ขอเชิญท่านที่มีความจงรักภักดีและเทิดทูนในสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย จงรักภักดี, 28 เมษายน 2009.

  1. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    ขอเชิญผู้ใจบุญทุกท่าน ร่วมบริจาคหนังสือธรรม หนังสือนวโกวาท หนังสือนักธรรมชั้นตรี
    โท เอก และหนังสือธรรมะอื่น รวมทั้งอุปกรณ์ การเรียน แก่ผู้ต้องขังในเรือนจำกลางระยอง
    ชมรมพุทธรรมแดน 5 ที่กำลังศึกษานักธรรมชั้นตรี โท เอก ปีละประมาณ 200 คน
    เพื่อให้ผู้ต้องขังได้น้อมนำธรรมะมาขัดเกลาจิตใจ และสามารถออกไปใช้ชีวิตใหม่ในสังคมได้โดยมีธรรมะเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ

    ผู้สนใจสามารถส่งหนังสือไปบริจาคได้ที่
    ชมรมพระพุทธธรรม แดน 5
    เรือนจำกลางระยอง
    111 หมู่ 9
    ตำบลหนองละลอก
    อำเภอบ้านค่าย
    จังหวัดระยอง
    21120
    <!-- google_ad_section_end -->__________________
    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->dangcarry & cartoon<!-- google_ad_section_end -->


    http://palungjit.org/threads/เชิญบริจาคหนังสือธรรมะให้เรือนจำกลางระยอง.250918/
     
  2. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,920
    ค่าพลัง:
    +6,434
    PLAN DE LA VILLE DE SIAM

    [​IMG]


    อ้างถึงข้อมูลที่ว่า "ชักน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาผ่านเข้ามาตามคลองในไก่ไปออกแม่น้ำป่าสัก"

    ทางสายธาตุสังเกตเห็นคลองอยู่เส้นหนึ่งแนวของสายน้ำจากทิศใต้ไปทางทิศเหนือ เส้นที่สองจากขวามือนะคะ เพราะเส้นแรกไปสิ้นสุดที่พระราชวังจันทรเกษมไม่จบกับแม่น้ำป่าสัก คิดว่าเป็นเช่นนี้นะคะ เส้นที่สองจะเป็นว่าแนวสายน้ำวิ่งเข้าทางทิศใต้ของเกาะเมืองสู่ทิศเหนือ แล้ววนไปทางซ้ายอ้อมเกาะทางด้านตะวันตก กลับมาจบกับทางเข้าคลองอีกครั้ง​

    ซึ่งเส้นที่สองจากขวามือ หรือจากฝั่งตะวันออกของเกาะเมือง อาจจะใช่คลองนายก่ายก็ได้ค่ะ ว่าไหมคะ ใครไม่เห็นด้วย เรามาถลกประเด็นกัน มิใช่ๆต้องถกประเด็นต่างหาก ยิงมุกฝืดๆหนึ่งมุกด้วยการพูดเองแย้งเองเพราะยังไม่มีคนทักท้วงค่ะ ^_^​
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 สิงหาคม 2010
  3. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,920
    ค่าพลัง:
    +6,434
    แผนที่ในจดหมายเหตุ ลา ลูแบร์

    [​IMG]

    F : The Street of y' Bazars

    ตรงกับถนน SS ในแผนที่ของ Bellin : Rue du Barcalon

    ในหนังสือจิ้มก้องและการค้า เขาแปล Barcalon เป็นเจ้าพระยาพระคลัง หรือเจ้าพระยาโกษาธิบดี

    แสดงว่าถนนเจ้าพระยาโกษาธิบดีก็อาจจะเป็นย่านบาร์ซาร์แห่งกรุงศรีอยุธยาด้วย
    ตอนที่รับราชทูตจากฝรั่งเศสนั้น สมเด็จพระนารายณ์มหาราชทรงให้สร้างเรือนพักรับรองราชทูตฝรั่งเศสอยู่ใกล้ๆกับประตูจีน ราชทูตได้บันทึกว่าเรือนพักรับรองนี้สวยงามมาก แต่ท่านได้เคยไปเที่ยวบ้านของท่านเจ้าพระยาโกษาปานซึ่งดูมืดทึบมาก (เห็นแผนที่วาดโดยฝีมือหมอแกมเฟอร์อธิบายสถานที่บ้านของท่านเจ้าพระยาโกษาป่านจะอยู่ด้านตะวันออกของถนนเจ้าพระยาโกษาธิบดีนี้ ซึ่ง ชื่อถนนที่เรียกว่า Rue da Barcalon คงมาจากบ้านท่านเจ้าพระยาอยู่บริเวณนี้ก็ได้กระมังคะ​
     
  4. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    ประโยชน์การสวดมนต์ (เพิ่มเติม)

    ...คลื่นสวดมนต์ เป็นคลื่นบวก เพราะเกิดจากจิตใจที่ดีงาม ปรารถนาดีต่อผู้ป่วย และเมื่อเราคิดจะส่งสัญญาณนี้ออกไปสู่ที่ไกลๆ มันจะเดินทางไปในรูปของคลื่นไฟฟ้า ซึ่งมนุษย์มีเซลล์สมองที่สามารถส่งสัญญาณคลื่นไฟฟ้าและสารเคมีได้ถึงสิบยกกำลังสิบ คลื่นนี้จึงเดินทางไปได้ไกลๆ
    บางทีพ่อกำลังป่วยหนักอยู่ที่นี่ แต่ลูกอยู่ต่างประเทศ ก็สามารถรับคลื่นนี้ได้และรู้ว่ามีใครกำลังไม่สบาย ที่เราเรียกว่า ลางสังหรณ์หรือสัมผัสที่หก
    การรับรู้ได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับผู้รับผู้ส่งด้วย ถ้าคนไหนรับสัญญาณคลื่นแห่งบทสวดมนต์ได้จึงได้ผล เหมือนเราเปิดวิทยุ ถ้าคนฟังปิดหูก็จะไม่ได้ยิน ดังนั้นถ้าต่างฝ่ายต่างเปิดรับคลื่นบวกที่เราส่งไปผู้ป่วยก็จะได้รับ และทำให้อาการป่วยดีขึ้นได้ ไม่ใช่เรื่องของความมหัศจรรย์ แต่เป็นหลักธรรมชาติทั่วไป
    เลือกสวดมนต์อย่างไรดี?
    แล้วบทสวดที่เลือกควรใช้บทไหนดี อาจารย์สมพรแนะนำว่า
    "น่าแปลกที่บทสวดในศาสนาส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีจังหวะขึ้นๆ ลงๆ เหมือนจังหวะเพลง จะมีโทนเสียงแค่ไม้เอกไม้โทเท่านั้น สักสามสี่พยางค์ มาสวดซ้ำไปมาได้ทั้งนั้น"
    พระพุทธศาสนา มีบทสวดมากมายหลายบท ให้เลือกใช้ตามความชอบ ยกตัวอย่างเช่น อิติปิโส หรือนะโมตัสสะ นะโมพุทธายะ หรือสัพเพสัตตา ฯลฯ เลือกท่อนใดท่อนหนึ่งแล้วสวดวนไปวนมา หรือโพชฌงค์ ๗ ที่หลายคนนิยมสวดให้ตัวเองหรือคนไข้หายป่วย
    "ข้อที่น่าสังเกตคือ บทสวดโพชฌงค์ ๗ จะมีความแตกต่างจากบทสวดอื่นๆ คือ คลื่นเสียงของบทสวดจะมีแค่เสียงสระ มีแค่สองจังหวะ คลื่นเสียงจากบทสวดจึงทำให้เกิดคลื่นที่เยียวยาได้ดีที่สุด".......


