ความเห็นเกี่ยวกับการแจกพระธาตุ

ในห้อง 'แจกฟรี' ตั้งกระทู้โดย นายตถาตา, 16 กรกฎาคม 2010.

  1. จิตพุทธ

    จิตพุทธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    763
    ค่าพลัง:
    +1,123
     
  2. sedkamol

    sedkamol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2009
    โพสต์:
    600
    ค่าพลัง:
    +691
    ยิ่งให้ ยิ่งได้
    ยิ่งหา ยิ่งห่าง
     
  3. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    นา ๆ จิตตัง ไหนล่ะของจริง ไหนล่ะของปลอม มีใครบอกได้บ้าง ข้างล่างไม่รู้ แต่เบื้องบนรู้เป็นพอ จริตใครจริตมัน ทุกอย่างล้วนเป็นบุญ ไม่งั้นคงไม่ได้เกิดมา ในร่มพระพุทธศาสนา แล้วลูกของพระตถาคต จะมาถกเถียงกันด้วยเรื่องอันใดเล่า ยังมีอัตตาตัวตนกันเต็มสูบ สุดท้ายก็กลับคืนสู้พื้นดินดังเดิม นี่แหล่ะของแท้แน่นอน
     
  4. Nat_usp

    Nat_usp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    676
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,394
    ผมติงหน่อยนะ

    ไม่ควรเอาพระบรมสารีริกธาตุไปเปรียบเทียบกับเงิน 50 ล้าน 100 ล้าน

    คุณกำลังเอากิเลสมาเปรียบเทียบ

    ทั้งๆที่รู้ว่า ถ้าไม่มีกิเลส ชาตินี้ก็คงไม่เกิดมาให้ลำบากหรอกครับ


    อ่อ อีกอย่างศาสนาพุทธมีบรมครูเพียงหนึ่งเดียว
    แต่แยกออกเป็นหลายนิกายก็เพราะลูกศิษย์ของตถาคตไม่สามัคคีกันไงครับ

    นี่เรื่องของสงฆ์นะฆาราวาสไม่ต้องพูดถึง

    ผมว่าวิธีใครก็วิธีใครดีกว่า
    เพราะทุกๆท่านมีเจตาดีกันทั้งหมด ( ส่งไปรษณีย์หรือมารับเอง )
    ขุดคุ้ยนานๆไปแตกแยกกันเปล่าๆ ^_^"
     
  5. Nat_usp

    Nat_usp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    676
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,394
    ต่ออีกสักนิด

    ตั้งกระทู้ช่วยกันรณรงค์ให้ ผู้ที่ต้องการบูชาพระบรมสารีริกธาตุมาอัญเชิญยังสถานที่ กันสิครับ

    ( ท่านที่ส่งทางไปรษณีย์ก็เบาแรงด้วย )

    ผู้ที่มีเวลาก็คงพยายามปลีกเวลามาเอง

    ผู้ที่ไม่มีเวลาก็รับทางไปรษณีย์กันไป


    >> การส่งของให้ทางไปรษณีย์นี่ไม่สนุกนะครับ

    ต้องให้ทุนทรัพย์ ปลีกเวลาส่วนตัว แล้วต้องมานั่งเฝ้าอีกว่าถึงไหม

    บางคนได้รับแล้วก็ไม่บอก ( ดีใจมากมั้ง )

    ปล่อยให้คนส่งคิดเองเออเองว่าได้แล้วมั้ง

    อย่างผมนี่ส่งวัตถุมงคลให้เพื่อนๆพี่ๆน้องๆทางไปรษณีย์

    ลงทะเบียนบ้าง EMS บ้างแล้วแต่กำลังทรัพย์บางช่วง

    ( ผมใช้บริการตาม counter ตามห้างครับเลยแพงไปอีก )

    <O:p</O:p
    บางครั้งเงินส่วนตัวหมด ต้องขอตังเมีย ^_^” >> เมียไม่ว่าแต่มองหน้าเฉยๆ

    Note : นอกเรื่องไปนิดขออภัยครับ<O:p</O:p
     
  6. Natthakorn

    Natthakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,003
    ค่าพลัง:
    +7,078
    ลองขึ้นไปอ่านดีๆนะครับ ไม่ได้เปรียบเทียบ พระบรมฯเป็นจำนวนเงิน แต่ว่าบางทีเราคิดสิ่งเหล่านี้หามาได้ง่าย

