พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sittiporn.s

    sittiporn.s เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2009
    โพสต์:
    146
    ค่าพลัง:
    +748

    ขอบคุณครับ ผมจะเปิดดูวันจันทร์
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG]

    อ้างอิง:
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ :::เพชร::: [​IMG]
    หุ...หุ... คุณหนุ่มครับ ตารางนี่คุ้นๆนะครับ ที่เมื่อ 4 ปีก่อน เราเคยไปร้านทองชื่อ........ที่ หนองมน ชลบุรี ไงครับ เค้ามีตารางแบบนี้เพื่อเช็คอิทธิคุณพระพิมพ์ ผมเหลือบไปเห็นเค้าเช็คพระพิมพ์ 2408 มีขีดถูกมากที่สุด และพระอะไรอีกมากมาย.....



    ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ

    ผมเชื่อว่า ไม่มีใครที่จะว่าคุณNatachai

    ยกเว้น แก๊งบัวใต้น้ำ เพราะว่า เดี๋ยวเขาขายพระอย่างอื่นไม่ได้


    .



    .
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    จาก ห้องรับแขก ( sithiphong's Profile ) ของผมครับ

    pocharawat
    เรียนคุณสิทธิ์พงษ์ เรียกแทนตัวเองว่าพช นะค่ะมีความประสงค์อยากที่จะร่วมบุญด้วยพร้อมอยากจะได้พระวังหน้ากรมเจ้าท่า ไว้บูชาสัก1-2 องค์ไม่ทราบว่าพอจะมีเหลือให้บูชาทำบุญบ้างไหมเอ่ย ถ้าพอมีหวังmailมาบอกบ้างนะคะ pocharawat2009@gmail.com ขอบพระคุณล่วงหน้า พช



    .-------------------------------------------.

    ผมขอเปลี่ยนนิดนึงครับ

    พระวังหน้ากรมเจ้าท่า

    เป็น

    พระสมเด็จ เจ้าคุณกรมท่า

    ซึ่งในสมัยรัชกาลที่ 4 - 5 "กรมท่า" เปรียบเหมือนกับกระทรวงการต่างประเทศ + กระทรวงพาณิชย์ ครับ

    ในงานผ้าป่าของสนส.ผาผึ้ง ผมให้ร่วมทำบุญ องค์ละ 500 บาทครับ

    หากต้องการร่วมทำบุญ และรับพระสมเด็จ เ้จ้าคุณกรมท่า ให้ร่วมทำบุญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งครับ

    ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ บมจ.ธ.กรุง ไทย สาขาลาดพร้าว102 บช.ออมทรัพย์เลขที่1890-13128-8 บัญชี นางพิชญ์สินี ชาญปรีชญา,นายอุเทน งามศิริ,นายสิรเชษฎ์ ลีละสุนทเลิศ

    โมทนาสาธุครับ
    .
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    พึ่งสมัครเลยนะครับ


    [​IMG]
    [​IMG]

    pocharawat


    Mini Statistics

    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr valign="top"> <td width="100%"> <dl class="smallfont list_no_decoration profilefield_list"><dt class="shade">Date of Birth</dt><dd>November 30 </dd><dt class="shade">วันที่สมัคร</dt><dd>19-07-2010</dd><dt class="shade">Total Posts</dt><dd>11</dd></dl></td></tr></tbody></table>



    ยินดีต้อนรับสู่เว็บพลังจิต

    .


     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    จาก pm ผม

    สวัดดีครับคุณสิทธิพงศ์

    ต้องขออภัยที่สื่อความหมายผิดคือผมต้องการมาบูชาที่บ้านครับ

    ขอถามต่อนะครับ พระสมเด็จเจ้าคุณกรมท่า อยู่ในกลุ่มใหน และมีอิทธิคุณด้านใดบ้าง

    อยากได้พระที่หลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดรอธิฐานจิตและองค์อื่นในคณะ ต้องร่วมทำบุญอย่างไรครับ
    รวมทั้งแบบลอยองค์ด้วยนะครับ

    มีพรรคพวกฝากถามว่ามีพระปิดตาที่หลวงปู่โลกอุดร
    อธิฐานจิตไหมครับอยากทำบุญด้วย เมื่อครั้งที่แล้ว
    งานผ้าป่าเขาก็ฝากเงินไปทำบุญรับพระเจ้ากรมคุณท่า
    มาให้เขาก็เลยชอบใจครับ

    --------------------------------------
    +++++++++++++++++++++


    สำหรับพระสมเด็จ เจ้าคุณกรมท่า ที่ได้ร่วมทำบุญในงานผ้าป่า จะเป็นรุ่นที่ำนำเข้าพระราชพุทธาภิเษกหลวง พระราชพิธีอุปราชาภิเษก (กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ ขึ้นดำรงตำแหน่งอุปราชวังหน้า ในสมัยรัชกาลที่ 5 ปีพ.ศ.2411)

    สำหรับรุ่นนี้ เป็นรุ่นที่พิเศษครับ ในความเห็นผม จะจัดอยู่ในลำดับที่สอง รวมกับพระสมเด็จเจ้าคุณกรมท่ารุ่นแรก , พระพิมพ์หลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร รุ่นแรก , พระพิมพ์ต่างๆที่บุทอง , บุเงิน , บุนาค ครับ

    พลังอิทธิคุณครอบคลุมทุกด้าน และมีพลังอิทธิคุณเรื่องของอำนาจด้วยครับ

    ส่วนพระปิดตา ที่หลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร อธิษฐานจิต ก็มีหลายพิมพ์ เช่น

    พระปิดตา(พิมพ์หลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์) พิมพ์นี้ ส่วนใหญ่จะสร้างที่วังหน้า หลวงปู่อิเกสาโรท่านอธิษฐานจิต บางรุ่นจะเป็นกลุ่มหลวงปู่องค์อภิญญาใหญ่ท่านร่วมอธิษฐานจิตด้วยครับ

    หรือพิมพ์หลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง พิมพ์นี้หลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง ท่านอธิษฐานจิตกับหลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า(เป็นอาจารย์ของหลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง) ครับ

    หรือพิมพ์ปิดตา ของวังหน้า สำหรับรุ่นนี้ จะมีหลายหลากพิมพ์ หลายหลากรุ่น หลายหลากพิธีการสร้าง แต่ส่วนใหญ่ หลวงปู่อิเกสาโร ท่านอธิษฐานจิต ครับ

    .
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948


    .

