เมนูปลาหมึกหลังบอลโลก อิอิ

ปลาหมึกยัดไส้ทอดกระเทียมพริกไทย




ส่วนประกอบ

1. ปลาหมึก ตัวขนาดกลาง
2. ไก่สับ หรือหมูสับ
3. วุ้นเส้น
4. รากผักชี กระเทียม และพริกไทย
5. ซีอิ๊วขาว


วิธีทำ

1. นำปลาหมึก ที่ลอกหนังออกเรียบร้อยแล้ว มาล้างให้สะอาด ควักไส้ออกให้เรียบร้อย
2. จากนั้นนำไก่สับ(หรือหมูสับ)ไปคลุกกับรากผักชี กระเทียม พริกไทยที่โขลกแล้ว ตามด้วยวุ้นเส้นที่ลวกแล้ว ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวเล็กน้อย
3. เมื่อส่วนผสมของไส้เข้ากันดีแล้ว ก็นำส่วนผสมยัดไปในตัวปลาหมึก
4. ตั้งกระทะให้ร้อน ก่อนจะใส่รากผักชี กระเทียม พริกไทยที่โขลกจนเข้ากัน(ในการโขลกครั้งที่ 2 นี้ ควรใส่กระเทียมหลังสุด เพราะเนื้อกระเทียมจะได้ไม่เละจนเกินไป) และตามด้วยปลาหมึก ใช้ไฟอ่อน(มิฉะนั้น อาจะทำให้กระเทียมของคุณไหม้ก่อนที่ปลาหมึกจะสุกได้) เพื่อให้เนื้อในของไส้สุกอย่างทั่วถึง ที่สำคัญ ควรใช้ไม้จิ้มฟัน เจาะลงไปตามตัวของปลาหมึก เพื่อให้ความร้อนกระจาย ไส้ภายในปลาหมึกจะได้สุกอย่างทั่วถึง
5. ลองนำไม้จิ้มฟันจิ้มดูอีกครั้ง ถ้าไม่มีน้ำในตัวปลาหมึก หรือเนื้อไก่ที่เป็นไส้ด้านในติดขึ้นมา แสดงว่าใช้ได้แล้ว ก่อนที่จะจัดใส่จาน เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อน ๆ

www.borworn.net/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&p=2249

 

<!-- m -->http://news.sky.com/skynews/Home/Strang ... uth_Africa<!-- m -->





แค้นๆๆๆๆๆๆๆๆ

 

ปลาหมึกย่าง

"ลิขิตฟ้า หรือจะสู้ มานะคน"
​

อาชีพเสริม ที่ใครๆ ก็ทำได้ สำหรับวันนี้ คือ "ปลาหมึกย่าง" workdeena อยากแนะนำให้เพื่อนๆ ได้รองทำขายกันดูนะ มันสามารถทำกำไรได้ดีพอสมควร เพราะเป็นอาหารที่หลายๆ คนชอบทานกัน และวิธีการทำก็ไม่ยุ่งยากเลย แล้วก็ยังสามารถขายได้ในช่วงเย็น หรือหลังเลิกงานแล้วได้อีก อาชีพนี้จึงเหมาะที่จะเป็นอาชีพเสริมได้ดีทีเดียว

- ปลาหมึกในบ้านเรามีกันอยู่หลายชนิด ที่นิยมทานกันคือ หมึกกระดอง และหมึกกล้วย แต่ปลาหมึกที่เราพูดถึงในวันนี้ คือ หมึกกระดอง ลักษณะของมันจะมีตัวที่แบนใหญ่สีขาว เป็นปลาหมึกที่นิยมนำมาย่างเป็นที่สุด และเนื้อก็อร่อยมากๆ นะ แถมราคาก็ไม่แพงเกินไป นำมาย่างขาย ตัวละ 10 บาท ก็ยังได้กำไร