    ไม่ค่อยเห็นคุณค่าความสำคัญ

    แต่บอกว่าถ้าให้เรานั่งรถไปรับเงินเราไปรับได้

    แต่เรานั่งรถไปรับพระบรมฯเราไปไม่ได้

    ทั้งที่พระบรมสารีริกธาตุมีคุณค่ามหาศาล

    ผมเองก็เคยส่งทางไปรษณีย์ครับ เมื่อพ่อแม่ครูอาจารย์ท่านเตือนมา ก็ทำตามท่านแนะนำครับ

    ขัดข้องหมองใจโปรดอภัย ผู้น้อยหัดศึกษาใหม่ครับ^^
     
  7. Nat_usp

    Nat_usp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    676
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,394
    อ่านของผมไม่ดีเหมือนกันนี่หน่า ไม่ได้หมายถึงท่านครับผม
     
  8. สัญญา

    สัญญา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    163
    ค่าพลัง:
    +1,301
    ฝากเป็นเครื่องวัดความเห็นของกระทู้นี้

    เจริญพรบรรดาท่านทั้งหลาย...พอดีอาตมามีโอกาสได้เข้ามาเยี่ยมในกระทู้...ในส่วนตัวอาตมาก็ไม่ขอกล่าวว่าอะไรถูก..อะไรผิด...แต่ขอฝากพุทธพจน์ไว้เป็นเครื่องวัดความเห็นของท่านทั้งหลายในกระนี้ก็แล้วกัน...ดังนี้
    มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา มโนเสฏฺฐา มโนมยา,
    มนสา เจ ปทุฏฺเฐน ภาสติ วา กโรติ วา,
    ตโต นํ ทุกฺขมเนวติ จกฺกํว วหโต ปทนฺติ.

    อันว่าธรรมทั้งหลาย มีใจเป็นสภาพถึงก่อน มีใจประเสริฐที่สุด สำเร็จแล้วด้วยใจ หากว่า อันว่าบุคคล มีใจอันอันโทษประทุษร้ายแล้ว กล่าวอยู่ หรือ หรือว่า กระทำอยู่ไซร้ อันว่าทุกข์ ย่อมตามไป ซึ่งบุคคลนั้น เพราะทุจริตอันมีอย่างสามนั้น เพียงดัง อันว่าล้อ หมุนไปตามอยู่ ซึ่งรอยเท้าแห่งโคอันเนื่องด้วยกำลัง ตัวนำไปอยู่ซึ่งแอก ดังนี้. .......(ธรรมบทภาค ๑ เรื่องพระจักขุบาลเถระ)...
     
  9. kratair

    kratair เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    274
    ค่าพลัง:
    +781
    นู๋เหงด้วยกะป้าไซ้เจ้าค่ะ
     
  10. vvasan

    vvasan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    148
    ค่าพลัง:
    +1,390
    ขอออกความเห็นอีกครั้งครับเอาตามสะดวกของเราดีกว่าครับไปรับเองได้ก็ไปแต่ลำบากมาก
    โทรคุยนัดแนะสถานที่ที่คนแจกอยู่ขี่รถไปโทรถามที่อยู่ไปกว่าจะเจอกันได้ถ้าระยะทางไม่กี่กิโลนะแต่ถ้าระยะทางไกลๆประกาศแจกยังก็ไม่ไปเอาเคยเจออยู่ครั้งนึงทำบุญไปแล้วเขาให้มาแตในใบที่แนบมากับพระธาตุบอกถ้าสนใจก็โทรไปติดต่อได้พอโทรไปบอกอยู่อ่างศิลาไม่ได้ไปมาสิบกว่าีแล้วจะไปหายังไงเลยไม่ไปหลังจากนั้นสิบกว่าวันว่าจะพาเพื่อนไปด้วยจะได้ช่วยกันดูทางโทรไปหาคนที่มีพระธาตุ (อย่าเอ่ยชื่อเขาเลยนะ )เขาก็บอกอยู่แถวโรพยาบาลเอกชนชลบุรี(ไกลกว่าเดิม)โทรคุยไปคุยมาเขาบอกตัวเขาไปปกิบัติบัติธรรมอยู่อ.บ้านบึง
    พูดไปพูดมาบอกเขาไม้แก้วเขาไม้แก้วมันอยู่ทางระยองเขาคงคิดไม่ถึงว่าผมจะรู้มั้ง โทรคุยไปคุยมาบอกปู่ไม่ให้ใครเข้าบ้า้น(พวกฤาษีที่เขาบูชาอยู่)ไม่ต้องการให้ใครรู้จักบ้านจะไปเอาจะให้เด็กนำมามอบให้ข้างนอก เจอเคสแบบนี้บอกตรงๆไร้สาระเสียเวลาจริงๆเลยไม่ได้ไป
    เอาดูจากที่พูดคุยทางโทรศัพย์กันแล้วกลับกลอกไปมา ส่วนที่พูดคุยกับคนรู้จักอยู่ระยองไป
    ทางจันทบุรีเขาบอกถึงให้ก็ไม่มาเอาไม่สะดวกทั้งไปทั้งกลับแค่ค่านํ้ามันรถก็เป็นพันแล้วยังมาเสียเวลาอีกกี่ชั่วโมง
     