    ส่วนพิมพ์โลกอุดร ก็มีหลายหลากเช่นกัน รุ่นแรกจะมี 13 พิมพ์

    ส่วนรุ่นต่อๆมา จะมีมากกว่า 20 พิมพ์ครับ

    ส่วนองค์ผุ้อธิษฐานจิต ก็ต้องดูกันเป็นรุ่นไป แต่หากเป็นรุ่นที่ บุทอง , บุเงิน , บุนาค ส่วนใหญ่ หลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร 5 พระองค์อธิษฐานจิตครับ


    .
     
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เรื่องของพระกริ่งปวเรศ

    มีมากกว่าที่วงการซื้อขายพระเครื่องเมืองไทย แต่งตำราขึ้น

    อย่างองค์พระกริ่งปวเรศที่อยู่ที่วัดบวรนิเวศ องค์นั้นทำน้ำมนต์ได้อย่างเดียว

    ส่วนองค์พระกริ่งปวเรศ เนื้อสเตอร์ริง ซิลเวอร์ พลังอิทธิคุณครอบคลุมทุกด้าน แถมมีเรื่องของการทำงานต่างๆ พลังอิทธิคุณขององค์พระกริ่งปวเรศ จะปูทางในการทำงานให้สดวกขึ้นมากด้วยครับ


    .
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ขอให้ใช้โพสนี้ เป็นหลักเกณฑ์ในการร่วมทำบุญและรับพระกริ่งปวเรศ เนื้อสเตอร์ริง ซิลเวอร์ ครับ

    ผมขอมอบพระกริ่งปวเรศ เนื้อสเตอร์ริง ซิลเวอร์ ที่สร้างขึ้นที่ทวีปยุโรป ตามรายละเอียดดังนี้

    1.พระกริ่งปวเรศ เนื้อสเตอร์ริง ซิลเวอร์ (หลวงปู่กรมพระยาปวเรศ จาร(ด้วยพระองค์เอง)ทั้งองค์พระกริ่ง) ผมให้ร่วมทำบุญ 70,000 บาทต่อการรับพระกริ่งปวเรศ 1 องค์ มีจำนวน 2 องค์

    2.พระกริ่งปวเรศ เนื้อสเตอร์ริง ซิลเวอร์ ( ไม่มีการจาร) ผมให้ร่วมทำบุญ 20,000 บาทต่อการรับพระกริ่งปวเรศ 1 องค์ มีจำนวน 5 องค์

    ผมให้สิทธิสำหรับท่านที่เคยร่วมทำบุญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง

    ส่วนท่านที่ไม่เคยร่วมทำบุญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง หากจะร่วมทำบุญ ตามรายละเอียดดังนี้

    1.พระ กริ่งปวเรศ เนื้อสเตอร์ริง ซิลเวอร์ (หลวงปู่กรมพระยาปวเรศ จาร(ด้วยพระองค์เอง)ทั้งองค์พระกริ่ง) ผมให้ร่วมทำบุญ 10,000,000 บาท (สิบล้านบาทถ้วน) ต่อการรับพระกริ่งปวเรศ จำนวน 1 องค์ มีจำนวน 2 องค์

    2.พระ กริ่งปวเรศ เนื้อสเตอร์ริง ซิลเวอร์ ( ไม่มีการจาร) ผมให้ร่วมทำบุญ 5,000,000 บาท (ห้าล้านบาทถ้วน) ต่อการรับพระกริ่งปวเรศ จำนวน 1 องค์ มีจำนวน 5 องค์

    สำหรับท่านที่มีความประสงค์ที่จะร่วมทำบุญในกระทู้ ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิบมจ.ธ.กรุง ไทย สาขาลาดพร้าว102 บช.ออมทรัพย์เลขที่1890-13128-8 บัญชี นางพิชญ์สินี ชาญปารีสชญา,นายอุเทน งามศิริ,นายสิรเชษฎ์ ลีละสุนทเลิศ



    เริ่มต้นการจองและโอนเงินร่วมทำบุญตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2553
    สิ้นสุดการโอนเงินร่วมทำบุญวันที่ 30 กันยายน 2553



    หมายเหตุ 1 ผมไม่ถ่ายรูปพระกริ่งปวเรศลงในเว็บพลังจิตครับ

    หมายเหตุ พระ กริ่งปวเรศที่ผมจะมอบให้เพื่อเป็นพุทธานุสติและเพื่อบูชานั้น เป็นพระกริ่งปวเรศที่ไม่สามารถนำไปซื้อขายในวงการพระเครื่องไทย(วงการ ซื้อ-ขายพระ) ได้ หากท่านต้องการพระกริ่งปวเรศ(พระเครื่องที่สามารถนำไปซื้อขายในวงการพระ เครื่องของเมืองไทย (วงการซื้อ-ขายพระ) ก็ไม่ต้องร่วมทำบุญและรับพระพิมพ์(พระเครื่อง)ไป

