118.5pt; HEIGHT: 225pt" o:button="t" alt="คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

    Name: scan0003.jpg
    Views: 0
    Size: 846.1 KB
    ID: 97698" type="#_x0000_t75"><v:imagedata o:href="http://palungjit.org/attachment.php?attachmentid=97698&stc=1&thumb=1&d=1158494888" src="file:///C:\DOCUME~1\winxp\LOCALS~1\Temp\msohtml1\03\clip_image001.jpg"></v:imagedata></v:shape>
    <o:p></o:p>

    หินซีบีด(DZI) ที่ฝรั่งนิยมเรียก
    บางแห่งนิยมเรียก หินทิเบต เป็นสิ่งที่มีความเกี่ยวข้อง
    กับทางด้านพุทธศาสนานิกายมหายานในวัชรญาณ
    หรือมนตรยาน

    ตำนานหินทิเบต (ซีบีด DZI BEADS)
    แม้ไม่มีการจดบันทึก แต่มีเรื่องเล่าอันเป็นตำนาน
    พื้นบ้านของทิเบต ซึ่งถือได้ว่าเป็นเอกสารพยานปากที่สำคัญ
    ที่จะทำให้เราสามารถผสานเข้าไปในหลักของประวัติศาสตร์


    และภูมิศาสตร์รวมถึงธรณีวิทยา และไม่เว้นแม้แต่เทวะวิทยา
    ได้อย่างกลมกลืน

    ทางฝ่ายตะวันตกนิยมเรียกว่า "ซีบีด" หรือ DZI BEADS
    ในเมืองไทย นิยมเรียกกันว่า หินทิเบต
    แต่ความเป็นจริงเท่าที่ได้พบในเอกสารและการบอกเล่า
    ที่มีการบันทึกเอาไว้จากคนยุคหลังๆ
    โดยเฉพาะเส้นทางที่มาจากจีน หลายท่านอาจกังขาว่า
    ในเมื่อเป็นของทิเบต ไฉนจึงมีความเกี่ยวพันกับจีน
    สาเหตุเพราะ ความผูกพันของทิเบตกับจีน มีมายาวนาน
    และคราหนึ่งจีนเคยส่งเจ้าหญิงมาเป็นมเหสีของเจ้าแห่งทิเบต
    และอาจเป็นไปได้ที่ว่าทิเบตผลิตทำขึ้นแล้วบรรณาการให้แก่จีน
    ในกาลต่อมา รวมถึงเป็นเครื่องประดับที่สามารถแลกกับผลิตผลทางการเกษตร เพื่อนำมาอุปโภคบริโภค
    อย่างที่บางท่านมีความเข้าใจว่า หินทิเบต เป็นเหมือน
    เงินตราที่สามารถแลกเปลี่ยนสินค้าได้<o:p></o:p>
    จากการที่ได้ข้อมูลเกี่ยวกับหินทิเบตมาแต่ต้นฉบับเก่า
    และคำบอกเล่าของคนทิเบต ต่างยืนยันว่า
    มีความเกี่ยวข้องกับเทพในศาสนาพราหมณ์ อย่างระทึก

    องค์ลามะในทิเบต จำนวนไม่น้อยในอดีต
    ที่มีความสามารถเยี่ยงพระอรหันต์ แม้ว่าจะไม่ได้เป็นถึงพระอรหันต์
    ตามหลักวิชาของพระพุทธศาสนา เมื่อจิตนิ่งเป็นสมาธิอย่างแรงกล้า
    ก็จะเกิดฤทธิ์ทางใจขึ้น เรียกว่า มโนมยิทธิ ไปนรกสวรรค์ก็ได้
    อย่างเช่น พระมาลัยอรหันต์ ที่ท่านไปโปรดเปรตในนรกภูมิ

    พระศิวะเจ้า ผู้เป็นเทพแห่งสวรรค์ นับได้ว่าเป็นหนึ่งในเทพทั้งสามองค์ ที่เป็นเทพใหญ่ ตามคติความเชื่อของพราหมณ์
    พระพรหม เป็นผู้บันดาลโลก ให้กำเนิดขึ้นจากฤทธิ์
    พระนารายณ์ ดูแลเรื่องธรรมชาติในธาตุสี่ ดิน น้ำ ลม ไฟ
    โดยมีเทพบริวาร คอยรับบัญชาทำหน้าที่ตามรับสั่ง
    ส่วนพระศิวะ เป็นเทพที่บันดาลให้มนุษย์ มีความสุข ความสำเร็จ
    ทุกๆประการในโลกนี้

    หิมาลัย เป็นภูเขาที่สูงและมีตำนานแห่งความเชื่อว่า เป็นที่สถิต
    ของทวยเทพทั้งปวง จุดเริ่มของตำนานหินทิเบต เชื่อว่าอยู่ที่นี่
    มีเรื่องเล่าต่อๆกันมาเป็นตำนานว่า..............................<o:p></o:p>
    __________________<o:p></o:p>
    คราหนึ่งองค์ศิวะเทพ เสด็จผ่านมาประทับ
    เหนือน่านฟ้าทิเบต แล้วเครื่องประดับอันงดงามที่กาย
    ได้ร่วงหล่นลงมา เมื่อมาถึงพื้นธรณีของทิเบต
    ก็กลายเป็นตัวหนอนที่มีขนาดกว้างยาว เท่านิ้วหัวแม่มือ
    โดยมีหัวมนคล้ายๆหัวขบวนรถไฟฟ้า ช่วงกลางลำตัว
    เป็นเส้นตรงขนานพื้น และด้านปลายก็มน
    กำลังคลานอยู่ที่พื้น ด้วยองค์ลามะไม่เคยเห็นหนอน
    ชนิดนี้มาก่อน จึงใช้จิตที่สำเร็จจากการฝึกกสิณไฟ
    เพ่งลงไป จึงทราบด้วยฤทธิ์ว่า มิใช่หนอนธรรมดาเสียแล้ว
    จึงเอาแป้งฝุ่นจากในย่ามใส่กำมือ ว่าคาถามนตรา
    แล้วเสกแป้งเป่าลงไปที่ตัวหนอน เจ้าตัวหนอนนั้นเลยแข็ง
    กลายเป็นหิน พร้อมกับมีผงแป้งขาวๆเกาะติดอยู่ทั่วทั้งตัว
    และเป็นลวดลายต่างๆ ที่ปรากฏเป็นแบบหินทิเบตนั่นเอง.

    ต่อมาเครื่องประดับขององค์พระศิวะ ไม่เคยล่วงหล่นมาอีกเลย
    ลามะจึงได้นำเอาหินชนิดหนึ่ง ที่เป็นต้นตระกูลของหยก
    เรียกว่า หยกฟ้า แต่ฝรั่งเรียกว่า อาเกต นำเอามาฝน
    ให้มีลักษณะมนเรียวยาว แล้วเขียนลวดลายลงไปบนหิน
    การเขียนด้วยสีลงไปที่หินทิเบต ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า
    เอาสีขาวของอะไรมาเขียน จึงได้ติดแน่นฝังลงไปที่เนื้อหิน
    ไม่หลุดลอกออก แม้ผ่านกาลเวลามานานนับหลายร้อยหลายพันปี

    แม้แต่การเจาะรูนั้น ก็ยังไม่ทราบว่าเขาทำกันอย่างไร
    ที่รูทั้งสองจึงได้มาทะลุถึงกันได้ ชาวตะวันตกเคยนำเอาไปพิจารณาศึกษา แล้วมีความเชื่อว่า สีที่เขียนนั้น น่าจะเป็นสีที่เกิดจากการนำเอาหลายสิ่งจากธรรมชาติมาผสมผสานกัน แต่ก็ยังไม่สามารถแยกแยะได้ว่าคืออะไร นอกจากสันนิษฐานภายในห้องทดลองว่า เป็นสีที่มีความคล้ายคลึงคาบอนน์ ที่นำเอาไปทำนิวเคลียร์
    สิ่งหนึ่งที่สังเกต รูทั้งสองข้างของหินทิเบต
    จะมีขนาดไม่เท่ากัน และรูจะไม่ตรงกัน
    เหมือนการขุดอุโมงค์ที่สามารถหยิบขึ้นมาดู
    แล้วส่องทะลุถึงกันได้เป็นทางตรง
    กลับกัน รูจะมองเห็นถึงกันแต่ไม่ตรงกัน
    นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า ต้องเจาะรูทีละข้าง
    แล้วให้ทั้งสองมาทะลุกัน

    หินทิเบต จึงเป็นเครื่องรางของขลังและเครื่องประดับ
    ขององค์ลามะไปในตัว และที่สำคัญ
    สามัญชนธรรมดาจะไม่มีสิทธิ์ที่จะได้สวมใส่
    เพราะถือเป็นของชนชั้นสูง
    ด้วยเหตุนี้ ใครที่มีหินทิเบตครอบครอง
    จึงกล่าวกันว่า เป็นผู้มีบุญบารมีและวาสนาอย่างไม่ต้องสงสัย<o:p></o:p>

    </TD></TR><TR UNSELECTABLE="on" hb_tag="1"><TD style="FONT-SIZE: 1pt" height=1 UNSELECTABLE="on">
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    หินทิเบตรูปแบบต่างๆ และคุณสมบัติ<o:p></o:p>
    รูปขนาดเล็ก <o:p></o:p>
    <v:shapetype id=_x0000_t75 stroked="f" filled="f" path="m@4@5l@4@11@9@11@9@5xe" o:preferrelative="t" o:spt="75" coordsize="21600,21600"><v:stroke joinstyle="miter"></v:stroke><v:formulas><v:f eqn="if lineDrawn pixelLineWidth 0"></v:f><v:f eqn="sum @0 1 0"></v:f><v:f eqn="sum 0 0 @1"></v:f><v:f eqn="prod @2 1 2"></v:f><v:f eqn="prod @3 21600 pixelWidth"></v:f><v:f eqn="prod @3 21600 pixelHeight"></v:f><v:f eqn="sum @0 0 1"></v:f><v:f eqn="prod @6 1 2"></v:f><v:f eqn="prod @7 21600 pixelWidth"></v:f><v:f eqn="sum @8 21600 0"></v:f><v:f eqn="prod @7 21600 pixelHeight"></v:f><v:f eqn="sum @10 21600 0"></v:f></v:formulas><v:path o:connecttype="rect" gradientshapeok="t" o:extrusionok="f"></v:path><o:lock aspectratio="t" v:ext="edit"></o:lock></v:shapetype><v:shape id=_x0000_i1025 style="WIDTH: 225pt; HEIGHT: 162.75pt" o:button="t" alt="คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

    Name: scan0005.jpg
    Views: 0
    Size: 641.5 KB
    ID: 97772" type="#_x0000_t75"><v:imagedata o:href="http://palungjit.org/attachment.php?attachmentid=97772&stc=1&thumb=1&d=1158502939" src="file:///C:\DOCUME~1\winxp\LOCALS~1\Temp\msohtml1\05\clip_image001.jpg"></v:imagedata></v:shape>
    <o:p></o:p>


    <v:shape id=_x0000_i1026 style="WIDTH: 150pt; HEIGHT: 117pt" alt="" type="#_x0000_t75"><v:imagedata o:href="http://www.iching-fengshui.com/images/DziBeads.jpg" src="file:///C:\DOCUME~1\winxp\LOCALS~1\Temp\msohtml1\05\clip_image002.jpg"></v:imagedata></v:shape>

    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <v:shape id=_x0000_i1028 style="WIDTH: 121.5pt; HEIGHT: 162pt" alt="" type="#_x0000_t75"><v:imagedata o:href="http://www.fengshuibestbuy.com/SL10377-2dzi.JPG" src="file:///C:\DOCUME~1\winxp\LOCALS~1\Temp\msohtml1\05\clip_image003.jpg"></v:imagedata></v:shape><o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    <v:shape id=_x0000_i1027 style="WIDTH: 135pt; HEIGHT: 101.25pt" alt="" type="#_x0000_t75"><v:imagedata o:href="http://www.fengshuibestbuy.com/SL10437-2dzi.JPG" src="file:///C:\DOCUME~1\winxp\LOCALS~1\Temp\msohtml1\05\clip_image004.jpg"></v:imagedata></v:shape><o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <v:shape id=_x0000_i1030 style="WIDTH: 112.5pt; HEIGHT: 145.5pt" alt="" type="#_x0000_t75"><v:imagedata o:href="http://www.matichon.co.th/newsphoto/khaosod/bud07180949p1.jpg" src="file:///C:\DOCUME~1\winxp\LOCALS~1\Temp\msohtml1\05\clip_image005.jpg"></v:imagedata></v:shape>"หินทิเบต"โบราณถือว่าเป็นหินศักดิ์สิทธิ์มีความขลังอยู่ในตัว ได้จากแนวเทือกเขาหิมาลัยหลังคาของโลก (จุดที่สูงสุดของโลก) มีคนนิยมมากกว่า 5,000 ปี เมื่อก่อนจะใช้แลกเปลี่ยนแทนเงิน-ทอง

    โดยการนำหินมาแกะลายตามหลักวัชรญาณ (ศาสนาพุทธในทิเบต) และนำไปเผาไฟเพื่อให้ลายนั้นอยู่ถาวร

    ปัจจุบันหินยิ่งเก่ายิ่งมีคุณค่ามาก มีราคาแลกบ้านแลกรถได้เลย

    เคล็ดลับ "หินทิเบต" นี้ "หลวงปู่ชุนหมิง" อายุ 97 ปี พระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งวัดกลางบางแก้ว จ.นครสวรรค์ ท่านก็รู้และรู้มานานแล้ว ด้วยปัจจุบันสบโอกาสสภาวะเศรษฐกิจไทยสมควรที่จะใช้หินทิเบต แล้วหลวงปู่จึงให้นำเข้าหินทิเบตจากประเทศทิเบตโดยตรง นำมาสร้างเป็นเครื่องรางของขลัง มอบให้ลูกศิษย์ลูกหา ซึ่งคัดเลือกแต่หินที่มีกรรมวิธีการสร้างอย่างถูกต้องสมบูรณ์ ลักษณะเป็นมงคล
    <o:p></o:p>
    <TABLE class=MsoNormalTable style="BORDER-RIGHT: white 1pt dotted; BORDER-TOP: white 1pt dotted; BORDER-LEFT: white 1pt dotted; WIDTH: 20%; BORDER-BOTTOM: white 1pt dotted; mso-cellspacing: 3.7pt; mso-border-alt: dotted white .75pt; mso-table-lspace: 2.25pt; mso-table-rspace: 2.25pt; mso-table-anchor-vertical: paragraph; mso-table-anchor-horizontal: column; mso-table-left: right; mso-table-top: middle" cellSpacing=5 cellPadding=0 width="20%" align=right border=1><TBODY><TR style="mso-yfti-irow: 0; mso-yfti-firstrow: yes; mso-yfti-lastrow: yes"><TD style="BORDER-RIGHT: white; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: white; PADDING-LEFT: 0.75pt; BACKGROUND: #ffe9ff; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BORDER-LEFT: white; PADDING-TOP: 0.75pt; BORDER-BOTTOM: white"><v:shape id=_x0000_i1031 style="WIDTH: 112.5pt; HEIGHT: 199.5pt" alt="" type="#_x0000_t75"><v:imagedata o:href="http://www.matichon.co.th/newsphoto/khaosod/bud07180949p2.jpg" src="file:///C:\DOCUME~1\winxp\LOCALS~1\Temp\msohtml1\05\clip_image006.jpg"></v:imagedata></v:shape><o:p></o:p>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    ก่อนนำออกจากประเทศทิเบตได้ทำพิธีปลุกเสกหินตามหลักมหาวัชรญาณ จากองค์ลามะในชั้นหนึ่งก่อน เพื่อเพิ่มพุทธคุณของหินที่อัศจรรย์อยู่แต่เดิม ให้มีความขลังขึ้นไปอีก

    จากนั้นหลวงปู่ทำการปลุกเสกซ้ำอีกครั้งโดยปลุกเสกในน้ำมนต์ (อาโปธาตุ) หลวงปู่เล่าถึงพลังธาตุในหินว่า "ตัวหินเป็นธาตุดินอยู่แต่เมื่อเขียนลายและเอาไปเผาจะเพิ่มธาตุไฟลงไปในหิน ส่วนธาตุลมจะไหลเข้าออกในรูตรงกลางของหินอยู่แล้ว"

    หินทิเบตจึงขาดธาตุน้ำ ท่านจึงปลุกเสกหินในน้ำมนต์ โดยแยกปลุกเสกหินแต่ละตาแต่ละลาย เพื่อเสริมพลังสมดุลธาตุให้ครบถ้วน ในหินแต่ละก้อนนั้นมีลายมากมายเช่น หิน 1 ตา (หินตาเดียว) มีอนุภาพด้านความคิดสติปัญญาเรียนหนังสือเก่งเป็นหนึ่งเหนือคน หินทิเบต 2 ตา คู่ครองความรักอายุยืนยาวครอบครัวมีความสุขชีวิตคู่สมบูรณ์ หินทิเบต 3 ตา 3 เทพเจ้าฮก-ลก-ซิ้วโชควาสนาบารมี หินทิเบต 9 ตา ร่วมพลังทั้งหมดหากินคล่องก้าวหน้าเจริญรุ่งเรื่อง มีโชคลาภหินเกี่ยวเงิน-เกี่ยวทองทำธุรกิจดี เสี่ยงโชคมีลาภมาก เงินทองไหลมาเทมา เมตตาอุปถัมภ์การงานรับราชการดีมาก เป็นต้น

    ข้อดีอีกประการของหินทิเบตคือ ช่วยให้เลือดลมไหลเวียนดี สร้างสมดุลในร่างกาย

    หินที่หลวงปู่ชุนหมิงนำมา เป็นหินที่กลางเก่ากลางใหม่ มีอายุไม่มากนัก แต่เขียนลายและเผาตามตำรับหินโบราณ หินยิ่งเก่ายิ่งมีค่าหายาก ใครมีไว้ร่ำรวยเป็นเศรษฐีกันทุกคน
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <v:shape id=_x0000_i1032 style="WIDTH: 106.5pt; HEIGHT: 30pt" alt="" type="#_x0000_t75"><v:imagedata o:href="http://www.dzipower.com/images/dzibeadscom02.gif" src="file:///C:\DOCUME~1\winxp\LOCALS~1\Temp\msohtml1\05\clip_image007.gif"></v:imagedata></v:shape>DZI.........หินทิเบต.สุดยอดมหัศจรรย์...........

