ด่วนที่สุด ขอเชิญสมาชิกแสดงความคิดเห็นเพื่อ''ศาสนากับการปฏิรูปประเทศไทย''

ผมขอเสนอความเห็นด้วยครับ
ผมคิดว่าทุกศาสนาสอนให้ทุกคนเป็นคนดี ซึ่งหลักการที่น่าจะคล้ายคลึงกันก็คือ การให้ความรัก ความสงสาร และการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ซึ่งตรงกับหลักของพรหมวิหาร4 โดยผมคิดว่าหลักของพรหมวิหาร4 นี้ สามารถนำไปใช้ปฏิบัติได้กับทุกๆศาสนา ซึ่งจะทำให้สังคมมีแต่ความเยือกเย็นสงบสุข
"เด็กวันนี้คือผู้ใหญ่ในวันหน้า" แต่ว่าเด็กวันนี้ต้องมีครูที่ดีเป็นผู้สั่งสอนตักเตือน ซึ่งผมคิดว่าครูที่สำคัญก็คือ พ่อกับแม่ของเด็กนั่นแหละ หากวันนี้เด็กๆไม่มีครูที่ดีคอยสั่งสอนตักเตือนแล้วอนาคตของสังคมก็คงจะทำนายได้ไม่ยากเลย
ฉะนั้นต้องรีบเร่งสร้างครูที่ดีพร้อมกับสั่งสอนเยาวชนในวันนี้ให้เป็นครูที่ดีในวันหน้า
:d"คนเก่งและดีคุณสมบัติอย่างนี้ที่สังคมต้องการ":d

 

ก่อนอื่นต้องแก้ปัญหาบ้านเมืองก่อนครับ มีหลายอย่างต้องแก้ เช่น

1.ร่างหรือแก้ไขกฏหมายไทยก่อน เพราะคนเดี๋ยวนี้ไม่้เคารพกฏหมายเลย
ทำผิดก็รอลงอาญา รับสารภาพก็ลดโทษอีก แล้วประชาชนคนไหนจะ
กลัว กำหนดบทลงโทษให้เฉียบขาด
ใครฆ่าหรือทำร้ายสัตว์ยังไง ก็ต้องโดนแบบนั้น
ใครขโมยของต้องถูกเฆี่ยน
ใครบังคับข่มขื่นใจผู้อื่น ต้องโดนแบบนั้นด้วยและส่งไปใช้แรงงานอย่างหนัก
ใครโกงบ้านโกงเมืองต้องเอาไปแห่ประจานทั่วประเทศและริบทรัพย์ทั้งหมด
ถ้ากฏหมายเข้มแข็ง บ้านเมืองจะสงบสุขเอง

2.ด้านศาสนา
- กำหนดให้ทุกวันพระห้ามมีการจำหน่ายสุราและอบายมุข
- เจ้าอาวาสหรือผู้มีอำนาจจะต้องตรวจสอบดูแลผู้ที่อยู่ภายใต้การปกครองให้
ให้ในศีลธรรมอันดี เพื่อไม่ให้ศาสนาเสื่อมเสีย
- ผู้ที่ต้องการจะบวชจะต้องผ่านการตรวจสอบก่อน เช่น ไม่มีคดีติดตัว ไม่เป็น
ผู้เกียจคร้านทำมาหากินแอบมาบวชกินข้าวชาวบ้าน ไม่ผิดเพศหรือแอบแฝง
เพื่อป้องกันข่าวเสียๆ เช่น พระตุ๊ดเณรแต๋ว
- กำหนดให้ผู้นำศาสนา เช่น พระสงฆ์มีบทบาทในการพัฒนาชุมชนให้เป็นรูปธรรม

3.การบริหารประเทศ
- ยกเลิก อบจ. หรือ อบต. ให้เหลือแค่ ผู้ว่าฯ นายอำเภอ เพราะมีแล้วไม่เห็น
จะมีอะไรดี โกงกินกันไปทั่ว ถนนขุดแล้วขุดอีก ท่อระบายนํ้าวางแล้ววางอีก
กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน จะต้องมาจากการสอบแข่งขัน เพื่อหาคนที่มีความรู้ความสามารถ
มาทำงาน ไม่ต้องมีการเลือกตั้ง เพราะเลือกไปก็ซื้อเสียงอีกแล้วค่อยมาถอนทุน
เอากับงบประมาณ อีกอย่างมีการแจกไข้โป้งกันบ่อย

- รัฐมนตรีประจำกระทรวงต่างๆ ก็ต้องมาจากการสอบแข่งขัน และพิจารณาจากผล
งานที่มี ไม่ควรตั้งใครก็ได้มารับตำแหน่งแล้วโยกไปเปลี่ยนมา

