เจ้าแม่ตะเคียง

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย พธบ, 27 มิถุนายน 2010.

  1. พธบ

    พธบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    720
    ค่าพลัง:
    +2,348
    หมอแซม พาเที่ยววัด บางละมุง เยี่ยมชม....เจ้าแม่ตะเคียง , พระราหู

    ***หากท่านไม่สามารถรับชมได้ กรุณา......[ame="http://www.youtube.com/watch?v=19pDh8UhtQk&feature=player_embedded"]คลิกที่นี่[/ame]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กรกฎาคม 2010
  2. น้ำดี1

    น้ำดี1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    13,402
    ค่าพลัง:
    +43,432
    เขียนยังผิดเลย
     
  3. พญาไท010

    พญาไท010 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2010
    โพสต์:
    133
    ค่าพลัง:
    +281
    อะไรของเค้าเนี้ย
     
  4. damilk

    damilk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2010
    โพสต์:
    30
    ค่าพลัง:
    +129
    วันนี้มีวิธิทำบุญที่ถูกวิธี
    วันนี้มีวิธิทำบุญที่เห็นผลชงัดมา บอกต่อเป็ธรรมทานคะ ใครสนใจก็ลองเอาไปปฏิบัติดูนะคะรับรอง คุณจะรู้สึกถึงความค่อยๆเปลี่ยนแปลง เพราะลองทำวิธีนี้ด้วยตัวเองแล้ว
    เป็นคำกล่าวของ
    พญานาคราชในโบสถ์ของวัดศิริประสุประตินาถ และท่าน พระอาจารย์เกษม อาจิณฺณสีโ ท่านเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่หล้า พระอริยะเจ้าแห่งวัดภูจ้อก้อ
    .มุกดาหาร อุปสมบทเมื่อ พ..๒๕๒๙ ท่านมีประสบการณ์ทางจิต ที่โลดโผนพิสดาร แม้เดินจงกรมก็สามารถเดินเหยียบอากาศเอาผ้าไปพาดไว้บนกิ่งไม้สูงสิบเมตรได้ ทั้งสามารถมองเห็นภูตผีปิศาจ นาค ครุฑ ยักษ์ อย่างชัดแจ้งแม้กระทั่งลืมตา มีญาณระลึกชาติย้อนหลังได้ มากมายหลายชาติ เป็นพระสงฆ์ที่ใช้เวลาท่องเที่ยวไปในนรกสวรรค์ปานเรื่องพระมาลัยโปรดสัตว์โลก นับครั้ง ไม่ถ้วน ด้วยท่านเป็นพระที่ไม่สนใจในเรื่องลาภ ยศ ชื่อเสียง ทั้งเทพยาดาสูง-ต่ำ ตลอดจนภูตผีปิศาจ ต่างให้ความเคารพท่านมาก วัดของท่านจึงเป็นศูนย์รวมของเทพยาดา และภูต-ผี-ปิศาจ-อสูรกาย-สัมภเวสี ที่ตกทุกข์ได้ยากทั่วทุกสารทิศ พากันหลั่งไหลมุ่งไปหาขอความช่วยเหลือจากท่าน แต่ละวันผู้คนมากหน้า หลายตาต่างดั้นด้นข้ามป่าข้ามเขาผ่านหนทางอันทุรกันดารไปกราบท่าน เพื่อให้ช่วยแก้ไขปัญหาเคราะห์กรรม ต่างๆ ซึ่งท่านก็เพียงแต่แนะนำหลักการ ใช้บุญแก้กรรมแบบง่ายๆ แต่ทว่า............ ได้ผลชะงักงันอย่างคาด ไม่ถึงอย่างชนิดที่ไม่มีพระรูปไหนกล้าพูดแนะนำได้อย่างนี้ เรามักท่องเป็นคาถาอยู่ร่ำไปว่า เวรกรรมนั้น แก้ไม่ได้ แต่พระอาจารย์ท่านยืนยันรับประกันอย่างหนักแน่นให้ฟ้าผ่าห่ากินว่า.......... แก้ได้ ไม่ต้องลงทุน อะไรมาก ไม่ต้องทำ พิธีสวดอะไรให้ใหญ่โตเสียเวลา เสียเงินเสียทองให้มากมาย แต่ปัญหาใหญ่อยู่ที่ว่า ทุกวันนี้คนทำบุญกันไม่เป็น ดึงบุญที่เคยทำมาใช้ ก็ทำไม่เป็น เป็นแต่ตะบันก้มหน้าก้มตาชดใช้กรรม อย่างเดียว อย่างจนตรอกอยู่ท่าเดียว

