พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง

ขอมั่วมั่ง


ผู้ชายนามนายเป็นเลิศ อดน้ำเเละอาหารมา 3 วัน เกิดความหิวข้าวเเละหิวน้ำ
ความหิว หมายถึงความทุกข์ เเม่หุงข้าวเเละทำอาหาร คือ หนทางดับทุกข์
อาหารวางอยู่ตรงหน้า คือ บารมีอันพร้อมที่จะพ้นทุกข์ได้
นายเป็นเลิศ เห็นข้าว สำรับกับข้าว อีกทั้งน้ำเย็นๆ เเต่จะกินในอนาคต คือยังไม่ต้องการพ้นทุกข์ในตอนนี้ เเต่เป็นชาติต่อไป
เพราะเช่นนั่น นายเป็นเลิศ เป็นพุทธภูมิ มั้ง ............

 

ขอตีความตามความเข้าใจ ดังนี้ครับ

 

จากกระทู้เรื่องราววัดภูเหล่าเงินฮาง จ.อุบล กับการสร้างองค์ปฐม สมปราถนาได้ทันใจชื่อบัญชี พระอ่อนสา ฐิติคุโณ ธนาคาร กรุงเทพฯ จำกัด สาขา กิโลศูนย์ เลขบัญชี 340-4-11629-9 และงานกฐินวัดภูเหล่าเงินฮาง จ.อุบลวันที่ 14-15 ตุลาคม 49 นี้ หรือ กระทู้สโมสรนักบุญเหล่าเงินฮาง ร่วมสร้างสรรกับ คณะเบิกบาน บันเทิงบุญ ในปัจจุบัน



<TABLE class=tborder id=post347393 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">16-10-2006, 11:11 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#1486 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>sithiphong<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_347393", true); </SCRIPT>
สมาชิก
สมาชิกยอดนิยม



เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 05:04 PM
วันที่สมัคร: Dec 2005
ข้อความ: 6,305 <!-- Start Post Thank You Hack -->
Thanks: 3,902
Thanked 19,183 Times in 3,417 Posts <!-- End Post Thank You Hack -->
พลังการให้คะแนน: 2588





</TD><TD class=alt1 id=td_post_347393 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->.


กราบ กราบ กราบ นมัสการหลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า และหลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร) ครับ

.
<!-- / message --><!-- sig -->


</TD></TR></TBODY></TABLE>
***************************************************

ผมต้องกราบขออภัยทุกๆท่านด้วยนะครับ เรื่องรูปนี้ รูปนี้มีเพื่อนผมที่เป็นลูกศิษย์ของท่านอาจารย์ประถม ได้ไปหาข้อมูลมา ปรากฎว่าเป็นรูปที่มีการแต่งกันขึ้นมาใหม่ โดยใช้รูปสองรูปมาซ้อนกัน รูปพระทั้งสององค์จะเป็นรูปหลวงปู่อิเกสาโรทั้งสององค์ครับ ส่วนเรื่องประวัตินั้น ผมคงต้องให้คุณอนุชามาเรียนให้ทุกๆท่านทราบ แต่ผมเองเชื่อว่าคุณอนุชาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย

เรื่องรูป อาจมีผู้ที่โหลดไปเพื่อนำไปบูชานั้น ผมเห็นว่าไม่เป็นไรครับ ขอเพียงให้รู้ว่าเป็นหลวงปู่อิเกสาโรองค์เดียวกัน เป็นรูปสมมุติของท่าน ใช้ได้ครับ