    คลื่นเสียง-คลื่นสมอง-คลื่นมนต์ | ไทยโพสต์
     
  5. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,920
    ค่าพลัง:
    +6,434
    พักเรื่องตำแหน่งแห่งที่หมู่บ้านนายก่ายไว้สักหน่อยก่อนนะคะ

    อยากรู้เหมือนกันค่ะว่า Bazars ในสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานีขายอะไรกันบ้าง แล้วจะขนกลับบ้านกันยังไง ราคาขายกันแพงไหม

    เห็นแผนที่แล้วอยากจะวิเคราะห์ทางเดินของสายน้ำด้วย แต่ไว้ก่อนนะคะต้องใช้เวลา

    วันนี้จะนำบทความ หลวงปู่ทวดกับสมเด็จพระเอกาทศรถมาเสนอค่ะ
     
  6. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,920
    ค่าพลัง:
    +6,434
    <TABLE id=post1678414 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>21-11-2008, 04:25 PM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right>#1 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Specialized<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1678414", true); </SCRIPT>
    ทีมงานเว็บพลังจิต (บอย)

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Feb 2006
    สถานที่: เหนือสุดแดนสยาม ชายแดนสามแผ่นดิน ถิ่นวัฒนธรรมล้านนา (จ.เชียงราย เจ้าส์)
    ข้อความ: 14,915
    Groans: 113
    Groaned at 74 Times in 60 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 32,716
    ได้รับอนุโมทนา 140,924 ครั้ง ใน 15,241 โพส
    พลังการให้คะแนน: 6097 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]
    [​IMG]


    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_1678414 class=alt1><CENTER><!-- google_ad_section_start -->หลวงปู่ทวดกับสมเด็จพระเอกาทศรถ<!-- google_ad_section_end -->

    </CENTER>
    <HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start --><SCRIPT type=text/javascript><!--zone = "15";url = "http://ads.palungjit.org";//--></SCRIPT><SCRIPT type=text/javascript src="http://ads.palungjit.org/show.js"></SCRIPT><SCRIPT language=JavaScript src="http://ads.palungjit.org/show.php?z=15&w=0&pl=0&ad_type=0&shape=0&c_border=0&c_background=0&c_text1=0&c_text2=0&c_text3=0&c_text4=0&c_text5=0&c_text6=0&c_text7=0&c_text8=0&c_text9=0&c_text10=0&code=1280808579726"></SCRIPT><LINK rel=stylesheet type=text/css href="http://ads.palungjit.org/files/sticky_note1269462145/styles.css">

    หลวงปู่ทวดกับสมเด็จพระเอกาทศรถ


    ประมาณพุทธศักราช ๒๑๔๙

    พระเจ้าอัฐคามินี กษัตริย์ประเทศลังกาคิดจะแผ่อำนาจมายังประเทศสยาม
    เพราะครั้งหนึ่ง ประเทศลังกาเคยเป็นเมืองขึ้นของอาณาจักรสยามตอนใต้
    การที่คิดจะแก้มือครั้งนี้ ประเทศลังกาต้องพิจารณากันอย่างแนบเนียนเพราะ...


    ๑. ประเทศไทยเวลานั้นตรงกับรัชสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเป็นเจ้า
    และสมเด็จพระเอกาทศรถ
    แม้ประเทศไทยจะทำสงครามกับประเทศพม่าติดต่อกันมาเป็นเวลาหลายปีก็ตาม
    แต่ความอ่อนเพลียหามีแก่ทหารไทยไม่
    เพราะการไปรบมีชัยชนะมาทุกครั้ง

    อีกทั้งได้เพิ่มความชำนาญในการรบให้แก่ทหารไทยเป็นอย่างมาก
    ถ้าประเทศลังกา ยกกองทัพมาทำสงคราม
    ก็คงไม่มีทางที่จะเอาชนะกองทัพไทยได้

    ๒. กษัตริย์ประเทศลังกาจึงดำเนินสงครามแบบใหม่ เรียกว่า ธรรมยุทธ
    เพราะเห็นว่า ประเทศสยามเพิ่งเสร็จจากสงครามใหม่ๆ
    เข้าใจว่า พระพุทธศาสนาของคนไทยเราต้องด้อยลง
    ถ้าท้าพนันเมืองกันในการแปลธรรมะ
    ประเทศสยามคงหาผู้เชี่ยวชาญมาแปลไม่ได้ และคงเป็นฝ่ายแพ้
    ดังนั้น กษัตริย์ประเทศลังกา
    จึงให้ช่างตีแผ่นทองคำให้เป็นแผ่นเล็กๆ
    แล้วจึงจารึกอักขระจากพระคาถาของพระอภิธรรม ๗ คัมภีร์
    อักขระแต่ละคำแยกเป็นแผ่นๆ ๗ คัมภีร์ จึงแบ่งได้ ๗ แม่ขันทอง

    เมื่อจัดเรียบร้อยแล้ว ก็จัดเครื่องบรรณาการอีก ๗ สำเภาใหญ่
    ให้พราหมณ์ราชฑูต ๗ คน ถือพระราชสาสน์เข้ามายังกรุงศรีอยุธยา
    พราหมณ์ราชฑูตเข้าเฝ้าสมเด็จพระเอกาทศรถ
    และนำพระราชสาสน์เข้ากราบบังคมทูลให้ทรงทราบ
    ตอนนี้ สันนิษฐานว่าสมเด็จพระเอกาทศรถคงจะทรงไตร่ตรองว่า

    ๑. ประเทศสยามเป็นประเทศที่นับถือศาสนาพุทธ
    ถ้าไม่รับคำท้าครั้งนี้ ก็จะเป็นที่เสื่อมเกียรติยศของประเทศ...

    ๒. ถ้าพระองค์รับคำท้าพนันเมือง
    ก็ยังไม่ทราบว่าจะสามารถหานักปราชญ์ที่สามารถได้หรือไม่...

    ๓. พระองค์มีขัตติยมานะ เพราะทรงเชื่อแน่ว่า ประเทศย่อมไม่สิ้นคนดี

    จึงทรงยอมรับคำท้ากับกษัตริย์กรุงลังกา.....