    แต่ พระกริ่งปวเรศที่ผมมอบให้นั้น เป็นพระกริ่งปวเรศ ที่สร้างขึ้นที่ทวีปยุโรปโดยคณะศิษยานุศิษย์ของหลวงปู่กรมพระยาปวเรศ ให้สร้างขึ้น โดยช่างชาวยุโรป ใช้มวลสารหลักก็คือ สเตอร์ริง ซิลเวอร์( เนื้อเงิน ของยุโรป) และนำเข้าพระราชพิธีพุทธาภิเษกหลวงที่วัดศรีรัตนศาสดาราม ในปีพ.ศ.2434 โดยหลวงปู่กรมพระยาปวเรศ ท่านอธิษฐานจิตเดี่ยว

    แต่ หากจะนำไปเพื่อเป็นพุทธานุสติ และหรือการห้อยคอเพื่อคุ้มครองตนเอง และหรือการบูชาต่างๆ เพื่อเป็นการบูชาพระคุณองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ,องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามกุกุกสันโธ ,องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนาม สมณโคดม ,หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ,สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี และหลวงปู่กรมพระยาปวเรศ ,กลุ่มหลวงปู่องค์อภิญญาใหญ่ (เป็นอย่างไร ต้องไปหาอ่านในกระทู้พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้..... เช่น หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน , หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า , หลวงปู่ภู วัดอินทรวิหาร , หลวงปู่กรมพระยาปวเรศ เป็นต้น) ,การบูชาพระคุณองค์พระมหากษัตริย์ไทยทุกๆพระองค์ ,พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ,พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ,พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ,พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ,องค์อุปราชวังหน้า รัตนโกสินทร์ทุกๆพระองค์ และทั้งช่างสิบหมู่แห่งวังหน้า ,วังหลวง ,วังหลัง ,ช่างราษฎร์ทุกๆท่านและเทพเทวาทั้ง 16 ชั้นฟ้าและที่อยู่ในองค์พระพิมพ์(พระเครื่อง) ได้ครับ

    ซึ่ง เรื่องที่ผมได้บอกนั้น เป็นความเชื่อ ,ความเห็นของผม รวมทั้งคณะของผม ซึ่งก็แล้วแต่ท่านผู้ร่วมทำบุญและท่านผู้อ่านทุกๆท่าน จะมีความคิดเห็นอย่างไร ก็สุดแล้วแต่ครับ

    โมทนาบุญทุกประการกับทุกๆท่านครับ

    ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ

    .



    .
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    นอกจากโพสนี้ที่แจ้งว่า พระกริ่งปวเรศ รุ่นเนื้อเงินสเตอร์ริง ซิลเวอร์ ที่หลวงปู่กรมพระยาปวเรศ ท่านอธิษฐานจิตเดี่ยวแล้ว ยังมีบางองค์ ที่กลุ่มหลวงปู่องค์อภิญญาใหญ่ ท่านอธิษฐานจิตกับหลวงปู่กรมพระยาปวเรศด้วย ซึ่งผมเข้าใจว่า น่าจะเป็นคนละพระราชพิธีหลวง แต่ในปีเดียวกันคือ ปี พ.ศ.2434 ครับ

    .
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  11. Natachai

    Natachai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2009
    โพสต์:
    309
    ค่าพลัง:
    +937
    พิธีนี้เป็นพิธีใหญ่ระดับที่เรียกว่า "พระราชพิธีหลวง" มีพระเกจิฯที่มีชื่อเสียงในสมัยนั้นหลายองค์ที่ได้ร่วมอธิฐานจิต :cool: ภายหลังจากที่เสร็จพิธีอธิฐานจิต ผู้สร้างเก็บเข้าวังหมด สามัญชนในวัดแทบจะไม่ได้สัมผัส จึงทำให้ไม่ได้มีการบรรทึกไว้ในประวัติศาสตร์ พระกริ่งฯรุ่นนี้แจกจ่ายเฉพาะลูกหลานและคนสนิทของพระองค์ท่าน จึงทำให้รู้จักเฉพาะในวงบรมวงศานุวงศ์ที่ใกล้ชิดเท่านั้น
     
  12. sittiporn.s

    sittiporn.s เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2009
    โพสต์:
    146
    ค่าพลัง:
    +748
    จารทั้งองค์ ,หมุดทอง ,ใต้ฐานบุทอง ,กริ่งระฆังทอง ตกสำรวจ
     
  13. sittiporn.s

    sittiporn.s เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2009
    โพสต์:
    146
    ค่าพลัง:
    +748
    พระราชพิธีหลวง"ฉลองสมณศักดิ์เป็นสมเด็จพระสังราช "หลังจากว่างเว้นอยู่หลายปี
     
  14. Natachai

    Natachai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2009
    โพสต์:
    309
    ค่าพลัง:
    +937
    ส่วนผสมของโลหะที่ใช้สร้างพระเครื่อง