- สร้างงานสร้างอาชีพให้กับประชาชน ทุกคนต้องมีงานทำ เน้นการเกษตรในชุมชน
หากต้องการพัฒนารายได้ให้แปรรูปผลผลิต แล้วผลักดันเป็นสินค้าส่งออกที่มีคุณภาพ
สร้างรายได้ต่อหัวให้เพิ่มมากขึ้น ห้ามมีขอทานทุกกรณี ทุกคนต้องมีงานทำตามความ
สามารถของตนเอง หากใครไม่มีงานทำให้มาติดต่อหน่วยงานของรัฐในชุมชน

- กำหนดการศึกษารูปแบบใหม่ วิชาหลักให้เพิ่มวิชาศาสนาและสังคมเข้าไปด้วย ทุกคน
ต้องมีผลงานในการนำศาสนามาประยุกต์ใช้กับตนเองและสังคม ถ้าไม่ผ่านก็เรียนใหม่

ตราบใดที่ประชาชนยังไม่มีคุณภาพ คนส่วนใหญ่ยังไม่รู้ผิดชอบชั่วดี
มีความเห็นแก่ตัวมากเกินไป ตราบนั้นยังไม่ควรมีการเลือกตั้ง เพราะ
คนมีเงินมีอำนาจก็ยังคงเป็นใหญ่เหมือนเดิม พวกเราตายไปหลาย
รอบแล้วก็คงไม่มีอะไรดีขึ้น คนดีมีศีลธรรมได้แต่ถอนหายใจนั่งดู
ชะตากรรมบ้านเมือง จะทำอะไรก็ไม่ได้ สังคมตอนนี้ คือ คนชั่ว
คอยกีดกันคนดีไม่ให้มีอำนาจ ใครพวกมาก เงินถึง ก็ได้เปรียบ ถึง
แม้ว่าแนวคิดของผมจะดูเหมือนเผด็จการไปสักหน่อย แต่ก็ยังเชื่อ
มั่นว่า นี่แหละ คือสิ่งที่ดีสำหรับพวกเรา เพราะเราไม่สามารถทำให้
คนทุกคนเป็นคนดีได้

 

ขอแสดงความเห็นเรื่อง ศาสนากับการปฏิรูปประเทศไทย

การปฏิรูปคือกระบวนการนำไปสู่สิ่งที่ดีขึ้นหรือ
การปกครอง...ประชาธิปไตย..ใครคิด..ผมคิดว่าระบอบกษัติรย์ดีที่สุด...มีมานานมาก...เราคิดตามฝรั่งไปเองว่าดี.....ใครไคร่ค้าม้าค้าผมว่านี่ล่ะคือ..ประชาธิปไตยที่กษัติรย์ให้เรามานานแล้ว....เลือกตั้งหรือ...จัดไปผู้ใหญ่บ้าน...กำนัน..อบต...สหก....สส(ไม่ควรมีเรื่องมากอ่ะ)ยกเลิกไปเลย...แต่งตั้งมาเลยโดยกษัติรย์ให้มาบริหารประเทศ...ตุลาการก็แต่งตั้ง...รัฐธรรมนูญร่างโดยกษัติรย์...อำนาจทั้งสามอย่างอยู่ภายใต้กษัติรย์...ประชาชนอยู่กันไปให้สบายจะบวชจะเรียนจะทำธุรกิจทำกันไปให้สบาย.....กษัติรย์ดูแลให้...ประชาชนอย่ามาเรียกร้องที่จะปกครองแทนกษัติรย์.....นายกฯ...ฯลฯ....แต่งตั้ง...จัดชุดไปบริหารประเทศ...เลือกตั้งในส่วนต้นๆ....ปรองดองแน่นอนประเทศไทย....ไม่มีใครออกมาแสดง..ความคิดอะไรกันอีก...จะต้องไม่มีความไม่เคารพกษัติรย์....ทุกอย่างจะดำเนินอย่างเข้ารูปรอย...ไม่มีการทะเลาะกันอีกแล้ว ประชาชนทุกคนทำหน้าที่กันไปห้ามทะเลาะกันโดยเด็ดขาด......พระองค์ทรงปกครองแผ่นดินโดยธรรมอยู่แล้ว.....ศาสนาทุกศาสนาอิสระ...อบอุ่น...สงบ...ร่มเย็น...สบาย....นืพพานัง ปรมัง สุขขัง

 

อยากให้การจัดปฏิูรูปมหาเถรสมาคม

โดยให้มีสถาบันทางพุธศาสนาเพิ่มใหม่ดังนี้

มหาเถรสภาโดยมาจากการเลือกตั้งของพระสงฆ์ทั่วประเทศ

มหาเถรมนตรีทำหน้าที่ปกครองพระสงฆ์ทั่วประเทศโดยมาจากการลงคะแนนของสมาชิกในมหาเถรสภา

