เรื่องเล่า ตื่นนอน ตอนสายๆ

เมื่อได้สอบถามถึง พรที่จอมเทพอสูรมอบให้
พรมีลักษณะเป็นพลัง รวมตัวกันดังแก้วมณีดวงหนึ่งมีประกายกล้า เขียวอมทอง
และด้วยพลังจากมณีดวงนี้ เหล่าคุณไสย์ที่เกิดจากวิชาของเหล่าอสูร ล้วนสลายไปสิ้น เพียงกำหนดจิตโบกมือผ่าน

โห่โห้.... ไอ้หมอมันได้เป็นหมอเทวดาแน่ เพียงโบกมือผ่าน คนไข้ก็หายแล้ว

แต่โดนไอ้หมอมันสวนกลับมาว่า
พวกเองจะบ้าเร้อ
ข้านะเป็นหมอคนนะโว้ย ไม่ใช่หมอผี
อุตสาห์รำเรียนมาจนได้ครุฑคุ้มหัว ขึนทำอย่างพวกเองว่า ข้าก็คงไม่แคล้วได้เป็นหมอผีแน่นอน
สธ.เขาจะมาทวงครุฑคืนเอาง่ายๆ

งานนี้ ไอ้หมอมันใช้วิธีอธิษฐานซ้อนพลังแห่งดวงมณีเข้าไปในเม็ดยา
กินยาก็เหมือนได้กินดวงมณีแห่งเทพอสูร เหล่าคุณไสย์ก็หลุดออกไปสิ้น
ไอ้หมอมันยังอธิบายต่อท้ายว่า
ไอ้โรคพวกนี้เป็นโรคมีตัว ยกแรกถูกพลังถีบกระเด็นหลุดออกไปแล้ว พอคล้อยหลังหมอ มันก็กลับเข้ามาอีก
เพียงจัดยาที่ซ้อนพลังไห้ไป กินตามเวลา เช้า เย็น ก่อนนอน
พอถึงเวลาก็กินยา มันก็โดยถีบออกไปอีก
ถ้ามันยังมีความเพียร กลับเข้ามาอีก ก็จะโดนพลังยาถีบมันกระเด็นออกไปอีก
โดนถีบหลายๆครั้งเข้ามันก็ระอาหนีไปเองไม่กลับมาอีก

หากใช้วิธีที่ไอ้สองแนะนำ กำหนดจิตโบกมือผ่าน ใช่มันหลุดออกไป
พอคล้อยหลัง ก็กลับมาอีก เอ็งก็ต้องเสียเวลาลงมืออีก ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เสียเวลาทั้งคนไข้ ทั้งตัวเอง

ฟังมันแถลงมาทำเอาหมู่เฮาอึ้งกิมกี่ เออวิธีเอ็งเจ่งโว้ย

 

ขอบคุณก๊าบบบบบบ

แล้วหมอจะทำยา อดีนารีน ได้ไงวุ้ย

คิดๆๆๆๆๆๆๆๆ อย่ายอมแพ้นะ ไอ้มดแดงสู้เค้า

สงสัยต้องจ่ายยาเป็น ท่วงท่า ฤๅษีลีลา วุ้ย

 

เวลาผ่านไป ไม่ถึงอาทิตย์
หลังจากไอ้หมอมันเข้าห้องแลป ทดสอบการจำลองความลับของอสุทินทราหู ในหลายแง่หลายมุม
ไอ้หมอมันก็รายงานว่า มันพบความลับเบื้องหลังที่จะนำความตายมาสู่อสุทินทราหูได้แล้ว

ไอ้เรารึ รีบชวนมันไปหาอสุรินทราหูเพื่อจะบอกความลับนี้(ว่าจะเอาหน้าสักหน่อย)
ไอ้หมอมันไม่ยอมทำหน้ามู่หู้ และว่า
การนำความตายไปให้ผู้คน ก็ดังเป็นการฆ่า ผิดศีลข้อ ๑ อย่างแรง
แม้ว่าจะไปเล่าให้เขาฟัง ก็เหมือนกับสมรู้ร่วมคิดให้เขารู้วิธีฆ่าตัวตาย นีก็ผิดศีลข้อ ๑
ทำไงเราจึงจะบอกความลับนี้ โดยไม่ผิดศีล