    ลามะหรือพระของทิเบต นิยมการสวดมนต์เป็นอย่างมาก
    การที่ลามะสวดมนต์ไปนั้น หินทิเบตที่อยู่ตามร่างกายที่ประดับอยู่นั้น
    จะได้รับพลังมนต์นั้นไปด้วย เป็นการปลุกเสกซ้ำแล้วซ้ำเล่า อย่าง
    ไม่มีวันหยุดจนกว่าเจ้าของผู้นั้น หรือลามะผู้นั้น จะลาจากโลกนี้ไป

    <v:shape id=_x0000_i1029 style="WIDTH: 171.75pt; HEIGHT: 276pt" alt="" type="#_x0000_t75"><v:imagedata o:href="http://www.dzipower.com/images/design_r3_c3a.jpg" src="file:///C:\DOCUME~1\winxp\LOCALS~1\Temp\msohtml1\05\clip_image008.jpg"></v:imagedata></v:shape>
    เมื่อลามะผู้นั้นมีอันเป็นไป หินทิเบตที่อยู่ติดกายนั้น ก็ต้องนำเอาไปฝังไว้กับร่างของลามะ
    ด้วย ภายหลังที่ได้ค้นพบหินทิเบต ส่วนหนึ่งก็มาจาก หลุมศพของลามะต่างๆนี้ด้วย
    และมีบางส่วนที่ทำขึ้นมาใหม่ เมื่อ 500 ปีก่อน
    ความเชื่อของการสักการะหินทิเบตติดตัวนั้น
    เพื่อให้ประสบความสำเร็จในชีวิตในด้านต่างๆ
    ซึ่งในแต่ละลวดลาย ต่างก็มีความหมายอยู่
    ซึ่งล้วนเป็นสิริมงคลยิ่งนัก

    ทิเบต นับถือพุทธศาสนา ที่มากไปด้วยความเชื่อและศรัทธาพลังจิตวิญญาณและมนตราที่ขลังศักดิ์สิทธิ์ จึงเป็นเหตุที่ทำให้หินทิเบตหรือหินหยกฟ้า DZI มีความศักดิ์สิทธิ์ เพราะมาจากจิตวิญญาณที่ตั้งใจสร้างขึ้น และผู้ที่ได้หินทิเบตนี้ไปครอบครอง จึงมีแต่ความสุข สวัสดิมงคลแก่ชีวิตตลอดไป<o:p></o:p>
    __________________<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <v:shapetype id=_x0000_t75 stroked="f" filled="f" path="m@4@5l@4@11@9@11@9@5xe" o:preferrelative="t" o:spt="75" coordsize="21600,21600"><v:stroke joinstyle="miter"></v:stroke><v:formulas><v:f eqn="if lineDrawn pixelLineWidth 0"></v:f><v:f eqn="sum @0 1 0"></v:f><v:f eqn="sum 0 0 @1"></v:f><v:f eqn="prod @2 1 2"></v:f><v:f eqn="prod @3 21600 pixelWidth"></v:f><v:f eqn="prod @3 21600 pixelHeight"></v:f><v:f eqn="sum @0 0 1"></v:f><v:f eqn="prod @6 1 2"></v:f><v:f eqn="prod @7 21600 pixelWidth"></v:f><v:f eqn="sum @8 21600 0"></v:f><v:f eqn="prod @7 21600 pixelHeight"></v:f><v:f eqn="sum @10 21600 0"></v:f></v:formulas><v:path o:connecttype="rect" gradientshapeok="t" o:extrusionok="f"></v:path><o:lock aspectratio="t" v:ext="edit"></o:lock></v:shapetype><v:shape id=_x0000_i1025 style="WIDTH: 345pt; HEIGHT: 159pt" alt="" type="#_x0000_t75"><v:imagedata o:href="http://www.dzipower.com/sale/TG70003.jpg" src="file:///C:\DOCUME~1\winxp\LOCALS~1\Temp\msohtml1\06\clip_image001.jpg"></v:imagedata></v:shape>
    เขี้ยวเสือ

    <v:shape id=_x0000_i1026 style="WIDTH: 304.5pt; HEIGHT: 129pt" alt="" type="#_x0000_t75"><v:imagedata o:href="http://www.dzipower.com/sale/LT50004.jpg" src="file:///C:\DOCUME~1\winxp\LOCALS~1\Temp\msohtml1\06\clip_image003.jpg"></v:imagedata></v:shape>
    ดอกบัว


    <v:shape id=_x0000_i1027 style="WIDTH: 329.25pt; HEIGHT: 131.25pt" alt="" type="#_x0000_t75"><v:imagedata o:href="http://www.dzipower.com/sale/LM70001.jpg" src="file:///C:\DOCUME~1\winxp\LOCALS~1\Temp\msohtml1\06\clip_image004.jpg"></v:imagedata></v:shape>
    หมวกลามะ

    ลวดลายต่างๆที่ปรากฏบนเนื้อหินทิเบต ต่างก็มีความหมาย
    อันเป็นมงคลทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นหินในขนาดไหนๆก็ตาม
    หลายคนอาจสงสัยว่า ทำไมเครื่องรางของทิเบต ที่เรียกว่า
    หินทิเบต นี้ ได้ไปอยู่ในประเทศจีนก็มี ตามประวัติที่เขียนบอกเล่ากันมา

    จีนเคยเข้าไปยึดครองทิเบต เมื่อได้พบเห็นสิ่งนี้ และรู้ว่าเป็นเรื่องของสิ่งมงคล จึงน้อมนำเอาวัฒนธรรมนี้ไปด้วย พระราชวังบางปห่งของจีน จึงได้มีการนำเอาหินทิเบตมาวางเอาไว้สักการะบูชา เพราะคนจีน ถือเอาไว้เป็นคติอยู่ 3 ประการ คือ การรู้ฟ้า การรู้ดิน การรู้คน<o:p></o:p>
    __________________<o:p></o:p>
    การรู้ฟ้า หมายถึง เรื่องของดวงดาว เรื่องของเทพเจ้าบนสวรรค์ อัน เกี่ยวเนื่องกับพิธีกรรมต่างๆ

    การรู้ดิน หมายถึง การเรียนรู้เรื่องของชัยภูมิและฮวงจุ้ย

    การรู้คน หมายถึง การคบหาบุคคลการประสานงานกับบุคคล
    สิ่งใดที่เป็นเรื่องของความเป็นมงคล คนจีนจะไม่เหยียดเลยแม้แต่น้อย
    น้อมเอาไปปฏิบัติเสมอกับเป็นของตน

    ด้วยความคลาสสิคของหินทิเบต จึงต้องให้สมัญญานามว่า
    เป็นเครื่องรางแห่งความร่ำรวย เพราะในแต่ละเม็ดนั้น จะมีทั้งศาสตร์
    และศิลป์ ให้เราท่านได้ชื่นชมอย่างมิรู้เบื่อจริงๆ
    นอกจากนี้ด้วยจิตวิญญาณของผู้สร้าง ที่น้อมประจุอำนาจแห่งมนตราอันลึกลับเอาไว้ แม้ผ่านกาลเวลามากี่ร้อยกี่พันปีก็หาเสื่อมไม่ จนกลายเป็นเครื่องรางที่มีดีอยู่ในตัวเอง

    ยิ่งผู้สวมใส่ มีอารมณ์และจิตวิญญาณที่เข้าไปถึงก้นบึ้งแห่งอารมณ์
    ทั้งปวงด้วยแล้ว ยิ่งจะทำให้ตนเอง มีความอิ่มเอิบอย่างชนิดที่บอกไม่ถูก อำนาจอันเข้มขลังที่ประจุในหินทิเบต หาใช่ธรรมดาอย่างที่เราคาดคิดกัน ทันมีมากจนเกินบรรยาย ปรารถนาสิ่งใดอธิษฐานขอ ยิ่งผู้นั้น
    เป็นผู้สัมมาชีพโดยชอบด้วยแล้ว ย่อมสมปฤดีอย่างง่ายโดยพลันจริงๆ

    หินทิเบตแต่ละเม็ดแต่ละลาย ย่อมมีความหมายที่แตกต่างกันออกไป
    ดังที่เราได้เห็นจากในภาพแล้ว ทุกอย่างอยู่ที่ความเหมาะสมและอยู่ที่
    แรงปรารถนาว่าแรงกล้าเพียงไหน ของแต่ละบุคคล
    การที่คนมีเงิน ความจริงแล้วจะไปซื้อหาของสิ่งใดย่อมได้สมประสงค์
    จะซื้อทองซื้อเพชร หาซื้อได้ทั่วไป แต่มีเงินแล้ว จะหาซื้อหินสักเม็ด
    ที่งามๆลึกๆ บางครั้งเอาเงินไปกองตรงหน้าเจ้าของหิน เป็นล้าน
    เขาก็ไม่ยอมขาย หรือบางคนมีเงินแล้ว พอชวนให้ไปดูหิน กลับมองเป็น
    เรื่องไร้ค่าไร้สาระก็มี
    ffice<v:shapetype id=_x0000_t75 stroked="f" filled="f" path="m@4@5l@4@11@9@11@9@5xe" o:preferrelative="t" o:spt="75" coordsize="21600,21600"> <v:stroke joinstyle="miter"></v:stroke><v:formulas><v:f eqn="if lineDrawn pixelLineWidth 0"></v:f><v:f eqn="sum @0 1 0"></v:f><v:f eqn="sum 0 0 @1"></v:f><v:f eqn="prod @2 1 2"></v:f><v:f eqn="prod @3 21600 pixelWidth"></v:f><v:f eqn="prod @3 21600 pixelHeight"></v:f><v:f eqn="sum @0 0 1"></v:f><v:f eqn="prod @6 1 2"></v:f><v:f eqn="prod @7 21600 pixelWidth"></v:f><v:f eqn="sum @8 21600 0"></v:f><v:f eqn="prod @7 21600 pixelHeight"></v:f><v:f eqn="sum @10 21600 0"></v:f></v:formulas><v:path o:connecttype="rect" gradientshapeok="t" o:extrusionok="f"></v:path><o:lock aspectratio="t" v:ext="edit"></o:lock></v:shapetype><v:shape id=_x0000_i1025 style="WIDTH: 14.25pt; HEIGHT: 14.25pt" alt="" type="#_x0000_t75"><v:imagedata o:href="http://www.palungjit.org/board/images/smilies/omg-smile.gif" src="file:///C:\DOCUME~1\winxp\LOCALS~1\Temp\msohtml1\08\clip_image001.gif"></v:imagedata></v:shape>ffice" /><O<v:shape id=_x0000_i1026 style="WIDTH: 14.25pt; HEIGHT: 14.25pt" alt="" type="#_x0000_t75"> <v:imagedata o:href="http://www.palungjit.org/board/images/smilies/tongue-smile.gif" src="file:///C:\DOCUME~1\winxp\LOCALS~1\Temp\msohtml1\08\clip_image002.gif"></v:imagedata></v:shape>></O<v:shape id=_x0000_i1027 style="WIDTH: 14.25pt; HEIGHT: 14.25pt" alt="" type="#_x0000_t75"> <v:imagedata o:href="http://www.palungjit.org/board/images/smilies/tongue-smile.gif" src="file:///C:\DOCUME~1\winxp\LOCALS~1\Temp\msohtml1\08\clip_image002.gif"></v:imagedata></v:shape>>
    ความศรัทธาอย่างเข้าใจมักจะเกิดปัญญากว่าการศรัทธาแบบความเชื่อ
    เพราะจะตามมาด้วยความงมงาย นักธุรกิจน้อยใหญ่ในเมืองไทย
    รวมไปถึงนักแสดง นักร้องจำนวนมาก เมื่อสวมใส่หินทิเบตแล้ว
    ต่างประสบความสำเร็จกันทั่วหน้า
    <O<v:shape id=_x0000_i1028 style="WIDTH: 14.25pt; HEIGHT: 14.25pt" alt="" type="#_x0000_t75"> <v:imagedata o:href="http://www.palungjit.org/board/images/smilies/tongue-smile.gif" src="file:///C:\DOCUME~1\winxp\LOCALS~1\Temp\msohtml1\08\clip_image002.gif"></v:imagedata></v:shape>></O<v:shape id=_x0000_i1029 style="WIDTH: 14.25pt; HEIGHT: 14.25pt" alt="" type="#_x0000_t75"> <v:imagedata o:href="http://www.palungjit.org/board/images/smilies/tongue-smile.gif" src="file:///C:\DOCUME~1\winxp\LOCALS~1\Temp\msohtml1\08\clip_image002.gif"></v:imagedata></v:shape>>
    ในปัจจุบัน หากถามว่าหินทิเบตยังคงมีการสร้างอยู่อีกหรือไม่
    ตอบได้เลยทันทีว่า ยังคงมีการสร้างกันอยู่อย่างต่อเนื่อง แต่ทว่าเป็นของใหม่
    แต่หินที่นักนิยมสะสมชื่นชอบและหลงใหลนั้น จะเป็นหินเก่าเสียมากกว่าของใหม่
    คงจะอุปมาอุปมัยได้ไม่ต่างจากการสร้างพระเครื่องในประเทศไทย
    ที่มีการสร้างกันอย่างต่อเนื่อง ของอาจารย์หลายสำนัก ในรูปแบบที่คล้ายกัน เป็นต้น
    <O<v:shape id=_x0000_i1030 style="WIDTH: 14.25pt; HEIGHT: 14.25pt" alt="" type="#_x0000_t75"> <v:imagedata o:href="http://www.palungjit.org/board/images/smilies/tongue-smile.gif" src="file:///C:\DOCUME~1\winxp\LOCALS~1\Temp\msohtml1\08\clip_image002.gif"></v:imagedata></v:shape>></O<v:shape id=_x0000_i1031 style="WIDTH: 14.25pt; HEIGHT: 14.25pt" alt="" type="#_x0000_t75"> <v:imagedata o:href="http://www.palungjit.org/board/images/smilies/tongue-smile.gif" src="file:///C:\DOCUME~1\winxp\LOCALS~1\Temp\msohtml1\08\clip_image002.gif"></v:imagedata></v:shape>>
    อำนาจอันเป็นอำนาจอันบริสุทธิ์และลึกลับที่อยู่ในหินนั้น มีอานุภาพมาก มากจริงๆ เกินที่จะบรรยายออกมาเป็นคำพูด หลายคนอาจจะสงสัยว่า อำนาจที่ว่านี้ เป็นอำนาจแห่งพลังอะไรกันแน่
    จึงต้องขอเกริ่นกล่าวถึงที่มาของอำนาจต่างๆ ให้ได้เข้าใจว่า ที่มาของอำนาจนั้น
    มีที่มาจากหลายแนวทางด้วยกัน ซึ่งมีความเกี่ยวเนื่องทั้งแบบธรณีวิทยา
    และเทวะวิทยาควบคู่กันอย่างน่าทึ่งทีเดียว