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left vspace="0" hspace="0"><TBODY><TR><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff; PADDING-RIGHT: 1.8pt; BORDER-TOP: #ffffff; PADDING-LEFT: 1.8pt; PADDING-BOTTOM: 0cm; BORDER-LEFT: #ffffff; PADDING-TOP: 0cm; BORDER-BOTTOM: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: transparent" vAlign=top align=left>คง มีหลายท่านที่ชื่นชอบพระเครื่องหรือวัตถุมงคลต่างๆ ที่มีส่วนผสมของโลหะหลายชนิดและมีชื่อเรียกเฉพาะเช่น เนื้อสำริดหรือสัมฤทธิ์ เนื้อสัตตโลหะ เนื้อนวโลหะ เป็นต้นffice:eek:ffice" /><O:p></O:p>
    ในการทำ พระเครื่องและวัตถุมงคลนั้น ในสมัยโบราณได้มีการเล่นแร่แปรธาตุกัน แต่ละสำนักซึ่งส่วนใหญ่สามารถแบ่งหรือแจกแจงมวลสารโลหะที่ใช้ทำพระเครื่อง ได้ดังนี้<O:p></O:p>
    เนื้อนวโลหะ ประกอบไปด้วย โลหะ 9 อย่างได้แก่ ทองคำ เงิน ทองแดง จ้าวน้ำเงิน เหล็กละลายตัว ชิน ตะกั่วน้ำนม ปรอท สังกะสี <O:p></O:p>
    เนื้อสัตตโลหะประกอบด้วย ทองคำ ทองแดง จ้าวน้ำเงิน เหล็ก ตะกั่ว ปรอท <O:p></O:p>
    โลหะ สัมฤทธิ์โบราณ ประกอบไปด้วยธาตุบริสุทธิ์ตั้งแต่ 3 ชนิดขึ้นไปโดยมี แร่ทองคำและเงินเป็นหลัก ถ้าไม่มีจะไม่ถือว่าเป็นสัมฤทธิ์ และที่เป็นหลักอีกอย่างคือทองแดง ซึ่งจะใช้มากเพื่อให้ได้ปริมาณ<O:p></O:p>
    เนื้อ สำริดหรือสัมฤทธิ์ ประกอบด้วยตระกูลของสัมฤทธิ์ที่ถูกต้องตามสูตรโบราณมีอยู่ 5 ตระกูล คือ สัมฤทธิ์ผล สัมฤทธิ์โชค สัมฤทธิ์ศักดิ์ สัมฤทธิ์คุณ และสัมฤทธิ์เดช รวมเป็นสัมฤทธิ์ 5 ตระกูล อันมีความพิสดารดังต่อไปนี้<O:p></O:p>
    1. สัมฤทธิ์ผล คือสัมฤทธิ์แดง หรือตริยโลหะ มีมงคลความหมายถึง พระรัตนตรัยเป็นทองสัมฤทธิ์เนื้อสาม ผสมด้วยโลหะธาตุ 3 ชนิด คือ ทองแดง เป็นส่วนใหญ่และเจือด้วยเงินกับทองคำ สัมฤทธิ์ตระกูลนี้มีวรรณะแดงคล้ายนาก แต่มีผิวเจือด้วยวรรณะคล้ำๆ คล้ายสีมะขามเปียก โบราณถือว่าเป็นมงคลวัตถุ อำนวยผลนานาประการโดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านเมตตามหานิยม พระพุทธรูปสมัยอู่ทองโดยเฉพาะพระพุทธรูปอู่ทองหน้าแก่มักสร้างด้วยเนื้อนี้<O:p></O:p>
    2. สัมฤทธิ์โชค คือสัมฤทธิ์เหลือง หรือปัญจโลหะ เป็นโบราณนิยามหมายถึงเบญจขันธ์ (ขันธ์ 5) คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เป็นทองสัมฤทธิ์เนื้อห้า ได้แก่ ทองแดง ตะกั่ว สังกะสี เงิน ทองคำ มีวรรณะเหลืองคล้ายเนื้อกลองมโหระทึก หรือขันลงหิน มีแววนกยูงภายในเนื้อ เป็นสัมฤทธิ์ที่ให้คุณหนักไปทางด้านลาภผล กับความสำเร็จ พระพุทธรูปสกุลช่างสุโขทัยบางยุคและพระเชียงแสน พระชัยวัฒน์ของสมเด็จพระสังฆราชแพ บางรุ่น และพระกริ่งพระชัยวัฒน์ของท่านเจ้าคุณศรีสนธิ์บางรุ่นก็สร้างด้วยเนื้อนี้<O:p></O:p>

