"ธรรมโฆษณ์"ธรรมยาตรา เดินหมื่นก้าว-เล่าเรื่องธรรมะ

กว่า 10 วันแล้ว ที่วัยรุ่นกว่า 80 คน มีโอกาสใช้ชีวิตร่วมกันในกิจกรรม "ธรรมโฆษณ์ ธรรมยาตรา" ซึ่งจัดขึ้นโดยเสถียรธรรมสถาน กรุงเทพฯ ผู้ร่วมกิจกรรมทั้งหมดออกเดินทางจากสวนโมกขพลาราม อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี มาตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน ซึ่งเป็นวันคล้ายวันประชุมเพลิงศพ ท่านพุทธทาสภิกขุ เมื่อหลายปีก่อน

จากนั้นขึ้นไปยังเขาพุทธทอง สถานที่โปรยเถ้ากระดูกของท่านพุทธทาส และเดินไปยังวัดเขาตระพังจิก ตลาดพุมเรียง เชิงเขาประสงค์ พักเต้นท์ที่ลานเขาประสงค์ ต่อมาวันที่ 29 ก.ย. เดินผ่านบ้านท่ากระจาย เข้าไปยังหมู่บ้านอิสลาม ก่อนเดินทางต่อไปเกาะยาง วัดช่องเขา (ปากน้ำหลังสวน)

รุ่งขึ้นวันที่ 30 ก.ย. ออกเดินผ่านชุมชนปากน้ำหลังสวนเก่า เข้าหมู่บ้านชาวประมง ไปยังชุมชนปากน้ำหลังสวนใหม่ ซึมซับธรรมชาติระหว่างทาง ไปยังปากน้ำท่าตะโก ถึงวัดท่าตะโก

วันที่ 1 ต.ค.ออกจากวัดท่าตะโกเดินทางบนชายหาดลัดเลาะเขา ผ่านเกาะจมน้ำ ถึงอ่าวท้องตม พักผ่อนตามอัธยาศัยอีกวัน ทำกิจกรรมฝึกใจ พักโฮมสเตย์ ที่อ่าวท้องตม รุ่งขึ้นวันที่ 3 ต.ค.ล่องเรือตัดอ่าวไปหาดทรายรี กราบสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ เดินเลาะริมทะเลไปยังปากน้ำชุมพร นั่งเรือไปชุมชนเก่า เถึงหาดทุ่งวัวแล่น ร่วมกิจกรรมรอบกองไฟ และนอนดูดาว

วันที่ 4 ต.ค.ออกจากหาดทุ่งวัวแล่น เดินไปเกาะเวียง วัดถ้ำธง พักค้างคืนที่บ้านเนินทราย วันที่ 5 ต.ค. เดินทางไปหมู่บ้านบางเบิด จ.ประจวบคีรีขันธ์ ทำกิจกรรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เดินเลาะริมทะเลเส้นทางไปยังหาดฝั่งแดง รุ่งขึ้นเดินเลียบริมทะเลไปอ่าวบ้านกรูด พักค้างคืนที่วัดเจดีย์ทางสายร่วมกิจกรรมวันออกพรรษากับชาวบ้านในหมู่บ้าน และพักผ่อนอีกวัน ก่อนจะเดินทางสู่สถานีรถไฟบ้านกรูดในวันที่ 9 ต.ค. ไปยังอุทยานวิทยาศาสตร์ ณ หว้ากอ ก่อนจะเดินเท้าไปที่อ่าวมะนาว

วันที่ 10 ต.ค.ขึ้นรถไฟที่สถานีประจวบคีรีขันธ์ ไปกุยบุรีเดินเท้าสู่อุทยานเขาสามร้อยยอด พักค้างคืนท่ามกลางธรรมชาติของทะเลและภูเขา รุ่งขึ้นเข้าสู่ชุมชนอิสลาม เดินเลาะริมทะเลไปถ้ำพระยานคร สู่เขากะโหลก ผ่านชายทะเลและชุมชนชาวประมงตลอดทาง

เช้าวันที่ 12 ต.ค.เดินเท้าสู่ปากน้ำปราณบุรี เดินทางสู่เขาเต่า เดินเท้าไปเขาตะเกียบ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พัก 2-3 วัน วันที่ 15 ต.ค.ออกเดินทางถึงชะอำ แวะพักที่วัดเนรัญชรา ก่อนเข้าสู่หาดปึกเตียน หาดเจ้าสำราญ พักที่วัดหลวงไก่ วันที่ 17 ต.ค.เข้าสู่แหลมผักเบี้ย ถึงบ้านบางขุนไทร อ่าวบ้านแหลม เดินเลียบริมทะเลสัมผัสระบบนิเวศของป่าชายเลนสองข้างทาง บางตะบูน เขายี่สาร