ไอ้สองรีบออกความคิด
เป่าประกาสความลับนี้ให้รู้ไปทั่ว โจทย์ของอสุทินทราหูมีมาก ก็จะนำไปทวงบัญชีเองไม่เกี่ยวกะเรา

นั่นก็ผิดอีก เป็นการชี้เป้า ใหเขาไปฆ่าคน

เอ้อ...ทำไงวุ้ย จึงจะหลุดจากความผิดในศีลข้อ ๑ ได้

 

อุ้ย....เพิ่งสังเกตุเห็นมีผู้ไม่เห็นด้วยกับความฝันของไอ้หมอมัน

จะเอาอะไรกันหนักหนากับความฝันของคนไม่ค่อยจะเต็มบาทนิ

 

เค้าอาจจะ คริ๊ก ผิด ก็เป็นได้ครับ อ.สุวิ ผมยังเคย คริ๊ก ผิด เลยครับ

 

แห่ะ ๆ .....
ถ้านำสารเสร็จแล้วแกล้งลืม จะผิดไหมน๊อ....

:z1
ติดตามอ่านต่อค่ะ อ. สุวิ

 

อาจารย์สุวิคะ ยังไงก็มองข้ามลำลูกกา ปทุมนะคะอาจารย์ อิอิ

********
ขอบคุณค่ะพี่เมา์ท์ เข้ามาเล่า ให้ข้อมูลอีกมิติให้ได้รู้มากขึ้น
อาจารย์สุวิคงหาวิธีรักษาง่ายขึ้นละ

 

บ่ายแล้ว อ.ยังไม่ตื่นเหรอคะ อยากอ่านต่อแล้วน้า

 

บ่ายพุธอ.สุวิเดินทาไปทำงานที่เพชรบูรณ์กลับคืนวันพฤหัสและเดิน
ทางอีกครั้งบ่ายเสาร์กลับคืนอาทิตย์ครับ

 

สนุกดีนะคะ เรื่องที่เล่านี่

 

เรื่องเล่าสนุกมากค่ะ ได้สาระด้วย

 

ไม่มีสิ่งใด เกิดด้วยความบังเอิญ
ทุกสิ่งมีเหตุที่ได้ถูกสร้างขึ้นด้วยแรงกรรมเป็นตัวชักนำทั้งสิ้น(ทั้งกรรมดี และเลว)

เรื่องเล่าที่ผ่านมา ไม่ได้ต้องการโชว์ว่าไอ้หมอมันเก่ง
แต่สาระที่ต้องการ อยู่ที่ ข้อความข้างล่างนี้

อ้างอิง:
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ suwi2
เมื่อกลับมา เรื่องราวทั้งหมดถูกรายงานเข้าที่ประชุมหญ่าย
ไอ้หมอจึงตกในฐานะจำเลย ถูกซักฟอกจะเกลี้ยเกลา จนหมดจดไร้สิวฝ้าราคีคาว
ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมใจกล้านัก
ความจึงปรากฎว่า ไอ้หมอมันเตรียมตัวอย่างดี มันว่ามันไม่ได้คิดว่าจะพูดอะไร
มันเพียงทำบุญและอธิษฐานเท่านั้น

ไอ้หมอมันอธิษฐานอะไรหรือ

ปกติ ในปัจุบัน ไอ้หมอมันต้องออกไปใส่บาตรทุกเช้า และทำบุญใหญ่เมื่อมีโอกาส
พอไอ้หมอมันรู้ว่าจะต้องเจองานหิน(เรื่องของอสุทินทราหู)
ทุกครั้งที่ใสบาตร หรือทำบุญ มันจะอธิฐานว่า
ด้วยอำนาจแห่งบุญนี้ จงสำเร็จแก่ อสุทินทราหู
ขอให้อสุทินทราหู จงมีความสุข และมีเมตตาต่อตัวมัน
มันกระทำเช่นนี้ทุกครั้ง
และตอนมันนั่งสมาธิ พอได้ที่ ก็น้อมเอาบุญดังกล่าวกลั่นให้บริสุทธิ์ ถวายแก่องค์ราหู ในสมาธิลึก
และตั้งจิต น้อมเคารพในอำนาจแห่งจอมอสูร ดังที่เล่าแล้ว
และขอให้จอมเทพอสูรจงมีเมตตาตอตัวมัน
และย้ำถึงความเมตตาที่เทพอสูร มีต่อตัวมันให้คมชัด