    Credit : http://www.watthummuangna.com/board/...ead.php?t=4780

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  7. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,920
    ค่าพลัง:
    +6,434
    <TABLE id=post1678416 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>21-11-2008, 04:25 PM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right>#2 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Specialized<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1678416", true); </SCRIPT>
    ทีมงานเว็บพลังจิต (บอย)

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Feb 2006
    สถานที่: เหนือสุดแดนสยาม ชายแดนสามแผ่นดิน ถิ่นวัฒนธรรมล้านนา (จ.เชียงราย เจ้าส์)
    ข้อความ: 14,915
    Groans: 113
    Groaned at 74 Times in 60 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 32,716
    ได้รับอนุโมทนา 140,924 ครั้ง ใน 15,241 โพส
    พลังการให้คะแนน: 6097 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]
    [​IMG]

    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_1678416 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->

    เมื่อสมเด็จพระเอกาทศรถ ทรงตอบรับคำท้าพนัน
    แล้วจึงให้มีพระบรมราชโองการให้เป่าร้องแก่ภิกษุทั้งหลาย
    มีหนังสือบอกไปยังวัดวาอารามต่างๆ
    ทั้งในนครหลวงและต่างเมือง
    เพื่อให้จัดหาภิกษุที่เป็นนักปราชญ์มากอบกู้บ้านเมือง
    ครั้งนั้น มีพระภิกษุแสดงความจำนงค์เข้าแปลคัมภีร์เป็นจำนวนมาก
    แต่เมื่อถึงเวลาแปลจริงๆ ก็ยังไม่มีภิกษุองค์ใด ทำการแปลได้สำเร็จ
    จนล่วงเลยไปถึง ๖ วัน
    ยังเหลือเวลาอีก ๑ วัน ก็จะครบสัญญา

    ซึ่งเป็นวันชี้ชะตาของประเทศสยาม
    ว่าจะต้องอยู่ในสภาพเช่นไร...

    ในภาวะคับขันนี้ มีผู้เฒ่าผู้แก่หลายท่านระลึกได้ว่า
    พระไตรปิฎกฉบับหนังสือขอม ก็เคยเผยแพร่ไปจากเมืองลังกา (พะโคะ)
    ลัทธิลังกาวงศ์ ก็สืบเนื่องมาจากเมืองลังกา (พะโคะ)
    พระพุทธสิหิงค์ก็ไปจากเมืองลังกา (พะโคะ)

    เพราะเหตุนี้เอง จึงทำให้ทุกคนระลึกได้ว่า
    ผู้ชำนาญในการแปลคัมภีร์ครั้งนี้
    คงเป็นผู้ที่มากจากเมืองลังกา (พะโคะ) แน่นอน

    ในราตรีนั้นเอง...
    สมเด็จพระเอกาทศรถ พระพุทธเจ้าอยู่หัวได้ทรงสุบินนิมิตว่า
    มี พญาช้างเผือกเชือกหนึ่ง
    วิ่งมาจากทางทิศใต้ เข้ามาสู่พระบรมมหาราชวัง

    พระพุทธเจ้าอยู่หัวตกพระทัยเป็นอันมาก
    ทรงตื่นจากพระบรรทม และดำริว่า
    คราวนี้ ประเทศสยาม อาจเป็นเมืองขึ้นของประเทศลังกาก็ได้
    เพื่อความกระจ่าง พระองค์โปรดให้โหราบดี
    เข้ามาคำนวณชะตาบ้านเมือง
    พระโหราบดีคำนวณฤกษ์ยามแล้ว กราบบังคมทูลให้ทราบว่า
    ชะตาราศีของบ้านเมืองจะรุ่งเรืองขึ้นกว่าเดิม
    พระเกียรติยศของพระองค์จะลือกระฉ่อนไปทั่วสารทิศ
    ทั้งนี้ เพราะมีนักปราชญ์มาจากทิศใต้
    เป็นผู้ช่วยเหลือในการแปลธรรมครั้งนี้

    เมื่อพระมหากษัตริย์ได้สดับดังนั้น ก็โสมนัสเป็นอย่างยิ่ง....


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  8. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,920
    ค่าพลัง:
    +6,434
    <TABLE id=post1678417 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>21-11-2008, 04:25 PM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right>#3 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Specialized<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1678417", true); </SCRIPT>
    ทีมงานเว็บพลังจิต (บอย)

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Feb 2006
    สถานที่: เหนือสุดแดนสยาม ชายแดนสามแผ่นดิน ถิ่นวัฒนธรรมล้านนา (จ.เชียงราย เจ้าส์)
    ข้อความ: 14,915
    Groans: 113
    Groaned at 74 Times in 60 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 32,716
    ได้รับอนุโมทนา 140,924 ครั้ง ใน 15,241 โพส
    พลังการให้คะแนน: 6097 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]
    [​IMG]


    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_1678417 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->ฝ่ายขุนศรีธนญชัย ข้าราชการผู้ใหญ่
    ซึ่งเป็นผู้ประกาศและสืบหาภิกษุที่เป็นนักปราชญ์
    ทั้งที่เป็นชาวกรุงและชาวต่างเมือง
    ได้ไปพบกับ เจ้าสามีราม ที่วัดราชานุวาส
    ได้สนทนาปราศัยแล้วเห็นว่า
    เจ้าสามีรามมีลักษณะทุกอย่างของนักปราชญ์
    ก็นิมนต์เข้าสู่พระราชฐาน ณ ท้องพระโรง

    ก่อนเข้าท้องพระโรง
    สัตบุรุษจันได้ตักน้ำมาล้างเท้าให้เจ้าสามีราม

    เจ้าสามีราม จึงย่างเท้าขึ้นไปเหยียบบนแผ่นศิลา
    ทำให้แผ่นศิลานั้น แยกออกด้วยอำนาจอภินิหาร
    เป็นที่อัศจรรย์แก่ผู้พบเห็นยิ่งนัก

    เมื่อเข้าไปยังท้องพระโรง
    ได้คลานเข้าไปกราบพระภิกษุสงฆ์ที่เป็นอาจารย์และผู้อาวุโส
    พราหมณ์ราชฑูตทั้ง ๗ เห็นดังนั้น
    ก็กล่าวขึ้นท่ามกลางที่ประชุมว่า
    กษัตริย์สยามพาเด็กเข้ามาแก้ปริศนา
    ซึ่งเจ้าสามีรามได้ให้กรรมการจดบันทึกคำพูดนั้นไว้
    พร้อมกับถามพราหมณ์ราชฑูตว่า
    กุมารที่ออกจากครรภ์มารดากี่วันจึงจะนั่ง
    กี่วันจึงจะคลาน ท่านทราบหรือไม่่
    พราหมณ์ทั้ง ๗ ก็กล่าวแก้ไม่ได้

    หลังจากนั้น เจ้าสามีรามก็ตรงไปยังเตียงทอง
    ซึ่งจัดไว้เป็นที่รองรับอักขระธรรมนั้น
    เจ้าสามีรามทำวัตรปฏิบัติแก่พระอภิธรรม
    แล้วเอาอักขระแต่ละขันออกมาเรียงขันละแถว
    จึงทราบว่า ยังขาดอักขระอยู่ขันละ ๑ ตัว
    อักขระที่ขาดนั้นคือ สัง วิ ทา ปุ กะ ยะ ปะ
    พราหมณ์ทั้ง ๗ จึงเอาอักขระที่ซ่อนไว้ในมวยผมทั้งหมด
    ส่งมอบให้แก่เจ้าสามีราม
    เจ้าสามีรามจึงแปลคัมภีร์ได้ถูกต้องทุกประการ
    พราหมณ์ราชฑูตทั้ง ๗ จึงยอมแพ้
    ก้มลงกราบเจ้าสามีรามด้วยความเคารพเลื่อมใสยิ่ง...