นายกมหาเถรมนตรีทำหน้าที่เป็นหัวหน้าในมหาเถรมนตรีโดยมาจากการลงคะแนน

ของสมาชิกในมหาเถรมนตรี

จัดตั้งสังฆตุลาการทำหน้าที่ดูแลพระที่ทำผิดพระธรรมวินัย

สถาบันทั้งหมดให้คัดเลือกพระที่เหมาะสม

และมีวาระ 10 ปี

ยกเว้น ต้องอธิกรณ์ ฯลฯ

มหาเถรสมาคมทำหน้าที่เปนที่ปรีกษา

 

ความคิดเห็นของผม เอาเป็นข้อๆนะครับ

1. ปลูกจิตสำนึกของคนในครอบครัว ถ้าพ่อแม่เป็นแบบอย่างไม่ดีให้ลูก ทำให้ลูกเห็นในสิ่งที่ไม่ดีเช่น แทงหวย แล้วเอาเงินไปผ่อนค่าเล่นแชร์ เป็นต้น หรือบอกลูกว่ากินเหล้าไม่ดี แต่ตัวเองกลับดื่มเหล้าสังสรรค์เฮฮาให้ลูกเห็น แล้วลูกจะนับถือได้อย่างไร โตมาเด็กก็เห็นว่าเป็นเรื่องธรรมดา อย่างเช่นนักเรียนตีกัน แล้วคิดว่าตอนรุ่นพ่อ ไม่ทำหรือ เรื่องนี้จะสื่อถึงจิตสำนึกของ ครอบครัว ที่จะเป็นแบบอย่างให้เยาวชน ถ้าสังคมเล็กๆไม่สร้างปัญหา สังคมใหญ่ก็ไม่เกิดปัญหา

2. ศีล 5 ในครอบครัวให้ครบ ต้องถามว่าในเมื่อบอกว่าครอบครัวพ่อแม่ต้องเป็นแบบอย่างที่ดี แล้วพ่อแม่ มีศีล 5 ครอบไหม และรัฐบาลจะมีนโยบายอย่างไรที่จะสนับสนุนให้คนรักษาศีล 5 เรื่องนักเรียนตีกันฆ่ากัน,ขโมยปล้นธนาคารร้านทอง,ข้าราชการข่มขืนลูกน้อง,การใส่ความกัน,และการค้าสิ่งเสพติด เรื่องพวกนี้เห็นในข่าวเป็นประจำ ถ้าทุกครอบครัวมีศีล 5 อยู่ในใจแล้วมันจะเกิดขึ้นไหม ทางแก้ไขคือต้องปลูกจิตสำนึกตั้งแต่เด็ก ไม่ใช่ให้เด็กดูละครน้ำเน่าตามพ่อแม่อยู่ทุกคืน แต่ต้องมีรายการที่พ่อแม่จะชวนลูกดูได้ ผมชอบรายการ กรรมลิขิต ละครชีวิตจริง84000 อาจจะมีรายการพิเศษ ที่สามารถบรรจุในหลักสูตรการเรียนการสอนให้นักเรียนเชื่อเรื่อง บาปกรรม ว่าทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เพราะถ้าไม่เชื่อแล้ว ก็สามารถทำความชั่วได้อยู่ดี แล้วรายการเหล่านี้ก็ไม่ต้องมาขึ้นว่า โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม เพราะคนที่ไม่เชื่อก็จะบอกว่างมงาย

3. ระบบเส้นสาย อย่าให้มี เพราะเป็นระบบที่ทำให้ความเจริญลดลง มีแต่ผลประโยชน์ของพวกพ้องที่รู้จักกัน เป็นเครือญาติกัน ผลงานก็ตามมีตามเกิด แต่ผลงานจริงๆมีไหมทุกวันนี้ยอมรับหรือไม่ว่า ไม่มีระบบเส้นสาย ไม่ว่าจะข้าราชการตำรวจ ,การกีฬา, หรือระบบองค์การต่างๆ ถ้ามีผู้ใหญ่ที่มีอำนาจก็สามารถผลักดันได้หมด แล้วถ้าจะกลั่นแกล้งใครก็ทำได้ แบบนี้ ประเทศจะเจริญได้อย่างไร เมื่อกังวลแต่การแย่งอำนาจ ผลประโยชน์กลุ่มตัวเอง
- วิธีการแก้ไขก็คือ ต้องมีการลงคะแนนเลือกทุกครั้ง ไม่ว่าจะตำแหน่งไหน ถ้าไม่ลงคะแนนก็ต้องสอบแข่งขัน เพื่อเอาคนมีความสามารถจริงๆ ไม่ใช้วิธีการแต่งตั้งตามความเห็นของตนเอง เช่นจะแต่งตั้งรัฐมนตรี ก็ให้คนที่อยากเป็นมาสมัคร แล้วสอบแข่งกันหรือให้โหวตเลือกโดยประชาชน ให้มีความโปร่งใสที่สุด ถ้าเลือกตั้งแล้วทุจริตต้องโทษให้หนักเพราะคนทุจริตไม่สมควรทำงานเพื่อประชาชน