วิธีทำ ปลาหมึกย่างนั้นก็ไม่ยาก
ส่วนผสม

1. ปลาหมึกสด (ปลาหมึกกระดอง)
2. ซี่อิ๊วดำ
3. น้ำเปล่า

วิธีทำ

• ให้นำน้ำเปล่าผสมกับซีอิ๊วดำ ในอัตราส่วน 2 :1 คือน้ำ 2 ส่วน และซีอิ๊ว 1 ส่วน

• ส่วนปลาหมึกก็ทำความสะอาดข้างในตัวปลาให็เรียบร้อย แต่อย่าผ่าออกนะ

• หลังจากนั้น ก็นำปลาหมึกไปแช่ในน้ำซีอิ๊วที่เราทำเตรียมไว้ และยกแช่ในตู้เย็น หรือถังน้ำแข็งก็ได้ ประมา 2 - 3 ชั่วโมง แล้วนำออกมาเสียบไม้ย่างขายได้เลย

ส่วนน้ำจิ้ม

• ก็เป็นน้ำจิ้ม ซีฟู้ดแบบธรรมดา คือ พริกสด, กระเทียม, น้ำตาล, น้ำปลา, มะนาว แล้วนำทุกอย่างปั่นรวมกัน ชิมรสชาติตามชอบ แต่ให้รสจัดสักหน่อย หลังจากนั้นก็หั่นผักชี โรยหน้านิดหน่อย ก็เป็นอันเสร็จ พร้องออกขายได้แล้ว

- workdeena เคยเห็นเขาขายกันที่ตัวละ 10 บาท ถ้าเป็นหนวดปลาหมึก ก็จะขายที่ไม้ละ 5 บาท ถ้าเป็นปลาหมึกขนาดใหญ่เขาขายกันตัวละ 20 บาท แต่ถ้าเป็นปลาหมึกขนาดใหญ่พิเศษ จะขายกันที่ตัวละ 50 บาท ทุกอย่างเสียบไม้ละหนึ่งตัวเท่านั้น ถ้าใครสนใจก็ลองทำขายกันดูนะ ได้ผลอย่างไรก็บอกกันบ้างนะ ขอให้ทุกคนโชคดีนะ

workdeena.blogspot.com/2009/10/blog-post_06.html

ปลาหมึกย่างเป็นอาชีพเสริมได้ด้วย อย่างนี้ต้องจัดการเลย แก้แค้นสี่ปีเลย อิอิ ^^ เจอกันปี 2014 หมึกพอลกลายเป็นหมึกย่าง ฮ่าๆๆๆๆๆ

 

หมึกผจญเพลิง


เครื่องปรุง

ปลาหมึก 1/2 กิโลกรัม
กุ้งชีแฮ้สด 300 กรัม
ไข่ขาว 2 ช้อนโต๊ะ
พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
ซีอิ้วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
น้ำมันงา 2 ช้อนชา
แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำเริ่มจาก ล้างปลาหมึกให้สะอาด แล้วหั่นเป็นชิ้นยาวประมาณ 2 นิ้ว นำไปลวกในน้ำเดือดจนงอตัวจึงตักขึ้นพักไว้ก่อน แล้วจึงไปจัดการกับกุ้ง ล้างให้สะอาด ผ่าหลังให้เรียบร้อยแล้วสับให้ละเอียด จากนั้นผสมพริกไทย เกลือป่น ซีอิ้วขาว น้ำมันงา และแป้งข้าวโพดคนให้เข้ากัน ใส่ไข่ขาวและเนื้อกุ้งสับลงไปผสมจนเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วเอาเนื้อกุ้งที่ผสมเครื่องปรุงเรียบร้อยแล้วนั้นใส่เข้าไปในชิ้นปลาหมึกที่ม้วนงออยู่

บรรจุกุ้งใส่ในปลาหมึกเรียบร้อยแล้ว เอาชิ้นปลาหมึกนั้นชุบไข่ขาว และคลุกด้วยขนมปังป่นอีกที เอาลงไปทอดในน้ำมันไฟปานกลางจนสุกเหลืองแล้วตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน กินกับน้ำจิ้มไก่อร่อยดี

เรียบร้อยแล้วกับ "หมึกกุ้งผจญเพลิง" เมนูกินเล่นเป็นอาหารว่าง หรือจะกินเป็นกับข้าวก็ได้

foods-thi.co.cc/1_110_-.html

 