มันเล่าถึงสิ่งที่มันได้เตรียมตัว มันมีเพียงเท่านี้เอง ไม่มีอะไรกว่านี้
และทุกสิ่งก็พรั่งพรูแสดงออก ดังที่ข้า(ไอ้สอง)ได้รู้ ได้เห็น
ทุกสิ่งที่แสดงออก ล้วนด้วยแรงอธิฐาน ทั้งสิ้น



</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

มานปายไม่ถึงจ้า อยู่ส่วนต่อของนครปฐม นนทบุรี สุพรรบุรีเอง
เคยเช็คกับ อ.สามตาดู มันเป็นหลุมลงไปเฉยๆ กลางทุงนา

เคยดูว่ามันมีอะไรเพิ่มอีกหรือไม่เช่นเชื้อโรค หรือสัตว์ประหลาดต่างมิติ ที่โผล่ขึ้นมาจากหลุม
ตอนนั้นพบว่าไม่มี
แต่ปัจจุบันไม่แนใจเสียแล้ว
อันเนื่องจากความฝันของไอ้หมอเมื่อเช้านี้

 

เช้านี้เอง ไอ้หมอมันตื่นขึ้นมา แล้วก็บ่นๆว่า

มีใครก็ไม่รู้เอาสมุนไพรตัวหนึ่งเอามาทึ้งไว้ให้ถุงเบ้อเร่ิ่มเลย
แถมไม่พูดอะไร วางทิ้งไว้แล้วก็กลับ ไม่ให้ข้อมูลอะไรสักอย่าง
ลักษณะของสมุนไพร เป็นคล้ายๆเปลือกไม้สีออกดำสนิด
ตอนแรกมันคิดว่า เป็นกวาวเครือดำ เพราะเป็นสมุนไพรหายาก เขาคงเอามาให้ทำยาอายุวัฒนะสำหรับบุรุษ

พอไอ้หมอมันเอาเข้าแลปทดสอบ (มันมีห้องแลปเฉพาะตัวมัน)
ปรากฏว่าไม่ใช่ และเป็นสมุนไพรที่ไม่มีในโลกมนุษย์
หลังจากโต้ตอบสอบถามกันไปมาพักใหญ่ ไอ้ คอมจอภาพพิเศษ มันให้คำตอบว่า
เป็นสมุนไพรมาจากสวงสวรรค์ชั้นมยา ใช้รักษาโรคท้องร่วงอย่างแรง มีลักษณะคล้ายอหิวาต์ แต่เชื้อแรงกว่า อาการหนักกว่ามาก

การทำซิมูเลท ในเชื้อดังกล่าว
พบว่าเชื้อนี้ไม่เคยมีอยู่ในโลกมนุษย์ เป็นเชื้อต่างมิติเป็นชาติพันธฺ์ของอสูรกาย
สอบถามว่า เชื้อนี้มาจากที่ใด
ไอ้ คอม มันว่ามีศูนย์กลางอยู่แถวๆ บางบัวทอง ไทรน้อย
ซึ่งเป็นศูนย์กลางของหลุมยุบ

จึงถามขอคำยืนยันว่าเป็นเชื้อที่ขึ้นมาจากหลุมยุบหรือไม่
คำตอบคือใช่
แต่เคยทดสอบ กันก่อนหน้านี้ว่าไม่มีนี่นา
คำตอบก็ใช่อีก แต่เมื่อวานนี้ มีการทำพิธีอะไรกันใหญ่โต
คงมีคนไปอธิษฐาน ขอล้างแผ่นดิน เป็นแน่ เพื่อล้างไอ้พวกชั่วๆทั้งหลาย(งานนี้หมอไม่เกี่ยว)
ไอ้สัตว์ประหลาดตัวนี้จึงปรากฏขึ้นมา เพื่อช่วยล้างแผ่นดิน

และจากผลการทดสอบพบความประหลาดว่า
ไอ้เจ้าเชื้อชาติพันธ์อสูรกายเหล่านี้ มันตอบสนองกับความชั่วทุกรูปแบบ
ใครมีเชื้อชั่วในตัวมันจะไปอยู่ด้วย

และเบื้องบนคงทราบเหตุจึงรีบนำยามาทิ้งไว้ให้หมอไว้ช่วยคนดีมีศีลธรรม ที่ถูกลูกหลง
และที่ประหลาด ใครที่ฝึกสมาธิได้ดี เชื้อมันก็ไม่ชอบ ไม่อยากอยู่ด้วย