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  9. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,920
    ค่าพลัง:
    +6,434
    <TABLE id=post1678418 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>21-11-2008, 04:26 PM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right> #4 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Specialized<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1678418", true); </SCRIPT>
    ทีมงานเว็บพลังจิต (บอย)

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Feb 2006
    สถานที่: เหนือสุดแดนสยาม ชายแดนสามแผ่นดิน ถิ่นวัฒนธรรมล้านนา (จ.เชียงราย เจ้าส์)
    ข้อความ: 14,915
    Groans: 113
    Groaned at 74 Times in 60 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 32,716
    ได้รับอนุโมทนา 140,924 ครั้ง ใน 15,241 โพส
    พลังการให้คะแนน: 6097 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]
    [​IMG]

    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_1678418 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->ฝ่ายทางคณะกรรมการของธรรมสภา
    เมื่อเห็นชัยชนะเช่นนั้น ก็โห่ร้องแสดงความยินดี
    ดังกึกก้องไปทั่วท้องพระลานหลวง
    และได้มีการตีกลองสัญญาณ ประโคมสังคีตดนตรีกันอย่างครื้นเครง
    พราหมณ์ราชฑูตทั้ง ๗ ได้นำเครื่องราชบรรณาการเหล่านั้น
    มาถวายแก่เจ้าสามีราม

    สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าแต่งตั้งสมณศักดิ์ว่า

    สมเด็จพระราชมุนีสามีรามคุณูปรมาจารย์

    สมเด็จเจ้าไม่ยอมรับเครื่องราชบรรณาการ
    และได้ถวายคืนแก่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
    สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดให้สร้างกุฏิขึ้น ๑ หลัง
    ถวายสมเด็จเจ้า พร้อมกับเมืองอีกกึ่งหนึ่ง
    สมเด็จเจ้าพำนักอยู่ที่กุฏินั้น ๓ วัน
    ก็ถวายกุฏิและเมืองคืนสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

    และสมเด็จเจ้าไปพักอยู่ที่วัดราชานุวาส ซึ่งเป็นสถานที่สงบต่อไปดังเดิม...

    สมเด็จเจ้าได้พำนักอยู่ที่กรุงศรีอยุธยาเป็นเวลานานหลายปี
    ทั้งนี้ เพราะเห็นว่า กรุงศรีอยุธยาเป็นศูนย์กลางในการเผยแพร่พระพุทธศาสนา
    มีระยะหนึ่ง ได้เกิดไข้ห่าระบาดอย่างร้ายแรง
    ประชาชนล้มตายเป็นอันมาก
    พระเจ้าอยู่หัวทรงวิตกเป็นอันมาก
    จึงดำรัสสั่งให้ขุนศรีธนญชัยไปนิมนต์สมเด็จเจ้าเข้ามาในพระบรมมหาราชวัง
    เพื่อให้ช่วยเหลือแก้ไขความเจ็บป่วยของประชาชน

    สมเด็จเจ้าจึงทำพิธีปลุกเสกน้ำพระพุทธมนต์
    โดยระลึกถึงคุณพระศรีรัตนตรัย
    เพ่งเอาำพระบารมีที่่สมเด็จสร้างสมมาช้านานเป็นที่ตั้ง
    พร้อมทั้งเอาดวงแก้ววิเศษเป็นแรงอธิษฐานด้วย


    เมื่อทำน้ำมนต์เสร็จแล้ว
    จึงให้กรมการนำไปประพรมแก่ประชาชนทั่วกรุงศรีอยุธยา
    ไม่ช้า....ไข้ห่าก็เบาบางและหายไปในที่สุด
    พระพุทธเจ้าอยู่หัวทรงโสมนัสเป็นยิ่งนัก
    วันหนึ่ง ทรงมีพระราชดำรัสว่า
    ถ้าสมเด็จเจ้าประสงค์สิ่งใด หรือจะบูรณะวัดวาอารามใดๆ
    พระองค์จะทรงอุปถัมภ์ทุกประการ....


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  10. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,920
    ค่าพลัง:
    +6,434
    <TABLE id=post1678419 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>21-11-2008, 04:26 PM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right> #5 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Specialized<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1678419", true); </SCRIPT>
    ทีมงานเว็บพลังจิต (บอย)

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Feb 2006
    สถานที่: เหนือสุดแดนสยาม ชายแดนสามแผ่นดิน ถิ่นวัฒนธรรมล้านนา (จ.เชียงราย เจ้าส์)
    ข้อความ: 14,915
    Groans: 113
    Groaned at 74 Times in 60 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 32,716
    ได้รับอนุโมทนา 140,924 ครั้ง ใน 15,241 โพส
    พลังการให้คะแนน: 6097 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]
    [​IMG]

    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_1678419 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->ต่อมาไม่นาน..สมเด็จเจ้าได้ทูลลาสมเด็จพระสังฆราชาธิบดี
    เพื่อรุกขมูลธุดงค์กลับยังภาคใต้ ซึ่งเป็นปิตุภูมิมาตุภูมิ
    สมเด็จพระสังฆราชาธิบดีก็อนุญาต
    ครั้นไปลาสมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัว
    สมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัวทรงอาลัย
    แต่ไม่กล้าทัดทานเพียงแต่ตรัสว่า
    "สมเด็จเจ้าอย่าละทิ้งโยม"

    พระพุทธเจ้าอยู่หัวได้เสด็จมาส่งสมเด็จเจ้า
    จนสิ้นเขตพระนครกรุงศรีอยุธยา....