กินปลาหมึกยักษ์กันไหมคะ (แถมพายบร็อกโคลี่เบคอนด้วยค่ะ

<!-- Main -->[SIZE=-1]ชอบกินปลาหมึกยักษ์กันไหมคะ ไอ้เจ้าปลาหมึกที่มันมีหนวดยุ่บยั่บแปดเส้น ที่สมัยเราเด็กๆอ่านใต้ทะเลสองหมื่นโยชน์แล้วมันเอาหนวดรัดเรือดำน้ำจนจมนั่นล่ะค่ะ เจ้าปลาหมึกแบบนั้นแหล่ะ

จขบ.เองเฉยๆกับปลาหมึก กินก็ได้ ไม่กินก็ได้ กุ้งสิ อีกเรื่อง แฮ่ แต่ว่าท่านผู้มีอุปการะคุณ (อีกชื่อของสามี) ชอบกินมากๆๆ เรียกว่าสมัยอยู่กรุงเทพ ไปร้านอาหารญี่ปุ่นเป็นต้องสั่งซาชิมิหนวดปลาหมึกยักษ์นี่มาทุกที แล้วมันก็แสนจะแพงจับใจเชียว (ยิ่งถ้ากินที่ AOI นะคะ กลับบ้านตัวเบาเลย)

ปรากฎว่าที่กรีซนี่ก็มีปลาหมึกยักษ์แบบนี้เยอะมากๆๆๆ เรียกว่าตามร้านอาหารทะเลจะแขวนให้หนวดย้อยลงมาหน้าร้านเป็นการเรียกลูกค้าเชียวค่ะ แล้วก็ตามเกาะต่างๆก็จะแขวนไว้กับเชือกระโยงระยางไปหมด วันกลังจะถ่ายรูปมาให้ดูนะคะ เมื่อวันก่อน จขบ.ก็เลยลองทำปลาหมึกยักษ์นี่กินดูค่ะ ทำสองอย่างง่ายๆมีหนวดปลาหมึกดองน้ำส้มแบบญี่ปุ่น หรือ ika sunomono กับซาชิมิหนวดปลาหมึกค่ะ

เดี๋ยวเอารูปปลาหมึกไปดูก่อน เหมือนเอเลี่ยนมั่กๆ








ดูแล้วมันไม่น่ากินเลยจริงๆใช่ไหมคะ แต่เดี๋ยวพอเราทำสุกแล้วมันก็จะเป็นสีขาวๆน่ากิน อ้อ ตอนนี้มันตายไปแล้วนะคะ ตั้งแต่ซื้อมามันก็ตายแล้ว ไม่เหมือนหอยตลับอะไรแบบนั้นค่ะ

วิธีทำง่ายมาก พัทใช้สองสูตรค่ะ แรกเลยล้างให้สะอาด เอาให้สะอาดจริงๆ อย่าให้มีทรายหรือสิ่งสกปรกติด แล้วก็เอาหม้อใบใหญ่ๆตั้งไฟอ่อนๆ เอาปลาหมึกใส่ลงไป ปิดฝาทิ้งไว้ครึ่งชั่วโมง มันก็จะสุกค่ะ วิธีนี้สำหรับคนที่ชอบให้ปลาหมึกไม่เหนียวมากนะคะ วิธีที่สองนี่เหมาะกับทำซาชิมิมากกว่า คือหั่นปลาหมึกออกทีละหนวดแล้วเอาใส่เตาอบที่เปิดไฟไว้ 300 องศาฟาเรนไฮท์ ซัก 15 นาทีก็สุกค่ะ หนวดจะเป็นสีม่วงๆอมชมพูแบบในรูปนะคะ (ในรูปนี่หั่นออกไปกินแค่สองหนวดค่ะ ที่เหลือทำให้สุกเก็บไว้แช่ตู้เย็นทำผัดกะเพราหรือเมนูอื่นๆต่อ)






นี่ล่ะค่ะ รูปตอนสุกแล้ว มีควันด้วย กำลังร้อนเลย แอบคิดว่าเหมือนมงกุฎนางงามเหมือนกันแฮะ

