เรียนถามเรื่องการถือศีล8

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย skygolo, 9 กันยายน 2010.

  1. skygolo

    skygolo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    14
    ค่าพลัง:
    +149
    พอดีหาอ่านมาก็มีหลายนัย
    อยากถามว่า รักษาศ๊ล8
    คือถ้ามันโหยเพลียๆ มาก กาแฟ นมหนองโพ นี่ทานได้มั้ยครับ
    พอดีลองๆทดลองดู อดมาได้สองวัน วันนี้รู้สึกมันโหยๆ
    อันนี้ลองงดไปเฉยๆ ไม่ได้สมาทานไว้ครับ


    ขอบคุณล่วงหน้ามากครับ
     
  2. Fabreguz

    Fabreguz เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    645
    ค่าพลัง:
    +1,911
    อนุโมธนา สาธุ ด้วยครับ น่าจะทานได้ครับ รอผู้รู้เพิ่มเติม
     
  3. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,730
    กาแฟ โกโก้ โอวัลตินดื่มได้ค่ะ
    ส่วนน้ำผลไม้ที่ขายเป็นกล่องต้องอ่านดีๆว่า มีเนื้อผลไม้หรือเปล่า
    ปานะ ทำเองดีที่สุดค่ะ (ไม่ผ่านไฟนะคะ)
     
  4. Jeerachai_BK

    Jeerachai_BK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    318
    ค่าพลัง:
    +821
    ความมุ่งหมายของศีล ๘ ในข้อเกี่ยวกับโภชนา คือไม่ให้เราเพลิดเพลินในอาหาร

    แต่เดิม อนุญาตน้ำอัฏฐบานหรือน้ำปานะ ซึ่งเป็นน้ำที่คั้นจากผลไม้ (แต่ไม่ใช่ทุกชนิด)

    ปัจจุบัน มีเครื่องดื่มสมุนไพรสำเร็จรูป ต่างๆ รวมถึงกาแฟ

    ดูความมุ่งหมายแล้ว ทาน "กาแฟ" ได้ครับ (แต่ระวังติด) แต่ "นม" นี่ ไม่ควรครับ
     
  5. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    ผมไม่รู้นะ....พระธรรมยุท ท่านว่านมถือเป็นพวกอาหาร ไม่ดื่ม...ไม่ให้มีกาก...

    มหานิกายเอายึดแบบดื่ม ไม่เคี้ยว ถือว่าใช้ได้......นม โอวัลติล กาแฟ น้ำเต้าหู่ น้ำข้าวโพด ได้หมด.......

    ปกติถ้าผมถือศีล ๘ ผมจะถือแบบของมหานิกายครับ.....เอาไม่ได้เคี้ยวเป็นหลัก....
     
  6. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,130
    ถาม: วิกาละโภชนา พระกับฆราวาสต่างกันไหม ?

    ตอบ : ถ้าฆราวาส หลวงพ่อท่านบอกว่าส่วนใหญ่แล้วทำงานมันเลิกเที่ยง ท่านบอกว่าให้กำหนดไว้ว่าไม่เกินบ่าย ๒ โมง แต่ว่าของพระนี่...ถ้าเที่ยงตรงเป๊งก็ต้องเลิกเลย เพราะโลกมันนิยมอย่างนั้น ความจริงวิกาลแปลว่ากลางคืน ศีลพระมีอยู่ ๒ ข้อ ที่กล่าวชัดๆ ถึงเวลาวิกาล ก็คือรับประทานอาหารในเวลาวิกาลอย่างหนึ่ง และเข้าบ้านในเวลาวิกาลโดยไม่ได้บอกลาอย่างหนึ่ง