4. กฏหมายต้องเด็ดขาด ศักดิ์สิทธิ์ ถ้าผิดก็ต้องลงโทษ แต่ถ้าผิดแล้วลอยนวลมันก็ได้ใจคิดว่าทำอะไรก็ได้ พอลงโทษแล้วก็ต้องประจาร ทำไมต้องประจาร ประจารในที่นี้ หมายถึงให้คนทั่วไปได้รู้ถึงโทษที่ถ้าทำผิดแล้วจะโดนอย่างนี้ แล้วจะได้ไม่ทำ เพราะถ้าทำนั่นหมายถึงเสี่ยงต่อโทษที่หนัก นึกถึงสมัยก่อนถ้าคนทำผิดเขาจะตัดหัวเสียบประจาร แต่สมัยนี้ไม่ขนาดนั้น เราก็ออกข่าวให้เห็นเช่นปล้นร้านทองฆ่าคนตาย ตัดสินจำคุกตลอดชีวิต ก็ออกข่าวให้หนัก เป็นต้น
- วิธีแก้ไข สื่อมวลชนต้องมีบทบาทมากขึ้น อย่ามัวแต่ทำข่าวดารา นักแสดง ซึ่งไม่มีประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาเลย

5. จัดทำโครงการดีๆให้มาก เช่น โครงการนิมนต์พระสอนนักเรียน อาจจะนิมนต์พระใกล้บ้าน มาสอนเด็กทุกๆวันพระหรือวันศุกร์ บรรยายสักสามชั่วโมงตอนเช้า เป็นต้น หรือโครงการ ปฏิบัติธรรมทุกวันพระ ให้รัฐบาลสนับสนุนให้ทุกครอบครัว รักศีลรักธรรม เมื่อครอบครัวหลายๆครอบครัวรักษาศีลธรรม ประเทศชาติก็จะไม่เดือดร้อน โครงการหนังสือธรรมเคลื่อนที่ รวบรวมบริจาคหนังสือธรรมมะทั่วประเทศ แล้วแจกจ่ายแก่โรงเรียนที่ยากไร้ บรรจุรายการที่สอนเรื่องกฏแห่งกรรมไว้ในการเรียนการสอน เปลี่ยนค่านิยมให้ผู้จัดทำละครเปลี่ยนจากละครตบตีแย่งชิงอำนาจ เป็นละครที่แฝงไปด้วยคติข้อคิดเตือนใจ คล้ายๆกับละครชีวิตจริงชุด84000 ทางช่อง5 หรือทำละครที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ชาติไทยให้มากขึ้น เพื่อปลูกจิตสำนึกรักบ้านเกิด จะได้ไม่ต้องรับวัฒนธรรมต่างชาติจนหลงลืมความเป็นไทย

 

'' ศาสนากับการปฏิรูปประเทศไทย ''

การปฏิรูปประเทศไทย คือการทำให้ประเทศของเราเจริญรุ่งเรืองขึ้น เจริญที่ว่านี้ ไม่ใช่เจริญทางวัตถุสิ่งของ แต่เป็นการเจริญทางสติปัญญา เจริญทางจิตใจ
โดยมีศาสนาเป็นแกนหลักในการขับเคลื่อนความเจริญในประเทศของเรา
ประชาชนในประเทศไทยนั้น ส่วนใหญ่เป็นเกษตรกร เป็นชาวนายากจน การพัฒนาประเทศ จึงต้องพัฒนาเกษตรกรเป็นหลัก พัฒนาให้เขาอยู่ได้ด้วยตนเอง
ไม่ต้องเดือดร้อนขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลหรือหน่วยงานต่างๆ โดยการใช้ศาสนาเข้ามาพัฒนาจิตใจให้เกิดสติและปัญญาในการดำเนินชีวิต
หากมองย้อนกลับไปในอดีต ประเทศของเรายังไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายเท่าปัจจุบัน แต่ประชาชนก็อยู่เย็นเป็นสุข เพราะประชาชนสมัยนั้นพึ่งพาตนเอง ไม่ได้พึ่งพาวัตถุสิ่งของเหมือนในปัจจุบันนี้
การพัฒนาบุคคลจึงไม่ใช่การให้ความรู้แต่ในการประกอบอาชีพเท่านั้น แต่ต้องให้ความรู้ในการดำเนินชีวิตควบคู่ไปด้วย โดยการดำเนินชีวิตตามหลักพุทธศาสนา ดำเนินชีวิตแบบมีเหตุมีผล ดังเช่น หากเราใช้จ่ายมากกว่ารายรับที่เราได้อยู่ เราก็จะอยู่อย่างไม่พอใช้ หากเราใช้จ่ายน้อยกว่ารายรับที่เราได้อยู่ เราก็จะอยู่อย่างสบาย ไม่ลำบาก พออยู่พอกิน เช่นเดียวกับพุทธศาสนาที่สอนให้เราเชื่อมั่นในเหตุและผล รู้จักพึ่งพาตนเอง ฝึกฝนและพัฒนาพฤติกรรม(ศีล) พัฒนาจิตใจ(สมาธิ) พัฒนาความคิดให้รู้จักคิดโดยมีสติมีเหตุมีผล(ปัญญา) "หากทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศ ดำรงชีวิตตามหลักพุทธศาสนาได้ ก็จะนำพาไปสู่การพัฒนาประเทศไทยอย่างแท้จริงครับ"