ส่วนวิธีทำหนวดปลาหมึกดองน้ำส้มก็ไม่ยากเลยค่ะ ใช้แค่งาคั่ว แตงกวาซอยบางๆ ขิงซอย ถ้าไม่ชอบก็ไม่ต้องใส่นะคะ มิริน คิขุมัง น้ำตาลทราย น้ำส้มสายชู (เกลือ/มะนาว สำหรับตัดสรนิดหน่อยค่ะ) แรกเลยซอยแตงกวา ขิง หั่นปลาหมึกเป็นชิ้นๆ วางเรียงในถ้วย เอาส่วนผสมดองน้ำส้มตั้งไฟให้ละลายหมดแล้วก็ชิมรสตามชอบนะคะ ให้เปรี้ยวนำนิดๆ เค็มๆหวานๆ แล้วรอให้เย็นลง ราดบนปลาหมึกแล้วโรยงาคั่ว แช่ตู้เย็นซักชั่วโมง กินหน้าร้อนชื่นใจจริงๆเลยค่ะ (แต่จขบ.ดันทำกินหน้าหนาวซะได้ ฮือ)




ส่วนซาชิมิก็แค่หั่นชิ้นพอคำ ใส่จาน กินกับคิขุมังและวาซาบิค่ะ

เนื้อขาวแล้ว




เนื้อมันจะหวานๆเคี้ยวมันมากเลยค่ะ ยิ่งถ้าสดๆ นะคะ อร่อยมากๆ จิ้มน้ำจิ้มทะเลก็เด็ดค่ะ

หมดไปอีกวันก็ต้องมานั่งคิดประสาแม่บ้านอยู่แต่ในครัวว่าจะทำอะไรกินดี หน้านี้บร็อกโคลี่เยอะ เลยทำพายบร็อกโคลี่ค่ะ ไม่ยาก แต่ยุ่งกับการล้างเก็บอุปกรณ์เล็กน้อย สูตรนี้อ้างอิงจากสูตรคุณปริสนา บุญสินสุขแต่ว่าปรับของนิดหน่อยค่ะ

แรกเลยคือแป้งพายนะคะ Rich short crust pastry หรือแป้งพายร่วนกรอบชนิดกรอบมากค่ะ มี แป้งอเนกประสงค์ 250 กรัม เกลือครึ่งช้อนชา เนยสดรสจืดตัดเป็นชิ้นเล็กๆ 125 กรัม ไข่แดง 2 ฟอง น้ำเย็นจัด 2 ช้อนโต๊ะ

แป้งพายนี่จากประสบการณ์จริงเหมือนกัน ตอนแรกไม่รู้ว่าความเย็นสำคัญกับความกรอบร่วนของพาย ดันละลายเนยและนวดมากไป ผลคือแป้งไม่คงรูป พออบปุ๊บก็ห้อยย้อยน่าเกลียดกินไม่ได้ค่ะ วิธีทำแป้งพายขอให้ใช้น้ำเย็นจัด เนยเย็นจัดนะคะ แรกเลยก็ร่อนแป้งกับเกลือ ใส่เนย ใช้ปลายนิ้วขยี้ให้ส่วนผสมร่วนเหมือนทรายหยาบๆ ผสมไข่แดงกับน้ำเย็นแล้วเทลงในส่วนผสมแป้ง ใช้พายโลหะหรือส้อมคนให้เข้ากันเป็นก้อน แล้วเทลงบนโต๊ะที่โรยแป้งไว้ ตะล่อมให้เป็นก้อน นวดเบาๆให้เนียน ปั่นเป็นก้อนกลม กดให้แบนลงเล็กน้อย ห่อพลาสติกแช่เย็นอย่างน้อยครึ่งชั่วโมงค่ะ

ส่วนไส้นี่จริงๆตามสูตรไส่แฮม แต่พัทไม่มีเลยเอาเบคอนทอดพอให้มันละลายใส่แทนค่ะ
ตามสูตรใช้ บร็อคโคลี่ตัดเป็นดอกๆต้มพอสุก 2 ถ้วย พัทไม่ได้ต้มนะคะ ใช้สดๆเลย ไม่ชอบสุกนิ่มๆน่ะค่ะ แฮมหั่นชิ้นเล็กๆ 200 กรัม ครีม 80 มิล นมสดรสจืด 80 มิล ไข่แดง 1 ฟอง ไข่ 2 ฟอง เนยแข็งกรูแยร์หรือเชดดาร์ขูด 60 กรัม เกลือ พริกไทย พัทใส่ไข่สามฟองแทนน่ะค่ะ ดันลืมแยกไข่ขาวอีกฟอง เอิ้ก แล้วก็ใส่ผงลูกจันทน์ป่นด้วย ชอบกลิ่นมันน่ะค่ะ