    3. สัมฤทธิ์ศักดิ์ คือสัมฤทธิ์ขาว หรือสัตตโลหะ เป็นมงคลนามหมายถึง โพชฌงค์ 7 คือ องค์ธรรมเป็นเครื่องตรัสรู้ มี 7 ประการ ได้แก่ สติ ธัมมวิจยะ วิริยะ ปิติ ปัสสัทธิ สมาธิ และอุเบกขา สัมฤทธิ์ศักดิ์เป็นทองสัมฤทธิ์เนื้อเจ็ด ประกอบด้วย ทองแดง ตะกั่ว สังกะสี ปรอท เหล็กละลายตัว เงิน และทองคำ สัมฤทธิ์ตระกูลนี้มีวรรณะหม่นคล้ำน้อยๆ แต่มีแวววรรณะขาวผสมผสานอยู่ นับถือกันว่าอำนวยผลในด้านอำนาจ มหาอุด คงกระพัน แคล้วคลาด<O:p></O:p>
    4. สัมฤทธิ์คุณ คือสัมฤทธิ์เขียว หรือนวโลหะ หมายถึงนัยของธรรมอันสูงสุดในพระศาสนา อันได้แก่ นวโลกุตรธรรม อันมี มรรค 4 ผล 4 นิพพาน 1 สัมฤทธิ์คุณเป็นทองสัมฤทธิ์เนื้อเก้า เช่นเดียวกับสัมฤทธิ์เดช ประกอบด้วย ทองแดง ตะกั่ว สังกะสี ปรอท เหล็กละลายตัว ชิน จ้าวน้ำเงิน เงิน และทองคำ แต่สัมฤทธิ์ตระกูลนี้แก่ส่วนผสมของเนื้อเงินมากกว่าธรรมดา ฉะนั้น เนื้อภายในจึงมีวรรณะสีจำปาอ่อนหรือนากอ่อน แต่ผิวเนื้อเมื่อกลับคล้ำเพราะถูกไอเหงื่อ จะมีวรรณะคล้ำเจือเขียวเตยหม่นแกมเหลืองอ่อนคล้ำมีแววขาวโดยตลอดเนื้อ สัมฤทธิ์ชนิดนี้อำนวยคุณวิเศษเช่นเดียวกับสัมฤทธิ์เดชทุกประการ<O:p></O:p>
    5. สัมฤทธิ์เดช คือสัมฤทธิ์ดำ หรือนวโลหะ เป็นทองสัมฤทธิ์เนื้อเก้า เช่นเดียวกับสัมฤทธิ์คุณ แต่มีสัดส่วนการผสมได้เกณฑ์ถูกต้องตามมูลสูตรมากที่สุด ดังนั้นภายในจึงมีวรรณะจำปาแก่ หรือสีนากแก่ ผิวเนื้อเมื่อกลับคล้ำเพราะต้องไอเหงื่อ จะดำสนิท ประหนึ่งนิลดำ เรียกกันว่า "สัมฤทธิ์เนื้อกลับ" โบราณถือว่าสัมฤทธิ์นวโลหะทั้ง 2 ประเภทนี้ เป็นสัมฤทธิ์ที่สมบูรณ์ที่สุด หรือเป็นยอดของสัมฤทธิ์ อำนวยผลในด้านมหาอุตม์อันสูงส่ง คืออำนาจตะบะเดชะ มหานิยม ลาภผล ความสำเร็จ คงกระพัน แคล้วคลาด ทุกประการ สูตรผสมเนื้อสัมฤทธิ์เดช หรือนวโลหะ ที่เป็นตำรับของสมเด็จพระพนรัต วัดป่าแก้ว ยุคกรุงศรีอยุธยา ตกทอดมาอยู่กับ สมเด็จกรมพระยาปรมานุชิตชิโนรส วัดพระเชตุพนฯ พระพุฒาจารย์มา ครั้งยังเป็นพระมงคลทิพยะมุนี วัดจักรวรรดิฯ และสมเด็จพระสังฆราช แพ วัดสุทัศน์ ครั้งยังเป็นพระเทพโมลีตามลำดับ เกณฑ์อัตราส่วนผสมของโลหะทั้ง 9 ชนิด มีดังนี้<O:p></O:p>
    1) ชิน หนัก 1 บาท<O:p></O:p>
    2) จ้าวน้ำเงิน หนัก 2 บาท<O:p></O:p>
    3) เหล็กละลายตัว หนัก 3 บาท<O:p></O:p>
    4) ตะกั่วเถื่อน หนัก 4 บาท<O:p></O:p>
    5) ปรอท หนัก 5 บาท<O:p></O:p>
    6) สังกะสี หนัก 6 บาท<O:p></O:p>
    7) บริสุทธิ์ (ทองแดงเถื่อน) หนัก 7 บาท<O:p></O:p>
    8) เงิน หนัก 8 บาท<O:p></O:p>
    9) ทองคำ หนัก 9 บาท<O:p></O:p>
    เนื้อ ทองสัมฤทธิ์เดชนี้ เราจะเห็นได้ว่า ส่วนผสมใช้ทองคำมากกว่าโลหะอื่นๆ ซึ่งหนักถึง 9 บาท จึงจะได้น้ำหนักของเนื้อสัมฤทธิ์เดชเพียง 45 บาทเท่านั้น ซึ่งก็จะสร้างเป็นองค์พระไม่ได้มากนัก ในปัจจุบันจึงไม่มีใครกล้าทำเนื้อทองสัมฤทธิ์เดช ซึ่งเป็นนวโลหะจริงๆ ตามสูตรโบราณเนื่องจากจะสิ้นเปลืองมาก<O:p></O:p>
    การสร้างพระเครื่องและเหรียญใน ปัจจุบันนี้ได้ทำให้คนเข้าใจผิดกันมาก โดยเรียกโลหะผสมชนิดเนื้ออ่อนๆ ชนิดหนึ่งว่าเป็นเนื้อนวโลหะ และเรียกโลหะผสมชนิดเนื้อกลับว่า เป็นเนื้อสัมฤทธิ์ ซึ่งเป็นการตรงกันข้าม เพราะคำว่านวโลหะ หมายถึงเนื้อทองสัมฤทธิ์เนื้อเก้าตามแบบโบราณเท่านั้น
    ครับเรื่องของ เนื้อทองสัมฤทธิ์ก็มีเท่าที่เล่ามานี้แหละครับ ส่วนเนื้อโลหะอื่นๆ ที่นำมาสร้างพระเครื่องก็ยังมีอีกมาก เช่นเนื้อชิน เนื้อเมฆพัด เนื้อเมฆสิทธิ์ และเนื้ออัลปาก้าเป็นต้น

    <O:p>โดย Dumrong</O:p>
    ...............................................................
    จากข้อมูลของบทความด้านบนนำมาศึกษา เมื่อใช้ครีม wenol ขัดผิวเนื้อพระกริ่งปวเรศ (สมเด็จวังบูรพา) พ.ศ.2434 ที่มีสีผิวกลับดำ โดยการสังเกตุความเข้มของสีผิวที่แตกต่างกัน ทำให้ทราบว่าในขณะที่นำโลหะฯทั้งหมดมาใส่เบ้าหลอมโลหะการกระจายตัวของโลหะมีความแตกต่างกัน เกิดจากคุณสมบัติความถ่วงจำเพาะของโลหะทำให้พบเนื้อของพระกริ่งฯ 2 วรรณะหลักๆ ดังนี้คือ
    สัมฤทธิ์คุณ เนื้อภายในจึงมีวรรณะสีจำปาอ่อนหรือนากอ่อน พระส่วนใหญ่ที่พบจะมีเนื้อนี้มากที่สุด
    สัมฤทธิ์เดช เนื้อภายในจึงมีวรรณะจำปาแก่ หรือสีนากแก่ มีจำนวนไม่มากนัก(แก่ทองคำ)



