พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

พี่ชนิดาและคุณมลครับ

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ บดินทรเทพยมหามงกุฏ บุรุษรัตนราชรวิวงศ วรุตมพงศบริพัตร วรขัติยราชนิกโรดม จาตุรันบรมมหาจักรพรรดิราชสังกาศ อุภโตสุชาติสังสุทธเคราะหณี จักรีบรมนาถ อดิศวรราชรามวรังกูร สุภาธิการรังสฤษดิ์ ธัญลักษณวิจิตรโสภาคยสรรพางค์ มหาชโนตมางคประนตบาทบงกชยุคล ประสิทธิสรรพศุภผลอุดม บรมสุขุมมาลย์ ทิพยเทพาวตารไพศาลเกียรติคุณอดุลยวิเศษ สรรพเทเวศรานุรักษ์ วิสิษฐศักดิ์สมญาพินิตประชานาถ เปรมกระมลขัติยราชประยูร มูลมุขราชดิลก มหาปริวารนายกอนันต มหันตวรฤทธิเดช สรรพวิเศษสิรินทร อเนกชนนิกรสโมสรสมมติ ประสิทธิ์วรยศมโหดมบรมราชสมบัติ นพปดลเศวตฉัตราดิฉัตร สิริรัตโนปลักษณมหาบรมราชาภิเษกาภิลิต สรรพทศทิศวิชิตชัย สกลมไหสวริยมหาสวามินทร์ มเหศวรมหินทร มหารามาธิราชวโรดม บรมนาถชาติอาชาวศรัย พุทธาทิไตยรัตนสรณารักษ์ อดุลยศักดิ์อรรคนเรศราธิบดี เมตตากรุณาสีตลหฤทัย อโนปมัยบุญการสกลไพศาล มหารัษฎาธิบดินทร ปรมินทรธรรมิกหาราชาธิราช บรมนาถบพิตร พระจุฬาลงกรณ์เกล้าเจ้าอยู่หัว





http://palungjit.org/threads/เம.ml#post2527399

หน้าที่ 1718 ลว.22 ตุลาคม 2552

 

อ่า ต้องเตรียมพร้อมไว้ก่อน

พลาดแล้วจะแก้ไขไม่ทัน หุหุหุ

โมทนาบุญกับน้องกวงด้วยครับ
.

 

เรียนพี่ชนิดาครับ

หากต้องการทราบประวัติหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร (คณะโสณะ-อุตระ) ลองหาอ่านดูนะครับ



.

 

รูปหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน

 

อ้าวไม่เห็นให้ผมบ้างเลยครับ หุ หุ

 

"สนิมกินเหล็ก กิเลสกินใจ" สาระธรรม มงคล หลวงปู่ท่อน ญาณธโร วัดศรีอภัยวัน จ.เลย.......

 

เหอๆๆ ผมไม่ได้ให้พี่ชนิดาครับ

แต่ว่า รุ่นที่พี่ชนิดาห้อยวันอาทิตย์ที่ผ่านมา จะเป็นอีกพิมพ์ซึ่งหาได้ยากมากๆ ผมเองก็ไม่มีครับ

.

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>สั่งผู้ตรวจฯจัดการ “ไข้เลือดออก” - “อหิวาต์” ใกล้ชิดเป็นพิเศษ
Quality of Life - Manager Online
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>28 มิถุนายน 2553 19:39 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> สธ.เฝ้าระวังไข้เลือดออก-อหิวาต์ จับตาพิเศษ พร้อมสั่งผู้ตรวจราชการทุกจังหวัด ติดตามใกล้ชิด หลังพบผู้ป่วยไข้เลือดออกกว่า 26,000 ราย ตาย 30 ราย ส่วนป่วยอหิวาต์ ทั้งไทย-เทศ รวม 982 ราย

