อยากกินเจ..แต่จะทาน "สก๊อตคอลลาเจน" ได้ไหมครับ

สวัสดีครับ ผมอยากจะกินเจ แล้ะผมคิดว่าสาามรถกินได้ แต่มีอย่างหนึ่งทีผมเลิกไม่ได้คือ สก็อตคอลลาเจนอี คือ ผลิตภัณคอลลาเจนที่สกัดมาจากปละทะเลน้ำลึก ผมเลิกไม่ได้จิงๆครับ ถ้าผมละเว้นทุกอย่างเพื่อการทานเจ แต่ผมไม่ละเว้น สก็อตคอลลาเจน ผมจะบาปมั้ยครับ ขอความกรุณาแนะนำด้วยครับ

ขอบคุณทุกความเห็น ขอแนะนำ ทุกคนครับ

 

<TABLE border=0><TBODY><TR><TD class=padleft vAlign=top>สก๊อต คอลลาเจน-อี
จากคุณค่าธรรมชาติของปลาทะเลน้ำลึก สกัดเป็นคอลลาเจนบริสุทธิ์ ผสมผสานด้วยคุณประโยชน์ของวิตามินอี วิตามินเอ วิตามินบี 6 และวิตามินดี 3 “สก๊อต คอลลาเจน-อี” จึงเป็นผลิตภัณฑ์ที่รวมสารอาหารต่างๆไว้หลากหลาย “สก๊อต คอลลาเจน-อี” มีส่วนประกอบของโฟลิค เอซิด และใยอาหารชนิดละลายน้ำ (Dietary Fiber) ที่ได้จากพืชธรรมชาติ ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่งรสแทนน้ำตาลด้วยไซลิทอล (Xylitol) ซึ่งเป็นสารให้ความหวานที่มาจากธรรมชาติ
ส่วนประกอบ : คอลลาเจน(Collagen) 8.30% ,ใยอาหารชนิดละลายน้ำ(Dietary Fiber) 6.50%,ไซลิทอล(Xylitol) 10.0% ,วิตามินต่างๆ(Vitamins) 0.02%
ปริมาณวิตามินคิดเป็นร้อยละ : วิตามินอี (Vitamin E) 0.0154,วิตามิน บี6 (Vitamin B6) 0.0034 , วิตามินเอ (Vitamin A) 0.000067 , วิตามิน ดี 3 (Vitamin D3) 0.0000102, โฟลิก เอซิด (Folic Acid) 0.0004



</TD><TD class=padleft vAlign=top></TD></TR></TBODY></TABLE>
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ลองสอบถามทาง ผู้ผลิต ดูครับว่า สกัดจากปลาทะเล แน่นอนไหม

ถ้าสกัดจากปลาทะเล จริง ๆ ... คุณก็ไม่ได้ ทานเจ ครับ


ถามว่าบาปไหม ... ถ้าทานเจ แล้วทานสก๊อต ฯ ด้วย

ถ้าไปถือศีลกับทาง พุทธมหายาน(พระจีน) ก็บาปครับ

หรือไปสัญญากับ พระโพธิสัตว์กวนอิม หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ก็บาปครับ


แต่อยากทานเจ ขึ้นมาเฉย ๆ ไม่ได้ไปสัญญากับใคร ก็ไม่บาปครับ แต่ไม่ใช่การทานเจที่สมบูรณ์

 

ผมไม่ใช่ผู้รู้หรอกครับแต่อยากจะตอบ

การกินเจนับว่าเป็นความคิดที่ดี ส่งผลต่อจิตใจที่ดีครับ

เรื่องคอลลาเจล เนี่ยอะไรผมก็ไม่รู้หรอกครับ และเรื่องการกินเจแบบของคนจีนหน่ะครับ

แต่ว่าอาหารที่จะกินถ้าได้มาจากสัตว์ อาหารนั้นจะต้องได้มาโดยไม่ก่อให้เกิดความเจ็บปวดทุกข์ทรมาน ไม่ว่าจะทางกายหรือใจของสัตว์ชนิดนั้น และจะต้องไม่ทำให้สัตว์ตัวนั้นเสียชีวิตด้วยครับ ถึงจะไม่ก่ออกุศลกรรมกับเราครับ

ที่คุณยังติดมันอยู่นี่เป็นเรื่องรสชาติหรือเปล่าครับ หรือสารอาหาร ถ้าเป็นเรื่องของสารอาหาร หาอย่างอื่นทดแทนไม่ได้หรือครับ