    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กันยายน 2010
  15. พรสว่าง_2008

    พรสว่าง_2008 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2008
    โพสต์:
    356
    ค่าพลัง:
    +402
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 6 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 4 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>พรสว่าง_2008, psombat </TD></TR></TBODY></TABLE>
    หวัด D ครับ เป็นจั่งได๋ สบายดีบ่ ที่บ้านเฮาฝนตกดีจังเลยช่วงนี้น่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กันยายน 2010
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948

    สำหรับรุ่นพระกริ่งปวเรศ มีมากกว่าที่บอกนะครับ ทั้งพระกริ่งปวเรศเนื้อสเตอร์ริง ซิลเวอร์ หรือ ที่พี่สิทธิพรแจ้งว่า หมุดทอง ,ใต้ฐานบุทอง ,กริ่งระฆังทอง ตกสำรวจ

    ยังมี บุทองคำ และ หลายพิมพ์ที่สร้างในเมืองไทยอีกครับ

    และการนำเข้าพระราชพิธีพุทธาภิเษกหลวง พิธีเดียวกันกับ พระกริ่งปวเรศ เนื้อสเตอร์ริง ซิลเวอร์ เช่นกัน

    อยู่กับผม ผมไม่ได้ให้ใครไปเลยครับ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นพิมพ์ละ 1 องค์ครับ

    .
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948

    หรือ อาจจะเป็นพระราชพิธีหลวง พิธีเดียวกันครับ



    .
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border: 1px inset;"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    นอก จากโพสนี้ที่แจ้งว่า พระกริ่งปวเรศ รุ่นเนื้อเงินสเตอร์ริง ซิลเวอร์ ที่หลวงปู่กรมพระยาปวเรศ ท่านอธิษฐานจิตเดี่ยวแล้ว ยังมีบางองค์ ที่กลุ่มหลวงปู่องค์อภิญญาใหญ่ ท่านอธิษฐานจิตกับหลวงปู่กรมพระยาปวเรศด้วย ซึ่งผมเข้าใจว่า น่าจะเป็นคนละพระราชพิธีหลวง แต่ในปีเดียวกันคือ ปี พ.ศ.2434 ครับ

    .
    </td> </tr> </tbody></table>
    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border: 1px inset;"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Natachai [​IMG]

    พิธีนี้เป็นพิธีใหญ่ระดับที่เรียกว่า "พระราชพิธีหลวง" มีพระเกจิฯที่มีชื่อเสียงในสมัยนั้นหลายองค์ที่ได้ร่วมอธิฐานจิต :cool: ภายหลังจากที่เสร็จพิธีอธิฐานจิต ผู้สร้างเก็บเข้าวังหมด สามัญชนในวัดแทบจะไม่ได้สัมผัส จึงทำให้ไม่ได้มีการบรรทึกไว้ในประวัติศาสตร์ พระกริ่งฯรุ่นนี้แจกจ่ายเฉพาะลูกหลานและคนสนิทของพระองค์ท่าน จึงทำให้รู้จักเฉพาะในวงบรมวงศานุวงศ์ที่ใกล้ชิดเท่านั้น
    </td> </tr> </tbody></table>
    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border: 1px inset;"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sittiporn.s [​IMG]
    จารทั้งองค์ ,หมุดทอง ,ใต้ฐานบุทอง ,กริ่งระฆังทอง ตกสำรวจ
    </td> </tr> </tbody></table>
    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border: 1px inset;"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sittiporn.s [​IMG]
    พระราชพิธีหลวง"ฉลองสมณศักดิ์เป็นสมเด็จพระสังราช "หลังจากว่างเว้นอยู่หลายปี
    </td> </tr> </tbody></table>
    อ้างอิง:
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Natachai [​IMG]

    ส่วนผสมของโลหะที่ใช้สร้างพระเครื่อง

    คง มีหลายท่านที่ชื่นชอบพระเครื่องหรือวัตถุมงคลต่างๆ ที่มีส่วนผสมของโลหะหลายชนิดและมีชื่อเรียกเฉพาะเช่น เนื้อสำริดหรือสัมฤทธิ์ เนื้อสัตตโลหะ เนื้อนวโลหะ เป็นต้น
    ใน การทำ พระเครื่องและวัตถุมงคลนั้น ในสมัยโบราณได้มีการเล่นแร่แปรธาตุกัน แต่ละสำนักซึ่งส่วนใหญ่สามารถแบ่งหรือแจกแจงมวลสารโลหะที่ใช้ทำพระเครื่อง ได้ดังนี้
    เนื้อนวโลหะ ประกอบไปด้วย โลหะ 9 อย่างได้แก่ ทองคำ เงิน ทองแดง จ้าวน้ำเงิน เหล็กละลายตัว ชิน ตะกั่วน้ำนม ปรอท สังกะสี
    เนื้อสัตตโลหะประกอบด้วย ทองคำ ทองแดง จ้าวน้ำเงิน เหล็ก ตะกั่ว ปรอท
    โลหะ สัมฤทธิ์โบราณ ประกอบไปด้วยธาตุบริสุทธิ์ตั้งแต่ 3 ชนิดขึ้นไปโดยมี แร่ทองคำและเงินเป็นหลัก ถ้าไม่มีจะไม่ถือว่าเป็นสัมฤทธิ์ และที่เป็นหลักอีกอย่างคือทองแดง ซึ่งจะใช้มากเพื่อให้ได้ปริมาณ