    หินทิเบตแต่ละเม็ดแต่ละลาย ย่อมมีความหมายที่แตกต่างกันออกไป
    ดังที่เราได้เห็นจากในภาพแล้ว ทุกอย่างอยู่ที่ความเหมาะสมและอยู่ที่
    แรงปรารถนาว่าแรงกล้าเพียงไหน ของแต่ละบุคคล
    การที่คนมีเงิน ความจริงแล้วจะไปซื้อหาของสิ่งใดย่อมได้สมประสงค์
    จะซื้อทองซื้อเพชร หาซื้อได้ทั่วไป แต่มีเงินแล้ว จะหาซื้อหินสักเม็ด
    ที่งามๆลึกๆ บางครั้งเอาเงินไปกองตรงหน้าเจ้าของหิน เป็นล้าน
    เขาก็ไม่ยอมขาย หรือบางคนมีเงินแล้ว พอชวนให้ไปดูหิน กลับมองเป็น
    เรื่องไร้ค่าไร้สาระก็มี

    ความศรัทธาอย่างเข้าใจมักจะเกิดปัญญากว่าการศรัทธาแบบความเชื่อ
    เพราะจะตามมาด้วยความงมงาย นักธุรกิจน้อยใหญ่ในเมืองไทย
    รวมไปถึงนักแสดง นักร้องจำนวนมาก เมื่อสวมใส่หินทิเบตแล้ว
    ต่างประสบความสำเร็จกันทั่วหน้า

    ในปัจจุบัน หากถามว่าหินทิเบตยังคงมีการสร้างอยู่อีกหรือไม่
    ตอบได้เลยทันทีว่า ยังคงมีการสร้างกันอยู่อย่างต่อเนื่อง แต่ทว่าเป็นของใหม่
    แต่หินที่นักนิยมสะสมชื่นชอบและหลงใหลนั้น จะเป็นหินเก่าเสียมากกว่าของใหม่
    คงจะอุปมาอุปมัยได้ไม่ต่างจากการสร้างพระเครื่องในประเทศไทย
    ที่มีการสร้างกันอย่างต่อเนื่อง ของอาจารย์หลายสำนัก ในรูปแบบที่คล้ายกัน เป็นต้น

    อำนาจอันเป็นอำนาจอันบริสุทธิ์และลึกลับที่อยู่ในหินนั้น มีอานุภาพมาก มากจริงๆ เกินที่จะบรรยายออกมาเป็นคำพูด หลายคนอาจจะสงสัยว่า อำนาจที่ว่านี้ เป็นอำนาจแห่งพลังอะไรกันแน่
    จึงต้องขอเกริ่นกล่าวถึงที่มาของอำนาจต่างๆ ให้ได้เข้าใจว่า ที่มาของอำนาจนั้น
    มีที่มาจากหลายแนวทางด้วยกัน ซึ่งมีความเกี่ยวเนื่องทั้งแบบธรณีวิทยา
    และเทวะวิทยาควบคู่กันอย่างน่าทึ่งทีเดียว

    ที่มาของพลังอำนาจอันลึกลับในหินทิเบต
    ffice<v:shapetype id=_x0000_t75 stroked="f" filled="f" path="m@4@5l@4@11@9@11@9@5xe" o:preferrelative="t" o:spt="75" coordsize="21600,21600"> <v:stroke joinstyle="miter"></v:stroke><v:formulas><v:f eqn="if lineDrawn pixelLineWidth 0"></v:f><v:f eqn="sum @0 1 0"></v:f><v:f eqn="sum 0 0 @1"></v:f><v:f eqn="prod @2 1 2"></v:f><v:f eqn="prod @3 21600 pixelWidth"></v:f><v:f eqn="prod @3 21600 pixelHeight"></v:f><v:f eqn="sum @0 0 1"></v:f><v:f eqn="prod @6 1 2"></v:f><v:f eqn="prod @7 21600 pixelWidth"></v:f><v:f eqn="sum @8 21600 0"></v:f><v:f eqn="prod @7 21600 pixelHeight"></v:f><v:f eqn="sum @10 21600 0"></v:f></v:formulas><v:path o:connecttype="rect" gradientshapeok="t" o:extrusionok="f"></v:path><o:lock aspectratio="t" v:ext="edit"></o:lock></v:shapetype><v:shape id=_x0000_i1025 style="WIDTH: 14.25pt; HEIGHT: 14.25pt" alt="" type="#_x0000_t75"><v:imagedata o:href="http://www.palungjit.org/board/images/smilies/omg-smile.gif" src="file:///C:\DOCUME~1\winxp\LOCALS~1\Temp\msohtml1\13\clip_image001.gif"></v:imagedata></v:shape>ffice" /><O<v:shape id=_x0000_i1026 style="WIDTH: 14.25pt; HEIGHT: 14.25pt" alt="" type="#_x0000_t75"> <v:imagedata o:href="http://www.palungjit.org/board/images/smilies/tongue-smile.gif" src="file:///C:\DOCUME~1\winxp\LOCALS~1\Temp\msohtml1\13\clip_image002.gif"></v:imagedata></v:shape>></O<v:shape id=_x0000_i1027 style="WIDTH: 14.25pt; HEIGHT: 14.25pt" alt="" type="#_x0000_t75"> <v:imagedata o:href="http://www.palungjit.org/board/images/smilies/tongue-smile.gif" src="file:///C:\DOCUME~1\winxp\LOCALS~1\Temp\msohtml1\13\clip_image002.gif"></v:imagedata></v:shape>>
    การมองและวิธีคิดของคนนั้น อาจจะมีความแตกต่างกันออกไป
    สุดแท้แต่จุดยืนและประสบการณ์ รวมไปถึงความรู้และความชื่นชอบ
    มีความเชื่อดั้งเดิมกันว่า การที่จะนำเอาหินในแต่ละเม็ดมาทำการสร้างนั้น
    จะต้องมีการวัดค่าของพลังในตัวหินนั้นก่อนด้วย หากหินมีพลังมาก
    ก็จะนำไปสร้างเป็นหินที่มีตามากตา เช่น 10 ตา 12 ตา 15 ตา เป็นต้น

    หินที่นำมาสร้างเป็นเครื่องราง ที่เรียกว่าหินทิเบตนี้ ได้นำเอามาจากภูเขาหิมาลัย
    ทั้งในบริเวณเทือกเขาและบริเวณโดยรอบภูเขาหิมาลัย เป็นภูเขาที่สูงและยาว
    ครอบคลุมเนื้อที่หลายประเทศ แต่ส่วนยอดของเขา อยู่ในเนปาล ชาวฮินดูเชื่อกันว่า
    ต้นทางแห่งแม่น้ำคงคาไหลมาจากยอดเขาหิมาลัย แม่น้ำคงคาจึงเป็นแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์
    มีการทำพิธีกรรมทุกปี และยังมีพิธีกรรม การเดินไปให้ถึงตาน้ำ ที่อยู่เกือบถึงยอดเขา
    หิมาลัย เพื่อไปอาบตาน้ำแห่งนั้น
    ชาวฮินดูเชื่อมั่นกันว่าภูเขาหิมาลัย เป็นที่สถิตของเหล่าทวยเทพทั้งปวง ด้วยเหตุว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์นี้แล ลามะจึงต้องเอาหินจากหิมาลัยนี้ มาทำเครื่องราง อย่าลืมว่า
    พุทธศาสนาในทิเบต ได้ผสมผสาน ระหว่างพุทธและฮินดูหรือพราหมณ์
    เอาไว้อย่างกลมกลืน เหมือนกับเขมร เรื่องความศักดิ์สิทธิ์ ของขลังของเขมร
    จึงมีมากไม่พ่ายต่างจากทิเบต

    O<v:shapetype id=_x0000_t75 stroked="f" filled="f" path="m@4@5l@4@11@9@11@9@5xe" o:preferrelative="t" o:spt="75" coordsize="21600,21600"> <v:stroke joinstyle="miter"></v:stroke><v:formulas><v:f eqn="if lineDrawn pixelLineWidth 0"></v:f><v:f eqn="sum @0 1 0"></v:f><v:f eqn="sum 0 0 @1"></v:f><v:f eqn="prod @2 1 2"></v:f><v:f eqn="prod @3 21600 pixelWidth"></v:f><v:f eqn="prod @3 21600 pixelHeight"></v:f><v:f eqn="sum @0 0 1"></v:f><v:f eqn="prod @6 1 2"></v:f><v:f eqn="prod @7 21600 pixelWidth"></v:f><v:f eqn="sum @8 21600 0"></v:f><v:f eqn="prod @7 21600 pixelHeight"></v:f><v:f eqn="sum @10 21600 0"></v:f></v:formulas><v:path o:connecttype="rect" gradientshapeok="t" o:extrusionok="f"></v:path><o:lock aspectratio="t" v:ext="edit"></o:lock></v:shapetype><v:shape id=_x0000_i1025 style="WIDTH: 14.25pt; HEIGHT: 14.25pt" alt="" type="#_x0000_t75"><v:imagedata o:href="http://www.palungjit.org/board/images/smilies/tongue-smile.gif" src="file:///C:\DOCUME~1\winxp\LOCALS~1\Temp\msohtml1\16\clip_image001.gif"></v:imagedata></v:shape>><v:shape id=_x0000_i1026 style="WIDTH: 252pt; HEIGHT: 112.5pt" alt="" type="#_x0000_t75"> <v:imagedata o:href="http://www.dzipower.com/sale/RY20017.jpg" src="file:///C:\DOCUME~1\winxp\LOCALS~1\Temp\msohtml1\16\clip_image002.jpg"></v:imagedata></v:shape><v:shape id=_x0000_i1027 style="WIDTH: 281.25pt; HEIGHT: 112.5pt" alt="" type="#_x0000_t75"><v:imagedata o:href="http://www.dzipower.com/sale/SW20013.jpg" src="file:///C:\DOCUME~1\winxp\LOCALS~1\Temp\msohtml1\16\clip_image003.jpg"></v:imagedata></v:shape></O<v:shape id=_x0000_i1028 style="WIDTH: 14.25pt; HEIGHT: 14.25pt" alt="" type="#_x0000_t75"> <v:imagedata o:href="http://www.palungjit.org/board/images/smilies/tongue-smile.gif" src="file:///C:\DOCUME~1\winxp\LOCALS~1\Temp\msohtml1\16\clip_image001.gif"></v:imagedata></v:shape>><o:p></o:p>
    __________________<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    <v:shape id=_x0000_i1029 style="WIDTH: 150pt; HEIGHT: 112.5pt" alt="" type="#_x0000_t75"><v:imagedata o:href="http://www.dzipower.com/images/Tibet04w.jpg" src="file:///C:\DOCUME~1\winxp\LOCALS~1\Temp\msohtml1\16\clip_image004.jpg"></v:imagedata></v:shape>โปตาลา(Potala)..................ทิเบต
    (จากภาพถ่าย)

    ในทางวิทยาศาสตร์ ได้นำเอาหินทิเบต ไปตรวจดู ปรากฏว่า
    นอกจากหินที่นำมาทำเครื่องรางที่ได้จากหิมาลัยโดยรอบและบริเวณ
    ใกล้เคียงในพื้นที่ของทิเบตนั้น แต่ละก้อนล้วนมีค่าในการวัต ของทางวิทยาศาสตร์
    แกร่งและแข็งมากราวๆ 7-8.5 เชื่อว่าเป็นน้ำในภูเขาไฟมาก่อนและแห้งแข็งตัว
    เป็นหิน คราหลังยังระบุด้วยว่าหินทิเบต คล้ายกับหินบนดาวอังคาร เนื้อในของหินนั้น
    มีสารแมงกานีสและสารแมกนีเซียม โดยตามความเชื่อ เขาเชื่อว่า สามารถบำบัดสุขภาพ
    ได้ และเลิศในทางการเงินการงานได้ ตามคตินิยมของคนทิเบต
    ffice<v:shape id=_x0000_i1030 style="WIDTH: 14.25pt; HEIGHT: 14.25pt" alt="" type="#_x0000_t75"> <v:imagedata o:href="http://www.palungjit.org/board/images/smilies/omg-smile.gif" src="file:///C:\DOCUME~1\winxp\LOCALS~1\Temp\msohtml1\16\clip_image005.gif"></v:imagedata></v:shape>ffice" /><O<v:shape id=_x0000_i1031 style="WIDTH: 14.25pt; HEIGHT: 14.25pt" alt="" type="#_x0000_t75"> <v:imagedata o:href="http://www.palungjit.org/board/images/smilies/tongue-smile.gif" src="file:///C:\DOCUME~1\winxp\LOCALS~1\Temp\msohtml1\16\clip_image001.gif"></v:imagedata></v:shape>></O<v:shape id=_x0000_i1032 style="WIDTH: 14.25pt; HEIGHT: 14.25pt" alt="" type="#_x0000_t75"> <v:imagedata o:href="http://www.palungjit.org/board/images/smilies/tongue-smile.gif" src="file:///C:\DOCUME~1\winxp\LOCALS~1\Temp\msohtml1\16\clip_image001.gif"></v:imagedata></v:shape>>
    นอกจากนี้หินทิเบตทุกเม็ด ลามะได้นำเอามาสวดมนต์ ปลุกเสกปะจุพลังลงไป
    อย่างชนิดที่เรียกได้ว่า เข้มขลัง
    มีเรื่องเล่ากันว่า ระหว่างที่เขียนลวดลายลงไปบนหินนั้น จะต้องมีพิธีสวดมนต์ด้วย สวดไปเขียนไป
    เหมือนกับพระสงฆ์บ้านเรา ที่มือจารตะกรุดไปปากก็ว่าคาถาไป แล้วเมื่อได้ครบจำนวนหนึ่ง
    ก็นำมาปลุกเสกตามฤกษ์ยามอีกคราว
    <O<v:shapetype id=_x0000_t75 stroked="f" filled="f" path="m@4@5l@4@11@9@11@9@5xe" o:preferrelative="t" o:spt="75" coordsize="21600,21600"> <v:stroke joinstyle="miter"></v:stroke><v:formulas><v:f eqn="if lineDrawn pixelLineWidth 0"></v:f><v:f eqn="sum @0 1 0"></v:f><v:f eqn="sum 0 0 @1"></v:f><v:f eqn="prod @2 1 2"></v:f><v:f eqn="prod @3 21600 pixelWidth"></v:f><v:f eqn="prod @3 21600 pixelHeight"></v:f><v:f eqn="sum @0 0 1"></v:f><v:f eqn="prod @6 1 2"></v:f><v:f eqn="prod @7 21600 pixelWidth"></v:f><v:f eqn="sum @8 21600 0"></v:f><v:f eqn="prod @7 21600 pixelHeight"></v:f><v:f eqn="sum @10 21600 0"></v:f></v:formulas><v:path o:connecttype="rect" gradientshapeok="t" o:extrusionok="f"></v:path><o:lock aspectratio="t" v:ext="edit"></o:lock></v:shapetype><v:shape id=_x0000_i1025 style="WIDTH: 14.25pt; HEIGHT: 14.25pt" alt="" type="#_x0000_t75"><v:imagedata o:href="http://www.palungjit.org/board/images/smilies/tongue-smile.gif" src="file:///C:\DOCUME~1\winxp\LOCALS~1\Temp\msohtml1\17\clip_image001.gif"></v:imagedata></v:shape>></O<v:shape id=_x0000_i1026 style="WIDTH: 14.25pt; HEIGHT: 14.25pt" alt="" type="#_x0000_t75"> <v:imagedata o:href="http://www.palungjit.org/board/images/smilies/tongue-smile.gif" src="file:///C:\DOCUME~1\winxp\LOCALS~1\Temp\msohtml1\17\clip_image001.gif"></v:imagedata></v:shape>>
    ด้วยฤกษ์ยามการสร้างที่ดีนี้แล จึงทำให้หินทิเบต มีความขลังศักดิ์สิทธิ์
    เช่นเดียวกับพระเครื่องพระกริ่งของทิเบต เมื่อสร้างเสร็จ หินบางเม็ด
    ลามะก็นำเอามาสวมใส่เอง และนำมาสวดมนต์ด้วยทุกวัน
    จึงเป็นหินที่มีความขลังมากเป็นพิเศษ เกินที่จะบรรยาย และผู้ใด
    มาได้หินเม็ดที่ลามะไปใช้ ยิ่งจะหวงแหน เพราะถือว่าเป็นของล้ำค่า
    หายากมากๆ ราคาไม่ต้องพูดถึง แพงหูดับตับไหม้<O<v:shape id=_x0000_i1027 style="WIDTH: 14.25pt; HEIGHT: 14.25pt" alt="" type="#_x0000_t75"> <v:imagedata o:href="http://www.palungjit.org/board/images/smilies/tongue-smile.gif" src="file:///C:\DOCUME~1\winxp\LOCALS~1\Temp\msohtml1\17\clip_image001.gif"></v:imagedata></v:shape>></O<v:shape id=_x0000_i1028 style="WIDTH: 14.25pt; HEIGHT: 14.25pt" alt="" type="#_x0000_t75"> <v:imagedata o:href="http://www.palungjit.org/board/images/smilies/tongue-smile.gif" src="file:///C:\DOCUME~1\winxp\LOCALS~1\Temp\msohtml1\17\clip_image001.gif"></v:imagedata></v:shape>><o:p></o:p>
    หินทิเบตทุกเม็ด จะมีพลังชี่ พลังนี้เกิดจากการสวดมนต์
    การสร้างด้วยจิตอันแน่วแน่บริสุทธิ์และเนื้อหินที่มีความศักดิ์สิทธิ์
    พลังชี่ เป็นพลังที่มีอานุภาพสูง สามารถบันดาลโชคลาภ
    การเงินการงาน และบำบัดโรค ได้อย่างอัศจรรย์