  11. เมว

    เมว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    431
    ค่าพลัง:
    +1,725
    เห็นด้วยกับพี่ไซค่ะ

    แต่พระบรมสารีริกธาตุที่เมวได้รับสำหรับบูชา และมอบถวายให้กับที่วัด เรามอบด้วยตัวเราเองค่ะ ไม่ใส่ถุงนะค่ะ และไม่ส่งไปรษณีย์ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ เมวบรรจุใส่ขวดค่ะ ถึงจะใช้งบประมาณแต่สบายใจเรา พ่อโชคดีก็บอกมา (หัวเรือใหญ่ค่ะ) เมวแจกพระบรมสารีริกธาตุนะค่ะ แต่ต้องมารับด้วยตัวเองค่ะ ตอนนี้เห็นพ่อโชคดีหยุดแจกทางไปรษณีย์แล้วค่ะ ต้องเมวรับด้วยตัวเองค่ะ

    แต่คนเราถ้าจะทำความดี ก็ทำต่อไปค่ะ


    อย่ารอให้กรรมวิ่งมาเข้าหา ก่อนแล้วค่อยทำ
    อย่าเสียในสิ่งที่ทำ
    อย่าลังเลหรือสงสัย ถ้าหากคุณคิดว่าสิ่งนั้นถูก
    เพราะคนทุกคนย่อมมีความคิดที่แต่ต่างกันออกไป
    จะดีหรือไม่ดี....อยู่ที่ใจของเรา....คิดดีและบริสุทธิ์ใจที่ทำสิ่งดีเพื่อศาสนา
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. เมว

    เมว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    431
    ค่าพลัง:
    +1,725
    อันนี้เห็นด้วยจริงๆๆค่ะวิธีใครวิธีมันจบค่ะ

    อย่ารอให้กรรมวิ่งมาเข้าหา ก่อนแล้วค่อยทำ
    อย่าเสียในสิ่งที่ทำ
    อย่าลังเลหรือสงสัย ถ้าหากคุณคิดว่าสิ่งนั้นถูก
    เพราะคนทุกคนย่อมมีความคิดที่แต่ต่างกันออกไป
    จะดีหรือไม่ดี....อยู่ที่ใจของเรา....คิดดีและบริสุทธิ์ใจที่ทำสิ่งดีเพื่อศาสนา

    ทางดีต่างคนต่างเงียบ.....เราเป็นคนดีทุกคนค่ะ.....เพราะเราในศาสนาเดียว ในเมืองเดียวกัน
     
  13. นิวานะ

    นิวานะ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +16

    " อันว่าธรรมทั้งหลาย มีใจเป็นสภาพถึงก่อน มีใจประเสริฐที่สุด สำ เ ร็ จ แ ล้ ว ด้ ว ย ใ จ ..."



