ปัญหาในการปฏิบัติธรรมของคนมีองค์

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย โมก, 9 กันยายน 2010.

  1. โมก

    โมก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    435
    ค่าพลัง:
    +1,737
    ไม่ทราบว่าท่านอื่นจะเป็นรึปล่าว แต่ดิฉันเคยเป็นและแก้ไขได้แล้ว จึงนำมาเล่าสู่กันฟัง เผื่อท่านใดเคยพบปัญหาเช่นนี้ สำหรับท่านที่โปรแล้วเป็นเรื่องจิ๊บๆค่ะ
    การปฏิบัติธรรมหัวใจหลักคือการทำสมาธิ การทำบุญทำทานบารมีเป็นส่วนประกอบ

    สำหรับคนมีองค์บางท่านหรือหลายท่าน เมื่อนั่งสมาธิแล้ว ปรากฏว่าจิตไม่นิ่ง องค์บารมีหรือเทพอาจารย์จะมาแฝงในช่วงแรกๆ หลังจากนั้นถ้าบังคับจิตได้ จิตจะเริ่มนิ่ง องค์บารมีถอยออกไป และถ้าจะให้นิ่งจริงๆคำภาวนาต้องต่อเนื่อง ขาดตกไม่ได้เลย ไม่งั้นจิตจะฟุ้งออกไปเห็นโน่นเห็นนี่ อยากไปดูนั่นดูนี่ ก็กลายเป็นว่าสมาธิไม่คืบหน้า

    สำหรับท่านที่มีองค์ทำสมาธิภาวนา ต้องดูว่าท่านยึดพุทธานุสติหรือเทวานุสติ ซึ่งเดินจิตต่างกัน อันนี้แล้วแต่จริตและสัญญาเก่าที่เป็นมา สำหรับท่านที่ต้องการเจริญพุทธานุสติ ทำสมาธิภาวนาเพื่อความนิ่ง เดินกำลังสมาธิให้จิตมีกำลังมีปัญญาพิจารณาธรรมกันต่อไป หากท่านมีปัญหาดังว่า
    "แนะนำให้ตั้งอธิษฐานจิตก่อนว่า เรากำลังจะทำสมาธิภาวนาเพื่ออะไร นั่นแลองค์บารมีจะไม่มายุ่งเลย"
    เพราะการที่ท่านมาดวงจิตทับซ้อนดวงจิต ทำให้กำลังจิตของร่างนั้นๆอ่อนแอกำลังสมาธิย่อหย่อนลงตามธรรมชาติ ไปไม่ถึงไหน ท่านจะคุ้มครองก็คุ้มครองกันไป แต่จะไม่มาแฝง

    จากนั้นจึงทำภาวนากันไป คำภาวนานี้ขาดพร่องไม่ได้เลย เหมือนดังที่องค์ครูบาอาจารย์สายพระป่าและพระอาจารย์ในดงพร่ำสอนศิษย์ จิตมนุษย์เหมือนกับลิง
    ถ้าไม่มีอะไรมากำกับก็จะแส่ส่ายไปตามที่กิเลสต้องการ สมาธิจะไม่ก้าวหน้า กำลังสมาธิไม่ดีจะให้เกิดความรู้ในธรรมก็ว่ายาก

    และเมื่อกำลังจิตของท่านดีแล้วซึ่งเป็นไปตามกำลังสมาธิหรือไม่ ท่านสังเกตได้ด้วยตนเองว่า
    1. นอนน้อยลง เนื่องจากกำลังจิตดี
    2. กินน้อยลง ความอยากกินในอาหารต่างๆลดน้อยลง ด้วยว่าตัวกิเลสในความอยากอาหารน้อยลง
    3. จิตแจ่มใส
    4. ความคิดความจำดีขึ้นแม่นยำขึ้น
    สี่ข้อนี้สำหรับผู้ปฏิบัติย่อมเห็นผลเช่นนั้น ถูกต้องตามที่องค์ครูบาอาจารย์ท่านสั่งสอนไว้ค่ะ
     
  2. Rut50

    Rut50 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    71
    ค่าพลัง:
    +73
    คุณโมกครับ

    ช่วยกรุณาอธิบายความแตกต่างของพุทธานุสติ กับเทวานุสติ และวิธีการเดินจิตของทั้งสองแบบด้วยครับ ขอบคุณมากครับ
     