    สมเด็จเจ้าได้จาริกรุกขมูลลงไปทางภาคใต้
    บางแห่งต้องข้ามลำคลอง บางแห่งต้องเดินป่า
    มีเรื่องเล่าว่า ขณะเดินทางมาได้ ๓ เดือน
    จะข้ามแม่น้ำแห่งหนึ่ง ไม่มีเรือแพจะข้าม
    สมเด็จจึงปาฏิหาริย์มาบนพื้นน้ำ
    บรรดาสัตว์น้ำต่างก็กราบไหว้วันทาทั่วกัน

    ครั้นเดินป่า สมเด็จเจ้าก็ฉันผลไม้ในป่า
    ครั้นถึงบ้านคน สมเด็จเจ้าก็เข้าไปบิณฑบาต
    และเที่ยวเทศนาสั่งสอนผู้คน
    ที่ไหนมีเจ็บไข้ได้ป่วย สมเด็จเจ้าก็ทำน้ำมนต์รักษาให้
    และเสกด้ายมงคลผูกข้อมือให้เด็กๆ ด้วย
    ในการเดินทางกลับนั้น เมื่อสมเด็จเจ้าได้ผ่านบ้านเมืองใด
    ที่ได้เคยเป็นผู้มีบุญคุณแก่สมเด็จเจ้า
    สมเด็จเจ้าก็จะแวะเยี่ยมเยียนทุกแห่ง ด้วยความกตัญญู


    เดินทางผ่านมาช้านาน จนเข้าเขตเมืองพัทลุง
    ซึ่งเวลานั้น ได้ย้ายตัวเมืองมาอยู่ที่สทิงพระแล้ว
    สมเด็จเจ้าได้แวะเข้าไปนมัสการสมเด็จพระชินเสน
    ผู้เป็นอาจารย์ซึ่งอยู่ที่วัดสีหยัง
    เมื่อพักอยู่หลายเพลา ควรแก่การแล้ว
    จึงอำลาเดินทางมาที่วัดกุฎีหลวง (วัดดีหลวง)
    ซึ่งเป็นปิตุภูมิมาตุภูมิ
    ได้นมัสการท่านอาจารย์จวง อันเป็นปฐมครู
    ในกาลครั้งนั้น บรรดาชาวบ้านที่เป็นญาติสนิทมิตรสหาย
    ต่างก็มีปีติยินดีเป็นล้นพ้น
    เพราะสมเด็จเจ้าเป็นเสมือนประทีปดวงเด่นมาตั้งแต่เยาว์
    ยิ่งมีบุญบารมีถึงขั้นสมเด็จเจ้าด้วยแล้ว
    ทุกคนต่างก็มีความยินดี
    เมื่อทราบข่าว ก็มักชวนกันมาเฝ้าชมบารมีกันเนืองแน่นเรื่อยมา
    จนกระทั่ง ได้มีการจัดงานสมโภชสมเด็จเจ้าขึ้น
    และปฏิบัติเรื่อยมา จนถึงทุกวันนี้

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  11. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,920
    ค่าพลัง:
    +6,434
    ทางสายธาตุขอตั้งประเด็นว่า ในใจของผู้อ่านอาจจะอยากถามทางสายธาตุว่า

    "คุณทางสายธาตุ คุณเคยคิดหรือไม่ว่า พระเจ้าปราสาททองทรงเป็นพระโอรสของสมเด็จพระเอกาทศรถมากกว่าจะเป็นพระโอรสของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช"

    "คุณทางสายธาตุ คุณคิดแตกต่างออกไปจากตำนานเกาะบางปะอิน อะไรทำให้คุณคิดว่าแม่อินไม่ใช่ชาวบ้านบนเกาะแห่งนี้ ที่ได้พบรักกับสมเด็จพระเอกาทศรถตามตำนานอ้างอิง"



    เพื่อให้มีการปฎิสัมพันธ์กันระหว่างผู้อ่านที่อ่านอย่างเดียวมาตลอด

    ทางสายธาตุจะรอให้ความเห็นหมายเลขที่ 2321 นี้ได้รับอนุโมทนาถึง 20 อนุโมทนาก่อนจึงจะคุยในประเด็นนี้อีกครั้ง ทำไมจึงตั้งตัวเลขถึง 20 ก็เพราะ

    ล็อคอินขาประจำที่จะกดอนุโมทนาอยู่แล้วน่าจะมี
    1 จงรักภักดี
    2 Fort_Gordon
    3 ศรัทธา_พิสุทธ์
    4 โมเย
    5 ไก่เหลืองหางขาว จะอนุโมทนาถ้าเห็นด้วยแต่ถ้าไม่เห็นด้วยจะเฉยเสีย ^_^

    ล็อคอินที่อาจจะกดอนุโมทนา

    6 of_bd
    7 พระราชมนู
    8 ชานนคนไทย
    9 จมื่นราชฯ
    10 puken


    อย่างน้อยทางสายธาตุจะได้รู้จักอีก 10 ล็อคอินเพิ่ม ล็อคอินอื่นนอกเหนือจากที่ได้กล่าวมาจะได้มีอะไรทำ ๕๕๕๕๕

    เอาให้เหมือนคำแนะนำของพระมหาฤทธิชัย ที่บอกให้โมเยหาผ้าผูกพระบั้นเอวองค์พระบรมรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราช แล้วเชิญประธานออกมาผูกผ้า เดี๋ยวพวกประธานไม่มีงานทำ ^_^
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 สิงหาคม 2010
  12. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,920
    ค่าพลัง:
    +6,434
    ตามหาบ้านท่านเจ้าพระยาโกษาปาน

    <TABLE class=contentpaneopen><TBODY><TR><TD class=contentheading width="100%">ภูมินามวิทยาพระนครศรีอยุธยาตอน : ตามหาร่องรอยบ้านรับแขกเมืองของพระยาพระคลัง </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=contentpaneopen><TBODY><TR><TD vAlign=top colSpan=2>ภูมินามวิทยาพระนครศรีอยุธยา
    ตอน : ตามหาร่องรอยบ้านรับแขกเมืองของพระยาพระคลัง
    วนิช สุธารัตน์