    กุศลเจตนาเป็นสำคัญ ดังพุทธพจน์ที่พระีคุณเจ้าได้อัญเชิญมาให้พวกเราได้ใช้ปัญญาพิจารณากัน


    จะขออนุญาตยกบางส่วนของธรรมวิจารณ์ ของหลวงปู่เปรม เปมังกโร ที่เน้่นเรื่องจิตสำคัญมาให้พิจารณากันค่ะ



    พระพุทธเจ้าถือจิตเป็นใหญ่

    "สจิตฺตปริโยทปนํ เอตํ พุทฺธานสาสนํ ชำระจิตของตนให้บริสุทธิ์ผ่องแผ้ว นี่คำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย" เอาจิตเป็นสำคัญ

    "ปริโยทเปยฺย อตฺตานํ จิตฺตกฺเกลเสหิ ปณฺฑิโต บัณฑิตพึงชำระตนให้บริสุทธิ์ คือเอากิเลสมลทินออกจากจิต" ก็จิตอีกนั่นแหละ

    "จิตฺตสงฺกิเลสา ภิกฺขเว สตฺตา สงฺกิลิสฺสนฺติ จิตฺตโวทานา สตฺตา วิสุชฺฌนฺติ ภิกษุทั้งหลาย สัตว์คนจะสกปรกชั่วลามก ก็เพราะจิตสกปรก สัตว์คนจะเป็นคนดี เป็นคนบริสุทธิ์ ก็เพราะจิตบริสุทธิ์ เพราะเหตุนั้นภิกษุทั้งหลาย ท่านจงชำระจิตของตน พยายามปฏิบัติจิตของตนให้บริสุทธิ์ พึงพิจารณาจิตของตนบ่อยๆอยู่เสมอว่า จิตของเรานี้ ท่องเที่ยวเวียนว่ายตายเกิด สกปรกลามกมาตลอดกาลช้านาน" เอาจิตเป็นหลัก

    ต้องเอาจิตเป็นหลัก ไม่ได้หมายเอาร่างกาย แต่ทีนี้จิตมันรูปร่างไม่ปรากฏ มันมองไม่เห็น มันก็เลยเอาร่างกายเป็นคนเป็นสัตว์ เกิดการเข้าใจผิดกันขึ้นซิ เอาร่างกายมาเป็นสัตว์เป็นคนไม่ได้ ต้องเอาจิตเป็นหลัก

    แล้วความเห็นของท่านอาจารย์กรมหมื่นวิวิธฯน่ะ ตรงตามบาลีหมด ท่านว่าอะไรล่ะก็ค้านไม่ได้ ตรงตามบาลีเหมือนอย่างกลอนสั้นๆของท่าน

    จิตเดิมเป็นธรรมแท้ ไม่ผันแปรแลเวียนวน
    ประเสริฐสุดในสากล เป็นตัวตนไม่เกิดตาย

    เบญจขันธ์นั้นเกิดดับ คำนวณนับก็มากหลาย
    จิตเดิมนั้นไม่ตาย ไม่ยักย้ายไม่ผันแปร

    ผู้ใดรู้แค่ขันธ์ ความรู้นั้นยังอ่อนแอ
    ผู้ใดรู้จิตแท้ ผู้นั้นแลคือโพธิญาณ

    (จิตเดิมเป็นธรรม คือ อธิจิต จิตตัวใน, เป็นตัวตนก็ได้ ธรรมก็ได้, รู้โพธิ คือ รู้จิตเดิม นี่ตรงตามบาลี)

    จะยกบาลีให้ฟัง พระอานนท์ไปทูลถามเรื่องพระอาการป่วยว่า พระอาการป่วยเป็นอย่างไร พระพุทธเจ้าตรัสตอบว่า หายแล้วๆ เป็นเล็กน้อย เราได้ใช้ อนิมิตตเจโตสมาธิ ความตั้งมั่นแห่งจิตไม่มีนิมิตที่หมาย นี่จิตตัวใน จิตเดิม ความตั้งมั่นแห่งจิตไม่มีนิมิตที่หมาย ไม่มีนิมิต คือ อารมณ์ไม่มี รู้อยู่ที่รู้

    "ตสฺมาตีหานนฺท อตฺตทีปาวิหรถ อตฺตสรณา อนญฺญสรณา ธมฺมทีปาวิหรถ ธมฺมสรณา อนญฺญสรณา เพราะเหตุนั้นแหละอานนท์ ท่านทั้งหลายจงมีตนเป็นที่เกาะกุม มีตนเป็นสรณะที่พึ่ง คือ มีธรรมเป็นที่เกาะกุม มีธรรมเป็นสรณะที่พึ่ง"