  3. นาตยา

    นาตยา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2005
    โพสต์:
    326
    ค่าพลัง:
    +1,104
    แล้วการหลับในสมาธิ เป็นอย่างไรค่ะ
     
  4. โมก

    โมก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    435
    ค่าพลัง:
    +1,737
    จะตอบเท่าที่ตอบได้ค่ะ สำหรับบอร์ดนี้มีความหลากหลายมาก

    ที่ว่าเจริญพุทธานุสติ เนื่องจากทำตามคำสอนขององค์ครูบาอาจารย์ทั้งสายป่าและพระอาจารย์ในดง ซึ่งสอนไปในแนวทางเดียวกัน ปฏิบัติแล้วได้ผลดี เห็นผลและเป็นไปตามที่ท่านอธิบาย ดิฉันจึงอธิบายแค่พุทธานิสติค่ะ นั่นคือทางแห่งสมาธิตามวิถีครูบาอาจารย์ที่สั่งสอนกันมา

    พุทธานุสติ จิตระลึกถึงพระพุทธเจ้า ระลึกนะคะ ไม่ใช่เพ่งหาพระพุทธเจ้า ระลึกในพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ ซึ่งรวมอยู่ในองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหมด เนื่องด้วยคำว่าพุทธานุสติ หมายถึง การมีจิตมีสติระลึกถึงพระพุทธองค์ ระลึกถึงพระคุณอันยิ่งใหญ่ที่พระองค์ทรงตรัสรู้และสั่งสอนธรรมแก่หมู่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายเพื่อการดับกิเลสพ้นทุกข์ ให้ระลึกก่อนจะทำสมาธิภาวนาค่ะ จิตจะเดินไปเองโดยธรรมชาติตามคำอธิษฐานเพื่อความนิ่งสงบค่ะ ที่สำคัญต้องมีคำภาวนากำกับ ไม่เช่นนั้นจะนิ่งแค่ชั่วครู่แล้วจิตฟุ้งไปเห็นนั่นเห็นนี่ต่อ ใครปรารถนานั่งสมาธิเพื่อความนิ่ง ใช้แบบนี้เดินสมาธิได้ค่อนข้างเร็ว หรือเร็วมากสำหรับผู้ที่เข้าจนชำนาญแล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กันยายน 2010
  5. โมก

    โมก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    435
    ค่าพลัง:
    +1,737
    เป็นไปได้สองกรณีค่ะ คือคุณไม่มีคำภาวนาไปด้วยขณะทำสมาธิหรือภาวนาแล้วหลุด จิตตามคำภาวนาไม่ตลอด ความง่วงเป็นกิเลสอย่างหนึ่ง แนะนำว่าหากรู้สึกว่าง่วง อย่านั่งค่ะ ไม่ได้ประโยชน์อะไร จิตอยากนอน ไม่มีกำลัง นอนอิ่มแล้วค่อยมาทำสมาธิก็ได้ค่ะ จะไปได้ดีกว่า ที่สำคัญต้องดูเรื่องปริมาณอาหาร
    ถ้าทานเยอะไป ร่างกายใช้พลังงานย่อยมาก กำลังจิตพร่องไปด้วย จิตไม่พร้อมเต็มที่สำหรับการเดินสมาธิ แรกๆดีนั่งไปสักพักหลับค่ะ อันนี้เคยเป็นเหมือนกัน
     
  6. นาตยา

    นาตยา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2005
    โพสต์:
    326
    ค่าพลัง:
    +1,104
    ขอบคุณมากค่ะ เป็นเช่นนั้นจริงๆ พอนิ่งได้สักพักไปแล้ว.... จิตนิ่งอิ่มสุขแล้วไม่อยากไปไหนอยากนั่งนิ่ง ๆ ค่ะ เป็นแบบนี้แม้เวลาที่ไปสวดมนต์ที่วัดคนเยอะมากสวดไปได้สักพัก จะอยากนั่งนิ่ง ๆ หลับตา ปากไม่ยอมขยับค่ะ แต่รู้ตัวตลอดเวลาฝืนไม่ได้ เหมือนคนหลับในแต่เย็นและสุขมากค่ะ เป็นแบบนี้ทุกครั้งทราบมั้ยค่ะว่าเป็นเพราะอะไร
     