วิธีทำนะคะ
1. เปิดเตาอบให้ร้อน 200 องศาเซลเซียส

2. คลึงแป้งพายกรุถาดถอดก้นขนาด 14 คูณ 4 นิ้ว จิ้มก้นพายด้วยส้อมให้ทั่ว กรุฟอยล์แล้วเอาข้าวสารหรือถั่วเขียวใส่ (blind baking ไม่ให้แป้งมันฟูแฉะตรงก้นน่ะค่ะ) อบ 10 นาที เอาฟอลย์กับถั่วออก อบอีก 5 นาทีให้เหลืองอ่อนๆ

3. พักแป้งพายให้เย็นแล้วลดความร้อนเหลือ 190 องศา

4. เรียงแฮมกับบร็อกโคลี่ให้เต็มถาด

5. ผสมครีม นม ไข่ ไข่แดง ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย ใส่เนยแข็งขูด ตักใส่ถาดอบ

6. เข้าเตาอบจนส่วนผสมไข่อยู่ตัวและแป้งเป็นสีสวยประมาณ 25-30 นาที

พอทิ้งไว้ข้างนอกแล้วไส้มันจะแข็งขึ้นนิดนึงนะคะ เพราะงั้นถ้ามันเหลวนิดๆ ชีสยืดหน่อยๆไม่ต้องตกใจค่ะ จริงๆพัทก็เคยกินสูตรนี้ตอนเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่สวีเดนนะ แม่ทางโน้นทำไม่เคยชั่งตวงวัดอะไรเลย นมกับไข่ก็ตีๆๆๆใส่ลงไป ออกมาอร่อยเหมือนกันค่ะ สรุปว่าสูตรนี้ใครทำขอการันตี กินได้อร่อยแน่นอน ฮ่า






ภาพสุดท้ายนี่ออกจากเตาปุ๊บตัดปั๊บ ไส้เลยยังไม่แข็งเท่าไหร่ค่ะ แต่ทิ้งไว้พักนึงมันก็จะแข็งค่ะ อ้อ ขอบอกว่าแป้งพายคุณปริสนาอร่อยมาก เพราะฟูเป็นชั้นๆ ร่วนกินอร่อยสมชื่อสูตรเลยค่ะ[/SIZE]<!-- End main-->

www.bloggang.com/mainblog.php?id=bookaholic&month=05-11-2006&group=1&gblog=2​

 

ลูกชิ้นปลาหมึกกรอบระเบิด​

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>สิ่งที่ต้องเตรียม

เนื้อปลาหมึกบดหยาบ 300 กรัม

​

เนื้อหมูบด 300 กรัม

แป้งทอดกรอบสำเร็จรูป 1 ซอง
ต้นหอมซอย 2 ช้อนโต๊ะ
ผักชีซอย 2 ช้อนโต๊ะ
รากผักชีหั่นละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ
กระเทียมหั่นบาง 2 ช้อนโต๊ะ
พริกไทยป่น 2 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
ผงปรุงรสไก่ 1 ช้อนชา
เกลือป่น 1 ช้อนชา
ซอสปรุงรส 2 ช้อนโต๊ะ
ไข่แดง 2 ฟอง
น้ำ 1 ½ ถ้วยตวง
ขนมปังแซนวิชหั่นชิ้นเล็กอบกรอบ 300 กรัม
ผักสดสำหรับแต่ง​

น้ำมันพืชสำหรับทอด

​

วิธีทำ

​

- โขลกรากผักชีกับกระเทียมและพริกไทยป่นจนละเอียด
​

​

- ละลายแป้งทอดกรอบ 1 ซอง กับน้ำเข้าด้วยกัน

- เคล้าผสมเนื้อปลาหมึกกับเนื้อหมู แป้งทอดกรอบ 1ซองที่เหลือ เครื่องที่โขก ส่วนผสมที่เหลือ และเครื่องปรุง ทั้งหมดเข้าด้วยกัน
- แบ่งส่วนผสมลูกชิ้นเป็นลูกกลม คลุกลงในชิ้นขนมปังแซนวิชที่หั่นเตรียมไว้ให้ทั่วทั้งชิ้นจุ่มลุกชิ้นปลาหมึกลงในแป้งทอดกรอบที่ละลายเตรียมไว้ตักขึ้นแล้วทอดในน้ำมันพืชจนสุก
- รับประทานลูกชิ้นปลาหมึกกรอบคู่กับน้ำจิ้มไก่​