    ข้างต้นท่านพูด จิต มาที่สองพูด ตน มาที่สามพูด ธรรม อันเดียวกัน นี่ตรงกับของท่านกรมหมื่นวิวิธฯ ไม่มีผิด

    (อ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://luangpu.exteen.com/20100707/entry)



    นี่ก็..พอดีไปเจอข้อมูลเพิ่มเติม

    จาก [FONT=Tahoma, MS Sans Serif]ตำนานการเกิดพระบรมสารีริกธาตุ ที่ว่า[/FONT]


    [FONT=Tahoma, MS Sans Serif]เหตุที่เกิดพระบรมสารีริกธาตุจำนวนมากขึ้นนั้น พระโบราณาจารย์อธิบายว่า เกิดจากพุทธประสงค์ ก่อนที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะเสด็จปรินิพพาน ดังต่อไปนี้ [/FONT]

    [FONT=Tahoma, MS Sans Serif]โดยปกติที่พระพุทธเจ้าที่ทรงมีพระชนมายุยืนยาว สามารถประดิษฐานพระพุทธศาสนาให้มั่นคง จะมีพระบรมสารีริกธาตุที่มีลักษณะรวมกันเป็นแท่งเดียว ดุจทองแท่งธรรมชาติ ซึ่งมหาชนในสมัยนั้นไม่สามารถแบ่งปัน นำไปประดิษฐานตามที่ต่างๆได้ จึงจำต้องสร้างพระธาตุเจดีย์ขึ้นประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุไว้ในที่แห่งเดียว ซึ่งพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน (พระสมณโคดม) ทรงเล็งเห็นว่า พระองค์มีเวลาปฏิบัติพุทธกิจเพียง 45 ปี นับว่าน้อยมาก เมื่อเทียบกับพระพุทธเจ้าพระองค์ก่อน ศาสนาของพระองค์ยังไม่แพร่หลาย และหมู่สัตว์ทั้งหลายเกิดมาไม่ทันสมัยพระองค์มีมากนัก หากได้อัฐิธาตุของพระองค์ไปอุปัฎฐากบูชา จะได้บุญกุศลเป็นอันมาก จึงทรงอธิษฐานให้พระบรมสารีริกธาตุของพระองค์ แตกย่อยลงเป็น 3 สัณฐาน เว้นแต่ธาตุทั้ง 7 ประการ คือ พระนลาฏ (กระดูกหน้าผาก) 1 พระเขี้ยวแก้ว 4 และพระรากขวัญ (กระดูกไหปลาร้า) 2 นอกจากนั้นให้กระจายไปทั่วทิศานุทิศ เพื่อยังประโยชน์แก่หมู่สัตว์ทั่วไป[/FONT]
    (http://www.relicsofbuddha.com/page3.htm)





    หากเรามาคำนึงถึงพระพุทธปณิธานอันยิ่งใหญ่ของพระพุทธองค์ที่จะให้พระบรมสารีริกธาตุของพระองค์ท่านยังให้เกิดความเจริญทางธรรมเพื่อการหลุดพ้นของหมู่สัตว์ทั้งหลายแล้ว เรายิ่งต้องมั่นคงในการกระจายพระบรมสารีริกธาตุที่ทุกๆท่านได้ดำเนินอยู่


    ส่วนช่องทางที่พึงเลือกใช้ในการส่งมอบพระบรมสารีริกธาตุนั้น หากไม่ถูกต้อง มิบังควร คงไม่มีปรากฎการณ์ปาฏิหาริย์ต่างๆของพระบรมสารีริกธาตุดังที่หลายๆท่านได้ประจักษ์กันมา เป็นเครื่องยืนยันพุทธบารมีอันไม่มีประมาณของพระองค์ ทั้งผู้ส่งมอบ ผู้รับมอบ และแม้ผู้ที่ได้ทราบความ ต่างเกิดปิติ สุข ล้นพ้น ยังศรัทธาในพระรัตนตรัยให้หยั่งรากลึก มั่นคงในจิตใจ

    หากมาพิจารณาเฉพาะส่วนของผู้รับ : ไม่เพียงผู้ที่ได้รับมอบเองเท่านั้น แม้ครอบครัว และ ผู้ใกล้ชิด หรือ ผู้ที่ได้มาร่วมยินดีโมทนา ก็ได้อานิสงส์ไปด้วย