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=430 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=430> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมผู้บริหารระดับสูง สธ.ว่า ได้มอบหมายให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข ติดตามดูแลโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ คือไข้เลือดออก และอหิวาตกโรค ซึึ่งไข้เลือดออกตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-22 มิ.ย.2553 มีผู้ป่วยรวม 26,185 ราย เสียชีวิต 30 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน จำนวน 6 ราย ได้แก่ จ. สงขลา 2 ราย นครศรีธรรมราช นครราชสีมา อุดรธานี และ ชัยนาท จังหวัดละ 1 ราย โดยจำนวนผู้ป่วยรายภาค มีดังนี้ ภาคใต้ 6,976 ราย รองลงมาคือ ภาคกลาง 9,823 ราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 6,579 ราย และภาคเหนือ 2,807 ราย

นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า สำหรับอหิวาตกโรคตั้งแต่ 1 ม.ค.-20 มิ.ย.2553 พบผู้ป่วยทั้งสิ้น 982 ราย เป็นคนไทย 708 ราย และต่างชาติ 274 ราย โดยพบในภาคใต้จำนวน 505 ราย ภาคเหนือ 279 ราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 166 ราย และภาคกลาง 32 ราย มีผู้เสียชีวิตรวม 5 ราย อยู่ที่จังหวัดปัตตานี 3 ราย สงขลา และตราด จังหวัดละ 1 ราย จังหวัดที่มีผู้ป่วยมากที่สุดคือ จ.ตาก และ ปัตตานี คิดเป็นร้อยละ 82.3 ของผู้ป่วยทั้งประเทศ ซึ่งผู้ตรวจราชการประจำเขตจะได้ลงพื้นที่ดูแลแก้ไขปัญหาอย่างใกล้ชิดต่อไป

ด้านดร.พรรณสิริ กุลนาถศิริ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงสถานการณ์โรคไข้เลือดออก ว่า กลุ่มอายุที่ป่วยเป็นโรคดังกล่าวมากที่สุด คือ กลุ่มอายุ 15-24 ปี รองลงมาเป็นกลุ่มอายุ 10-14 ปี และกลุ่มอายุ 5-9 ปี สำหรับอหิวาตกโรค ซึ่งเป็นโรคประจำถิ่นของไทย พบรูปแบบการระบาดใหญ่เป็นแบบ 1 ปีเว้น 2 ปี โดยการระบาดใหญ่ครั้งล่าสุดอยู่ในปี 2550 มีผู้ป่วย 986 ราย เสียชีวิต 7 ราย และลดลงในปี 2551-2552 เหลือปีละประมาณ 200-300 ราย เสียชีวิต 2-3 ราย

ด้านนพ.มานิตย์ ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวว่า สำหรับธุรกิจการส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารแช่แข็งนั้น สถานประกอบการได้มีการควบคุมป้องกันโรคอหิวาตกโรคอย่างเข้มข้นร่วมกับควบคุมโรค โดยโรงงานมีมาตรการตรวจหาการปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียในผลิตภัณฑ์ก่อนจะส่งออกไปจำหน่าย ทั้งนี้ หากจังหวัดใดพบการระบาดของอหิวาตกโรคจะไม่สามารถส่งออกได้
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

เรียนท่านสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้า , สมาชิกคณะพระวังหน้า และ สมาชิกกองทุนหาพระถวายวัดทุกๆท่าน

ขอเชิญทุกๆท่านมาร่วมทำบุญในการสร้างพระพุทธรูป พระพุทธเจ้า 5 พระองค์กัน โดยหากทำบุญทั้งหมด(5รายการ) เป็นยอดเงินทำบุญ 7,936.บาท









ผมจะรวบรวมเงินที่ทุกๆท่านที่มีความประสงค์จะร่วมทำบุญ เพื่อโอนเข้าบัญชี (บช.ออมทรัพย์ 2030-06304-5 บัญชี รร.พระปริยัติธรรมบ่อเงินบ่อทองบมจ.ธ.กรุงไทย สาขาพนมสารคาม)

ผมรบกวนขอให้ทุกๆท่านแจ้งรายละเอียดในการทำบุญว่า ท่านมีความประสงค์ที่จะร่วมทำบุญในรายการไหน จำนวนเงินเท่าไหร่ด้วยครับ เพราะผมจะลงเป็นรายละเอียดและเรียนหลวงพ่อแผนให้ท่านทราบด้วย

ผมจะโอนเงินร่วมทำบุญประมาณวันที่ 9 กรกฎาคม 2553 นี้ครับ

โมทนาบุญทุกประการครับ

.