  7. Legacy

    Legacy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    104
    ค่าพลัง:
    +602
    รบกวนคุณโมกช่วยยกตัวอย่างคำอธิษฐานจิตก่อนทำสมาธิด้วยครับ (พุทธานุสติ)
    ขอบคุณครับ
     
  8. ๛อาภากร๛

    ๛อาภากร๛ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    898
    ค่าพลัง:
    +3,580
    อย่าไปแยกว่าจะพุทธานุสติ หรือ เทวตานุสติครับ ให้ใช้กรรมฐานเดิมที่มีอยู่ต่อยอดไปเรื่อยๆไม่ใช่นั้นอาจะสับสน และอาจจะต้องเริ่มนับ1ใหม่ มันเป็นแค่อารมณ์ในการกําหนดจิตเท่านั้น เป็นเพียงกุศโลบาย ของครูอาจารย์ เพื่อให้ปฏิบัติตามจริตที่ถูกของแต่ละคนแค่นั้น ยึดตามคําสอนของพระพุทธเจ้าเป็นหลักเป็นลูกตถาคตเหมือนกัน ถ้าไปกําหนดแล้วเรื่องจะเยอะ

    ตั้งใจจะไม่โพสอะไรในหมวดนี้เพราะคิดว่าคงจะหนักหนาอยู่ และวิเคราห์ว่าแนวทางของ คุณโมก และ ตัวผมเอง อาจจะมีส่วนต่างในความเชื่อทางนี้แตกต่างกันอยู่ เลยจะเข้าแสดงความคิดเห็นตามความเหมาะสม และถ้ากระทู้ไม่ตกจะเข้ามาอ่านบ่อยๆ ครับ
     
  9. คะรุทา

    คะรุทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,243
    ค่าพลัง:
    +3,477
    โดยส่วนตัว...ดิฉันใช้แบบนี้ค่ะ
    อุกาสะ อุกาสะ ณ.โอกาสบัดนี้ ข้าพเจ้า ชื่อ........
    จะขอฝึกวิปัสนากรรมฐาน ขอวิปัสนาญาณ ณานใดณานหนึ่งตามบุญกำลัง
    จงบังเกิดมีขึ้นแก่ข้าพเจ้า ขอขณิกสมาธิ อุปจารสมาธิ และอัปปนาสมาธิ
    จงบังเกิดมีขึ้นแก่ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะตั้งสติไว้ที่ลมหายใจเข้าออก หายใจเข้าก็รู้
    หายใจออกก็รู้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนถึงเวลาอันสมควร ด้วยเทอญ
    อิอิ...เราใช้แบบนี้แต่ท่านอื่นเราไม่รู้น๊า...
     
  10. พิชญ์

    พิชญ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2007
    โพสต์:
    760
    ค่าพลัง:
    +3,392
    เรื่องของการบริกรรม ... เปนเพียงกุศโลบาย เพื่อมิให้จิตส่าย และฟุ้งออกนอกสมาธิ... เมื่อจิตนิ่งจนละเอียดแล้ว คำบริกรรมที่เราภาวนาอยู่จะหายไปในทันที... หายไปในที่นี้ คือ... แม้บริกรรมอยู่ ก็รู้สึกเหมือนมิได้บริกรรม มันเปนธรรมชาติของสมาธิ.. จิต... จะขับเคลื่อนเปลี่ยนกลไกด้วยตัวของมันเอง...เหมือนกับ การขับเคลื่อนของรถยนต์ที่ต้องเปลี่ยนเกียร์ ตามผิวถนน


     
  11. nanthiya1

    nanthiya1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    221
    ค่าพลัง:
    +966
    ก็แล้วแต่ จริต ของคน คนนั้นที่ได้มา ชาติที่ผ่านๆ มาบางคนก็ชอบแบบเงียบ บางคนก็ชอบแบบเที่ยวมันก็ไปจุดเดียวกันไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว ส่วนตัวดิฉัน ชอบแบบเที่ยว เพราะเป็นคนขี้สงสัย จะถึงช้าก็ไม่เป็นไร ขอเทียวไว้ก่อน
     
  12. โมก

    โมก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    435
    ค่าพลัง:
    +1,737
    ปกติดิฉันเมื่อทำสมาธิภาวนาเสร็จแล้ว จะมาประมวลผลตัวเอง ว่าวันนี้เป็นอย่างไร ไม่นิ่งเพราะอะไร การเดินสมาธิผิดพลาดตรงไหน ซึ่งก็หาอ่านศึกษาจากหนัง
    สือขององค์ครูบาอาจารย์บ้าง ถามพระอาจารย์ใหญ่ผ่านทางจิตบ้าง แล้วเท่าที่สังเกตสรุปได้คือ