การฝึกสมาธิของคุณวิษณุ ที่สอนกันอยู่ในกระทู้ข้างๆ ในบทที่ว่าด้วย เกษา โลมฯ
ที่ว่า ให้ภวนาเร็วๆ จะเกิดพลังรอบตัว สามารถป้องกันไอ้เจ้าเชื้อตัวนี้ได้
และหากฝึกเกษา โลมาฯ พร้อมการปรับธาตุสี่ (ปัฐวี อาโป วาโย เตโช)
ก็จะสามารถขจัด อสูรกายเหล่านี้ได้

เชื้อนี้อาจจะระบาดไปทั่วประเทศ และมีแนวโน้ม จะระบาดไปทั่วโลกด้วย

 

เค้าว่ามีเชื้อตัวนี้มาก็ดีเหมือนกันนะค้าอาจารย์สุวิๆ..
คนที่เหลือจะได้อยู่กันอย่างสงบสุขละ
( ปล ฮั้วเองก็คงไม่รอดเช่นกัน )

อ๊ากกกกก

 

ขอบคุณค่ะอาจารย์สุวิ อิอิ อุ่นใจกะบ้านตัวเอง

เย้ๆ นู๋กลมก็ลูกศิษย์อาจารย์บาส ก่อนอ่านกระทู้นี้ ยังเร่งเกศา-ตะโจไม่ขึ้นเลย มัวแต่คิดทางปาก
อ่านข้อความเมื่อกี๊เสร็จ เลยได้เคล็ดจากอาจารย์สุวิอีกที เร่งขึ้นมาได้อีกหน่อยแล้วค่ะ มัวแต่เล่นเกียร์ต่ำ ช้าๆ
แบบพวกประหยัดพลังงาน อิอิ เดี๋ยวซิ่งใส่เกียร์หมา ปรู้ดเลย ขอบคุณมากมายค่ะอาจารย์

 

เรื่องเล่าสนุกมากครับ จะติดตามอ่านไปเรื่อยๆ

 

เกือบลืมตอบท่านผู้นี้ไป

ปัจจุบันโรคที่เกิดจากอสุทินทราหู แทบจะกล่าวได้ว่า ไม่มีเลย

แต่ชาติพันธ์อสูรส่วนใหญ๋ๆๆๆๆ ชอบใช้อำนาจในการบีบบังคับให้ได้สิ่งที่ตนปรารถนาทุกวิถีทาง
ลูหลานเหลนโหลน และลูกศิษย์หลานศิษย์ ของอสุทินทราหู มีมากโข
และแต่ละท่านส่วนใหญ่ล้วนมิฉาทิฐิ
และพวกที่มาเกิดเป็นมนุษย์ ก็มีมาก
บางพวก ได้มนตราของอสุทินทราหูมา ทำให้สามารถเรียกใช้ อสูรบริวารได้
มนต์บางบทยังสามารถบัญชา ยักษ์และนาคได้อีกด้วย
และปกติพวกอสูรและยักษ์ ก็จะสามารถบัญชาเหล่าอสูรกายที่หิวโหย ให้อยู่ในอำนาจได้
อสูรกาย ก็คือเหล่าสัตว์ประหลาดต่างๆ ที่บางพันธ์ก็เป็นสัตว์เลี้ยงของยักษ์และอสูร
อสูรกายเหล่านี้ พวกมนุษย์เรียกรวมๆว่า ไวรัส และเชื้อโรค

อสูรพวกที่ติดต่อ มีสัมพันธ์กับเหล่ามนุษย์ เมื่อไม่พอใจ หรือไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ ล้วนให้โทษทำให้เกิดโลกภัยแปลกที่ยากรักษา เช่น

โรคไอ คันคอเหมือนหนอนไต่ แสบร้อนในอก(ปอด) หอบหืด นอนไม่ได้ทรมารมากๆ
โรค ไธรัสซิเมีย SLE (บางเคส)
โรคผิวหนังผื่นคันบางแบบมีอสูรกายเกาะกินอยู่ (ไม่ใช่โรคสะเก็ดเงิน ซึ่งบางกรณีมาจาก พิษนาค)
มะเร็ง เกือบทุกชนิด
ฯลฯ

 