     แต่คราวนี้ของเรา เวลาวิกาลที่ไม่ได้บอกลาจะเข้าไปในบ้าน เขาตีว่าพระอาทิตย์ตกดินแล้ว แต่ว่าเวลาวิกาลที่ฉันอาหาร เขาตีว่าหลังเที่ยงไปแล้ว มันลักลั่นกัน แต่พม่ามันตีราคาเดียวกัน เพราะฉะนั้น พระพม่าฉันมื้อเย็นกันเพลิดเพลินเจริญใจไปเลย ถือว่าวิกาลเหมือนกัน แต่จริงๆ เราต้องมาดูตรงจุดที่ว่า พระพุทธเจ้าท่านปรารถนาให้เรารู้จักโภชเนมัตตัญญุตา คือ ประมาณในการกิน การรู้จักประมาณในการฉันแต่พอควรแก่ธาตุขันธ์ตัวเอง มันก็ไม่ทำให้กิเลสกำเริบ มันทำให้ร่างกายโปร่งเบา มันทำให้ภาวนาได้ง่าย มันทำให้ไม่ต้องมีห่วงมีกังวลในการเตรียมอาหารมื้อต่อไป ดังนั้นแม้ว่าฆราวาสเราจะว่ากันจนถึงบ่าย ๒ โมง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าให้เรากินตั้งแต่เช้ายันบ่าย ๒ โมง มันต้องรู้จักประมาณบ้าง

     สมัยก่อนมีโยมอยู่คนหนึ่ง ชุดนี้ทำงานเก่ง เวลาไปวัดท่าซุง คุณจะเห็นชุดขาวพรึ่บไปทั้งชุด ๓๐ – ๔๐ คนเลย มีอยู่รายหนึ่งถือศีลแปด อธิษฐานว่าจะกินถึงบ่าย ๒ โมง ปรากฎว่ากินวันหนึ่ง ๑๐ กว่ามื้อ ตกลงว่าให้กิน ๓ มื้อเท่าเดิมดีกว่า เปลืองน้อยกว่าเยอะเลย ต้องรู้จักประมาณในการกิน ไม่ใช่ว่าตะบันไป ให้มันเป็นมื้อเป็นคราว

    ถาม: ไอศกรีม ?

    ตอบ : ไอศกรีม จริงๆ ถ้าหากว่าเป็นพระ ไม่มีพวกถั่ว ลอดช่อง สาคู มันเป็นแค่นมเนยมันได้ แต่หลวงพ่อท่านเคยขอไว้ ท่านบอกว่าถ้าไม่ถึงกับจะตายห่าจริงๆ อย่าไปแดกมันเลยลูก มันน่าเกลียด คือเห็นพระนั่งกินไอติมอยู่ มันงามไหมล่ะ ? โดยเฉพาะตอนเย็นๆ แต่ว่าศีลของพระเป็นอย่างนั้น คราวนี้ของโยมเขาไม่ได้ห้ามเอาไว้ชัด ถ้าเรารู้ชัดว่ามันไม่ใช่อาหารก็ว่าไป แต่ไม่ใช่กินไป ๓ ถ้วย ๕ ถ้วย เอามันแค่พอระงับการกระวนกระวายของร่างกายที่จะเกิดจากความหิว

    ถาม: น้ำเต้าหู้ ?

    ตอบ : น้ำเต้าหู้ ถ้าพระไม่ได้จ้ะ แต่โยมได้ เพราะว่าของพระเขาระบุไว้ชัดเลยว่าอันไหนเป็นอาหาร อันไหนเป็นเภสัช ส่วนที่เป็นอาหารเขาระบุไว้ชัดเลย สาลี วีหี ตัณฑุลา สาลีคือข้าว วีหีคือถั่ว ตัณฑุลาคืองา น้ำเต้าหู้นี่มันมาจากถั่ว ถึงทำเป็นน้ำแล้วเขายังถือว่าเป็นอาหารอยู่ เพราะฉะนั้นพวกน้ำเต้าหู้ น้ำถั่วเหลือง แลคตาซอย ไวตามิลค์ ถวายพระไป ถ้าท่านไม่รู้ท่านฉันไปก็เป็นโทษเหมือนกัน

     แต่มาตอนหลังมันถวายกันจนกระทั่งพระไปไม่เป็นแล้ว คือไม่ว่ากี่มื้อถวายแต่อย่างนั้น แล้วเขาถามว่ายังไง ? บอกคุณก็ฉันไป ๑ แก้วก็พอ ไม่ใช่ฟาดไป ๓ ขวด ๕ ขวด มันต้องรู้จักประมาณ ในเมื่อโยมเขาถวายมา ถ้าเราไม่ฉัน เขาก็เกิดน้อยใจ เสียใจ กำลังใจเขาตก คุณก็ฉันให้เขาดูสักแก้ว ครึ่งแก้ว แล้วเราก็ไปปลงอาบัติของเรา เพราะเรารู้ว่าไม่ถูกต้อง มันไม่ใช่เจตนาเราจะฉันเอาอิ่มเอาสนุกจะกินให้อ้วนพี จะกินให้ยั่วกิเลสมันเกิดขึ้น แต่ว่าการฉันโดยบังคับด้วยสถานการณ์เพราะต้องการรักษาศรัทธาญาติโยม แต่ถ้าเป็นอาตมารับมา ก็ส่งต่อไปเลย อาตมาไม่ค่อยรักษาศรัทธาหรอก มันมาเยอะ เราเหนื่อย