​

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" align=left><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>

maewfood.blogspot

Pitchaya's Food​

​

</TD></TR></TBODY></TABLE>



</TD></TR></TBODY></TABLE>​

 

เจ้าพอลเป็นเหตุ อิอิ
ใครหนอจะประมูลตัวเจ้าพอลมาเป็นอาหารน้อ

 

เจ้าพอลเป็นเหตุ อิอิ
ใครหนอจะประมูลตัวเจ้าพอลมาเป็นอาหารน้อ

 

ว่าแล้วก็มาดูรูปกันดีกว่า
ว่าอาหารทะเลสด ๆ ที่เกาหลี กับที่เมืองไทย ต่างกันมากน้อยแค่ไหน
เริ่มต้นด้วยหนวดปลาหมึกขนาดใหญ่ยักษ์ ยาวถึง 3-4 ฟุตเห็นจะได้

แบบเป็นตัว ๆ ก็มีค่ะ
ใหญ่มาก ๆ

อันนี้ไม่เคยทานสักที
เคยเห็นเค้าผ่า เอาเนื้อด้านในออกมา เป็นกลม ๆ สีขาว

อันนี้เรียกว่าตัวอะไร ไม่ทราบจริง ๆ ค่ะ
ยังตัวเป็น ๆ อยู่เลยค่ะ กระดึ๊บ ๆ คล้าย ๆ หนอน ^^


koreastory.org/seafood_garak_market/

ฮ่าๆๆๆๆ ที่เหลือกดลิงค์ตามไปดูเองแล้วกัน เพื่อนๆหมึกพอล

 

พักก่อนเดี๋ยวมายำปลาหมึกพอลต่อ

 

ไอ้หมูมั่วจอมโหด ขนมาเยอะขนาดนี้กินให้หมดนะ

 

น่าัรับประทานจังครับ อิอิ

 

ปลาหมึกทอดกระเทียม

<!-- Main -->[SIZE=-1]
<CENTER></CENTER>


<CENTER></CENTER>


<CENTER></CENTER>

สืบเนื่องจากมื้อก่อนทำ "ปลาหมึกผัดกะปิ" แล้วปลาหมึกเหลืออีกประมาณครึ่งนึง แต่ไม่ถึงดีหรอกค่ะ เหลือน้อยกว่าที่ทำ "ปลาหมึกผัดกะปิ" นิดหน่อย เช้านี้แฟนจุ๋มเค้าเรียกร้อง "ปลาหมึกทอดกระเทียม" จุ๋มก็จัดการทำให้ ได้มาแบบที่เห็นนี้นะคะ เมื่อก่อนนี้เคยมีปัญหาเรื่องทำ "ปลาหมึกทอดกระเทียม" ทีไร ได้มาแบบแฉะ ๆ ทุกที ตอนหลังปรับปรุงใหม่ อะไรที่เคยทำแล้วมันไม่ดี ไม่ทำต่อ ก็คิดเองเออเองและสรุปเองได้ว่า เคล็ดลับของ "ปลาหมึกทอดกระเทียม" แบบแห้ง ๆ นั้นคืออะไร ลองมาดูกันนะคะ



<CENTER></CENTER>

"ส่วนผสมปลาหมึกทอดกระเทียม"
ปลาหมึกสด (เน้นว่าต้องสด ไม่สดหมดอร่อย) ที่เห็นเหลือ 200 กรัมค่ะ
รากผักชี
กระเทียม
พริกไทย
น้ำมันหอย
ซีอิ๊วขาว
น้ำมันพืช
น้ำเปล่า



<CENTER></CENTER>

แบร๋ แบร๋ มา up ต่อ พักนี้ขี้เกียจเปิดคอม ฮิฮิ กินเสร็จนอน หลับทุกที

ปลาหมึกเลือกซื้อที่สด ผิวหนังไม่ถลอก ลำตัวแข็ง จัดการทำปลาหมึก เคยอธิบายไปใน blog ก่อน ๆ นะคะ ลองหาดู หั่นท่อนตามขวาง หนาประมาณ 1 เซนติเมตร



