ทหารพระองค์ดำรายงานตัวหน่อยครับ

<table class="tborder" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1" width="100%"><tbody><tr> <td class="thead"> ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 7 คน ( เป็นสมาชิก 5 คน และ บุคคลทั่วไป 2 คน ) </td> <td class="thead" width="14%"> <center"> [ แนะนำเรื่องเด่น ] </center"></td> </tr> <tr> <td class="alt1" colspan="2" width="100%"> Unique_Angel*, innovex+, krongkamons+, ไก่เหลืองหางขาว+, ๛อาภากร๛</td></tr></tbody></table>
แชะ เอาไว้เป็นที่ระทึก อิอิ

 

หรือว่าอันนี้ ถ้าอันนี้ท่านใดพอมีภาพเห็นขักขระที่จารแบบชัดๆมั้ยครับ

 

ดีใจจัง ในที่สุดก็อ่านตามทัน ช่วงนี้กระทู้วิ่งกันเร็วเป็นติดจรวดเลย พูดถึงเรื่องเครื่องรางของขลัง ช่วงนี้แปลกมากๆ ไม่รู้ทำไมผมถึงเกิดสนใจของพวกนี้ไม่รู้ ทุกวันนี้ก็พกมีดหมออยู่ 1 เล่ม ตะกรุดอีก 2 บวกพระอีก 3 องค์ ใครสนใจจะทดสอบเรื่องคงกะพันก็ไม่เป็นไรนะครับ ลองมาแล้วว่าไม่มีความเหนียวเลย โดยเฉพาะกับพวกเข็มฉีดยานี่ ทิ่มปุ๊บทะลุปั๊บ

ว่าแต่เมื่อไหร่จะเอารูปมีดหมอมาให้ดูซักทีเนี่ย อยากเห็น ๆ ๆ ๆ อยากดูว่างดงามแค่ไหน

 

ผมเองก็ไม่เชื่อว่าสมเด็จพระพนรัตน์กับพระมหาเถรคันฉ่องเป็นคนเดียวกัน แต่ก็ไม่มีข้อมูลอะไรมายืนยัน แต่เคยฝันเห็นหลวงปู่สมเด็จพระพนรัตน์อยู่หนนึง ตอนที่เห็นในฝันก็รู้เลยว่าเป็นท่าน แต่รูปร่างหน้าตาที่ผมเห็นกลับไม่เหมือนรูปสมเด็จพระพนรัตน์ที่เขาวางโชว์กันทั่วไปแฮะ (รูปข้างล่าง)

 

รับบริจาคครับ ถ้าคุณเต้าเจี้ยวมีพระเครื่องดีๆ

 

ป่านนี้ผมยังอ่านไม่ทันอยู่เลยครับ

ผมคล้ายๆว่าเป็นหนี้เงินบริจาคปลูกต้นไม้ ท่านจขกท.อยู่ครับ แหะๆ

 

ขอเชิญร่วมบุญมหากุศล สร้างอุโบสถ วิหารทานมหาทานบารมี​

ขอประชาสัมพันธ์บอกบุญเพื่อขอเรียนเชิญคณะผู้มีจิตศรัทธา
ร่วมเป็นเจ้าภาพบริจาคเหล็กรูปพรรณ และกระเบื้องเกล็ดปลาเคลือบสี
เพื่อใช้สำหรับในการดำเนินงานมุงหลังคาอุโบสถ
ในการก่อสร้างอุโบสถทรงจตุรมุข เฉลิมพระเกียรติรัชกาลที่ ๙
ณ วัดบ้านน้อยท่าทอง
หมู่ที่ 1 ตำบลศรีภิรมย์ อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก 65180​

ด้วยทางวัดกำลังดำเนินการก่อสร้างอุโบสถขึ้น
ตัวอุโบสถมีขนาดความกว้าง 6 เมตร ความยาว 21 เมตร
มีลักษณะเป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก แบบทรงไทยจตุรมุข​

ในระหว่างนี้ทางวัดบ้านน้อยท่าทองกำลังดำเนินการก่อสร้างอุโบสถ
ในระยะที่ 3 ของการก่อสร้าง คือ เทคานคอนกรีตเสริมเหล็กช่วงบน
เทคอนกรีตโครงหลังคา เทคอนกรีตโครงสร้างมหามณฑปยอดอุโบสถ
และจะทำการมุงกระเบื้องหลังคา ก่อฝาผนัง และยกช่อฟ้าอุโบสถในระยะนับต่อจากนี้
ทั้งนี้เนื่องจากทางวัดยังขาดทุนทรัพย์ในการจัดซื้อเหล็กรูปพรรณ และกระเบื้องเกล็ดปลาเคลือบสีอีกเป็นจำนวนมาก
จึงขอประชาสัมพันธ์บอกบุญมายังท่านผู้มีจิตศรัทธามา ณ โอกาสนี้​