    ใครที่เคยเรียน ศาสตร์ของ ฮวงจุ้ย จะต้องรู้จักพลังชี่ เป็นอย่างดี
    จึงไม่ใช่เป็นเรื่องที่น่าสงสัยอีกต่อไปว่า ทำไม เมื่อได้บูชาสักการะหินทิเบต
    แล้วย่อมจะมีแต่ความเป็นสิริมงคล และความเจริญโภคทรัพย์มาสู่ในชีวิต
    ของเราท่านทั้งหลายทั้งปวง

    พลังของหินทิเบต ไม่เคยคิดทำร้ายผู้บูชาเลย เว้นเสียแต่ว่าผู้นั้น เป็นคน
    ที่มีพฤติกรรมไปในทางทุจริตต่อสัมมาอาชีพ หรือประกอบอาชีพอบายมุข
    ทั้งปวง บอกเลยว่า กลุ่มประกอบการอาชีพอบายมุขและคนที่ประพฤติทุจริต
    อย่าได้นำเอาไปสวมใส่เป็นอันขาด เพราะพลังจากหินนั้น จะไม่ส่งผลอันใดเกื้อหนุนเลย
    แม้แต่น้อย เหมือนกับห้อยหินเปล่าๆ นอกจากนี้ ลวดลายของหินทิเบต
    ที่ปรากฏ นับได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ก่อให้เกิด อำนาจพลังชี่อันศักดิ์สิทธิ์ขึ้นแก่ผู้ที่สวม



    เมื่อได้หินแล้วปฏิบัติอย่างไร?

    เมื่อได้หินทิเบตเก่าและแท้มาบูชาแล้ว ต้องปฏิบัติอย่างไรบ้าง
    จึงจะมีความศักดิ์สิทธิ์ เป็นเรื่องที่หลายคนอยากจะรู้ และไม่เคยมี
    ผู้ใดหยิบยกเอาหัวข้อนี้มาเขียนถึงมากเท่าไหร่นัก

    เบื้องต้นเมื่อได้หินมาแล้ว เราต้องแสดงถึงความเป็นเจ้าของก่อน
    ลักษณะของการแสดงตัวเป็นเจ้าของนั้น ไม่แตกต่างจากเรื่องของโลกวิญญาณ เวลามนุษย์ที่จะมาเกิด หรือตายไปใหม่ๆ มีความเชื่อกันว่า
    จะต้องได้กินผลไม้ชนิดหนึ่ง เรียกกันว่า "ผลมะลืม" กินเพื่อให้ลืมอดีตชาติว่า เคยเกิดเป็นใคร มาจากไหน เป็นต้น

    หินทิเบตเป็นของเก่า และหินแต่ละเม็ดย่อมมีความผูกพันกับอดีต คือเจ้าของเดิม ที่เคยนำเอาไปบูชา ดังนั้นการซึมซับความรู้สึกจากเจ้าของเดิม ย่อมจะลงไปในเนื้อหินด้วย เขาจึงแนะนำกันต่อๆมาว่า ควรที่จะแสดงตนเป็นเจ้าของ เพื่อให้หินนี้ลืมอดีต
    บางคนที่ไม่ได้ทำให้หินลืมอดีต พอสวมใส่แล้ว มีความรู้สึกคล้ายๆกับว่า ตนเองนอนหลับแล้ว ได้ยินเสียงของการภาวนา สวดมนต์อยู่ตลอดเวลา หรือได้นิมิตฝันเห็นเหตุการณ์อะไรเมื่อในอดีตของหิน ซึ่งเหลือเชื่อเป็นเรื่องแปลกมาก

    การล้างอดีตให้หิน เป็นการแสดงตนเพื่อเป็นเจ้าของในชาตินี้ ทำได้โดย
    เมื่อได้หินทิเบตมาแล้ว ให้นำเอาหินนั้นใส่ในอุ้งมือ จากนั้นเปิดน้ำก็อก
    ให้ไหลลงมาที่มือเบาๆ สักประมาณ 3 นาที เช็ดทำความสะอาด จึงกำใส่มือ อธิษฐาน.................
    ................"บัดนี้ ข้าพเจ้าเป็นเจ้าของท่านแล้ว ขอให้มาอยู่ด้วยกัน
    เพื่อปกป้องคุ้มครองและอวยชัยให้พรสมบูรณ์ด้วย โภคทรัพย์และแคล้วคลาดจากโรคภัย อันตรายใดๆทั้งปวงเทอญ".........................

    แล้วนำเอาหินมาถูสัมผัสผิวเนื้อตัวของเรา สักครู่จึงนำเอาน้ำใส่ในภาชนะที่มีลักษณะเป็นรูปขัน เล็กหรือใหญ่ตามแต่ความเหมาะสม
    แล้วใส่น้ำพอประมาณ นำเอาหินทิเบตลงไปแช่ ประมาณ ครึ่งวัน
    เป็นการทำให้เขาลืมอดีตอย่างสนิท และพร้อมกันนั้น เป็นการแสดงถึง
    ความเป็นเจ้าของด้วย<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    เมื่อนำเอาหินมาสวมใส่บูชาแล้ว นับแต่นี้
    หินจะค่อยๆซึมซับความเป็นตัวของเราลงไป
    ในจิตวิญญาณของเขาเอง
    เรานิสัยอย่างไร หินเม็ดนั้น
    ก็มีนิสัยเยี่ยงนั้นด้วย
    และเขาจะคอยดูแลเราอย่างใกล้ชิด
    ยิ่งกว่ามีทหารคนสนิทคอยดูแล

    ที่สำคัญการสวมใส่ในครั้งแรกนั้น
    ต้องอธิษฐานจิตก่อนว่า
    ขอให้มาอยู่กับเรา ทั้งรูปธรรม นามธรรม(จิตวิญญาณ)
    เป็นสิ่งสำคัญมาก
    บางคนไม่เข้าใจ นำเอามาสวมใส่
    โดยไม่กระทำอะไรเลย ก็เท่ากับว่า
    หินเม็ดนั้น ไม่ได้ลืมอดีต

    หรือบางคน อาจนำไปแช่น้ำจริง
    แต่ไม่ได้อธิษฐานบอกกล่าวอะไร
    หินเม็ดนั้นก็มีเพียงรูปธรรมที่อยู่คู่
    กับเรา แต่เรื่องของจิตวิญญาณ
    หรือนามธรรมนั้น ล่องลอยไปในธาตุทั้งหก
    จนหมดสิ้น ลักษณะอย่างนี้ คล้องบูชาไปก็คงเท่านั้น
    <v:shapetype id=_x0000_t75 stroked="f" filled="f" path="m@4@5l@4@11@9@11@9@5xe" o:preferrelative="t" o:spt="75" coordsize="21600,21600"><v:stroke joinstyle="miter"></v:stroke><v:formulas><v:f eqn="if lineDrawn pixelLineWidth 0"></v:f><v:f eqn="sum @0 1 0"></v:f><v:f eqn="sum 0 0 @1"></v:f><v:f eqn="prod @2 1 2"></v:f><v:f eqn="prod @3 21600 pixelWidth"></v:f><v:f eqn="prod @3 21600 pixelHeight"></v:f><v:f eqn="sum @0 0 1"></v:f><v:f eqn="prod @6 1 2"></v:f><v:f eqn="prod @7 21600 pixelWidth"></v:f><v:f eqn="sum @8 21600 0"></v:f><v:f eqn="prod @7 21600 pixelHeight"></v:f><v:f eqn="sum @10 21600 0"></v:f></v:formulas><v:path o:connecttype="rect" gradientshapeok="t" o:extrusionok="f"></v:path><o:lock aspectratio="t" v:ext="edit"></o:lock></v:shapetype><v:shape id=_x0000_i1025 style="WIDTH: 106.5pt; HEIGHT: 30pt" alt="" type="#_x0000_t75"><v:imagedata o:href="http://www.dzipower.com/images/dzibeadscom02.gif" src="file:///C:\DOCUME~1\winxp\LOCALS~1\Temp\msohtml1\22\clip_image001.gif"></v:imagedata></v:shape><o:p></o:p>

    <o:p> </o:p>
    <v:shapetype id=_x0000_t75 stroked="f" filled="f" path="m@4@5l@4@11@9@11@9@5xe" o:preferrelative="t" o:spt="75" coordsize="21600,21600"><v:stroke joinstyle="miter"></v:stroke><v:formulas><v:f eqn="if lineDrawn pixelLineWidth 0"></v:f><v:f eqn="sum @0 1 0"></v:f><v:f eqn="sum 0 0 @1"></v:f><v:f eqn="prod @2 1 2"></v:f><v:f eqn="prod @3 21600 pixelWidth"></v:f><v:f eqn="prod @3 21600 pixelHeight"></v:f><v:f eqn="sum @0 0 1"></v:f><v:f eqn="prod @6 1 2"></v:f><v:f eqn="prod @7 21600 pixelWidth"></v:f><v:f eqn="sum @8 21600 0"></v:f><v:f eqn="prod @7 21600 pixelHeight"></v:f><v:f eqn="sum @10 21600 0"></v:f></v:formulas><v:path o:connecttype="rect" gradientshapeok="t" o:extrusionok="f"></v:path><o:lock aspectratio="t" v:ext="edit"></o:lock></v:shapetype><v:shape id=_x0000_i1025 style="WIDTH: 252pt; HEIGHT: 112.5pt" alt="" type="#_x0000_t75"><v:imagedata o:href="http://www.dzipower.com/sale/RY20017.jpg" src="file:///C:\DOCUME~1\winxp\LOCALS~1\Temp\msohtml1\23\clip_image001.jpg"></v:imagedata></v:shape>หรูยี่

    การเพิ่มพลังให้แก่จิตวิญญาณในหินนั้น
    เป็นอีกสิ่งหนึ่งสำคัญเหมือนกัน คงไม่ต่างจาก
    ที่เราบูชาพระเครื่อง แต่เราไม่เคยคิดที่จะสวดมนต์
    หรือท่องมนต์อะไรเลย การเพิ่มพลังให้แก่หินนั้น
    เริ่มจากในคืนวันที่พระจันทร์เต็มดวง ขึ้น 15 ค่ำ
    ให้นำเอาหินวางบนโต๊ะขนาดเล็กๆ ให้พ้นจากหลังคาบ้าน
    เพื่อตากพระจันทร์ เป็นการเพิ่มพลังให้แก่หินทางหนึ่ง
    หินเขาจะซึมซับเอาพลังจากดวงจันทร์มาสู่ตัวของเขาเอง

    เพราะอย่าลืมว่า การเป็นธรรมชาติของหินโดยสมบูรณ์นั้น
    จะต้องถูกการทับถมของซากพืชซากสัตว์กี่ร้อยพันล้านปี
    และต้องถูกดวงอาทิตย์ส่อง และดวงจันทร์ส่อง นานอีกกี่ปี
    จึงได้มาเป็นหินอย่างที่เราท่านได้เห็นและรู้จัก ไม่ว่าจะเป็น
    หินอะไร ชนิดไหนก็ตาม

    ในตอนกลางวัน หากเราสวมใส่ปกติทุกวัน ก็เท่ากับว่า
    หินนี้ได้ซึมซับ ทั้งความเป็นตัวเรา และเมื่อเราเดินผ่าน
    ภายใต้แสงอาทิตย์ เขาก็ได้ซึมซับ เอาพลังจากแสงอาทิตย์
    ไปด้วย โดยที่เราไม่ต้องทำพิธีตากดวงอาทิตย์
    เว้นเสียแต่ หินที่ได้มาแล้ว เก็บสะสมรักษาเท่านั้น ที่ในบางครั้ง
    ต้องนำเอาออกมาเพื่อตากดวงอาทิตย์บ้าง เพื่อเป็นการเพิ่มพลัง<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    <v:shape id=_x0000_i1027 style="WIDTH: 261pt; HEIGHT: 112.5pt" alt="" type="#_x0000_t75"><v:imagedata o:href="http://www.dzipower.com/sale/CS20015.jpg" src="file:///C:\DOCUME~1\winxp\LOCALS~1\Temp\msohtml1\23\clip_image002.jpg"></v:imagedata></v:shape>ไฉ่ซิ่งเอี๊ย(เทพเจ้าแห่งโชคลาภ)

    การนำเอาหินมาตากพระจันทร์นั้น เพื่อเป็นการเพิ่มพลัง
    โดยทิ้งเอาไว้ทั้งคืน พอเช้าแดดเนริ่มออกอ่อนๆ ประมาณ 8.00 น.
    จึงค่อยเก็บเอาขึ้น

    การเพิ่มพลังให้แก่หินในลักษณะที่สอง คือ
    สิ่งที่ทำต่อจากการนำเอาหินตากพระจันทร์ ให้นำเอา
    น้ำมันจันทร์แท้ มาลูบไล้ที่ผิวของหินบ้าง
    เพื่อเป็นการรักษาสภาพของเนื้อหิน และเป็นการให้หิน
    ได้ซึมซับเอาน้ำมันจันทร์ไว้ เพื่อรักษาความสมดุลทางธรรมชาติของหินด้วย

    การเพิ่มพลังต่อมานั้น ก็คือ การนำเอาหินมาพนมใส่มือ
    แล้วสวดสรรเสริญพุทธคุณ คือ อิติปิโส ภควา แบบของไทยเรานี่แหละ
    เพราะบทนี้ เป็นบทสวดที่ใช้กัน ในพระพุทธศาสนาทั่วไป
    สำหรับประเทศที่นับถือพระพุทธศาสนา (การเพิ่มพลังบทนี้ หากมีเวลาปฏิบัติก็ได้ หากไม่มีเวลาพอ ก็ไม่เป็นไร แต่ทำได้จะดีมาก)
    เมื่อจบบทสวดสรรเสริญพระพุทธคุณแล้ว ให้บริกรรมคาถา เพิ่มขึ้นอีก คือ

    " โอม ลามะโบด ฮุม "
    <o:p> </o:p>
    ข้อควรปฏิบัติอย่างเคร่งครัด

    1. ในขณะที่เสพเมถุนธรรม(หลับนอนร่วมรักร่วมเพศ)
    ควรที่จะต้องถอดหินนี้ออก แล้ววางให้ไกลจากตัวในที่ที่สูงกว่า

    2. เวลาที่สวมใส่ ควรที่จะต้องเป็นคนที่มีสัจจะ รักษาคำพูดและ
    ศีลข้อที่ 4 ของธรรม อย่างเคร่งครัด อันประกอบไปด้วย
    ห้ามพูดเท็จ ห้ามพูดเพ้อเจ้อ ห้ามพูดส่อเสียด ห้ามพูดนินทา