<CENTER></CENTER>

จริง ๆ ส่วนผสมหลัก ๆ ก็มีแค่นั้น แต่เพื่อเพิ่มสีสันให้อาหาร หาผักชีมาโรยสักหน่อยนะคะ



<CENTER></CENTER>

และที่ขาดไม่ได้ ผักเคียงข้างเสียหน่อย แตงกวาค่ะ จัดการล้าง ปอกหรือไม่ปอกผิวก็ได้ หั่นแล้วแช่เย็นไว้ก่อนจะดีมาก



<CENTER></CENTER>

ลืมถ่ายรูปจานที่เป็นรากผักชีและกระเทียม ไม่เป็นไรนะคะ รากผักชีล้าง หั่นเป็นท่อนเล็กเพื่อช่วยให้โขลกง่าย จัดการเอารากผักชีใส่ครก



<CENTER></CENTER>

โขลกพอเริ่มละเอียด



<CENTER></CENTER>

ใส่กระเทียมตามลงไป กระเทียมจะมี 2 ส่วนนะคะ ส่วนที่ใส่โขลกรวมไปกับรากผักชีและพริกไทย ก็กะปริมาณเอาให้สมดุลย์กับปลาหมึก และอีกส่วนมากหน่อยสำหรับโรยหน้าด้านบน



<CENTER></CENTER>

โขลกต่อพอกระเทียมเริ่มละเอียด



<CENTER></CENTER>

ใส่พริกไทยป่นตามลงไป



<CENTER></CENTER>

โขลกพอเข้ากัน ตักขึ้นใส่ถ้วยพักไว้



<CENTER></CENTER>

เอากระเทียมส่วนที่จะโรยหน้าใส่ลงครกต่อ



<CENTER></CENTER>

โขลกพอหยาบ ๆ ไม่ต้องละเอียดค่ะ เพราะเดี๋ยวกินแล้วจะไม่เป็นชิ้นเป็นอัน ตักขึ้นใส่ถ้วยพักไว้



<CENTER></CENTER>

ตั้งน้ำหนึ่งหม้อ กะว่าพอลวกปลาหมึก



<CENTER></CENTER>

น้ำเดือดจัดแล้วใส่ปลาหมึกลงไปลวก ไฟแรง ไม่ต้องคนค่ะ ใช้วิธีเขย่าหากปลาหมึกไม่จมน้ำ ลวกพอปลาหมึกสะดุ้งไฟ ปิดเตา



<CENTER></CENTER>

เทน้ำที่ลวกปลาหมึกทิ้ง เอาปลาหมึกใส่กระชอนให้สะเด็ดน้ำ



<CENTER></CENTER>

ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชพอเจียวกระเทียมส่วนที่จะโรยหน้า



<CENTER></CENTER>

น้ำมันอุ่นแล้วเอากระเทียมลงไปเจียว ไฟกลางไปทางอ่อน คนเป็นระยะ ระวังจะไหม้



<CENTER></CENTER>

กระเทียมเริ่มเหลืองตักขึ้นใส่กระชอนให้สะเด็ดน้ำมัน



<CENTER></CENTER>

เตรียมเครื่องปรุง น้ำมันหอย 1 ช้อนสั้น ซีอิ๊วขาว 1 1/2-2 ช้อนสั้น น้ำ 1 ช้อนสั้น ใส่ถ้วยคนรวมกันไว้



<CENTER></CENTER>

กระทะใบเดิม เทน้ำมันส่วนเกินออกถ้ามากไป เหลือน้ำมันไว้เพียง 2 ช้อนโต๊ะ ตั้งไฟรอน้ำมันอุ่น



<CENTER></CENTER>

น้ำมันอุ่นแล้วเอาสามเกลอลงไปผัด ไฟกลางไปทางอ่อน ตะล่อมบ่อย ๆ ระวังไหม้



<CENTER></CENTER>

เจียวจนสามเกลอหอมและเริ่มเหลือง



<CENTER></CENTER>

เทปลาหมึกที่สะเด็ดน้ำแล้วลงไป



<CENTER></CENTER>

ตามด้วยเครื่องปรุงที่เตรียมไว้



<CENTER></CENTER>

ผัดให้เข้ากันและแห้งหน่อย ชอบแห้งมากแห้งน้อยแค่ไหนก็ตามใจนะคะ จะโรยพริกไทยป่นลงไปอีกหน่อยก็ได้ ตามชอบ ปิดเตา