* โดยรายละเอียดส่วนของวัสดุก่อสร้างที่มีความจำเป็นเป็นอย่างมากในการก่อสร้างขณะนี้
ที่ทางวัดบ้านน้อยท่าทอง กำลังต้องการรับบริจาคอยู่ในขณะนี้ มีดังนี้ *
1. เหล็กรูปพรรณ ใช้ในการจัดสร้างโครงหลังคาอุโบสถ (ส่วนของตัวจันทัน และตัวแป) มีดังนี้
----- เหล็กตัวซี ขนาดความกว้าง 4 นิ้ว x 2 นิ้ว ความหนา 3.2 มม. ความยาว 6 เมตร
----- ใช้จำนวน 130 ตัว
----- เหล็กตัวซี ขนาดความกว้าง 3 นิ้ว x 1.5 นิ้ว ความหนา 3.2 มม. ความยาว 6 เมตร
----- ใช้จำนวน 100 ตัว
----- เหล็กกล่อง ขนาดความกว้าง 1 นิ้ว x 1 นิ้ว ความหนา 1.8 มม. ความยาว 6 เมตร
----- ใช้จำนวน 600 ตัว​

2. กระเบื้องเกล็ดปลาเคลือบสี (เคลือบสีเขียว และเคลือบสีแดง) ใช้ในการมุงหลังคาอุโบสถ
----- ใช้ประมาณทั้งสิ้น 63,000 แผ่น
ในการนี้ทางวัดบ้านน้อยท่าทอง ปรารถนาเพื่อให้สาธุชนได้มีโอกาสร่วมกันเป็นเจ้าภาพ
โดยแบ่งจำนวนกระเบื้องทั้งหมดออกเป็น 4 ส่วน มี 4 เจ้าภาพ
เป็นเจ้าภาพส่วนละ 15,750 แผ่น เป็นเจ้าภาพส่วนละ 126,000 บาท
หมายเหตุ ซึ่งราคากระเบื้องเกล็ดปลาตามราคาโรงงาน ณ ปัจจุบัน อยู่ที่แผ่นละ 8 บาท​

รายนามผู้บริจาคเป็นเจ้าภาพกระเบื้องมุงหลังคาอุโบสถ
ส่วนที่ 1 คุณยุพิน เกตุอนงค์ สจ.ศิริชิน หาญพิทักษ์พงศ์ และครอบครัว
พร้อมด้วยญาติพี่น้องคณะศรัทธา ร่วมบริจาคกระเบื้อง จำนวน 15,750 แผ่น
เป็นจำนวนเงิน 126,000 บาท
ส่วนที่ 2 คุณวีระ คุณบังเอิญ แดงดี และครอบครัว
พร้อมด้วยญาติพี่น้องคณะศรัทธา ร่วมบริจาคกระเบื้อง จำนวน 15,750 แผ่น
เป็นจำนวนเงิน 126,000 บาท
ส่วนที่ 3 คุณแม่ยูฮวย แซ่เล้า คุณสุจรรยา กิตติฤดีกุล และครอบครัว
พร้อมด้วยญาติพี่น้องคณะศรัทธา ร่วมบริจาคกระเบื้อง จำนวน 15,750 แผ่น
เป็นจำนวนเงิน 126,000 บาท
ส่วนที่ 4 ..........ยังไม่มีเจ้าภาพบริจาค...........​

หรือคณะท่านผู้มีจิตศรัทธาที่ประสงค์จะร่วมบริจาค
เป็นเจ้าภาพก่อสร้างอุโบสถทรงจตุรมุขหลังนี้
โดยสามารถบริจาคหรือสละทุนทรัพย์เพื่อจัดซื้อ
เหล็กเส้น ปูนซีเมนต์ หิน ทราย อิฐ ฯลฯ เป็นต้น​

หากท่านมีความประสงค์ร่วมเป็นเจ้าภาพก่อสร้างอุโบสถ
สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติม ได้ที่
พระอาจารย์สัมฤทธิ์ ขนฺติโก
(เจ้าอาวาสวัดบ้านน้อยท่าทอง)
โทร. 086-2012390​

หรือ
นายธราศักดิ์ ชุนกองฮอ
(สะพานบุญ ผู้ประสานงานส่งเสริมกิจการวัดบ้านน้อยท่าทอง)
โทร. 083-8707964
อีเมล์ tana_386@hotmail.com​

-------------------------------------------------
หรือหากมีจิตศรัทธาร่วมเป็นเจ้าภาพบริจาคหรือสละทุนทรัพย์ ตามแต่กำลังศรัทธา
เพื่อร่วมก่อสร้างอุโบสถทรงจตุรมุข เฉลิมพระเกียรติรัชกาลที่ ๙
ณ วัดบ้านน้อยท่าทอง
เรียนเชิญได้ที่​