    ถาม: ไอศกรีมไม่ต้องเคี้ยว

    ตอบ : จริงๆ มันเป็นส่วนของนมเนย พระพุทธเจ้าท่านอนุญาตให้เนยใส เนยข้น น้ำมัน น้ำผึ้ง น้ำอ้อย ถ้านมเป็นเนยเฉยๆ ไม่เป็นไร แต่ก็อย่างว่าน่ะ ที่หลวงพ่อท่านว่ามันน่าเกลียด ถ้าเป็นโยมกินไปเถอะ เพราะเขาไม่รู้หรอกว่าเรารักษาศีลแปดหรือเปล่า ยกเว้นเราโกนหัวนุ่งขาวห่มขาว

    ถาม: ไอศกรีมกะทิก็ห้ามด้วย

    ตอบ : ก็ดูสิว่ามันจะไม่มีของอื่นที่เป็นอาหารอยู่ ถ้าหากว่ามีพวกผลไม้มีลอดช่อง มีถั่ว ก็ฉันไม่ได้อยู่แล้ว จริงๆ กะทิเป็นน้ำมัน ที่เขาห้าม คือ ห้ามน้ำพวกที่เป็นมหาผล ที่เขาห้ามเพราะว่าน้ำมันมีฮอร์โมนมาก เป็นพระต้องการความสงบ กินไอ้ที่มีฮอร์โมนเยอะๆ เข้าไป มันหาที่ไปไม่เป็นหรอก

    ถาม: น้ำผลไม้ก็ไม่ได้ ?

    ตอบ : น้ำผลไม้เขาห้ามไอ้ที่ใหญ่กว่ากำปั้น ส่วนใหญ่พวกสับปะรด แตงโม ส้มโอ มะพร้าวอ่อน ฮอร์โมนเยอะมาก ฉันเข้าไปจะไม่สุขสงบ แรกๆ ท่านอนุญาตไว้ ๘ อย่าง เรียกว่า อัฏฐบานคือ อัฏฐปานะ น้ำ ๘ อย่าง มาตอนหลังท่านบัญญัติเพิ่มเติมว่า ถ้าเป็นผลไม้แล้วโตไม่เกินลูกมะตูม คือกะว่าประมาณกำปั้นนี่ ถ้าไม่โตเกินนั้นก็อนุญาตให้ ถ้าโตเกินนั้นไม่อนุญาต



    สนทนากับพระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    เดือนมกราคม ๒๕๔๗(ต่อ)
    ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ



    http://palungjit.org/threads/การรักษาศีลข้อวิกาละโภชนา.198768/


    .
     
  7. skygolo

    skygolo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    14
    ค่าพลัง:
    +149
    ขอบคุณมากๆเลยครับ สำหรับทุกๆคำตอบ
    แจ่มแจ้งมากเลยครับ พอดีเห็นว่าศีล5 เริ่มๆจะเข้าที่ สมาธิก็เริ่มจะเข้าทาง
    ก็เลยลองๆ เซิฟ ศีล8 ดู แต่ไม่ได้สมาทาน ลองอดเล่นๆ วันแรกพอทน
    วันที่สองเริ่มโหยโรยแรง อิอิ


    เป็นที่น่าสังเกตเราอดแค่นี้จะแย่ละ อิสลามเค้าถือศีลอดกันนี่ นับถือใจจริงๆ นั่นน้ำลาย
    กลืนไม่ได้อีก หนักกว่าเราเยอะเลย
     
  8. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,130

    แนะนำให้ ถือศีล ๘ อุโบสถครับ .... ศีล ๘ ถ้าถือทุกวันไม่เหมาะกับ ฆราวาส


    โอกาสศีลขาดได้ง่าย ซึ่งไม่เป็นการดีนัก:cool:
     