นี่คือความคิดเห็นส่วนตัวของผม ไม่ได้อ้างอิงจากที่ไหน
ลองอ่านดูแล้วไม่น่าจะเกิน3นาทีนะครับ : )

ส่วนความเห็นของผมอีกมุมหนึ่งขอแยกกับความเห็นข้างบนเพราะอาจมีมุมมองในแง่ลบ พูดกันแบบชาวบ้านๆ

ผมมองว่า การปฏิรูปประเทศไทยให้ประชาชนกินดีอยู่ดีนั้น ไม่ใช่การแก้ที่ศาสนาหรือรัฐบาลให้ดีขึ้น
เพราะศาสนาพุทธของเรานั้นดีอยู่แล้ว แต่จะทำอย่างไรให้ประชาชนส่วนใหญ่เข้าถึงศาสนาได้ ตรงนี้สำคัญกว่า
ผมมองว่าปัจจุบันนี้คนเราถือศีลกันน้อยมาก ศีล5นี่แหละ ไม่น่าจะถึง50%ของประเทศซะด้วยซ้ำ
จึงทำให้ไม่เชื่อผลของการกระทำ ผลของกรรมบาปบุญคุณโทษเชื่อว่าไม่มีจริง ศีล5จะรู้กันถูกหรือป่าวก็ยังไม่รู้
อย่างศีลข้อ3 ก็คิดแค่ว่าไม่ไปมีเพศสัมพันธ์กับสามีภรรยาผู้อื่นเท่านั้น แต่โดยแท้จริงแล้ว รวมบุตรและธิดาของผู้อื่นด้วย
อย่างวัยรุ่นสมัยนี้มีเพศสัมพันธ์กันทั้งที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ก็ถือว่าผิดศีลข้อ3 คือการไปมีเพศสัมพันธ์กับบุตรธิดาผู้อื่น
แต่คนสมัยนี้เหมาเอาว่าแค่สามีภรรยาผู้อื่นเท่านั้นถึงจะผิด เห็นได้ว่าเป็นเพราะความไม่รู้ หรือรู้แล้วไม่ปฏิบัติตาม
รู้แค่ว่าเป็นคนไทย สัญชาติไทย นับถือศาสนาพุทธแค่ในบัตรประชาชนเท่านั้น แต่ชีวิตจริงกลับลืมไปหมด ลืมว่าตัวเราเองนับถือศาสนาพุทธอยู่
การแก้ปัญหาจึงทำอย่างไรให้คนนับถือศาสนากันอย่างแท้จริง นับถือแล้วนำไปปฏิบัติตาม ไม่ใช่การแก้ที่ศาสนา
ไม่ใช่วัดต้องออกมาเชิญชาวบ้านถึงประตูบ้านให้ไปทำบุญไปฟังธรรม แต่ตัวเราเองต้องพาตัวเองเข้าวัดไปฟังธรรมถึงจะถูก
หรือบางท่านก็ไปโทษรัฐบาลว่าไม่ดีอย่างนั้นไม่ดีอย่างนี้ ก็ประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศมีแต่คนไม่ดี จึงได้แต่คนไม่ดีมาบริหารประเทศ หากประเทศเรามีคนดีเป็นส่วนมาก ก็มีโอกาสมากที่คนดีจะเข้าไปบริหารประเทศ แต่นี่ประเทศเรามีคนดีเป็นส่วนน้อย ถือศีลกันน้อย อันนี้ต้องยอมรับความจริง ก็แก้ไขตามความเป็นจริง ทำอย่างไรให้ประเทศเรามีคนดีเยอะขึ้น ถือศีลมากขึ้น เชื่อในการกระทำ เชื่อในผลของกรรม "หากเราทุกคนนำพาศาสนาเข้าถึงประชาชนส่วนใหญ่แล้ว การปฏิรูปประเทศไทยก็จะเป็นผลสำเร็จครับ"

 

จัดตั้ง

ศาลอาญาแผนกผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง

ออกเปน 3 ศาล

ต้น กลาง สูง

จัดให้มีรัฐพิธีถือน้ำสาบานสำหรับผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง+ข้าราชการระดับสูง