 

โมทนาสาธุ

รบกวนแนบรายชื่อผมกับเพื่อนไปด้วยก็ได้นะครับ

ขอบคุณครับ

 

เมื่อวานนี้( 28 มิถุนายน 2553) คุณธวัช ได้โอนเงินร่วมทำบุญ (แล้วแต่ผมจะนำไปทำบุญที่ไหน อย่างไร สุดแล้วแต่ผม) จำนวน 1,000 บาท

วันนี้ ( 29 มิถุนายน 2553) ผมได้โอนเงินร่วมทำบุญดังนี้
1.ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ บมจ.ธ.กรุงไทย สาขาลาดพร้าว102 บช.ออมทรัพย์เลขที่1890-13128-8 บัญชี นางพิชญ์สินี ชาญปารีสชญา,นายอุเทน งามศิริ,นายสิรเชษฎ์ ลีละสุนทเลิศ จำนวน 250 บาท

2.โอนเงินเข้ากองทุนหาพระถวายวัด จำนวน 250 บาท

3.เงินอีก 500 บาท ผมเตรียมไว้ในการร่วมทำบุญที่ สนส.บ่อเงินบ่อทอง (การสร้างพระพุทธรูป องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า 5 พระองค์ ) จำนวน 250 บาท และ ร่วมทำบุญกับทุนนิธิสงเคราะห์สงฆ์อาพาธ อาจารย์ประถม อาจสาคร จำนวน 250 บาท(ผมจะนำไปมอบให้กับพี่ใหญ่ ในวันที่ผมไปหาพี่ใหญ่)

มาโมทนาบุญกับคุณธวัชกันครับ

.






.

.

 

ยินดีครับ

โมทนาสาธุครับ

.

 

วันนี้พี่ชนิดา ได้ร่วมทำบุญกับกองทุนหาพระถวายวัด จำนวน 950 บาท


มาโมทนาบุญกับพี่ชนิดากันครับ


.

 

ตาลุงข้างบ้านฝากด้านหลัง(ที่ท่านเพชรชื่นชอบ)มาให้ท่านเพชรชมครับ ดีปล่าวแรงปล่าวครับ หุ หุ

 

ส่วน9องค์ที่มีบางท่านฝากแซวมา ตอบว่าแรงมากครับ กระจายไปกว่าครึ่งแล้วครับ หุ หุ

 

อ่า แบ่งผมและพี่ชนิดาด้วยครับ

.

 

คำบูชาหลวงพ่อเงิน <O</O
วัดบางคลาน จ.พิจิตร<O</O​

<O</O

นโม ๓ จบ<O</O​

<O</O
อะกะ อะธิ อะธิ อะกะ ธิอะ กะอะ<O</O

วันทามิ อาจาริยัญจะ หิรัญญะ นามะกัง ถิรัง สิทธิ ทันตัง มหาเตชัง อิทธิ มันตัง วะสาทะรัง
<O</O
( สิทธิ พุทธัง กิจจัง มะมะ ผู้คนไหลมา นะชาลี ติ สิทธิ ธัมมัง จิตตัง มะมะ ข้าวของไหลมา นะชาลี ติ สิทธิ สังฆัง จิตตัง มะมะ เงินทองไหลมา นะชาลี ติ ฉิมพลี จะ มหาลาภัง ภะวันตุ เม )

ที่มา คำบูชาหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน พิจิตร

หมายเหตุ ในวงเล็บ จะสวดก็ได้ ไม่สวดก็ได้
.<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

 

มาชม"ข้างหลังภาพ"แล้วครับ ช๊อบชอบ

ไม่เห็นกระจายมาทางนี้เลย...อิ....อิ...