ธนาคารกรุงเทพ
เลขที่บัญชี 620-0-02046-6
ชื่อบัญชี นายธราศักดิ์ ชุนกองฮอ
สาขา ย่อยมหาวิทยาลัยนเรศวร พิษณุโลก
ประเภท สะสมทรัพย์​

--------------------------------------------------------------
เนื่องจากวัดตั้งในเขตชนบทของต่างจังหวัด การประชาสัมพันธ์บอกบุญจึงไม่ทั่วถึง
การนี้จึงขอความอนุเคราะห์จากท่านร่วมด้วยช่วยกันประชาสัมพันธ์บอกบุญต่อๆ ไปด้วยครับ
โดยทางวัดยังขาดทุนทรัพย์ในการก่อสร้างอีกเป็นจำนวนมาก
และเพื่อให้การก่อสร้างอุโบสถได้ดำเนินการไปอย่างต่อเนื่องจนแล้วเสร็จสมบูรณ์ตามเจตนารมณ์ต่อไป
นิพพานํ ปจฺจโย โหตุ
สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ​

ชมภาพความคืบหน้าการก่อสร้างอุโบสถวัดบ้านน้อยท่าทอง ได้ที่
เว็บไซต์ข้อมูลวัดบ้านน้อยท่าทอง
www.watbannoitatong.ob.tc​

เว็บไซต์อ้างอิง​

http://palungjit.org/threads/ด่วนมาก-ทางวัดต้องการรับบริจาคเหล็ก-และกระเบื้องมุงหลังคาอุโบสถ.197122/​

 

ขอเชิญพุทธศาสนิกชนและคณะผู้มีจิตศรัทธา
ร่วมเป็นเจ้าภาพทอดกฐินสามัคคี ประจำปีพุทธศักราช 2553
เพื่อสมทบทุนการก่อสร้างอุโบสถทรงจตุรมุข เฉลิมพระเกียรติรัชกาลที่ ๙
ณ วัดบ้านน้อยท่าทอง
หมู่ ๑ ตำบลศรีภิรมย์ อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก

หมายกำหนดการ
วันพฤหัสบดีที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
รวบรวมและตั้งองค์กฐินสามัคคีที่ศาลาการเปรียญวัดบ้านน้อยท่าทอง
ช่วงกลางวัน
มีประเพณีการละเล่นพื้นบ้านเพื่อสืบสานวัฒนธรรมประเพณีไทย
อาทิ การแข่งขันเรือยาว 5 ฝีพาย การแข่งขันชักเย่อเชื่อมความสามัคคี
การเชียร์เรือยาว การแข่งขันเปตอง สอยดาวพาโชค
ช่วงเย็น
พิธีเจริญพระพุทธมนต์ธรรมจักรกัปปวัตนสูตร ฉลองสมโภชองค์กฐินสามัคคี
พิธีเบิกพระเนตรพระพุทธรูป จำนวน 3 องค์
พระพุทธชินราช (จำลอง) ขนาดหน้าตัก 30 นิ้ว
พระพุทธโสธร (จำลอง) ขนาดหน้าตัก 50 นิ้ว
พระพุทธนิมิตวิชิตมารโมลีศรีสรรเพชญ์บรมไตรโลกนาถ (จำลอง)
ปางทรงเครื่องจักรพรรดิ์ วัดหน้าพระเมรุฯ ขนาดหน้าตัก 50 นิ้ว
ช่วงค่ำ
การประกวดนางงามนพมาศศรีภิรมย์
รับผู้เข้าประกวดจากทุกหมู่บ้านในตำบลศรีภิรมย์ จำนวน 13 หมู่บ้าน
(คณะกรรมการตัดสินการประกวด สตรีผู้ทรงเกียรติกิตติมศักดิ์จากหลายวงการ)
ประเพณีลอยกระทง เพื่อสืบสานวัฒนธรรมประเพณีไทยแบบย้อนยุคโบราณ
การแสดงวงดนตรีลูกทุ่งจากนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง
ทีมงานนักร้องอาสาสมัครโดย เสรี รุ่งสว่าง นก พรพนา ฯลฯ
ชมลิเกคณะวรเชษฐ์ ศิษย์กรุทอง จากจังหวัดสุโขทัย
และมหรสพเพื่อฉลองสมโภชองค์กฐินสามัคคี ชมฟรีตลอดคืน

วันศุกร์ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
เวลา 7.30 น. พิธีเจริญพระพุทธมนต์ และถวายภัตตาหารเช้าแด่พระสงฆ์
เวลา 9.09 น. พิธีอนุโมทนาทอดกฐินสามัคคี (เป็นอันเสร็จพิธีการ)