    อานิสงส์ของการพาคนให้เข้าถึงธรรมนั้น น้อยเสียเมื่อไหร่

    ทีนี้จะเลือกใช้ช่องทางการส่งมอบกันอย่างไร เชื่อว่าท่านทั้งหลายน่าจะพิจารณากันได้จากหลายๆกระทู้ในเว็บนี้ ที่มีกล่าวถึงประสบการณ์ปาฏิหาริย์ของพระบรมสารีริกธาตุ และ พิจารณาความเหมาะสมในแต่ละกรณี




    อนึ่ง พระพุทธองค์ท่านพ้นแล้วจากกิเลสตัณหาทั้งปวง .. ไม่มีอุปาทาน(http://nkgen.com/7.htm)แล้ว แต่เราเองสิ ยังมีอุปาทานอยู่บานตะไท !!


    (จาก คุณของนิพพาน ซึ่ง พระอนุรุทธาจารย์ ผู้รจนาคัมภีร์อภิธัมมัตถสังคหะ ได้พรรณนาไว้ ..)

    "ปทมจฺจุตฺ มจฺจนฺตํ อสงฺขตมนุตฺตรํ นิพฺพานมีติ ภาสนฺติ วานมุตฺตามเหสโย"
    = "พระพุทธเจ้าทั้งหลาย ผู้แสวงหาคุณอันยิ่งใหญ่ ผู้พ้นแล้วจากตัณหาเครื่องร้อยรัด
    ทรงตรัสถึงสภาวะธรรมชาติหนึ่งที่เข้าถึงได้ เป็นธรรมชาติที่ไม่จุติ พ้นจากขันธ์ 5 ไม่ถูกปรุงแต่งด้วยปัจจัยใด ๆ เลย หาสภาวะอื่นเปรียบเทียบไม่ได้ ว่าสภาวธรรมนั้นคือพระนิพพาน"
    (http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%9E%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%99



    หาก "เรา" ทั้งหลาย บอกว่า เราเป็นผู้ยึดพระรัตนตรัยเป็นสรณะสุงสุดแล้ว เรารัก เราเคารพท่าน เราก็ต้องเดินตามมรรคาที่พระบรมครูสัมมาสัมพุทธเจ้าท่าน ท่านทรงแสดงไว้ ซึ่งก็จะไปถึงเป้าหมายสูงสุด คือ "พระนิพพาน"


    ในวิสุทธิมรรคกล่าวว่า "เพราะพระนิพพานเป็นคำสุขุมนัก...เป็นธรรมที่ต้องเห็นด้วยอริยจักษุ เป็นธรรมอันบุคคลผู้เพียบพร้อมด้วยมรรค (เท่านั้น) จะพึงถึงได้" นิพพานจึงมิใช่เรื่องของการเข้าใจ แต่อยู่ที่การเข้าถึง อันเป็นผลจากการปฏิบัติธรรมของตนเอง


    ทุกท่านที่พึงมี พึงได้รับพระบรมสารีริกธาตุไว้บูชา ก็พึงเข้าใจในธรรมของพระองค์ท่านด้วย


    ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกๆท่านที่ได้อุทิศทั้งกายและใจเพื่องานพระศาสนาด้วยกำลังใจที่เต็มเปี่ยมค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กันยายน 2010
  14. daruma

    daruma เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    209
    ค่าพลัง:
    +533
    ยุคสมัยเปลี่ยนไป การที่จะมอบพระธาตุให่แก่กัลยาณมิตรทั้งหลายนั้นบางครั้งไม่สะดวกในการที่จะเดินทางไปรับด้วยตนเอง บางคนอยู่ไกล บางคนอยู่ใกล้ ฉะนั้นการจะมอบให้แก่กันต้องใช้วิธีที่สะดวกที่สุด นั่นก็คือการจัดส่งให้ทางไปรษณีย์ ผมมีความเชื่ออยู่ว่าพระธาตุใดก็ตามล้วนเป็นของศักดิ์สิทธิ์สูงค่า ควรบูชาท่านจะรับรู้ได้ว่าสิ่งที่เราทำนั้นเจตนาจะลบหลู่ดูหมิ่นท่านหรือไม่ ผมคิดว่าอย่าคิดกังวลกันไปเลยคับ ถ้าสะดวกที่จะเดินทางไปรับเองได้ก็ควรจะไป แต่ถ้าไม่สะดวกวิธีนี้ดีที่สุด ไม่บาปหรอกคับหากใจเราบริสุทธิ์ และรอคอยด้วยศรัทธาอันแรงกล้าเพื่อให้ได้เข้าใกล้และเข้าถึงพระพุทธองค์และพระธรรมคำสอนของพระองค์ให้ได้มากที่สุด
     