    เนื้อ สำริดหรือสัมฤทธิ์ ประกอบด้วยตระกูลของสัมฤทธิ์ที่ถูกต้องตามสูตรโบราณมีอยู่ 5 ตระกูล คือ สัมฤทธิ์ผล สัมฤทธิ์โชค สัมฤทธิ์ศักดิ์ สัมฤทธิ์คุณ และสัมฤทธิ์เดช รวมเป็นสัมฤทธิ์ 5 ตระกูล อันมีความพิสดารดังต่อไปนี้

    1. สัมฤทธิ์ผล คือสัมฤทธิ์แดง หรือตริยโลหะ มีมงคลความหมายถึง พระรัตนตรัยเป็นทองสัมฤทธิ์เนื้อสาม ผสมด้วยโลหะธาตุ 3 ชนิด คือ ทองแดง เป็นส่วนใหญ่และเจือด้วยเงินกับทองคำ สัมฤทธิ์ตระกูลนี้มีวรรณะแดงคล้ายนาก แต่มีผิวเจือด้วยวรรณะคล้ำๆ คล้ายสีมะขามเปียก โบราณถือว่าเป็นมงคลวัตถุ อำนวยผลนานาประการโดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านเมตตามหานิยม พระพุทธรูปสมัยอู่ทองโดยเฉพาะพระพุทธรูปอู่ทองหน้าแก่มักสร้างด้วยเนื้อนี้

    2. สัมฤทธิ์โชค คือสัมฤทธิ์เหลือง หรือปัญจโลหะ เป็นโบราณนิยามหมายถึงเบญจขันธ์ (ขันธ์ 5) คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เป็นทองสัมฤทธิ์เนื้อห้า ได้แก่ ทองแดง ตะกั่ว สังกะสี เงิน ทองคำ มีวรรณะเหลืองคล้ายเนื้อกลองมโหระทึก หรือขันลงหิน มีแววนกยูงภายในเนื้อ เป็นสัมฤทธิ์ที่ให้คุณหนักไปทางด้านลาภผล กับความสำเร็จ พระพุทธรูปสกุลช่างสุโขทัยบางยุคและพระเชียงแสน พระชัยวัฒน์ของสมเด็จพระสังฆราชแพ บางรุ่น และพระกริ่งพระชัยวัฒน์ของท่านเจ้าคุณศรีสนธิ์บางรุ่นก็สร้างด้วยเนื้อนี้

    3. สัมฤทธิ์ศักดิ์ คือสัมฤทธิ์ขาว หรือสัตตโลหะ เป็นมงคลนามหมายถึง โพชฌงค์ 7 คือ องค์ธรรมเป็นเครื่องตรัสรู้ มี 7 ประการ ได้แก่ สติ ธัมมวิจยะ วิริยะ ปิติ ปัสสัทธิ สมาธิ และอุเบกขา สัมฤทธิ์ศักดิ์เป็นทองสัมฤทธิ์เนื้อเจ็ด ประกอบด้วย ทองแดง ตะกั่ว สังกะสี ปรอท เหล็กละลายตัว เงิน และทองคำ สัมฤทธิ์ตระกูลนี้มีวรรณะหม่นคล้ำน้อยๆ แต่มีแวววรรณะขาวผสมผสานอยู่ นับถือกันว่าอำนวยผลในด้านอำนาจ มหาอุด คงกระพัน แคล้วคลาด

    4. สัมฤทธิ์คุณ คือสัมฤทธิ์เขียว หรือนวโลหะ หมายถึงนัยของธรรมอันสูงสุดในพระศาสนา อันได้แก่ นวโลกุตรธรรม อันมี มรรค 4 ผล 4 นิพพาน 1 สัมฤทธิ์คุณเป็นทองสัมฤทธิ์เนื้อเก้า เช่นเดียวกับสัมฤทธิ์เดช ประกอบด้วย ทองแดง ตะกั่ว สังกะสี ปรอท เหล็กละลายตัว ชิน จ้าวน้ำเงิน เงิน และทองคำ แต่สัมฤทธิ์ตระกูลนี้แก่ส่วนผสมของเนื้อเงินมากกว่าธรรมดา ฉะนั้น เนื้อภายในจึงมีวรรณะสีจำปาอ่อนหรือนากอ่อน แต่ผิวเนื้อเมื่อกลับคล้ำเพราะถูกไอเหงื่อ จะมีวรรณะคล้ำเจือเขียวเตยหม่นแกมเหลืองอ่อนคล้ำมีแววขาวโดยตลอดเนื้อ สัมฤทธิ์ชนิดนี้อำนวยคุณวิเศษเช่นเดียวกับสัมฤทธิ์เดชทุกประการ

    5. สัมฤทธิ์เดช คือสัมฤทธิ์ดำ หรือนวโลหะ เป็นทองสัมฤทธิ์เนื้อเก้า เช่นเดียวกับสัมฤทธิ์คุณ แต่มีสัดส่วนการผสมได้เกณฑ์ถูกต้องตามมูลสูตรมากที่สุด ดังนั้นภายในจึงมีวรรณะจำปาแก่ หรือสีนากแก่ ผิวเนื้อเมื่อกลับคล้ำเพราะต้องไอเหงื่อ จะดำสนิท ประหนึ่งนิลดำ เรียกกันว่า "สัมฤทธิ์เนื้อกลับ" โบราณถือว่าสัมฤทธิ์นวโลหะทั้ง 2 ประเภทนี้ เป็นสัมฤทธิ์ที่สมบูรณ์ที่สุด หรือเป็นยอดของสัมฤทธิ์ อำนวยผลในด้านมหาอุตม์อันสูงส่ง คืออำนาจตะบะเดชะ มหานิยม ลาภผล ความสำเร็จ คงกระพัน แคล้วคลาด ทุกประการ สูตรผสมเนื้อสัมฤทธิ์เดช หรือนวโลหะ ที่เป็นตำรับของสมเด็จพระพนรัต วัดป่าแก้ว ยุคกรุงศรีอยุธยา ตกทอดมาอยู่กับ สมเด็จกรมพระยาปรมานุชิตชิโนรส วัดพระเชตุพนฯ พระพุฒาจารย์มา ครั้งยังเป็นพระมงคลทิพยะมุนี วัดจักรวรรดิฯ และสมเด็จพระสังฆราช แพ วัดสุทัศน์ ครั้งยังเป็นพระเทพโมลีตามลำดับ เกณฑ์อัตราส่วนผสมของโลหะทั้ง 9 ชนิด มีดังนี้