    นำเรื่อง
    พระยาพระคลังตามหัวเรื่องคือ ออกพระวิสูตรสุนทร หรือโกษาปาน เมื่อท่านอายุได้ 35 ปี ได้รับการแต่งตั้งจากราชสำนักสยามให้เป็นทูตเดินทางไปเจริญสัมพันธไมตรีกับราชสำนักของฝรั่งเศสและได้ออกเดินทางไปพร้อมกับ เชวาเลียร์ เดอโชมอง ทูตจากราชสำนักของฝรั่งเศส โดยอาศัยเรือรบของฝรั่งเศสชื่อ ลัวโซ เดินทางจากกรุงศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 12 เดือนธันวาคม พ.ศ.2228 ได้เข้าเฝ้าพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ณ พระราชวังแวร์ไซส์ กรุงปารีส เมื่อวันที่ 1 กันยายน พ.ศ.2229 และเดินทางกลับ กรุงศรีอยุธยาเมื่อวันที่ 27 กันยายน พ.ศ.2230 ทูตสยามคณะนี้ได้สร้างเกียรติยศอันยิ่งใหญ่ปรากฏต่อราชสำนักของฝรั่งเศสและต่อชาวยุโรป จวบจนกระทั่งทุกวันนี้ คณะทูตสยามชุดนี้ได้รับเกียรติยศเรื่องอะไรบ้างมีหลักฐานปรากฏชัดเจนเป็นตัวอย่างบางเรื่องดังต่อไปนี้
    เมื่อเรือของคณะทูตสยามถึงเมืองเบรสต์ เมืองท่าเรือของฝรั่งเศสทางด้านมหาสมุทรแอตแลนติค ในวันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ.2229 สิ่งแรกสุดที่ออกพระ- วิสูตรสุนทรกับคณะฑูตสยามได้รับเกียรติยศก็คือ
    เชวาเลียร์ เดอโชมอง ได้สั่งทหารที่ประจำการอยู่ในเรือรบ 2 ลำ ให้ยิงปืนใหญ่หรือยิงสลุตรับท่านราชทูตทุกกระบอก
    เส้นทางที่คณะทูตขึ้นบกเพื่อเข้าเมืองได้รับเกียรติยศ ตั้งชื่อว่า ถนนสยาม ยังคงปรากฏชื่ออยู่จนถึงทุกวันนี้
    พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศสทรงโปรดให้ช่างเขียนภาพ คณะทูตสยามระหว่างเดินทางจากเมืองเบรสต์สู่กรุงปรารีสด้วยขบวนแห่ยาวเหยียด และให้เขียนภาพคณะทูตเข้าเฝ้าทูลถวายพระราชสาส์น ที่พระราชวังแวร์ซายส์ เมื่อวันที่ 1 กันยายน พ.ศ.2229
    การเข้าเฝ้าครั้งนี้ฝรั่งเศสได้ตีพิมพ์รูปลงหนังสือพิมพ์เผยแพร่ไปทั่วทวีปยุโรปและทำเหรียญเป็นที่ระลึกจำนวนมากด้วยกัน โดยถือว่าเป็นการกระชับสัมพันธ์ไมตรีระหว่างราชสำนักฝรั่งเศสกับราชสำนักสยาม
    ยังมีภาพอื่นๆ อีกหลายภาพที่มีการพิมพ์เผยแพร่ในขณะนั้น เช่น ภาพราชทูตได้เข้าเฝ้ามกุฏ-ราชกุมารีในห้องบรรทม ซึ่งถือว่าเป็นการได้รับเกียติยศ สูงสุดสำหรับราชทูตสยาม ยังมีภาพราชทูตเข้าชมโรงงานด้านพลังน้ำที่แมงเตอนอง แอกกัวดักด์ และมหาวิทยาลัยอะคาเดมีเดซ์ เบลส์เลตร์ (Academic Belles-Lettres) ได้จัดทำเหรียญขึ้น เพื่อเป็นเกียรติยศแก่ราชฑูตไทยด้วย
    เป็นที่เชื่อกันว่าออกพระวิสูตรสุนทรหรือพระยาพระคลังผู้นี้เป็นบรรพบุรุษของพระราชวงศ์จักรีแห่งกรุงรัตนโกสินทร์

    <CENTER><TABLE><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD>ภาพพิมพ์คณะราชทูตสยามไปฝรั่งเศสโดยนิโกลาส์ เดอลาร์ เมสแซ็ง จิตรกรชาวฝรั่งเศส
    แสดงภาพจากซ้ายไปขวา ออกหลวงกัลยาราชไมตรี อุปทูต ออกพระวิสูตรสุนทรราชทูต และออกขุนศรีวิสารวาจา ตรีทูต
    เมื่อคณะทูตอยู่ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ปี พ.ศ.2229
    </TD></TR><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD>ภาพพิมพ์ การเข้าเฝ้าถวายพระราชสาส์นแด่พระเจ้า หลุยส์ที่ 14 ในพระราชวังแวร์ซายส์ เมื่อวันที่ 1 กันยายน พ.ศ.2229
    ที่ตีพิมพ์เผยแพร่ทั่วประเทศฝรั่งเศสและทวีป ยุโรปในยุคนั้น
    </TD></TR><TR><TD>[​IMG][​IMG]</TD></TR><TR><TD>ภาพเหรียญที่ระลึก ด้านหน้าเป็นรูปของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ด้านหลังเป็นรูปการเข้าเฝ้าถวายพระราชสาส์นของคณะราชทูตสยาม
    เมื่อวันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2229
    </TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  13. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,920
    ค่าพลัง:
    +6,434
    เริ่มจะประติดประต่อได้แล้วว่า หมู่บ้านนายก่ายอยู่บริเวณไหน

    บ้านเจ้าพระยาโกษาปาน (บุตรชายเจ้าแม่วัดดุสิต) อยู่บริเวณใด

    เค้าลางที่ตั้งเริ่มชัดขึ้น จะว่าไปแล้วบ้านสมเด็จพระเพทราชาใกล้กับบ้านเจ้าพระยาโกษาปานมาก เดินไปมาหาสู่กันได้เลย

    แล้วจะกลับมาประติดประต่อ ตำแหน่งแห่งที่ให้ตอนกลางคืนค่ะ ขอเวลาทำงานก่อน


    เอาบทความไปอ่านเป็นน้ำจิ้มก่อนนะคะ เรื่องที่ตั้งของบ้านท่านพระยาโกษาปานที่เคยใช้เป็นบ้านพักรับรองราชฑูตจากต่างประเทศ ก่อนที่สมเด็จพระนารายณ์มหาราชจะทรงสร้างเรือนพักรับรองราชฑูตไว้เป็นสัดเป็นส่วนแยกออกมาในภายหลังค่ะ

    เรื่องนี้ต้องใช้แผนที่ 5 ฉบับอ่านประกอบกันค่ะ

    1 แผนที่ของ Bellin
    2 แผนที่ในจดหมายเหตุ ลา ลูแบร์
    3 แผนที่ของหมอแกมเฟอร์
    4 แผนที่ของ VOC
    5 Google earth ที่ตั้งของวัดบรมพุทธาราม

    จะได้ที่ตั้งหมู่บ้านนายก่าย คลองนายก่าย คลองฉะไกรน้อย ประตูจีน ประตูเทศหมี และการไหลของสายน้ำในคลอง น่าสนุกดีค่ะ แล้วก็พอจะคาดตำแหน่งแห่งที่ของบ้านท่านเจ้าพระยาโกษาปาน และที่สำคัญตำแหน่งแห่งที่บ้านตึกจีนของเจ้าขรัวฯ รวมถึงอาจคาดเดาถึงตำแหน่งแห่งที่ของบ้านนายก่ายได้บ้างก็เป็นได้ (สีม่วงความเห็นส่วนตัวค่ะ)

    http://www.ayutthayastudy.org/content/view/490/32/
     
  14. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,920
    ค่าพลัง:
    +6,434
    [​IMG]

    ดูจากขวามือ สายน้ำเส้นที่สองจากขวา น่าจะเป็น คลองนายก่าย (สายน้ำวิ่งจากใต้ไปเหนือ)

    ถัดจากคลองนายก่ายไปทางทิศตะวันตก คลองที่สาม น่าจะเป็นป้อมอกไก่ที่กล่าวถึง แล้วน่าจะเรียกชื่อคลองว่าคลองฉะไกรน้อย(?) สายน้ำไหลจากกลางเกาะลงแม่น้ำเจ้าพระยาทางทิศใต้