  15. wisaruth

    wisaruth เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2009
    โพสต์:
    193
    ค่าพลัง:
    +1,726

    กระทู้นี้เป็นกระทู้แสดงความคิดเห็นจะมาตัดสินว่า จบ ไม่ได้มันต้องดูกันต่อไป
     
  16. aaa12345

    aaa12345 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2008
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +119
    ทุกท่านที่แสดงความคิดเห็น ดีหมดแต่ก็อย่างที่ว่า ถ้าให้ไปรับเองก็คงจะเป็นปัญหาอยู่ไม่น้อย ทั้งหมดขึ้นอยู่ที่เจตนาเป็นใหญ่เมื่อผู้ให้เจตนาเป็นกุศล ผู้รับก็เป็นกุศล ผมก้ว่าดีแล้ว ส่วนการขนส่งเราอย่ากังวลให้เศร้าหมอง เพราะเป็นการขนส่งเพื่อการกุศล ไม่งั้นเครื่องบินที่บินผ่านวัด เจดีย์ ก็แย่หมด หนังสือธรรมะอันเป็นพระธรรมของพระพุทธเจ้าก็จะขนส่งเผยแพร่กันไม่ได้ ข้าวปลาอาหารที่นำไปถวายพระสงฆ์ วัตถุดิบก็เหยียบย่ำ ข้ามกันมา คนแขวนพระก็รอดสะพาน เข้าห้างหลายชั้น คนข้ามหัวทั้งนั้น แต่จิตใจเราเครารพศัรธาอยู่เหนือดวงใจ ไม่เอาไปทิ้งขว้าง ยึดมั้นพระรัตนไตรอยู่กับกายใจเราและเหนือสิ่งใดพระบรมธาตุท่านบริสุทธฺ์ผ่องใสเกินกว่าจะเศร้าหมองด้วยสิ่งใดๆได้...สาธุ..
     
  17. wisaruth

    wisaruth เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2009
    โพสต์:
    193
    ค่าพลัง:
    +1,726
    คุณเข้าใจคำว่าพระบรมสารีริกธาตุว่าอย่างไร คือการเอาพระองค์ใส่ถุงซิปหรือ
    ขนาดอัฐิคนในครอบครัวก็ต้องใส่โกฐ ของครูบาอาจารย์ก็ใส่ผอบ แล้วนี่พระพุทธองค์คุณเอาพระองค์ท่านใส่ถุงหรือ แล้วถ้ายกตัวอย่างว่าถ้าลูกหลานพี่น้องต้องการอัฐิของบรรพบุรุษของท่าน ท่านจะเอาัอัฐิของบรรพบุรุษส่งถุงซิปส่งไปรษณีย์ให้ญาติพี่น้องหรือเปล่า


    เราได้พระบรมสารีริกธาตุมาเสมือนว่าเราอยู่ใกล้พระพุทธองค์ ดังนั้นอะไรที่ทำกับพระองค์ท่านโดยตรง ก็ควรคิดก่อนทำ อย่างพระเทวทัต ทำกับพระพุทธองค์ไว้มาก จริงอยู่ที่พระพุทธเจ้าท่านไม่ว่าอะไร แต่อย่าลืมว่า กฎของกรรมที่กระทำต่อพระพุทธองค์โดยตรง ก็ทำให้ธรณีสูบ พระเทวทัตท่านรู้ทั้งรู้ว่าผิดก็ทำ แต่เมื่อท่านจะไปขอขมาพระพุทธเจ้า ทำไมธรณีถึงสูบ ก็เป็นเพราะกรรมที่กระทำกับพระพุทธเจ้าโดยตรง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กันยายน 2010
  18. aaa12345