แต่ถ้าเป็นเรื่องรสชาติหล่ะก็ ผมมีวิธีจะแนะนำครับ ผมได้มาจากการปฎิบัติธรรมที่วัดป่าหน่ะครับ

เวลาจะเคี้ยวอาหาร ให้กำหนดดูทุกครั้งที่เคี้ยว กำหนดดูว่ารสชาติที่เราว่าอร่อยนั้นมันอยู่ตรงไหน รสเปรี้ยว รสเค็ม ฯลฯ อาหารคำนึงอย่างน้อยควรเคี้ยวให้ได้ซัก 50 ครั้ง เคี้ยวช้าๆ ดูไปเรื่อยๆ แต่ถ้าเป็นแบบไม่ต้องเคี้ยวก็ให้อมเอาไว้ ค่อยๆกลืนทีละนิด ระหว่างกลืนก็กำหนดดูรสชาติของอาหารนั้น

บอกตรงๆ พอผมกินแบบกำหนดเอาแบบนี้ อาหารของแม่ครัวที่ว่าอร่อยๆ แถมยังกินตอนหิวด้วย ผมยังหารสชาติที่อร่อยไม่เจอเลย ตอนนั้นผมยังสงสัยเลยว่า เอแม่ครัวเค้าทำไม่อร่อยหรือว่าเป็นเพราะกำหนดนะถึงไม่อร่อย

ที่เรากินว่าอร่อยๆ กันนั้น เป็นเพราะเรากิน แล้วจิตมันไปสัมผัสรสชาติอาหารแบบลวกๆ สัมผัสรสชาติแบบรวมๆกัน มันเลยกลมกล่อม กินแบบไม่มีสติ กินตามกิเลส รสชาติเลยอร่อย แต่ถ้าเรากินแบบแยกรสชาติและมีสติเนี่ย หาความอร่อยไม่เจอเลยจริงๆ

ก็ลองนำไปใช้กำหนดสติดูนะครับ

เจริญในธรรมครับ

 

ขอบคุณทุกคำแนะนำครับ ที่ผมเลิกไม่ได้ เพราะสารอาหารครับ ในอาหารต่างๆก้อมีครับ แต่น้อยมาก ถ้าเทียบกับ ผลิตภัณคอลลาเจน ถ้ามีอย่างอื่นที่ทดแทนคอลลาเจนอีได้ ก้อแนะนำด้วยครับ ผมจะเอาไปปรับปรุงในการทาน

 

ต้องถามว่าเอาบาปจริง หรือบาปตามนิกายมหายาน
ถ้าแบบมหายานก็ตามนั้น แต่ถ้าความจริงแล้วนั้นไม่บาป
อย่าว่าแต่สก๊อตคอลลาเจนเลย เนื้อสัตว์ธรรมดานี่ก็ไม่บาป
พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่ามีเนื้อที่ห้ามกินอยู่ ตรัสบอกพระนะ แต่คนธรรมดาก็งดก็ดี
เพราะปกติมันก็ไม่มีใครเ้ค้ากินกันอยู่แล้ว
ก็คือเนื้อมนุษย์ เนื้อช้าง เนื้อม้า เนื้อเสือ เนื้อสิงโต เนื้อสุนัข เนื้องู และเนื้อหมี รวมทั้งเลือดก็ห้ามกินด้วย
นอกจากนี้ถ้าไม่ใช่เนื้อต้องห้ามแล้วก็กินได้ แต่ต้องไม่เป็นเนื้อที่เราเห็นมันตอนกำลังโดนฆ่า ไม่ได้ยินเสียงตอนโดนฆ่า แล้วก็เนื้อนั้นเราไม่รังเกียจ
ไม่รังเกียจก็คือ เขาไม่ได้ฆ่ามาเฉพาะเพื่อเราเท่านั้น

 

กินแล้วเป็นยังไงอ่ะดูหนุ่มขึ้นเหมือนโฆษณามั้ย อยากรู้ๆ

 

ครับ ต้องดื่มทุกคืน ก่อนนอน วันละขวดครับ หน้าเด้งมากครับ

 