หมายเหตุ
ตารางเวลาอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม
ด้วยทางวัดบ้านน้อยท่าทอง มีเจตนากุศลต้องการ
จัดตั้งโรงทานอาหาร เพื่อเลี้ยงรับรองแก่ผู้ร่วมงานทุกๆ ท่าน ฟรีตลอดงาน

ประธานเจ้าภาพทอดกฐินสามัคคี
พระธรรมสิทธินายก (พระเลขานุการสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ)
วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร กรุงเทพมหานคร
พระครูวิเทศธรรมวิทิต พระธรรมทูตไทย เจ้าอาวาสวัดไทยนอร์เวย์ ประเทศนอร์เวย์
คุณพรรณี ศรีสุพรรณ ประธานชมรมชาวพุทธไทยนอร์เวย์ ประเทศนอร์เวย์
คุณเสรี รุ่งสว่าง คุณนก พรพนา ฯลฯ
(ทีมงานอาสาสมัครนักร้องร่วมสร้างความสำราญบันเทิงในงานสมโภชองค์กฐินสามัคคี)
คุณลูกคิด ฤทธิ์รัศมี ชาวไทยในประเทศนอร์เวย์
และคณะศรัทธาพุทธศาสนิกชนชาวไทย นอร์เวย์ อังกฤษ และสวิตเซอร์แลนด์
คุณแม่ซิว คุณหมอวรรณา คุณปราณี ยศอุบล และครอบครัว อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี
คุณวีระ คุณบังเอิญ แดงดี พร้อมคณะศรัทธา กรุงเทพฯ
ร้านเจ๊โมสังฆภัณฑ์ และครอบครัว ตลาดหนองตม อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก
และเจ้าภาพอีกหลายๆ สายที่ไม่ได้ระบุนามมา ณ ที่นี้
ได้ร่วมกันเป็นเจ้าภาพทอดกฐินสามัคคีในครั้งนี้
เพื่อสมทบทุนการก่อสร้างอุโบสถทรงจตุรมุข เฉลิมพระเกียรติรัชกาลที่ ๙
ณ วัดบ้านน้อยท่าทอง ให้สำเร็จเรียบร้อยสมบูรณ์สืบต่อไป

ทั้งนี้หากท่านมีจิตศรัทธาประสงค์จะร่วมเป็นเจ้าภาพ
ทอดกฐินสามัคคี ประจำปี 2553
การนี้ตามแต่กำลังศรัทธาของท่าน
โดยสามารถแจ้งความประสงค์ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
พระอาจารย์สัมฤทธิ์ ขนฺติโก (เจ้าอาวาสวัดบ้านน้อยท่าทอง)
โทร. 086-2012390

อาจารย์ร้อยแก้ว สายยิ้ม (ไวยาวัจกรวัดบ้านน้อยท่าทอง)
โทร. 081-8885565

นายธราศักดิ์ ชุนกองฮอ (ผู้ประสานงานส่งเสริมกิจการวัดบ้านน้อยท่าทอง)
อีเมล์ tana_386@hotmail.com
โทร. 083-8707964


ประชาสัมพันธ์บอกบุญเพื่อขอเรียนเชิญร่วมจองเป็นเจ้าภาพสร้าง
พระมหามณฑปเจดีย์ยอดอุโบสถ เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
และ
เป็นเจ้าภาพสร้างช่อฟ้าอุโบสถ
ในการก่อสร้างอุโบสถทรงจตุรมุข เฉลิมพระเกียรติรัชกาลที่ ๙
ณ วัดบ้านน้อยท่าทอง
หมู่ 1 ตำบลศรีภิรมย์ อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก

ด้วยทางวัดกำลังดำเนินการก่อสร้างอุโบสถขึ้น
ตัวอุโบสถมีขนาดความกว้าง 6 เมตร ความยาว 21 เมตร เป็นทรงไทยจตุรมุข

ในระหว่างนี้ทางวัดบ้านน้อยท่าทองกำลังดำเนินการก่อสร้างอุโบสถ
ในระยะที่ 3 ของการก่อสร้าง คือ เทคานคอนกรีตเสริมเหล็กช่วงบน
เทคอนกรีตโครงหลังคา เทคอนกรีตโครงสร้างพระมหามณฑปเจดีย์ยอดอุโบสถ
และจะทำการมุงกระเบื้องหลังคา ก่อฝาผนัง และยกช่อฟ้าอุโบสถในระยะต่อไป