    คลองเส้นที่สี่จากขวามือ คือคลองประตูจีน (คลองข้าวเปลือก) สายน้ำไหลจากแม่น้ำเจ้าพระยาทางทิศใต้เข้าไปกลางเกาะ แล้วเลี้ยวขวาได้สองเส้น ไปบรรจบกับคลองฉะไกรน้อย แล้วไหลออกจากเกาะไปลงแม่น้ำเจ้าพระยาอีกครั้ง หากสายน้ำไหลเลยคลองฉะไกรน้อยไปจนไปบรรจบกับคลองนายก่าย ทิศทางการไหลของสายน้ำจะไปรวมกับสายน้ำคลองนายก่ายไหลไปออกแม่น้ำป่าสักทางทิศเหนือ

    คลองเส้นที่ห้าเชื่อมต่อกับคลองประตูจีน คือคลองเทพหมี เหนือคลองนี้มีสะพานใหญ่ที่มีโค้งใต้สะพานถึงห้าช่องเรียกว่า สะพานวานร


    คลองเหล่านี้น่าจะเป็นเส้นทางขนของ ขนข้าวเปลือกไหลวนไปตามการไหลของสายน้ำ เป็นเส้นทางคมนาคมในเกาะเมืองกรุงศรีอยุธยากระมังคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 สิงหาคม 2010
  15. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,920
    ค่าพลัง:
    +6,434
    <TABLE><TBODY><TR><TD>
    [​IMG]
    </TD></TR><TR><TD>ภาพเขียนแผนที่พระนครศรีอยุธยา โดย มองซิเอร์ เดอ ลาลูแบร์ ซึ่งเข้ามาในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
    ก่อนหมอแกมเฟอร์ 3 ปี ภาพนี้ให้สังเกตเส้นสีดำสั้นขนาดใหญ่ตรงส่วนล่างของภาพ นั่นคือ คลองประตูเทพหมี คลองน้ำใหญ่ที่สุดของพระนครศรีอยุธยา
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    สืบค้นตำแหน่งบ้านรับแขกเมืองของพระยาพระคลัง
    หมอแกมเฟอร์ เขียนเล่าต่อว่า ขบวนเรือแล่นเลียบกำแพงพระนครขึ้นไปตามลำน้ำสักประเดี๋ยวหนึ่ง ก็เลี้ยวไปสู่บ้านของท่านพระยาพระคลัง อันเป็นที่ซึ่งท่านออกรับแขกเมืองอย่างสง่าสมเกียรติ เราขึ้นบกทางด้านนี้ และเดินต่อไปจนถึงบ้าน ลานบ้านอยู่ค่อนข้างจะสกปรกและอับๆ แต่ยังดีกว่าบ้านอีกแห่งหนึ่งของท่าน ซึ่งเราได้ไปเยี่ยมคำนับท่านเป็นส่วนตัวมาแล้วก่อนหน้านี้ 2-3 วัน พอเข้าไปในบริเวณลานบ้าน เราก็เห็นเรือนหรือห้องเปิดโล่งหลังหนึ่งอยู่ทางซ้ายมือทำเกือบเป็นรูปจัตุรัส ไม่มีผนัง พื้นปูกระดาน มีคนอยู่เต็ม บ้างก็นั่ง บ้างก็เดินคุยกัน ทางขวามือเห็นช้างเชือกหนึ่ง ผูกครบยืนอยู่ในโรง ตรงกันข้ามกับทางเข้ามีบันไดหินขึ้นสู่เรือนพระยาพระคลัง
    บันทึกของหมอแกมเฟอร์ ตอนนี้บอกให้เรารู้ว่า ขบวนเรืออัญเชิญพระราชสาสน์มี 6 ลำ จัดเรียงขบวนกันเป็น 1 : 3 : 1 : 1 โดยที่ขบวนเรือแล่นเลียบกำแพงพระนครขึ้นไปในชั่วเวลาไม่นาน ก็เลี้ยวไปสู่บ้านของพระยาพระคลัง



    <CENTER><TABLE><TBODY><TR><TD>
    [​IMG]
    </TD></TR><TR><TD>ภาพขยายจากแผนที่ข้างต้น คือ ส่วนของคลองประตูเทพหมีที่เห็นรูปลำคลองมีความโค้งเหมือนคันธนู ตรงส่วนกลางของคลองเป็นสะพานวานร ในภาพเขียนนี้มีช่องใต้สะพานจำนวน 5 ช่อง เป็นสะพานที่ใหญ่ที่สุดและปัจจุบันยังมีสภาพเป็นสะพานที่มีความสมบูรณ์มากที่สุดของบรรดาสะพานโบราณทั้งหลายของพระนครศรีอยุธยา บนสะพานคือถนนคนเดินที่เชื่อมโยงพื้นที่ระหว่างฟากตะวันออกกับตะวันตกของพื้นที่ตอนใต้ ของพระนครศรีอยุธยาในอดีต</TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>


    คลองประตูจีน(คลองข้าวเปลือก)อยู่ทิศตะวันออก
    คลองเทพหมี อยู่ทิศตะวันตก


    ถนนศรีสรรเพ็ชร์(ปัจจุบัน) ก็คือถนนมหารัถยา(ในอดีต) หรือที่แผนที่ฝรั่งเศสเรียกว่า The Street of y' Bazars หรือในแผนที่ของแบแรง(Bellin) เรียกว่า Rue du Barcalon นั่นเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 สิงหาคม 2010
  16. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,920
    ค่าพลัง:
    +6,434
    [​IMG]

    พอจะสรุปได้ว่า หมู่บ้านนายก่ายตั้งอยู่ระหว่างคลองนายก่ายไปจนถึงคลองประตูจีน(คลองข้าวเปลือก) ก็คือระหว่างสายน้ำเส้นที่สองไปจนจรดสายน้ำเส้นที่สี่ (นับจากขวามือหรือนับจากฝั่งตะวันออ) นั่นเอง

    บ้านเจ้าพระยาโกษาปาน อยู่ระหว่างคลองข้าวเปลือกกับคลองฉะไกรน้อย ตามแผนที่ของหมอแกมเฟอร์ ดังนี้

    <TABLE><TBODY><TR><TD>
    [​IMG]
    </TD></TR><TR><TD>ภาพขยายส่วนของคลองประตูเทพหมี จากแผนที่ลายมือเขียนของ หมอแกมเฟอร์จะเห็นแนวถนนเชื่อมต่อระหว่างสะพานวานรกับสะพานบ้านดินสอ หน้าวัดบรมพุทธาราม ตรงกึ่งกลางภาพริมถนนมีอาคารหลังคาทรงไทย (อยู่ในวงกลม) บนหลังคามีส่วนคล้ายปั้นลมอยู่ด้วย บ้านหลังนี้อาจจะเป็นบ้านรับแขกเมือง ของพระยาพระคลังในอดีต</TD></TR></TBODY></TABLE>


    บ้านเจ้าพระยาโกษาปานจึงตั้งอยู่ระหว่างคลองสายที่สาม(คลองฉะไกรน้อย)กับคลองสายที่สี่(คลองประตูจีนหรือคลองข้าวเปลือก) นับจากขวา