จะให้ดี อย่าไปทานเลยนะจ๊ะ ของอย่างอื่นมีมากมาย ที่มีประโยชน์ที่ไม่ได้มาจากการเบียดเบียนสัตว์ ..... (แม้เราจะไม่เห็นภาพโหดในการล่า แต่เราก็รู้อยู่แก่ใจว่า ในขวดนั้นคือชีวิตที่ถูกล่ามา และเขาคงทรมานตอนใกล้สิ้นลม ..ถ้าไม่มีคนกิน เขาคงไม่ล่า และไม่ฆ่ามาขาย แม้เราจะเป็นแค่ฝุ่นธุลีหนึ่ง ที่คิดไม่เหมือนคนพันๆล้านในโลกนี้ แต่เราก็ภูมิใจในความคิดที่ไม่ยอมเป็นส่วนร่วมในการฆ่าเขาไม่ว่าประการใด )

 

ก่อนอื่นต้องถามว่าคุณต้องการกินเจเพื่ออะไร ?
เพื่อลดการเบียดเบียนชีวิตผู้อื่น หรือเพื่ออะไรกันแน่ ?
มีเป้าหมายที่ชัดเจน แล้วเดินตามเป้าหมาย รับรองไม่ทุกข์ไม่หวั่นไหวค่ะ

 

อืม.......เห็นเหมือนเป็นเรื่องที่ง่ายๆ แต่ยากไม่ใช่น้อย ซับซ้อนจริงๆ

ตามหลักพระไตรปิฎกก็ถูก ที่คุณ vegetarian กล่าวก็ถูก

ถึงเราจะกินสัตว์ที่เราไม่เห็นว่าถูกฆ่า หรือไม่ได้ยินเสียงร้องของสัตว์นั้นได้ แต่ความจริงเค้าก็ถูกฆ่า ใครเป็นผู้ฆ่าเค้ากันแน่ ผู้กินหรือผู้ขาย และใครจะได้รับผลกรรมนี้บ้าง

น่าคิด น่าคิด

ซักวันผมต้องรู้คำตอบที่แท้จริงให้ได้

 

ถึงเราไม่กินเขาก็ถูกฆ่า ต่อให้คนทั้งโลกไม่กินเนื้อสัตว์เลย ด้วยวัฏจักร ก็ต้องถูกสัตว์อื่นฆ่าอยู่ดี แล้วหากสัตว์กินพืชมีมากเกินระบบวงจรนิเวศก็จะเสีย พืชผักทั้งหลายก็จะไม่เพียงพอ เป็นวัฏจักร การไม่กินเนื้อสัตว์เหมือนแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ต้นเหตุคือ การไม่ฆ่าต่างหากละ

การไม่กินเนื้อสัตว์สำหรับเราก็เหมือนการฝึกอบรมอุปนิสัยหรือฝึกอบรบจิตใจส่วนหนึ่ง และยังมีผลช่วยปรับสมดุลร่างการเป็นการล้างพิษ พูดง่ายๆก็เรื่องสุขภาพ

บางคนไม่กินเนื้อวัวเลย แต่นอกนั้นก็ไม่เว้นเนื้ออะไรเลยเหมือนกัน อุ้มตีนหมาอุ้มตีนหมีซัดเรียบไม่มีสงสาร จะสงวนไม่สงวงไม่สน ยิงนกตกปลาล่าสัตว์ มะลงแมลงก็กัดกินมันแบบเป็นๆ

บางคนกินเจตลอดชีวิต อันนี้ก็นับถือ อานิสงค์ที่ได้รับก็คือ สุขภาพดีนั้นแหละ ถึงชีวิตจะลำบากมากขึ้น คือต้องระวังโน้นระวังนี้ แต่ก็ดีที่ไม่ป่วยนี้แหละ แต่หากใครกินเจแล้วผลจะไปตรงข้ามก็ควรพิจารณาใหม่ กินเจผลคือ สุขภาพของกายและใจ หากการกินเจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพกายและหงุดหงิดใจละก็ มันก็ไม่จำเป็น

ใครจะกินเจก็ตอบคำถามตัวเองให้ได้ก็แล้วกัน อย่าลืมทางสายกลาง อนุโมทนาด้วยคะ

 

ที่แท้ก็ติดในกายสังขารนี่เองถึงต้องดื่มใช่มั้ย (deejai)

 

ลองกินน้ำมันรำข้าวที่สกัดเป็นเม็ดดูสิครับสารอาหารไม่แพ้สก๊อตแน่ แล้วอีกอย่างสกัดจากข้าวคนไทยฝีมือคนไทยด้วยตรับ

 