ซึ่งอุโบสถหลังนี้จะจัดสร้างพระมหามณฑปเจดีย์ยอดอุโบสถทรงจตุรมุข
ประดิษฐานเข้าไว้ด้วยกัน มีลักษณะเป็นทรงเจดีย์ย่อมุมไม้สิบสองประดับลวดลายทั้งองค์
และประดับฉัตรปลายยอดพระมหามณฑปเจดีย์ เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ภายในพระมหามณฑปเจดีย์ยอดอุโบสถหลังนี้
ในการนี้ขอเรียนเชิญคณะผู้มีจิตศรัทธาร่วมเป็นเจ้าภาพจัดสร้าง

พระมหามณฑปเจดีย์ยอดอุโบสถทรงจตุรมุข
(รายการนี้ยังไม่มีคณะศรัทธาเจ้าภาพประสงค์จัดสร้าง)

ที่มา
: :

 

สาธุ ในทุกบุญกุศลบารมีที่ดีงามครับ

อ้อ มาล้อเล่นเหรอครับ:'(

เสียดายไม่ใช่วันหยุด

 

Unique_Angel<!-- google_ad_section_end --> <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_3727014", true); </script> ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต



เอาภาพใครมาแทนตัวหรือครับ

 

ถ้าจะไปตั้งกระทู้ใหม่ อย่าให้พิษณุเป็นเจ้าของกระทู้นะครับ เดี๋ยวแกอารมณ์ไม่ดี จะพาลลบกระทู้เอา ผมอดตามไปอ่าน แบบกระทู้เก่าๆครับ

อย่างกระทู้นี้วิสุทธิ์ ยังไม่ลบง่ายๆ

 

ทักทายทุกท่านครับ

<table class="tborder" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1" width="100%"><tbody><tr><td class="thead">

ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 7 คน ( เป็นสมาชิก 3 คน และ บุคคลทั่วไป 4 คน ) </td> <td class="thead" width="14%"> <center"> [ แนะนำเรื่องเด่น ] </center"></td> </tr> <tr> <td class="alt1" colspan="2" width="100%"> มุ่งเต็มใจ</td></tr></tbody></table>

 

งินซื้อที่นอน (เช้าวันเดินทางจากพิษณุโลกสู่เชียงใหม่) ; ขันโตกเจียงใหม่เจ้า

กาแฟร้อนๆจ้า ; ภาพที่เห็นในที่วัดพระพุทธบาทสี่รอย ; รูอะไรเอ่ย... ; หมาน้อยที่วัดป่าฯ ; เสียงในใจเราที่เพื่อนเรานั้นได้ยิน ; พลังกดทับที่มีเงื่อนงำ... ; คืนที่นอนไม่หลับ

กาแฟไม่ใส่ครีม ; หมู่บ้านชาวเขา ; ถวายพระพรที่พระตำหนักภูพิงค์ ทัวร์นี้เข้าชมฟรี อิอิ ; พระธาตุดอยสุเทพฯ ; วัดที่เข้าใจผิด ; เหิรฟ้ากลับเมืองอมรฯ

สรุปสุดท้ายทำไมถึงไปทริปนี้มันช่างมีอุปสรรคเสียเหลือเกิน ; เฉลย เหตุที่เกิดที่ออฟฟิศ (วันที่ลงมาจากวัดถ้าพระ พิษณุโลก)

กาแฟไม่ใส่ครีม

หลังจากเกิดอาการหลับๆ ตื่นๆ ที่ว่ามาแล้ว เราเลยตื่นก่อนนาฬิกาปลุกนิ๊ดดดเดียว
(นิดเดียวจริงๆ ลืมตาปุ๊บ ยังไม่ทันขยับตัว นาฬิกาที่ตั้งไว้ก็ดัง)
เราเลยอาบน้ำก่อนแม่ป้า พออาบเสร็จ ก็ทำเป็นรู้งาน
(จริงๆ ไม่รู้หรอก เหอๆๆ เห็นเมื่อวานแม่ป้าซื้อกาแฟมาเลยไปซื้อมาให้บ้าง)

เราก็ถามแม่ป้าว่าเอาอะไรบ้างแม่ป้าก็บอกมาอย่างชำนาญการเรื่องกาแฟมาก
ว่าแล้วก็เดินออกจากห้องไปยังเซเว่น...

เดินๆ เลือกๆ เนื่องจากเมื่อว่าเลือกคาปูชิโน่ไป แล้วปรากฎว่าไม่มีน้ำตาล วันนี้เราเลยเปลี่ยนกาแฟเราเป็นทรีอินวัน จัดไปอย่าได้เสีย หุหุ
เลือกเอสเพรสโซ่ให้แม่ป้า แล้วจะเลือกอะไรให้พิซซ่าดีหว่า
เมื่อวานเห็นเหมือนมานจะกินถ้วยเหลืองๆ เอ่..หรือจะกินคาปูเหมือนเรา