รูปแรกนั้น เป็นรูปจากมีผู้นำมาให้คุณอนุชาที่วัดภูเหล่าเงินฮาง


รูปที่สองเป็นรูปที่มีบูชากันหลายๆแห่ง


รูปที่สามเป็นรูปจากหนังสือพุทธสยาม


รูปที่สี่เป็นรูปจากหนังสือพุทธสยาม โดยมีการแต่งขึ้นใหม่ เลียนแบบรูปแรกครับ



สาเหตุที่ผมต้องมาแก้ไขนั้น เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดขึ้นเป็นสำคัญ เรื่องนี้โดยส่วนตัวผมเห็นว่าสำคัญมากๆครับและเป็นความเบาปัญญาของผม โดยไม่ได้ตรวจสอบให้แน่ชัดเสียก่อน ผมกราบขออภัยทุกๆท่านอีกครั้งครับ

แต่ในส่วนอื่นๆแล้ว ยังยอดเยี่ยมครับ

.<!-- / message --><!-- attachments -->

 

ผมต้องขอขอบคุณเพื่อนทั้งสองคนด้วยนะครับ สำหรับข้อมูลเรื่องรูปครับ

(verygood) (b-flower) (bb-flower

.
<!-- / message --><!-- sig -->

 

ส่วนตัวเเล้วผมยังงง อยู่กับนายเลิศ
หิวข้าว..หลังจากอดมา3 วัน..เข้าใจว่านายเลิศคนนี้คงบำเพ็ญศีลหรือไม่ก็ต้องการพิสูจน์อะไรสักหย่าง
ให้เเม่เตรียมสำรับข้าว... อันนี้รู้สึกหิวเเน่ เเน่..
พอเเม่เตรียมสำรับข้าวเสร็จเเล้ว...กลับไม่ทาน ความรู้สึกเเรกบอกว่า น่า BIRD ( โทษฐานทำให้เเม่เหนื่อย)..ความรู้สึกถัดมา... ยังไม่มี
บอกเเม่ว่าจะเก็บไปกินในอนาคต...รู้สึกว่านายเลิศจะตระหนักถึงความพยายามที่มีน้อยไป ในการอดข้าว (อาจจะตั้งใจอดนานกว่านี้.)
.... ทานข้าวเถิด..เลิศ

 

มองได้ว่า นายเป็นเลิศไม่เข้าใจถึงอริยสัจ 4
หมายความว่า นายเป็นเลิศในปัจจุบันเกิดทุกข์เพราะความหิว
เหตุแห่งทุกข์คือตัวนายเป็นเลิศเองที่อดอาหาร
การดับทุกข์ก็คือการทำให้ความหิวหายไป
ต้องให้ใจของนายเเป็นเลิศนั้นเกิดความเห็นชอบ เห็นถูกต้องตามความเป็นจริง เห็นว่าอะไรคือทุกข์ อะไรคือเหตุแห่งทุกข์ สภาวะเช่นใดคือความดับไม่เหลือแห่งทุกข์ วิธีการใดคือทางปฏิบัติเพื่อความดับไม่เหลือแห่งทุกข์
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก่อนจะตรัสรู้ ท่านก็เคยบำเพ็ญทุกขกิริยาด้วยการทรมานตนเช่น อดอาหาร กลั้นหายใจ
แต่สุดท้ายท่านก็หันมาเดินทางสายกลาง ตัวอย่างนึงคือ รู้ประมาณในการบริโภค แล้วบำเพ็ญเพียรจนตรัสรู้ครับ

 

พระพิมพ์ที่ท่านอาจารย์ประถม อาจสาครได้เคยสร้างไว้อาทิเช่น พระปิดตาบินเดี่ยวหลวงปู่ทิม, พระผงดำถ้ำผาป่อง รุ่น 1 -2 และอีกมากมาย



.

 

คนที่ตอบถูกใจผมมีหลายคน คือ คุณ nehan, คุณ cylinderman, คุณ roy04

 

ผู้ตอบคนที่ 5 โมทนาสาธุครับ

.

 

เป็นผู้ตอบคนที่ 7 โมทนาสาธุครับ

.

 

เป็นผุ้ตอบคนที่ 8 โมทนาสาธุครับ

.