    ปัญหาของดิฉันคือมีทั้งเทพอาจารย์และพระอาจารย์ใหญ่ ทุกครั้งที่ทำสมาธิภาวนาเทพอาจารย์จะมาแฝง พอพระอาจารย์ใหญ่มา ท่านจะไป แล้วพระอาจารย์ใหญ่จะเทศนาสั่งสอนธรรมมาทางจิต จิตฟุ้งซ่านในวันนั้นด้วยอารมณ์ปรุงแต่งเรื่องใด ท่านจะใช้ธรรมแก้ สอนให้ใช้สติพิจารณา พอจิตมันสบายแล้ว พอเป็นเวลาสมควรแล้ว ท่านจะปล่อยให้ทำสมาธิไปอย่างอิสระ ท่านจะคอยดูอยู่ถ้าไม่มีกิจอันใด ซึ่งมันเหมือนจะนิ่ง แต่สมาธิเดินไปได้ไม่ใคร่ดี
    ตรงนี้ไม่ทราบว่าเป็นเพราะจิตถูกเทพอาจารย์แฝงในตอนแรกหรือไม่ แต่สังเกตได้ว่าเป็นทุกครั้งว่า มันเดินไม่ดี เคยอธิษฐานเป็นอย่างอื่นก็ไม่ได้ผล คือท่านก็มาของท่านอยู่ดี อาจจะมาเพื่อแสดงว่าท่านมาคุ้มครอง แต่อำนาจจิตทับจิตอีกดวง จิตดวงนั้นจะกำลังอ่อนลงตามธรรมชาติ

    พอมาตั้งอธิษฐานระลึกถึงพุทธานุสติ ระลึกถึงองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เทพอาจารย์ไม่มาแฝงอีกเลย ส่วนพระอาจารย์ใหญ่ท่านยังเมตตามาเทศนาสั่งสอนธรรมผ่านทางจิตเช่นเดิมก่อนท่านจะไป แล้วปล่อยให้ทำสมาธิภาวนาตามอิสระ สังเกตได้ว่าเดินสมาธิได้ดี นิ่งมาก เล่าคร่าวๆแล้ว เอาเป็นว่าลองไปใช้ดูค่ะ

    "ข้าพเจ้าขอระลึกจิตถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงตรัสรู้ด้วยพระองค์เอง ทรงเป็นบรมครูของหมู่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย มีพระเมตตากรุณาอย่างยิ่งต่อสรรพสัตว์ ทรงสั่งสอนธรรมให้สัตว์ทั้งหลายปฏิบัติเพื่อความดับสิ้นกิเลสจนถึงความพ้นทุกข์ ข้าพเจ้าขอเจริญจิตเจริญสมาธิตามรอยพระพุทธองค์"
     
  13. โมก

    โมก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    435
    ค่าพลัง:
    +1,737
    หลับในกับสงบต่างกันค่ะ นิ่งมากจิตเกิดปิติสุข อันนี้เป็นความก้าวหน้าของสมาธิตามลำดับ
     
  14. โมก

    โมก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    435
    ค่าพลัง:
    +1,737
    กรรมฐานมีมากมายหลายกองตามจริตของมนุษย์ ซึ่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสสอนไว้ ท่านใดถนัดกองไหนอย่างไร เจริญแล้วดีท่านย่อมรู้เห็นได้ด้วยจิตของท่าน ก็ปฏิบัติกันต่อไปย่อมเป็นกุศล ใครถนัดอันไหนใช้อันนั้น แต่ถ้ามันติดขัด เดินสมาธิไม่ไป จิตไม่สงบ หรือรู้สึกไม่ใช่ก็ต้องเปลี่ยนเป็นวิธีอื่นค่ะ
     
  15. โมก

    โมก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    435
    ค่าพลัง:
    +1,737
    ชอบรูปคุณคะรุทา น่ารักดีค่ะ เสียงดนตรีเสียงเพลง คุณคะรุทาน่าจะชอบทางนั้น
     
  16. โมก

    โมก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    435
    ค่าพลัง:
    +1,737
    ทักทายผู้ใหญ่อีกท่าน สวัสดีค่ะพี่ตุ๋ย
     