    อาจเป็นไปได้ว่า บ้านเจ้าพระยาโกษาปานนี้ตั้งอยู่ในหมู่บ้านนายก่ายด้วย หรืออาจจะอยู่เหนือหมู่บ้านนายก่ายโดยห่างหมู่บ้านนายก่ายเพียงข้ามคลองเล็กๆคคลองหนึ่ง คิดว่าพอเป็นไปได้ไหมคะ

    รวมถึงคิดว่าบ้านเดิมของสมเด็จพระเพทราชาก็ทรงตั้งอยู่ในหมู่บ้านนายก่ายนี้ด้วยกันค่ะ
     
  17. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,920
    ค่าพลัง:
    +6,434
    คำถามที่น่าคิดก็คือ

    บ้านเจ้าพระยาโกษาปานนี้เคยเป็นบ้านนายก่าย ด้วยหรือไม่

    ตอบไม่ได้ค่ะไม่มีหลักฐานเรื่องที่ตั้งบ้านนายก่ายในมือ แต่ที่แน่นอนคือหมู่บ้านนายก่ายตั้งอยู่บริเวณนี้ ซึ่งบ้านของเจ้าพระยาโกษาปานอาจจะใช่บ้านนายก่าย หรืออาจจะไม่ใช่ก็ยังไม่ชัดเจนค่ะ เสนอไว้ให้ท่านเก็บไปคิดพิจารณาดู

    บ้านตึกจีนของเจ้าขรัวฯ ก็น่าจะอยู่ในหมู่บ้านนายก่ายนี้ ตำแหน่งแห่งที่ก็คล้ายกับตำแหน่งแห่งที่ของบ้านเจ้าพระยาโกษาปาน แล้วจะเป็นที่เดียวกันหรือไม่ เสนอไว้พิจารณา อาจจะใช่หรืออาจจะไม่ใช่

    บ้านนายก่าย = บ้านตึกจีนของเจ้าขรัวฯ = บ้านของเจ้าพระยาโกษาปานหรือไม่ ทางสายธาตูไม่อาจชี้ชัดได้ค่ะเพราะไม่มีหลักฐานชัดเจน เพียงแต่พอจะเป็นไปได้ที่ว่าบ้านที่เอ่ยถึงทั้งสามหลังอยู่ในหมู่บ้านนายก่าย จึงเสนอไว้เพื่อท่านนำไปพิจารณาดูค่ะ
     
  18. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,920
    ค่าพลัง:
    +6,434
    คำถามที่น่าคิดก็คือ

    บ้านเจ้าพระยาโกษาปานนี้เคยเป็นบ้านนายก่าย ด้วยหรือไม่

    ตอบไม่ได้ค่ะไม่มีหลักฐานเรื่องที่ตั้งบ้านนายก่ายในมือ แต่ที่แน่นอนคือหมู่บ้านนายก่ายตั้งอยู่บริเวณนี้ ซึ่งบ้านของเจ้าพระยาโกษาปานอาจจะใช่บ้านนายก่าย หรืออาจจะไม่ใช่ก็ยังไม่ชัดเจนค่ะ เสนอไว้ให้ท่านเก็บไปคิดพิจารณาดู

    บ้านตึกจีนของเจ้าขรัวฯ ก็น่าจะอยู่ในหมู่บ้านนายก่ายนี้ ตำแหน่งแห่งที่ก็คล้ายกับตำแหน่งแห่งที่ของบ้านเจ้าพระยาโกษาปาน แล้วจะเป็นที่เดียวกันหรือไม่ เสนอไว้พิจารณา อาจจะใช่หรืออาจจะไม่ใช่

    บ้านนายก่าย = บ้านตึกจีนของเจ้าขรัวฯ = บ้านของเจ้าพระยาโกษาปานหรือไม่ ทางสายธาตูไม่อาจชี้ชัดได้ค่ะเพราะไม่มีหลักฐานชัดเจน เพียงแต่พอจะเป็นไปได้ที่ว่าบ้านที่เอ่ยถึงทั้งสามหลังนี้อยู่ในหมู่บ้านนายก่าย จึงเสนอไว้เพื่อท่านนำไปพิจารณาดูค่ะ
     
  19. พระราชมนู

    พระราชมนู Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +78
    เจ้าพระยากลาโหมสุริยวงศ์

    ผมอนุโมทนาครับ แล้วก็อยากทราบข้อมูลต่อจากคุณทางสายธาตุด้วย โดยส่วนตัวผมเชื่อตามที่คุณพี่ทางสายธาตุนำเสนอ ผมรู้สึกว่าทั้งสองพระองค์มีอะไรคล้ายๆกันหลายอย่าง (เป็นความรู้สึกสว่นตัวน่ะครับ )

    ....."วันนั้นเป็นวันเสารวาร เจ้าพระยากลาโหมสุริยวงศ์ ใส่เสื้อดำ กางเกงดำ ขี่ม้าดำ ขุนนางแลไพร่ตามมาเป็นอันมาก ครั้นเถิงหน้าพระกาฬจึงลงจากม้าตั้งสัจจาธิฐานว่า ข้าพเจ้าปรารถนาพระโพธิญาณถ้าจะเสร็จแก่พระพุทธสมบัติเป็นแท้ จะยกไปล้างผู้อาสัจให้สำเร็จดังปรารถนา" ข้อความนี้ไม่มีความในใดๆหรอกครับ แต่ผมชอบ
     
  20. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,920
    ค่าพลัง:
    +6,434
    สมเด็จพระเจ้าปราสาททอง (เจ้าพระยากลาโหมสุริยวงศ์) อาจจะทรงมีพระราชนิยมเรื่องภูษาทรงหลายหลายสีสรร เนื่องจากทางสายธาตุเคยไปวัดชุมพลนิกายาราม พระที่ดูแลองค์หนึ่งคือหลวงเตี่ยเคยเล่าให้ฟังว่า มีผู้สัมผัสพระญานของสมเด็จพระเจ้าปราสาททองได้ ส่วนใหญ่จะเห็นพระองค์ท่านทรงเสื้อกำมะหยี่สีเขียวเข้ม(เป็นผ้าแขกแต่ไม่รู้เรียกอย่างไร) และทรงโปรดม้าสีขาว ทางสายธาตุคิดว่าน่าจะเป็นม้าอาหรับ ไม่ทราบว่าพระฉวีท่านจะคล้ำหรือว่าขาว แต่คิดพระองค์ท่านทรงเป็นทหาร น่าจะทรงใช้ชีวิตกลางแดดเป็นเวลานานๆ น่าจะทรงคล้ำแดดบ้างก็เป็นได้ ด้วยพระฉวีที่ไม่คล้ำมากน่าจะทำให้ทรงมีพระราชนิยมในการเลือกสีพระภูษาได้หลากหลายสี และทรงเลือกม้าทรงให้เหมาะกัน คิดว่าอย่างนี้นะคะเป็นความเห็นส่วนตัวค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...