    ปฏิบัติได้อย่างเคร่งครัด จะทำให้หินนี้มีความศักดิ์สิทธิ์
    หลายคนที่ได้หินไปสักการบูชาแล้ว ไม่บังเกิดความศักดิ์สิทธิ์ เพราะไม่ได้ปฏิบัติอย่างเคร่งครัดในสิ่งทั้งสองประการนี้

    สำหรับผู้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดแล้วนั้น เขาก็ประสบความสำเร็จ ร่ำรวย ในเรื่องของการสักการบูชาหินทิเบตนี้ มานักต่อนักแล้ว
    บางท่านอาจมองเป็นเรื่องไม่น่าเชื่อ แต่ทุกเรื่องคือเรื่องที่เกิดขึ้นจริง
    ซึ่งจะนำเอาประสบการณ์ จากผู้คนที่เขาประสบมาถ่ายทอดให้ฟัง
    ในหลากหลายเรื่องราว ในลำดับต่อๆไป

    <v:shape id=_x0000_i1028 style="WIDTH: 281.25pt; HEIGHT: 112.5pt" alt="" type="#_x0000_t75"><v:imagedata o:href="http://www.dzipower.com/sale/SW20013.jpg" src="file:///C:\DOCUME~1\winxp\LOCALS~1\Temp\msohtml1\23\clip_image003.jpg"></v:imagedata></v:shape><o:p></o:p>
    __________________<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <v:shape id=_x0000_i1029 style="WIDTH: 336.75pt; HEIGHT: 5in" alt="" type="#_x0000_t75"><v:imagedata o:href="http://www.b.yimwhan.com/board/data_user/thaioldbeads/photo/cate_4/r123_9.jpg" src="file:///C:\DOCUME~1\winxp\LOCALS~1\Temp\msohtml1\23\clip_image004.jpg"></v:imagedata></v:shape>
    พระโพธิสัตว์ ในทิเบต ประดับประดาด้วย พลอย หินสี <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <v:shape id=_x0000_i1030 style="WIDTH: 375pt; HEIGHT: 247.5pt" alt="" type="#_x0000_t75"><v:imagedata o:href="http://www.b.yimwhan.com/board/data_user/thaioldbeads/photo/cate_4/r123_3.jpg" src="file:///C:\DOCUME~1\winxp\LOCALS~1\Temp\msohtml1\23\clip_image005.jpg"></v:imagedata></v:shape>

    พระราชวังโปตาลา แห่งลาซา ทิเบต<o:p></o:p>
    __________________<o:p></o:p>
    หินทิเบต เครื่องรางแห่งความร่ำรวย
    ข้อความบางส่วน จาก ราช รามัญ

    ในบางประเทศ ที่เป็นประเทศแสวงหา กำลังพัฒนาทางด้านวัตถุนิยม
    มีแต่ความเสื่อมถอย มีแต่เรื่องกาม เป็นตัวชี้นำ เปลื้องผ้าผ่อน เอาหน้าสู้หนัง เอาหลังสู้ฟูก เพื่อให้ได้มาเพื่อเงินตรา แต่สภาพจิตใจตก ความเมตตาอารีเอื้อเฟื้อต่อกัน ลดน้อยถอยลง ผู้คนในสังคมอยู่ร่วมกันด้วยความหวาดระแวง ซึ่งกันและกัน

    กลับกัน ประเทศเล็กๆในหุบเขาหิมาลัย กลับปฏิเสธสิ่งเหล่านั้น และมีศรัทธากับการอยู่อย่างเพียงพอ และพอเพียงของเขา
    โดยอาศัยธรรมะเป็นหลักในการดำเนินชีวิตมากกว่ายกย่องสรรเสริญคนมีกะตังค์ เป็นหมื่นล้านพันล้าน ลามะรูปหนึ่งบอกว่า

    "ชีวิตที่อยู่กับลมหายใจตลอดเวลา คือชีวิตที่ศักดิ์สิทธิ์"
    แต่ลมหายใจนั้น ต้องมีการภาวนาอยู่ตลอดเวลา เครื่องประดับที่เป็นเครื่องรางของคนในแถบเทือกเขาหิมาลัย คือ หิน-ลูกปัดสีแดงสด เป็นเครื่องรางที่แสดงออกถึงผู้มีบุญมาก อานุภาพมาก สามารถปกป้องกันภัยพิบัติต่างๆได้ พร้อมกับส่งเสริมเกื้อหนุนดวงชะตา<o:p></o:p>
    __________________<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    วัฒนธรรมการสวมลูกปัดหินของทิเบต มีมานานนับพันปี
    เยี่ยงเดียวกับที่บ้านเรา มีความเชื่อในการสร้างพระเครื่อง ฉันใดก็ฉันนั้น
    หากเรื่องของหินทิเบต เป็นเพียงตำนานปรัมปรา การสร้างสืบต่อเนื่อง
    คงไม่มีมายาวนานได้ถึงเพียงนี้ อย่างแน่นอน

    เพราะการสร้างศรัทธาและความเชื่อไม่ใช่ของง่าย แต่เมื่อมีการสร้างสืบเนื่องมาเพียงนี้ แสดงว่าต้องมีอานุภาพอยู่จริง<o:p></o:p>
    __________________<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    การทำหินทิเบต เครื่องรางขึ้นมานี้ หลายท่านอาจจะไม่เข้าใจว่า
    เขาทำอย่างไร ในแถบหุบเขาหิมาลัย เขาทำได้ แต่เราทำไม่ได้
    อย่างแน่นอน ที่จะให้เหมือนของเขาทุกประการ

    เนื้อหินของทิเบตหรือที่อื่นในบริเวณหุบเขาหิมาลัย แข็ง ทนทาน มีพลังงานสูง เมื่อตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์ ในทางเทวะวิทยา เขา
    เชื่อว่า เป็นสถานที่องค์เทพสถิต หินนั้นจึงมีความศักดิ์สิทธิ์

    การสร้างหิน จะเลือกหินที่มีพลังงานสูงมาทำ โดยตรวจวัดด้วยเครื่องตรวจที่มีอยู่ในจิต คือ พลังสมาธิ เมื่อจับแล้วมีพลังงาน ต๊อดๆ กระตุกๆ
    วิ่งเข้าแขน ถือว่ามีพลังมาก จึงนำเอาเม็ดนั้นมาทำ แล้วก็แปลก เมื่อคนญี่ปุ่น เขาลองเอาเครื่องตรวจรังสีวิทยา ไกเกอร์โคเกอร์ มาตรวจหิน
    ปรากฏทุกเม็ดที่นำมาทำหินเครื่องราง มีพลังงานเหมือนกันหมด มากน้อยต่างกันไป<o:p></o:p>
    __________________<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ความหมายของหินแต่ละตา มีความหมายอย่างไร

    หินทิเบต 1 ตา (มีกลมๆ 1 วง)
    จะเพิ่มสติปัญญาแก่ผู้สวมใส่ เหมาะแก่ นักเรียน นักศึกษา

    หินทิเบต 2 ตา (มีกลมๆ 2 วง)
    จะทำให้ความสุขของชีวิตคู่สมบูรณ์ราบรื่น มีความสุข

    หินทิเบต 3 ตา (มีกลมๆ 3 วง)
    จะทำให้เทพเทวดาช่วยปกปักษ์รักษาผู้สวมใส่

    หินทิเบต 4 ตา
    ทำให้ผู้สวมใส่ ได้รับพรหมวิหาร 4 จากผู้อื่น
    อาทิ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา

    หินทิเบต 5 ตา
    หมายถึง พระพุทธเจ้า 5 พระองค์
    สวมใส่แล้วเป็นสิริมงคลยิ่งนัก

    หินทิเบต 6 ตา
    จะช่วยปรับความสมดุลของธาตุทั้ง 6 แก่ผู้สวมใส่
    ไม่ให้เจ็บป่วย ธาตุทั้ง 6 คือ
    ดิน น้ำ ลม ไฟ อากาศธาตุ วิญญาณธาตุ

    หินทิเบต 7 ตา
    เป็นหินสำหรับผู้ที่ชอบเสี่ยงโชคทั้งหลาย
    เกี่ยวกับด้านโชคลาภ โดยเฉพาะ
    เรียกว่า 7 ดวงเหนือแห่งโชคลาภ

    หินทิเบต 8 ตา
    ช่วยเสริมความมั่นคงของทรัพย์สิน
    เรียกว่า ทรัพย์สินอันมั่นคง ของผู้สวมใส่
    มีอยู่ตลอด

    หินทิเบต 9 ตา
    เป็นหินที่สวมใส่แล้ว ทำให้เกิดความสำเร็จทั้งปวง
    แก่ผู้สวมใส่ และผู้ที่ไม่เคยสวมใส่หินทิเบตมาก่อน
    ควรเริ่มจาก 9 ตา นี้ก่อน เป็นลำดับแรก

    <v:shape id=_x0000_i1026 style="WIDTH: 106.5pt; HEIGHT: 30pt" alt="" type="#_x0000_t75"><v:imagedata o:href="http://www.dzipower.com/images/dzibeadscom02.gif" src="file:///C:\DOCUME~1\winxp\LOCALS~1\Temp\msohtml1\23\clip_image006.gif"></v:imagedata></v:shape>
    ยังมีต่อ<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    หินทิเบต 12 ตา
    เป็นหินที่สวมใส่เพื่อส่งเสริมนักษัตร
    สำหรับผู้ที่ปีเกิดชง หรือชนกับปีปัจจุบัน
    อาทิ คนเกิดปีมะโรง ปีนี้เป็นปีจอ(พ.ศ.2549)
    เรียกว่าชง หรือชนกัน ต้องนำเอาหินทิเบต 12 ตา


    มาใส่เพื่อแก้กันมิให้มีอันเป็นไปมากนักกับตนเอง

    หินทิเบต 15 ตา
    มีทั้งแบบยันต์ 8 ทิศ และมหาจักรวาล
    เหมาะแก่ข้าราชการระดับสูง นักธุรกิจ
    นักบริหารระดับสูง นักปกครอง เป็นต้น
    เพื่อสร้างบริวาร ตบะ เดชะ บารมี แก่ผู้สวมใส่

    หินทุกเม็ด มีความหมายในตัวเองตามที่กล่าวมาแล้ว
    เป็นความหมายหลัก นอกจากนี้ยังมีความหมายเสริม
    เหมือนกันทุกเม็ดด้วย ความหมายรองคือ
    ส่งเสริมโชคลาภ ความสำเร็จ และเกื้อหนุนดวงชะตา
    ให้แก่ผู้สวมใส่
    <o:p> </o:p>
    คุณราช รามัญ กล่าวว่า

    " หินทิเบต เป็นเครื่องรางที่ผมศรัทธาเชื่อมั่นว่า เป็นที่สุดแห่งเครื่องรางของขลัง ในสายพุทธมหายาน แบบนิกายตันตระวัชรยาน
    หากคุณยังไม่สัมผัส อาจจะยังไม่เชื่อ ไม่ศรัทธา แต่หากคุณสัมผัสแล้ว
    คุณจะรู้ด้วยตนเอง เป็นปัจจัตตัง ว่า อานุภาพเพียงไหน หลายคนมีประสบการณ์มาเล่าให้ฟัง บางคนฝันมีคนโบราณมาหา แล้วให้โชคลาภ ถูก 3 ตัว ตรงๆ อย่างที่ไม่เคยมาก่อน บางคนจากการงานติดขัด กลับดี
    บางคนมีคดีฟ้องร้อง ขาดความมั่นใจ ก็เกิดคดีพลิกมาในทางตนเอง ใครชีวิตที่ดวงตกย่ำแย่ เขาจะเสริมดวงชะตาให้ดี อย่างพลิกฝ่ามือ ใครดวงดีอยู่แล้ว ก็จะดียิ่งๆขึ้นไป ผมไม่อยากเล่าประสบการณ์อะไรมาก เดี๋ยวจะกลายเป็นโฆษณาชวนเชื่อ มากกว่าการเขียนไปในแนวทางสารคดี ตามที่ใจปรารถนา ผมเองไม่ใช่พ่อค้า ไม่ได้เปิดร้าน แต่ผมเป็นนักเขียน นักสะสมศึกษา ที่เก็บมาตั้งแต่ไม่มีใครรู้จัก ไม่มีการแพร่หลาย เมื่อหลายปีก่อน จากการแนะนำของเพื่อนชาวอเมริกันคนหนึ่ง ที่หลงใหลในวัฒนธรรมตะวันออกอย่างบ้าคลั่ง "<o:p></o:p>
    __________________<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ผมได้คุยกับคุณ ราช รามัญ วันนี้
    จาการสอบถามได้ข้อมูลหินทิเบตเพิ่มเติม ดังนี้ครับ

    ถาม... หินทิเบตที่มีขายกันเกลื่อนในท้องตลาด
    สามารถนำมาให้พระเกจิอาจารย์ ทำพิธีให้
    ขลังและศักดิ์สิทธิ์ ก่อนนำมาใช้ได้ไหมครับ

    ตอบ....การจะนำหินทิเบตที่มีอยู่เกลื่อนท้องตลาดขณะนี้
    ไปให้พระเกจิสวดให้เกิดความขลัง คงทำไม่ได้
    เพราะ หินทิเบต เป็นเครื่องรางของสายพุทธนิกายตันตระ
    วัชรญาณ จะต้องปลุกเสกบทคาถาสวดมนต์ ของสาย
    ทางตันตระ เท่านั้น จึงจะมีความขลังและศักดิ์สิทธิ์

    ถาม.... ถ้าต้องการได้หินทิเบตมาไว้ใช้ติดตัว จำเป็นไหมที่จะ
    ต้องหาหินทิเบตเก่าๆมากๆ

    ตอบ.... ไม่จำเป็น หินทิเบต ที่มีอายุสัก 5 ปี ขึ้นไปก็ใช้ได้
    แต่ต้องนำมาประกอบพิธี สวดปลุกเสก ในสายวัชรญาณก่อน

    ถาม.... หินทิเบตที่ว่า มีมูลค่าเท่าไหร่ครับ

    ตอบ.... ชิ้นหนึ่งก็อยู่ในราคา 1,500.-บาทครับ
    <o:p> </o:p>
    คุณพิเชษฐ์ เอี่ยมชาวนา หรือ น้าโย่ง เชิญยิ้ม
    ตลก 100 ล้าน เป็นยอดดาวตลก-พิธีกร
    และยังเป็นเจ้าของธุรกิจ น้ำพริกตาโย่ง โด่งดังอีกด้วย
    น้าโย่งได้รับคำแนะนำจาก คุณราช รามัญ
    ในเรื่องหินทิเบต ว่า ควรบูชาแบบ 15 ตา
    เพราะเหมาะกับอาชีพธุรกิจที่ดำเนินการอยู่
    ปรากฏว่า พอนำเอาไปบูชา แล้วรุ่งเรืองขึ้นเป็นลำดับ
    แต่ทั้งนี้ ตัวน้าโย่ง เป็นคนดีของสังคมอยู่แล้วด้วย
    จึงส่งเสริมมากยิ่งขึ้น

    นอกจากหินทิเบต 15 ตา แล้ว น้าโย่งยังบูชา
    หินแบบมูมเมอแรง อีกด้วย โดยตรงกลางมีรูป
    สัญญลักษณ์ วัชระ อาวุธขององค์เทพ
    <o:p> </o:p>
    เดวิด อินทรี นักร้องดังจากเพลง
    ตั้งใจมาหลอก น้อยใจ ทนเหงาทำไม
    ได้รับฉายาว่า ฝรั่งบนหลังควาย
    ออกเทปชุดแรก ก็ดังเป็นพลุแตก
    เดวิด เป็นศิษย์เอกของ อ.ระย้า แห่งรถไฟดนตรี
    จากการปั้นของโปรดิวเซอร์มือทอง "โม"
    คนดังในวงการ

    โดยคุณโม เพื่อนรัก แนะนำเอาหินทิเบต 9 ตา ให้เดวิด สวมใส่
    ตอนออกเทปชุดแรก และถ่ายขึ้นปกเทป-ซีดี
    ปรากฏว่าโด่งดังเป็นดาวค้างฟ้ามาถึงปัจจุบัน
    หินแบบ 9 ตา คือความสำเร็จทั้งปวงจริงๆ
    <o:p> </o:p>
    ดารายอดนิยมอย่าง คุณหนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย
    สวมหิน 9 ตา และหินแบบ 5 ตา ติดตัวตลอดเวลา
    โดยคุณหนุ่มบอกว่า พอใส่หิน 5 ตา แล้วรู้สึกชอบและดีมาก
    งานดีมาก เงินทองก็หลั่งไหลมา ไม่ขาดมือ