    คำกล่าวของพญานาคราช ข้าพเจ้าได้พบหนังสือเล่มนี้โดยบังเอิญ เมื่ออ่านดูแล้วเกิดความศรัทธา จึงไดพิมพ์แจกเป็นกุศล วันหนึ่งในโบสถ์ของวัดศิริประสุประตินาถได้มีหลวงพ่อ องค์หนึ่งได้นั่งสวดมนต์ อยู่ในโบสถ์ ขนะนั้นมีงูตัวหนึ่ง เลื้อยออกมาจากหน้าพระพุทธรูปในโบสถ์ หลวงพ่อเมื่อได้เห็นงูก็เกิดอาการกลัว หลังจากนั้นงูก็ได้กลายเป็นมนุษย์ ในรูปของพราหมณ์ แล้วกล่าวกับหลวงพ่อว่า " เจ้าไม่ต้องกลัว และตกใจ เจ้าจงฟัง " ข้าพเจ้าคือ พญานาคราช ได้จุติ ณ วัดแห่งนี้ เพื่อบำบัดปัดเป่าความชั่วร้าย และคนบาป คนที่ทำกรรมไว้มากจักได้พินาศไป จากโลกนี้ และเจ้าจงประกาศ ให้ ทุกคนได้รู้ว่า ผู้ใดนำเรื่อของข้าพเจ้าไปพิมพ์แจก มันผู้นั้นจักมีโชคลาภ มีความสุขความเจริญ คิดสิ่งใดสมปราถนาทุกประการ และผู้ใดรู้อย่าได้คิด ว่าหลอกลวง หรือไม่เชื่อ ให้เก็บไว้สวดมนต์ บูชาเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว หรือ ถ้าศรัทธาผู้ใดคิดจะพิมพ์แจกอย่าพลัดวันประกันพรุ่ง หรืออ่านแล้วฉีกทิ้ง ผู้นั้นจักมีภัยพิบัติเกิดขึ้นกับตัว เมื่อรู้เรื่องแล้วให้พิมพ์แจกหรือแจกต่อๆไป
    หรือ ให้เก็บไว้สวดมนต์ บูชาเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัวก็ได้ไม่บังคับ จากนั้นหลวงพ่อได้แจกจ่ายต่อๆไป ท่านได้สำเร็จวิชาต่างๆ และโกบินตะแห่งประสาทคุปตา และอีกหลายคน อ่านแล้วอย่าลบหลู่ หากศรัทธาในพิมพ์แจกจ่าย หรือ