    1) ชิน หนัก 1 บาท
    2) จ้าวน้ำเงิน หนัก 2 บาท
    3) เหล็กละลายตัว หนัก 3 บาท
    4) ตะกั่วเถื่อน หนัก 4 บาท
    5) ปรอท หนัก 5 บาท
    6) สังกะสี หนัก 6 บาท
    7) บริสุทธิ์ (ทองแดงเถื่อน) หนัก 7 บาท
    8) เงิน หนัก 8 บาท
    9) ทองคำ หนัก 9 บาท

    เนื้อ ทองสัมฤทธิ์เดชนี้ เราจะเห็นได้ว่า ส่วนผสมใช้ทองคำมากกว่าโลหะอื่นๆ ซึ่งหนักถึง 9 บาท จึงจะได้น้ำหนักของเนื้อสัมฤทธิ์เดชเพียง 45 บาทเท่านั้น ซึ่งก็จะสร้างเป็นองค์พระไม่ได้มากนัก ในปัจจุบันจึงไม่มีใครกล้าทำเนื้อทองสัมฤทธิ์เดช ซึ่งเป็นนวโลหะจริงๆ ตามสูตรโบราณเนื่องจากจะสิ้นเปลืองมาก

    การ สร้างพระเครื่องและเหรียญใน ปัจจุบันนี้ได้ทำให้คนเข้าใจผิดกันมาก โดยเรียกโลหะผสมชนิดเนื้ออ่อนๆ ชนิดหนึ่งว่าเป็นเนื้อนวโลหะ และเรียกโลหะผสมชนิดเนื้อกลับว่า เป็นเนื้อสัมฤทธิ์ ซึ่งเป็นการตรงกันข้าม เพราะคำว่านวโลหะ หมายถึงเนื้อทองสัมฤทธิ์เนื้อเก้าตามแบบโบราณเท่านั้น
    ครับ เรื่องของ เนื้อทองสัมฤทธิ์ก็มีเท่าที่เล่ามานี้แหละครับ ส่วนเนื้อโลหะอื่นๆ ที่นำมาสร้างพระเครื่องก็ยังมีอีกมาก เช่นเนื้อชิน เนื้อเมฆพัด เนื้อเมฆสิทธิ์ และเนื้ออัลปาก้าเป็นต้น

    โดย Dumrong
    ...............................................................
    จาก ข้อมูลของบทความด้านบนนำมาศึกษา เมื่อใช้ครีม wenol ขัดผิวเนื้อพระกริ่งปวเรศ (สมเด็จวังบูรพา) พ.ศ.2434 ที่มีสีผิวกลับดำ โดยการสังเกตุความเข้มของสีผิวที่แตกต่างกัน ทำให้ทราบว่าในขณะที่นำโลหะฯทั้งหมดมาใส่เบ้าหลอมโลหะการกระจายตัวของโลหะมี ความแตกต่างกัน เกิดจากคุณสมบัติความถ่วงจำเพาะของโลหะทำให้พบเนื้อของพระกริ่งฯ 2 วรรณะหลักๆ ดังนี้คือ
    สัมฤทธิ์คุณ เนื้อภายในจึงมีวรรณะสีจำปาอ่อนหรือนากอ่อน พระส่วนใหญ่ที่พบจะมีเนื้อนี้มากที่สุด
    สัมฤทธิ์เดช เนื้อภายในจึงมีวรรณะจำปาแก่ หรือสีนากแก่ มีจำนวนไม่มากนัก(แก่ทองคำ)






    คุณNatachai เวลาที่ไม่ชอบอะไร ตอนนี้การตอบเบาเยอะ

    แต่ผมไม่ใช่

    ผมเน้นแก๊งบัวใต้น้ำ กะว่า จะเก็บกวาดให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาดกันไป อยู่ก็รกโลก ให้รกหญ้าดีกว่า ต้องพยายามเอาไปสาบานที่วัดพระแก้ว และ วัดโสธรให้ได้




    .


    .
     
  19. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    วันนี้เหนื่อยมากๆ ตั้งแต่ตี 5 จน 5 ทุ่มครึ่ง ไปเหนือ ล่องใต้ ผ่านอยุธยา ผ่านอ่างทอง ลงสิงห์บุรี ตามหาหมอเทวดา สมหมาย ทองประเสริฐ กว่าจะเสร็จธุระก็เกือบ 5 โมงเย็น ไปสมุทรสาครต่อ ไม่ไหวครับ ไข้ขึ้น...
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <table class="tborder" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1" width="100%"><tbody><tr><td class="thead">ณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 4 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 2 คน ) </td> <td class="thead" width="14%"> [ แนะนำเรื่องเด่น ] </td> </tr> <tr> <td class="alt1" colspan="2" width="100%"> sithiphong, chantasakuldecha+</td></tr></tbody></table>
    อรุณสวัสดิ์จ๊า

    .
     

แชร์หน้านี้

Loading...