  9. หาธรรม

    หาธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,164
    ค่าพลัง:
    +3,739
    ไหน ๆ จะ ถือแล้วก็ต้องทำให้อย่าบกพร่องนะครับ ถ้ารู้สึกโหยก็ต้องทนนะครับ ฝึกการอดเพื่อไม่ให้กังวลกับอาหาร ทำให้ได้ปัญญาคือ รู้จักความหิว ความหิวมันคือกิเลสละเอียด ถ้าไม่อดก็ไม่รู้จักกิเลสละเอียดที่เป็นความหิว อดแล้วกายจะเบา สติจะไว ทำสมาธิจิตรวมไว

    ศีลแปด ดื่มน้ำปานะได้ ตอนต้นพระพุทธเจ้าท่านอนุญาติให้พระฉันน้ำผลไม้ได้ไม่กิ่ชนิด ต่อจากนั้นมาท่านอนุญาติเพิ่ม แต่ต้องเป็นเพียงแต่น้ำเท่านั้นไม่มีเนื้อ

    กาแฟ(ไม่ใส่นม)เช่น พวกกาแฟ three in one ดื่มได้
    โกโก้กระป๋อง แบบซื้อมาชงเองกับน้ำร้อนดื่มได้
    น้ำหวาน น้ำเชื่อม ดื่มได้ หรือ เครื่องดื่มต่าง ๆ ที่ต้องไม่ใส่นมหรือน้ำถั่วเหลือง


    นมถั่วเหลือง ไมโล โอวัลติน นมกล่อง และกาแฟใส่นม ดื่มไม่ได้ เพราะ มันเป็น โภชนะเนื่องจากมีแป้งหรือนมเป็นองค์ประกอบ

    น้ำผึ้ง น้ำอ้อย ดื่มได้ เนยแข็ง เนยเหลว กินได้ ถ้าพิจารณาว่าเป็นโอสถเพื่อประทังโรค คือ ความหิว

    สาเหตุของความหิว คือ น้ำตาลในเลือดต่ำเนื่องจากเราไม่ได้ทานข้าว (ซึ่งปกติข้าวย่อยแล้วได้น้ำตาล)

    วิธีแก้ปัญหาคือ ดื่มของที่มีรสหวานเพื่อไม่ให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำเกินไปเพื่อประทังความหิว เช่น ดื่มน้ำปานะ หรือ น้ำหวาน น้ำผลไม้ต่าง ๆ (มีน้ำตาล) / ชงน้ำผึ้งหรือกินน้ำผึ้งสักสองช้อนโต๊ะแล้วดื่มน้ำตามก็ได้

    ทุกวันพระผมก็โหยเหมือนกันแต่ก็บรรเทาโดยเตรียมของหวานดื่มประทังความหิว ปกติจะเตรียมน้ำผึ้งไว้

    พึงระวังว่าอย่ากินของที่เป็นโภชนะเด็ดขาด ศีลข้อ ๖ ขาดทันที

    ผมว่าไม่ต้องลองล่ะครับ เอาจริงเลย ทุกวันพระรักษาศีล ๘ เพียงหนึ่งวันหนึ่งคืนก็ได้ เรียกว่าอุโบสถศีล ผมทำมานานแล้ว หลายครั้งที่ตอนเย็นต้องไปนั่งร่วมโต๊ะอาหารเพื่อคุยเรื่องงานในวันพระเขากินของอร่อยๆกัน เต็มโต๊ะ แต่เรารักษาศีล นั่งดูเฉย ๆ ดื่มน้ำหวานแทน สมาทานศีล ๘ เองก็ได้ คืนวันโกนก่อนนอนก็สมาทานเลยแต่ต้องไม่นอนบนที่นอนแล้วนะ หลับไปด้วยศีล ๘ ตื่นมาก็เข้าวันพระ ก็รักษาศีล ๘ ให้ข้ามไปอีกวันกับคืน เช้าวันถัดมาก็ลาศีล ๘ แล้วก็สมาทานศีล ๕ แทน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กันยายน 2010
  10. นาตยา

    นาตยา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2005
    โพสต์:
    326
    ค่าพลัง:
    +1,104
    ขอบคุณในคำตอบแต่ละท่าน เพื่อชี้ทางการปฏิบัติที่ถูกต้องค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...