    พลังของหินทิเบต มีมากเป็นอเนกอนันต์
    ยิ่งผ่านพิธีปลุกเสกมาแล้ว ยิ่งเพิ่มพลังมากขึ้น
    ใครที่มีหินทิเบตแล้ว ควรทำพิธีอาบแสงจันทร์
    เพิ่มพลังบ้าง

    หินทิเบต เป็นเครื่องรางที่เป็นที่สุดแห่งเครื่องรางของขลัง
    ในสายพุทธมหายานแบบนิกายตันตระวัชรยาน
    หากท่านยังไม่เคยสัมผัส อาจจะยังไม่เชื่อ ไม่ศรัทธา
    แต่หากได้สัมผัสแล้ว ท่านจะรู้ด้วยตนเอง
    เป็นปัจจัตตังว่า อานุภาพเพียงไหน
    หลายคนมีประสบการณ์มาเล่าให้ฟัง
    บางคนฝันว่า มีคนโบราณมาหา แล้วให้โชคลาภ
    ถูก 3 ตัวตรงๆ อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
    บางคนจากการงานติดขัดกลับดี
    <o:p> </o:p>
    หินทิเบต<o:p></o:p>
    รูปขนาดเล็ก <o:p></o:p>
    <v:shapetype id=_x0000_t75 stroked="f" filled="f" path="m@4@5l@4@11@9@11@9@5xe" o:preferrelative="t" o:spt="75" coordsize="21600,21600"><v:stroke joinstyle="miter"></v:stroke><v:formulas><v:f eqn="if lineDrawn pixelLineWidth 0"></v:f><v:f eqn="sum @0 1 0"></v:f><v:f eqn="sum 0 0 @1"></v:f><v:f eqn="prod @2 1 2"></v:f><v:f eqn="prod @3 21600 pixelWidth"></v:f><v:f eqn="prod @3 21600 pixelHeight"></v:f><v:f eqn="sum @0 0 1"></v:f><v:f eqn="prod @6 1 2"></v:f><v:f eqn="prod @7 21600 pixelWidth"></v:f><v:f eqn="sum @8 21600 0"></v:f><v:f eqn="prod @7 21600 pixelHeight"></v:f><v:f eqn="sum @10 21600 0"></v:f></v:formulas><v:path o:connecttype="rect" gradientshapeok="t" o:extrusionok="f"></v:path><o:lock aspectratio="t" v:ext="edit"></o:lock></v:shapetype><v:shape id=_x0000_i1025 style="WIDTH: 225pt; HEIGHT: 168.75pt" o:button="t" alt="คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

    Name: S4100003.JPG
    Views: 0
    Size: 82.8 KB
    ID: 101653" type="#_x0000_t75"><v:imagedata o:href="http://palungjit.org/attachment.php?attachmentid=101653&stc=1&thumb=1&d=1159700183" src="file:///C:\DOCUME~1\winxp\LOCALS~1\Temp\msohtml1\24\clip_image001.jpg"></v:imagedata></v:shape>
    <o:p></o:p>

    __________________<o:p></o:p>
    พระองค์เจ้าชายจิกมี นัมเกล วังชุก แห่งภูฏาน(อ่านว่าพูตาน)
    กับหินทิเบต บนเทือกเขาหิมาลัย..........โดยราช รามัญ

    เดิมเคยได้ยินได้ฟังมาแต่ว่า หินทิเบต เป็นเครื่องราง เครื่องประดับ
    ของชนชั้นสูง แต่ก็หาปรากฏหลักฐานไม่ จนได้พบเห็นจากภาพ
    ทำให้คิดถึงวลีที่กล่าวว่า

    "ผู้มีบุญเท่านั้นที่จะได้สวมใส่"

    เป็นภาพพระมารดาถ่ายคู่กับพระองค์เจ้าชายจิกมีและน้องสาว
    พึงสังเกตุ พระมารดาสวมหินทิเบต Dzi สลับกับลูกปัดเม็ดใหญ่
    สีแดงกล่ำงามมาก

    พระองค์เจ้าชายจิกมี ทรงสวมหินทิเบต แบบอาเกต
    เรียวยาวเป็นร่องรอยแบบสายน้ำจากภาพที่ขณะบรรยาย
    บนเวทีและภาพที่เยี่ยมราษฎรของพระองค์
    นี่คือสิ่งยืนยันได้เป็นอย่างดีว่า หินทิเบต Dzi
    เป็นของชนชั้นสูงจริงๆ

    หินทิเบตที่อายุการสร้างนานๆ 500-1,000 ปี
    ราคาประมาณ 5 หมื่น ถึง 1 แสนบาท
    ส่วนของใหม่ที่ทำการสร้างเมื่อ 5-10 ปี ที่ผ่านมา
    ราคาประมาณ 1,500-5,000 บาท
    ส่วนของใหม่ ที่เพิ่งทำการสร้าง ราคาประมาณ
    200 - 700 บาท


    จะสวมของเก่าหรือของใหม่ อยู่ที่กำลังทรัพย์
    และขอให้ผ่านพิธีกรรม ให้ครบตามความละเอียดน่าจะเป็น
    บางครั้งของใหม่จะรู้ได้อย่างไรว่าผ่านพิธีกรรมมา
    ปลุกเสกอัดมนตรายานแล้ว
    บอกได้เลยว่า ให้ศรัทธาและเชื่อมั่น
    ในบุคคลที่ควรเชื่อ ขอให้อาศัยปัญญาเป็นเสาหลัก
    ในการพิจารณา ลดละความโลภลง

    หินทิเบตทุกวันนี้ ลวดลายต่างๆที่ปรากฏ
    เป็นการเขียนขึ้น เพียงแต่เม็ดหินที่นำมาทำนั้น
    มาจากเทือกเขาหิมาลัย
    แต่ทั้งนี้ต้องระวังของจีน ที่ทำขึ้นแล้วให้ทิเบต
    เป็นผู้จำหน่ายด้วย


    หินทิเบตของแท้ หากเป็นสีแดงอมน้ำตาล
    หินนี้จะโปร่งแสง แต่ไม่โปร่งใส
    คือหยิบเอามาสองแล้วจะมองไม่ทะลุอีกด้าน
    แต่หาก โปร่งใส คือเหมือนมองกระจกใส

    การสวมใส่หินทิเบต เป็นการเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายไป
    คือปรับเสริม เพิ่มเรื่องของฮวงจุ้ย ต่างหาก
    แต่เป็นฮวงจุ้ยของชีวิต

    ผู้เขียน(ราช รามัญ) นิยมแนะนำสวมหินเพื่อ
    เสริมเติมเต็มตามอาชีพปัจจุบันของผู้สวมใส่
    มากกว่า อาศัยวัน เดือน ปีเกิด
    สิ่งมงคลสามารถน้อมสู่ทุกชีวิตได้ โดยไม่เลือก
    วัน เดือน ปีเกิด เหมือนกับสตางค์
    เป็นสิ่งมงคลกับทุกชีวิตทั้งปวง
    ส่วนการเลือกสวมใส่เพื่อให้พอดีกับอาชีพนั้น
    ก็เป็นการเติมเต็ม ทำให้ดีขึ้นเท่านั้น

    การใส่หินทิเบต Dzi ในลักษณะแบบกำไลข้อมือ
    ขอแนะนำให้สวมใส่ที่มือซ้าย
    ถ้าเป็นไปได้ให้นำหินทิเบตไว้ตรงกับชีพจร
    มือซ้ายเป็นมือแห่งจิตวิญญาณ
    หัวใจอยู่ทางด้านซ้าย ทางวัชรยาน เขาถือว่า
    มือแห่งจิตวิญญาณอยู่ทางด้านซ้ายจริงๆ<o:p></o:p>
    __________________<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p>
    หลายท่านถามว่า การบูชาหินทิเบต
    มีการท่องอะไรบ้างไหม
    ตอบว่า อาศัยการอธิษฐานจิตเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
    ส่วนที่เป็นคำสวด ก็มีอยู่บ้าง ใช้คำสวดดังนี้.-
    "โอม ปัททะเม มณี ฮุม"
    ใครชอบท่องคาถาเพื่อความมั่นใจ
    ก็ท่องตามที่กล่าวมาข้างต้น
    แล้วปรารถนาสิ่งใดก็อธิษฐานจิต เพื่อให้สมปรารถนา

    หินทิเบตเมื่อผู้ใดสวมใส่บูชาแล้ว
    ย่อมจะรู้สึกด้วยตัวเอง มีพลังมากเพียงไหน
    และสามารถช่วยเหลือเพื่อความเติมเต็มให้แก่ชีวิตอย่างไร
    ยิ่งได้สวมใส่หินทิเบตคู่กับลูกปัดหลากสีทวารวดี
    ยิ่งทำให้มีอานุภาพมากขึ้นเป็นอเนกอนันต์
    <o:p> </o:p>
    <o:p></o:p>
    </o:p>






     
  2. amita

    amita Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +30
    <TABLE id=HB_Mail_Container height="100%" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0 UNSELECTABLE="on"><TBODY><TR height="100%" UNSELECTABLE="on" width="100%"><TD id=HB_Focus_Element vAlign=top width="100%" background="" height=250 UNSELECTABLE="off">พิสูจน์แล้วครับ ยอมรับว่า " เหลือเชื่อจริง ๆ" ครับ
    </TD></TR><TR UNSELECTABLE="on" hb_tag="1"><TD style="FONT-SIZE: 1pt" height=1 UNSELECTABLE="on">
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  3. ราชรามัญ

    ราชรามัญ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +15
    ขอบคุณในไมตรีของท่านทั้งหลายที่มีให้ หินทิเบตกำลังได้รับความนิยมจริงๆ ไปไหนๆก็พบเห็น หลายท่านถามไถ่เข้ามาว่าหินทิเบตที่มีวางขายนั้นแท้หรือไม่ การตอบหรือพูดอะไรออกไปในลักษณะที่ทำให้ผู้หนึ่งได้ผลประโยชน์อีกผู้หนึ่งเสียผลประโยชน์มิใช่วิสัยของพุทธมามกะ หากเราไปว่าร้ายใครทำให้เขาเสียผลประโยชน์ครอบครัวเขาคงเดือดร้อน เอาเป็นว่าเรามีกำลังทรัพย์เพียงไหนว่ากันไปตามนั้นดีกว่า คงไม่ต่างจากการห้อยพระ สมมุติพระสมเด็จองค์ละ20ล้าน เราไม่มีเงินเช่าก็หาพระสมเด็จใหม่ๆองค์500บาทก็ได้ เมื่อดีแล้วก็ค่อยๆขยับขยายต่อไป เรื่องของหินทิเบตก็เป็นเพียงความเชื่อในศาสตร์แห่งเทวะชนิดหนึ่ง ดังนั้นถามตนเองก่อนว่าจะบูชาเพื่อเป็นศิริมงคลหรือจะบูชาเพื่อเป็นในลักษณะของเก่าโบราณ หากต้องการเพียงแค่พลังหากจะใส่ของใหม่ก็ใส่เยอะหน่อย หากจะเก็บแบบโบราณแท้ๆอายุเป็น1000ปีก็แพงหน่อย เมื่อสองวันก่อนเพิ่งไปกราบกรานขอแบ่งจากเพื่อนชาวอังกฤษมาเม็ดหนึ่งเป็นเนื้ออะเกตเก่าลายเขียนบางๆรูเล็กมากแถมรูไม่ตรงกันอีก เอากล้องส่องลงไปในรูเห็นรอยเขียนด้านบนทะลุลงจากชั้นหิน ลายสีขาวแต่ไม่ใช่ขาวเข้มเป็นขาวบางๆรอยเขียนด้วยมือไม่เท่ากันเลยเป็นหินแบบฟ้าดิน คือ ด้านหน้ามีกลมๆแบบ1ตาด้านหลังเป็นสี่เหลี่ยมคางหมู อายุของหินทิเบตเม็ดนี้3000ปี(สร้างก่อนคริสต์ศักราช700ปี)เพื่อนไปทิเบตแล้วขอแบ่งมาจากลามะชรารูปหนึ่งโดยท่านลามะล้วงจากย่ามให้เลย สวยงามมากๆแบบคลาคสิก ราคาของหินเม็ดนี้รึ..ไม่อยากพูดถึงแพงระยับจริงๆ ผมนิยมเก็บสะสมหินทิเบตแบบเนื้ออะเกตและเนื้ออมดำๆมากกว่าสีแดงเพราะสีแดงตามความรู้สึกผมว่าดูค่อนข้างยากนิดนึงนะ
    ขอให้ทุกคนมีความสุขกับการสักการะหินทิเบต
     
  4. ราชรามัญ

    ราชรามัญ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +15
    ไม่ว่าจะเป็นของเก่าหรือของใหม่(แต่ขอให้เป็นของแท้) ใครอ่านหน้านี้ขอให้ร่ำรวยเฮงๆ ทุกคนโชคดีนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 พฤศจิกายน 2006
  5. soma_cruz

    soma_cruz Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +39
    เก่าๆ

    มีของเก่าๆมาให้ดูครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC01435.1.jpg
      DSC01435.1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      42.5 KB
      เปิดดู:
      531
    • DSC01436.1.jpg
      DSC01436.1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      40.6 KB
      เปิดดู:
      450
  6. 6953697

    6953697 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    46
    ค่าพลัง:
    +191
    อยากได้หินหาซื้อของแท้ได้ที่ไหนค่ะ แนะนำด้วยค่ะ
     
  7. amita

    amita Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +30
    <TABLE id=HB_Mail_Container height="100%" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0 UNSELECTABLE="on"><TBODY><TR height="100%" UNSELECTABLE="on" width="100%"><TD id=HB_Focus_Element vAlign=top width="100%" background="" height=250 UNSELECTABLE="off">คุณ 6953697 ถ้าอยากได้หินแท้ ลองติดต่อคุณ ราช รามัญ ดูนะคะ 081-9272568 </TD></TR><TR UNSELECTABLE="on" hb_tag="1"><TD style="FONT-SIZE: 1pt" height=1 UNSELECTABLE="on">
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

     
  8. 6953697

    6953697 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    46
    ค่าพลัง:
    +191
    คุณ Amita อยากเปลี่ยนชื่อ 6953697 เป็นชื่ออื่นแก้ไขอย่างไรค่ัะ แนะนำด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ
     
  9. amita

    amita Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +30
    <TABLE id=HB_Mail_Container height="100%" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0 UNSELECTABLE="on"><TBODY><TR height="100%" UNSELECTABLE="on" width="100%"><TD id=HB_Focus_Element vAlign=top width="100%" background="" height=250 UNSELECTABLE="off">คุณ 6953697 คะ ถ้าจะเปลี่ยนชื่อใหม่ก็ไม่ยากค่ะ ลงทะเบียนสมัครใหม่ชื่อใหม่ไปเลย แล้วชื่อเดิมคุณก็ไม่ต้องใช้อีกค่ะ </TD></TR><TR UNSELECTABLE="on" hb_tag="1"><TD style="FONT-SIZE: 1pt" height=1 UNSELECTABLE="on">
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

     
  10. 6953697

    6953697 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    46
    ค่าพลัง:
    +191
    อยากทราบหินทิเบตสามารถป้องกันอวิชาได้หรือเปล่า เนื่องจากตอนนี้กำลังเป็นที่หากินของคนเดรัจฉาน เมื่อไหร่จะมีคนมาทำลายอาถรรพ์นี้สักที คนดีจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อ ส่วนใหญ่คนใกล้ตัวที่เราไว้ใจเป็นคนพาไปตกหลุมพางของมัน
     
  11. soma_cruz

    soma_cruz Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +39
    ...
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC01489.JPG
      DSC01489.JPG
      ขนาดไฟล์:
      2 MB
      เปิดดู:
      557
  12. soma_cruz

    soma_cruz Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +39
    ..
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC01482.JPG
      DSC01482.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.6 MB
      เปิดดู:
      1,114
  13. soma_cruz

    soma_cruz Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +39
    ....
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC01499.JPG
      DSC01499.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.6 MB
      เปิดดู:
      1,015
  14. 6953697

    6953697 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    46
    ค่าพลัง:
    +191
    คุณ SOMA CRUZ คุณไปซื้อที่ไหนสวยมากค่ะ
     
  15. sasiriya

    sasiriya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    1,064
    ค่าพลัง:
    +751
    <TABLE id=HB_Mail_Container height="100%" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0 UNSELECTABLE="on"><TBODY><TR height="100%" UNSELECTABLE="on" width="100%"><TD id=HB_Focus_Element vAlign=top width="100%" background="" height=250 UNSELECTABLE="off">[​IMG] เก็บตัวอย่างภาพหินทิเบตเทียม ที่ทำจากวัสดุสังเคราะห์ มาฝากให้ชมกัน ของเทียมที่ทำจากวัสดุชนิดนี้พอนานวันสีจะจางออกจนไม่เหลือลายแบบในภาพ ต่างจากหินแท้แม้นำมาทุบแตกดู ลายที่เขียนจะซึมผ่านเนื้อหินไปจนถึงข้างใน (หาดูภาพได้จากหนังสือหินทิเบตของคุณ ราช รามัญ )
    </TD></TR><TR UNSELECTABLE="on" hb_tag="1"><TD style="FONT-SIZE: 1pt" height=1 UNSELECTABLE="on">
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  16. soma_cruz

    soma_cruz Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +39
    ....