    ให้เก็บไว้สวดมนต์ บูชาเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว
    อยากเล่าให้ฟังอะคะ ว่าตอนแรกยังไม่ได้นำมาเผยแพร่เป็นธรรมทาน
    ทันทีเลย แต่ ว่าก็ลอง ทำบุญตามวิธีนี้ดูแล้ว เลย มั่นใจคิดว่าทุกปัญหาแก้ได้แน่นอน ไม่ว่าปัญหาหนี้สิน เงิน ความรัก ครอบครัว ฯลฯ
    คืออยากเล่าเผื่อธรรมทานอะคะ คือเป็นคนที่มีปัญหาอยู่อย่างหนึ่งคือ เก็บเงินไม่อยู่
    วันหนึ่งมีคนส่ง e - mail มาให้เลยลองทำบุญตามวิธีนี้ดู พอลองทำบุญตามวิธีนี้ดูรู้สึกว่าได้ผลจริงๆเพราะ โดยส่วนตัวเป็นคนที่ใช้เงินเปลืองอยู่แล้ว
    จึงทำให้มีปัญหาเรื่องเงินบ่อยๆ อันนี้ก็อีกข้อนึง
    แต่อีกอย่างนึงก็คือว่าถึงแม้ตั้งใจเก็บแบบตั้งใจเก็บ จริงๆ สุดท้าย จะมีคนมาเอาเงินนั้นไปตลอดไม่เหลือแม้บาทเดียว คือมีคนมาเบียดเบียนเราตลอด หรือไม่ก็ตัวเองนี่แหล่ะ คือบางทีมันก็มีเรื่องจำเป็นจริงๆที่จะต้องจ่ายออกไป แบบว่าจ่ายออกไปแบบไม่เหลือแม้แต่บาทเดียว ...........
    แต่พอทำบุญด้วยวิธีนี้แล้ว รู้สึกว่าเก็บเงินอยู่จริงๆ รู้สึกอุ่นใจและปลอดภัยขึ้นมาก รู้สึกได้เลยว่าไม่มีคนมาเบียดเบียนเลยอีกเลย
    บางทีเหมือนจะต้องเสียเงินแต่ก็ไม่ได้เสีย สะงั้น อันนี้เรื่องจริงค่ะอึ้งเหมือนกัน แบบว่าเหมือน ปาฏิหาริย์ ส่วนตัวคือ จะทำบุญด้วย การทานต่อหน้าพระพุทธรูป บนหิ้งพระ คือแบบว่าหากล่องมาใส่เงิน สมมุติว่าเป็นบาทพระอะคะ แล้วพอได้มากพอก็จะไปบริจาคเพื่อศาสนา ตอนแรกก็กลัวเหมือนกันว่าตัวเองจะเอาเงินที่ถวายนั้นไปใช้ เพราะตัวเองเป็นคนที่แบบว่าพลานเงินอย่างไม่เหลือเพราะมันจะมีเหตุให้ต้องเสียเงินอย่างงี้ร่ำไป ตั้งแต่จำความได้อะคะ เป็นอย่างงี้มาตลอด หมดๆแบบว่า บาทเดียวก็ไม่เหลือ ตอนแรก กลัวบาปมากๆ แบบทาน วันละบาท 2 มั้ง 7 มั้ง อุทิศให้เทวดาประจำตัว แล้วก็เจ้ากรรมนายเวรที่ก่อให้เกิดปัญหาเรื่องเงิน และปัญหาอื่นๆ หรือถ้าวันไหนไม่ได้ทาน ก็จะสวดมนต์ หรือไม่ก็นั่งสมาธิ อะคะ แล้วก็รู้สึกว่าการเงินเราดีขึ้นจริงๆ ก็เลยอยากบอกบุญต่อ อะคะ แล้วก็คิดว่าจะเผยแพร่ ต่อไป เพราะคิดว่าเป็นธรรมทานด้วย ยังงัยก็ลองทำดูนะคะ ได้ผลแน่นอน ทุกศาสนาทำได้หมด