=จิ๊บจิ๊บ;3724734]ถึงเราไม่กินเขาก็ถูกฆ่า ต่อให้คนทั้งโลกไม่กินเนื้อสัตว์เลย ด้วยวัฏจักร ก็ต้องถูกสัตว์อื่นฆ่าอยู่ดี แล้วหากสัตว์กินพืชมีมากเกินระบบวงจรนิเวศก็จะเสีย พืชผักทั้งหลายก็จะไม่เพียงพอ เป็นวัฏจักร การไม่กินเนื้อสัตว์เหมือนแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ต้นเหตุคือ การไม่ฆ่าต่างหากละ

การไม่กินเนื้อสัตว์สำหรับเราก็เหมือนการฝึกอบรมอุปนิสัยหรือฝึกอบรบจิตใจส่วนหนึ่ง และยังมีผลช่วยปรับสมดุลร่างการเป็นการล้างพิษ พูดง่ายๆก็เรื่องสุขภาพ

บางคนไม่กินเนื้อวัวเลย แต่นอกนั้นก็ไม่เว้นเนื้ออะไรเลยเหมือนกัน อุ้มตีนหมาอุ้มตีนหมีซัดเรียบไม่มีสงสาร จะสงวนไม่สงวงไม่สน ยิงนกตกปลาล่าสัตว์ มะลงแมลงก็กัดกินมันแบบเป็นๆ

บางคนกินเจตลอดชีวิต อันนี้ก็นับถือ อานิสงค์ที่ได้รับก็คือ สุขภาพดีนั้นแหละ ถึงชีวิตจะลำบากมากขึ้น คือต้องระวังโน้นระวังนี้ แต่ก็ดีที่ไม่ป่วยนี้แหละ แต่หากใครกินเจแล้วผลจะไปตรงข้ามก็ควรพิจารณาใหม่ กินเจผลคือ สุขภาพของกายและใจ หากการกินเจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพกายและหงุดหงิดใจละก็ มันก็ไม่จำเป็น

ใครจะกินเจก็ตอบคำถามตัวเองให้ได้กัน อย่าลืมทางสายกลาง อนุโมทนาด้วยคะ[/QUOTE]

 

อย่าลืมว่าการกินเจไม่ได้บุญนะครับ แต่ถ้ากินเพื่อสุขภาพล่ะก็ไม่เป็นไร

 

<DIR>ฆ่าสัตว์ และกินสัตว์ อยู่ในขบวนการเดียวกัน คือเบียดเบียนสัตว์ เช่นเดียวกับ โจร และรับซื้อของโจร เป็นการสมรู้ร่วมคิด ถ้าอยากพิสูจน์ก็ลองไปให้เขาฆ่าแทนสัตว์ซิ มีใครกล้าใหม ของง่ายๆ ถ้าไม่มีใครกล้าพิสูจน์ก็แสดงว่า กลัวตาย.....จบ
</DIR>

 

อยู่ที่เจตนาการ งด ลด เว้น เช่น การที่เราจะกินปลาซัก1ตัว ถ้าเราหาปลาตามตลาดแต่เอาที่ตายแล้วนะ ผมว่าไม่บาปนะ แต่ถ้ายังเป็นอยู่ ตามที่ผมบอกคือต้อง งด ลด เว้น ประการแรกต้องเข้าใจว่าพวกแม่ค้าที่ขายปลาก็ตาม เขาไม่ได้เจาะจงว่าต้องขายให้เรา ใครก็ได้
กับอีกข้อคิดคือ ถ้าเราไปบ้านใครก็ตาม ถ้าเขาต้อง ฆ่า เป็ด ไก่ เพื่อทำเป็นอาหารให้เรากิน
อันนี้เราบาปแน่ เพราะเขาทำเฉพาะเจาะจงให้เรากิน ถ้าเราไม่มาบ้านเขา เขาก็ไม่ต้องฆ่า
ไม่มีเจตนาเป็นอย่างอื่น แค่เป็นแนวทางครับ

 

ไปซื้อวิตามินรวมมากินซะ เชื่อผม ราคาถูกกว่า a b c e เพราะสกัดมาจากพืช ถ้าอยากผึวดีก็กินมะเทศเยอะๆเพราะมีไลโคปีน ผึวจะแดงอมชมพู ส่วนแครอทมี เบต้าแคโรทีนทาน บ่อยๆผึวก็จะสวย หากรับประทานผักผลไม้เป็นประจำ อาหารเสริมแสนแพงเหล่านี้ก้ไม่จำเป็น

 

กำลืมเว้นช่องไฟ วิตามิน abce รวมราคาจะถูกนะครับ