    ยังมีอีกหลายเม็ดที่ยังไม่ได้ถ่ายรูปให้ชมครับ คุณ 6953697
     
  17. 6953697

    6953697 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    46
    ค่าพลัง:
    +191
    คุณ amita เปลี่ยนชื่อ 6953697 แล้วก็ยังขึ้นเหมือนเดิมหรือจะต้องไปแก้ไขที่ตรงไหนเอ่ย ผู้รู้ตอบด่วนค่ะ
     
  18. Bank Chelsea

    Bank Chelsea เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +140
    เดี๋ยวนี้เดินไปไหนก้มีหินทิเบต(ปลอม)ขายกันเกลื่อน
     
  19. sasiriya

    sasiriya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    1,064
    ค่าพลัง:
    +751
    <TABLE id=HB_Mail_Container height="100%" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0 UNSELECTABLE="on"><TBODY><TR height="100%" width="100%" UNSELECTABLE="on"><TD id=HB_Focus_Element vAlign=top width="100%" background="" height=250 UNSELECTABLE="off">ความหมายและความเชื่อตามลวดลายบนหินทิเบตตามแบบโบราณ

    หินสิบตา (10 Eye dZi Bead) เชื่อว่าจะช่วยให้ทำการสิ่งใด ได้รับความสำเร็จ ลุล่วงไปด้วยดี ได้รับความนับหน้าถือตา ในแวดวงสังคม อุปสรรคต่างๆถูกปัดเป่าไป หินสิบตามีบทบาทสำคัญ ในการชำระกรรมในอดีตและปัจจุบันเพื่อส่งผลให้มีความโชคดี ในอนาคต ช่วยเสริมสร้างสติปัญญา และเสริม ความสามารถ ในการเป็นผู้นำช่วยในการทำงานเป็นหมู่คณะ
    เหมาะกับผู้ที่เกิดปีระกา จอ และกุน


    เอ็หินสิบเอ็ดตา (11 Eye dZi Bead) เชื่อว่าเป็นหินที่รวม พระเจ้าแห่งความมั่งคั่ง ทั้ง 5 องค์ และพลังลึกลับของฮินดู จากเจ้าแม่กวนอิม และความโชคดี ช่วยนำมาซึ่งความโชคดี มั่งคั่งร่ำรวย สติปัญญาและการกระทำที่ดี ปกป้องคุ้มครอง จากพลังด้านลบ
    เหมาะกับผู้ที่เกิดปีมะเมีย มะแม และวอกดตา (11 Eye dZi Bead) เชื่อว่าเป็นหินที่รวม หินสิบสองตา (12 Eye dZi Bead) ช่วยให้เอาชนะ ความหวาดกลัวต่างๆ เป็นสัญลักษณ์ ของการบรรลุถึง สิ่งที่ปรารถนา และนำชื่อเสียงมาให้ สวมดีซีไอ ชนิดนี้ทุกวัน จะช่วยนำโอกาศดีๆ เข้ามาโดยไม่ขาดตอน
    เหมาะกับผู้ที่เกิดปีระกา จอ และกุน

    หินสิบสามตา (13 Eye dZi Bead) เป็นหินแห่ง 8 มงคล สู่ 5 โชคลาภ สมดังปราถนา และสัมฤทธิ์ผลสำเร็จในเร็ววัน
    เหมาะกับผู้ที่เกิดปีเถาะ, มะโรง และมะเส็งสิบสามตา (13 Eye dZi Bead


    หินสิบห้าตา (15 Eye dZi Bead) เชื่อว่าเป็นหินแห่งโชคดีจากสรวงสวรรค์ ได้รับลาภลอย และโอกาสอันดี จากทุกทิศ ทุกทาง นั่นหมายถึง ผู้สวมใส่จะทำการใดได้อย่างราบรื่น,ง่ายดาย และปราศจากอุปสรรค ทั้งปวง เหมาะอย่างยิ่งสำหราบผู้ที่กำลังทำโครงการใหญ่ๆ ที่มีคู่แข่งและความเสี่ยง
    เหมาะกับผู้ที่เกิดปีระกา จอ และกุน


    หินสิบแปดตา (18 Eye dZi Bead) เหมาะกับผู้สวมใส่หิน 18 ตา จะช่วยให้ประสบผลสำเร็จสูงสุดตามความมุ่งหวังในชีวิต ได้รับทั้งชื่อเสียงและโชคลาภ ความมั่งมี มีความสุขอย่างไม่มีที่สิ้นสุดบแปดตา (18 Eye dZi Be

    หินยี่สิบเอ็ดตา (21 Eye dZi Bead) เหมาะอย่างยิ่ง สำหรับผู้นำเชื่อว่าเป็น หินแห่งพลัง เนื่องจากเป็นพลังความสำเร็จ ระดับสูงสุดทั้งโลกมนุษย์และเทพเจ้า บนสรวงสวรรค์ เป็นหินที่ เหมาะกับผู้ที่ต้องการพลังสูงสุด อาทิ ผู้นำในองค์กรต่างๆ นายพลแห่งกองทัพ, ผู้อำนวยการโรงเรียนหรือผู้นำสูงสุด ทางธุรกิจ หินชนิดนี้จะนำมาซึ่งความโชคดีทุกประการ
    หินกระดองเต่า (Tottoise Shell/Longevity) ทำให้มีอายุวัฒนะ ช่วยขจัดโรคภัย ไข้เจ็บ ให้หมดสิ้น หลุดพ้นจากอันตรายทั้งปวง สุขภาพแข็งแรง อายุมั่นขวัญยืน ถือว่าเห็นกระดองเต่า เป็นสัญลักษณ์จากสวรรค์ ช่วยป้องกันการบาดเจ็บ, อันตรายและความเสียหาย
    เหมาะกับปีเถาะ มะโรง มะเส็ง


    หินแก้วล้ำค่า หรือ แจกันวิเศษ (Nectar dZi Bead)
    เป็นสัญลักษณ์แห่งความโชคดี,ชัยชนะ,ความดีเลิศ เกียรติยศ,และความมั่งคั่งร่ำรวย นอกจากนั้นยังช่วยป้องกัน รวบรวมสมบัติให้มั่นคงและค้าขายเจริญรุ่งเรือง
    เหมาะกับทุกคนแก้วล้ำค่า หรือ

    [COLOR=black][FONT=Tahoma]หินฟ้า-ดิน ([/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]Heaven and Earth) [/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]เป็นหินแห่งความสำเร็จในธุรกิจ[/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma] [/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]หน้าที่การงาน เนื่องจากหินฟ้า-ดิน คือการ รวมกัน ทั้งฟ้าและดิน ทำให้ปัดเป่า[/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma] [/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]เคราะห์ร้ายต่างๆออกไปและหลุดพ้นการฐานะที่ต่ำต้อย[/FONT][/COLOR]
    [COLOR=black][FONT=Tahoma][/FONT][/COLOR]
    [COLOR=black][FONT=Tahoma][/FONT][/COLOR]
    [COLOR=#000000][FONT='Times New Roman']หินผู้สูงศักดิ์ ([/FONT][FONT='Times New Roman']Big Man From) เชื่อว่าจะมีผู้ใหญ่คอยอุปถัมภ์ค้ำจุน และช่วยขจัดภัยพิบัติให้สมปรารถนาทุกประการ ให้พรให้ครอบครัวเป็นสุขปรองดองกัน[/FONT][/COLOR][FONT='Times New Roman']
    [/FONT][FONT='Times New Roman'][COLOR=#000000]เหมาะกับทุกคน [/COLOR][/FONT][COLOR=white][FONT=Tahoma]ผู้สูงศักดิ์[/FONT][/COLOR][COLOR=white][FONT=Tahoma] (Big Man From) [/FONT][/COLOR][COLOR=white][FONT=Tahoma]เชื่อว่าจะมีผู้ใหญ่คอยอุปถัมภ์ค้ำจุน[/FONT][/COLOR][COLOR=white][FONT=Tahoma] [/FONT][/COLOR][COLOR=white][FONT=Tahoma]และช่วยขจัดภัยพิบัติให้สมปรารถนาทุกประการ[/FONT][/COLOR][COLOR=white][FONT=Tahoma] [/FONT][/COLOR][COLOR=white][FONT=Tahoma]ให้พรให้ครอบครัวเป็นสุขปรองดองกัน[/FONT][/COLOR][COLOR=white][FONT=Tahoma]
    [COLOR=#000000][FONT='Times New Roman']หินนกอินทรย์ หรือ นกวิเศษ ([/FONT][FONT='Times New Roman']Garuda Form) หินผู้ปกป้องดินแดนศํกดิ์สิทธิ์ ปัดเป่า เคราะห์ร้าย และสิ่งไม่ดีต่างๆ [/FONT][/COLOR][FONT='Times New Roman']
    [/FONT][FONT='Times New Roman'][COLOR=#000000]เหมาะสำหรับผู้ที่ไปศึกษาหรือทำงานต่างแดน[/COLOR][/FONT][COLOR=white][FONT=Tahoma]นกอินทรย์[/FONT][/COLOR][COLOR=white][FONT=Tahoma] [/FONT][/COLOR][COLOR=white][FONT=Tahoma]หรือ นกวิเศษ ([/FONT][/COLOR][COLOR=white][FONT=Tahoma]Garuda Form) [/FONT][/COLOR][COLOR=white][FONT=Tahoma]หินผู้ปกป้องดินแดนศํกดิ์สิทธิ์ ปัดเป่า เคราะห์ร้าย[/FONT][/COLOR][COLOR=white][FONT=Tahoma] [/FONT][/COLOR][COLOR=white][FONT=Tahoma]และสิ่งไม่ดีต่า[COLOR=black][FONT=Tahoma]หินหมวกลามะ ([/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]Dharma Hat) [/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]เป็นหินที่ช่วยให้สมความปราถนา สบายอารามณ์เป็นที่ต้อนรับของทุกคนที่พบเห็น[/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma] [/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]นอกจากนั่น ยังนำมาซึ่งพลังอันยิ่งใหญ่ ช่วยกำจัดโรคภัยไข้เจ็บ[/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma] [/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]เพิ่มความมั่งคั่งร่ำรวย และอายุยืนยาว ด้วยการผสมผสาน ความรอบรู้[/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma], [/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]อำนาจ[/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma] [/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]และความมีชื่อเสียง หินชนิดนี้ เป็นสัญลักษณ์ของความรู้[/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma] [/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]กฎเกณฑ์และความเป็นจริง[/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]
    [/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]เหมาะสำหรับทุกคน[/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR]