วันที่ 18 ต.ค.นั่งเรือไปดอนหอยหลอด ปากน้ำแม่กลอง ถึงตลาดน้ำอัมพวา พักดูหิ่งห้อยที่อัมพวา วันที่ 20 ต.ค. เดินเท้าไปสถานีรถไฟมหาชัย แวะตลาดแม่กลอง ไปวัดช่องลม ท่าฉลอม ล่องเรือเข้าแม่น้ำเจ้าพระยา ถึงวัดสวนแก้ว จ.นนทบุรี พักค้างคืนที่วัดปัญญานันทาราม รังสิตคลอง 6 เช้าวันที่ 21 ต.ค.ถึงเสถียรธรรมสถาน

กิจกรรมเหล่านี้เริ่มขึ้นด้วยความตั้งใจของเสถียรธรรมสถาน ที่ต้องการให้คนรุ่นใหม่มีส่วนร่วมกับวาระชาตกาล 100 ปี ท่าน "พุทธทาสภิกขุ" ในปีนี้ ที่ท่านเป็นบุคคลสำคัญที่ได้รับการเคารพยกย่อง และเป็นผู้นำทางสติปัญญาของคนไทย ทั้งยังได้รับการยกย่องจากองค์การ UNESCO ให้เป็นบุรุษสำคัญของโลก

ตลอดชีวิตอันสมถะและสันโดษ ท่านพุทธทาสได้อุทิศตนเพื่อค้นพบธรรมชาติที่แท้จริง และกลั่นกรองความรู้มากมายที่ได้จากการศึกษาธรรมะ ให้เป็นหมวดหมู่ เข้าใจง่าย อันเป็นกุศกโลบายเพื่อให้เผยแผ่ธรรมะออกไปในวงกว้าง ออกมาเป็นหนังสือปกดำ ชุดธรรมโฆษณ์ โดยท่านได้ให้ความหมายของคำว่า "ธรรมโฆษณ์" ไว้ว่า คือ "การโฆษณาธรรมะ เป็นการเผยแผ่ธรรมะให้กว้างขวางออกไป"

ท่านเคยกล่าวถึงยุวชนไว้ว่า ปัญหาของวัยรุ่นคือความเหลวไหลบังคับตัวเองไม่ได้ วัยรุ่นจึงเป็นช่วงกลางของชีวิตที่จะหันเหไปสู่วัยทำงาน สร้างครอบครัว และเป็นพ่อแม่ที่ดีหรือร้ายได้ จึงเป็นกลุ่มที่ต้องเรียนรู้ธรรมะเพื่อให้การเดินทางของชีวิตต่อไป เป็นไปอย่างเข้าใจตัวเองและเข้าใจโลกอย่างแท้จริง จริงๆ แล้วไม่ว่าวัยใด ธรรมะเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกคน ตั้งแต่เกิดจนตาย โดยเฉพาะเยาวชนซึ่งเป็นวัยที่มีพลังมากที่สุด การชักชวนคนหนุ่มสาวเยาวชนออกมาเป็น "ผู้โฆษณาธรรมะ" จึงเป็นสิ่งสำคัญ ที่จะทำให้สังคมมองเห็นความสำคัญของธรรมะ และเข้าใจว่า "ชีวิตคือธรรมะ ธรรมะคือชีวิต" อย่างแท้จริง

วันเวลากว่าเดือนกับระยะทาง 750 กิโลเมตร วัยรุ่นจากสถานที่ต่างกัน การศึกษาต่างกัน ประสบการณ์ต่างกัน แต่เมื่อถึงวันสุดท้ายของการเดินทาง สิ่งที่ทุกคนได้รับไม่แตกต่างกันคือ ความสุขทางใจที่ครั้งหนึ่งมีโอกาสเป็นผู้ปฏิบัติธรรม และเผยแพร่ธรรมในเวลาเดียวกัน!!

 

อนุโมทนานะครับ...........ถึงผมไม่มีโอกาสได้ไปร่วมเดิน
แต่ขอเอาใจช่วยทุกๆท่าน...ที่ร่วมเดินทางในครั้งนี้ด้วยครับ