<CENTER></CENTER>


<CENTER></CENTER>

ตักใส่จาน เอากระเทียมที่เจียวไว้โรย ตามด้วยผักชี ยกไปเสิร์ฟได้ค่ะ [/SIZE]<!-- End main-->

www.bloggang.com/mainblog.php?id=monnira&month=23-09-2007&group=63&gblog=30

 

ไม่ได้โหดนิ แต่แบบนี้ต้องกิน หมึกพอลโดนหม่ำๆ เอามาปิ้งขาย ปิ้งกิน



หมึกปิ้ง อร่อยๆ น้ำจิ้มสูตรเด็ดของพี่ปุญ อร่อยเข้ากันๆ

 

ปลาหมึกสอดไส้อบ

~ ปลาหมึกสอดไส้อบ ~​

<SCRIPT type=text/javascript>google_ad_client="pub-5047325755302756";google_ad_slot="3266337871";google_ad_width=200;google_ad_height=200;</SCRIPT><SCRIPT type=text/javascript src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("ads_core.google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT>

ส่วนผสม
• ปลาหมึก(ขนาดเล็ก) 1/2 กก.
• หมูบด 1/2 กก.
• กระเทียม 10 กลีบ
• พริกไทย 7 - 10 เม็ด
• รากผักชี 3 - 4 ราก
• เกลือป่น 1 ช้อนชา
• ไข่ไก่ 1 ฟอง


วิธีทำ
1. ปลาหมึกล้างหมึกให้หมด และดึงเยื่อให้เกลี้ยง(เอาหนวดไว้)
2. โขลกรากผักชี พริกไทย กระเทียม ให้ละเอียด เอาหมูบดลงคลุกเคล้าให้ทั่ว
3. ผสมเกลือและไข่ไก่ แล้วเอามาบรรจงลงในตัวปลาหมึก
4. เอาหัวปลาหมึกสอดปิดไว้ตามเดิมทำจนหมด จัดเรียงใส่ถาด ใส่น้ำมันในถาดพอทั่วถาด แล้วเอาเข้าเตาอบ
5. พอจวนสุก นำกระเทียมสับละเอียด โรยบนตัวปลาหมึกให้ทั่วทุกตัว อบต่อจนกระเทียมเหลือง
6. นำออกจากเตาอบ จัดเรียงใส่จานอาหาร ตกแต่งให้สวยงาม รับประทานกับผักกาดหอม หอมหัวใหญ่ มะเขือเทศ ต้นหอม ฯลฯ รับประทานกับซอสได้ทุกชนิดตามชอบ

happyfoodathome.blogspot.com/2009/10/blog-post_03.html
<SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/expansion_embed.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT>

 

ในปัจจุบันโรคหัวใจขาดเลือดเป็นสาเหตุของการตายอันดับต้นๆ ของคนไทย ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญคือ ภาวะไขมันในเลือดสูง ความดันเลือดสูง และการสูบบุหรี่ ซึ่งทั้งหมดเป็นปัจจัยที่สามารถควบคุมได้

ป้องกันโคเลสตอรอลสูงได้โดยลดหรือเลิกกินอาหารที่มีไขมันสูงโดยเฉพาะเครื่องในสัตว์ สมองหมู หนังสัตว์ ไข่เเดง(ไข่ขาวกินได้) ไข่ปลา ปลาหมึก หอยยางรม เป็นต้น
ปล. ดูบอล กินอิ่ม เเล้วช่วยออกกำลังกายกันด้วยนะค่ะ อิอิ

 

อย่าไปกินเลย โคเลสเตอรอลสูงมาก มันก็ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลยกระแสบอลโลกแท้ ๆ เลย

 

น่าทานมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หิวแล้วด้วย

 

ใจร้ายยย ทำกับน้องพอล เค้าได้ T T

 

อยากกินหมึกผัดใข่เค็ม