 

เนื่องจากทางกลุ่มลูกศิษย์ของท่านอาจารย์ประถม อาจสาครได้จัดทำหนังสือเกี่ยวกับพระพิมพ์ที่ท่านได้เคยสร้างไว้ หากท่านใดมีความประสงค์ที่จะได้ไว้เป็นสมบัติส่วนตัว ขอให้แจ้งผมได้โดยผ่านทางข้อความส่วนตัว ผมจะแจ้งหมายเลขบัญชีให้ทราบ หนังสือเล่มละ 200 บาท ค่าจัดส่งจำนวน 50 บาทต่อ 1 เล่ม หมดเขตการแจ้งความประสงค์วันอาทิตย์ที่ 22 ตุลาคม 2549 นี้ครับ หนังสือเล่มนี้ไม่มีวางขายตามท้องตลาดครับ

ผมขอสงวนสิทธิ์สำหรับผู้ที่เข้ามาจองนะครับ หากว่าเป็นผู้ที่ผมไม่เคยเห็นชื่อมาก่อน ผมขอสงวนสิทธิ์ไม่รับจองครับ ต้องขออภัยด้วย


ส่วนการจ่ายเงินค่าหนังสือนั้น วันสุดท้ายที่จะจ่ายเงินค่าหนังสือเป็นวันพุธที่ 25 ตุลาคม 2549ครับ

สำหรับท่านที่ติดตามกระทู้นี้ ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกเว็บไซด์พลังจิต ผมต้องขออภัยด้วยนะครับ ที่ไม่สามารถรับจองจากท่านๆได้ครับ ผมขอโทษนะครับ

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ :::เพชร:::
หนังสือเล่มนี้ ต่างจากเล่มสีน้ำเงินยังไงครับ

</TD></TR></TBODY></TABLE>
เล่มสีน้ำเงินก็คือ ชื่อหนังสือ วิเคราะห์พระพิมพ์สมเด็จฯ และพระสมเด็จท่านเจ้าคุณกรมท่า เจ้าพระยาภานุวงศ์มหาโกษาธิบดี (ท้วม บุญนาค) ซึ่งเขียนโดย ท่านปรัศนี ประชากร (เป็นนามปากกาของท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร )

แต่เล่มนี้ จะเป็นประวัติของท่านอาจารย์ประถม โดยย่อ จะมีเรื่องของพระพิมพ์ที่ท่านเคยสร้างไว้ จะมีเรื่องบทความที่เกี่ยวกับพระพิมพ์ (บางเรื่องผมนำมาลงให้อ่านกันในกระทู้นี้) บางเรื่องจะเป็นเรื่องที่ปรับปรุงจากของเดิมที่มีอยู่ จำนวนหน้านั้น ประมาณ 100 หน้ากว่าๆนิดหน่อยครับ มีรูปสี(รูปพระพิมพ์)ให้ชมกัน เป็นข้อมูลที่ผมคิดว่าไปหาจากที่อื่น จากเซียนเขียน ก็ไม่ตรงกับข้อมูลของท่านอาจารย์ประถมท่านเขียนครับ



หากท่านใดโอนเงินเข้าบัญชีแล้ว กรุณาช่วยแจ้งผมผ่านข้อความส่วนตัวด้วยนะครับ ว่าโอนเงินวันไหน จำนวนเงินเท่าไรครับ ไม่ต้องscan ใบนำฝากก็ได้ครับ
<!-- / message -->.<!-- sig -->
<!-- / message --><!-- sig -->

 