จำได้ว่าพิซซ่าเคยบอกว่ากินกาแฟดำเหมือนใจ
ว่าแล้วเราก็หยิบคาปูไปทันที อันนี้ถ้าไม่ใส่ครีมดำสมใจแน่ หุหุ

จัดแจงกดน้ำร้อนหิ้วกลับห้องด้วยความดี๊ด๊า (เพิ่งเคยซื้อกาแฟร้อนเป็นครั้งแรกทุกทีซัดแต่กาแฟเย็น) ว่าซื้อกาแฟร้อนเป็นแล้ว อิอิ

ขึ้นถึงห้องจัดแจงเอาไอ้โน่นใส่ไอ้นี่ แล้วพิซซ่าก็เข้ามาในห้อง
"น้ำตาลอ่ะพี่"
"เหอ?.. อาราย"
"ไม่มีน้ำตาล เค้ากินไม่ไ่ด้อ่ะ"

อ้าวงานเข้าซะแล้วตรู เพิ่งจะขโมยน้ำตาลแม่ป้าใส่ถ้วยตัวเองไปแหมบๆ
น้ำตาลไม่มีแล้วอ่ะ - -"

"อ้าวเห็นบอกกินกาแฟดำ นึกว่าไม่ใส่น้ำตาล" พิซซ่ามันคงเอือมยังจะแถ
"ทุกทีใส่ขิงผงมันก็หวานอ่ะ วันนี้ไม่ีขิงผงนี่ งื่ดๆ แล้วเค้าจะกินยังอ่ะ"

............. ตื๊ด......ตื๊ด "ขอน้ำตาลหน่อยค่ะ ที่ห้อง 312"
รูมเซอร์วิสช่วยชีวิตได้ครับงานนี้ รีบเรยเพื่อจบการขาย^^"


หมู่บ้านชาวเขา (ขอเปลี่ยนชื่อใหม่นะคะ)

หลังจากกินกาแฟ เราก็ขึ้นดอยกัน รูปเพื่อนๆได้ดูกล้องสองสาวไปแล้วดูของเรามั่ง ตอนแรกเห็นเขาแต่งชุดชาวเขากัน พิซซ่าเชียร์ใหญ่ให้ลองแต่งไปถ่ายรูป

เอ่อ...น้องจ๊ะ.. พี่ตอนนี้ราวกับหมีขาวขึ้นดอย เห็นทีคงต้องผ่านก่อน ถ้าฟิตร่างกายมาดีอาจจะยอมแปลงร่างนะ ^^"

เสื้อถอยที่ตีนดอยอ่ะเหรอ ก็หนาวอ่ะ พิซซ่ากะแม่ป้าเคยขึ้นดอยกันแล้วก็ไม่บอกว่าให้เอาเสื้อกันหนาวมานี่หน่า... ถึงเป็นหมีขาวก็หนาวเป็นนะว๊อยยย

ใส่ปุ๊บกลายเป็นนาย (หมู) น้อยชมตลาดเลย ๕๕๕~

 

นางเอกหนังเกาหลีน่ะพี่มุ่งฯ จำชื่อไม่ได้อ่ะจ๊ะ

 

กะว่าจะเล่าให้จบภายในวันนี้ไม่ไหวเรื่องมันชักจะไร้สาระเข้าทุกทีๆ - -"

ถวายพระพรที่พระตำหนักภูพิงค์ ทัวร์นี้เข้าชมฟรี อิอิ

อันนี้มีแต่รูปเล็กน้อยๆ มาให้ดูค่ะ หมอกลงจัดจนถ่ายรูปแล้วหงุดหงิดไม่ได้ดั่งใจ
อันนี้แอบมีดีใจที่มีร้านขายขนมบนพระตำหนัก นางฟ้ากับแม่ป้ารีบซื้อวาฟเฟิลน้ำพริกเผาหมูหยองรองท้องแบบไม่ต้องอีดออดเลยทันที กลัวหิวจนเป็นลม
ปล. เป็นความโชคดีเพราะเข้าชมครั้งแรกในชีวิตก็วันแม่พอดี แถมได้เข้าชมฟรีอีกด้วย

พระธาตุดอยสุเทพฯ

พอลงมาจากพระตำหนักแดดเปรี้ยงทันตาเห็น
เราขึ้นไปสักการะพระธาตุตอนเที่ยงพอดีเห็นคนแล้วจะเป็นลม
ด้วยความที่ไม่เคยขึ้นที่สูงมานาน
เล่นหอบซะหน้าขาวเป็นกระดาษ - -"

พิซซ่าถามว่าพี่ไม่ถ่ายรูปเหรอ
เรามองพระธาตุแล้วสั่นหัว...ไม่ถ่ายล่ะ ถือว่าได้ชื่อว่ามาถึงแล้ว
ถ้าอยากจะถ่าย อยากจะถ่ายในวันที่คนน้อยๆ มากกว่า
ว่าแล้วก็กลิ้งลงจากดอยกัน