    [COLOR=white][FONT=Tahoma][COLOR=white][FONT=Tahoma][COLOR=black][FONT=Tahoma][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR]
    [COLOR=white][FONT=Tahoma][COLOR=white][FONT=Tahoma][COLOR=black][FONT=Tahoma][/FONT][/COLOR]งๆ[/FONT][/COLOR][COLOR=white][FONT=Tahoma]
    [COLOR=#000000][FONT=Tahoma]หินลายคลื่น (Wave) หินที่มีลายคลื่นเหมือนริ้วรอยบนน้ำ เปรียบเสมือนโชคลาภที่ไหลมาเทมา ทุกสิ่งทุกอย่าง ดำเนินไปอย่างราบรื่น ประสบความร่มเย็นเป็นสุขทุกแห่งหน[/FONT][/COLOR][COLOR=white][FONT=Tahoma]
    [/FONT][/COLOR][COLOR=white][FONT=Tahoma]หิน<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>[/FONT][/COLOR]
    [/FONT][/COLOR][COLOR=white][FONT=Tahoma]
    [COLOR=black][FONT=Tahoma]หินเขี้ยวเสือคู่ ([/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]Tiger Tooth) [/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]แก้เคล็ด แก้โดนของ[/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma] [/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]ช่วยให้จิตใจสงบนิ่ง ช่วยปราบศัตรู และปีศาจ ทำให้การค้าประสบความสำเร็จ[/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma] [/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]เป็นหินที่นิยมมากสำกรับชาวทิเบต รองจากหินเก้าตา แนะนำให้สวมใส่รูปทรงยาว[/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma] [/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]กับผู้หญิง และทรงรีหรือกลมสำหรับผู้ชาย[/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]
    [/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]เหมาะกับปีมะเมีย มะแม วอก[/FONT][/COLOR]
    [COLOR=black][FONT=Tahoma][/FONT][/COLOR]
    [COLOR=black][FONT=Tahoma][FONT='Times New Roman']หินใบโพธิ์ ([/FONT][FONT='Times New Roman']Bodhi dZi Bead) ช่วยขจัดหายนะและอุปสรรคต่างๆ ช่วยเปลี่ยนเคราะห์ร้าย ให้กลายเป็นดีและเสริมความมีเมตตาจิต ให้กับผู้สวมใส่ เป็นหินที่ช่วยให้ประสบความสำเร็จ ตามความหวัง ที่ตั้งไว้, ป้องกันความล้มเหลวและช่วยให้บรรลุถึงจุดหมาย เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักเรียน นักศึกษา ที่ต้องการพร เพื่อการสอบและได้รับผลที่ยิ่งใหญ่ โดยอธิฐานขอพรก่อนทำข้อสอบ[/FONT][FONT='Times New Roman']
    [/FONT][FONT='Times New Roman']เหมาะกับทุกคน[/FONT][COLOR=white][FONT=Tahoma]ใบโพธิ์[/FONT][/COLOR][COLOR=white][FONT=Tahoma] (Bodhi dZi Bead) [/FONT][/COLOR][COLOR=white][FONT=Tahoma]ช่วยขจัด[/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR]
    [COLOR=black][FONT=Tahoma][COLOR=white][FONT=Tahoma][COLOR=black][FONT=Tahoma]หิน หรู ยี่ ([/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]Ru Yi dZi Bead)[/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]เป็นหินน้ำโชคพิเศษกับผู้ที่[/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]
    [/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]1.[/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]แสวงหาความร่ำรวยจากกำไรอันงามแห่งการค้าขาย[/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]
    [/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]2.[/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]แสวงหาการเลื่อนตำแหน่ง[/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]
    [/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]3.[/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]ปรับปรุงนิสัย[/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma] [/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน[/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma] [/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]
    [/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]เหมาะกับทุกคน[/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR]
    [COLOR=black][FONT=Tahoma][COLOR=white][FONT=Tahoma][COLOR=black][FONT=Tahoma][FONT='Times New Roman']หินดอกบัว ([/FONT][FONT='Times New Roman']Lotus dZi Bead) ทำให้ผู้ครอบครอง มีจิตใจ ที่บริสุทธิ์โอบอ้อมอารี มีชีวิตที่เป็นอิสระ มีแล้วอยู่เย็นเป็นสุข มีความพึงพอใจ สมปรารถนา เป็นหินที่มาในหลายรูปแบบและลวดหลาย แต่ส่วนมากก็จะคล้ายกับรูปดอกบัว เป็นตัวแทนแห่ง ความปิติ,สันติภาพ,ความบริสุทธิ์ และความจริงใจ ดอกบัวเป็นดอกไม้ที่ใช้สักการะบูชาแด่พระพุทธเจ้า ดอกบัวมักจะผุดเหนือน้ำซึ่งเป็นความบริสุทธ์ ต่อสิ่งแวดล้อม รอบข้าง ดอกบัวยังเป็นสัญลักษณ์แห่งความรักสำหรับครอบครัว,มิตรภาพ และหมู่คณะ หินดอกบัวเป็นการนำมา[/FONT][FONT='Times New Roman']
    [/FONT][FONT='Times New Roman']ซึ่งสันติภาพและความตั้งใจอันแรงกล้าที่จะนำมาซึ่ง การบรรลุถึงจุดมุ่งหมายอย่างแท้จริง[/FONT][FONT='Times New Roman']
    [/FONT][FONT='Times New Roman']เหมาะกับปี ชวด ฉลู ขาล[/FONT][COLOR=white][FONT=Tahoma]อกบัว[/FONT][/COLOR][COLOR=white][FONT=Tahoma] (Lotus dZi Bead) [/FONT][/COLOR][COLOR=white][FONT=Tahoma]ทำ[/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR]
    [COLOR=black][FONT=Tahoma][COLOR=white][FONT=Tahoma][COLOR=black][FONT=Tahoma][COLOR=white][FONT=Tahoma][COLOR=black][FONT=Tahoma]หินแถบสามสี ([/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]3 Color dZi Bead) [/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]หินชนิดนี้มีแถบสีขาว [/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]4 [/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]แถบแบ่งหินออกเป็น [/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]3 [/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]ส่วน นำมาซึ่ง[/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]
    [/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]1.[/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]เป็นการเร่ง ความโชคดีในอนาคต[/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma] [/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]ให้เกิดเร็วขึ้นตลอดเวลา[/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]
    [/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]2.[/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]ช่วยให้การทำงานราบรื่นและปราศจากอุปสรรค[/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]
    [/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]3.[/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]ขจัดปัญหา[/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma],[/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]อุปสรรคและความโชคร้ายเหมาะอย่างยิ่งต่อผู้ที่ต้องการพลิกโอกาสและนำ[/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR]
    [COLOR=black][FONT=Tahoma][COLOR=white][FONT=Tahoma][COLOR=black][FONT=Tahoma][COLOR=white][FONT=Tahoma][COLOR=black][FONT=Tahoma][FONT='Times New Roman']หินตะขอ ([/FONT][FONT='Times New Roman']Money and Luck Hook) เกี่ยวเงิน เกี่ยวทอง เกี่ยวโชค เกี่ยวลาภ เป็นหินแห่งโชคลาภ เงิน ทอง และสามารถเก็บเงินเก็บทองอยู่ อีกทั้งยังได้รับสิริมงคลสมดั่งใจหวังทุกประการ[/FONT][COLOR=white][FONT=Tahoma]นตะขอ ([/FONT][/COLOR][COLOR=white][FONT=Tahoma]Money and Luck Hook) [/FONT][/COLOR][COLOR=white][FONT=Tahoma]เกี่ยวเงิน [/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR]
    [COLOR=black][FONT=Tahoma][COLOR=white][FONT=Tahoma][COLOR=black][FONT=Tahoma][COLOR=white][FONT=Tahoma][COLOR=black][FONT=Tahoma][COLOR=white][FONT=Tahoma][COLOR=black][FONT=Tahoma]หินลายทาง หรือหินลายเส้น ([/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]Striped dZi Bead) [/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]เป็นหินแห่งความเปลี่ยนแปลง โชคดี และหมุนเวียนความมั่งคั่ง[/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma] [/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ยังไม่พึงพอใจกับสภาพปัจจุบันของตนเอง[/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma] [/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]และต้องการควาามเปลี่ยนแปลงในทาง[/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR]
    [COLOR=black][FONT=Tahoma][COLOR=white][FONT=Tahoma][COLOR=black][FONT=Tahoma][COLOR=white][FONT=Tahoma][COLOR=black][FONT=Tahoma][COLOR=white][FONT=Tahoma][COLOR=black][FONT=Tahoma][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR]
    [COLOR=black][FONT=Tahoma][COLOR=white][FONT=Tahoma][COLOR=black][FONT=Tahoma][COLOR=white][FONT=Tahoma][COLOR=black][FONT=Tahoma][COLOR=white][FONT=Tahoma][COLOR=black][FONT=Tahoma][FONT='Times New Roman']หินเจ้าแม่กวนอิม ([/FONT][FONT='Times New Roman']Kwan Yin dZi Bead) เชื่อว่าเจ้าแม่กวนอิม เป็นสัญลักษณ์แห่งความเมตตากรุณา เธอช่วยนำไปสู่บุญและกรรม ที่ดีขึ้น การใส่สวมหินกวนอิม จะช่วยให้เอาชนะความเจ็บป่วย,ปัญหาครอบครัว, ปัญหาเรื่องความสัมพันธ์,ปัญหาการงาน,ปัญหาภายในจิตใจ,ปัญหาเกี่ยวกับเด็ก,ขจัดความกดดันต่างๆ[/FONT][COLOR=white][FONT=Tahoma]แม่ก[/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR]
    [COLOR=black][FONT=Tahoma][COLOR=white][FONT=Tahoma][COLOR=black][FONT=Tahoma][COLOR=white][FONT=Tahoma][COLOR=black][FONT=Tahoma][COLOR=white][FONT=Tahoma][COLOR=black][FONT=Tahoma][COLOR=white][FONT=Tahoma][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR]
    [COLOR=black][FONT=Tahoma][COLOR=white][FONT=Tahoma][COLOR=black][FONT=Tahoma][COLOR=white][FONT=Tahoma][COLOR=black][FONT=Tahoma][COLOR=white][FONT=Tahoma][COLOR=black][FONT=Tahoma][COLOR=white][FONT=Tahoma]วนอิม ([/FONT][/COLOR][COLOR=white][FONT=Tahoma]Kwa[COLOR=#000000][FONT='Times New Roman']หินตามังกร ([/FONT][FONT='Times New Roman']Dragon Eye dZi Bead) เหมาะสำหรับทุกคน มีโชคลาภ บารมีมากล้น ช่วยขจัดสิ่งชั่วร้าย[/FONT][/COLOR][FONT='Times New Roman']
    [/FONT][FONT='Times New Roman'][COLOR=#000000]เป็นผู้นำทุกระดับของประเทศ[/COLOR][/FONT][COLOR=white][FONT=Tahoma]ตามังกร[/FONT][/COLOR][COLOR=white][FONT=Tahoma] (Dragon [/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR]
    [COLOR=black][FONT=Tahoma][COLOR=white][FONT=Tahoma][COLOR=black][FONT=Tahoma][COLOR=white][FONT=Tahoma][COLOR=black][FONT=Tahoma][COLOR=white][FONT=Tahoma][COLOR=black][FONT=Tahoma][COLOR=white][FONT=Tahoma][COLOR=white][FONT=Tahoma][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR]
    [COLOR=black][FONT=Tahoma][COLOR=white][FONT=Tahoma][COLOR=black][FONT=Tahoma][COLOR=white][FONT=Tahoma][COLOR=black][FONT=Tahoma][COLOR=white][FONT=Tahoma][COLOR=black][FONT=Tahoma][COLOR=white][FONT=Tahoma][COLOR=white][FONT=Tahoma][/FONT][/COLOR]n Yin dZi Bead) [/FONT][/COLOR][COLOR=white][FONT=Tahoma]เชื่อว่[COLOR=black][FONT=Tahoma]หินวัชระ ([/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]Watchara dZi Bead) [/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]ช่วยปกป้องคุ้มภัย[/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma] [/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]ในอดีตนักรบโพธิสัตว์ใช้วัชระ เพื่อปกป้องแจกันแห่งโภคทรัพย์[/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma] [/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]จึงช่วยปกป้องและขจัดสิ่งที่ไม่ดีต่างๆได้ หินวัชระจะใช้สัญลักษณ์สี่เหลี่ยม[/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma] [/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]ข้าวหลามตัด หรือในภาษาทิเบต[/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]
    [/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]เรียกว่า ตาเพชร อันประกอบไปด้วย ตาเพชร [/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]6 [/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]ตา[/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma] [/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]จึงถือว่าเป็นหิน ดีซีไอ [/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]6 [/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]ตาอีกอย่างหนึ่งนั่นเอง เป็นหินแห่ง การปกป้องคุ้มภัย[/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma] [/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]โดยวัชระเป็นเครื่องมือ ของพระลามะ สำหรับขับไล่ภูตผีปีศาจ[/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma] [/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]หรือสิ่งชั่วร้าย[/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR]
    [COLOR=black][FONT=Tahoma][COLOR=white][FONT=Tahoma][COLOR=black][FONT=Tahoma][COLOR=white][FONT=Tahoma][COLOR=black][FONT=Tahoma][COLOR=white][FONT=Tahoma][COLOR=black][FONT=Tahoma][COLOR=white][FONT=Tahoma][COLOR=black][FONT=Tahoma][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR]
    [COLOR=black][FONT=Tahoma][COLOR=white][FONT=Tahoma][COLOR=black][FONT=Tahoma][COLOR=white][FONT=Tahoma][COLOR=black][FONT=Tahoma][COLOR=white][FONT=Tahoma][COLOR=black][FONT=Tahoma][COLOR=white][FONT=Tahoma][COLOR=black][FONT=Tahoma][/FONT][/COLOR]าเจ้าแม่กวนอิ[COLOR=black][FONT=Tahoma]หินธรรมจักร ([/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]Dhamajak dZi Bead) [/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]เป็นสัญลักษณ์[/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma] [/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]ทางพระพุทธศาสนาเป็นรูปวงล้อ มี [/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]8 [/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]ซี่บ้าง[/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma],12 [/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]ซี่ ถือ เป็นสัญลักษณ์[/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma] [/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]เริ่มแรกของพระพุทธศาสนา สัญลักษณ์นี้ เรียกได้อีกอย่างหนึ่งว่า จักร หรือจักรา[/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma] [/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]โดยวงล้อแห่งชีวิต จะเรียกชื่อเฉพาะว่าธรรมจักร ซึ่งหมายถึง "วงล้อแห่งชีวิต[/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma] [/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]จะเรียกชื่อเฉพาะว่าธรรมจักร ซึ่งหมายถึง "วงล้อแห่งธรรม" โดยวงล้อแห่งชีวิต[/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma] [/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]จะเรียกชื่อเฉพาะว่า " ธรรมจักร" ซึ่งหมายถึง " วงล้อแห่งธรรม" หรือ "ฝ่าหลุน" หรือ[/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma] "[/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]ฝ่าหลงกง" นั่นเอง[/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR]
    [COLOR=black][FONT=Tahoma][COLOR=white][FONT=Tahoma][COLOR=black][FONT=Tahoma][COLOR=white][FONT=Tahoma][COLOR=black][FONT=Tahoma][COLOR=white][FONT=Tahoma][COLOR=black][FONT=Tahoma][COLOR=white][FONT=Tahoma][COLOR=black][FONT=Tahoma][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR]
    [COLOR=black][FONT=Tahoma][COLOR=white][FONT=Tahoma][COLOR=black][FONT=Tahoma][COLOR=white][FONT=Tahoma][COLOR=black][FONT=Tahoma][COLOR=white][FONT=Tahoma][COLOR=black][FONT=Tahoma][COLOR=white][FONT=Tahoma][COLOR=black][FONT=Tahoma][/FONT][/COLOR]ม[/FONT][/COLOR][COLOR=white][FONT=Tahoma] [/FONT][/COLOR][COLOR=white][FONT=Tahoma]เป็นสัญลักษณ์แห่[COLOR=#000000][FONT='Times New Roman']หินหยิน-หยาง ([/FONT][FONT='Times New Roman']Yin Yang dZi Bead) ในปรัชญาเต๋าของจีน ในวัฒนธรรมของชาวจีน เราได้เห็นถึงวิธีคิดอันหนึ่งของคู่ตรงข้าม ในสัญลักษณ์ หยิน/หยาง เป็นคำแสดงถึง สิ่งที่เป็นคู่กัน ในธรรมชาติ คือพลังซึ่งคู่กันหากเท่ากัน จึงจะสร้างความสมดุล เช่น บวก-ลบ, ชาย-หญิง, พระอาทิตย์-พระจันทร์, ร้อน-หนาว, กลางวัน-กลางคืน ที่จริงแล้วก็คือ ความสมดุลย์ ของสิ่งที่ตรงกันข้ามของสองสิ่ง ซึ่งเราจะนำมันมาประยุกต์ใช้ร่วมกัน[/FONT][/COLOR][COLOR=white][FONT=Tahoma]ยิน-หยาง[/FONT][/COLOR][COLOR=white][FONT=Tahoma] (Yin Yang dZi Bead) [/FONT][/COLOR][COLOR=white][FONT=Tahoma]ในปรัชญาเต๋าของจีน ในวัฒนธรรมของชาวจีน[/FONT][/COLOR][COLOR=white][FONT=Tahoma] [/FONT][/COLOR][COLOR=white][FONT=Tahoma]เราได้เห็นถึงวิธีคิดอันหนึ่งของ[/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR]
    [COLOR=black][FONT=Tahoma][COLOR=white][FONT=Tahoma][COLOR=black][FONT=Tahoma][COLOR=white][FONT=Tahoma][COLOR=black][FONT=Tahoma][COLOR=white][FONT=Tahoma][COLOR=black][FONT=Tahoma][COLOR=white][FONT=Tahoma][COLOR=white][FONT=Tahoma][/FONT][/COLOR]งความเม[COLOR=black][FONT=Tahoma]หินไฉ่ซิ่งเอี๊ย ([/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]Chi Sing Ear dZi Bead) [/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]เหมาะกับทุกคน[/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma] [/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]มีเทพเจ้าแห่งความโชคลาภคอยคุ้มครอง นำมาซึ่งโชคลาภ และความร่ำรวย[/FONT][/COLOR]ตตากรุณา เธอช่วยนำไปสู่บุญและกรรม ที่ดีขึ้น[/FONT][/COLOR][COLOR=white][FONT=Tahoma] [/FONT][/COLOR][COLOR=white][FONT=Tahoma]การใส่สวมหินกวนอิม จะช่วยให้เอาชนะความเจ็บป่วย[/FONT][/COLOR][COLOR=white][FONT=Tahoma],[/FONT][/COLOR][COLOR=white][FONT=Tahoma]ปัญหาครอบครัว[/FONT][/COLOR][COLOR=white][FONT=Tahoma], [/FONT][/COLOR][COLOR=white][FONT=Tahoma]ปัญหา[/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR]
    [COLOR=black][FONT=Tahoma][COLOR=white][FONT=Tahoma][COLOR=black][FONT=Tahoma][COLOR=white][FONT=Tahoma][COLOR=black][FONT=Tahoma][COLOR=white][FONT=Tahoma][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR]
    [COLOR=black][FONT=Tahoma][COLOR=white][FONT=Tahoma][COLOR=black][FONT=Tahoma][COLOR=white][FONT=Tahoma][COLOR=black][FONT=Tahoma][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR]
    [COLOR=black][FONT=Tahoma][COLOR=white][FONT=Tahoma][COLOR=black][FONT=Tahoma][COLOR=white][FONT=Tahoma][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR]
    [COLOR=black][FONT=Tahoma][COLOR=white][FONT=Tahoma][COLOR=black][FONT=Tahoma][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR]
    [COLOR=black][FONT=Tahoma][COLOR=white][FONT=Tahoma][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR]

    [/FONT][/COLOR]

    [/FONT][/COLOR]





    </TD></TR><TR UNSELECTABLE="on" hb_tag="1"><TD style="FONT-SIZE: 1pt" height=1 UNSELECTABLE="on">
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  20. amita

    amita Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +30
    <TABLE id=HB_Mail_Container height="100%" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0 UNSELECTABLE="on"><TBODY><TR height="100%" UNSELECTABLE="on" width="100%"><TD id=HB_Focus_Element vAlign=top width="100%" background="" height=250 UNSELECTABLE="off">ใครมีประสบการณ์ส่วนตัวเรื่องหินทิเบต เข้ามาแลกเปลี่ยนความรู้กันหน่อยนะคะ


    </TD></TR><TR UNSELECTABLE="on" hb_tag="1"><TD style="FONT-SIZE: 1pt" height=1 UNSELECTABLE="on">
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     

แชร์หน้านี้

Loading...