    aaa12345 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2008
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +119
    ผมว่าก็สุดโต่งไปเอาสายกลางๆดีกว่า การที่บรรจุถุงส่งหรืออะไรก็ขึ้นกับเจตนา ในสมัยโบราณเขาใช้ผอบทองคำบรรจุกันนะครับ แล้วสมัยนี้จะมีกี่คนหาผอบหรือผะอบทองคำมาบรรจุได้มันก็คงตามฐานะใคร มันบางคนเป็นชาวนา อยู่ชนบท ฐานะเช่นนี้ก็คงไม่มีโอกาสจะเดินทางไปรับเอง และอย่างท่าน ติช มาฮาน (จำชื่อไม่ได้แน่) พระเวียดนามที่กำลังเป็นที่ศรัทธาถ้าท่านบอกว่าใครต้องการฟังธรรมจากท่านให้เดินทางไปหมู่บ้านพรัม ฝรั่งเศษ เท่านั้น จะมีกี่คนมีปัญญาไปได้ การที่ศาสนาอื่นจะกล่าวอย่างนั้นอย่างนี้ก็เป็นการเข้าใจเพียงมองผ่านซองไปรษณีย์แว๊ปเดียวทำไมไม่ไปดูว่าหลังจากนั้น ชาวพุทธเขาประดิษฐานไว้เช่นไร กราบไหว้บูชาเช่นไร เคารพแนบแน่นไว้ในจิตใจตลอดชีวิตเช่นไร การสรุปอะไรเพียงแว๊ปเดียวอาจไม่ถุกต้องเสมอครับ
     
  19. aaa12345

    aaa12345 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2008
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +119
    ถ้างั้นก็อย่างที่ผมว่า การที่เครื่องบินบินข้ามวัดหรือเจย์ดีก็คงไม่เป็นการสมควร คุณต้องไปเรียกร้องต่อสุ้กับนาๆชาติหรือกับรัฐในเรื่องนี้แล้วละไม่งั้นก้แสดงว่าไม่เคารพจริง หรือแขวนพระ อันเป็นตัวแทนพระพุทธเจ้าเข้าตึก มีคนอยู่ชั้นบนก็แสดงว่าไม่เคารพ คุณก็ต้องเรียกร้องต่อสู้เรื่องเหล่านี้ด้วย ไม่งั้นก็เท่ากับดีแต่พูด ผมเห็นด้วยนะอย่าให้เครื่องบินบินข้ามวัดเจดีย์ แต่ผมไม่มีปัญญาไปทำอะไรเหล่านั้นได้และถ้ายึดตามคุณ คนนั่งเครื่องทุกลำคงลงนรกหมด
    อีกอย่างอัฐิของบรรพบุรุษ นั้น การที่มีการไปลอยอัฐิในแม่น้ำก็น่าจะไม่เหมาะด้วย เพราะในที่สุดก็จมลงใต้น้ำ เกลือกกลั้วสิ่งปฏิกูลต่างๆ คนหญิงชายลงอาบน้ำชำระร่างกาย อื่นๆไหลมาตามน้ำมากมาย ก็น่าจะไม่เหมาะตามที่คุณว่า..
    เราเข้าใจคุณแต่ไม่ควรสุดโต่ง อย่างทุกวันนี้พระธาตุที่คุณมีในบ้านหรือพระพุทธรูปในบ้านคุณ เมื่อเครื่องบินบินผ่านบ้านคุณ คุณจะทำอย่างไรในฐานะเจ้าของบ้าน
    และการที่คุณไปห้างหรือขึ้นตึกหลายชั้นข้ามหัวคนที่แขวนพระ คุณคิดอย่างไร จะทำไง..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กันยายน 2010
  20. wisaruth

    wisaruth เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2009
    โพสต์:
    193
    ค่าพลัง:
    +1,726
    ผมไม่ได้เรียกร้องสิทธิ์ แต่คุณอ่านหัวข้อให้ละเอียดชัดเจนก่อน เรากำลังถามความคิดเห็นกันเรื่องการแจกพระบรมสารีริกธาตุ กระผมไม่ได้สุดโต่ง แต่กำลังใจในการบูชาเป็นปรมัตถ์ เพราะผมว่าไปตามกฎแห่งกรรมใช้ปัญญาพิจารณา ถูกคือถูก ผิดคือผิด สิ่งต่างๆ ที่คุณเขียนขึ้น บ่งบอกภูมิจิต ภูมิธรรมคุณได้เลยนะครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...