ลักษณะการให้โทษของเหล่าอสูร หรือจิตวิญญาน มีอยู่สองรูปแบบ
๑ เป็นจิตวิญญานเข้าแทรก เลย (พวกนี้ ถ้าเจรจาถูกคอกัน ก็จ่ายสินใหม แล้วก็บ้ายบาย)
๒ เข้าแทรกแล้วพาพวกอสูรกาย มาทำฟาร์เพาะเลี้ยงในกายมนุษย์ (พวกนี้รักษายากหน่อย)
บางที ตกลงกับเจ้าของฟาร์ได้เขาย้ายไป แต่เขาทิ้งพวกอสูรกาย(ตัวประหลาด)ไว้ให้สะสางเอง
นัยว่าสัตว์เหล่านี้เขาไม่ติดใจเอาไปด้วย ทิ้งไว้ให้เจ้าของร่างเลี้ยงดู เก็บผลประโยชน์เอง (ผลประโยชน์อะไรวุ้ย ดูไม่ออกวะ)

 

เช้านี้ มีคนไข้มาหาไอ้หมอมัน
ลูกชาย พาแม่มาร้องขอให้รักษา
แม่เป็นฝีที่ต่อมน้ำเหลืองท่ี่ขาหนีบและรักแร้
แผลที่ขาหนีบแตกแล้ว ที่รักแร้ยังกลัดหนองอยู่
และเป็นเบาหวานด้วย

ไอ้เราแอบบดู ก็เห็นไอ้ตัวประหลาดเอบอยู่ข้างหลัง แลยสะกิดไอ้หมอมันดู
ไอ้ตัวนี้มันอ้างว่า มันเป็นเจ้ากรรมนายเวรตัวจริง(ไม่มั่วนิ่ม)ของคุณเธอ ติดตามกันมานานแล้ว
ตอนนี้ถึงเวลาแล้ว จะเอาชีวิตยายนี่ไปให้ได้ในภาย ๒ เดือนนี่
และในช่วงเวลานี้จะได้ทรมารมันซะให้หน่ำใจ อย่ามารักษาซะให้ยาก ตูไม่ยอม

ไอ้หมอมันทำตาปริบๆไม่ว่าไรหันดูไอ้คอมฯส่วนตัวมันพักใหญ่
แล้วหันมาคุยเสียงดังๆก้าข้าว่า
เฮ้ย..เองดู ไอ้นี่มันสุดโง่เลยว๊ะ หันซ้ายหันขวามันก็จะแก้แค้น เอาชีวิตท่าเดียว
พออีนี่มันตาย ก็มีสภาพเป็นจิตวิญญานแล้ว หมดโอกาศแก้แค้นอีกต่อไป
ไอ้นี่สุดไง่และงี่เหง้ามากเลย แค้นมาก จะเอาแต่ชีวิตท่าเดียว

ถ้าเป็นตัวข้านา(หมายถึงตัวไอ้หมอนะ) การชำระแค้นนี้มันต้องละเมียดละไมกว่านี้หน่อย
มองหน้าไอ้หมอมัน เห็นมันขยิบตาให้ ไอ้เราก็นึกรู้ เอาอีกแล้วไอ้หมอสวมวิญญานศรีธนนชัยอีกแล้ว
เราก็เลยสวมรอยไปถามเสียงดังไปว่า
ถ้าเป็นเอง จะทำไง

ไอ้หมอได้ที เลยรีบพูดว่า พวกมนุษย์นะปอดแหกตายหะ ทำให้มันรู้ซิว่ามีคนทวงหนี้อยู่ ขู่มั่งปลอบมั่ง เดี๋ยวมันก็วิ่งแจ้นมาขอขมา
ตอนนี้นะก็ถึงทีข้าละวะ ตบหัวแก้แค้นซะให้หน่ำจาย แต่อย่าให้มันตายนา เดี๋ยวมันก็เสนอสินไหมให้ จะเรียกอะไรละ ได้ท้างน้าน
พอมันเอาสินไหมมานะเราก็เพลามือหน่อย พอให้มันหอบหายใจ
แล้วก็ ทุบมันอีก
ฮิฮิ แค้นก็ได้แก้ สินไหมก็มี ยิ่งยืดเวลาเท่าไหร่ ยิ่งกำไร ว๊ะ
ไอ้นี่มันโง่ก็ปล่อยมัน