    คนเราล้วนเคยสั่งสมบุญให้ทานมาแล้ว ทั้งนั้น ทั้งในชาติก่อนและในชาตินี้ ถ้าจะนึกถึงบุญ มันก็เยอะจนจำไม่หวาดไม่ไหว แต่ด้วยความไม่รู้จักวิธี ชำระหนี้แค้นให้แก่เจ้ากรรมนายเวรดั่งว่า ทำบุญไปก็คิดแต่จะรอให้ตายซะก่อนแล้วจึงค่อยไปรับบุญใน สรวงสวรรค์ แล้วพากันเอาแต่บ่นว่า บุญอะไรก็ทำมาหมดแล้ว ชีวิตไม่เห็นจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงดีขึ้นมาสักที ก็จะดีได้อย่างไร ในเมื่อสักแต่ว่าทำบุญแต่ทำไม่เป็น ถูกสอนสั่งกันมาอย่างผิดๆ มัวแต่ไปรออุทิศให้ตอน กรวดน้ำ เจ้ากรรมนายเวรเขาก็เลยไม่ได้รับ บ้างก็ไม่เคยเผื่อแผ่ให้บุญแก่เทวดาที่รักษาตัวเอง ไม่เคยให้ เจ้ากรรมนายเวรที่ตามจองเวรกันอยู่ ไม่เคยให้เทวดาและญาติทิพย์ที่อาศัยอยู่ในเขตบ้านเขตเรือน ไม่เคยให้แก่ เทวดาที่ดูแลรักษากิจการงานห้างร้าน ไม่เคยให้เทวดาที่รักษาเจ้านายของตัวเอง แถมบางทีการแผ่อุทิศบุญ ก็ไม่เฉพาะเจาะจงอีก หรือดันไปให้ตอนที่แสงบุญหมดแล้ว เทวดาเหล่านั้นบางองค์อาจมีบุญน้อยมีฤทธิ์น้อย จึงไม่สามารถช่วยเหลืออะไรเราได้มาก แต่ถ้าเขาได้รับอานิสงส์บุญจากเราอย่างถูกวิธีบ่อยๆ เขาจะกลายเป็น เทวดาที่มีฤทธิ์ มีอำนาจ สามารถช่วยเหลือให้เราประสบความสำเร็จได้ดังใจหมาย
    บุญอันเกิดจากการให้ทาน เมื่อถวายของแด่พระภิกษุสงฆ์ หรือให้สิ่งของแก่ใคร ไม่ว่าจะเป็นของแก่ พ่อแม่ พี่น้อง ญาติมิตร แม้เอาข้าวให้หมากิน เอาอาหารโยนให้ปลากิน เอาเศษอาหารโปรยให้มดกิน ขณะนั้นจะ เกิดกระแสบุญเป็นแสงเรืองรองแผ่ออกจากตัวผู้ให้ทันที และเพียงไม่กี่วินาทีแสงนี้จะพุ่งหายไป เบื้องบนแล้วสะสม เป็นกองบุญของผู้ให้อยู่บนเทวโลก ดังนั้น จึง
    ****ขอเน้นย้ำว่าหลักสำคัญที่สุดว่า ขณะของหลุดจากมือเมื่อใส่บาตร /ถวายของให้สงฆ์ หรือให้ของแก่ใครก็ตาม เราต้องอธิษฐานจิตแผ่บุญ ในทันที อย่ามัวไปรอแผ่บุญตอนพระสวด ยถาสัพพี**** เนื่องจากการแผ่ให้ตอนพระยถาฯ อย่างที่เคย ปฏิบัติกันมานั้นผิด เพราะกระแสบุญได้เลือนจาง หายไปอยู่ในสวรรค์หมดแล้ว ต้องคิดแผ่บุญในทันทีทันใดว่า บุญนี้จงเป็นของเทวดาผู้รักษาตัวข้า หรือ บุญนี้จงเป็นของเจ้ากรรมนายเวรของข้า หรือ บุญนี้จงเป็นของ เทวดา ภูต-ผี-ปิศาจ-ครุฑ-นาค-ยักษ์ ที่สถิตย์อยู่ในสถานที่เรือกสวนไร่นา หรือเคหะสถานบ้านเรือนของข้า เป็นต้น ขึ้นอยู่กับว่าเราต้องการแก้ไขปัญหากลัดกลุ้มในเรื่องไหน