พระ

ขอจองหนึ่งเล่มครับ ไม่ทราบว่าเคยเห็นชื่อผมมาก่อน หรือเปล่าครับ ?
แล้วถ้าแจ้งผ่านทางข้อความส่วนตัว หมดเขตแจ้งเมื่อไหร่ครับ ?
ผมอยากโอนเงินให้เย็นนี้เลยครับ ขอเลขที่บัญชีด้วยได้ไหมครับ?
อ้อ...แล้วก็รบกวน ช่วยดูพระให้หน่อยได้มั๊ยครับ ?
เป็นพระกริ่ง เนื้อทองดอกบวบ น่าจะเก่า เพราะลงรักปิดทองไว้ด้วย
ด้านล่างของฐานพระเขียนว่า "กรุวัดพระแก้ว ๒๔๑๑" ครับ
โพสรูปมาให้ดูด้วย ๓ ภาพ
ขอบพระคุณล่วงหน้าครับ
จาก...นักรบ&นักรักภูเหล่าเงินฮาง

 

ขอถามว่า คำว่า"ท่าน" คือท่านใดครับ ท่านเจ้าฯ หรือ อ.จ.ประถม ครับ..

ขอจอง 3 เล่มโอนเงินวันที่ 25 ต.ค. ค่าส่ง 3 เล่ม =50 บาท หรือ 150 บาท ครับ

 

ตอบกระทู้

เดิมเข้าใจว่านายเป็นเลิศกำลังทรมานกายด้วยการอดอาหารจนในที่สุดรู้สึกถึงความหิวจึงขอให้แม่ช่วยทำอาหารให้เดิมทีคิดว่านายเป็นเลิศทรมานกายเพื่อหวังหลุดพ้นและในที่สุดก็พบทางอันดับทุกข์คืออาหารสามารถดับทุกข์ได้แต่นายบุญเลิศยังไม่ทานจะทานในอนาคตคิดว่านายบุญเลิศคงยังไม่รู้จักทางสายกลางตามทางที่พระสมเด็จพระสมนโคดมค้นพบคงต้องอดต่อไปหรือจนกว่าจะเข้าใจถึงการดับทุกข์ที่แท้ไม่ใช่การทรมานกายแต่เป็นการเข้าสู่ทางสายกลางเพื่อการดับทุกข์เข้าใจว่าแม่นายเป็นเลิศเหมือนพระโพธิสัตว์มาโปรดนายเป็นเลิศแต่นายเป็นเลิศคงยังขาดปัญญาบารมีจึงยังต้องทรมานต่อไป

 

จากรูปเป็นพระพิมพ์ที่สร้างและเข้าพิธีพุทธาภิเษกในปี พ.ศ.2451 ครับ รูปไม่ค่อยชัดเท่าที่ควร ผมเองก็มีครับ มีอยู่ 2 องค์

.

 

ท่านในที่นี้คือท่านอาจารย์ประถม อาจสาครครับ ส่วนท่านเจ้า ผมจะบอกว่าท่านเจ้า(กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ)ครับ

ส่วนค่าส่งหนังสือนั้น 100 บาท ผมเองไม่ทราบว่าน้ำหนักของหนังสือนั้น เท่าไร และค่าส่งเท่าไรครับ ที่เหลือผมออกให้ครับ

.

 

โมทนาสาธุครับ เป็นผู้ตอบคนที่ 9

.

 

ผมจะขอเล่าเกร็ดเล็กๆน้อยๆในเรื่องพระกรุวัดพระแก้วให้ฟังกันครับ<O</O
<O</O

เรื่องพระกรุวัดพระแก้วนั้น ก่อนที่จะรู้ว่าพระพิมพ์ไหนเป็นพระกรุวัดพระแก้วบ้าง ต้องศึกษาก่อนว่าพระกรุวัดพระแก้วนั้นมีการสร้างขึ้นเมื่อไร สร้างที่ไหนอย่างไร เนื้อหาทรงพิมพ์เป็นอย่างไร <O</O
<O</O