ที่เข้ารับตำแหน่งว่าจะซื่อสัตย์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ฯลฯ

โดยมีการถ่ายทอดสด

ส่วนข้าราชการระดับรองๆลงมานั้น

เนื่องจากมีจำนวนมากจึงทำให้ไม่สามารถถ่ายทอดสดได้

ต่อไปนี้การเซ็นอนุมัติในเรื่องใดๆก็ดีของข้าราชการระดับสูง

ห้ามมีลายเซ็นเดียวเด็ดขาด

เพราะจะได้ป้องกันการใช้อำนาจในทางที่ผิด

นำหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้กับนักการเมืองและข้าราชการทุกคน

 

โครงการสร้างวัดในโรงเรียน

ยกเว้น รร ในศาสนาอื่น

 

จัดให้มีที่ทำการสมณฑูตประจำประเทศต่างๆทีเปนอาคารถาวร

 

ศาสนาเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย

ประเทศไทยเราอยู่ได้ก็ด้วยองค์รวม คือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

ชาติ จะตั้งมั่นอยู่ได้ ก็ด้วยการปกครองระบอบประชาธิปไตย ใต้ร่มพระโพธิสมภาร ขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ศาสนา ทุกศาสนา สอนให้คนทำความดี ละเว้นความชั่ว แต่จะต่างกันก็ตรงแนวทางปฏิบัติ

ศาสนา จะเป็นแนวทางให้ประเทศไทย พัฒนา มีความมั่นคง และก้าวหน้าไปในทุก ๆด้านในทางที่ดีได้ก็ด้วย ทุกศาสนาต้องจับมือร่วมกันเพื่อประเทศชาติ โดยทุกศาสนาต้องมีกิจกรรมทำร่วมกัน ในแนวทางของรัฐบาลที่จะเป็นผู้วางให้ เพื่อสร้างคุณธรรม จริยธรรมก่อให้เกิด ความรัก และสามัคคี

ความรักและสามัคคี ของคนในชาติ จะทำให้ประเทศชาติรุ่งเรืองได้

 

อันนี้ำสำคัญมาก

้้ต้องบังคับให้มีการนั่งวิปัสนาในโรงเรียนทั่วประเทศในทุกๆวันเสาร์

 

เผชิญยุคมัคสัญญี

เอาประเด็นความทุกข์ของทุกคนเป็นตัวตั้ง

ขั้นพื้นฐาน
คนในยุคนี้จะเผชิญความทุกข์เพิ่มมากขึ้นตลอดเวลา ทั้งทุกข์ทางกายและใจ และคนส่วนใหญ่จะมีข้ออ้างเรื่องไม่มีเวลาปฏิบัติธรรม จึงต้องมีวิธีการง่ายๆให้คนทุกวัยเข้าถึงธรรมโดยไม่รู้ตัว ช่วยปลดทุกข์ให้แก่กายใจได้ก่อน และมีผลพัฒนาจิตใจไปด้วยโดยอัตโนมัติ เป็นการปฏิบัติขั้นพื้นฐานในระดับโลกียะ แต่ผู้ปฏิบัติจะเห็นผลชัดเจนคือแก้ทุกข์ได้เด็ดขาด อย่างถาวรรวดเร็ว.....ขั้นนี้จะเป็นกุศโลบายการยึดหัวหาด ทำนองเดียวกับพ่อค้าขายขนม มีตัวอย่างขนมให้คนผ่านไปมาที่กำลังหิวได้ทดลองชิมฟรีก่อน

ส่วนขั้นโลกุตระ ก็จะมีส่วนน้อยที่ต้องการต่อยอดจากขั้นพื้นฐาน

ทั้งสองส่วนที่กล่าวมา ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ใดๆ ใช้วิธีการหายใจในทฤษฎีโพเพทัสของหมอแกน ช่วยให้ทุกข์ทางกายหายขาดได้ และพลิกฟื้นภาวะพื้นฐานทางจิตใจพร้อมไปด้วย ใช้ได้ทั้ง 2 ขั้นตอน ส่วนรายละเอียดกรุณาศึกษาจาก Morgan Gaiyasit

เมื่อจิตใจของคนได้สัมผัสรสพระธรรมหรือความสงบมีสมาธิแล้ว ค่อยให้ศึกษาภาคปริยัติเพิ่มเติม เอาจิตใจไว้ให้ได้ก่อน ค่อยเข้าหลักสูตร ศีล สมาธิ ปัญญา ภายหลัง
ถ้าจะให้เด็กหรือผู้ใหญ่ก็ตามเรียนรู้ในตำราก่อน ก็จะเน้นหนักแต่ท่องจำ ได้ประโยชน์น้อย ต้องเข้าโจมตีที่จิตใจ ที่กำลังมีทุกข์กันเลย ถ้าผู้ลองปฏิบัติตระหนักผลดีก็ง่ายขึ้นแล้วที่จะให้เป็นคนดีต่อไป มิฉะนั้นไม่ทันกับสิ่งแวดล้อมปัจจุบัน มีเครื่องล่อใจมากเอาคนไปกินหมด