วัดที่เข้าใจผิด

วัดสวนดอก
วัดนี้เห็นอาจารย์ที่เป็นชาวต่างชาติชอบพูดถึงบ่อยๆ จึงเกิดความอยากเข้าไปดู

พอเข้าไปก็อ้อ... ได้ความรู้เพิ่มว่าวัดนี้เจ้าแก้วนวรัฐ (เขียนถูกเขียนผิดขออภัยไว้ล่วงหน้า ถ้าหาเจอคำถูกจะกลับมาแก้) ทรงเป็นผู้สร้างไว้

วัดนี้แปลกอย่าง มีเจดีย์ทรงลังการะฆังคว่ำด้วย
นับๆ ส่วนประกอบของเจดีย์ทรงนี้ครบถ้วนตามลักษณะไม่มีเพี้ยน
ดูแปลกตาจากเจดีย์ทั่วไปของทางเหนือที่จะเป็นแปดเหลี่ยม?
และย่อมุมไม้ แปดบ้าง สิบสองบ้าง สิบหกบ้าง เสียส่วนมาก
เข้าใจเอาเองว่าคงนำช่างทางภาคกลางขึ้นไปสร้างไว้ ศิลปะที่นี่จึงแปลกกว่าที่อื่น

*วัดพระสิงห์ขอข้ามไปนะคะ ^^

เหิรฟ้ากลับเมืองอมรฯ
ขามามารถทัวร์ ขากลับเพื่อความรวดเร็วอีกอย่างไม่ชอบเดินทางกลางคืนซักเท่าไหร่นัก จึงเลือกที่จะบินกลับ
ที่นั่งที่ได้ เลข 48G เป็นที่นั่งตอนกลางของเครื่องบินมีสองข้างทางเดินกระหนาบ ไม่ใช่ด้านติดหน้าต่าง ที่นั่งตอนกลางมีอยู่ 4 ที่นั่ง นางฟ้าได้ที่นั่งริม นับจากด้านซ้ายมือจึงเป็นคนที่ 4 พอดี

ตลกมากที่หวยงวดนั้นออกเลขท้าย 448 ด้วยค่ะ ^^"

 

สรุปสุดท้ายทำไมถึงไปทริปนี้มันช่างมีอุปสรรคเสียเหลือเกิน

มานั่งคิดๆ ดูก็สงสัยเป็นอย่างมากว่ามันอะไรกันนักหนา ทำไมจะไปทริปกับพลพรรคนี้ จะต้องมีเหตุให้คลาดคลากันเกือบทุกครั้ง
สรุปข้อคิดของตัวเองมาได้ดังนี้
๑. กำลังใจที่ไม่พร้อม เมื่อกำลังใจไม่พร้อมก็พร้อมที่จะไม่ไปได้ตลอดเวลา เหมือนคนตั้งท่าว่าจะไปๆ อยู่ดีๆ ก็ไม่ยอมจะไปซะอย่างนั้น
๒. พลังงานที่มองไม่เห็น ซึ่งบันดาลเหตุให้เราท้อถอยไม่ยอมที่จะไปให้จบทริป แลคล้ายให้เกิดเหตุบังเอิญว่าสิ่งที่เราคิดว่าสำคัญนั้นเดือดร้อนมากจึงต้องรีบกลับไปดูแล ทั้งๆที่จริงอาจจะไม่มีอะไรก็ได้
๓. กรรมของเราอันมีเจ้ากรรมนายเวร และเจ้าบุญนายคุณเป็นใหญ่ ทุกที่ ที่เราไปนั้นแม้เพียงแค่การสักการะพระประธานหรือสิ่งศักดิสิทธิ์ก็นับว่าเป็นการทำบุญอย่างหนึ่ง เวลาที่เราทำบุญอาจจะมีเจ้ากรรมส่วนหนึ่งที่ไม่ยอมให้อภัยเรา จึงไม่อยากที่จะให้เราสร้างบุญได้สำเร็จก็จะขัดขวางเราทุกทาง

ที่เขียนมานี้อาจจะสรุปได้ไม่หมด แต่สิ่งที่น่าคิดคือ ทำไมตลอดทั้งทริป นางฟ้าถึงคิดจะกลับตลอด..เกิดจากอะไร ลองคิดเล่นๆ กันดูนะคะ


เฉลย เหตุที่เกิดที่ออฟฟิศ (วันที่ลงมาจากวัดถ้าพระ พิษณุโลก)

เกิดเหตุหม้อแปลงใหญ่ที่บริษัทฯ ระเบิดค่ะ
ลูกน้องคนสำคัญก็ล้มเจ็บกระทันขนาดต้องเข้า ICU งานเดินต่อแทบไม่ได้เลย

ในขณะนั้นงานกำลังหน้าสิ่วหน้าขวาน ไม่รู้จะรอดไม่รอด

จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ยากจะตัดสินใจได้ระหว่างเลือกกลับไปทำงานกับทำบุญ...