    บุญอันเกิดจากการภาวนา ให้อธิษฐานก่อน เช่นว่า ขอบุญที่จะเกิดจากการภาวนาต่อไปนี้ ถึงแก่เจ้ากรรมนายเวรที่ทำให้ข้าพเจ้าเจ็บป่วย​
    (เป็นอะไร) หรือเราจะให้ใครก็ให้อธิษฐานเอาเอง แล้วก็เริ่ม ภาวนาได้เลย หลังลากเลิกภาวนาก็ให้อุทิศบุญนี้ไปอีกครั้งหนึ่ง บุญที่เกิดจากการภาวนานี้จะมีพลานุภาพแรง ยิ่งกว่าบุญจากการให้ทานมาก ฉะนั้นพวกภูตผีชั้นต่ำมักจะรับไม่ค่อยได้ เราต้องเปิดช่องไว้ก่อนภาวนา เขาจะเตรียมรับตามกำลังความสามารถของตนเอง เพราะถ้าหากจะให้ตอนที่ภาวนาเสร็จแล้วจึงให้ ก็เปรียบ เหมือนเราปล่อยน้ำที่พุ่งจากท่อดับเพลิงแต่เขาเอาภาชนะที่ไม่เหมาะสมมารับ เขาจะรับไม่ได้เนื่องจากกำลังจิต ของเขาไม่แข็งแรงพอ หากเราอธิษฐานเปิดให้เขาเตรียมตัวไว้ก่อน ก็เหมือนกับเปิดก๊อกน้ำออกค่อยๆ ใครมีภาชนะน้อยก็เอามาตวงรับตามกำลังที่เขามี แต่สำหรับเทวดาบุญหนักศักดิ์ใหญ่ท่านสามารถรับ บุญใหญ่หลังภาวนาได้อยู่แล้ว เปรียบเหมือนท่านมีโอ่งมีถังขนาดใหญ่สำหรับรองรับน้ำที่พุ่งจากท่อดับเพลิง นั่นเอง
    บุญอันเกิดจากการรักษาศีล การทำบุญด้วยการตั้งใจรักษาศีล ก็ย่อมเกิดบุญกุศลขึ้นเช่นกัน ทุกครั้งที่ระลึกถึงศีลที่ตัวเองรักษาดีแล้ว ไม่ด่างพร้อย ก็สามารถอธิษฐานส่งบุญได้ว่า
    บุญที่ข้าพเจ้าได้รักษา ศีลนี้ จึงถึงแก่....................”
    ยกตัวอย่างอีกกรณี เอาย่อๆเพราะเนื้อหาเยอะมา เช่นถ้าบุตรหลาน สามี ภรรยา หรือคนภายในครอบครัวของท่าน เช่นบุตรหลานไม่ฟัง สามีชอบมีชู้ ฯลฯ
    อันนี้เราก็สามารถอธิฐานส่งบุญแด่ เทวดาผู้รักษาตัวเค้าเหล่านั้นได้เช่นกันแล้วตั้งจิตอธิฐานบุญนี้ขอให้เทวดาของบุตรหลานท่าน ด้วยบุญตัวข้าพเจ้า ได้อุทิศให้นี้
    ขอเทวดาประจำตัวบุญหลานของข้าพเจ้า มีบุญบารมีเพิ่มพูน มีอิทธิฤทธิ์เพิ่มขึ้นเมื่อส่งบุญเเล้ว เราก็อธิฐานต่อ บอกเทวดาประจำตัว เค้าเหล่านั้น ให้ช่วยตักเตือนเค้าด้วย ........หรืออย่างเช่น กรณีผีเข้าที่กล่างมาเราก็อุทิศบุญให้เค้า แล้วอธิฐานให้เค้ามีแต่ความสุข เกิดในภูมิทีสูงขึ้นก็ว่าไป เดี๋ยวเค้าก็ไปเอง เพราถ้ายิ่งเราไล่เค้าจะยิ่งแค้น เพราะบางทีเค้าเดือนร้อนมาแต่เค้าไม่สามารถสื่อสารกับเราได้ อย่างงี้ก็มีคะ
    แล้วก็บางทีผีบ้านผีเรือน เราเห็นเรากลัว แล้วเรานิมนต์พระไปสวดไล่เค้า ทั้งที่เค้าอาจจะต้องการความช่วยเหลือบางอย่าง จากเราเท่านั้นแล้วเราไปทำให้เค้าเดือนร้อน อันนี้อาจทำให้เค้าแค้นเราแล้วกลับคอยตามเล่นเราซะเอง