 

เรียน ท่านสมาชิกกองทุนหาพระถวายวัด ,ท่านสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้า และท่านสมาชิกคณะพระวังหน้าทุกๆท่าน

เรื่อง รูปหล่อลอยองค์ "พยามัจจุราชเจ้า"

จนถึงวันนี้(29 มิถุนายน 2553) มี 9 ท่านที่จองไว้จำนวน 17 องค์ ยังคงเหลืออีก 3 องค์

หากท่านใดสนใจที่จะจองเพิ่ม หรือ ท่านใดที่ไม่ได้จอง มีความประสงค์ที่จะจอง ขอให้ท่านจองและโอนเงินร่วมทำบุญภายในวันศุกร์ที่ 2 กรกฎาคม 2553 นี้ หากพ้นจากนี้ ผมจะขอจองในส่วนที่เหลือทั้งหมดเองครับ

ส่วนการรับ รูปหล่อลอยองค์ "พยามัจจุราชเจ้า" ผมจะแจ้งให้ทุกท่านทราบอีกครั้ง แต่สามารถรับได้เร็วๆนี้แน่นอนครับ

หมายเหตุ ผมไม่ส่งทางไปรษณีย์ครับ

โมทนาสาธุครับ

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ประโยชน์ของผลไม้เคลือบเงา
Travel - Manager Online
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>29 มิถุนายน 2553 14:56 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> เดี๋ยวนี้เวลากินผลไม้ "108เคล็ดกิน" สังเกตว่า เปลือกผิวของผลไม้มันเงาวาวกว่าปกติ สีสวยเด่นชวนเลือกซื้อเลือกหาดี สอบถามจากแม่ค้า จึงรู้ว่าการที่ผิวของผลไม้เงาสวยนั้น เป็นเพราะผลไม้ล้วนผ่านการ แว๊กซ์ หรือ เคลือบเงาผิว จึงทำให้สีสันแลดูสดสวย ผิวของผลไม้น่ากินยิ่งขึ้น

แว๊กซ์ หรือ สารเคลือบผิวผลไม้ ที่ว่านี้ได้มาจากไขผสม ทั้งที่เป็นไขจากแหล่งตามธรรมชาติ และที่สังเคราะห์ขึ้น แต่จะใช้ได้ต้องผ่านการควบคุมและตรวจสอบเพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค มีคุณสมบัติคือ ช่วยปิดบังริ้วรอยขีดข่วนที่ผิวผลไม้ ซึ่งเกิดขึ้นได้ระหว่างการเก็บเกี่ยว ทดแทนไขธรรมชาติที่หลุดออกระหว่างการทำความสะอาด และช่วยยืดอายุการสุกของผลไม้ให้ยาวนานขึ้น ป้องกันการสูญเสียน้ำอันเป็นเหตุให้ผลไม้เหี่ยวแห้วเร็ว การเคลือบยังทำให้ผู้บริโภคส่วนใหญ่ตัดสินใจซื้อสินค้าจากรูปลักษณ์ภายนอก เพราะความเงางาม สีสันแวววาว ได้อีกด้วย

สารเคลือบผลไม้มีอยู่หลายชนิด แต่ที่ส่วนใหญ่จะเห็นชัดเจนบนผิวแอปเปิ้ลหรือส้ม เรียกชื่อเต็มว่า Wax Soluble มีคุณสมบัติละลายในน้ำปกติได้ ถ้ากินเข้าไปบ้าง ก็ไม่เป็นอันตราย เพราะไตสามารถขับออกได้ อย่างไรก็ดี ควรล้างทำความสะอาดหรือ เช็ดออกให้สะอาดทุกครั้งที่จะส่งผลไม้เข้าปาก

ส่วนสารที่มีคุณสมบัติให้ความเงามันเหมือน Wax Suloble ที่นิยมใช้อีกอย่างคือ "ไขเทียนที่ไม่ใส่สี" ตัวนี้ยิ่งต้องทำความสะอาดออกให้มาก เพราะเป็นสารที่ไม่มีคุณสมบัติละลายน้ำได้ โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในร่างกาย
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>