  17. โมก

    โมก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    435
    ค่าพลัง:
    +1,737
    เข้าใจและยินดีค่ะ ปัญหาโดยส่วนตัวของดิฉันคือมีองค์ก็มีไป แต่ไม่อยากไปอะไรกับท่านมาก ไม่อยากให้มาแฝงในสมาธิ อยากทำได้เหมือนคุณ108man จึงศึกษาเอาเองจากตำราค่ะ เจอคำสอนครูบาอาจารย์สายในดงในการระลึกสี่อย่าง จึงลองเอามาใช้แล้วได้ผลดี คนอื่นอาจจะไม่เป็นเหมือนดิฉัน
    พูดถึงเทวานุสติ คำอธิบายและการระลึกจะคล้ายๆกับพุทธานุสติมั้ยค่ะ ต่างกันแค่เปลี่ยนจากองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นเทวดา คำแปลน่าจะทำนองนั้นคือการระลึกถึงเทวดา ใครแจ้งเรื่องช่วยอธิบายเพิ่มเติม ขอบคุณค่ะ
     
  18. จิ-โป

    จิ-โป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,006
    ค่าพลัง:
    +2,196
    การจะแฝงหรือไม่แฝงนั้น

    ถ้าเข้าใจตรงประโยคที่ว่า "แม้จิตก็มิใช่เรา"ล่ะครับ จะไปได้ถึงอารมณ์ใช่ใหม
    แล้วเข้าใจต่อว่า "แม้อารมณ์ก็มิใช่เรา"อีกครั้งล่ะ จะเป็นยังไง
     
  19. nanthiya1

    nanthiya1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    221
    ค่าพลัง:
    +966
    ตั้งกะทู้ได้ดีมาก ชอบมากๆ คะ คุณโมก ขออนุโมทนาบุญ ด้วยคะ มีอะไรช่วยแน่นำมีน้องคนหนึ่งเขาอยู่ประเทศใกล้ๆ พี่ เขายังพูดถึงคุณโมกเอาคำสอนคุณโมกไปใช้เลยพี่บอกให้มาคุยในกระทู้ เธอไม่ยอมเข้าฟังผลการปฎิบัติของเธอไม่ใช่เล่นๆ เลยนะเธอจะรู้ลมเข้าออกตลดอเวลา ลมหยาบ ลมละเอียดเธอรู้ อธิบายได้ละเอียดมาก สุดยอดจริงๆ
     
  20. ๛อาภากร๛

    ๛อาภากร๛ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    898
    ค่าพลัง:
    +3,580
    ขออนุญาติขยายความของคําว่าอนัตตา ตามความเข้าใจนะครับไม่เกี่ยวข้องกับที่ คห. นะครับ แค่ยกขึ้นมาขยายความ

    พระพุทธเจ้าให้พิจรณาถึงความเป็นอนัตตาครับ คนมาตีความหมายตามบาลีว่าไม่มีตัวไม่มีตน ถ้าพิจรณาแบบนี้ถือว่าผิดหลัก

    อัตตาหิ อัตตโน นาโถ
    ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน เมื่อความเป็นตัวตนเพิ่งไม่ได้ แล้วพระพุทธเจ้าจะสอนทําไม
    อัตตา หเว ชิตัง เสยโย
    ชนะตนนั่นแลเป็นดี ตกลงพระพุทธเจ้าสอนให้เอาชนะอะไร

    มีพุทธภาษิตที่เกี่ยวข้องกับคําว่า อัตตาอยู่อีกเยอะครับ

    อนัตตา ตามหลักของพุทธองค์ต้องอยู่ในวงของไตรลักษณ์ ต้องอยู่ในเงื่อนไข ของ อนิจจัง และ ทุกขัง ครับเป็นวงรอบ
    อย่าเอาคําว่าอัตตาและอนัตตามาโดดๆ

    ความหมายของอนัตตา ต้องอยู่ในแนวทางนี้ ความไม่สามารถดํารงคงทนอยู่

    ไม่ใช่อนัตตาที่แปลแบบสวดมนหรือแปลตาม คําว่าหมายถึง ไม่มี หรือไม่ใช่ตัวตน แบบที่นั้นนะครับ เป็นอุปสรรคปิดบังเรื่องกฎแห่งกรรม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กันยายน 2010

แชร์หน้านี้

Loading...