    หรือ เล่นงานคนในบ้านให้ คนในบ้านอยู่ไม่เป็นสุข ทะเลาะกันประจำ เป็นอย่างงี้อะคะ
    การเบิกบุญ
    การเบิกบุญเก่าที่เคยสั่งสมแต่อดีตมาใช้ บุญที่เราทำไว้แล้วมีมากมายที่สะสมอยู่ในสรวงสวรรค์ ทั้งที่ได้ทำไว้แต่ปางก่อนหรือได้ทำไว้ในชาตินี้ เราสามารถเบิกบุญนั้นมาแจกจ่ายอุทิศให้แก่ผู้อยู่ในโลก วิญญาณได้ เหมือนเรามีเงินเก็บในธนาคารเราก็ใช้บัตรเอทีเอ็มกดเบิกเงินออกมาใช้จ่าย แต่การเบิกบุญนั้น ที่สำคัญลืมไม่ได้เลยคือ ต้องอาศัยอำนาจพระรัตนตรัยขึ้นนำก่อนเสมอ คือ ให้ตั้งจิตคิดอธิษฐานว่า ด้วยอำนาจของพระพุทธเจ้า ด้วยอำนาจแห่งพระธรรม ด้วยอำนาจแห่งพระสงฆ์ จงดลบันดาลให้บุญของ ข้าพเจ้าที่ทำมาในอดีตจนถึงปัจจุบันถึงแก่..................................... ” จะให้ใครก็คิดนึกให้เอาเอง การเบิกบุญ แจกจ่ายนี้สามารถให้ได้ทุกที่ทุกเวลาเมื่อนึกขึ้นได้ ไม่ว่าจะยืน เดิน นั่ง นอน กิน ดื่ม อยู่ก็ตาม
    การอุทิศโอนบุญ ไม่ต้องพูด อย่าไปอุทิศตอนกรวดน้ำ ให้ใช้เพียงแค่..การคิด และต้องรีบคิดให้ ทันที!!!! อย่ามัวรีรอชักช้าเป็นอันขาด เพราะแสงบุญที่เกิดขึ้นจะดำรงอยู่ไม่กี่วินาทีแล้วจะหายวับไปอยู่ ในสวรรค์ ถ้าเราฝึกบ่อยๆ เราจะชำนาญในการคิด เพราะการคิด...กระแสบุญจะแรงกว่าการพูดอกจากปาก เวลาหย่อนของลงในบาตรปั๊บให้คิดส่งบุญทันที และต้องคิดให้ชัดเจนอย่าลางเลือน ให้ของแก่ใครเมื่อของ หลุดจากมือปุ๊บ เราต้องคิดส่งบุญให้ปั๊บทันทีอย่าช้า!!!!
    ในการทำความดีทุกอย่าง เช่นแม้แต่การพูดให้เขาได้สติคิดดี การช่วยเหลือคน การได้ทำ ประโยชน์ส่วนรวม ย่อมก่อให้เกิดความปิติดีใจ นั่นแหละคือบุญ ให้รีบส่งบุญถึงผู้ที่เราต้องการให้บุญทันที ฯลฯ
    เอาเป็นว่าแค่นี้เเล้วกันนะคะเพราะยาวมาก เพราะอันนี้เคยใส่ลิ้งลงไปให้คลิ๊กแล้ว แต่เข้าดูไม่ได้ ก็เลยต้องเผยแพร่เช่นนี้ ขอให้รวยๆกันทุกคนนะคะ ความครัวมีแต่ความสุขความเจริญ.......[​IMG]
    <!-- google_ad_section_end --><!-- / message -->
     
  5. พธบ

    พธบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    720
    ค่าพลัง:
    +2,348
    แก้...แย้ว

    แก้แย้ว....จ้า.....เราดันเขียน มุง เป็นมุ่งเสียได้ ฮิๆๆๆ

     

แชร์หน้านี้

Loading...