 

แล้วคุณกรองคิดจะทำอย่างไรกับของเหล่านี้ครับ
ถ้าเป็นผมตำรายา ผมจะสแกนเก็บไว้ก่อน

 

ตะกรุดมหาระงับ

ตะกรุดมหาระงับ
จากวัดโพธิ์ผักไห่วัดโพธิ์ผักไห่

พระยันต์ในตะกรุดมหาระงับนี้ตกทอดมาตั้งแต่สมัยอยุธยา โดยต้นตำหรับของสมเด็จพระนพรัตน์ วัดป่าแก้ว พระสังฆราชฝ่ายอรัญวาสี โดยผูกผ้ายันต์เป็นตะกรุดถวายสมเด็จพระนเรศวร สะพายคู่พระวรกายออกศึก ชนะทัพหงสาวดี ที่ทุ่งหนองสาหร่าย ตำหรับวิทยาการได้ตกทอดเก็บรักษาไว้ ณ.วัดประดู่ทรงธรรม จวบจนกระทั่งพระครูพิพิธวิหารการ ( หลวงพ่อเทียม สิริปุณโณ ) ได้หยิบขึ้นมาจัดทำจนเป็นที่โด่งดังเลี่ยงลือมาแล้วในอดีต

ลองดูตะกรุดที่นี่ครับน่าสนใจมาก ผมได้อ่านเจอเมื่อไม่กี่วัน มีคนต้องขึ้นศาลโดนแต่งคดีเท็จ ก่อนขึ้นได้พกตะกรุดนี้ไปด้วย (แต่คนละวัด แต่เจ้าตัวบอกดีเหมือนกันทุกวัด) พอเจอหน้าคู่คดีก็เป่าคาถาไปทางคู่กรณี ที่เห็นในระยะไกลพอควร พออยู่ในห้องพิพากษาไต่สวน โจทย์พูดจา สับสน วกวนไปหมด กลายเป็นโจทย์เป็นจำเลย จำเลยเป็นโจทย์

 

เราก็แปลงตัวเป็นบุคคลทั่วไปอ่ะ เพราะว่าใช้คอมคนละเครื่อง รู้สึกว่าหน้ากระทู้มันหดๆ ยังไงพิกล

กะลาตาเดียว ที่บ้านเคยมีตอันนึงวค่ะ แต่หายไปไหนแล้วไม่รู้ ตอนเด็กๆ เห็นแม่เขาใช้เวลาตักข้าวสารหุงข้าว เคยถามแม่เหมือนกันว่าทำไมใช้กระลา ท่านก็บอกว่าเป็นกะลาตาเดียว หายาก ตอนเด็กๆ ที่บ้านทำขนมขายก็เลยมีการใช้มะพร้าวค่อนข้างเยอะ แต่เคยได้มาแค่อันเดียวจริงๆ ป้าข้างบ้านเขาทำขนมหลายชนิด ยังได้แค่อันเดียวเหมือนกัน เสียดายนะที่เพิ่งมารู้นี่ ไม่งั้นจะเก็บเอาไว้แย้ว

อืม ทึ่งกับของที่งัดๆมาโชว์กัน เสียดายที่ น้าของเราเขาก็สะสมของพวกนี้ไว้เยอะ ตอนเด็กๆ ตรุษจีนที่บ้านก็จะเช่ารถไปทำบุญกันทุกปี ไปทำบุญก็ได้มา ก็จะวางไว้บนหิ้งพระทั้งหมด ตอนไฟไหมโดนเพื่อนๆ มาช่วยขน แต่เขาขนไปบ้านเขา อิอิอิ ก็เลยไม่มีอะไรมากมายไว้ให้ลูกๆหลานๆ ได้ดู บ้านเราอยู่ใกล้ต้นเพลิงนะ แต่ไฟไม่ไหม้อะ ไฟไหม้ลามไปบ้านอื่นที่หลังบ้านที่อยู่ติดกับบ้านเรา แล้วก็ลามไปทั่วเกือบครึ่งตำบลเลย แต่บ้านเราพังเพราะดับเพลิง ก็คงมีของดีคุ้มอยู่พอสมควร หุหุหุ

 

ถ้าเป็นปราญฯ
ตำราต่างๆปราญฯจะคัดลอกไว้ค่ะ
ถ้าสแกนไม่แน่ใจว่าเนื้อใบลานจะถูกทำลายหรือเปล่า
ดีจังนะคะ ของเก่าได้กลับคืน
อนุโมทนาด้วยค่ะพี่กรอง