พระกรุวัดพระแก้วอาจแยกได้เป็น 3 ประเภทคือ<O</O
1.พระพิมพ์ที่สร้างขึ้นที่วังหน้า เริ่มสร้างประมาณปีพ.ศ.2400 ถึง ปี พ.ศ.2428 (เป็นปีที่ท่านเจ้า(กรมพระราชบวรวิชัยชาญ)ท่านทิวงคต ตามประวัติศาสตร์ <O</O
2.พระพิมพ์ที่สร้างขึ้นที่วังหลวง เริ่มสร้างขึ้นปี พ.ศ.2415 ถึง ปีพ.ศ.2453 (เป็นปีที่รัชกาลที่ 5 เสด็จสวรรคต)<O</O
3.พระพิมพ์ที่สร้างขึ้นที่วังหลวง เริ่มสร้างขึ้นปี พ.ศ.2453 จวบจนปลายรัชกาลที่ 6<O</O
<O</O

พระพิมพ์ที่สร้างขึ้นที่วังหน้านั้น ด้านหลังของพระพิมพ์จะเรียบเป็นส่วนใหญ่ ไม่มีครุฑ , เสมา , ตราเสนาบดี , สิงห์ แต่ถ้าพระพิมพ์ที่สร้างขึ้นที่วังหลวง ด้านหลังของพระพิมพ์จะมีตราครุฑ เนื่องจากครุฑเป็นสัญลักษณ์ที่พระมหากษัตริย์ใช้เท่านั้น แต่ถ้าด้านหลังของพระพิมพ์มีตราอื่นๆ จะเป็นของเหล่าขุนนางชั้นผู้ใหญ่เป็นผู้ให้สร้างขึ้น <O</O
<O</O

พระพิมพ์ที่สร้างขึ้นที่วังหน้าและวังหลวง(ปีที่สร้าง พ.ศ.2415 ถึง ปี พ.ศ.2428)นั้น มีพิธีพุทธาภิเษกหลวงที่วัดบวรสถานสุทธาวาส แต่ถ้าพระพิมพ์ที่สร้างขึ้นหลังจาก ปี พ.ศ.2428 เป็นพระพิมพ์ที่เข้าพิธีพุทธาภิเษกหลวงที่วัดพระแก้ว<O</O
<O</O

พระพิมพ์ที่สร้างขึ้นที่วังหน้าและวังหลวงนั้น มีเป็นจำนวนมาก ช่างสิบหมู่ 1 คน สามารถสร้าง(กดแม่พิมพ์)พระพิมพ์ได้วันละ 500 องค์ พระพิมพ์สร้างขึ้นตั้งแต่ ปีพ.ศ.2400 จนปลายรัชกาลที่ 6 ลองคิดดูกันเล่นๆว่า พระพิมพ์จะมีจำนวนกี่องค์ ผมเองเคยคุยกับท่านอาจารย์ประถม ผมถามว่าอาจารย์ครับ พระพิมพ์ทั้งของวังหน้าและวังหลวงสร้างมีประมาณสักกี่องค์ ท่านตอบผมว่า ไม่น่าจะน้อยกว่า 30.................................. 30 ล้านองค์ ผมก็ถามต่อว่าส่วนพิมพ์ของพระพิมพ์ละครับอาจารย์ มีสักกี่พิมพ์ ท่านอาจารย์ประถม ท่านบอกกับผมว่า มีเป็นร้อยพิมพ์ ผมถึงกับตะลึงว่า พระที่เราเก็บไว้นั้น ไม่ได้ 1 ใน 1000 เลย<O</O
<O</O

แต่พระพิมพ์ในขณะนี้นั้น เริ่มมีพระปลอมออกมาบ้างแล้วนะครับ ให้ระวังกัน ผมจะยกตัวอย่างให้ดูสักพิมพ์ คือพระพิมพ์ที่มีการลงมุกด้านหลังนั้น เขาจะใช้พลาสติกที่เป็นมุกติดเข้าไป เคยมีลูกศิษย์ของท่านอาจารย์ประถม ซื้อไป แล้วลองไปแกะดู ปรากฏตามที่ผมได้แจ้งไปครับ

.<O</O