สมดุล

 

ก่อนอื่นต้องขอเริ่มต้นที่สำนักงานก่อนเลยค่ะ เพราะการจะปฏิรูปประเทศเป็นเรื่องใหญ่แต่แค่จะทำหนังสือมาก็ต้องลงว่า ด่วนที่สุด แล้ว อันที่จริงควรจะให้เวลามากกว่านี้เพื่อให้ได้รับความคิดเห็นที่หลากหลาย ไม่สุกเอาเผากิน ( อันนี้ไม่ได้เพ่งโทษคนอื่นนะคะ แต่ขออนุญาต ติเพื่อก่อ ) และขอเสนอความเห็นดังนี้
1. ให้มีหลักสูตร วิชาศีลธรรม และ จริยธรรม ทุกชั้นปี เนื้อหาตามวัยของเด็กเพื่อให้เกิดการซืมซับและต่อเนื่อง
2. กำหนดเวลาให้นักการเมือง ข้าราชการ ตลอดจนกรรมาธิการทั้งหลายให้ไปปฎิบัติธรรมตามแนวทางของแต่ละศาสนาในถิ่นทุรกันดารทุกปี เพื่อให้เข้าถึงแก่นของศาสนา ก่อนที่จะมาเป็นผู้นำของประชาชนจึงควรศึกษาให้ลึกซึ้งมากกว่า
3. หาทางให้ครอบครัวชวนกันไปทำบุญ เช่น นำอาหารไปเลี้ยงเพลที่วัด เหมือนยุคก่อน เป็นการเสริมสร้างให้ชุมชนรู้จักกันมากขึ้น และเด็กๆจะรับรู้เรื่องการทำบุญ ใกล้ชิดกับพระและเรื่องศีลธรรมตั้งแต่เล็กเป็นภูมิคุ้มกันที่ดีอย่างหนึ่ง
4. สืบเนื่องมาจากข้อ 3 กรมศาสนาต้องเข้าไปดูแล ตรวจสอบ จัดการ วัด พระ และเณร อย่างเข้มแข็ง ไม่ให้วัดเป็นที่ส่องสุมของมิฉาชีพ ประชาชนจะได้มีความสุขและสบายใจที่จะพาครอบครัวไปวัด ไม่ใช่ไปเจอเรื่องไม่ดีแล้วเลิก
5. จัดอบรมสัมมนาให้แก่พระ นักบวช อย่างสมำเสมอ เพื่อให้มีความเข้าใจเป็นไปในแนวทางเดียวกัน หากุศโลบายและพัฒนาแนวทางในการเชิญชวนประชาชนให้เข้าวัดร่วมกันอย่างยั่งยืนและต่อเนื่อง (ไม่ใช่ทำแบบสร้างกระแสไม่นานแล้วเลิก)

 

''ศาสนากับการปฏิรูปประเทศไทย'' ​

ศาสนาได้อยู่คู่ประเทศไทยมาช้านาน...ศาสนาได้สอนและได้ให้บทเรียนที่สำคัญมากมายตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ศาสนาเป็นสิ่งเดียวที่ผูกจิตและยึดเหนื่ยวของปวงชมชาวไทยที่นับถือศาสนาดังจะเห็นได้จาก การร่วมตัวร่วมใจเพื่อจะทำสิ่งใดแล้ว เรามักจะเข้าร่วมโดยจิตใจที่บริสุทธิ์โดยมีศาสนาหรือคำสอน ที่ใช้เป็นแนวทางในการกระทำนั้น ครั้นเราทำโดยไร้เหตุ ไร้ผล ขาด ศาสนานำทางแล้ว มักจะเกิดโศกนาฎกรรม และเหตุการณ์ต่างๆในอดีตที่ผ่านมา ซึ่งนำมาเป็นบทเรียนยกตัวอย่างเช่น นายยกประเทศหนึ่งๆสั่งประหารประชาชน เพียงเพราะความโมโห รำคาญด้วยเหตุผลประกาศหนึ่งนั้น จะเห็นได้ว่านายกคนนั้นไม่ได้นำหลักคำสอนเรื่องการปล่อยวาง และให้อภัยซึ่งกันและกันมาใช้ จึงเกิดผลให้มีความสูญเสียโดยใช่เหตุ และทำให้เสีย กำลัง ความรู้ ปัญญา ในการพัฒนาประเทศชาติบ้านเมือง จากตัวอย่างนี้หากเรานำศาสนาเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาปัญญา และจิตใจในการบริหารบ้านเมืองนั้นสิ่งเหล่านี้ก็จะไม่ก่อให้เกิดความสูญเสีย
ซึ่งคำสอนที่สามรถนำมาใช้ได้โดยเพิ่ม เข้าไปในหลักการของแต่ละคน ได้ดังนี้
การเสียสละ
การให้
การรู้อภัย
การมีสติ
หากนักบริหารประเทศชาติบ้านเมืองนำสิ่งเหล่านี้ และยึดถือคู่กายตลอดก็สามารถนำพาชาติบ้านเมืองพ้นวิกฎต หรือ บริหารประเทศได้อย่างเที่ยงธรรมและร่มเย็นเป็นสุข สือต่อไป​

 

ผมขอแนะนำให้รัฐบาลจัดให้มีการเรียนอบรมธรรมะในโรงเรียนอย่างเข้มข้น
ให้แต่ละโรงเรียนตั้งชมรมการนั่งสมาธิอย่างเอาจริงเอาจังครับ

 

เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งครับ

ขออนุญาติสั้นๆแม้จะเป็นไปไม่ได้ครับ

0 เน้นธรรมะให้เข้าสู่การศึกษา เพื่ออนาคต (สำหรับปัจจุบันไม่ขอคาดหวังครับ)
1 เริ่มต้นจากการอบรมครูให้อยู่ในศีลในธรรม
2 พระเข้าสู่โรงเรียน สมัยก่อนเรียนในวัดคนเจริญ สมัยนี้ลืมไปต้องรื้อกลับมาครับ
3 มีการฝีกสมาธิในโรงเรียน เริ่มตั้งแต่ ประถม มัธยม และ ปริญญาตรี

ผมคิดว่า
ขอเพียงศีล 5 ให้กับรัฐมนตรีและ
ขอพรหมวิหาร 4 ให้กับ รัฐมนตรีน่าจะเพียงพอแล้วครับผม


โปรดพิจราณาด้วยครับ
ขอบคุณครับ

 

ปลูกฝังค่านิยมที่ดีให้เด็กปฏิบัติได้จริง เช่น ความพอเพียง ผู้ใหญ่มีหน้าที่ทำตัวให้เป็นแบบอย่าง สนับสนุน ควบคุม และจัดการปัจจัยต่างๆ ให้เอื้ออำนวยต่อการปลูกฝังค่านิยมทีดี

 

มันจะยากอะไรเล่า สุกรๆ (ขอโม้หน่อย)

เราต้องตีโจทย์ให้แตก โจทย์ก็คือ 3 นาที 8 บรรทัด ขืนไปร่ายยาว ก็ตีโจทย์ไม่แตก จริงมั้ย ?

เอาแบบแนวคำขวัญซิ เชื่อผมเต๊อะ

ขอเสนอ

รู้รักสามัคคี
ใฝ่ดีมีคุณธรรม
สัมมาทิฐิ
สติและวิจารณญาณ


อ่านแล้ว พอตีโจทย์แตกมั้ย คริคริ !

 

ให้ศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ

 

ยินดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของกระทู้นี้ค่ะ

ก่อนอื่นต้องขอบคุณเว็ปพลังจิต ที่ให้แต่สิ่งดีๆมีประโยชน์ และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกันทำให้เกิดแรงบันดาลใจในการปฎิบัติธรรม สำหรับเรื่องศาสนาและการปฎิรูปนั้นดิฉันเห็นว่า..ดิฉันขอบคุณตัวเองที่โชคดีเกิดในประเทศไทย โดยมีพระพุทธศาสนาเป็นหลักยึดเหนี่ยวที่สำคัญทางจิตใจ และดิฉันพยายามตอบแทนคุณพระรัตนตรัย โดยการเผยแพร่ เท่าที่ความสามารถมี ต่อสู้อย่างโดดเดี่ยวและภาษายังไม่สามารถสื่อสารให้เข้าใจลึกซึ้งได้ ในโอกาสต่อไป ดิฉันมองหาแนวร่วมช่วยเผยแพร่พุทธศาสนาร่วมกันต่อไป สำหรับการปฎิรูปในประเทศไทย ดิฉันอยากเสนอแนะให้มีการ นำระดับหัวหน้าผู้บริหารหน่วยงานทุกหน่วยงานเข้าอบรมปฎิบัติธรรม อยากให้กระจายไปสู่ทั่วทุกภูมิภาค ไม่ว่าจะเป็นคณะหมอพยาบาล ตำรวจ ทหาร หรือแม้แต่เรือนจำทั่วประเทศไทย ขอฝากความคิดจากเสี้ยวหนึ่ง เพื่อต้องการเห็นสังคมไทยเปลี่ยนแปลงแนวความคิดและพัฒนาสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้นกว่าเดิม ขอบคุณค่ะ